Heated
เขียนโดย ALAs
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.23 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 00.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) 011: Adeus, meu passado.
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเกรฟยืนมองโต๊ะทำงานไม้สักที่สลักลวดลายของใบไม้ไว้อย่างสวยงามดังโครมครามในขณะที่มาริกำลังทำการ “สแกน” ในแบบของเธอ กองเอกสารทั้งเก่า ทั้งใหม่ ซองสีน้ำตาล เทปบันทึกเสียง ถูกวงากองไว้บนโต๊ะ ก่อนที่เธอจะหันไปสแกนจุดอื่นๆที่พอจะใช้เก็บของได้ เธอเหลือบมองเหล่าพ่อบ้าน แม่บ้านและคนงานของคาลอสที่ถูกต้อนออกมาจากที่ซ่อนตอนคฤหาสน์ถูกโจมตีและกำลังถูกเฝ้าระวังโดยโคโลเนลกับเบิร์น
“ไอ้พวกเวร...” คาลอสเอ่ยเบาๆในสภาพที่เหมือนกับผ่านสงครามเวียดนามมา รอยช้ำ รอบปูดโปน และเลือดระไปทั่วใบหน้า แรปป้าผู้ซึ่งจับมือของเขาไขว้หลังแล้วมัดด้วยกุญแจมือพลาสติก ถึงกับอึ้งในความอึดของคาลอส
“อึดดีนะ” แวนดอลกล่าวขึ้น ก่อนที่เดินมาแล้วนั่งยองตรงหน้าคาลอส แล้วจ้องตาอันเลือนลอยของเขา
“เกิดอะไรขึ้น?” แวนดอลลุกขึ้น คำถามก่อนหน้าดูห้วนๆ แต่มันสามารถหาเป้าหมายของมันได้เอง
“สมัย...ที่ชั้นยังเป็นกองปราบ” แรปป้ากล่าว “พวกชั้นเป็นทีมที่ไฟแรงที่สุดในกรม ณ ตอนนั้น..”
“วันนึง ชั้นได้เบาะแสว่าจะมีการส่งยาข้ามชายแดนล็อตใหญ่แต่กลับไม่มีคำสั่งอะไรมาเลย ชั้นกับทีมที่เห็นว่าปล่อยเอาไว้ไม่ได้ จึงไปปฏิบัติการกันเอง” เขามองมาที่คาลอสครู่หนึ่ง
“และตอนเที่ยงคืน ที่แถบชายแดนบราซิล-โคลัมเบีย พวกมันก็มาจริงๆ…รถเป็นขบวน ตั้ง 5 คัน ใช่ ชั้นยังจำได้...เราเปิดฉากด้วยกับระเบิด ขบวนรถหยุดลง พวกมันถูกพวกชั้นที่ซุ่มตามที่สูงไล่เก็บทีละคน จนเหลือรถคันสุดท้าย...มิเกลกับโรดิโก้เป็นคนนำส่วนชั้นและที่เหลือคุ้มกัน เมื่อพวกมันเห็นพวกชั้นเท่านั้นแหละ พวกมันยิงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา และแน่นอน พวกชั้นกระหน่ำยิง จนหมดกระสุนไป 2 ซอง พวกมันตายเกลี้ยง...พอพวกเราแจ้งไปทางกรม...แทนที่จะได้อะไรซักอย่างที่เราควรได้รับ พวกชั้นกลับได้ใบสั่งพักงาน 2 เดือน”
“หลังจากรอผลสรุปภารกิจ 2 วัน พวกเราก็ต้องทึ่ง...ในรถคันสุดท้าย พบศพรัฐมนตรีเปโดร ผู้มีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับยาเสพติดรวมอยู่ด้วย”
“แล้ว...” แวนดอลกางมือรอคำตอบ
“เขา...คือ พ่อของชั้นเอง” คาลอสเปล่งเสียงที่แฝงไปด้วยความเคียดแค้นและอดกลั้นออกมา นัยต์ตาจ้องมาที่แรปป้าอย่างไม่กระพริบ
“…ก็นั้นแหละ...แกได้รับมรดกต่อจากพ่อ แต่ก็เสียแม่ไปด้วยโรคหัวใจ แน่นอน...สิ่งเดียวที่แกมีอยู่ คือ การแก้แค้น...”
“และมันก็โคตรรู้สึกดีเลยว่ะ...” คาลอสพยายามฝืนยิ้ม ด้วยอาการบาดเจ็บที่ใบหน้า ทำให้มันเป็นไปได้ยาก
“ไม่นึกว่า ริโค่ จะเป็นหุ้นส่วนพ่อแกด้วย...แต่ว่าถึงตอนนี้ ชั้นไม่มีอะไรติดค้างแล้ว” แรปป้าเดินเข้าไปใกล้ๆคาลอส สีหน้าที่เรียบเฉยผิดปกติของเขา ทำให้เกรฟสะดุ้ง แรปป้าพูดเบาๆแต่ก็ดังพอได้ยิน
“เพราะ...ชั้น...ชนะแล้ว”
ความเงียบยึดพื้นที่ภายในห้องอีกครั้ง เกรฟยังคงได้ยินเสียงร้องด้วยความกลัวของเหล่าคนงานของคาลอส แต่ประโยคเมื่อครู่ มันทำให้โลกทั้งใบเงียบลงช่วงขณะ
“หนุ่มๆ ชั้นเจอของดีแล้ว” มาริพูดขึ้น พลางชูซองน้ำตาลซองใหญ่ที่เปิดผนึกแล้วขึ้นมา บนซองจ่าหน้าถึงริโค่แบบหยาบๆ คาดว่าคงส่งกันแบบมือต่อมือ เธอหยิบแผ่นที่บรรจุอยู่ภายใน แล้ววางกระจายๆลงบนโต๊ะไม้สัก มันเป็นรูปถ่ายขนาด A4 6 รูป และมีแผ่นกระดาษจดหมายพับอยู่ด้วย เกรฟเป็นคนที่สองที่ได้รูปถ่าย
“นี่มัน...” เกรฟหรี่ตา เขาพบรูปของเขาเองในท่ายืนปกติ บนดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่ง ด้วยความที่รูปเป็นสีออกฟ้าๆ มืดๆ บนตัวของเขาในรูปฉาบด้วยสีจากแสงอ่อนๆที่มากพอจะทำให้เห็นใบหน้าได้ชัดเจน รอบๆข้างมีสายฝนเทลงมาจนเห็นเป็นสายใสๆ เขาให้รูปเหมือนกำลังจะออกวิ่ง ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดในภาพทำให้เขาจำทุกอย่างได้ทันที
รูปพวกนี้ถูกถ่ายที่เกาลูน...ในคืนที่พวกเขาทุกคนไปรับเหล่ง
“ไอ้พวกชุดดำนั่น?” โคโลเนลจ้องมองรูปถ่ายของตน และดูเหมือนคนอื่นๆจะจำได้แล้ว และแน่นอน ทุกคนหันไปมองหน้ามาริ
“ดูเหมือนว่า...พวกเราจะงานเข้าแล้วล่ะ” เธอยิ้มอย่างน่ารักจนน่ากลัวในสายตาของเกรฟ พร้อมกับชูจดหมายในมือ
“ไม่ว่าคนที่ส่งรูปพวกนี้ให้ริโค่ จะเป็นใครก็ตาม พวกเขาอยากให้เราตาย” เธออธิบาย “เนื้อหาในจดหมายและลักษณะการเขียนมันบ่งบอกได้เลยว่า พวกนั้นมีเพียงเป้าหมายเดียว คือ จับตาย และพร้อมจะจ่ายเงินมหาศาลถ้างานสำเร็จ และแน่นอน ไม่มีการเอ่ยถึงตัวตนของพวกมันเลย”
“ชักจะบ้าไปใหญ่แล้ว…” แวนดอลขยำรูปถ่ายทิ้งอย่างรุนแรง “แรงจูงใจล่ะ”
“ชั้นก็พอเดาได้ล่ะนะ” มาริพยักหน้า “การที่พวกมันต้องการให้ริโค่กับคาลอสลงมือ แสดงว่า มันรู้ว่า แรปป้าเคยมีเรื่องที่นี้ และถ้าพวกเราตาย มันเป็นดูเป็นเพียงการแก้แค้น...อีกอย่าง การที่พวกมันรู้ข้อมูลพวกเราได้ละเอียดขนาดนี้ แสดงว่า พวกมันเป็นองค์กรที่ใหญ่มากแน่ๆ”
“พวกมันต้องมีเงินจำนวนมหาศาล คาดเดาได้จากค่าจ้างที่ให้คาลอส กับพวกชุดดำที่เกาลูน นั้นแปลว่า การที่พวกมันทุ่มเงินเยอะขนาดนี้ พวกมันมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าพวกเราแน่ๆ”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ สีหน้าของทุกคนดูครุ่นคิด ยกเว้นเบิร์นที่เกรฟไม่เห็นหน้าของเขา กำลังใช้สัญญาณมือให้คนงานเงียบๆ
“เจค๊อบ...” เกรฟพูดขึ้นมาเรียบๆ “เรากับ Blue Hounds เป็นสิ่งเดียวที่ขวางพวกมันกับเจค๊อบ อินดัสทรี่เอาไว้”
แวนดอลเบิกตากว้าง โคโลเนลจ้องมองที่รูปนั้น อีกครั้ง ส่วนมาริได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย เบรินมองมาที่เกรฟ ส่วนแรปป้า เดินไปหาคาลอส
“พวกมันเป็นใคร?” แรปป้าคว้าขอเสื้อของคาลอสขึ้นมา ในขณะที่อีกฝ่ายยิ้มอย่างสะใจ
“พวกแกก็คงเหมือนกันทุกคนสินะ ฮ่าๆๆๆ” คาลอสหัวเราะ “เป็นตัวซวยเหมือนกันหมดทุกตัว ฮ่าๆๆๆๆๆ”
แรปป้าไม่ได้ทำอะไร เขาค่อยๆลดมือลง แล้วปล่อยให้คาลอสยิ้มลอยๆไป เขารู้อยู่แก่ใจ คาลอสไม่มีทางรู้ได้แน่ๆเพราะ “ฆ่าพวก Azure Wolf ซะ” คือสิ่งเดียวทีเขาได้รับรู้มา และแน่นอน ปัญหาในวงการุรกิจอุตสาหกรรม คาลอสที่รวยเงินและอำนาจอยู่แล้ว คงไม่สนใจนักหรอก แต่สำหรับ PMC ที่ทำงานด้านความปลอดภัยแล้ว การที่บริษัทของตนเองซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกถูกหมายหัวเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย อีกทั้งตัวเองยังถูกระบุว่าเป็นเสี้ยนหนามที่ต้องตัดทิ้งอีก มันอาจจะเป็นเรื่องที่ซวยที่สุดของการเป็น PMC เลยก็ได้
“อลาทีออน?” แวนดอลพูดวิทยุไปถึงอลาทีออน สหายเก่า ที่ไปรออยู่ที่เครื่องออสเปรย์แล้ว “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“เบิร์น พาพวกคนงานไปที่หน้าบ้าน แล้วปล่อยพวกเขาไป โคโลเนล มาริ กลับเครื่อง” แวนดอลสั่งขณะ ตัวเขาเดินออกจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว ไล่ๆกับเบิร์นที่ต้อนคนงานออกไป
“เกรฟ...” แวนดอลหยุด เมื่อเห็นเกรฟเดินตามมาแล้วยืนพิงที่ผนังหน้าห้อง แวนดอลพยักหน้า แล้วมองไปที่แรปป้าที่ยังอยู่ในห้องกับคาลอส แล้วเดินจากไป
เกรฟยืนรอแรปป้าอยู่หน้าห้อง หยิบซองบุหรี่ยู่ๆที่พกติดตัวเอาไว้ตลอดออกมาแล้วจุดไฟ สูดอากาศเสียๆเขาปอด เขารู้ดีว่ามันอันตรายต่อสุขภาพ แต่ ให้ตายสิ เขาจะตายวัน ตายพรุ่ง ไม่มีใครรู้หรอก
เขาพ่นควันออกมาช้าๆ ปล่อยให้ แรปป้าได้สะสางโซ่เส้นใหญ่ในชีวิตด้วยตัวเอง
“…สุดท้าย...แกก็ชนะจนได้” คาลอสเอ่ยขึ้นมาเบาๆ “ชั้นไม่รู้หรอก...ว่าชั้นเสียเงิน เสียคนไปเท่าไหร่ แต่ชีวิตเพื่อนของแกน่ะ...อีกคนนะ...4 คน...มันโคตรคุ้มค่าเลยว่ะ”
“และนั้นจะเป็นเรื่องชั่วๆสุดท้ายที่แกจะได้ทำ” แรปป้ามองคาลอสด้วยแววตาเรียบๆ แต่เกรฟรู้สึกได้ ถึงชายผู้ซึ่งกำลังจะเป็นอิสระ
“เรื่องชั่วๆหรอ? หึหึ ราฟาเอล...ชั้นคิดว่า มันเป็นเกมที่สนุกมากเลยนะ” คาลอสแสยะยิ้ม
“…แกจำเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือได้ไหม” แรปป้าหยิบปืนพกขึ้นมา และขึ้นลำกล้อง
“อ๋อ...ภารกิจสุดท้ายที่ไอ้แก่ริโค่ทำพลาดสินะ” คาลอสยิ้มกว้างมองใบหน้าอันเรียบเฉยของแรปป้า
“…ไม่...เขาทำสำเร็จ ราฟาเอล คอสต้า...ตายแล้ว”
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด มันก้องกังวาลไปทั่วทั้งห้อง ตามมาด้วยเสียงร่างกายของชายหนุ่มผู้ถูกพันธนาการล้มลงกระทบพื้นผ้ากำมะหยี เลือดสีแดงฉานค่อยๆไหลซึมรูกระสุนที่กลางหน้าผาก แรปป้าเดินออกมาจากห้อง เขามองหน้าเกรฟ แล้วทั้งคู่ก็เดินกลับไปที่ฮอ
เครื่องออสเปรย์บินห่างจากคฤหาสน์เรื่อยๆ เกรฟกำลังจดจำวิวของทิวเขาและทะเลริโอ เดอจาเนโร ในขณะที่ลูกทีมคนอื่นๆกำลังนั่งพักผ่อน อลาทีออนและชาเมเลออสก็เช่นกัน ยกเว้นแรปป้า เขาหยิบด๊อกแทคเปลื้อนเลือดแห้งๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ บนนั้นประทับเป็นชื่อของ ราฟาเอล คอสต้า แรปป้าสูดหายใจเข้า แล้วออกแรงเหวี่ยงปาด๊อกแทคนั้น ให้มันจมดิ่ง และหายสายสูญไป ในมหาสมุทร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ