ลุ้นรัก...นางร้ายเจ้าเสน่ห์

-

เขียนโดย ploynin

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.55 น.

  18 ตอน
  1 วิจารณ์
  21.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557 20.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) รุกเท่านั้นจึงทำให้เธอได้รู้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“คุณเดย์ทำงามหน้าแล้วค่ะคุณแม่” เสียงร้องตกใจกับข่าวที่ได้อ่านพร้อมกับคำตำหนิบอกหญิงชราที่มีศักดิ์เป็นมารดาของสามีที่นั่งป้อนอาหารเช้าให้สามีตัวเองอยู่ได้รับรู้

          “งามหน้าอะไรหรอ แม่พิม” หญิงชราถามอย่างสงสัย

          “ก็ข่าวที่เขียนออกมานี่สิค่ะคุณแม่ บอกว่าคุณเดย์ไปแย้งแฟนของนางเอกดังอยู่ตอนนี้”

          “แล้วเราไปเกี่ยวอะไรกับเขา” ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงถามเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเดือดเป็นร้อน เพราะทุกวันนี้ก็ไม่มีใครรู้ความเกี่ยวข้องของครอบครัวตัวเอง

          “เสียสิค่ะคุณพี่ ถึงใครไม่รู้แต่เรารู้ ทำอะไรไม่รักษาหน้ากันบ้างเลย คุณพี่ก็เข้าข้างแต่แม่เดย์ ให้ท้ายกันตั้งแต่เด็ก”

          “ก็หลานไม่ได้ทำอะไรผิด มีแต่เราเองที่ตื่นตูมกันไปเอง”

          “แหม รักกันเหลือเกิน แล้วนี่! ฉันให้แม่พิมไปตามมาเยี่ยมคุณ ไม่เห็นจะมาเลย เห็นถึงความใจดำของแม่เดย์รึยัง คุณยังจะรักเทิดทูลกันอยู่ได้”

          “หลานคนนี้ก็เหมือนลูกของเรา นิสัยเหมือนกันทุกอย่าง เจอคุณพูดต่อหน้าไปแบบนั้นมีหรือจะมา”

          “นี่คุณพี่ว่าฉันผิดหรอค่ะ”

          “แล้วผิดจริงมั้ยละ”

          “ฉันไม่พูดกับคุณพี่แล้ว”

          “คนแก่ไม่รู้จักผิด ลูกหลานมันถึงไม่เข้าหา”

          “เอ๊ะ! คุณพี่”

          สองสามีภรรยาต่างทุ่มเถียงกันอยู่เป็นพัก จบที่ภรรยาที่เถียงไม่ขึ้นจึงเงียบไป ทุกอย่างอยู่ในสายตาของพิมภกาตลอดเวลา เธอไม่จำเป็นต้องห้ามเพราะเห็นว่าไม่ควรสอดเรื่องผู้ใหญ่ ดูไปอาจเหมือนมีมารยาท แต่อีกความหมายที่แท้จริงคือต้องการให้ความดันของผู้สูงอายุทั้งสองขึ้น เพื่อทำให้ร่างกายเกิดปัญหาขึ้นตามมาภายหลัง

          ก๊อกๆ

          “สวัสดีครับคุณปู่คุณย่า” เสียงทักทายแจ่มใส่ของเด็กหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเดินสวัสดีมาตลอดทางจนเข้าสู่อ้อมกอดของคนเป็นย่า

          “จ้า หลานรัก เป็นไงวันนี้เรียนได้มั้ย” ถามอย่างอารมณ์ดี

          “สวัสดีครับน้าพิม” ไม่ลืมสวัสดีหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่มุมห้องก่อน แล้วหันมาสนใจคุยกับย่าของตัวเองต่อ

          “เรียนได้ครับ วันนี้มีการบ้านนิดหน่อยมาเยี่ยมคุณปู่แล้วไนท์จะกลับไปทำครับ”

          “อู้! หลานย่าน่ารัก” หญิงชราเป็นปลื้ม

          “วันนี้คุณปู่เป็นยังไงบ้างครับ” หันมาถามชายชราที่นอนอยู่บนเตียง

          “ก็ดี แต่ปู่อยากให้พี่สาวเรามาเยี่ยมปู่บ้างน่ะ” ตอบแบบแกนๆ แต่บอกความต้องการ

          “เห็นคุณพ่อว่าจะไปบอกให้นะครับ” ไนท์ตอบ เพราะเห็นบิดาเปรยว่าจะไปคุยกับพี่สาวเรื่องที่คุณปู่เข้าโรงพยาบาลเพื่อให้พี่สาวมาเยี่ยม

          “ก็ย่าให้แม่พิมไปตามแล้ว เขาไม่มา” คนเป็นย่าเอ่ยขัด

          “หรอครับ ไม่เห็นพี่เดย์บอกไนท์เลย” ตอบพาซื่อ

          “เราไปเจอแม่เดย์มาหรอ” หญิงชราถามเอาคำตอบ

          “ครับ ก็พี่เดย์ย้ายไปอยู่คอนโดของคุณพ่อแล้ว แต่กว่าจะไปได้นะครับคุณย่า คุณพ่อต้องหลอกให้พี่เดย์ออกไปทำงานก่อนถึงจะขนของจากห้องพี่เดย์มาคอนโดใหม่ได้อ่ะ” ไนท์จาระไนเสียงแจ๋ว

          “ขนาดนั้นเชียว หยิ่งซะไม่มี”

          “จริงๆ แล้วพี่เดย์จะย้ายที่อยู่ๆ แล้วละครับ พอดีมีเรื่อง เห็นว่ามีขโมยเข้าห้อง คุณพ่อโกรธใหญ่ที่คนดูแลตึกดูแลได้ไม่ดี จะเอาเรื่อง แต่พี่เดย์ว่าแล้วก็แล้วกันไปไม่เอาเรื่องอะไร คุณพ่อเลยยื่นข้อเสนอให้ไปอยู่ที่คอนโดเรา ไม่งั้นเขาจะเอาเรื่องคนดูแลตึก พี่เดย์เลยต้องยอม”

          “มีเรื่องขนาดนั้นเลยหรอเจ้าไนท์ แล้วเจ้าเดย์เป็นไงบ้าง” ชายชราถามอย่างเป็นห่วง

          “พี่เดย์ไม่เป็นไรครับคุณปู่ เพราะตอนที่ขโมยเข้าห้องพี่เดย์ไปทำงานอยู่ข้างนอก”

          “เฮ่ย! ดีแล้วที่พ่อเราเขาย้ายพี่เราไปอยู่คอนโดของเรา แต่ทางที่ดีน่าจะให้มาอยู่บ้านเราจะดีกว่า” ชายชราเสนอ

          “คงได้หรอกครับคุณปู่ คุณปู่ก็รู้จักพี่เดย์ดี”

          “ใช่! คุณพี่ก็รู้จักแม่เดย์ดี หยิ่งผยองขนาดนั้น” คนเป็นย่าสำทับ

          “คุณก็อีกคน หลานทำอะไรให้ ตั้งแง่อยู่ได้”

          “เอ๊ะ! คุณพี่ว่าฉันอีกแล้วนะ”

          “พอก่อนครับทั้งสองคน หมดยกแล้วเอาไว้ต่อกันทีหลังนะครับ”

          ไนท์ทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามทัพเพราะเห็นว่าสองผู้สูงวัยเริ่มจะมีปากเสียโดยใช้อารมณ์กันกว่าเดิมแล้ว และเกรงว่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้สูงวัยทั้งสอง

          “ว่าแต่เราพ่อตัวดี เห็นแม่พิมบอกว่าจะเรียนบริหาร แล้วไหงเปลี่ยนไปเรียนอักษรล่ะ ทำอย่างนี้ผู้ใหญ่เขาเสียนะ แม่พิมก็อุตส่าห์ไปบอกกับพ่อชัยเสียอย่างดีเชียว” คนเป็นย่าพูดกระเง้ากระงอด เพราะเธอเองก็เห็นด้วยกับพิมภกาที่จะให้หลานชายเพียงคนเดียวเรียนบริหาร

          “แต่ไนท์อยากเรียนอักษรนิครับคุณย่า”

          “แล้วอย่างนี้ใครจะมาช่วยพ่อเรา”

          “ก็พี่เดย์ไงครับ”

          “ได้ไง ไม่เกี่ยวกันเสียหน่อย”

          “เกี่ยวหรือไม่คุณย่าก็รู้แก่ใจนะครับ อีกอย่างพี่เดย์เก่งจะตาย”

          “แต่ย่าไว้ใจอยากให้เรารับช่วงนะ ส่วนพี่สาวเราย่าไม่ไว้ใจกลัวจะเอาบริษัทไปขายประชดคนแก่”

          “คุณย่าก็ พี่เดย์ไม่ใช่คนแบบนั้นเสียหน่อย ถึงเขาจะไม่สนใจงานของคุณพ่อ แต่เชื่อไนท์สิฮะว่าพี่เดย์ทำได้”

          “แล้วหลานย่าละ”

          “ไนท์ก็ไปช่วยอีกทีหนึ่งครับ แต่ตอนนี้ขอไนท์ทำตามใจตัวเองก่อนนะครับ นะ” เสียงอ้อนดังขึ้นเป็นที่ชื่นอกชื่นใจของคนชราทั้งสอง แต่ไม่ใช่กับพิมภกาเพราะจากทั้งหมดที่พูดมามันไม่ได้มีเธออยู่ในนั้นด้วย ทำใหเธอนึกอิจฉาและหวาดระแวงว่าสุดท้ายแล้วเธอจะไม่ได้อะไรเลย

          “ไนท์ต้องขอโทษน้าพิมด้วยนะครับ แต่ไนท์อยากเรียนอักษรจริงๆ” เด็กหนุ่มขอโทษอย่างสุภาพพร้อมยกมือไหว้ ทำให้พิมภกาต้องรีบยกมือขึ้นมารับไหว้

          “ไม่เป็นไรจ๊ะน้องไนท์ น้าเข้าใจ” พูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปทำทีเป็นสนใจหนังสือพิมพ์ในมือ

          “เอ่อ น้องไนท์ แม่เดย์พี่สาวเราเขาไปแย่งแฟนใครล่ะ เห็นเป็นข่าว” คนเป็นย่าถามขึ้นอย่างสงสัย “ทำนิสัยอย่างนี้มันไม่ดีเลยนะ” แถมสำทับถึงความไม่เหมาะสม

          “โธ่! คุณย่า คนอย่างพี่เดย์จะไปแย่งของใครละครับ พี่สาวผมเขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย ลำพังแค่งานที่ทำอยู่ก็ไม่มีเวลาสนเรื่องพวกนี้แล้วครับ” น้องชายบอกกล่าวความเป็นจริง

          “แต่ข่าวมันออกมาแบบนี้นะค่ะน้องไนท์” พิมภกายื่นหนังสือพิมพ์มาให้เด็กหนุ่ม

          “ข่าวก็สักแต่เขียนๆ คอยดูไนท์จะยุให้พี่เดย์ฟ้องให้สำนักพิมพ์มันล้มละลายไปเลย” รับหนังสือพิมพ์แล้วอ่านเพียงบรรทัดเดียวที่พาดหัวแค่นั้น

          “แต่แม่เดย์ก็ไม่เห็นทำอะไร”

          “ที่ไม่ทำเพราะเห็นแก่งานที่ทำอยู่ คุณย่ารู้รึเปล่าครับว่าข่าวที่พี่เดย์มีข่าวคบคนนั้นคนนี้น่ะ ถึงแม้พี่เดย์จะเสีย แต่เรทติ้งละครที่พี่เดย์เล่นนี่พุ่งเอาๆ นะครับ”

          “ต๊าย! ยอมตัวเองเสีย แล้วคิดถึงหน้าพวกเรามั้ยนี่” พูดด้วยอคติ

          “มีข่าวขนาดว่ากิ๊กกับคุณพ่อเชียวนะครับ ไนท์อ่านแล้วอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย นึกแล้วก็ขำ” เด็กหนุ่มเล่าไปขำไป

          “ต๊าย! อย่างนี้พ่อเราก็หมดความน่าเชื่อถือสิ”

          “ก็มีบ้างครับ แต่ก็ไม่เห็นคุณพ่อเขาเดือดร้อนอะไร พี่เดย์เองก็ยังนิ่งอยู่ ไนท์ก็คิดเหมือนกันว่าสองคนนี้เขาคิดอะไรอยู่” ทำทีเป็นนึก

          “น้องไนท์ค่ะ ข่าวพวกนี้มันลิสเครดิตคุณพ่อนะค่ะ เรื่องนี้พิมไปคุยกับคุณเดย์มาแล้ว แต่ที่พิมเสียใจคือคุณเดย์เธอไม่ฟังอะไรเลย แถมยังบอกพิมกลับมาอีกนะค่ะว่ามันเรื่องของเธอไม่ให้พิมยุ่ง” ฟ้องกรายๆ

          “นี่แม่เดย์กล้าพูดขนาดนี้แล้วหรอ ไม่ได้ละ ฉันเห็นทีจะต้องไปพูดกับแม่เดย์ให้รู้เรื่องสักที ต้องให้ออกจากวงการนี้ให้ได้เลย ตัวเองควรอยู่ในที่ของตัวเอง เอาตัวเองออกไปอยู่ในที่แจ้งแบบนั้นมันยั่วให้พวกนักข่าวขุดคุ้ยขนาดไหน แล้วนี้ยังทำตัวเด่นแบบนี้อีก ถ้าพวกนักข่าวรู้ขึ้นมาว่าแม่เดย์เป็นลูกของตาชัย งานนี้ได้เสียหายไปถึงบริษัทแน่นอน”

          “นี่คุณ อย่าวิ่งเต้นนะ ถ้ากระโตกกระตากไปทำให้นักข่าวรู้ไม่ใช่ความผิดของแม่เดย์นะ เพราะคนที่จะทำให้เขารู้น่ะมันคุณเอง” สามีเตือน

          “คุณย่าไม่ต้องไปบอกพี่เดย์หรอกครับ ถึงไปตอนนี้พี่เดย์ก็ไม่อยู่เพราะไปทำงานที่ต่างจังหวัดอีกสี่ห้าวันโน่นแหละถึงจะกลับมา” เด็กหนุ่มบอกอารมณ์ดี เพราะไม่อยากเห็นการปะทะกันระหว่างพี่สาวกับผู้เป็นย่า เพราะคงเหมือนการปะทะกันระหว่างผู้เป็นย่ากับผู้เป็นพ่อ เพราะเด็กหนุ่มรู้ดีว่าพี่สาวเหมือนใคร และเขาก็เห็นอยู่บ่อยๆ ตอนที่พ่อตัวเองปะทะคารมกับคนเป็นย่า ซึ่งผลที่ตามมามีแต่ความอึดอัดเท่านั้น

          “นี่รู้ใช่มั้ยว่าฉันจะไปพูดถึงได้หนีไปทำงานที่อื่นซะอย่างนั้น”

          “นี่คุณ อย่าลาม หลานไปทำงาน”

          “คุณพี่”

          “พอครับ พอ อ๊ะ! คุณพ่อมาพอดี” เด็กหนุ่มทำหน้าที่ห้ามทัพซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่บิดาเปิดประตูห้องเข้ามา

          “สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่ อ้าว! เราก็อยู่นี่ด้วยหรอ” เจ้าสัวคนปัจจุบันทักลูกชาย

“สวัสดีครับคุณพ่อ” ลูกชายยกมือไหว้ทักทาย

“แล้วคุณพ่อเป็นไงบ้างวันนี้” ถามอาการของบิดา

“ก็ดีขึ้นแล้ว อยากกลับบ้าน”

“ผมว่าอยู่ให้หมอเขาดูอาการให้แน่ใจว่าปลอดภัยก่อนดีกว่านะครับ”

“แม่แกก็ว่างั้น” คนป่วยตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“พี่ชัยจะมาก็ไม่บอกพิม พิมจะได้เตรียมอาหารเย็นทานแบบครอบครัวที่นี่ อุตส่าห์อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา” พิมภการีบออกมาควงแขนคนเป็นสามีพูดกระเง้ากระงอนออดอ้อนเอาใจ

“ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมแวะมาเยี่ยมคุณพ่อก่อนไปงานเลี้ยงผู้บริหารตอนค่ำน่ะ”

“พ่อไม่เป็นไร แกไปทำงานเถอะ”

“ครับ คุณพ่อว่างั้นผมก็สบายใจ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

“ไปเถอะ”

“คุณพ่อไปงานเลี้ยงผ่านคอนโดรึเปล่าครับ ไนท์ขอติดรถไปเอาของก่อนกลับบ้านนะ”

“ลืมอะไรไว้ที่เพนท์เฮาส์หรอ”

“ครับ ลืมหนังสือที่เอาไปอ่านคราวที่แล้วไว้นะครับ ต้องเอาไปคืนหอสมุดพรุ่งนี้”

“นี่เราไปกวนพ่อเขาทำงานอีกแล้วหรอน้องไนท์” คนเป็นย่าท้วงเพราะเธอไม่อนุญาติให้หลานชายไปอยู่อาศัยประจำในที่พักที่ลูกชายเธออยู่ จริงๆ เธอไม่ได้ต้องการให้ลูกชายเธออยู่เพนท์เฮาส์ แต่ลูกชายมีข้ออ้างว่าเอาไว้พักช่วงที่ต้องกลับบ้านดึกเกินไป เธอจึงค้านอะไรไม่ได้ ส่วนเจ้าหลานชายตัวดีก็ชอบอ้างว่าไปพักช่วงที่ไม่มีเรียน ก็ขัดไม่ได้อีกคน

“เปล่านะครับคุณย่า ไนท์ไปก็แค่นั่งอ่านนอนอ่านหนังสือแล้วก็หลับเท่านั้นเอง ไม่เคยกวนคุณพ่อเลยนะครับ”

“แน่ใจนะ”

“แน่ใจสิครับ” ‘แต่ไปกวนพี่เดย์’คิดในใจพร้อมรอยยิ้มโปรยเสน่ห์

“แล้วไป”

“ไปงั้นรีบเลย” บิดาเร่ง

“ครับ ไปนะครับคุณย่า ไปนะครับคุณปู่ ไปนะครับน้าพิม” ยกมือไหว้ตามลำดับแล้วสะพายกระเป๋าเดินไปหาบิดา

“ไปนะครับคุณพ่อ”

“เดินทางปลอดภัยนะลูก”

“แล้ววันนี้กลับไปนอนที่บ้านรึเปล่าค่ะ” พิมภกาถาม

“วันนี้คงไม่ครับน้องพิม เพราะว่าเลิกดึกมากเลย”

“ค่ะ ฝากบอกตาเผือกด้วยว่าให้ขับรถดีๆ นะค่ะ”

“ครับ ขอบคุณครับน้องพิม”

สองสามีภรรยาแย้มยิ้มเจรจาก่อนบอกลากัน ทั้งหมดอยู่ในสายตาของสองผู้ใหญ่ที่มองกันต่างมุม คนหนึ่งปลื้มใจ ส่วนอีกคนนั้นหนักใจ แต่ก็ทำใจเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบ

คล้อยหลังออกมาจากห้องพักผู้ป่วย สองพ่อลูกเดินเคียงมาด้วยกันจนมาแต่ไม่ได้พูดอะไรกันจนมาถึงรถยนต์ที่ทั้งคู่ต้องไปด้วยกัน พอประตูรถปิดลูกชายจึงเปิดประเด็น

“คุณพ่อไม่ได้แค่มาเยี่ยมคุณปู่เฉยๆ ใช่มั้ยครับ”

ผู้เป็นบิดาไม่ได้ตอบอะไรทำให้ลูกชายถามจี้เข้าไปอีก

“ถ้าไม่มีไนท์ น้าพิม คุณย่าอยู่ตรงนั้น ไนท์ว่าคุณพ่อต้องมีเรื่องมาคุยกับคุณปู่แน่นอน”

“รู้ดีนะเรา”

“แล้วเรื่องอะไรครับ มีอะไรที่ไนท์ช่วยได้บอกไนท์ได้เลยนะ”

“เฮ่ย! พ่อหนักใจพี่สาวเรา ดื้อจริงๆ พ่ออยากให้เขามาเยี่ยมคุณปู่บ้างแต่เขาไม่ยอมเอาเสียเลย” ระบายให้ลูกชายคนเดียวฟัง

“อ๋อ ว่าแล้ว”

“ว่าอะไร”

“ก็คุณปู่นะสิฮะ พูดกับไนท์ตรงๆ เลยว่าอยากให้พี่เดย์มาเยี่ยม”

“ใช่! พ่อก็ไปพูดให้แล้ว แต่พี่เขาทิฐิแรงเหลือเกิน”

“ก็ลูกคุณพ่อนิครับ”

“ใช่! ลูกพ่อ แต่ไนท์ก็ลูกพ่อทำไมไม่พูดยากเหมือนพี่เขาเลย”

“ไนท์ได้นิสัยคุณแม่มาเยอะไงครับ คุณแม่น่ะทำแข็งได้ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็อ่อน แต่พี่เดย์นี่สิถึงจะบอกว่าเหมือนคุณพ่อ แต่บอกได้เลยว่าแข็งทั้งนอกแล้วก็ใน นอกแข็งยังไงในแข็งยิ่งกว่า”

“ใช่! พ่อก็ชักห่วง เพราะพี่เขาเป็นอย่างนี้ งานบางอย่างถึงไม่เหมาะกับเขาเลย อีกอย่างมองไปถึงอนาคตพ่อก็กังวลว่าใครจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาได้”

“เรื่องนั้นไนท์คุยกับพี่เดย์แล้ว”

“พี่เขาว่าไง”

“พี่เขาว่าอยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป ไม่ได้สนใจ ถ้าไม่มีจริงๆ ก็สบายใจ”

“โอ้ย! ลูก คิดจะอยู่เป็นโสดไปจนตายรึไงกัน”

“คงอย่างน่ะนั้น”

สองพ่อลูกพูดจาปรึกษาปัญหาที่เจอรวมถึงเรื่องของลูกชายที่เกือบเป็นปัญหาแต่ก็คลี่คลายได้หมด ทำให้ไม่เกิดเรื่องใหญ่โต ที่เป็นอย่างนี้ได้คงต้องยกความดีให้กับคนพี่ที่ให้คำปรึกษาพร้อมช่วยตัดสินใจให้กับลูกชายคนเล็กจนเด็ดขาดนั่นเอง

“ไนท์มีความสุขดีอยู่รึเปล่าลูก” คนเป็นพ่อถามตรงๆ

“จะบอกว่ามีความสุขมั้ย ก็สุขกายดีนะครับ เพราะไนท์อยู่ดีกินดีไม่ได้อดอยาก ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรแต่ถามว่ามีความสุขพร้อมมั้ย คงไม่เท่าเมื่อก่อนตอนที่เราอยู่กันพร้อมหน้าครอบครัวเรา” บิดารั้งลูกชายเขาสู่อ้อมกอดอย่างปลอบประโลม “คุณพ่อครับ พวกเราจะกลับไปมีความสุขเหมือนเมื่อก่อนอีกได้มั้ย” ลูกชายถามลอยๆ ซึ่งได้เพียงความเงียบเท่านั้นเป็นคำตอบ

 

“น้องเดย์ดูตรงนี้สิ อันนี้ซื้อไปฝากที่บ้านมั้ย” ร่างบางถูกเรียกด้วยเสียงทุ้มนุ่มหลังจากที่กำลังมองหมวกใบใหญ่ที่อยู่ตรงร้านค้าแผงลอยข้างทาง

“สวยดีนะค่ะพี่ที แต่เดย์ว่าไม่ค่อยเหมาะเท่าไร อีกอย่างเดย์อยู่คอนโดกลัวมันจะเสียงดังรบกวนข้างห้องน่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นแบบมู่ลี่ก็โอเคนะค่ะ” ร่างบางมองโมบายเปลือกหอยที่ถูกร่างบางของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนพี่ชายยกขึ้นให้ดู

“หรอ งั้นเอ็ม อันนี้เอาไปแขวนไว้ที่บ้านนะ” ร่างบางหันมาสั่งแฟนหนุ่ม

“จะเอาให้ได้ใช่มั้ย”

“ก็มันสวยนิ แล้วเสียงมันก็เพราะด้วยอ่ะ” พูดอ้อนๆ

“อะแหม! หวานไปหน่อยมั้ยพวกมึงสองตัว” เอสที่เดินตามมาตลอดทางเห็นเพื่อนรักสองคนมุ้งมิ้งกันก็อิจฉาจึงแอบมากระซิบด้านข้างของทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ “ไม่สนใจกูเลยนะ”

“ไฟอิจฉาท่วมท้นเชียวนะ” ทีแซว

“เอ่อสิ หาทางช่วยสิว่ะ” รับตรงๆ พร้อมสายตาคาดคั้นให้หาทางช่วย

“รีบไปก็เท่านั้นแหละ ดูไปก่อนใกล้แค่นี้แกก็หาจังหวะเองสิวะ หรือหมดท่าไปแล้วว่ะ” เอ็มแซวกลับให้เพื่อนเจ็บใจเล่นซึ่งก็ได้ผล

“เอสค่ะ ไปดูตรงนั้นด้วยกันหน่อยสิค่ะ” ร่างบางของนางเอกสาวเข้ามากระแซะควงแขนอย่างถือสิทธิ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องหาทางเลี่ยง

“ผมขอดูพวกโมบายกับพวกเพื่อนหน่อยนะครับ จะเอาไปฝากที่บ้าน”

“อันนี้ก็สวยนะค่ะ” ร่างบางไม่วายถอยกลับทำกลมกลืนเข้ามาช่วยเลือกด้วย

“ครับ” คนตอบกลับกลับเป็นทีก่อนเปลี่ยนเรื่องหาทางรอดให้เพื่อน

“เฮ่ย! เอส ฉันจะไปทางโน้นแกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย” ไม่รอให้มีการตอบรับหรือปฏิเสธ ทีคว้าแขนเพื่อนได้แล้วพาเดินอย่างเร็วออกไปอีกทางทำให้ร่างบางที่ควงแขนร่างสูงอยู่หลุดออกอย่างรวดเร็ว

 

“อร่อยมั้ยค่ะ!” ร่างบางถามหลังจากที่เดินตามมาทันแหววที่พอลงจากรถแล้ววิ่งออกมาพร้อมกับเปิ้ลฝ่ายเสื้อผ้า ถามก็ไม่ตอบมีแต่คว้ากันได้ก็วิ่งทันที มาเจอตัวอีกทีก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือกันอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ริมแม่น้ำแล้ว แหววหันมามองยิ้มเขินๆ กับใบหน้าสวยภายใต้กรอบแว่นตาดำที่อำพรางใบหน้า

“อร่อย” แหววตอบเขินๆ

“มาไม่รอกันเลย”

“ก็พี่กล้วไม่มีที่นั่งเลยมาจองที่ให้ก่อน”

“มานั่งทานด้วยกันทุกคนเลยสิค่ะ” เป็นเปิ้ลที่เป็นคนชวน

เดย์นั่งลงที่ตรงด้านข้างของแหวว พร้อมกับสั่งก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอร่อยเพื่อจะได้ลิ้มรถบ้าง ในตลาดน้ำตอนนี้มีกลุ่มของแฟนคลับวิ่งตามพระเอกและนางเอกของเรื่องจนเป็นอะไรที่ดูวุ่นวาย เพราะไม่มีการ์ดหรือทีมงานมาด้วย งานนี้จึงตัวใครตัวมัน

“อันนี้อร่อยมากนะค่ะน้องเดย์” แหววคีบชิ้นแค๊บหมูมาวางในชามก๋วยเตี๋ยวให้น้องสาวคนสวยอย่างเอาใจ

“ขอบคุณค่ะ พี่แหววนี่น่ารักที่สุดเลย” ร่างบางชมเปราะพร้อมกับทานแค๊บหมูชิ้นที่ว่าอย่างทานอย่างอร่อย ในวงก๋วยเตี๋ยวเรือแสนอร่อยนี้ประกอบด้วยแหวว เปิ้ล เดย์ และเอ็ม “ว่าแต่พี่เอ็ม พี่ทีไปไหนแล้วค่ะนี่”

“สงสัยไปเลือกของฝากกับเอสมันทางนั้นมั้ง” พูดอย่างไม่ใส่ใจพร้อมกินต่อไป สักพักก็มีสองคนวิ่งกระหืบกระหอบกันเข้ามานั่งข้างๆ ของทั้งสอง

“สั่งให้รึยัง” ทีทวงของกินทันที

“ใช่ๆ หิวแล้วๆ”

“มาถึงก็ได้กิน ขอบใจฉันซะ” เอ็มทวงทันที

“ขอบคุณ!” สองหนุ่มตอบกระแทกเสียงก่อนนั่นจับชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเองแล้วจัดการซ้วยทันที ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะระหว่างการทานมื้อนี้สนุกขึ้น

“อีกชามมั้ยค่ะ” ร่างบางถามทั้งสองเพราะเห็นทั้งสองทานอย่างหิวโหย

“ครับ” ตอบพร้อมกันแล้วหันไปจัดการกับก๋วยเตี๋ยวต่อจนหมด ชามใหม่ก็มาพอดี ชายหนุ่มอีกคนที่ก็คอยดูแลแฟนของตัวเองด้วยการพยายามเด็ดผักใช่ชามให้ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายเหมือนไม่อยากได้เลยด้วยซ้ำ

“อย่ากินยาก อย่าเลือกกิน” พูดเสียงดุคนรัก ทำให้ทุกคนนึกขันกับทั้งคู่

หลังจากอิ่มหนำกับก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอร่อยทุกคนก็เคลื่อนพลออกจากร้านเพื่อนเดินเที่ยวและดื่มด่ำกับบรรยากาศของตลาดน้ำ ร่างบางได้รับการดูแลเทคแคร์จากร่างสูงอย่างเต็มที่ ตลอดเวลาในการเดินตลาดน้ำชายหนุ่มตามติดร่างบางของนางร้ายสาวสวยไม่ห่าง ในขณะที่มีพระเอกหนุ่มและนางเอกสาวสุดฮอทคอยเป็นตัวล่อเหล่าแฟนคลับให้ตามไปได้อย่างดี ทำให้คนที่เหลือเที่ยวกันอย่างสนุกเพราะไม่ต้องคอยวิ่งหลบเหล่าแฟนละคร ร่างบางพยายามท้วงเพราะเห็นว่าพระเอกและนางเอกกำลังลำบาก จึงขอให้กลับที่พักกัน แต่เป็นทีที่คอยดึงดันให้อยู่เที่ยวต่อเพราะตัวเองไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวอย่างนี้ และเพราะความเอาแต่ใจนี้ที่ทุกคนขัดกันไม่ได้สุดท้ายก็เลยเลือกเที่ยว ในขณะที่พระเอกและนางเอกสุดฮอทนั้นหาทางกลับเองเนื่องจากไม่สามารถที่จะอยู่เที่ยวต่อไปได้อีกต่อไป

                                                                                                  つづく.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา