Love Hunter สยบร้าย ขยายรัก

9.4

เขียนโดย KeawSwaggie

วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.14 น.

  19 บท
  29 วิจารณ์
  24.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2558 21.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) บทที่ 12 Absolutely Nothing

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 12

Absolutely Nothing..

 

            ดูเหมือนว่าฉันกับสทอร์มจะเริ่มปรับความเข้าใจกันดีแล้ว แต่ถึงยังไงก็เถอะ สำหรับฉันมันเหมือนกับว่ามีอะไรซักอย่างที่ทำให้ฉันไม่สบายใจ แล้วฉันก็ไม่สะดวกใจที่จะพูดเรื่องหยอกล้อหรือคุยอะไรที่มันสนุกสนานมากมายกับสทอร์มซักเท่าไหร่ บางทีเรื่องพวกนี้อาจจะต้องให้เวลาอีกซักพัก

 

            “ริชท์ ไปเดินเด่นที่ชายหาดกับฉันมั๊ย.. ตอนเย็นๆนี่อากาศกำลังดีเลย”

 

            “อืมไปสิ”

 

            สทอร์มชวนฉันไปเดินเล่นที่ชายหาดหลังจากที่ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆเสร็จ เขาจูงมือฉันให้เดินตามเขาไปช้าๆ หาดทรายสีขาวกับน้ำทะเลสีฟ้าใส มันสวยมากๆเชียวล่ะ ยิ่งกระทบกับแสงอาทิตย์ทำให้คลื่นทอประกายวิบวับเหมือนคริสตัล รวมถึงลมเย็นๆที่พัดมาสัมผัสกับผิว ทุกอย่างดูลงตัวมากๆ เป็นชายหาดที่ไม่ว่าใครจะเจอเรื่องอะไรร้ายแรงมา แค่พอได้มองออกไปก็แทบจะทำให้ลืมเรื่องทุกอย่างเพียงเพราะคิดถึงแค่ความสวยงามของมัน

 

            แทบจะลืมทุกอย่าง..แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะลืมทุกอย่าง..

 

            “โอ้ทะเลแสนงามม ฟ้าสีครามสดใส..มองเห็นเรือใบ ร่องอยู่ในทะเล ทะเล้ ทะเล..”

 

            “อะไรของนายเนี่ยสทอร์ม -_-*”

 

            “ก็ฉันอยากเห็นเธอยิ้มนี่นา ริชท์ ฉันอยากเห็นเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมจริงๆนะ ยิ้มให้ฉันเห็นได้มั้ย นะครับ ^-^”

 

            “นายทำตัวเลี่ยนขึ้นป้ะเนี่ย..พอเลยๆ เดี๊ยวฉันอยากยิ้มฉันก็ยิ้มเองอ่ะแหละ ไปๆ เดินต่อไปเลยสทอร์ม”

 

            “คร๊าบบบ”

 

            “-___,-”

           

 

            ซ่า!

 

 

            “วิ๊ดวิ๊ววว คู่รักทำไมมาเดินอยู่ตรงนี้แค่สองคนล่ะคร๊าบบบ มาๆๆ น้องริชท์ สทอร์ม ลงมาเล่นทะเลกัน เร็วๆเบยครัชช”

 

            “อะไรของแกวะไอแม็ค ริชท์เปียกเพราะแกแล้วเนี่ย อยากตายเรอะ! (={}=**)”

 

            “เฮ่ยๆๆ ไอเลเวลเห็นป้ะ เดี๊ยวนี้มันปกป้องว่ะ ไม่ได้การละ ตามแผนเลยพวก!”

 

            “แผนบ้าอะไรของพวกแกวะ ฮ..เฮ่ย!!”

 

            ไอแมคและเลเวลมองมาทางฉันอย่างแปลกๆ อ..อะไรน่ะ วิ่งมาหาฉันทำไม! ออกไปเดี๊ยวนี้น๊า!!! สต๊อปปปปปปปปป!!!!

 

            “ก..กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด อย่านะไอแม็ค! ฉันว่ายน้ำไม่เป็..!!!”

           

            ตู้มมมมมม!!!

 

            ม..ไม่ทัน..ฉันยังไม่ทันพูดจบเล๊ยยยย TT^TT

 

            สิ่งที่ฉันตั้งใจจะพูดบอกไอแม็คและเลเวล ดูเหมือนว่ามันจะช้าเกินไปสำหรับความว่องไวและกำลังของผู้ชายสองคนที่ฉุดฉันขึ้นเหนือพื้นแล้วโยนลงไปในทะเลแบบไม่มีความลังเลเลยซักกะติ๊ด =..=โชคยังดีที่น้ำไม่ลึกมากเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ฉันสำลักน้ำทะเลไปหลายอึกเลยทีเดียว

 

            ฉันพยายามตั้งหลักยืนขึ้น และภาพตรงหน้าทำให้ฉันถึงกับตกใจ!!..

 

            “พ..พี่ไวน์!!”

 

            ภาพแรกที่ฉันเห็นทันทีที่ตั้งตัวลุกขึ้นยืนขึ้นจากน้ำทะเล ก็คือภาพที่พี่ไวน์ต่อยไปแมคและเลเวลไม่ยั้งก่อนจะวิ่งลุยน้ำตรงมาหาฉัน พร้อมๆกับสทอร์มที่วิ่งตามหลังพี่ไวน์มา

 

            “ริชท์!! ไม่เป็นไรใช่มั๊ย ไม่เป็นไรนะ!”

 

            “ม..ไม่เป็นไรค่ะ ตรงนี้น้ำตื้นน่ะค่ะพี่ไวน์..”

 

            “สทอร์ม ผมไว้ใจคุณได้จริงๆน่ะเหรอ คุณรู้หรือเปล่าว่าริชท์ว่ายน้ำไม่เป็น!!”

 

            “…”

 

            “พี่ไวน์คะ พอเถอะ ริชท์ว่าเลเวลกับไอแมคคงไม่มีเจตนาร้ายอะไร แล้วเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับสทอร์มเลยนะคะ..”

 

            “ริชท์! พี่เป็นห่วงนะถึงได้พูดแบบนี้น่ะ!”

 

            “ค่ะพี่ไวน์ ริชท์ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่คะ เห็นมั๊ย ริชท์แข็งแรงดี ^-^”

 

            “แน่ใจนะริชท์ เฮ้อออ พี่ตกใจแทบแย่ตอนเห็นเจ้าพวกนั้นอุ้มริชท์มาโยนลงน้ำ! พี่แทบอยากจะฆ่าเจ้าพวกนั้นจริงๆ ใจหายใจคว่ำหมด..”

 

            “…”

 

            พี่ไวน์ดึงฉันเข้าไปกอดพร้อมกระชับตัวฉันให้แน่นขึ้น มันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วที่พี่ไวน์ต้องเป็นห่วงฉันที่ว่ายน้ำไม่เป็นตั้งแต่เด็กแล้วก็เคยจมน้ำเพราะพี่เขามาแล้วครั้งนึงด้วยความไม่รู้ของพี่ไวน์เอง ส่วนสทอร์มที่ยืนมองอยู่ที่ด้านหลังของพี่ไวน์ดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย และดูเหมือนว่าเขาคงจะเคืองพี่ไวน์อยู่มากแน่ๆ ฉันพยายามที่จะแกะอ้อมกอดของพี่ไวน์ออกแต่มันไม่ง่ายเลยซักนิด..

 

            “ไวน์ ผมว่าคุณปล่อยริชท์เถอะ คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าริชท์ไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๊ยวที่เหลือผมจะดูแลริชท์ให้เอง..”

 

            อยู่ๆพี่ไวน์ก็คลายอ้อมกอดออกแล้วหันไปมองสทอร์มด้วยสายตาเอาเรื่อง นี่พวกเขาจะมีเรื่องกันทำไมเนี๊ยะ โอ๊ยๆๆ ช่วงนี้ดวงฉันตกหรือไงกันนะ ทำไมช่วงหลังๆมานี่ปัญหาถึงประเดประดังเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อนซักที T__T

 

            “คุณจะดูแลริชท์ หรือจะย่ำยีริชท์กันแน่ สทอร์ม คุณอย่าคิดว่าผมไม่เห็นรอยจ้ำๆที่ต้นคอของริชท์นะ แล้วจะให้ผมไว้ใจปล่อยให้ริชท์อยู่กับคุณงั้นเหรอ!!!”

 

            “พ..พี่ไวน์คะ..”

 

            โอ้ววมายก็อต นี่อีตาสทอร์มทิ้งรอยคิสมาร์คไว้บนตัวฉันอีกแล้วเหรอเนี๊ยะ T^T

 

            “ผมดูแลริชท์แน่นอนอยู่แล้วล่ะไวน์ เพราะเธอคือคนรักของผม! แล้วคุณอย่าลืมว่าเธอเป็นของผมทั้งนิตินัยและพฤตินัย อย่าลืมว่าคุณได้หุ้นคืนถึง 80% เพราะใคร แล้วก็อย่ามาใส่อารมณ์กับผม! ริชท์! มานี่!”

 

            “…”

 

            ฉันเซจนแทบล้มไปตามแรงดึงของสทอร์ม เขาต้องโกรธมากแน่ๆ พอๆกับพี่ไวน์ที่ก็ดูจะโกรธเขาพอๆกัน..แล้วคนกลางอย่างฉันล่ะ..ฉันสมควรโกรธใคร..ตัวเองงั้นเหรอ..

 

            “สทอร์ม!! ผมบอกให้ปล่อยริชท์!!”

 

            “พี่ไวน์.. ริชท์ไม่เป็นไรค่ะ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ..”

 

            “คุณอย่าลืมว่าคุณยืนอยู่บนพื้นที่ของใคร! ไม่ว่าจะที่ไหนบนเกาะนี้ก็เป็นของๆผมทั้งนั้น อย่าจองหองมากเกินไปคุณไวน์..ริชท์มาอยู่ในความดูแลของผมแล้ว ผมก็ช่วยเหลือตระกูลของพวกคุณอย่างล้นหลาม และตอนนี้คุณก็กำลังล้ำเส้นคำว่าพี่ชายอยู่นะคุณไวน์ คุณเป็นแค่พี่ชายของริชท์ จำคำนี่เอาไว้ให้ดี! ส่วนผมคือว่าที่สามีของเธอ!!!”

 

            “ส..สทอร์ม พอเถอะ อย่ามีเรื่องเลย..พี่ไวน์..ริชท์ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ”

 

            “ริชท์..”

 

            “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วริชท์ เดี๊ยวเป็นหวัด!”

 

            สทอร์มดึงฉันให้เดินตามเขาไป ส่วนไอแมคกับเลเวลที่ดืนดูเหตุการณ์อยู่ไกลๆท่าทางก็ดูจะสำนึกผิดกับความคิดแผลงๆของตัวเองแล้ว ส่วนฮันนี่ที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ที่ระเบียงด้วยรอยยิ้มร้ายๆนั่น เหอะ! ฉันขอลาออกจากตระกูลตัวเองได้มั๊ยเนี่ย มีแต่เรื่อง! T___T

 

            “สทอร์ม ฉันไม่เป็นไร ปล่อยได้แล้ว..”

 

            “แต่เธอเปียกนี่ ถ้าเป็นหวัดไม่สบายไปจะทำยังไง!”

 

            “ก็แค่เปียกเองน่าสทอร์ม ไหนๆก็เปียกด้วยกันทั้งคู่แล้ว เราไปเล่นน้ำทะเลกันดีมั๊ย นะๆ”

 

            “เธอว่ายน้ำไม่เป็นไม่ใช่เหรอ”

 

            “เล่นแค่ตื้นๆ ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างฉันคิดว่าถ้าเล่นกับนาย ฉันต้องปลอดภัยอยู่แล้วล่ะ ^-^ ”

 

            “ฉันควรดีใจมั๊ยนะ -__- ”

 

            “นายอารมณ์ดีขึ้นหรือยังล่ะ ถ้านายอารมณ์ดีขึ้นฉันว่านายก็ควรที่จะดีใจได้แล้วล่ะ ^-^”

 

            “อื้อ”

 

            สทอร์มพาฉันเดินมาอีกด้านนึงของหาด ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว ทำให้ฉันเห็นดวงจันทร์และดาวระยิบระยับได้อย่างชัดเจน มันสวยกว่าตอนเย็นที่มีแสงสีส้มซะอีก สวยมว๊ากกก *_*

           

            ปึก!

 

            “โอ๊ย! ถ้านายจะหยุดช่วยบอกฉันหน่อยได้มั๊ยเนี่ย ห๊ะ สทอร์ม T^T”

 

            “ก็มัวแต่เหม่อน่ะสิถึงไม่เห็นว่าฉันหยุดเดินน่ะ มาๆ ขี่หลังฉันสิ”

 

            “ไม่เอาอ่ะ ฉันเดินเองได้น่า”

 

            “งั้นฉันว่าเราคงไม่ต้องเดินแล้วล่ะ ตรงนี้ก็วิวดีเหมือนกัน”

 

            “อือ ดาวก็สวยด้วย ฉันไม่ได้เห็นบรรยากาศดีๆแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ..”

 

            “อยากนอนดูดาวมั๊ย..”

 

            “ห๊ะ!!”

 

 

            ตุบ!

 

 

            หมอนี่บ้าพลังหรือไงกันนะ! เดี๊ยวฉุด เดี๊ยวดึง เดี๊ยวลาก คราวนี้ก็ดึงฉันให้ล้มลงไปนอนบนตัวเขาอีก ไม่หนักหรือไงกัน..แถมยังกอดไว้แน่นอีกต่างหาก..ฉันก็เขินเป็นนะ ดาวเดิวสนที่ไหนกันล่ะ วุ๊ -////-

 

            “เธอเห็นหมู่ดาวตรงนั้นมั๊ย”

 

            “อือ” ดาวตรงไหนวะ ชี้ๆไป มองทันที่ไหนกัน =_=

 

            “ตรงนั้นชื่อดาวเฟลลิ่งสเตลล่า เป็นดาวที่เห็นได้เฉพาะบนหาดของฉัน เพราะองศาและแสงกระทบถึง ถ้ามองจากที่อื่นจะต้องใช้กล้องส่องแต่ที่นี่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า”

 

            “สวยจังเลยนะ แล้วมันมีความหมายมั๊ยอ่ะ หมู่ดาวนี้น่ะ”

 

            “ความหมายของดาวก็คือ มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง มันมีวันดับสูญแม้ยากที่จะมองเห็นความจริง อีกความหมายนึงก็คือ ความเชื่อใจนำพามาซึ่งรักนิรันดร์”

 

            “ความหมายดีจังเลยเนอะ..”

 

            จุ๊ฟ..

           

            “O//////O”

 

            “ฉันรักเธอนะริชท์ อาจจะมีหลายครั้งที่ฉันทำกับเธอไม่ดี ฉันจะปรับปรุงตัวนะ อยู่กับฉันอย่างนี้ตลอดไปเลยนะริชท์”

 

            “ฉ..ฉันก็รักนาย สทอร์มฉันขอบคุณนะสำหรับทุกอย่างที่นายช่วยเหลือฉัน..รวมถึง ความ..ความรักของนายที่มอบให้”

 

            สทอร์มตะแคงตัวเพื่อให้ฉันลงมานอนสัมผัสอยู่บนผืนทรายก่อนจะกอดฉันไว้อีกครั้ง มันดูอบอุ่นมากๆเลย อ้อมกอดนี้ เป็นอ้อมกอดที่ทำให้ฉันอุ่นใจในรอบหลายปีเลยที่ฉันได้รับมา เป็นอ้อมกอดที่ทำให้ฉันคลายกังวลในทุกๆเรื่องหลังจากที่ฉัยย้ายมาอยู่กับเขา ให้ตายเถอะ ทำไมฉันถึงได้ตื่นเต้นแล้วก็ตัวสั่นอย่างนี่กันเล่า (>////<)

 

            “ฉันอยากงีบซักแปปนึงน่ะ ฉันขอหนุนแขนเธออย่างนี้ก่อนได้มั๊ย”

 

            “อ..อืม เอาสิ ฉันก็อยากงีบเหมือนกัน ถ้านายตื่นก่อนอย่าลืมปลุกฉันด้วยนะ”

 

            “ครับ สุดที่รักของผม จุ๊ฟ..”

 

            ฉันหลับตาลงพร้อมๆกับรอบจูบของเขาที่ประทับลงมาที่หน้าผากของฉัน มันสบายใจจนบอกไม่ถูกเลยทีเดียวเชียว..

 

            หลายชั่วโมงผ่านไปที่ฉันมองสทอร์มที่หลับสบายอย่างกับเด็กน้อย ถึงฉันจะรู้สึกว่าบางทีเขาออกจะรุนแรง แล้วก็อารมณ์แปรปรวนก็เถอะ แต่พอมองตอนที่เขานอนอย่างสบายๆแบบนี้ มันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่า เขาเนี่ยนะที่เป็นเจ้าของเกาะแซนเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งๆที่วันๆเอาแต่เที่ยวเล่น แถมยังเป็นพวกเดาอารมณ์ยากอีก แล้วดูตอนนี้สิ หลับปุ๋ยอย่างกับเด็กห้าขวบ ชิส์ น่ารักชะมัด (=///= )

 

            ฉันเอื้อมมือขึ้นไปจัดผมที่ร่วงลงมาปิดตาของเขาให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะย้ายมือไปจับที่แก้มนุ่มนิ่มของเขาเอาไว้ ลมที่พัดมาเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ฉันก็กลัวว่าเขาจะหนาวนะ อย่างน้อยฉันก็ยังใส่เสื้อแขนยาว แต่เขานี่สิ ใส่เพียงเสื้อแขนกุดกับกางเกงขาสั้น คงจะหนาวแน่ๆเลย

           

            หมับ..

 

            “มือเธออุ่นจัง..”

 

            “น..นายตื่นแล้วเหรอสทอร์ม”

 

            จู่ๆสทอร์มก็จับมือของฉันที่สัมผัสแก้มเขาอยู่ให้กดลงไปที่แก้มเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม แถมพูดทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่อีกต่างหาก ข..ขี้โกงชะมัด =////=

 

            “อืออ กี่โมงแล้วเหรอริชท์”

 

            “หลายทุ่มอยู่ แต่ไม่รู้ที่ทุ่ม \(T0T\)”

 

            “คงดึกมากแล้วสินะ เพราะดวงดาวเริ่มเยอะขึ้นแล้ว กลับบ้านกันเถอะ อากาศก็เริ่มเย็นแล้วด้วย”

 

            “งั้นนายก็ลุกสิ นอนทับฉันอยู่แบบนี้ฉันจะลุกได้ที่ไหนกันล่ะ (T_T )”

 

            “ฮึ๊บบ เอื้อออออออออออออ”

 

            “ยัง ยังจะมาบิดขี้เกียจอีก ไหนๆก็ไหนๆละ ฉันขี่หลังนายกลับบ้านละกัน เนี่ย นายนอนทับแขนฉันจนขาเป็นตะคริวแล้วเนี่ย =3=”

 

            “คร๊าบบๆๆ งั้นเรากลับบ้านกันนะ ว่าแต่ทับแขนมันไปเป็นตะคริวที่ขาได้ไงอ่ะ =_=?”

 

            “เถอะน่า!! มาให้ฉันขี่หลังซะดีๆเลยยย (-0- )”

 

            เวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วอย่ากับติดเทอโบยูเอฟโอ ฉันขี่หลังสทอร์มมาจนถึงบ้านพัก ทุกๆห้องต่างก็ปิดไฟนอนกันหมดแล้ว ยกเว้นก็แต่ห้องพี่ไวน์นี่สิ พี่ไวน์ต้องเป็นกังวลมากแน่ๆ..

 

            “สทอร์ม ปล่อยฉันลงแปปนึงสิ”

 

            “เธอจะไปไหนน่ะ”

 

            “ฉันจะไปดูพี่ไวน์ นะๆ แปปเดียวๆ”

 

            ตุบ..

 

            “ริชท์ ฟังฉันนะ ฉันเป็นผู้ชาย ฉันดูออกว่าไวน์คิดยังไงกับเธอ โอเค เธออาจจะคิดว่าพี่ไวน์ของเธอเป็นพี่ชายที่แสนดี แต่สำหรับฉันการที่ได้มาเป็นพี่เธอเพียงไม่กี่เดือนมันไม่มีทางทำให้ผูกพันธ์กันได้ถึงขนาดนี้หรอก ฉันรู้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ฉันไม่อยากให้เธอไปหาหมอนั่น”

 

            “คิดมากน่าสทอร์ม นายขึ้นห้องไปก่อนเถอะ เดี๊ยวฉันตามขึ้นไปนะ”

 

            “..ฉันไม่ไว้ใจพี่ไวน์อะไรนั่นของเธอจริงๆนะริชท์”

 

            “ฉันขอเวลาแค่แปปเดียว..นะสทอร์ม..”

 

            “..อืม..ก็ได้.. อย่าช้าล่ะ”

           

            สทอร์มปล่อยมือฉันก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนห้อง ส่วนฉันก็เดินไปที่ห้องของพี่ไวน์เหมือนกัน ทำไมป่านนี้แล้วยังไม่นอนอีกนะ..

           

            ก๊อกๆๆ

 

            “พี่ไวน์คะ ริชท์เองนะ..”

           

            เอ่อ..เงียบแฮะ หรือว่าจะหลับไปแล้วแต่ลืมปิดไฟกันนะ =__=?

 

            “พี่ไวน์คะ หลับแล้วหรือยัง ริชท์เข้าไปได้มั๊ย”

 

            คราวนี้ฉันลองบิดกลอนประตูดู และปรากฎว่ามันไม่ได้ล็อคอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ งั้นฉันขอถือวิสาสะเข้าไปเลยละกันนะคะพี่ไวน์ -__-

           

            แกร๊ก..แอ๊ดด..

 

            “พี่ไวน์.. ทำไมไม่เปิดประตูให้ริชท์ล่ะคะ..”

 

            “…”

 

            ฉันมองพี่ไวน์ที่นั่งก้มหน้าก้มตา ผมสีขาวประกายทองของพี่ไวน์ที่เพิ่งไปกัดมาใหม่ๆดูยุ่งเหยิง เสื้อเชิทที่เคยใส่อยู่ถูกโยนไปอยู่บนทีวี เผยให้เห็นถึงกล้ามหน้าท้องของพี่ไวน์ได้อย่างชัดเจน ฉันไม่เคยเห็นพี่ไวน์เป็นแบบนี้มาก่อนเลย ปกติเวลาฉันเรียกก็จะรีบมาเปิดประตู ฉันถามก็จะตอบ ไม่สบายหรือเปล่านะ..

 

            “พี่ไวน์ไม่สบายหรือเปล่าคะ กินยามั๊ย..ไปหาหมอมั๊ย”

 

            ฉันทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างๆพี่ไวน์ และลองเอามือขึ้นไปแตะๆที่หน้าผากกลัวว่าพี่ไวน์จะมีไข้ แต่ยังไม่ทันที่มือฉันจะแตะถึงหน้าผาก พี่ไวน์ก็คว้ามือฉันไว้แถมยังบีบมือฉันแน่นอีกต่างหาก..

 

            “ริชท์ พี่ไม่เป็นไร..กลับห้องไปเถอะ”

 

            “แต่พี่ไวน์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนจะไม่ให้ริชท์เป็นห่วงได้ยังไงกันคะ!” 

 

            “ไม่ต้องเป็นห่วงพี่! เพราะมันเหมือนริชท์ให้ความหวังพี่! พี่ขอโทษที่พี่มองริชท์เกินเลยไปกว่าน้องสาว เพราะพี่กำลังมองริชท์ในฐานะที่ริชท์เป็นเพียงผู้หญิงคนนึง และพี่ก็เป็นผู้ชายคนนึงเหมือนกัน พี่รู้สึกถึงความรู้สึกนี้มาตลอด และพี่ก็พยายามที่จะข่มมันไว้ แต่ยิ่งพี่เห็นริชท์กับหมอนั่น แถมรอยบ้าๆนั่นอีก มันทำให้สติพี่กระจัดกระจาย ทั้งๆที่พี่ทนุถนอมริชท์ แต่มันกลับย่ำยีริชท์..”

 

            “พี่ไวน์..”

 

            “..เพียงแค่พี่คิดภาพเวลาที่ริชท์เป็นของหมอนั่น มันยิ่งทำให้พี่เจ็บ เจ็บในนี้ ริชท์รู้มั๊ย..”

 

            “…”

 

            “พี่รักริชท์นะ..”

 

            “…”

 

            “แต่พี่พูดคำนี้ในวันที่มันสายเกินไป พี่น่าจะพูดก่อนหน้าที่ริชท์ยังไม่เป็นของหมอนั่น..”

 

            เสียงของพี่ไวน์ที่พูดอยู่ข้างๆฉัน ทำให้ฉันถึงกับนิ่งอึ้ง และทำได้เพียงนั่งฟังเขาเฉยๆ ตัวของพี่ไวน์เริ่มสั่น คงเป็นเพราะกลั้นน้ำตาเอาไว้แน่ๆ..

 

            “พี่ไวน์ ไม่เป็นไรนะคะ มันอาจจะช้าเกินไปที่พี่ไวน์บอก แต่ริชท์ก็ยังรู้สึกดีที่พี่ไวน์ได้เข้ามาเป็นพี่ชายของริชท์ ถึงริชท์จะเป็นของสทอร์ม แต่พี่ไวน์ก็ยังเป็นพี่ชายที่แสนดีของริชท์นะ..”

 

            “มีสิ่งนึงที่พี่อยากขอจากริชท์..ริชท์ให้พี่ได้มั๊ย..”

 

            “มีอะไรที่ริชท์ให้พี่ไวน์ไม่ได้ด้วยเหรอคะ หืมม ^-^”

 

            “…”

 

            “ว่ามาสิคะ พี่ไวน์อยากได้อะไรกันน๊า..อ..อึก!!”

           

            จุ๊ฟ..จุฟ..

 

            " !!!!!!! "

 

            นี่มันอะไรกันเนี่ย!! อยู่ๆพี่ไวน์ก็ดึงฉันเข้าไปจูบเฉยเลย อย่าบอกนะว่านี่เป็นสิ่งที่พี่ไวน์อยากได้นะ ฉันหมายถึงสิ่งของเฟ่ยยย ไม่ใช่แบบนี้เจ้าพี่บ้า! ย๊ากกกก!! ปล่อยน๊า!! \(TT*TT)/

 

            “..อึก..พ..พี่ไวน์..ปล่อยนะ!!!”

           

            จุ๊ฟ..

 

            ไม่ฟังกันเลยสินะ ถ้าสทอร์มมาเห็นฉันกับพี่ไวน์จูบกันแบบนี้มีหวังเรื่องราวใหญ่โตมโหฬารแน่ๆ เลิกจูบฉันซักทีเช่!! งือออออ อาลิ้นพี่ออกไปจากปากฉันเดี๊ยวนี้นะ (TTT*TTT)

 

            ควับ..ฝุบ..

 

            “!!!!!!”

 

            อยู่ดีๆพี่ไวน์ก็จับฉันพลิกตัวให้นอนลงบนเตียงแถมยังขึ้นมาคล่อมฉันอีกต่างหาก! นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันพยายามดันแผงอกของพี่ไวน์ออก แต่กำลังของพี่เขาพอๆกับสทอร์มเลย ไม่สิ อาจจะมากกว่าก็ได้!!!

 

            “พ..พี่ไวน์ อย่าทำริชท์!..ริชท์ขอล่ะ พี่ไวน์ ป..ปล่อยริชท์นะ!..ฮึกๆ”

 

            ฉันพยายามที่จะพูดขอให้พี่ไวน์หยุด หลังจากที่พี่ไวน์ถอนจูบแล้วพยายามที่จะถอดเสื้อของฉันออกพร้อมๆกับกางเกงขาสั้นที่ฉันใส่อยู่ เรี่ยวแรงของฉันหมดลงไปกับการต่อต้านพี่เขามากอยู่พอสมควร ตอนนี้ฉันได้แต่พาวนาขอให้พี่ไวน์หยุดหรือไม่ใครก็ได้ซักคนพาฉันออกไปจากพี่ไวน์ที..พี่ไวน์ที่เป็นพี่ชายของฉัน..ไม่ใช่แบบนี้..ไม่ใช่แบบนี้...

           

            ปึง!!!

 

            “ไอ้ชาติชั่วเอ๊ย!!!!!”

 

            หมับ! โครมมม!! ผลัก!! ผลัก!!! ผลัก!!!

           

            เสียงประตูที่ถูกกระแทกเข้ามาดังขึ้นก่อนที่พี่ไวน์จะถูกกระชากออกไปจากตัวฉัน ฉันพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแล้วมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่ไวน์ถูกกระชากออกไป ส่วนคนที่มาช่วยฉันก็คือ สทอร์ม ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณที่สทร์อมยังเฉลียวใจลงมาดูฉัน ถ้าเขาไม่ลงมาฉันคงรู้สึกผิดต่อเขามากแน่ๆ

           

            ผั๊วะ!!!! ผั๊วะ!!!! ผั๊วะ!!!! ผั๊วะ!!!!!

           

            “แกทำแบบนี้ได้ยังไงกันวะ!! ห๊ะ!!! แกก็รู้อยู่แก่ใจว่าริชท์เป็นน้องสาวของแก!!!! แล้วริชท์ก็ยังเป็นผู้หญิงของฉัน!!! ห๊ะ!!!! แกกล้าทำแบบนี้กับน้องสาวตัวเองไงยังไงวะ!!!!!”

 

            “…เหอะ..”

 

            ฉันมองสทอร์มที่ต่อยพี่ไวน์ไม่ยั้ง ฉันอยากจะห้ามนะ แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกกลัวก็ไม่รู้ สทอร์มดูน่ากลัวมากจริงๆ ดูจากสภาพพี่ไวน์ที่โดนหมัดของสทอร์มแล้วยิ่งทำให้ฉันตัวสั่นเพราะกลัวขึ้นไปมากกว่าเดิม เลือดของพี่ไวน์อาบลงมาเต็มหน้า ปากแตก คิ้วแตก เลือดกำเดาที่ไหลออกมาไม่หยุด! และหมัดของสทอร์มก็ยังคงพุ่งใส่หน้าของพี่ไวน์อีกนับครั้งไม่ถ้วน..

 

            ปึง!

 

            “เฮ้ยๆๆๆ ไอ้สทอร์ม!!! พอๆๆ ไอแม็ค!! ไปลากไวน์ออกไปจากห้องนี้ที เอาไปไว้ห้องแกก่อน เร็ว!!”

 

            “เกิดอะไรขึ้นกันวะ!! ใจเย็นๆก่อนสิเว่ย มีสติคิดซะบ้าง!!!”

 

            “จะให้มีสติได้ยังไงกันล่ะวะ!! ห๊ะเลเวล!! มันพยายามจะปล้ำริชท์ของฉันนะ!! แกจะให้ฉันยืนพูดกับมันเหมือนถกปัญหาพระธรรมหรือไง!!!”

 

            “ยังไงก็เถอะ!! ใจเย็นๆก่อนสิวะ! แกไม่เห็นเหรอไงว่าริชท์ตกใจกลัวแค่ไหนน่ะ ห๊ะ! ตั้งสติก่อนสิเว่ย!!”

 

            “ส..สทอร์ม..”

 

            “ริชท์!!! เจ็บตรงไหนหรือเปล่า!! ไม่เป็นไรใช่มั๊ย!! มันทำอะไรลงไปบ้าง!! เห็นมั๊ยทีนี้เชื่อที่ฉันพูดแล้วหรือยังล่ะ! รู้มั๊ยว่าฉันเป็นห่วง!!”

 

            หมับ..

 

            ฉันนั่งมองสทอร์มที่เดินตรงเข้ามาหาฉันก่อนจะสำรวจร่างกายแล้วถามฉันเป็นชุดๆ เขาไม่โกรธฉันเหรอ เขาไม่โกรธฉันใช่มั๊ย.. ฉันไม่รู้จะขอบคุณเขาด้วยอะไร ตอนนี้ฉันทำได้เพียงกอดเขาไว้แน่น อยากจะพูดขอบคุณเขาเป็นล้านๆครั้ง..ขอบคุณที่เขาเชื่อใจฉัน ขอบคุณที่ช่วยฉัน..

 

            “..ขอบคุณนะสทอร์ม..ฮ..ฮึก..ขอบคุณ”

 

 

 

 

 

 

ปล.จากผู้แต่งจ้าา...

เอ้อออออออออ เค้าจะอัพตอนต่อไปดีมั๊ยน๊ออออออ อัพดีมั๊ยน๊อออ

ใครอยากให้อัพก็วิจารณ์กันมั่งเน่อออออ อิอิ

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา