Love Hunter สยบร้าย ขยายรัก

9.4

เขียนโดย KeawSwaggie

วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.14 น.

  19 บท
  29 วิจารณ์
  24.26K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2558 21.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) บทที่ 10 "S-T-R-O-M" (Strom Special Chapters)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 10

S-T-R-O-M

 

[STROMSpecial Chapters]

# 6 : 30 AM.

 

            แสงสว่างที่ส่องมากระทบหน้าผม ทำให้วันนี้ผมตื่นเช้าเป็นพิเศษ เช้ากว่าทุกๆวันที่ผมเคยตื่น วันนี้ผมมีความรู้สึกสดชื่นและรู้สึกมีความสุขสุดๆ จาก ใบหน้าคมและเรียวเล็ก ผมสีบลอร์นเข้ม ขนตายาวงอน ผิวขาวซีดของริชท์ เพราะมันคือสิ่งแรกที่ผมมองเห็นได้ในวันนี้ เธอยังคงนอนหลับและก็ยังคงหลับลึกซะด้วย ผมสามารถมองเธอได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อจริงๆนะ ริชท์เป็นผู้หญิงที่ทั้งเข้มแข็ง แล้วก็อ่อนแอได้ในเวลาเดียวกัน เธอไร้การเสเสร้ง จริงใจ คิดอะไรก็พูด แล้วก็ดูไม่แอ๊บแบ๊วด้วย ก็แปลกดีนะ เพราะจริงๆแล้วผมไม่เคยมีสเป็กแบบนี้เข้ามาอยู่ในหัวเลย แต่พอมีเธอเข้ามา ผมกับหลงไหลเธออย่างโงหัวไม่ขึ้น...

 

            ผมมองริชท์ไปเรื่อย ผมรู้ว่าเธอคงจะเพลียมากแน่ๆ คงเป็นเพราะเมื่อวานว่ากว่าที่ผมจะพาเธอมานอนพักผ่อนก็ปาเข้าไปเกือบๆเที่ยงคืนได้ ผมทำนานเกินไปหรือเปล่า? หกชั่วโมงมันคงนานไปสำหรับเธอสินะ..

 

            “อืม…”

 

            “=0=:;”

 

            อ..อยู่ดีๆริชท์ก็เขยิบเข้ามากอดผม! เอ่อ เธอคงจะล่ะเมอน่ะนะ! ผมก็ลืมไปเลยว่าตอนนี้เราต่างก็เปล่าเปลือยอยู่ด้วยกันทั้งคู่ ไอ้สทอร์มควบคุมสติเดี๊ยวนี้! นายจะทำอีกไม่ได้แล้วนะ พอได้แล้วสทอร์มเอ๊ยยยยยยยยย!!! (TT{}TT)

 

            ผมพยายามดึงผ้าห่มที่ร่วงไปอยู่ปลายเท้าขึ้นมาคลุมตัวให้ริชท์ แต่ดูเธอจะไม่ยอมปล่อยอ้อมกอดจากผมเลย ทำไงดีเนี่ย พระเจ้า!! สทอร์มน้อยของผมมันเริ่มที่จะตื่นอีกครั้งแล้วนะเนี่ย!! เฮ่ยๆๆๆๆ ไม่ได้ๆๆ เอ็งรีบลงไปเดี๊ยวนี้เลยนะลูกพ่อ!!!!!! TT^TT

 

            “ร..ริชท์ ริชท์”

 

            “หืมม..”

 

            ริชท์ตอบผมทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ เธอปล่อยแขนจากผมแล้วเอามือไปขยี้ตาและดูเหมือนว่าเธอกำลังบิดขี้เกียจอยู่ ผู้หญิงอะไรน่ารักจริงๆ น่ารักเกินไปแล้ววววว T_T

 

            “ย๊ะ!!!! ส..สทอร์ม!!! (O////////O)”

 

            ชื่อของผมถูกเรียกโดยเจ้าของเสียงเป็นร่างเล็กๆที่ดูจะตกใจมากที่เห็นผม ตาโตเบิกกว้าง หน้าแดงก่ำไปถึงใบหู ริชท์รีบคว้าผ้าห่มที่ปปลายเท้าขึ้นมาคลุมตัวก่อนจะกระเถิบหนีผมไปที่ของเตียง อย่าบอกนะว่านี่เธอเพิ่งจะมาอายเนี่ย =0=?

 

            “อรุณสวัสดิ์ ^0^:;”

 

            “อ..อ..อรุณสวัสดิ์!(O/////////////O:; )”

 

            “ไม่ต้องหลบตาหรอกน่าริชท์ เธอเพิ่งนึกขึ้นได้หรือไงว่าต้องเขินฉันเนี่ย ฮิๆๆ”

 

            “น..นายไม่ต้องมาหัวเราะเยาะฉันเลยนะสทอร์ม ฉันไม่โกรธนายก็ดีเท่าไหร่แล้วที่นายไม่รักษาสัญญาน่ะ!! (TT^TT)”

 

            “โอ๊ๆๆ พี่ขอโทษน๊าคนดีๆ ก็เธอมันทั้งเซ็กซี่ ทั้งน่ารักนี่นา ยิ่งพอฉันมองเธอใกล้ๆยิ่งทำให้ฉันควบคุมตัวเองไม่อยู่ เธอผิดเองนะที่เกิดมารูปร่างหน้าตาอย่างนี้น่ะ -3-“

 

            “อ๊ออออ นี่ฉันผิดสินะ!”

 

            “ช่ายยยยยยยย นี่ริชท์ อาบน้ำด้วยกันม๊ะ *0*”

 

            “(O/////////////////////////O!!)”

 

            “เป็นอะไรอีกเล่า! -0-?”

 

            “ข..ของนาย ม..มันตื่นแล้ว น..นายไปไกลๆฉันเดี๊ยวนี้เลยนะ!!! สทอร์ม!! ออกไปห่างๆฉันเดี๊ยวนี้!!!!! กรี๊ดดดดด!!! (TT{}TT!!!   )”

 

            “เฮ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!”

 

 

            เฮ้ออออ เหนื่อยเลย.. เมื่อกี้นี้ทันทีที่ริชท์ไล่ ผมก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน แล้วรีบจัดการให้สทอร์มน้อยของผมกลับไปสู่นิทราของมันอีกครั้ง ให้ตายเถอะทำไมผมถึงนึกไม่ได้นะว่าผมก็โป๊เหมือนกัน หรือว่าปกติผมจะใส่บ๊อคเซอร์นอนจนชินเลยรู้สึกโล่งๆ แหม่ๆ ถึงว่าล่ะ! ถึงว่าว่าทำไมวันนี้มันโล่งๆแปลกๆ -0-:;

           

          แต่ผมคงทำให้ริชท์ตกใจมากสินะ ผมขอโทษครัช TT____TT

 

          หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมก็รีบเดินไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำและผ้าขนหนูมาให้ริชท์ที่เตียง เธอก็รับไปอย่างว่าง่าย แต่หน้าของริชท์ก็ยิ่งแดงก่ำมากไปกว่าเดิม ผมกลัวว่าเธอจะระเบิดซะก่อนเลยรีบเดินออกมา แล้วโทรสั่งอาหารจากภัตตาคารของผมให้รีบเอามาส่ง

 

..ทุกคนเห็นใช่มั๊ยว่าผมเทคแคร์ริชท์มากขนาดไหน? ก็เพราะผมรักเธอมากๆน่ะสิ เข้าใจมั๊ย?..

 

            พนักงานของโรงแรมนำอาหารที่ผมสั่งเข้ามาส่งที่โต๊ะ ก่อนที่จะเดินออกไป ระหว่างที่รอริชท์ผมก็จัดถ้วยจัดชาม จัดแก้ว แล้วตักอาหารใส่ถ้วย ตามจริงหน้าที่นี้พนักงานที่มาส่งอาหารต้องทำทั้งหมดอ่ะนะ แต่ผมไล่กลับไปเพราะผมอยากทำเองมากกว่า

 

            “สทอร์ม..แล้ว..แล้วนายไม่จัดกระเป๋าเดินทางเหรอ”

 

            “ไม่ล่ะ ที่นั่นมีของๆฉันครบหมดทุกอย่างแล้ว เธอคงไม่เคยไปสินะ รับรอง เธอต้องติดใจแน่ๆ เพราะที่นั่นทั้งสวย ทั้งสดวกสบายเลยล่ะ มาๆ น่านั่งนี่สิ ริชท์ กินข้าวเช้ากัน ^-^”

 

            “ขอบคุณนะ”

 

            “อื้อ!”

 

            คำว่าขอบคุณดังออกมาเบาๆในเวลาที่ผมกำลังเขยิบเก้าอี้ให้ริชท์นั่ง นั่นมันทำให้ผมยิ้มแก้มแทบฉีก ผมไม่กินข้าวแล้วกินเธอแทนดีมั๊ยเนี่ย! น่ารักอ่ะ!! >.,<

 

            เราสองคนนั่งกินข้าวกัน ผมก็ชวนริชท์คุยไปเรื่อยเพื่อให้เธอผ่อนคลายแล้วก็เลิกพูดตะกุกตะกัก ดูเหมือนว่าริชท์พยายามที่จะไม่สบตาผมตรงๆเพราะไม่งั้นช้อนเธอคงหลุดมืออีกแน่ๆ เนี่ยะ ตั้งแต่นั่งกินข้าวมาเนี่ย เผลอมองตาผมทีไรช้อนร่วงทุกที ผมหยิบมาให้ใหม่ตั้งหลายอันละนะ อะไรจะตกใจมือไม้อ่อน =3=

 

            “ฉ..ฉันอิ่มแล้ว สทอร์ม นี่กี่โมงแล้วอ่ะ”

 

            “แปดโมงห้าสิบแล้ว ฉันว่าเราควรลงไปที่ล็อบบี้ได้แล้วนะ พวกนั้นคงมาถึงที่ล็อบบี้แล้วแน่ๆ”

 

            “ฉันไม่รู้ว่าพี่ไวน์จะไปถูกหรือเปล่า เพราะว่าเขาขับรถไปคนเดียวอ่ะ ไม่ได้แวะมาที่ล็อบบี้”

 

            “ฉันส่งแผนที่ให้หมอนั่นในไลน์แล้ว เธอเลิกห่วงได้เลย”

 

            “อือ งั้นไปกันเถอะ! ฉันอยากเล่นน้ำทะเลจะแย่อยู่แล้วเนี่ย! ป่ะๆๆๆ >.<”

 

            ดูเหมือนว่าริชท์จะลืมตัวแฮะ แล้วก็คงลืมเขิลเรื่องเมื่อวานไปแล้วเพราะพอพูดถึงทะเลเธอก็ดี๊ด๊ารีบเดินมาเกาะแขนผมจูงไปที่ลิฟท์อย่างรวดเร็ว เธอลืมกระเป๋าเดินทางตัวเองแล้วนะเนี๊ยะ! ดีนะที่ผมคว้ากระเป๋านั่นทันก่อนที่จะปิดประตูห้อง ขี้ลืมจริงๆเลย ยัยบ๊องส์เอ๊ย =_=*

           

**เรียมมมมเหลือทนแล้วนั่นนน ขวันนนน ของเรียมมมม หวนคิดดดคิดแล้วววโขมมขื่นน..**  (มันก็ช่างกล้าเอาเพลงนี้มาตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า =______=:;)

 

            “ริชท์ๆ แปปๆปล่อยแขนฉันแปปนึง โทรศัพท์เข้าน่ะ สงสัยไอแม็คโทรมา”

 

            “อะเคร”

 

            ผมบอกให้ริชท์ปล่อยแขนผมเพราะตั้งแต่เข้าลิฟท์มาเธอยังคงเกาะแขนผมไว้แน่น มืออีกข้าผมก็ดันไม่ว่างเพราะถือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยของริชท์อยู่ นี่ขนาดไปแค่สามวันสองคืนเธอเล่นเอากระเป๋าไปสองใบ เอาไปเพื่อ! หนักนะเนี่ย หนัก จะบอกให้ถือเองก็กระไรอยู่ เนอะ =3=:;

 

            “ว่าไง ไอแม็ค”

 

            (“แกอยู่ไหนเนี่ย ช้าชิปเป๋งเลย มัวทำอะไรอยู่วะ ห๊ะ รีบๆลงมาเลย ไอเลเวลมันให้คนที่บ้านมันเอารถตู้มาจอดรอนานแล้วเนี่ย”)

 

            “เออๆ กำลังจะถึงแล้ว ลิฟท์อยู่ชั้น 3 แล้วๆ แค่นี้นะ”

 

            พอกดวางสายได้ไม่นานลิฟท์ก็มาจอดที่ชั้น 1 ผมเลยรีบลากกระเป๋าของริชท์ตรงไปที่ ล็อบบี้โดยที่ริชท์รีบเดินตามผมมาอยู่ข้างๆ

 

            “พี่สทอร์มคะ!”

 

            “=0=:;”

 

            ฮ..ฮั่นนี่ เสียงของฮันนี่ที่เรียกผมมาแต่ไกลทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามาในล็อบบี้ แถมยังรีบเดินตรงปรี่มาที่ผมอีก เฮ่ย! มาทำม๊ายย ไม่ต้องม๊า!! ={}=*

 

            “สวัสดีค่ะคุณฮันนี่ ^-^”

 

            “ส..สวัสดีค่ะคุณริชท์ คุณก็ไปด้วยเหรอคะ”

 

            “อ้าว คุณไม่รู้หรอกเหรอคะว่าฉันไปด้วย ตกข่าวได้ยังไงกันคะคุณฮันนี่ ขนาดฉันยังรู้เลยว่าคุณไปขอร้องอ้อนวอนไอแม็คว่าอยากจะไปด้วยน่ะ ^__^”

 

            “เอ่อ…”

 

            “พอๆริชท์ มานี่ๆ เลเวล ช่วยฉันเอากระเป๋าขึ้นรถทีดิ”

 

            ผมดึงริชท์ที่เดินเข้ามาขวางผมกับฮันนี่ไว้ แล้วดูเหมือนว่าริชท์กำลังจะหาเรื่องฮันนี่ยังไงยังก็ไม่รู้ แถมเล่นเอาซะฮันนี่ไปไม่ถูกเลย ยัยนี่นี่มันบ้าดีเดือดจริงๆ ผมเห็นแล้วแทบหลุดหัวเราะ ก็น่ารักในแบบของเธออ่ะนะ >.<

 

            “เฮ่ย! ของที่บ้านแกนั่นก็เยอะแยะแล้วนี่หว่า ยังจะขนไปเพิ่มอีกเรอะ! =0=”

 

            “เลิกบ่นซักทีเถอะน่ะเลเวล แกเป็นเพื่อนฉันนะเว่ยไม่ใช่แม่ แล้วของพวกนี้อ่ะของริชท์ ไม่ใช่ของฉัน -__-“

 

            “น้อวววววววววว์ ฉันเพิ่งเคยเห็นแกถือของให้สาวนะเนี่ยยยยยย”

 

            “เลิกปากมากได้ละ ไปๆๆ ไปขึ้นรถ ริชท์ มานี่เร็ว”

 

 

#ระหว่างการเดินทาง

 

            “โอ้ทะเลแฉนงามมมม ฟ้าสีครามฉดฉายยยยย มองเห็นเรื่อบายยยย...”

 

            “ริชท์ เลิกร้องเพลงบ้าๆนั่นกรอกหูฉันซักทีเถอะ ขอร้อง มันทำให้ฉันไม่อยากไปทะเลแล้วเนี่ย =_=:;”

 

            ตลอดทางมานี่ริชท์ยังคงร้องเพลงโอ้ทะเลแสนงามอะไรนั่นไม่หยุด ร้องวนไปวนมา ร้องอยู่ข้างๆหูผมนี่แหละ =_=* เลเวลกับไอแม็คก็เอาแต่ล้อผมว่าผมไปทำอะไรมาริชท์ถึงได้ดูอเลิทซ์ผิดปกติ ส่วนฮันนี่น่ะเหรอ นั่งงอนตุ๊บป่องราวกับว่ายังคบกับผมอยู่ เฮ้อ ผมว่าฮันนี่นี่แหละเข้าใจยากสุดละ พูดไม่รู้เรื่องด้วย ถึงจะเคยเป็นอดีตคนรักผมก็เถอะ .. ส่วนริชท์ ยัยนี่ก็ เอ้อ!=_____=:;

 

            “โถ่ สทอร์ม มาทะเลนะ! ก็ต้องร้องเพลงนี้สิ ไม่งั้นจะนึกถึงบรรยากาศของทะเลออกได้ยังไง ใช่มั๊ยคะไอแม็ค -0-”

 

            “ใช่ครับ น้องริชท์พูดถูกเลย ตอนนี้ผมอยู่ข้างน้องริชท์นะครับ ถ้ามีอะไรนี่รีบมาฟ้องผมได้เลยนะ *_*”

 

            “แล้วเดี๊ยวแกจะได้มาปรึกษากับเท้าฉันใช่มั๊ยล่ะไอแม็ค พอๆ ปล่อยมือริชท์ของฉันได้แล้ว หันไปดูแลคนที่แกพามาด้วยเถอะ”

 

            ผมพูดด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดขึ้นมาทันที เพราะอยู่ๆไอ้ไอแม็คก็คว้ามือของริชท์ไปจับเฉยเลย ไอบ้านี่ รู้ว่าไม่ชอบ ก็ยังจะมาทำเป็นกวนประสาท! =_____=**

 

 

# 09 : 20 AM.

#หาดขาวไร้ชื่อของสทอร์มมุ๊งมิ้งน่าฮัก -w- (เป็นไงชื่อนี่เท่ระเบิดระเบ้อ คุ๊ๆๆๆ )

 

            รถตู้วิ่งเข้ามาจอดเทียบที่หน้าประตูทางเข้าพื้นที่ส่วนตัวของผม พ่อบ้านทุกคนที่เห็นรถของเลเวลมาก็จะรู้ทันทีว่าผมต้องมาด้วย ทุกคนต่างรีบเดินตรงเข้ามายืนเข้าแถวและโค้งคับนับให้ ไอแม็คกับเลเวลช่วยกันยกของลงจากรถ แล้วส่งให้พ่อบ้านเอาเข้าไปเก็บตามห้องของแต่ละคน บ้านพักที่นี่ของผมเรียกได้ว่าแทบจะเป็นรีสอร์ทก็ว่าได้ มีครบทุกอย่าง มีเชฟประจำ มีพ่อบ้าน มีเมด มีผู้รักษาความปลอดภัย

 

            ไอแม็คและเลเวลแยกย้ายขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามห้องของพวกมัน เอ้อ ผมก็ลืมบอกไปว่าผมแบ่งห้องไว้ให้พวกนี้มันเลยน่ะ เพราะว่าเป็นเพื่อนสนิมของผมมาตั้งแต่อนุบาลเลยมาที่นี่กันนับครั้งไม่ถ้วน ผมเลยตัดสินใจยกห้องให้มันไปเลยคนละห้อง เผื่อพวกนั้นพาสงพาสาวมาจะได้ไม่ต้องมารบกวนผม

 

            ส่วนฮันนี่ เธอเพิ่งมาที่นี่ได้สองครั้ง ยังไม่รวมครั้งนี้อ่ะนะ และทุกครั้งเธอจะนอนห้องเดียวกับผมเพราะช่วงนั้นเราคบกันอยู่ บางทีผมคงต้องหาห้องชั่วคราวให้เธอพักซะแล้วสิ..

 

            “ฮันนี่ เธอไปเอากุญแจห้องจากพ่อบ้านนะ รหัสห้อง H01”

 

            “ต..แต่พี่สทอร์มคะ ปกติฮันนี่ต้องอยู่ห้องเดียวกับพี่นะคะ!!”

 

            “ตอนนี้ไม่ใช่แล้วฮันนี่ อย่าดื้อ ถ้าดื้อก็กลับบ้านไปซะ”

 

            ผมพูดจบก็จูงมือริชท์เข้ามาในตัวบ้าน แล้วตรงไปที่ห้องของผม ฮันนี่ที่แสนเอาแต่ใจยืนน้ำตาคลอกระทืบเท้า เพราะแบบนี้นี่ไงผมถึงไม่อยากให้เธอมาที่นี่อีก ผมอุตส่าโทรไปบอกแล้วแท้ๆตั้งแต่เมื่อวานที่เธอพยายามขอให้ไอแม็คพามาด้วย ก็ช่วยไม่ได้นะ เพราะสำหรับผม ถ้าผมไม่เหลือเยื่อใยแล้วยังไงผมก็ไม่สนใจ แล้วก็ไม่แคร์ด้วย ยิ่งถ้าทำให้ผมโกรธหรือรำคานมากๆผมอาจจะเผลอทำอะไรไม่ดีก็ได้…ใครจะไปรู้ล่ะ จริงมั๊ย? ถ้าไม่ล้มหุ้น ก็อาจจะย้ายตระกูลของเธอออกไปจากเกาะแฟร์ไคลน์นี้ซะ..

 

            “นาย พูดแรงไปป้ะเนี่ยสทอร์ม ไม่เห็นเหรอว่าเธอร้องไห้น่ะ”

 

            “เห็น แต่จะให้ทำไง ในเมื่อฉันไม่ได้อยากให้ฮันนี่มานี่ เพราะตอนนี้ฉันมีเธอแล้ว และฉันจริงจังกับเธอมากด้วย!”

 

            “อ่ะๆๆ โอเคๆ ฉันไม่พูดแล้ว ว่าแต่ นี่ห้องนายเหรอ สวยดีนะ กว้างมากเลยอ่ะ”

 

            “ชอบมั๊ยล่ะ ถ้าเธอชอบฉันจะยกห้องนี้ให้เธอ ^^”

 

            “บ้าเหรอ!! สทอร์มเงินทองของนายหามาได้ง่ายๆนักหรือไง ยกให้ง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ ตลกละสทอร์ม!”

 

            “โถ่ ริชท์ ถึงฉันจะยกให้เธอแต่ยังไงฉันก็ต้องนอนกับเธออยู่ดีอ่ะแหละ เน๊อะๆ”

 

            “นายนี่พูดอะไรก็จะเข้าเรื่องน่าอายตลอดเลยหรือไง แล้วก็เลิกยุ่งกับกระเป๋าฉันซักที เดี๊ยวฉันจัดเรียงเองได้น่าของพวกนี้น่ะ”

 

            “ไม่เอาอ่ะ อุ๊ย เกงในสีจมปูววววววววววว >0<”

 

            “กรี๊ดดดดดด!!!! ส่งมานี่เดี๊ยวนี้นะสทอร์มมมม!!!!!”

 

            ผมแหย่ริชท์ไปกระแซะไหล่ของเธอไป แล้วชูกางเกงลิงสีชมพูของเธอวิ่งไปรอบห้อง ดูเหมือนว่าริชท์จะเลือกชั้นในสำหรับมาที่นี่ดีเป็นพิเศษ ทั้งลายสวย ทั้งสีสวย >//////< แล้วก็ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าเหมือนกันนะ เพราะวันนี้ริชท์จะดูแตะเนื้อต้องตัวผมมากขึ้นเป็นพิเศษเลยทีเดียว เราคงจะคุ้นเคยกันมากขึ้นแล้วสินะ (>.<//)

 

             ระหว่างที่ผมวิ่งหนีริชท์จนเหนื่อยสุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้เธออยู่ดี แล้วก็มานอนหอบแฮกๆอยู่บนโซฟา ริชท์เป็นผู้หญิงที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆเลย และก็โคตรที่จะมีความพยายาม ก็เธอเล่นเขวี้ยงนู่นเขวี้ยงนี่ จิกหัวดึงหู จะเอากางเกงในของเธอคืนให้ได้ ผมก็แค่แหย่นิดแหย่หน่อย แต่ยัยบ๊องส์นี่กลับเอาจริงซะงั้น ผมนี่ระบมไปทั้งตัวแล้วเนี่ย โอ่ยยย ผมล่วงหมดหัวแล้วมั้งเนี่ยป่านนี้ (T^T)

 

**รับสายหน่อยคร๊าบบบบบน้องสาวของพี่….รับสายหน่อยคร๊าบบบบบ…

 

            “(T_______T)”

 

            ริชท์หันมามองหน้าผมเหมือนจะขออนุญาติ ฟังจากเสียงโทรศัพท์แล้วพี่ไวน์อะไรนั่นคงโทรมาหาเธอล่ะสิ ถึงได้กลัวผมขนาดนี้น่ะ อ๊ะๆๆ ครั้งนี้จะยอมให้คุยสบายๆหน่อยละกัน ไม่ทำโทษละ -3-

 

            “ทำหน้าแบบนั้นทำไม รับสิ วันนี้ฉันไม่ทำอะไรเธอแล่ว พักผ่อนมั่งเธออ่ะ”

 

            “นายพูดจริงนะ (T________T)”

 

            “อือ”

 

            “ฮ..ฮัลโหลค่ะพี่ไวน์”

 

            พอผมมองริชท์ที่ทำท่าทางวิตกกังวลเวลารับโทรศัพท์ ผมก็อดที่จะยิ้มเล็กๆไม่ได้ เธอถึงกับขั้นขออนุญาติผมรับโทรศัพท์เชียวนะ! น่ารักแค่ไหนคิดดู (>-<)

 

            ผมเปิดประตูแล้วเดินลงออกมาเดินเล่นข้างก่อนก่อน อ่อ บ้านพักที่นี่เป็นบ้านสองชั้นนะ ห้องที่ผมอยู่เป็นห้องที่อยู่ชั้นสอง และชั้นสองนี่ก็มีแค่ห้องผมห้องเดียวและก็มีขนาดใกญ่แล้วกว้างขวางกว่าทุกห้อง แล้วผมจะพูดยาวทำไมเนี่ย ไม่ได้ช่วยอธิบายอะไรให้มันดีขึ้นมาเลยวุ๊ =_=*

 

            ว่าแต่พวกไอแม็คกับเลเวลนี่มันไปไหนกันหมดแล้วเนี่ย -__-

 

            หมับ!

 

 

            “เฮ่ย!!”

 

            “พี่สทอร์มคะ..ฮันนี่ทำอะไรผิดเหรอคะ ช่วงนี้พี่ถึงได้ใจร้ายกับฮันนี่ขนาดนี้ พี่โกรธอะไรฮันนี่เหรอคะ บอกฮันนี่นะ ฮันนี่จะปรับปรุงตัว พี่อย่าไปมีคนอื่นเลยนะคะ กลับมาหาฮันนี่นะคะ ฮึก..ฮันนี่รักพี่นะคะ พี่สทอร์ม อย่าทิ้งฮันนี่นะคะ..ฮึก..”

 

            “ฮันนี่! ปล่อยพี่เดี๊ยวนี้! เราเลิกกันแล้ว! พูดไม่รู้เรื่องหรือยังไงกัน!”

 

            “ไม่ค่ะ!! ถ้าฮันนี่ปล่อยพี่สทอร์มคงไม่ให้ริชท์อยู่ที่นี่อีกแน่ๆเลย ฮันนี่รู้! แต่พี่สทอร์มยกโทษให้ฮันนี่นะคะ เรื่องอะไรคะที่ทำให้พี่ถึงกับบอกเลิกฮันนี่อย่างไร้เยื่อใยแบบนี้ บอกฮันนี่ได้มั๊ยคะ ฮึกๆๆ..”

 

            ฮันนี่ที่อยู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้กอดผมไว้แน่น แถมยังพร่ำเพ้อพรรณนาไปเรื่อย ผมพยายามแกะมือของเธอออกแต่เธอก็ไม่ยอมปล่อย อีกทั้งยังกำเสื้อของผมไว้แน่นอีกต่างหาก!

 

            “ฮันนี่! พี่ไม่ได้โง่นะ! เรื่องทุกเรื่องบนเกาะนี้พี่ยังรู้ แล้วกับอีแค่เรื่องที่ฮันนี่พยายามปิดพี่อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้สิ ที่นี่คือเกาะของพี่! พี่มอบทุกอย่างให้ฮันนี่แล้วฮันนี่ทำกับพี่อย่างนี้เหรอ!! เสแสร้งแกล้งเป็นไม่รู้ทั้งๆที่ฮันนี่รู้ดีแก่ใจที่สุดแบบนี้น่ะนะ!!!”

 

            “ฮัน..ฮันนี่ขอโทษที่ฮันนี่เผลอไปมีคนอื่นก็ได้ค่ะ พี่สทอร์มโกรธฮันนี่เรื่องนี้ใช่มั๊ยคะ! เป็นเพราะพี่จับได้ใช่มั๊ยพี่ถึงบอกเลิกฮันนี่ที่ผับวันนั้นน่ะ! หรือเป็นเพราะว่าฮันนี่ปฏิเสธไม่อยากมีอะไรกับพี่ ฮันนี่ขอโทษนะคะ! ให้ฮันนี่กราบพี่เลยก็ได้!! พี่สทอร์มกลับมาหาฮันนี่นะคะ!! ฮันนี่สัญญาว่าฮันนี่จะไม่ทำอย่างนั้นอีก กลับมาคบกับฮันนี่นะคะ พี่สทอร์ม..ฮึกๆ ฮืออออ..”

 

            ผมสบัดแขนของฮันนี่ออกหลังจากที่เธอรัดผมเอาไว้นาน ผมดูใจร้ายเกินไปหรือเปล่า ผมบอกเลยว่านี่ยังเป็นเพียงเศษธุลีถ้าเทียบกับความร้ายกาจที่ผมสามารถจะร้ายกาจได้ ผมรู้มาตลอดว่าฮันนี่หลอกผม ระหว่างที่เราคบกันแรกๆ ใช่! ผมรักเธอ! ผมหลงเธอ! ผมแทบประเคนทุกอย่างให้เธอในตอนที่เธอยังอยู่ในฐานะคนรักของผม! แต่ตอนนี้ไม่ใช่ และเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด ผมไม่มีทางที่จะกลับไปคบกับผู้หญิงเพศยา เสแสร้ง หลอกลวง ไร้ความซื่อสัตย์ และบีบน้ำตาเก่ง แบบนี้แน่ๆ และตอนนี้ผมมีเพียงริชท์คนเดียวเท่านั้น!

 

            “เธอยังอยากฟังอะไรจากปากพี่อีกงั้นเหรอฮันนี่..”

 

            “ฮัน..ฮันนี่รักพี่นะคะ! ขอบคุณที่พี่ยังมีความรักหลงเหลือให้ฮันนี่จริงๆค่ะ! ถึงพี่จะให้ฮันนี่เป็นเมียเก็บก็ได้! ฮันนี่ยอมแล้วค่ะพี่สทอร์ม…จุ๊ฟ..”

 

            “อึก!!”

 

            ฮ..เฮ่ย!!!! ฮันนี่ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย ผมว่าผมปฏิเสธเธอชัดเจนจนเกินคำว่าชัดเจนแล้วนะ! หรือว่าเธอจะร้องไห้มากไปจนเกิดอาการประสาทหลอนไปแล้ว อยู่ๆก็ดึงผมให้ก้มลงไปจูบเธอเฉยเลย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!!!!!

 

            ผมดันฮันนี่เข้าไปที่ห้องใต้บันได เพราะทุกครั้งที่ผมพยายามจะถอนจูบฮันนี่ก็ยังคงจับต้นคอและดึงผมให้ก้มลงไปหาเธอเพื่อที่จะจูบอยู่ดี ฮันนี่พยายามถอดเสื้อผ้าของผม หึ ส่วนชุดเดรสเบาหวิวของเธอนั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันหลุดไปตั้งแต่อยู่หน้าประตูแล้ว! ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนผมทำผิดกับริชท์มากๆ และที่ผมพาฮันนี่เข้ามาในห้องนี้ไม่ใช่ว่าผมอยากมีอะไรกับเธอต่อ แต่เพราะผมไม่อยากให้ริชท์เห็นต่างหาก!

 

            “ฮ..ฮันนี่..ปล่อยพี่! อ..อึก!”

 

            “ไม่ค่ะ! ฮันนี่ไม่ได้เป็นของพี่ ยัยตระกูลอินทรอสนั่นก็อย่าหวังว่าจะได้เป็น!”

 

            “!!”

 

            “แต่ถ้าพี่ยอมให้ฮันนี่เป็นเมียเก็บ ไม่สิแค่พี่มีอะไรกับฮันนี่ตอนนี้ ทำให้ฮันนี่มีความสุขที่สุด! แล้วก็ให้เบี้ยเลี้ยงฮันนี่นิดหน่อย ฮันนี่สัญญาค่ะว่าฮันนี่จะไม่มายุ่งกับพี่อีก..จุ๊ฟ..”

 

            “..ถ้าอย่างนั้น..เธอก็เตรียมตัวโดนล้มหุ้นแล้วเชิญเนรเทศตัวเองออกไปจากที่นี่และเกาะแฟรไคลน์ได้เลย เพราะถ้าพี่ยอมมีอะไรกับเธออีกพี่ก็คงไม่ใช่พี่อีกแล้ว ร่างกายเน่าๆของเธอ พี่ไม่อยากกลับเข้าไปยุ่งด้วยอีก และ..อย่า-คิด-จะ-มา-ขู่-พี่!!!!!!”

 

            ผลัก!!! โครม!!!

 

            ผมผลักฮันนี่ไปไกลจนเธอไปกระแทกกับชั้นวางของ ทำให้สิ่งของหลายอย่างหล่นลงมาโดนเธอเข้าเต็มๆ ผมก็สงสารเธอนะ แต่ผมรู้ว่าผู้หญิงอย่างฮันนี่น่ะแค่นี่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บหรอก ถ้าเห็นเธอร้องไห้ ผมบอกเลยว่านั่นก็แค่ละคร..เธอก็แค่แสดง…

 

            ปึง!

 

            เสียงประตูที่ถูกปิดลงหลังจากที่ผมก้าวออกมาจากห้องใต้บันได โดยทิ้งให้ฮันนี่นั่งทบทวนตัวเองในห้องนั้น ผมพยายามติดกระดุมเสื้อให้กลับเข้าที่เข้าทาง แต่ สิ่งนึงที่ทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน หมดเรื่ยวแรงที่จะยกแขนขึ้นมาติดกระดุมได้อีกต่อไป ...ริชท์...เธอยืนอยู่ข้างหน้าผม..และดูเหมือนว่าเธอจะรู้แล้วว่า ผม..ทิ้งใครไว้ในห้องนั้น..และชุดเดรสก็ดันมาหล่นอยู่ให้เห็นตรงนี้พอดี..

 

 

 

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไปในวันที่ 13 / 03 / 15

ขอเวลาเค้าอ่านหนังสือสอบหน่อยน๊าาาาา (TT___TT)

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา