ลุ้นรัก...นางร้ายเจ้าเสน่ห์
เขียนโดย ploynin
วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.55 น.
แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557 20.54 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) เมื่อนางร้ายเป็นข่าว (ต่อ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ ตรงไปที่โทรศัพท์ซึ่งเป็นแบบเครื่องตอบรับแบบอัตโนมัติเพื่อฟังข้อความที่ฝากไว้
‘คุณมี 12 ข้อความที่ฝากไว้’
ข้อความที่ 1
‘เดย์ พ่อนะลูก พ่อจะกลับไทยเย็นนี้แล้ว อยากได้อะไรก็โทรมาก่อนเที่ยงนะลูก’
ข้อความที่ 2
‘เดย์ พ่อนะลูก พ่อกำลังจะขึ้นเครื่อง ถึงลูกไม่สั่งของฝากอะไรแต่ยังไงพ่อก็มีของฝากให้ลูกอยู่ดี’
ข้อความที่ 3
‘พี่เดย์ ไนท์นะครับ ผมโทรเข้าเครื่องพี่แล้วแต่ปิดเครื่อง เปิดเครื่องแล้วโทรกลับผมหน่อย’
ข้อความที่ 3 นี้ทำให้ร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำเดินตรงไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนกดไล่หาข้อความที่บางทีน้องชายเธออาจจะฝากไว้ แต่ไม่มี มีเพียงเบอร์ที่โชว์เข้ามาในเครื่องเท่านั้นว่าโทรเข้ามาเป็นจำนวน 3 ครั้งช่วงหัวค่ำ ร่างบางเดินไปทิ้งตัวลงที่โซฟาข้างๆ เครื่องตอบรับอัตโนมัติเพื่อฟังข้อความที่ฝากไว้ทั้งหมดเสียก่อน
ข้อความที่ 4
‘พี่เดย์ ไนท์นะครับ กลับถึงห้องรึยัง’
ข้อความที่ 5
‘คุณรพีกาล ดิฉันมธุรสนะค่ะ จากสำนักพิมพ์พฤกษาค่ะ ทางเราสนใจงานแปลของคุณ หากมีโอกาสได้ร่วมงานกัน รบกวนคุณรพีกาลเข้ามาพบที่สำนักพิมพ์พฤกษาเพื่อเข้ามาคุยรายละเอียดกันให้มากกว่านี้นะค่ะ ขอบคุณคะ’
ข้อความที่ 6
‘จากสำนักพิมพ์...
ข้อความที่ 7
‘จากสำนักพิมพ์...
ข้อความที่ 8
‘จากสำนักพิมพ์…
ข้อความที่ 9
‘จากสำนักพิมพ์…
ข้อความที่ 10
‘จากสำนักพิมพ์…
ข้อความที่ 5 เป็นข้อความจากสำนักพิมพ์ที่เธอเคยเอาผลงานเข้าไปให้ดูเพื่อจะของสมัครงานในส่วนของงานแปล ซึ่งสำนักพิมพ์นี้หญิงสาวรอฟังผลอยู่ สร้างความยินดีไม่น้อยสำหรับเธอที่เจอข่าวๆ แย่ๆ ช่วงนี้ข้อความที่ 6 ถึง 10 เป็นข้อความจากสำนักพิมพ์หนังสือบันเทิง ซึ่งการที่โทรมาหาเธอช่วงนี้คงไม่พ้นเรื่องที่เธอกำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้เป็นแน่ ร่างบางไม่ได้สนใจเลยสักนิด จึงปล่อยให้ข้อความเหล่านั้นผ่านไปเพื่อฟังข้อความต่อไป
ข้อความที่ 11
‘คุณเดย์ ดิฉันพิมภกาค่ะ ดิฉันโทรมาเตือน อย่างทำเรื่องให้คุณพ่อเสื่อมเสียชื่อเสียงนะค่ะ แค่เต้นกินรำกินทุกวันนี้ถ้าใครรู้ว่าคุณเป็นลูกสาวของเจ้าสัวชัยบดินทร์เกียรติแล้ว ท่านก็จะขายขี้หน้าเอาได้’
ข้อความเตือนจากภรรยาคนปัจจุบันของคุณพ่อเธอส่งมาให้ ร่างบางคิดในใจ ‘แล้วทุกวันนี้มีใครรู้บ้างว่าพ่อเธอมีลูกสาว’ เป็นที่รู้กันในวงสังคมว่า เจ้าสัวชัยบดินทร์เกียรติ มีน้องไนท์ หรือนายรัตติกาล เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้น ยังแปลกใจว่า ผู้หญิงที่ชื่อพิมภกามาเดือดร้อนอะไร ในเมื่อ... ร่างบางหยุดความคิดเพราะข้อความต่อมา
ข้อความที่ 12
‘พี่เดย์ ไนท์นะครับ พี่เดย์ถึงห้องแล้วโทรหาไนท์ด่วนที่สุดนะครับ’
ข้อความสุดท้ายเป็นข้อความของน้องชายสุดรัก กำชับให้เธอโทรหาอย่างเร่งด่วน ร่างบางนั่งคิดว่าจะโทรดีมั้ย เพราะถึงจะรักน้องมากแค่ไหน แต่การติดต่อกันมันอาจทำให้ใครหลายๆ คนรู้เรื่องของครอบครัวเธอก็เป็นได้ ช่วงกำลังใช้ความคิดเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ในมือพอดี พอมองที่หน้าจอก็รู้ว่าเป็นเบอร์ของน้องชายเธอนั่นเอง ร่างบางถอนหายใจก่อนกดรับสาย
“ว่าไงไนท์”
“พี่เดย์! ถึงห้องนานรึยัง”
“พี่เพิ่งมาถึง เพิ่งฟังข้อความจากเครื่องตอบรับเสร็จ”
“หรอครับ พี่เดย์วันนี้ไนท์ไปนอนด้วยได้มั้ย” น้องชายบอกธุระ
“ไม่ดีมั้ง” ร่างบางเปรยอย่างใช้ความคิด
“นะครับพี่เดย์ ไนท์มีเรื่องจะปรึกษา จะรอคุณพ่อกลับมาก็ไม่ได้ นะครับ น๊า...” เสียงออดอ้อนที่ทำให้เธอใจอ่อนได้ทุกทีจนเผลอตอบตกลง
“ได้ ตอนนี้อยู่แล้ว”
“ไนท์อยู่ข้างล่าง ยามหน้าคอนโดไม่ให้ขึ้นไป”
“อืม อยู่นั่นก่อน เดี๋ยวพี่โทรไปที่ป้อมข้างล่างบอกยามเขาก่อน” ร่างบางวางสายน้องชาย แล้วตรงไปที่โทรศัพท์ภายในกดลงไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านล่างอนุญาตให้น้องชายเธอขึ้นมา รอสักพักก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
“ขอบคุณนะครับ” ไนท์กล่าวขอบคุณยามที่มาส่งเขาถึงห้องพี่สาว
“สวัสดีครับพี่เดย์ ไนท์ขอรบกวนหน่อยนะ” พอเห็นหน้าพี่สาวก็ยกมือไหว้สวัสดีอย่างที่คุณแม่สอนก่อนพาตัวเองเดินเข้าห้องโดยที่พี่สาวสุดที่รักหลีกทางให้แต่ไม่พูดอะไร
พอเข้าห้องมาได้ น้องชายตัวดีก็ตรงไปที่โซฟาแล้วทิ้งตัวลงไปนอนฟุบ ส่วนกระเป๋าที่ถือมาด้วยก็วางแหมะลงข้างๆ ตัว แต่เป็นด้านล่างของโซฟาที่ตัวเองนอน
“ไปไงมาไงละไนท์”
“โธ่! พี่เดย์ จะเย็นชาไปมั้ย ไม่เห็นกอดไนท์เหมือนเมื่อก่อนเลยอะ” น้องชายว่างอนๆ ก่อนกางแขนออกเป็นเชิงเรียกร้องให้พี่สาวกอดเหมือนเมื่อก่อน เดย์เองก็ใจอ่อนเหมือนเดิม ตรงเข้าไปกอดน้องรักรับขวัญเหมือนที่เคยทำ พอชื่นใจแล้วก็เริ่มเข้าประเด็นเพราะน้องรักบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา
“แล้วมีเรื่องอะไร ฟังจากเสียงแล้วเหมือนเรื่องด่วนเลยนะนั่นน่ะ”
คำตอบนั้นยังไม่ได้จากคนที่ต้องตอบ เพียงแต่กระชอบกอดรอบเอวบางของพี่สาวแน่นขึ้นแล้วถอนหายใจเหมือนต้องการทางออก
“ไนท์อยากเรียนอักษร แล้วก็ภาษาเหมือนพี่เดย์ แต่คุณน้าพิมภกาไม่ให้เรียนบอกว่าเรียนไปก็ไปใช้อะไรไม่ได้ เพราะไนท์จบมาแล้วต้องมาช่วยงานคุณพ่อที่บริษัทต้องเรียนบริหารเท่านั้น เห็นน้าเขาบอกจะไปคุยกับคุณพ่อให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็คงจะเสริมแต่งว่าไนท์อยากเรียนเองอีกนั่นแหละ”
“แล้วคุณพ่อว่าไงล่ะ”
“คุณพ่อยังไม่พูดอะไรเพราะยังไม่กลับจากฝรั่งเศส”
“พรุ่งนี้ก็พูดด้วยซะสิ เห็นโทรมาเมื่อเช้าบอกว่าจะขึ้นเครื่องเย็นนี้นิ”
“หรอครับ คุณพ่อโทรหาพี่เดย์ด้วยหรอ ทีไนท์ไม่เห็นจะโทรมาเลย” ว่าอย่างงอนๆ
“ไม่เอาน่า ท่านคงเห็นว่ากลับมายังไงก็เจอเราน่ะ”
“พี่เดย์ แม่น้ำเป็นไงบ้าง ไนท์อยากไปเยี่ยมจัง” เสียงเศร้าสร้อยนี้ทำให้เธอนึกสะท้อนใจ ถ้าหากน้องไนท์ไปเยี่ยมแม่น้ำ บางทีอาการท่านอาจจะดีขึ้นเพราะได้เจอลูกรักอีกคน แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่มันจะแย่ลงเพราะเจอแล้วต้องจากอีก ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะให้แม่และลูกชายไม่ได้เจอกันดีกว่า เพราะเธอทนรับความเสี่ยงอะไรตอนนี้ไม่ได้ ขอให้แม่ของเธอการดีขึ้นกว่านี้อีกหน่อยจะดีกว่า
“แม่น้ำสบายดี แต่คุณหมออยากให้อยู่ใกล้ท่านก่อน อีกอย่างพี่ก็มีเวลาน้อยกลัวจะปล่อยท่านทิ้งไว้ที่คอนโดคนเดียวไม่มีใครดูแล พี่จ้างพยาบาลพิเศษไว้ดูแลท่านโดยเฉพาะแล้วหละ ไมต้องห่วงนะ”
“จ้างพยาบาลพิเศษต้องใช้เงินเยอะ แถมค่าการดูแลรักษาพยาบาลอีก พี่เดย์เดือดร้อนรึเปล่า ไนท์พอมี เอาของไนท์ไปใช้ได้นะ ยังไงแม่น้ำก็เป็นแม่ของไนท์ ไนท์ควรที่จะต้องช่วยแบ่งเบาพี่เดย์บ้าง” ร่างบางมองน้องชายด้วยสายตาอาดูร เอ็นดูกับความคิดแสนบริสุทธิ์นั้น
“ไม่เป็นไรหรอกไนท์ พี่พอมี เงินทองน่ะหาได้เรื่อยๆ แหละ ว่าแต่เราน่ะ ตั้งใจเรียนดีรึเปล่า นี่คงเถียงกับคุณพิมภกามาละสิเรื่องเลือกเรียนน่ะ การเลือกน่ะ เร็วได้เท่าไรก็จะรู้ทิศทางแล้วเตรียมการพร้อมได้เร็ว แต่หากเลือกช้า ความพร้อมนั้นมันก็จะถูกย้ายออกไป เข้าใจที่พี่พูดมั้ย”
“เข้าใจครับ พรุ่งนี้คุณพ่อกลับมาไนท์จะพูดกับคุณพ่อตรงๆ ไปเลยว่าไนท์อยากเรียนอักษร แล้วก็เลือกที่จะเรียนอักษรด้วย” ว่าแล้วพุ่งตัวกอดพี่สาวอีกครั้ง กอดพอชื่นใจก็คลายกอดออก
“พี่เดย์ของไนท์สวยขนาดนี้ เป็นดาราด้วย แล้วทำไมเขาไม่ให้บทนางเอกนะ” นั่งพิจดวงหน้าพี่สาว
“ก็เพราะสวยไง ถึงได้เป็นนางร้าย” เดย์พูดพร้อมสะแยะยิ้มน้อยๆ แกล้งส่งสายตาแวววาวใส่น้องชาย
“นี่ไงๆ พี่เดย์ต้องทำท่านี้ให้เขาเห็นแน่เลย เขาถึงให้พี่เดย์เล่นบทร้ายๆ ทั้งนั้นเลย”
“ก็ประมาณนั้น”
“พี่เดย์ของไนท์น่ะ ความจริงแล้วออกจะนางเอ๊กนางเอก ตาต่ำ! ไม่มีแววเลยพวกนี้”
“ไม่เอาละ ไปอาบน้ำไป จะได้นอนกันสักที พรุ่งนี้พี่มีงานต้องไปทำแต่เช้านะ แล้วพี่จะแวะไปส่งที่โรงเรียนแล้วกัน”
“ครับ ไปนะ” ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ ไนท์เดินผ่านโต๊ะหนังสือของเดย์ก็ต้องสะดุด
“พี่เดย์” เสียงร้องตกอกตกใจของน้องชายทำให้ร่างบางต้องลุกจากโซฟาแล้วตรงไปที่ต้นเสียง
“อะไรไนท์ ร้องซะเสียงดังเชียว”
“พี่เดย์มีหนังสือนี่ด้วยอะ” พร้อมชูหนังสือเล่มที่ตนเองสนใจ
“แล้วไง”
“เย็นชาอีกแล้ว” หนุ่มน้อยทำเสียงขุ่นแก้มป่องกับคำถามของพี่สาว แต่ก็ต้องรีบอธิบายเพราะสายตาดุๆ ที่ส่งมา “ไนท์เพิ่งคุยกับนิคเกทเรื่องหนังสีอนี่ ไนท์อยากได้ ไนท์เลยให้นิคเกทซื้อแล้วส่งมาให้ ไม่คิดว่าที่ไทยก็มีขายด้วย”
“ไม่มีหรอก เรื่องนี้ทางสำนักพิมพ์เพิ่งให้พี่มาแปล”
“หรอฮะ...” เสียงอ่อยๆ อย่างนี้ทำให้ร่างบางพอรู้ว่าน้องชายคิดจะยืมไปอ่านแน่ แต่เสียใจจริงๆ ตอนนี้เธอทำงานกับเรื่องนี้อยู่ คงให้ไม่ได้จริงๆ
“ไนท์สั่งนิคเกทเขาซื้อแล้วนิ อีกไม่นานคงได้หรอก อดใจไว้”
ไนท์พ่นลมออกมาระงับความอยากของตัวเอง เพราะเข้าใจในงานของพี่สาว แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏเหมือนยินดีอะไรสักอย่างแล้วร่างบางก็กระจ่างเมื่อ
“ไนท์จะรอผลงานแปลเรื่องนี้ของพี่เดย์นะครับ ถึงไนท์จะอ่านก่อนก็เถอะ แต่ไนท์จะรออ่านผลงานพี่เดย์ด้วย” พูดอย่างร่าเริงก่อนวางหนังสือแล้วตรงเข้าห้องน้ำทันที
เดย์ยิ้มสุขใจ ก่อนเดินตรงไปโต๊ะทำงานเพื่อท่องบทที่ต้องเล่นพรุ่งนี้ รวมถึงเตรียมงานแปลที่จะเอาไปทำด้วย เธอมักจะนั่งวางแผนเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้ก่อนเข้านอนเสมอๆ ในขณะเดียวกันก็ท่องบทของวันพรุ่งนี้เช่นกัน
พอท่องบททบทวนจนจำขึ้นใจแล้ว ก็เตรียมเก็บของเพื่อที่พรุ่งนี้ออกจากห้องจะได้ไม่ต้องหาอะไรให้วุ่นวาย เสร็จแล้วก็ออกมาดูภายในห้อง ตรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง ปิดไฟแล้วเข้าห้องนอน ไนท์ซึ่งเข้ามานอนก่อนก็หลับไปเป็นที่เรียบร้อย เธอรู้ว่าน้องมักหาเหตุผลมาหาเธอเสมอเมื่อมีโอกาส นึกสงสารนักเพราะรู้ว่าน้องไม่เต็มใจที่จะไปอยู่กับพ่อ แต่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ
ร่างบางเดินมาทิ้งตัวลงข้างน้องชายที่เหลือที่ไว้สำหรับเธอ ถึงโตแล้ว แต่ไนท์ก็ไม่คิดที่จะแยกเตียงนอนกับเธอเสียที่ แล้วการที่ไปอยู่กับคุณพ่อ ถึงจะห่างกันแต่พอมีโอกาส ไนท์ก็จะกลับมานอนกับเธอเหมือนเดิม ช่วงแรกที่น้องกลับมาหา ร่างบางพยายามให้น้องรักนอนที่ฟูกบนพื้นหรือไม่ก็โซฟาในห้องรับแขก แต่สุดท้ายเช้ามาก็เห็นขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกับเธอเสมอ จึงรู้ว่าไม่เป็นผลที่จะแยกให้เขาได้นอนเองคนเดียวในระหว่างที่อยู่กับเธอ
“ไนท์! ตื่นได้แล้ว วันนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้านะ” เสียงเรียกน้องชายขี้เซาที่นอนอยู่บนเตียงดังขึ้น ร่างบางของเดย์อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเดินไปเดินมาในห้องเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ สำหรับเธอและน้องเสร็จแล้ว แต่คนกินยังไม่ขุดตัวเองออกจากที่นอน
“อืม...” เสียงงัวเงียบ่งบอกความไม่เต็มใจ ในขณะที่ปากก็ขอต่อเวลาแสนสุขนี้อีกสักหน่อย“ไนท์ขออีก 5 นาทีนะพี่เดย์”
“นาทีเดียวก็ไม่ได้ ลุกเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นจะไม่ให้มาอีกแล้วนะ” คำขาดนี้ทำให้ไนท์ต้องยอมลุกจากเตียงทั้งที่ไม่เต็มใจ เดินเข้าห้องน้ำจัดการกับตัวเองให้ตื่นเต็มตาก่อนออกมาแต่งตัวซึ่งพี่เดย์ได้เตรียมชุดนักศึกษาที่รีดเรียบร้อยแล้ววางไว้ปลายเตียงให้
“พี่เดย์ของไนท์นี่น่ารักเสมอเลย เตรียมไว้ให้พร้อม ใครได้ไปเป็นศรีภรรยารับรองเลยว่าคนๆ นั้นโชคดีสุดๆ” ไนท์พึมพำกับตัวเองพรางแต่งตัวไปด้วยจนเสร็จแล้วเดินออกไปที่โต๊ะอาหารก็พบอาหารเช้าส่วนของตัวเองวางไว้ให้แล้ว
“แล้วของพี่เดย์ละ” ถามเพราะไม่เห็นส่วนของพี่สาว และพอเขาเข้ามาก็เห็นพี่สาวของตัวเองนั่งอ่านอะไรในมือและด้านหน้ามีแค่แก้วกาแฟที่มีของเหลวสีดำๆ ข้างในเท่านั้น
“พี่กินแล้ว ไนท์รีบกินเร็วๆ ออกสายเดี๋ยวรถติดก็ถึงโรงเรียนช้ากันพอดี” เมื่อได้คำตอบแล้วน้องชายก็เริ่มลงมือกินทันที ถึงเป็นแค่ซีเรียลกับนม แล้วก็ขนมปังปิ้งทาแยมส้มอีก 2 แผ่น แต่ในความคิดของน้องชาย มันดีกว่าอาหารหรูที่บ้านพ่อจัดให้เขาทุกเช้าเสียอีก เพราะมันสัมผัสได้ถึงความรักที่คนทำๆ ให้ ในขณะที่ที่โน่นเขาเอือมระอากับความเสแสร้งของคุณนายของบ้านเสียเหลือเกิน
สองพี่น้องทานอาหารเช้าเสร็จก็ช่วยกันเก็บโต๊ะ นำจานที่ใช้แล้วไปไว้ที่ซิงค์ล้างจานเปิดน้ำแช่ไว้เล็กน้อย เดย์ให้น้องชายรีบออกเดินทางส่วนงานที่เหลือเธอจะกลับมาทำเองหลังเสร็จงานวันนี้ สองพี่น้องเดินไปรอรถที่หน้าคอนโด ซึ่งก่อนหน้านั้นเดย์ให้ รปภ. เรียกไว้ให้ ทั้งสองขึ้นรถออกไปพร้อมกันโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีปาปารัสซี่แอบซุ่มอยู่ด้านหน้าคอนโด
ร่างบางมาส่งน้องชายที่หน้าโรงเรียนแล้วโดยไม่ได้ลงจากรถ เพียงแต่สั่งให้น้องรักตั้งใจเรียนให้เต็มที่เท่านั้น จากนั้นก็ให้รถไปส่งที่สตูดิโอซึ่งเป็นที่ถ่ายทำละครอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องนี้เธอไม่ได้ประกบนางเอกหมายเลขหนึ่งอย่างเกรท ละครเรื่องนี้ถึงเธอจะเล่นเป็นตัวร้าย แต่ร้ายแบบตลกโนะเนะเลยทำให้เธอได้คลายเครียดไปหน่อยจากเรื่องอื่นที่รับไว้ ซึ่งเป็นบทที่ค่อนข้างเป็นบทอารมณ์เสียส่วนใหญ่ เดย์ถ่ายซีนสุดท้ายเสร็จก็ได้พัก เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวต้อนรับบุคคลที่นัดหมาย และไม่นานเกินรอก็ได้ยินเสียงแจ๋วๆ วิ่งมาอย่างดีอกดีใจ
“พี่เดย์”
ร่างบางอ้าแขนรับด้วยความยินดี พร้อมกอดและหอมแก้มแลกกันอยู่จนหายคิดถึงทั้งคู่จึงผละออกจากกัน
“เป็นไงค่ะ กรุงเทพฯ เหนื่อยมั้ยคนดี”
“ก็งั้นๆ ค่ะ กุ๊กไก่เริ่มชินละ”
“ว่าแต่วันนี้มาแค่คิดถึงหรือว่า...”
“แน่นอนค่ะ มาเอาของขวัญวันเกิดสิค่ะ” เด็กน้อยทำตาแวววาว
“ขี้งก” ร่างบางบีบจมูกด้วยความหมั่นเขี้ยวเอ็นดู
“งั้นก็” ร่างบางจับของขวัญในถุงออกมา ซึ่งเป็นตุ๊กตาถักไหมพรมตัวใหญ่เกือบเด็กน้อยกอดไม่รอบ
“พี่เดย์ใจดีที่สุดเลย” น้องกุ๊กไก่ด๊อดมาหอมแก้มร่างบางอย่างดีอกดีใจ
การกระทำของสองสาวต่างวัยอยู่ในสายตาของกิตติภพตลอด เขาปล่อยให้หลานสาวเดินเข้ามาหาหญิงสาวแล้วปล่อยให้คุยกันให้พอใจเพราะรู้นิสัยหลานรักว่าไม่ชอบให้ใครขัดจังหวะ ส่วนเขาค่อยๆ เดินตามมาเรื่อยๆ และพอเห็นช่องได้ก็ต้องรีบสอดไว้ก่อนเพราะเดี๋ยวแม่หลานสาวตัวดีจะจ้อไม่หยุดจนไม่ได้ไปไหนกัน
“พอก่อนค่ะ เดี๋ยวคุณป้าเขารอนานนะ แล้วงานวันเกิดใครจะล่มก็น่าจะรู้” กิตติภพพูดแซวๆ ทำให้ร่างเล็กของหลานรักต้องรีบเอ่ยชวนร่างบาง
“พี่เดย์ค่ะ วันนี้วันเกิดกุ๊กไก่คุณป้าฑริกาเขาจองร้านเลี้ยงฉลองให้ พี่เดย์ไปกับกุ๊กไก่นะค่ะ”
ร่างบางทำท่าลำบากใจ เพราะตั้งใจว่าจะไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปคุยเป็นเพื่อนมารดาอย่างทุกที แต่เจอลูกอ้อนของเด็กน้อยก็ทำให้ใจอ่อนยอมไปด้วยจนได้
“นะค่ะ พี่เดย์นะ” พูดพลางพยักหน้าเชิญชวนหงึกๆ
“นะครับคุณเดย์ ถือว่าเป็นการเลี้ยงขอบคุณสำหรับของขวัญ รวมถึงเลี้ยงส่งยัยกุ๊กไก่ด้วย เพราะพรุ่งนี้ผมต้องลงไปหาดใหญ่พร้อมกับตัวเล็กนี้ด้วย”
“ค่ะ ยินดีค่ะ”
สามคนเดินจูงมือกันไปโดยมีเด็กน้อยยิ้มลัลล้าอยู่ตรงกลาง ตรงไปที่รถที่จอดไว้เพื่อไปยังร้านที่ได้จองไว้ หากใครไม่รู้ก็จะคิดว่าเป็นครอบครัวๆ หนึ่งที่ประกอบไปด้วยพ่อแม่ลูก อย่างแน่นอน และการกระทำเหล่านี้ก็ถูกบันทึกภาพไว้เช่นเคย
ทั้งสามมาถึงร้านที่บุญฑริกาได้จองไว้ และมีบุญฑริกานั่งรออยู่แล้วโบกมือเรียกเมื่อเห็นทั้งสามคนเดินเข้ามา
“แหมๆ! นี่ถ้าใครไม่รู้เขาคงคิดว่าเป็นครอบครัวเดียวกันนะเนี๊ยะ” บุญฑริกาเปิดฉากแซว
“ก็ดีสิค่ะ” น้องกุ๊กไก่พูดพร้อมกับหัวเราะถูกใจ
“ดียังไงครับคนเก่ง” กิตติภพถามหลานรัก
“ก็กุ๊กไก่จะได้มีคุณพ่อหน้าตาหล่อๆ แล้วก็คุณแม่หน้าตาสวยๆ ไงค่ะ” เด็กน้อยพูดตามที่ตัวเองคิด
“งั้นไม่เอาพ่อแม่ที่บ้านแล้วใช่มั้ย” บุญฑริกาแซวหลานรัก
“เอาค่ะ เอาไว้บนหิ้งไว้บูชา ส่วนอากิตกับพี่เดย์เอาไว้ออกงานไงค่ะ”
พอได้ยินการจัดแจงของเด็กน้อยแล้วทั้งสามก็หัวเราะขบขันกับความคิดนั้น เดย์เองก็พลอยมีความสุข เด็กน้อยกุ๊กไก่ทำให้เธอมีความสุขและหัวเราะได้ทุกครั้งจริงๆ
“อันนี้ของขวัญใครให้ค่ะนี่ ใหญ่เสียด้วย” บุญฑริกาถามหลานรัก
“อันนี้ของพี่เดย์ทำให้ค่ะ” เด็กน้อยหันไปกอดตุ๊กตาที่เพิ่งได้โชว์คุณป้า
“น้องเดย์ทำเองหรอค่ะนี่” บุญฑริกามองตุ๊กตาถักตัวใหญ่ในมือหลานสาวแล้วแทบไม่เชื่อ เพราะคิดว่าผู้หญิงสาววัยอย่างเดย์ไม่น่าสนใจงานพวกนี้แล้วก็ไม่น่าจะทำเป็นด้วย
“ค่ะ เดย์ทำเอง อาจจะไม่มีราคาค่างวดแต่เดย์ก็ตั้งใจทำสุดฝีมือเลยค่ะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นคะน้องเดย์ มันสวยมาก แล้วพี่คิดว่ารุ่นน้องเดย์คงไม่มีใครมานั่งทนหลังขดหลังแข็งทำของพวกนี้กันหรอก”
“เดย์เห็นว่าน้องกุ๊กไก่แกอยากได้นะค่ะ แล้วเดย์พอมีเวลาเลยทำให้”
“รบกวนน้องเดย์มากเลยสิค่ะ”
“ไม่หรอกค่ะ เดย์เต็มใจ แล้วเดย์ก็ดีใจด้วยที่คนรับเขาถูกใจ” ร่างบางหันไปมองเด็กน้อยทีเอาแต่กอดตุ๊กตาในมือที นั่งคุยกับอาผู้ชายที่ หัวเราะชอบใจของขวัญของเธอแล้วกอดไม่ปล่อยตั้งแต่ได้มาแล้ว
ทั้งสี่นั่งทานอาหารเนื่องในงานเลี้ยงวันเกิดของเด็กน้อยจนเวลาล่วงมาถึงห้าโมงเย็นเดย์จึงขอตัวกลับเพราะต้องไปธุระต่อ ซึ่งทางเด็กน้อยถึงแม้จะทำหน้าเศร้าแต่ก็เข้าใจและไม่งอแงอีก กิตติภพอาสาขับรถไปส่ง แต่เดย์ห้ามไว้เพราะเห็นว่าน้องกุ๊กไก่ยังสนุกกับการกินอาหารที่ร้านอยู่ แม้บุญฑริกาจะเสริมให้ไปส่งแต่เดย์ก็ยังปฏิเสธเพราะเกรงใจจริงๆ สุดท้ายสองพี่น้องเลยปล่อยให้เป็นไปตามที่ร่างบางต้องการ
つづく.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ