Love Hunter สยบร้าย ขยายรัก
9.4
เขียนโดย KeawSwaggie
วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.14 น.
19 บท
29 วิจารณ์
24.29K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2558 21.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) บทที่ 11 Please..Don't..(18+)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 11
Please..Don’t (18+)
“ฮัน..ฮันนี่รักพี่นะคะ! ขอบคุณที่พี่ยังมีความรักหลงเหลือให้ฮันนี่จริงๆค่ะ! ถึงพี่จะให้ฮันนี่เป็นเมียเก็บก็ได้! ฮันนี่ยอมแล้วค่ะพี่สทอร์ม…จุ๊ฟ..”
ฉันก้าวออกมาจากห้องหลังจากที่คุยกับพี่ไวน์เสร็จ และนี่เป็นสิ่งแรกที่ฉันได้ยิน มันทำให้เข่าของฉันแทบทรุด ฉันแทบจะล้มทั้งยืนจริงๆที่ได้ยินเสียงนั้นพร้อมๆกับภาพตรงหน้า
เสียงของฮันนี่ที่พูดเหมือนดีใจมากๆแล้วดึงสทอร์มเข้าไปจูบ ภาพๆนั้นมันทำให้ฉันถึงกับเดินเซไปช้างหลังสองสามก้าว ถ้าฉันไม่ได้จับราวบันไดเอาไว้ป่านนี้ฉันคงล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้วแน่ๆ บดจูบที่ดุเดือดนั่น ฮั่นนี่เป็นฝ่ายรุกก็จริง แต่ดูเหมือนว่าสทอร์มเขาเต็มใจยังไงก็ไม่รู้ เพราะถ้าเขาคิดที่จะไม่จูบยังไงแค่ผลักทีเดียว เขาก็ทำได้อยู่แล้ว เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ขี้ก้างแล้วฮันนี่ก็ดูไม่ค่อยมีแรงเยอะเท่าไหร่หรอก..
ปึก! ปึง!
ฉันค่อยๆพยุงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเดินไต่บันไดลงมา น้ำตาฉันร่วงทันทีที่เห็นสทอร์มดันร่างเล็กๆของฮันนี่ไปชนกับประตูก่อนที่จะดันเธอเข้าไปในห้องใต้บันไดนั่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขาต้องเข้าไปทำเรื่องอย่างว่าแน่ๆ.. และสิ่งที่ทำให้ฉันต้องปล่อยโฮแต่กก็ต้องกลั้นเสียงสะอื้นก้อนโตเอาไว้... ชุดเดรสสีครีม... ชุดเครสที่ร่วงอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้..
ฉัน.. ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงยังต้องยืนอยู่ตรงนี้ ฉันรู้แค่ว่าฉันผิดเอง ฉันโง่เอง ฉันไม่น่าเผลอใจไปให้กับเขา.. สทอร์มเขาเป็นถึงเจ้าของเกาะแซนเดอร์ เขาเป็นถึงทายาทตระกูลแฟร์ไคลน์ ส่วนฉันก็เป็นได้แค่นางบำเรอที่ส่งมาให้เขา.. เพื่อแลกกับทรัพย์สมบัติบ้าๆ ความรู้สึกตอนนี้ มัน..บอกไม่ถูกเหมือนกัน.. เขาเป็นรักครั้งแรกของฉันที่ฉันรู้สึกจริงจัง..และเขาก็เป็นคนแรกของฉัน..
..แต่ฉันคิดผิดไป..เขาไม่ใช่ของฉัน และฉันก็ไม่มีสิทธ์ที่จะไปก้าวก่ายเรื่องของเขา..
ฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิม พยายามเช็ดน้ำตาให้ออกไปจากหน้าให้หมด ใช่.. มันยากมากที่จะหยุดร้องไห้ในตอนนี้ แต่จะให้ฉันทำยังไงล่ะ ฉันเป็นเพียงแค่นางบำเรอ ฉันเป็นเพียงแค่โสเภณีไฮโซที่ถูกส่งมาให้เขาเพื่อแลกกับหุ้นที่ล้ม เพื่อเอาตัวของฉันเขาแลกยอมให้ตระกูลตัวเองไม่ล้มละลาย ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธเขาหรือว่าเขา.. สิ่งที่ฉันสามารถทำได้ก็คือยิ้มรับมันและหักห้ามใจตัวเอง..
แกร๊ก..
“…”
สทอร์มเปิดประตูออกมา ฉันมองเขาในเซี่ยววินาทีก่อนที่จะเบือนหน้าหนี เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย.. รอยลิปสติกที่เลอะติดอยู่ที่ปากของเขา เหงือที่แผงอก..หึ..เจ็บดีเหมือนกันนะ สถานะของฉันตอนนี้..
“ร..ริช..”
“…”
ชื่อของฉันที่ดังออกมาจากปากของเขา สทอร์มเรียกชื่อฉันเหมือนพยายามจะขอโทษ ฉันจะทำยังไงต่อไปดี บอกหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้มีสิ่งไหนที่ฉันสามารถจะทำได้บ้าง..
“ริช..ร..ริชท์”
“มีอะไรหรือเปล่าสทอร์ม..”
“ฉัน..ฉัน”
“อือ..ฉันเห็นแล้ว ถ้ามันยากที่จะพูดนายก็ไม่ต้องพูดหรอก ฉันไม่เป็นไร นายไม่ต้องห่วงฉันขนาดนั้นหรอก..ฉันรู้ว่าฉันมาที่หลังผู้หญิงของนาย แล้วตระกูลของฉันก็ยัดเยียดฉันให้กับนาย ฉัน..ฉันเข้าใจสถานะตัวเองดี..นายไม่ต้องห่วงนะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นริชท์!!..ม..มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ..”
"ไม่ต้องอธิบายให้ยุ่งยากหรอก เอาเป็นว่าไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไงฉันไม่โกรธนายหรอกสทอร์ม..ง..งั้นฉันขอตัวก่อนนะ..”
ฉันหันหลัง ก่อนจะค่อยๆก้าวเดินออกมา แต่ละย่างก้าวช่างยากลำบากเหลือเกินเรี่ยวแรงของฉันไม่เหลือแล้วหรือยังไงกัน ริชท์! เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งนะ เธอเคยอ่อนแอยอมแพ้ใครหรือยังไงกัน เรื่องแค่นี้มันทำให้เธอเป็นได้ขนาดนี้เชียวเหรอ!
ฝุบ!
“ริชท์..ฉันขอโทษ ฉันขอโทษริชท์ แต่มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดจริงๆนะ ฉันไม่ได้มีอะไรกับฮันนี่นะ เธอ..เธออย่าไปไหนนะ อย่าจากฉันไปไหนนะ..ริชท์ ฮึก..”
“ฉันมีสิทธิ์ที่จะไปจากนายได้ด้วยเหรอสทอร์ม..ฉันถูกส่งมาให้เป็นของนาย เพราะฉนั้นนายหยุดกังวลเถอะ ฉันไม่หนีนายไปไหนหรอก เลิกร้องไห้นะ..”
“..ริชท์..ฉันขอโทษ”
ตุบ..
สทอร์มที่เคยกอดเอวของฉันอยู่เมื่อไม่นานมานี้ เขาทรุดตัวลงคุกเข่า แล้วกอดขาฉันไว้แน่น..ไร้คำพูดใดๆ ฉันมองออกไปที่หน้าประตูของบ้าน เงาสะท้อน..เห็นฮันนี่ที่กำลังก้มเก็บชุดของเธอขึ้นมาใส่ แล้วมองมาที่ฉันกับสทอร์ม..
“สทอร์ม ปล่อยฉันเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียวซักพัก..”
มือเรียวยาวที่สั่นมากๆของฉัน ค่อยๆแกะมือของสทอร์มออก แต่ดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เขาไม่ยอมปล่อยฉันง่ายๆ เขาต้องการอะไรจากฉันกัน ร่างกายของฉันเขาก็ได้ไปแล้ว หัวใจของฉันเขาก็ได้ และทำลายมันลงไปแล้ว ยังมีสิ่งไหนอีกเหรอที่เขาอยากจะได้มันอีก..
ในที่สุดฉันก็แกะมือของสทอร์มออกได้หลังจากที่พยายามอยู่นาน ฉันหมุนตัวเองแล้วนั่งยองๆเช็ดน้ำตาให้เขา..สทอร์มร้องไห้อีกแล้ว..ทุกครั้งที่ฉันเห็นเขาร้องไห้ในหัวของฉันมักจะมีคำถามเพียงคำถามเดียวที่แล่นเข้ามาในหัว เขาจะร้องไห้ไปทำไม..ฉันไม่ใช่เหรอที่สมควรจะร้องไห้น่ะ..
ฉันพยุงสทอร์มให้ลุกขึ้นก่อนจะเหลือบสายตาไปมองฮันนี่ที่มองฉันและสทอร์มกลับมาด้วยสายตาอาฆาตสุดๆเช่นกัน หึ..ฮันนี่นี่ก็หน้าด้านดีนะ ทั้งๆที่รู้ว่าฉันกับสทอร์มเริ่มไปได้ไกล เธอกลับเข้ามาหาเขาได้ถูกจังหวะเอามากๆ เข้ามาถูกเวลาจริงๆ..เธอเขามาในตอนที่ฉันรักเขาไปแล้ว..เข้ามาทำลายหัวใจชองฉัน..
พอฉันเห็นว่าสทอร์มเริ่มตั้งหลักยืนด้วยตัวเองได้แล้ว ฉันก็ยังพยายามที่จะเช็ดน้ำตาให้เขาอยู่ดี น้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด ต่างจากฉันที่ตอนนี้ไม่ว่าอยากจะร้องไห้แค่ไหน น้ำตากลับไม่มีให้ฉันสมดั่งใจอยาก ฉันมองไปรอบๆใบหน้าของเขา ดวงตาสีนิล ผมสีดำขลับ ผิวขาวๆของเขา ฉันเช็ดรอนลิปสติกที่ติดอยู่ที่ปากของสทอร์มด้วยมือของฉัน แล้วยิ้มให้เขา ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าฉันยิ้มออกมาได้ยังไงกันในสถานะการณ์ตอนนี้..ทำไมฉันถึงยิ้มกันนะ..
…ยิ้มให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเอง..
“นายขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ พี่ไวน์ไกล้จะมาถึงแล้ว ฉันขอกุญแจให้พี่ฉันได้มั๊ย..”
“ท..ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เธออยากให้พี่เธอนอนห้องไหนเธอก็ไปขอกับพ่อบ้านได้เลย..ขอบคุณนะริชท์ ขอบคุณที่เธอไม่ทิ้งฉันไป ขอบคุณที่เธอให้อภัยฉัน..ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่าง..”
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะสทอร์ม ฉันโกรธเกลียดนายไม่ได้หรอก สิ่งที่ฉันทำได้ก็คืออยู่กับนาย ให้อภัยนาย และยิ้มให้นาย เพราะฉนั้นเลิกร้องไห้แล้วขึ้นไปอาบน้ำนะ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว หาอะไรกินด้วย เดี๊ยวพอพี่ไวน์มา ฉันจะพาเขามาเอากุญแจ..งั้นเดี๊ยวเราจอกันตอนเย็นนะ ฉันว่าจะออกไปห้างไกล้ๆนี่ซักหน่อย”
“ครับ..”
ฉันหันหลังก่อนจะเดินออกมาที่หาดทรายเพื่อรอรับพี่ไวน์ ฉันไม่รู้ว่าจะปรึกษาพี่ไวน์เรื่องนี้ได้หรือเปล่า แต่อย่างน้อย ฉันก็อยากกอดพี่ไวน์แล้วร้องไห้ออกมาให้เต็มที่ ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆนะ แต่น้ำตามันหายไปไหนกัน มันเป็นความทรมารอีกแบบนึงเหมือนกันนะเนี่ย ทำไมพระเจ้าต้องลงโทษฉันหนักขนาดนี้ด้วย ชาติที่แล้วฉันทำบาปอะไรไว้มากหรือไงกัน..
ปิ๊นๆๆ
เสียงแตรรถที่ดังอยู่หน้าทางเข้าหาดส่วนตัว ฉันมองก่อนจะเดินตามเหล่าพ่อบ้านไปเปิดประตู ทันทีที่รถเข้ามาจอดพี่ไวน์ก็ลงมาจากรถแล้วกอดฉันไว้..นี่เป็นหนึ่งสิ่งในหลายๆอย่างที่พี่ไวน์มอบให้ฉัน ความอบอุ่น ความเอาใจใส่ แม้ว่าฉันจะไม่ใช่น้องแท้ๆของพี่ไวน์แต่พี่เขาก้ดูแลฉันอย่างดีมาตลอดนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันครั้งแรก
น้ำตาที่ฉันอัดอั้นไว้นานค่อยๆไหลพรั่งพรูออกมา พ่อบ้านทุกคนแยกย้ายกลับไปทำหน้าที่ขอตัวเองแล้ว ฉันยังคงกอดพี่ไวน์ไว้แน่น ดูเหมือนว่าพี่ไวน์เองก็จะงงๆว่าฉันร้องไห้เพราะอะไร แต่พี่เขาก็เลือกที่จะไม่ถาม และยังคงกอดปลอบฉัน..น้ำตาของฉันเลอะอยู่เต็มเสื้อพี่ไวน์ ฉันไร้เรี่ยวแรงที่จะทรงตัวเองให้อยู่ได้อีกต่อไป..ฉันไร้เรี่ยวแรงที่จะหายใจแล้วจริงๆตอนนี้..ไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะลืมตาของตัวเองขึ้นมามองหน้าของพี่ไวน์.. ฉันอยากจะหลับตาลงแล้วหายไปจากที่นี่ซะ
..แต่พระเจ้าลงโทษฉัน..
“ริชท์..พี่อยู่นี่แล้วๆ..อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเลย พี่อยู่นี่แล้ว มีอะไรริชท์ไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะ..”
“ฮึก..ฮึก..”
พี่ไวน์ลูบผมฉันอย่างแผ่วเบา ฉันแอบเสียดายเหมือนนะ เสียดายที่เราดันเป็นพี่น้องกัน ถ้าพ่อของพี่ไวน์ไม่ได้มาแต่งงานใหม่กับแม่ฉัน พี่ไวน์ก็เป็นคนดีคนนึงที่ฉันอยากจะใช้ชีวิตครอบครัวอยู่กับเขา แต่การที่พี่ไวน์มาเป็นพี่ของฉันก็ถือเป็นเรื่องดีมากๆเช่นกัน เพราะไม่มีทางที่เขาจะหนีหายไปจากฉัน ไม่ว่าฉันจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม..
“ว้าวววว ริชท์ ดูทะเลนี่สิ สวยนะ อากาศก็ดี๊ดี เราน่ะเลิกร้องไห้แล้วเดี๊ยวพี่พาไปเดินเล่นที่ชายหาดดีมั๊ยครับคนดี..”
“ฮ..ฮึกๆ ค่ะพี่ไวน์..”
พี่ไวน์จูงมือให้ฉันเดินตามเขาไป เราค่อยๆเดินกันไปเรื่อยๆ พี่ไวน์ไม่ถามอะไรฉัน เพียงแค่จูงมือฉันมาออกมาเดินที่ริมหาด น้ำทะเลที่ซาดเข้ามาที่ขาของฉันมันกลับไม่ได้ทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาได้เลยซักนิด มีเพียงมืออุ่นๆของพี่ไวน์เท่านั้นที่ช่วยให้ฉันอุ่นใจขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยฉันก็มีพี่ไวน์..พี่ไวน์เหมือนแสงสว่างในความมืดของฉันจริงๆ
“พี่ไวน์..ไม่ถามอะไรริชท์หน่อยเหรอคะ..พี่คงตกใจมากแน่ๆที่อยู่ๆริชท์ก็ร้องไห้ใส่ขนาดนั้น”
“พี่จะไม่ถามหรอกนะ คนเราทุกคนน่ะมีเรื่องตั้งมากมายที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ แต่ถึงยังไงคนเหล่านั้นก็ยังคงต้องการที่พึ่งอยู่ดี ในวันที่ริชท์ทุกข์ใจพี่อยากให้ริชท์เห็นแก่ตัวเองเป็นหลัก รักตัวเองให้มากๆ อย่าดูถูกตัวเองและอย่าทำร้ายตัวเองเข้าใจมั๊ยคะ หืม..^^”
“ค่ะพี่ไวน์..ขอบคุณที่พี่ไวน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของริชท์นะคะ..ขอบคุณ..”
“ครับ..พี่ก็ขอบคุณนะที่ริชท์มาเป็นน้องสาวของพี่..งั้น..เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีมั๊ย พี่หิวจังเลย..”
“ค่ะ..”
พี่ไวน์พาฉันขึ้นรถออกมาที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากชายหาดมากนัก ฉันกับพี่ไวน์ใช้เวลาพวกนี้คุยกันไปเรื่อยถึงแม้ฉันจะดูซึมๆขึ้นมามาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่พี่ไวน์อยู่กับฉันตอนนี้ เพราะถ้าเป็นคุณแม่หรือคุณพ่อฉันคงไม่กล้าร้องไห้ฉันคงไม่กล้าคุยแบบเปิดอกแน่ๆ เพราะฉันกลัวพวกท่านจะลำบากใจ..
พอพวกเรากินข้าวกันเสร็จแล้วพี่ไวน์ก็พาฉันไปเดินห้างสรพพสินค้าต่อ เดินซื้อนู่นซื้อนี่ไปเรื่อย ทำให้เวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง และกว่าที่เราจะกลับมาถึงหาดก็ปาเข้าไปเกือบมืดพอดี
“พี่ไวน์จะนอนห้องไหนดีคะ เดี๊ยวริชท์จะไปขอกุญแจจากพ่อบ้านให้..”
“แล้วริชท์นอนห้องไหนล่ะ พี่ขอนอนด้วยคนไม่ได้เหรอ”
“ริชท์นอนห้องเดียวกับสทอร์มน่ะค่ะ ริชท์คิดว่าคงจะเป็นเรื่องยากถ้าพี่ไวน์จะ..มานอนด้วย..”
“..ริชท์..ตามจริงพี่ก็ไม่อยากจะถามหรอกนะ แต่พี่ขอแค่คำถามเดียว คำถามเดียวเท่านั้น..”
“ค่ะพี่ไวน์”
“ริชท์โอเคแน่นะ สทอร์มไม่ได้ทำอะไรริชท์ใช่มั๊ย..”
“…”
“โถ่! ริชท์…พี่ขอโทษจริงๆ ถ้าวันนั้นพี่ห้ามไม่ให้เขาพาริชท์ไป ถ้าวันนั้นพี่กล้ามากพอที่จะฉีกพินัยกรรมนั่น..พี่ขอโทษที่วันนั้นพี่ไม่กล้าพอ ริชท์พี่ขอโทษ..”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ไวน์..ริชท์..ริชท์ทนได้ค่ะ มันเป็นเรื่องที่ริชท์ต้องทน..”
“ริชท์..”
“เอาเป็นว่าพี่ไวน์นอนข้างห้องของคุณเลเวลนะคะ เดี๊ยวริชท์จะไปขอกุญแจมาให้ พี่ไวน์เอาของเข้ามาในบ้านก่อนเถอะค่ะ..”
“ริชท์..แน่ใจนะว่าจะไม่ให้พี่ไปนอนเป็นเพื่อน งั้นลงมาหาพี่ได้ตลอดนะถ้ามีอะไรไม่ดีๆเกิดขึ้นน่ะ..”
“ค่ะ..พี่ไวน์”
ฉันเดินไปขอกุญแจจากพ่อบ้านก่อนที่จะเดินเอามาให้พี่ไวน์แล้วช่วยกันขนของเข้าไปในห้อง รู้สึกว่าไอแมคกับเลเวลจะชวนฮันนี่ไปเล่นวอลเล่ชายหาดกันอยู่ ส่วนสทอร์ม ตั้งแต่กลับมาฉันยังไม่เห็นเขาเลย..ไปไหนของเขานะ..
หลังจากที่ช่วยพี่ไวน์เก็บของให้เข้าที่เข้าทางเสร็จฉันก็เดินกลับขึ้นไปบนห้อง กะว่าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าคงจะตอนนี้ไม่ได้..สทอร์ม เขาเล่นจ้องฉันตาเขม็งซะขนาดนั้น..ฉัน..ฉันต้องเจอกับเรื่องบ้าอะไรอีกล่ะทีนี้..
“ริชท์..เธอไปไหนมา..”
“ฉันไปข้างนอกน่ะ”
“กับพี่ไวน์ของเธอ?”
“อืม”
“เธอกำลังประชดฉันอยู่เหรอริชท์!..เธอก็รู้ว่าฉันหึง หวง และห่วงเธอมากแค่ไหน โอเค ฉันขอโทษที่ฉันจูบกับฮันนี่ แต่นั่นฉันไม่ได้ตั้งใจ แล้วเธอก็เข้าใจผิดนะ!”
“แล้วตอนนี้นายกำลังโกรธฉันเรื่องอะไรเหรอสทอร์ม..นายจะบอกว่านายกำลังเข้าใจฉันถูกอยู่เหรอไง..”
“..ฉัน..ฉัน ฉันขอโทษ ฉันหึงเธอมากไป ทั้งๆที่ฉันทำผิดอยู่แท้ๆ ฉันขอโทษที่ใส่อารมณ์กับเธอนะริชท์..”
“อืม นายกินอะไรหรือยังล่ะสทอร์ม หิวมั๊ย..”
“ไม่..ริชท์ ฉันไม่หิว..”
“งั้นฉันขอตัวอาบน้ำก่อนนะ..”
“…”
สทอร์มทำหน้าสำนึกผิดที่มาใส่อารมณ์กับฉัน ฉันไม่โกรธเขาหรอกแต่ไม่รู้ทำไมหน้าฉันถึงได้ชาขนาดนี้ มันหน้าจะไปชาที่ใจของฉันบ้างนะ บางทีฉันอาจจะหายเจ็บปวดลงไปได้บ้างทุกครั้งที่มองหน้าเขา..
ฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำ ก่อนที่จะเดินลงไปแช่ในอ่างน้ำอุ่นๆ ฉันก็ได้ยินเสียงประตูจากห้องน้ำอีกชั้นเปิดและปิดลง มีคนเปิดเข้ามา..และคนที่เข้ามาก็เป็นเขาจริงๆ.. สทอร์ม
“ฉัน..ขออาบด้วยคนสิ..”
“อืม”
ฉันเดินไปหยิบผ้าบนหนูที่แขวนอยู่มาปิดหน้าอกไว้แล้วเดินลงไปแช่ในอ่าง มันเลยจุดที่ฉันจะอายมาแล้ว ไม่มีอะไรให้ฉันต้องอายอีก ในเมื่อเขาอยากอาบด้วยฉันก็ต้องทำหน้าที่อาบน้ำให้เขา ฉันก็ทำได้แค่ปรณนิบัตให้เขามีความสุข แม้ว่าฉันจะเจ็บแค่ไหน..ฉันต้องทำ
สทอร์มถอดเสื้อผ้าแล้วเดินตามลงมาแช่ในอ่างเดียวกันกับฉัน น้ำอุ่นๆค่อยๆไหลขึ้นมาก่อนที่แปรเปลี่ยนเป็นฟองสบู่นุ่มๆ ฉันทำความสอาดตัวเองไปเรื่อย ส่วนสทอร์มเขาก็แค่นั่งดูฉันเฉยๆ..เขาเข้ามาเพื่อนั่งดูฉันอาบน้ำหรือไงกัน..
“นายไม่อาบน้ำหรือไง..”
“ฉันอาบอยู่..”
“เหรอ..”
หมดเรื่องที่จะพูดต่อ โอเค เขาอาบน้ำอยู่สินะ ฉันกดเปลี่ยนปุ่มที่อยู่ข้างอ่างให้เปลี่ยนจากฟองสบู่เป็นน้ำสะอาดเพื่อล้างตัวอีกรอบ..ส่วนสทอร์มน่ะเหรอ เขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมนั่นแหละ..
“ริชท์ ฉันขอโทษ..”
“ถ้านายจะเข้ามาพูดขอโทษเรื่องเมื่อเช้าก็พอเถอะสทอร์ม ฉันบอกนายแล้วไงว่าไม่เป็นไร”
“เปล่าฉันขอโทษที่ใส่อารมณ์กับเธอ..เมื่อกี้..”
“อืม..วันนี้ฉันเจอแต่คำว่าขอโทษมาทั้งวันแล้ว เลิกพูด ถ..!!”
จุ๊ฟ..จุฟ..
“อืออ..”
“ส..สมอร์ม..อึก!!”
อยู่ๆสทอร์มก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งคร่อมฉันแล้วจูบฉันอย่างบ้าครั่ง ฉันรู้ว่าถึงฉันจะต่อต้านเขาแค่ไหน ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางที่จะหยุดมันแน่ๆ สทอร์มรวบมือของฉันไปไว้ที่เอวของเขาอย่างอัตโนมัติ เขาพยายามที่จะจับขาของฉันให้อ้าออกแล้วสอดใส่ของเขาเข้ามา.. อีกแล้วสินะ..เขาจะทำกับฉันอีกแล้ว..เขาไม่เคยถามความสมัครใจฉันเลยซักครั้ง เขาเพียงแค่อยากทำ แล้วเขาก็ทำมัน..
สทอร์มใส่มันเข้ามาในตัวฉัน เข้าขยับตัวเป็นจังหวะ ปากของเขายังคงไม่ปล่อยออกไป ฉันพยายามข่มใจตัวเอง ..ฉันรักเข้าไม่ได้อีกแล้ว.. แต่ถ้าเขาต้องการร่างกายของฉัน..ฉันก็จะให้..
แรงกระแทกของสทอร์มที่กระทบกับฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เขาใส่เข้ามาลึกมาก ลึกจนรู้สึกว่ามันไปกระแทกกับอะไรสักอย่างในตัวฉัน ฉันพยายามที่จะเขยิบตัวหนีจากความเจ็บ แต่ก็ยากซะเหลือเกิน..
สทอร์มอุ้มฉันขึ้นมาจากอ่างทั้งๆที่เขาก็ยังคงทำมันอยู่ ฉันพยายามกอดคอเขาไว้แน่นเพราะกลัวว่าตัวเองจะร่วงลงไป..เขาอุ้มตัวแล้วฉันค่อยๆเดินมาที่โซฟาหน้าทีวีแล้ววางฉันลง
ก่อนจะใส่แรงกระแทกของเขาเข้ามาเต็มกำลังแล้วปล่อยน้ำของเขาเข้ามาในตัวของฉัน ฉันทำได้เพียงส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอ เพราะวันนี้มันเจ็บจริงๆ เจ็บอย่างบอกไม่ถูก..เจ็บที่ใจ..
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น สทอร์มผงะเล็กน้อย แต่ก็ไม่สนใจ เขาสอดใส่มันเข้าไปใหม่อีกครั้ง แล้วพูดประโยคนี้ออกมา..
“เธอ..เป็นของฉัน..ริชท์..ฉัน..รักเธอ”
“อืม..”
ทันทีที่สทอร์มพูดจบ ฉันก็ตอบเขากลับไปทันที สทอร์มก้มลงไปจูบที่หน้าอกของฉันก่อนที่จะกลับมาจูบที่ปากเหมือนเดิม ฉันเอามือไปเกาะที่เอวของสทอร์มไว้แน่น.. ใช่แล้ว ตอนนี้ฉันเป็นของเขา.. แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ฉันถึงจะกลับมารักเขาได้อย่างเต็มใจ เหมือนเดิม..
เวลาผ่านไปอยู่นาน ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับร่างกายของฉันแล้ว สทอร์มก็ลุกออกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดทำความสะอาดตรงนั้นให้ฉัน เช็ดเอาน้ำที่เขากล่อยเข้ามาในตัวฉันออกไป..
ฉันค่อยๆลุกกลับขึ้นมานั่ง แล้วเดินไปหาเสื้อผ้าในตู้มาใส่.. น้ำตาไหลลงมาทำไมกัน..ไหลลงมาทำไมตอนนี้ ทั้งๆที่ฉันไม่ได้อยากจะร้องไห้เลยนะ..ทั้งๆที่ฉันอุตส่าห์ไม่คิดอะไรแล้วแท้ๆ..
สทอร์มเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากด้านหลัง นั่นยิ่งทำให้ฉันที่อั้นเสียงสะอื้นไว้ถึงกลับปล่อยโฮออกมา ฉัน..ควรเชื่อประโยคเมื่อกี้ที่เขาบอกหรือเปล่า..เขาบอกว่าเขารักฉัน..บางทีนั่นอาจจะเป็นเพียงคำพูดที่พูดเพื่อเพิ่มอารมณ์ให้เขาก็ได้ ฉันไม่อยากโดนหลอก ฉันไม่อยากเจ็บซ้ำๆอีกแล้ว..
“ริชท์..เธอเป็นอะไร..ร้องไห้ทำไม..”
“ไม่รู้..ฉันไม่รู้ว่าฉันร้องไห้ทำไมเหมือนกัน..”
“เพราะฉันอีกแล้วเหรอ ฉันทำให้เธอร้องไห้..ใช่มั๊ย..”
“อืม.. ก็คงงั้น”
“…”
“ฉัน..ตั้งแต่ฉันมาอยู่กับนาย..นายก็พยายามหาเรื่องมามีอะไรกับฉันอยู่เรื่อย..นายไม่เคยถามฉันเลยว่าฉันอยากทำหรือเปล่า..นายทำให้ฉันเกลียดนาย..ทั้งๆที่ฉันก็ยังรักนาย..แต่นายทำลายมัน นายมีอะไรกับฉันครั้งแรก..นายรู้หรือเปล่าว่านายเป็นคนแรกของฉัน..สทอร์ม..นายทำให้ฉันรักนาย แต่นายก็ขยี้มันทิ้ง นายรู้มั๊ย พอฉันเห็นนายกับฮันนี่เมื่อเช้า ฉันเจ็บปวดทรมาณแค่ไหน..ฉันแทบอยากจะหนีหายหรือตายๆไปซะ นายรู้มั๊ย! ว่าฉันเจ็บแค่ไหนสทอร์ม! ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันอยู่กับนายในสถานะอะไร แฟน? ภรรยา? หรือเป็นแค่นางบำเรอของนาย.. ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันไปอะไร..ฮึก..ฮืออ”
“ฉันขอโทษ..ริชท์ แต่ฉันไม่ได้มีอะไรกับฮันนี่แบบที่เธอเห็นนะริชท์ ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ฉันบริสุทธิ์ใจจริงๆ”
“…”
“แต่..ฉันดีใจมากเลยนะ..เธอเพิ่งบอกว่ารักฉันเป็นครั้งแรก..ฉันดีใจมากจริงๆ ขอบคุณที่รักกันนะริชท์ ฉันก็รักเธอมากๆ..มากสุดหัวใจ..ได้โปรด..เธอเชื่อฉันเถอะริชท์ฉันมีเพียงเธอคนเดียว แล้วก็รักเธอคนเดียวจริงๆ..”
“ฮึก..ฉันเชื่อนายได้จริงๆเหรอสทอร์ม..งั้นนายบอกได้มั๊ยว่าตอนนี้ ระหว่างฉันกับนาย ฉันเป็นอะไรของนาย..”
“เธอก็เป็นแฟนของฉัน เป็นคู่หมั้นฉัน เป็นภรรยาฉัน เธอเป็นทุกๆอย่างของฉันริชท์ ได้โปรดเลิกกังวลเถอะ ฉันรักเธอคนเดียวจริงๆ..เลิกร้องไห้นะครับ..”
“สทอร์ม..ฉัน ฉันก็..รักนายนะ”
ไม่รู้ทำไม..ฉันถึงได้ให้อภัยเขาเพียงเพราะคำพูดที่เขาบอก ฉันไม่รู้หรอกว่าที่เขาพยายามอธิบายมันคือเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ฉันก็เลือกที่จะเชื่อเขา เพียงเพราะฉันไม่อยากเสียเขาไป ฉันอยากใช้ชีวิตที่มความสุขกับเขา สทอร์มบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันบอกรักเขา..ฉันก็เพิ่งได้ยินเขาบอกรักฉันครั้งแรกเหมือนกัน นั่นคำพูดนั้นที่เขาพูดออกมามันทำให้ฉันดีใจนะ ดีใจมากๆ ฉันเลยเลือกที่จะเชื่อเขาแล้วก็ให้อภัยเขา..เพราะฉันก็รักเขา..เพราะฉันก็รักสทอร์ม
วันนี้เจ่เจ้เอามาลงให้ก่อนกำหนดนะจ๊าาา
ตามจริงนัดกันไว้วันที่ 13 โน๊ะ แต่พอดีว่างจัดจ้า
ยังไงก็เม้นกันด้วยนะ ไม่เม้นนี่งอนนานนะ หายงอนปีหน้าค่อยเอามาลง ชิส์ๆ
Please..Don’t (18+)
“ฮัน..ฮันนี่รักพี่นะคะ! ขอบคุณที่พี่ยังมีความรักหลงเหลือให้ฮันนี่จริงๆค่ะ! ถึงพี่จะให้ฮันนี่เป็นเมียเก็บก็ได้! ฮันนี่ยอมแล้วค่ะพี่สทอร์ม…จุ๊ฟ..”
ฉันก้าวออกมาจากห้องหลังจากที่คุยกับพี่ไวน์เสร็จ และนี่เป็นสิ่งแรกที่ฉันได้ยิน มันทำให้เข่าของฉันแทบทรุด ฉันแทบจะล้มทั้งยืนจริงๆที่ได้ยินเสียงนั้นพร้อมๆกับภาพตรงหน้า
เสียงของฮันนี่ที่พูดเหมือนดีใจมากๆแล้วดึงสทอร์มเข้าไปจูบ ภาพๆนั้นมันทำให้ฉันถึงกับเดินเซไปช้างหลังสองสามก้าว ถ้าฉันไม่ได้จับราวบันไดเอาไว้ป่านนี้ฉันคงล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้วแน่ๆ บดจูบที่ดุเดือดนั่น ฮั่นนี่เป็นฝ่ายรุกก็จริง แต่ดูเหมือนว่าสทอร์มเขาเต็มใจยังไงก็ไม่รู้ เพราะถ้าเขาคิดที่จะไม่จูบยังไงแค่ผลักทีเดียว เขาก็ทำได้อยู่แล้ว เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ขี้ก้างแล้วฮันนี่ก็ดูไม่ค่อยมีแรงเยอะเท่าไหร่หรอก..
ปึก! ปึง!
ฉันค่อยๆพยุงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเดินไต่บันไดลงมา น้ำตาฉันร่วงทันทีที่เห็นสทอร์มดันร่างเล็กๆของฮันนี่ไปชนกับประตูก่อนที่จะดันเธอเข้าไปในห้องใต้บันไดนั่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขาต้องเข้าไปทำเรื่องอย่างว่าแน่ๆ.. และสิ่งที่ทำให้ฉันต้องปล่อยโฮแต่กก็ต้องกลั้นเสียงสะอื้นก้อนโตเอาไว้... ชุดเดรสสีครีม... ชุดเครสที่ร่วงอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้..
ฉัน.. ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงยังต้องยืนอยู่ตรงนี้ ฉันรู้แค่ว่าฉันผิดเอง ฉันโง่เอง ฉันไม่น่าเผลอใจไปให้กับเขา.. สทอร์มเขาเป็นถึงเจ้าของเกาะแซนเดอร์ เขาเป็นถึงทายาทตระกูลแฟร์ไคลน์ ส่วนฉันก็เป็นได้แค่นางบำเรอที่ส่งมาให้เขา.. เพื่อแลกกับทรัพย์สมบัติบ้าๆ ความรู้สึกตอนนี้ มัน..บอกไม่ถูกเหมือนกัน.. เขาเป็นรักครั้งแรกของฉันที่ฉันรู้สึกจริงจัง..และเขาก็เป็นคนแรกของฉัน..
..แต่ฉันคิดผิดไป..เขาไม่ใช่ของฉัน และฉันก็ไม่มีสิทธ์ที่จะไปก้าวก่ายเรื่องของเขา..
ฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิม พยายามเช็ดน้ำตาให้ออกไปจากหน้าให้หมด ใช่.. มันยากมากที่จะหยุดร้องไห้ในตอนนี้ แต่จะให้ฉันทำยังไงล่ะ ฉันเป็นเพียงแค่นางบำเรอ ฉันเป็นเพียงแค่โสเภณีไฮโซที่ถูกส่งมาให้เขาเพื่อแลกกับหุ้นที่ล้ม เพื่อเอาตัวของฉันเขาแลกยอมให้ตระกูลตัวเองไม่ล้มละลาย ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธเขาหรือว่าเขา.. สิ่งที่ฉันสามารถทำได้ก็คือยิ้มรับมันและหักห้ามใจตัวเอง..
แกร๊ก..
“…”
สทอร์มเปิดประตูออกมา ฉันมองเขาในเซี่ยววินาทีก่อนที่จะเบือนหน้าหนี เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย.. รอยลิปสติกที่เลอะติดอยู่ที่ปากของเขา เหงือที่แผงอก..หึ..เจ็บดีเหมือนกันนะ สถานะของฉันตอนนี้..
“ร..ริช..”
“…”
ชื่อของฉันที่ดังออกมาจากปากของเขา สทอร์มเรียกชื่อฉันเหมือนพยายามจะขอโทษ ฉันจะทำยังไงต่อไปดี บอกหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้มีสิ่งไหนที่ฉันสามารถจะทำได้บ้าง..
“ริช..ร..ริชท์”
“มีอะไรหรือเปล่าสทอร์ม..”
“ฉัน..ฉัน”
“อือ..ฉันเห็นแล้ว ถ้ามันยากที่จะพูดนายก็ไม่ต้องพูดหรอก ฉันไม่เป็นไร นายไม่ต้องห่วงฉันขนาดนั้นหรอก..ฉันรู้ว่าฉันมาที่หลังผู้หญิงของนาย แล้วตระกูลของฉันก็ยัดเยียดฉันให้กับนาย ฉัน..ฉันเข้าใจสถานะตัวเองดี..นายไม่ต้องห่วงนะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นริชท์!!..ม..มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ..”
"ไม่ต้องอธิบายให้ยุ่งยากหรอก เอาเป็นว่าไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไงฉันไม่โกรธนายหรอกสทอร์ม..ง..งั้นฉันขอตัวก่อนนะ..”
ฉันหันหลัง ก่อนจะค่อยๆก้าวเดินออกมา แต่ละย่างก้าวช่างยากลำบากเหลือเกินเรี่ยวแรงของฉันไม่เหลือแล้วหรือยังไงกัน ริชท์! เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งนะ เธอเคยอ่อนแอยอมแพ้ใครหรือยังไงกัน เรื่องแค่นี้มันทำให้เธอเป็นได้ขนาดนี้เชียวเหรอ!
ฝุบ!
“ริชท์..ฉันขอโทษ ฉันขอโทษริชท์ แต่มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดจริงๆนะ ฉันไม่ได้มีอะไรกับฮันนี่นะ เธอ..เธออย่าไปไหนนะ อย่าจากฉันไปไหนนะ..ริชท์ ฮึก..”
“ฉันมีสิทธิ์ที่จะไปจากนายได้ด้วยเหรอสทอร์ม..ฉันถูกส่งมาให้เป็นของนาย เพราะฉนั้นนายหยุดกังวลเถอะ ฉันไม่หนีนายไปไหนหรอก เลิกร้องไห้นะ..”
“..ริชท์..ฉันขอโทษ”
ตุบ..
สทอร์มที่เคยกอดเอวของฉันอยู่เมื่อไม่นานมานี้ เขาทรุดตัวลงคุกเข่า แล้วกอดขาฉันไว้แน่น..ไร้คำพูดใดๆ ฉันมองออกไปที่หน้าประตูของบ้าน เงาสะท้อน..เห็นฮันนี่ที่กำลังก้มเก็บชุดของเธอขึ้นมาใส่ แล้วมองมาที่ฉันกับสทอร์ม..
“สทอร์ม ปล่อยฉันเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียวซักพัก..”
มือเรียวยาวที่สั่นมากๆของฉัน ค่อยๆแกะมือของสทอร์มออก แต่ดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เขาไม่ยอมปล่อยฉันง่ายๆ เขาต้องการอะไรจากฉันกัน ร่างกายของฉันเขาก็ได้ไปแล้ว หัวใจของฉันเขาก็ได้ และทำลายมันลงไปแล้ว ยังมีสิ่งไหนอีกเหรอที่เขาอยากจะได้มันอีก..
ในที่สุดฉันก็แกะมือของสทอร์มออกได้หลังจากที่พยายามอยู่นาน ฉันหมุนตัวเองแล้วนั่งยองๆเช็ดน้ำตาให้เขา..สทอร์มร้องไห้อีกแล้ว..ทุกครั้งที่ฉันเห็นเขาร้องไห้ในหัวของฉันมักจะมีคำถามเพียงคำถามเดียวที่แล่นเข้ามาในหัว เขาจะร้องไห้ไปทำไม..ฉันไม่ใช่เหรอที่สมควรจะร้องไห้น่ะ..
ฉันพยุงสทอร์มให้ลุกขึ้นก่อนจะเหลือบสายตาไปมองฮันนี่ที่มองฉันและสทอร์มกลับมาด้วยสายตาอาฆาตสุดๆเช่นกัน หึ..ฮันนี่นี่ก็หน้าด้านดีนะ ทั้งๆที่รู้ว่าฉันกับสทอร์มเริ่มไปได้ไกล เธอกลับเข้ามาหาเขาได้ถูกจังหวะเอามากๆ เข้ามาถูกเวลาจริงๆ..เธอเขามาในตอนที่ฉันรักเขาไปแล้ว..เข้ามาทำลายหัวใจชองฉัน..
พอฉันเห็นว่าสทอร์มเริ่มตั้งหลักยืนด้วยตัวเองได้แล้ว ฉันก็ยังพยายามที่จะเช็ดน้ำตาให้เขาอยู่ดี น้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด ต่างจากฉันที่ตอนนี้ไม่ว่าอยากจะร้องไห้แค่ไหน น้ำตากลับไม่มีให้ฉันสมดั่งใจอยาก ฉันมองไปรอบๆใบหน้าของเขา ดวงตาสีนิล ผมสีดำขลับ ผิวขาวๆของเขา ฉันเช็ดรอนลิปสติกที่ติดอยู่ที่ปากของสทอร์มด้วยมือของฉัน แล้วยิ้มให้เขา ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าฉันยิ้มออกมาได้ยังไงกันในสถานะการณ์ตอนนี้..ทำไมฉันถึงยิ้มกันนะ..
…ยิ้มให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเอง..
“นายขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ พี่ไวน์ไกล้จะมาถึงแล้ว ฉันขอกุญแจให้พี่ฉันได้มั๊ย..”
“ท..ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เธออยากให้พี่เธอนอนห้องไหนเธอก็ไปขอกับพ่อบ้านได้เลย..ขอบคุณนะริชท์ ขอบคุณที่เธอไม่ทิ้งฉันไป ขอบคุณที่เธอให้อภัยฉัน..ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่าง..”
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะสทอร์ม ฉันโกรธเกลียดนายไม่ได้หรอก สิ่งที่ฉันทำได้ก็คืออยู่กับนาย ให้อภัยนาย และยิ้มให้นาย เพราะฉนั้นเลิกร้องไห้แล้วขึ้นไปอาบน้ำนะ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว หาอะไรกินด้วย เดี๊ยวพอพี่ไวน์มา ฉันจะพาเขามาเอากุญแจ..งั้นเดี๊ยวเราจอกันตอนเย็นนะ ฉันว่าจะออกไปห้างไกล้ๆนี่ซักหน่อย”
“ครับ..”
ฉันหันหลังก่อนจะเดินออกมาที่หาดทรายเพื่อรอรับพี่ไวน์ ฉันไม่รู้ว่าจะปรึกษาพี่ไวน์เรื่องนี้ได้หรือเปล่า แต่อย่างน้อย ฉันก็อยากกอดพี่ไวน์แล้วร้องไห้ออกมาให้เต็มที่ ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆนะ แต่น้ำตามันหายไปไหนกัน มันเป็นความทรมารอีกแบบนึงเหมือนกันนะเนี่ย ทำไมพระเจ้าต้องลงโทษฉันหนักขนาดนี้ด้วย ชาติที่แล้วฉันทำบาปอะไรไว้มากหรือไงกัน..
ปิ๊นๆๆ
เสียงแตรรถที่ดังอยู่หน้าทางเข้าหาดส่วนตัว ฉันมองก่อนจะเดินตามเหล่าพ่อบ้านไปเปิดประตู ทันทีที่รถเข้ามาจอดพี่ไวน์ก็ลงมาจากรถแล้วกอดฉันไว้..นี่เป็นหนึ่งสิ่งในหลายๆอย่างที่พี่ไวน์มอบให้ฉัน ความอบอุ่น ความเอาใจใส่ แม้ว่าฉันจะไม่ใช่น้องแท้ๆของพี่ไวน์แต่พี่เขาก้ดูแลฉันอย่างดีมาตลอดนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันครั้งแรก
น้ำตาที่ฉันอัดอั้นไว้นานค่อยๆไหลพรั่งพรูออกมา พ่อบ้านทุกคนแยกย้ายกลับไปทำหน้าที่ขอตัวเองแล้ว ฉันยังคงกอดพี่ไวน์ไว้แน่น ดูเหมือนว่าพี่ไวน์เองก็จะงงๆว่าฉันร้องไห้เพราะอะไร แต่พี่เขาก็เลือกที่จะไม่ถาม และยังคงกอดปลอบฉัน..น้ำตาของฉันเลอะอยู่เต็มเสื้อพี่ไวน์ ฉันไร้เรี่ยวแรงที่จะทรงตัวเองให้อยู่ได้อีกต่อไป..ฉันไร้เรี่ยวแรงที่จะหายใจแล้วจริงๆตอนนี้..ไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะลืมตาของตัวเองขึ้นมามองหน้าของพี่ไวน์.. ฉันอยากจะหลับตาลงแล้วหายไปจากที่นี่ซะ
..แต่พระเจ้าลงโทษฉัน..
“ริชท์..พี่อยู่นี่แล้วๆ..อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเลย พี่อยู่นี่แล้ว มีอะไรริชท์ไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะ..”
“ฮึก..ฮึก..”
พี่ไวน์ลูบผมฉันอย่างแผ่วเบา ฉันแอบเสียดายเหมือนนะ เสียดายที่เราดันเป็นพี่น้องกัน ถ้าพ่อของพี่ไวน์ไม่ได้มาแต่งงานใหม่กับแม่ฉัน พี่ไวน์ก็เป็นคนดีคนนึงที่ฉันอยากจะใช้ชีวิตครอบครัวอยู่กับเขา แต่การที่พี่ไวน์มาเป็นพี่ของฉันก็ถือเป็นเรื่องดีมากๆเช่นกัน เพราะไม่มีทางที่เขาจะหนีหายไปจากฉัน ไม่ว่าฉันจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม..
“ว้าวววว ริชท์ ดูทะเลนี่สิ สวยนะ อากาศก็ดี๊ดี เราน่ะเลิกร้องไห้แล้วเดี๊ยวพี่พาไปเดินเล่นที่ชายหาดดีมั๊ยครับคนดี..”
“ฮ..ฮึกๆ ค่ะพี่ไวน์..”
พี่ไวน์จูงมือให้ฉันเดินตามเขาไป เราค่อยๆเดินกันไปเรื่อยๆ พี่ไวน์ไม่ถามอะไรฉัน เพียงแค่จูงมือฉันมาออกมาเดินที่ริมหาด น้ำทะเลที่ซาดเข้ามาที่ขาของฉันมันกลับไม่ได้ทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาได้เลยซักนิด มีเพียงมืออุ่นๆของพี่ไวน์เท่านั้นที่ช่วยให้ฉันอุ่นใจขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยฉันก็มีพี่ไวน์..พี่ไวน์เหมือนแสงสว่างในความมืดของฉันจริงๆ
“พี่ไวน์..ไม่ถามอะไรริชท์หน่อยเหรอคะ..พี่คงตกใจมากแน่ๆที่อยู่ๆริชท์ก็ร้องไห้ใส่ขนาดนั้น”
“พี่จะไม่ถามหรอกนะ คนเราทุกคนน่ะมีเรื่องตั้งมากมายที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ แต่ถึงยังไงคนเหล่านั้นก็ยังคงต้องการที่พึ่งอยู่ดี ในวันที่ริชท์ทุกข์ใจพี่อยากให้ริชท์เห็นแก่ตัวเองเป็นหลัก รักตัวเองให้มากๆ อย่าดูถูกตัวเองและอย่าทำร้ายตัวเองเข้าใจมั๊ยคะ หืม..^^”
“ค่ะพี่ไวน์..ขอบคุณที่พี่ไวน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของริชท์นะคะ..ขอบคุณ..”
“ครับ..พี่ก็ขอบคุณนะที่ริชท์มาเป็นน้องสาวของพี่..งั้น..เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีมั๊ย พี่หิวจังเลย..”
“ค่ะ..”
พี่ไวน์พาฉันขึ้นรถออกมาที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากชายหาดมากนัก ฉันกับพี่ไวน์ใช้เวลาพวกนี้คุยกันไปเรื่อยถึงแม้ฉันจะดูซึมๆขึ้นมามาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่พี่ไวน์อยู่กับฉันตอนนี้ เพราะถ้าเป็นคุณแม่หรือคุณพ่อฉันคงไม่กล้าร้องไห้ฉันคงไม่กล้าคุยแบบเปิดอกแน่ๆ เพราะฉันกลัวพวกท่านจะลำบากใจ..
พอพวกเรากินข้าวกันเสร็จแล้วพี่ไวน์ก็พาฉันไปเดินห้างสรพพสินค้าต่อ เดินซื้อนู่นซื้อนี่ไปเรื่อย ทำให้เวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง และกว่าที่เราจะกลับมาถึงหาดก็ปาเข้าไปเกือบมืดพอดี
“พี่ไวน์จะนอนห้องไหนดีคะ เดี๊ยวริชท์จะไปขอกุญแจจากพ่อบ้านให้..”
“แล้วริชท์นอนห้องไหนล่ะ พี่ขอนอนด้วยคนไม่ได้เหรอ”
“ริชท์นอนห้องเดียวกับสทอร์มน่ะค่ะ ริชท์คิดว่าคงจะเป็นเรื่องยากถ้าพี่ไวน์จะ..มานอนด้วย..”
“..ริชท์..ตามจริงพี่ก็ไม่อยากจะถามหรอกนะ แต่พี่ขอแค่คำถามเดียว คำถามเดียวเท่านั้น..”
“ค่ะพี่ไวน์”
“ริชท์โอเคแน่นะ สทอร์มไม่ได้ทำอะไรริชท์ใช่มั๊ย..”
“…”
“โถ่! ริชท์…พี่ขอโทษจริงๆ ถ้าวันนั้นพี่ห้ามไม่ให้เขาพาริชท์ไป ถ้าวันนั้นพี่กล้ามากพอที่จะฉีกพินัยกรรมนั่น..พี่ขอโทษที่วันนั้นพี่ไม่กล้าพอ ริชท์พี่ขอโทษ..”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ไวน์..ริชท์..ริชท์ทนได้ค่ะ มันเป็นเรื่องที่ริชท์ต้องทน..”
“ริชท์..”
“เอาเป็นว่าพี่ไวน์นอนข้างห้องของคุณเลเวลนะคะ เดี๊ยวริชท์จะไปขอกุญแจมาให้ พี่ไวน์เอาของเข้ามาในบ้านก่อนเถอะค่ะ..”
“ริชท์..แน่ใจนะว่าจะไม่ให้พี่ไปนอนเป็นเพื่อน งั้นลงมาหาพี่ได้ตลอดนะถ้ามีอะไรไม่ดีๆเกิดขึ้นน่ะ..”
“ค่ะ..พี่ไวน์”
ฉันเดินไปขอกุญแจจากพ่อบ้านก่อนที่จะเดินเอามาให้พี่ไวน์แล้วช่วยกันขนของเข้าไปในห้อง รู้สึกว่าไอแมคกับเลเวลจะชวนฮันนี่ไปเล่นวอลเล่ชายหาดกันอยู่ ส่วนสทอร์ม ตั้งแต่กลับมาฉันยังไม่เห็นเขาเลย..ไปไหนของเขานะ..
หลังจากที่ช่วยพี่ไวน์เก็บของให้เข้าที่เข้าทางเสร็จฉันก็เดินกลับขึ้นไปบนห้อง กะว่าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าคงจะตอนนี้ไม่ได้..สทอร์ม เขาเล่นจ้องฉันตาเขม็งซะขนาดนั้น..ฉัน..ฉันต้องเจอกับเรื่องบ้าอะไรอีกล่ะทีนี้..
“ริชท์..เธอไปไหนมา..”
“ฉันไปข้างนอกน่ะ”
“กับพี่ไวน์ของเธอ?”
“อืม”
“เธอกำลังประชดฉันอยู่เหรอริชท์!..เธอก็รู้ว่าฉันหึง หวง และห่วงเธอมากแค่ไหน โอเค ฉันขอโทษที่ฉันจูบกับฮันนี่ แต่นั่นฉันไม่ได้ตั้งใจ แล้วเธอก็เข้าใจผิดนะ!”
“แล้วตอนนี้นายกำลังโกรธฉันเรื่องอะไรเหรอสทอร์ม..นายจะบอกว่านายกำลังเข้าใจฉันถูกอยู่เหรอไง..”
“..ฉัน..ฉัน ฉันขอโทษ ฉันหึงเธอมากไป ทั้งๆที่ฉันทำผิดอยู่แท้ๆ ฉันขอโทษที่ใส่อารมณ์กับเธอนะริชท์..”
“อืม นายกินอะไรหรือยังล่ะสทอร์ม หิวมั๊ย..”
“ไม่..ริชท์ ฉันไม่หิว..”
“งั้นฉันขอตัวอาบน้ำก่อนนะ..”
“…”
สทอร์มทำหน้าสำนึกผิดที่มาใส่อารมณ์กับฉัน ฉันไม่โกรธเขาหรอกแต่ไม่รู้ทำไมหน้าฉันถึงได้ชาขนาดนี้ มันหน้าจะไปชาที่ใจของฉันบ้างนะ บางทีฉันอาจจะหายเจ็บปวดลงไปได้บ้างทุกครั้งที่มองหน้าเขา..
ฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำ ก่อนที่จะเดินลงไปแช่ในอ่างน้ำอุ่นๆ ฉันก็ได้ยินเสียงประตูจากห้องน้ำอีกชั้นเปิดและปิดลง มีคนเปิดเข้ามา..และคนที่เข้ามาก็เป็นเขาจริงๆ.. สทอร์ม
“ฉัน..ขออาบด้วยคนสิ..”
“อืม”
ฉันเดินไปหยิบผ้าบนหนูที่แขวนอยู่มาปิดหน้าอกไว้แล้วเดินลงไปแช่ในอ่าง มันเลยจุดที่ฉันจะอายมาแล้ว ไม่มีอะไรให้ฉันต้องอายอีก ในเมื่อเขาอยากอาบด้วยฉันก็ต้องทำหน้าที่อาบน้ำให้เขา ฉันก็ทำได้แค่ปรณนิบัตให้เขามีความสุข แม้ว่าฉันจะเจ็บแค่ไหน..ฉันต้องทำ
สทอร์มถอดเสื้อผ้าแล้วเดินตามลงมาแช่ในอ่างเดียวกันกับฉัน น้ำอุ่นๆค่อยๆไหลขึ้นมาก่อนที่แปรเปลี่ยนเป็นฟองสบู่นุ่มๆ ฉันทำความสอาดตัวเองไปเรื่อย ส่วนสทอร์มเขาก็แค่นั่งดูฉันเฉยๆ..เขาเข้ามาเพื่อนั่งดูฉันอาบน้ำหรือไงกัน..
“นายไม่อาบน้ำหรือไง..”
“ฉันอาบอยู่..”
“เหรอ..”
หมดเรื่องที่จะพูดต่อ โอเค เขาอาบน้ำอยู่สินะ ฉันกดเปลี่ยนปุ่มที่อยู่ข้างอ่างให้เปลี่ยนจากฟองสบู่เป็นน้ำสะอาดเพื่อล้างตัวอีกรอบ..ส่วนสทอร์มน่ะเหรอ เขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมนั่นแหละ..
“ริชท์ ฉันขอโทษ..”
“ถ้านายจะเข้ามาพูดขอโทษเรื่องเมื่อเช้าก็พอเถอะสทอร์ม ฉันบอกนายแล้วไงว่าไม่เป็นไร”
“เปล่าฉันขอโทษที่ใส่อารมณ์กับเธอ..เมื่อกี้..”
“อืม..วันนี้ฉันเจอแต่คำว่าขอโทษมาทั้งวันแล้ว เลิกพูด ถ..!!”
จุ๊ฟ..จุฟ..
“อืออ..”
“ส..สมอร์ม..อึก!!”
อยู่ๆสทอร์มก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งคร่อมฉันแล้วจูบฉันอย่างบ้าครั่ง ฉันรู้ว่าถึงฉันจะต่อต้านเขาแค่ไหน ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางที่จะหยุดมันแน่ๆ สทอร์มรวบมือของฉันไปไว้ที่เอวของเขาอย่างอัตโนมัติ เขาพยายามที่จะจับขาของฉันให้อ้าออกแล้วสอดใส่ของเขาเข้ามา.. อีกแล้วสินะ..เขาจะทำกับฉันอีกแล้ว..เขาไม่เคยถามความสมัครใจฉันเลยซักครั้ง เขาเพียงแค่อยากทำ แล้วเขาก็ทำมัน..
สทอร์มใส่มันเข้ามาในตัวฉัน เข้าขยับตัวเป็นจังหวะ ปากของเขายังคงไม่ปล่อยออกไป ฉันพยายามข่มใจตัวเอง ..ฉันรักเข้าไม่ได้อีกแล้ว.. แต่ถ้าเขาต้องการร่างกายของฉัน..ฉันก็จะให้..
แรงกระแทกของสทอร์มที่กระทบกับฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เขาใส่เข้ามาลึกมาก ลึกจนรู้สึกว่ามันไปกระแทกกับอะไรสักอย่างในตัวฉัน ฉันพยายามที่จะเขยิบตัวหนีจากความเจ็บ แต่ก็ยากซะเหลือเกิน..
สทอร์มอุ้มฉันขึ้นมาจากอ่างทั้งๆที่เขาก็ยังคงทำมันอยู่ ฉันพยายามกอดคอเขาไว้แน่นเพราะกลัวว่าตัวเองจะร่วงลงไป..เขาอุ้มตัวแล้วฉันค่อยๆเดินมาที่โซฟาหน้าทีวีแล้ววางฉันลง
ก่อนจะใส่แรงกระแทกของเขาเข้ามาเต็มกำลังแล้วปล่อยน้ำของเขาเข้ามาในตัวของฉัน ฉันทำได้เพียงส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอ เพราะวันนี้มันเจ็บจริงๆ เจ็บอย่างบอกไม่ถูก..เจ็บที่ใจ..
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น สทอร์มผงะเล็กน้อย แต่ก็ไม่สนใจ เขาสอดใส่มันเข้าไปใหม่อีกครั้ง แล้วพูดประโยคนี้ออกมา..
“เธอ..เป็นของฉัน..ริชท์..ฉัน..รักเธอ”
“อืม..”
ทันทีที่สทอร์มพูดจบ ฉันก็ตอบเขากลับไปทันที สทอร์มก้มลงไปจูบที่หน้าอกของฉันก่อนที่จะกลับมาจูบที่ปากเหมือนเดิม ฉันเอามือไปเกาะที่เอวของสทอร์มไว้แน่น.. ใช่แล้ว ตอนนี้ฉันเป็นของเขา.. แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ฉันถึงจะกลับมารักเขาได้อย่างเต็มใจ เหมือนเดิม..
เวลาผ่านไปอยู่นาน ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับร่างกายของฉันแล้ว สทอร์มก็ลุกออกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดทำความสะอาดตรงนั้นให้ฉัน เช็ดเอาน้ำที่เขากล่อยเข้ามาในตัวฉันออกไป..
ฉันค่อยๆลุกกลับขึ้นมานั่ง แล้วเดินไปหาเสื้อผ้าในตู้มาใส่.. น้ำตาไหลลงมาทำไมกัน..ไหลลงมาทำไมตอนนี้ ทั้งๆที่ฉันไม่ได้อยากจะร้องไห้เลยนะ..ทั้งๆที่ฉันอุตส่าห์ไม่คิดอะไรแล้วแท้ๆ..
สทอร์มเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากด้านหลัง นั่นยิ่งทำให้ฉันที่อั้นเสียงสะอื้นไว้ถึงกลับปล่อยโฮออกมา ฉัน..ควรเชื่อประโยคเมื่อกี้ที่เขาบอกหรือเปล่า..เขาบอกว่าเขารักฉัน..บางทีนั่นอาจจะเป็นเพียงคำพูดที่พูดเพื่อเพิ่มอารมณ์ให้เขาก็ได้ ฉันไม่อยากโดนหลอก ฉันไม่อยากเจ็บซ้ำๆอีกแล้ว..
“ริชท์..เธอเป็นอะไร..ร้องไห้ทำไม..”
“ไม่รู้..ฉันไม่รู้ว่าฉันร้องไห้ทำไมเหมือนกัน..”
“เพราะฉันอีกแล้วเหรอ ฉันทำให้เธอร้องไห้..ใช่มั๊ย..”
“อืม.. ก็คงงั้น”
“…”
“ฉัน..ตั้งแต่ฉันมาอยู่กับนาย..นายก็พยายามหาเรื่องมามีอะไรกับฉันอยู่เรื่อย..นายไม่เคยถามฉันเลยว่าฉันอยากทำหรือเปล่า..นายทำให้ฉันเกลียดนาย..ทั้งๆที่ฉันก็ยังรักนาย..แต่นายทำลายมัน นายมีอะไรกับฉันครั้งแรก..นายรู้หรือเปล่าว่านายเป็นคนแรกของฉัน..สทอร์ม..นายทำให้ฉันรักนาย แต่นายก็ขยี้มันทิ้ง นายรู้มั๊ย พอฉันเห็นนายกับฮันนี่เมื่อเช้า ฉันเจ็บปวดทรมาณแค่ไหน..ฉันแทบอยากจะหนีหายหรือตายๆไปซะ นายรู้มั๊ย! ว่าฉันเจ็บแค่ไหนสทอร์ม! ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันอยู่กับนายในสถานะอะไร แฟน? ภรรยา? หรือเป็นแค่นางบำเรอของนาย.. ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันไปอะไร..ฮึก..ฮืออ”
“ฉันขอโทษ..ริชท์ แต่ฉันไม่ได้มีอะไรกับฮันนี่แบบที่เธอเห็นนะริชท์ ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ฉันบริสุทธิ์ใจจริงๆ”
“…”
“แต่..ฉันดีใจมากเลยนะ..เธอเพิ่งบอกว่ารักฉันเป็นครั้งแรก..ฉันดีใจมากจริงๆ ขอบคุณที่รักกันนะริชท์ ฉันก็รักเธอมากๆ..มากสุดหัวใจ..ได้โปรด..เธอเชื่อฉันเถอะริชท์ฉันมีเพียงเธอคนเดียว แล้วก็รักเธอคนเดียวจริงๆ..”
“ฮึก..ฉันเชื่อนายได้จริงๆเหรอสทอร์ม..งั้นนายบอกได้มั๊ยว่าตอนนี้ ระหว่างฉันกับนาย ฉันเป็นอะไรของนาย..”
“เธอก็เป็นแฟนของฉัน เป็นคู่หมั้นฉัน เป็นภรรยาฉัน เธอเป็นทุกๆอย่างของฉันริชท์ ได้โปรดเลิกกังวลเถอะ ฉันรักเธอคนเดียวจริงๆ..เลิกร้องไห้นะครับ..”
“สทอร์ม..ฉัน ฉันก็..รักนายนะ”
ไม่รู้ทำไม..ฉันถึงได้ให้อภัยเขาเพียงเพราะคำพูดที่เขาบอก ฉันไม่รู้หรอกว่าที่เขาพยายามอธิบายมันคือเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ฉันก็เลือกที่จะเชื่อเขา เพียงเพราะฉันไม่อยากเสียเขาไป ฉันอยากใช้ชีวิตที่มความสุขกับเขา สทอร์มบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันบอกรักเขา..ฉันก็เพิ่งได้ยินเขาบอกรักฉันครั้งแรกเหมือนกัน นั่นคำพูดนั้นที่เขาพูดออกมามันทำให้ฉันดีใจนะ ดีใจมากๆ ฉันเลยเลือกที่จะเชื่อเขาแล้วก็ให้อภัยเขา..เพราะฉันก็รักเขา..เพราะฉันก็รักสทอร์ม
วันนี้เจ่เจ้เอามาลงให้ก่อนกำหนดนะจ๊าาา
ตามจริงนัดกันไว้วันที่ 13 โน๊ะ แต่พอดีว่างจัดจ้า
ยังไงก็เม้นกันด้วยนะ ไม่เม้นนี่งอนนานนะ หายงอนปีหน้าค่อยเอามาลง ชิส์ๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ