LOVE YOU! รักกว่านี้ มีอีกมั้ย?
เขียนโดย BlacXRabbiT
วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.13 น.
แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558 21.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) น้องชาย?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 10 น้องชาย?
ไอ้ลีทำหน้าเหมือนโลกแตกเมื่อได้ยินเสียงออดเข้าเรียน จ้องผมตาเป็นมันเดาว่าเสียดายโคตรแน่ๆ มันสบถงุ้งงิ้ง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผมมองแล้วหัวเราะคิกคักจนโดนมันตบกะโหลกเข้าฉาดใหญ่ นี่ขนาดกูเป็นแฟนมึงนะ!
“หัวเราะๆ จะกลับมั้ยห้องอ่ะ? หรือจะต่อ?” ผมมองค้อนมันจนตาแทบถลนไอ้ตี่ดึงมือผมไปจับแล้วลากผมให้เดินตาม
“กลับดิ แม่งนิ ชอบใช้กำลัง” ผมพูดขณะที่เดินตามหลังลีต้อยๆ
“เรื่องของกู”
“อีกแค่ไม่กี่อาทิตย์โรงเรียนเราก็จะจัดการแข่งขันกีฬาภายในแล้ว เพราะงั้นวันนี้เราจะจับสลากสีกันนะ” อาจารย์ประจำชั้นหัวเถิกนิดๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริงเหมือนทุกที ทุกคนในห้องก็เฮกันยกใหญ่ เพราะห้องสามของพวกเราน่ะชอบกันซะเหลือเกินไอ้งานทุกอย่างที่ยกเว้นเรียนเนี่ย!
“แข่งวันไหนครับจารย์” วุฒิ รองหัวหน้าห้องถามด้วยความตื่นเต้น
“ไม่รู้สิ คงเหมือนทุกปีนั่นแหละ จับตามเลขที่นะ เลขที่หนึ่งถึงสี่ลุกขึ้นมาจับก่อนเลย” อาจารย์พูดจบคนสี่คนก็ลุกเดินไปหน้าห้อง ล้วงลงไปในกล่องสี่เหลี่ยมแล้วจับกระดาษสีขึ้นมาหนึ่งแผ่น มีสี เขียว แดง ฟ้า และชมพู
“ใครได้สีอะไรมาลงชื่อด้วย”
ผ่านไปสักพักทุกคนในห้องก็จับสลากสีกันครบทุกคน ผมได้อยู่สีเขียวส่วนไอ้ตาตี่ลีที่ไปออดอ้อนอาจารย์อยู่หน้าชั้นเรียนขอย้ายสีอยู่นั้นได้อยู่สีแดง นนท์นี่กะนิกกี้ได้อยู่สีชมพู ไอ้ไอซ์กะเทมสีดียวกับผม สรุป มีแค่ไอ้ตี่คนเดียวที่ไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย ฮ่าๆๆๆ น่าฉงฉาน!
“ก็ครูบอกเธอไปแล้วนี่วิศรุต ว่าไม่ได้น่ะ!” อาจารย์แงะมือของไอ้จอมตื๊อออกจากขากางเกง โห ลี มึงลงทุนมาก
“โห แต่จารย์ครับ แก๊งค์ผมมันไม่มีใครอยู่ด้วยเลยนะ นะๆ ผมขอย้ายไปสีเขียวนะ” เหอะๆ
“ไม่ได้ ครูจะเอารายชื่อไปส่ง ปล่อยได้แล้ว” ถึงจะพูดยังไงลีก็ไม่ยอมปล่อยอยู่ดี เพื่อนในห้องมองกันให้พรึบแล้วก็พากันหัวเราะซะ มึงอย่าไปบอกใครนะว่าเป็นแฟนกะกู
“ไรอ่ะ งั้นๆ ให้นภัสกรย้ายมาสีแดงก็ได้” เห้ย เกี่ยวไรกะกู แม่งเผยธาตุแท้ออกมาละนะมึง
“ไม่เอาเว้ย กูไม่ชอบสีแดง กูชอบสีเขียว” ผมพูดยิ้มๆ
“ไอ้กัส! มึงหุบปากของมึงไปเลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกะมึง” เออะ บอกให้กูย้ายสีนี่ไม่เกี่ยวกะกูเลยเนอะ! =_=
“วิศรุต เรื่องนี้ครูช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ เพราะเธอเป็นคนจับสลากเอง”พูดจบก็แงะมือออกสำเร็จ อาจารย์ก็เดินลิ่วๆไปทิ้งไอ้ตาตี่ให้ยืนนิ่งสนิทอยู่กับที่
โวะ ทำท่ายังกะจะมีคนเอามึงไปถ่วงน้ำงั้นล่ะ
“ไอ้เชี่ยกัส!” ผมสะดุ้งเฮือก กระโดดถอยหลังไปก้าวนึงเมื่อไอ้ลีที่อยู่ๆ ก็ตะคอกเสียงดัง
“อะ อะไร” มันทำหน้ายักษ์ใส่ผมที่เหงื่อไหลซิกๆ
“ใครใช้ให้มึงลงชื่อสีเขียววะ!?”
“ห๊า!? ไรของมึง อย่ามาพาลน่า กะแค่กีฬาสีเอ๊ง อยู่ๆ ไปเถอะ” ผมว่าแล้วนั่งที่ตัวเอง
“มึงไม่ห่วงกูเลยเหรอวะ?” หืม? ถามโง่ๆ กูจะเอาปัญญาที่ไหนไปห่วงมึงกันล่ะครับ?
“น่าลี” ผมทำเสียงเหนื่อยใจใส่มัน ให้ตายเถอะ เป็นเด็กหรือไงวะอีกห้านาทีต่อมาเสียงประกาศให้ไปทุกสีรวมตัวกันตามสถานที่นัดพบต่างๆ สีเขียวของผมเป็นห้องประชุมเล็ก
“ไอ้ไอซ์ ไอ้เทมส์ กูฝากดูมันด้วย เห็นใครเข้าใกล้ไอ้กัส กัดมันให้เละ!” ไอ้ลีถูกไอ้ไอซ์เขกโหลกไปทีนึง
“กูไม่ใช่หมา เดี๋ยวก็ปล่อยให้แม่งถูกงาบไปกินก่อนมึงหรอก” ไอซ์ว่า
“มึงกล้าตบกูเหรอ?” พูดจบก็โดนไอ้ลีตบคืนอย่างแรง เทมส์นี่หันมองขวับเชียว หืม? จะว่าไปแล้ว เทมส์กะไอซ์นี่ก็ตัวติดกันตลอดเลย แถมใครทำอะไรไอ้ไอซ์ก็โดนไอ้เทมส์ตามไปล้างแค้นทุกทีเลย หรือว่า ไม่ม้าง!
เราสามคนมีผม เทมส์ ไอซ์ เดินเข้าหอประชุมเล็กเห็นสมาชิกสีเขียวคนอื่นๆ ก็ทยอยกันมาแล้วเหมือนกัน แต่ว่านะ ดูเหมือนสีเขียวของเราปีนี้จะได้ที่รวมตัวกันดีเหมือนกันนะ
“คนเยอะเหมือนกันแฮะ” ผมพูดลอยๆ แต่ก็ยังโดนเพื่อนไอ้ลีแทรกเข้ามาสอด
“หา? มันก็แน่สิ เยอะทุกปีอยู่แล้วนี่ ไม่ได้มีแค่ ม.ปลายซะหน่อย ม.ต้นก็แข่งร่วมกะเรา มึงอยู่โรงเรียนนี้มาก่อนกูตั้งนาน ไม่รู้รึไงวะ” คือ กูรู้ครับ แค่พูดลอยๆ มึงช่วยอยู่เงียบๆเหมือนเทมส์จะได้มั้ยครับ?
“มาแล้วก็ช่วยนั่งลงด้วยนะ!” เสียงอาจารย์ผู้ชายร่างสูงดังขึ้น โอ๊ะ โอ อย่าบอกนะว่าอาจารย์พละ ม.ปลายอยู่สีเขียว โอ้ เย้ เย
“เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาจะได้เลิกเรียนเร็วๆ มาหาตัวนักกีฬากันเถอะ”
แล้วเกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมา สีเราก็ได้นักกีฬาครบ ไอ้ไอซ์กับเทมส์เล่นบาสแบบไม่ต้องสงสัย ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้เล่นอะไรเลยแบบที่ไม่ต้องสงสัยเหมือนกัน
“เอ้า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันแข่งกีฬา พวกนักกีฬาไม่ต้องเข้าชมรมนะ แยกย้ายได้” พูดถึงเรื่องชมรม ไอ้ผมเองก็โดดร่มได้หนึ่งอาทิตย์แล้วมั้งเนี่ย เพราะมึงคนเดียว ไอ้ลี
“กูไปแล้วนะ” ผมบอกพวกมันสองคน ซึ่งก็ไม่ค่อยจะจำเป็นสักเท่าไหร่เพราะเราก็ไม่ได้สนิทกัน
“เรื่องของมึง” พูดจบไอซ์ก็เดินออกจากห้องประชุมไปตามด้วยเทมส์
“พี่ชื่อ ออร์กัส นภัสกร เวชพาณิชย์ มอห้าห้องสามเลขที่สิบเจ็ด เลือดกรุ๊ปเอบี ที่มีข่าวว่าคบกับรุ่นพี่ลีวายวิศรุต พรมพิริยะ มอห้าห้องสามเลขที่สิบเก้า เลือดกรุ๊ปเอบี ใช่มั้ยครับ?” ทันที่ที่เดินออกมาจนถึงประตู ผมก็เห็นเด็กมอสี่คนหนึ่งยืนดักรออยู่ แถมยังถามผมซะยาวด้วยข้อมูลที่คนอื่นเค้าไม่น่าจะนำมาถามกันเลยซักนิด
“อะ อือ =_=” ผมพยักหน้ามองเด็กตรงหน้างงๆ
“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันหน่อยดีมั้ยครับ?”
“=_=?”
“= =”
“=_=???”
“ผมไม่ทำอะไรพี่หรอกครับ = =” เด็กคนนี้เอ่ยออกมาหน้าเรียบ อืม เอาไงดีอ่ะ
“อือ” ผมเดินตามเด็กตรงหน้าไปยังซอกตึกระหว่างตึกมอหกกับตึกมอห้า ไม่น่าไว้ใจแฮะ หรือจะเป็นแฟนเก่าไอ้ลี แต่มันเคยคบผู้ชายด้วยเหรอ แต่ว่านะ เราเองก็ผู้ชายนี่หว่า จะโดนทำอะไรแปลกๆ มั้ยน๊า? =_=
“…………..” เด็กนั่นมองผมเงียบตั้งแต่หัวจรดลายเท้า เฮ้ย ดูถูกกันรึงายยยย
“…………..” ผมเงียบ มองไอ้เด็กนี่เหมือนกัน เด็กคนนี้สูงกว่าผมสิบเซ็นต์เห็นจะได้ (อิจฉาเว้ย) ขาว หล่อแบบตี๋ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน (ลืมแล้วว่าเรียนโรงเรียนเดียวกันว่างั้น?) สวมแว่นสายตากรอบเงินที่มองแล้วไม่เหมือนของผมเลยซักนิด เหมือนว่าราคามันต่างกันอะไรเงี้ย!
“นี่ แบบว่า ไม่คิดจบอกชื่อ…”
“อะไรกันครับ นี่อย่าบอกนะว่าคบกับเฮียโดยที่ไม่เคยรู้อะไรเลย?” เอ๊ะ ผมเอียงคองงเป็นไก่ตาแตก เฮีย ใครวะ?
“………………..” ผมเงียบ สมองกำลังประมวลผล เฮีย อืมมมมมมม
“ผมชื่อ เจเจ จิรายุ พรมพิริยะ มอสี่ห้องหนึ่งเลขที่หนึ่ง เลือดกรุ๊ปเอ” เอ่อ เอ่อ อืม พรมพิริยะพรมพิริยะ!?
“ห๊า น้องไอ้ลีเหรอ!?” ผมแหกปากตาโต มันมีน้องกับคนอื่นเป็นด้วยงั้นเหรอ ดูนิสัยมันแล้วเหมือนจะเป็นลูกคนเดียวมากกว่า ก็เอาแต่ใจขนาดนั้นนี่!
ถึงว่า หน้าตี๋ๆ
“=_= ตาก็ตี่เหมือนกันแฮะ” ผมสำรวจรอบตัวของเจเจทั้งหน้าทั้งหลัง บ้านนี้สูงกันทั้งบ้านเลยรึไงว๊า
“ไม่เหมือนครับ ผมโตกว่าหนึ่งมิลครึ่ง”
“ =_= รวมๆ ก็ตี่ล่ะน่า”
“ไม่ครับ”
“เหมือนน่า”
“ผมไม่ได้เรียกพี่ออกมาเพื่อบอกว่าตาผมตี่เหมือนเฮียหรือเปล่าสักหน่อยนะครับ” ดูหมอนี่นิสัยไม่เห็นเหมือนลีเลยแฮะ แปลกอ่ะ
“งั้นแล้วเรียกมาทำไมล่ะ?”
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่จะมาบอกว่า เลิกกับเฮียซะ” ผมเงียบ อึ้งไปแวบหนึ่ง เลิกกับลีเหรอ เจเจเอ่ยคำนี้ออกมาได้ง่ายชะมัด ไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ นั่นสินะ ที่บ้านของลีเองก็คงไม่อยากให้ลีมีแฟนเป็นผู้ชายหรอก บ้านผมเองก็เหมือนกัน แต่ว่า….
“…………..” แต่ว่าทำไมผมถึงพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ?
“ตกลงมั้ยครับ?” เจเจถามสีหน้านิ่ง อยากร้องจังเลยแฮะ
“แต่ว่า…”
“ถ้าไม่ตกลงล่ะก็ ผมจะทำให้เลิกกันเอง” ผมกลืนน้ำลายลงคอเมือมองริมฝีปากบางนั่นยกรอยยิ้มขึ้น เหมือนกับปีศาจตัวน้อยๆ เลย
“ฮะ?” ผมอุทานออกมาเล็กน้อยเมื่อเจเจขยับตัวเข้ามาจนชิดผมแล้วโน้มหน้าลงมา ก่อนจะประทับริมฝีปากลงมา ผมเบิกตาโต ลิ้นสากตวัดเลียริมฝีปากผมโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัวแล้วเลื่อนใบหน้าคลี่รอยยิ้มเคลือบยาพิษให้ผมจนรู้สึกขนลุกซู่
“มึงทำอะไร!?” เสียงที่คุ้นหูเอ่ยขึ้นก่อนที่จะมีแรงดึงผมให้ถอยหลังพร้อมกับผลักอกของเจเจจนเซไปสามสี่ก้าว
ผมยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง บ้าที่สุด เด็กคนนี้ ร้ายกาจที่สุดเลย!
“ลี” ผมมองใบหน้าราวอสูรกายของผู้ชายที่กอดผมเอาไว้ด้วยแรงเกือบทั้งหมดที่มี มันช่างดูน่ากลัว น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยเห็นลีมันทำเลยล่ะ
“อย่า มา ยุ่ง กับ ของ ของ กู!” ลีเอ่ยเน้นทีละคำ เจเจกัดปากแน่น จิกสายตามองมาที่ผม
“จะฟ้องป๊า” อ้าว ขี้ฟ้องนี่
“เรื่องของมึง” พูดจบก็ลากแขนผมออกจากซอกตึกกว้างแค่ไม่กี่เมตรนั่น
“ลี กูเจ็บ” ผมเอ่ยออกมาตื่นๆ ความจริงก็ไม่ได้อยากบอกหรอกถ้ามันอยู่ในระดับที่มันทนได้น่ะนะ
“มันทำอะไรมึง?” มันคลายแรงลงแล้วพูดด้วยสีหน้าโคตรน่ากลัว อย่าฆ่ากูเลยนะ ขอร้อง
“ไม่ ไม่ได้ทำอะไร” ฮือ กูกลัวอ่ะ
“โกหก กูเห็นอยู่ว่ามันจูบมึง มึงยังจะปกป้องมันเหรอ!?” ผมน้ำตาคลอเบ้า ฮือ กูไม่ผิดสักหน่อย
“มันใช้ลิ้นมั้ย?” ฮือ นี่ขนาดแค่ปากแตะปากยังยังโกรธขนาดนี้แล้วถ้ามันสอดลิ้นเข้ามานะ กูจะรอดมั้ยเนี่ย?
“ไม่ แค่……..เลีย” ตอนแรกก็จะตอบแค่ไม่ล่ะนะ แต่ลีแม่งมองโคตรคาดคั้นอ่ะ มึงเคยฆ่าคนด้วยสายตามั้ย?
“อืม อือ จุ๊บ” ลีโน้มหน้าลงมากดจูบหนักๆ ตามด้วยลิ้นสากที่แทรกเข้ามาตวัดกับลิ้นเล็กของผม
“อย่าเข้าใกล้มันอีกนะ!” พูดจบก็ประทับริมฝีปากลงมาอีก โอย จะละลาย รู้สึกดีจัง -///-
“อื้อ”แล้วก็จูบผมอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
“กูรักมึงนะ”ลีเอาหน้าผากมาชนกับหน้าผากผม ดูอารมณ์จะเย็นลงมาหน่อยนึงนะ
“อือ” ผมเขย่งปลายเท้าเพิ่มความสูงแล้วแตะริมฝีปากตัวเองบนกลีบปากสวยๆ ของลี แต่ก็แค่แตะน่ะนะ
………………………………………………………………………………
To be continued
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ