ลุ้นรัก...นางร้ายเจ้าเสน่ห์

-

เขียนโดย ploynin

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.55 น.

  18 ตอน
  1 วิจารณ์
  20.78K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557 20.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) รุกเท่านั้นจึงทำให้เธอได้รู้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“เกรทครับ ผมต้องทำความเข้าใจกับคุณใหม่แล้วนะครับ” ผมตัดสินใจพูดหลังจากที่มาตามนัดนางเอกสาวเรื่องทานอาหารเช้าด้วยกันตามสถานที่ที่เธอบอก เพราะวันนี้ผมต้องเคลียร์ให้หมด ไม่อย่างนั้นเพื่อนรักมันจะทำตัวเป็นขวากหนามสำหรับผมทันที

          “ค่ะเอส เกรทว่าเราสองคนไม่เห็นมีเรื่องจำเป็นอะไรที่ต้องทำความเข้าใจกันใหม่เลยนะค่ะ” นางเอกสาวพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงเหมือนไม่มีอะไรต้องเคลียร์กันแล้วเพราะต่างคนต่างเข้าใจกันดี

          “ครับ ถ้าไม่มีผมขอถามความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผมหน่อยนะครับ” ผมตัดสินใจเข้าประเด็นทันที

          “แหม ก็มันชัดเจนขนาดนี้นิค่ะ” ร่างบางพูดเอียงอาย

          “ชัดเจนที่ว่าคืออะไรครับ” ผมต้องการคำอธิบาย เรื่องความชัดเจนที่เธอว่า

          “ก็เราสองคนคบกันอยู่นิค่ะ”

          “ครับ เราสองคนคบกันอยู่” ผมเว้นวรรคเพื่อดูปฏิกิริยาของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า พอเห็นว่าร่างบางมีทีท่าเขินอายเกินความสัมพันธ์แบบธรรมดาผมจึงต้องบอกขอบเขตให้ชัดเจน วันนี้ผมบอกแล้วว่าผมต้องชัดเจนเพื่อจะได้เดินแผนต่อไป “แต่ในฐานะของเพื่อน และก็เพื่อนร่วมงานเท่านั้นนะครับ” ผมพูดอย่างหนักแน่น ทำให้เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของนางเอกสาวสวย

          “เอสค่ะ แต่คุณให้ความหวังเกรทน่ะ” เธอท้วงอย่างจริงจัง และต้องการคำอธิบาย

          “ผมไม่เคยให้ความหวังใคร” ผมตอบปฏิเสธชัดเจน

          “แต่ที่คุณแสดงออกมา คนทั้งกองถ่าย ทั้งทีมงานก็เห็นแล้วก็รู้กันหมด คุณมาพูดแบบนี้เกรทเสียหายนะค่ะ เกรทจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ” เธอแหวขึ้นมาทันทีพร้อมทวงถามความรับผิดชอบ

          “เอาเป็นว่าผมขอโทษที่ทำอะไรให้คุณเข้าใจผิดหลายอย่าง แล้วจากนี้ไปเพื่อความสบายใจของคุณ ผมจะไม่ทำอะไรแบบที่เคยทำกับคุณอีก” ผมตัดบทเพราะเริ่มเห็นอารมณ์ที่รุนแรงของเธอแล้ว

          “ไม่ใช่อย่างนั้นนะค่ะเอส เกรทแค่อยากให้คุณเห็นแก่หน้าเกรทบ้าง คนอื่นที่เห็นสิ่งที่เราแสดงออกต่อกันก่อนหน้าเขาเข้าใจไปแล้วว่าเราสองคนคบกัน แล้วอยู่ดีๆ คุณจะไม่ทำในสิ่งที่คุณเคยแสดงกับเกรท คนอื่นจะไม่เข้าใจไปว่าเกรทถูกคุณทิ้งหรอค่ะ” เธอเปลี่ยนท่าทีจากเมื่อสักครู่ที่แหวใส่ผมเป็นคำพูดข่มความโกรธที่พยายามให้คำอธิบายพร้อมขอความเห็นใจ

          “ก็ในเมื่อคนทั้งกองเขาเข้าใจผิด เราก็ต้องทำให้เขาเข้าใจกันให้ถูกสิครับเกรท จะให้ผมทำตัวเหมือนเดิมแล้วทำให้เขาคิดว่าเราสองคนคบกันได้ยังไง เอาเป็นว่าเพื่อเห็นแก่หน้าคุณ ผมจะค่อยๆ ทำทีเป็นห่างกับคุณดีมั้ยครับ หรือคุณจะแสดงเป็นห่างกับผมก็ได้ บางทีอาจเปลี่ยนจากผมทิ้งคุณเป็นคุณทิ้งผมดีกว่ามั้ยครับ”

          “อย่างนั้นภาพพจน์เกรทก็เสียหมดสิค่ะ”

          “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง” ผมถามทางแก้ปัญหาจากเธอตรงๆ

          “เราก็คบกันจริงๆ สิค่ะ เกรทยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีเพื่อคุณ ขอแค่คุณบอกว่าเกรทไม่ดีตรงไหนแค่นั้นเอง” เธอเรียกร้อง

          “นั่นคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับเกรท”   ผมปฏิเสธชัดเจน

          “ทำไมละค่ะ” เธอถามกลับอย่างต้องการคำตอบ

          “เพราะผมไม่ได้รักคุณ ก่อนหน้านั้นที่ผมเข้าหาคุณเพราะผมอยากมีเพื่อนสักคนในสถานที่ใหม่ แต่หากความต้องการเพื่อนของผมมันทำให้คุณเข้าใจผิดไปกันยกใหญ่ผมก็ต้องขอโทษด้วย แต่การที่จะให้ผมคบกับคุณนั้น คงเป็นไปไม่ได้” ผมพูดตามตรงเพื่อตัดความสัมพันธ์แบบจริงๆ จัง

          “คุณมีคนที่คุณรักอยู่แล้ว หรือเพิ่งมีที่กองนี้ค่ะ” เธอถามผมตรงๆ

          “คุณจะเอาคำตอบแบบไหนล่ะ” ผมเริ่มทนไม่ไหวกับเธอแล้ว เลยขอกวนสักหน่อย

          “ความจริงสิค่ะ” เธอถามอย่างหมายหมาด

          “ความจริงก็คือ ผมมีคนที่ผมรักและมุ่งหวังในกองนี้ ดังนั้นผมจึงต้องเข้ามาทำงานที่นี่เพื่อใกล้ชิดเธอ”

          “คุณเดย์หรอค่ะ” เธอรู้ ผมรู้ว่าเธอรู้เธอไม่ได้โง่ เพราะตลอดเวลาผมแสดงออกชัดเจนว่าสนใจนางร้ายสาวสวยเพียงคนเดียวเท่านั้น

          “ใช่ครับ”   ผมยอมรับตรงๆ

          “งั้นก็ขอให้คุณโชคดีนะค่ะ”

‘อะไรจะง่ายขนาดนี้วะ’ ผมคิดในใจ ก่อนจะกระจ่างเมื่อเธอสาธยายว่าร้ายว่าที่ภรรยาในอนาคตของผม

          “ถ้าคุณอยากจะเป็นตัวเลือกในบรรดาเสี่ยๆ ของคุณเดย์” เธอพูดอย่างสะใจ “บางทีตอนนี้คุณเดย์เขาอาจจะตกลงกับเสี่ยคนไหนแล้วก็ไม่รู้ คุณจะทันหรอค่ะเอส หรือว่าชอบทานของเหลือเดนค่ะ” พร้อมเยาะเย้ยผม

          “เอาเป็นว่าผมจะเป็นคนที่เราไหร่ หรือเป็นตัวเลือกของใครก็ตาม ผมขอเคลียร์เรื่องคุณกับผมนะครับเกรท ให้เข้าใจไปว่าเราเป็นเพื่อนกันเท่านั้น ต่อไปหากคุณมีความปรารถนาดีให้ผม ผมก็เป็นเพื่อนของคุณต่อไป แต่หากปรารถนาร้ายขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมก็ไม่ลังเลเลยที่จะร้ายตอบนะครับ” ผมพูดเพื่อจบการสนทนาพร้อมบ่งบอกทางเลือกให้เธอด้วย เพราะหากเธอร้ายกลับมาผมก็ไม่จำเป็นที่ต้องเห็นแต่ความสัมพันธ์ใดๆ หรือใครหน้าไหนทั้งนั้น

          หลังจากเคลียร์กับนางเอกสาวแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่เต็นท์สำหรับเตรียมงาน เพราะวันนี้ผมมีถ่ายฉากตอนเช้าเป็นฉากอารมณ์ที่มีผมตัวร้ายของเรื่อง เดย์นางร้ายฝ่ายหญิง เกรทนางเอกของเรื่อง และพระเอกของเรื่องที่ต้องเข้าฉากกัน เป็นฉากที่นางร้ายต้องเข้าไปยื้อพระเอกให้เลือกตัวเอง โดยมีผมคอยเป็นตัวยุ ส่วนนางเอกของเรื่องนั้นต้องตัดสินใจเลือกระหว่างผมและพระเอก

          ร่างบางหุ่นนางแบบว่าที่ภรรยาของผมทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยช่างแต่งหน้า แต่งหน้าให้กับดาราที่ต้องเข้าฉาก เธอก็ตั้งใจทำงานของเธอดีตลอดจนผมมองเพลินจนลืมว่าตัวเองก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าเหมือนกันจนไอ้เพื่อนรักเข้ามาทัก

          “เอา! นั่งเอ่อทำหน้าเป็นหมามองพระจันทร์ในเงาน้ำอยู่ได้”

          “เฮ่ย! ไม่เคยได้ยินรึไงว่าหมาก็ขึ้นไปเยี่ยบบนดวงจันทร์ได้แล้ว ยุคนี้ไม่ไกลเกินเอื้อมหมาแล้ว”

          “หรอ... แต่แกรู้มั้ยว่าไม่ใช่หมาทุกตัวที่จะได้ขึ้นไปน่ะ นอกจากหมาตัวนั้นมันจะมีแบคอัพที่ดีแกเข้าใจรึเปล่าเอส”

          ผมหันควับกลับไปมองกะจะเถียงมันกลับสักหน่อย แต่ก็ได้เป็นเสียงสั่งแบบเฉียบขาดจากเพื่อนรักกลับมาแทน หน่อยเป็นผู้จัดหน่อยทำมาวางท่าออกคำสั่ง

“ไปแต่งตัว”

ผมจึงเดินไปที่ฝ่ายเสื้อผ้าซึ่งเจ้าหน้าที่รู้ดีว่าผมต้องแต่งตัวอย่างไร ผมรับเสื้อผ้าที่ถูกยื่นให้แล้วไปแต่งตัวในที่ๆ ถูกจัดโซนไว้ให้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า พอจัดการสวมใส่เสร็จผมก็เดินออกมาเพื่อให้ช่างแต่หน้าเขาแต่งให้ แต่ก่อนจะไปแต่งหน้าผมแอบกระซิบกับไอ้เอ็มไว้แล้วว่าให้มันคอยกันเกรทออกให้ห่างๆ เดย์เพราะผมกลัวว่าเกรทจะไปพูดหรือเหวี่ยงอะไรใส่เดย์ที่เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ซึ่งไอ้เอ็มมันก็เต็มใจจะทำให้อยู่แล้ว เรื่องอะไรมันจะยอมให้น้องมันเจอเรื่องอะไรแย่ๆ จริงมั้ยครับ

 

เพี๊ยะ!

“อุ๊ย! คุณเดย์ เกรทขอโทษค่ะ พอดีสะบัดข้อมือแรงไปหน่อย” เสียงร้องแบบไม่ได้ตั้งใจของนางเอกสาวดังขึ้นหลังจากที่ใบหน้าสวยเฉี่ยวของนางร้ายหันไปตามแรง

“คัท!”

การถ่ายทำหยุดชะงักลงทันทีเมื่อมีการผิดคิดที่คาดว่ามาจากความไม่ตั้งใจเกิดขึ้น ทุกคนที่ทำงานแต่ละฝ่ายต่างวิ่งกรู่ไปที่นักแสดงเพื่อทำงานของตัวเอง

นางเอกสาวขอโทษขอโพยทุกคนเหมือนสิ่งที่ทำเป็นไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ นางร้ายสาวก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าเป็นจังหวะทีเกิดอุบัติเหตุจริงๆ จึงไม่ได้ถือสาอะไร

พอทุกอย่างถูกเซทให้เข้าที่อีกครั้งจึงเริ่มทำการถ่ายทำใหม่อีกครั้ง ฉากนี้เสร็จสิ้นลงได้โดยใช้เวลานานกว่าที่คิดนิดหน่อยเพราะผู้กำกับต้องการภาพหลายๆ มุม พอถ่ายทำเสร็จทุกคนก็เดินกลับเต็นท์ที่พักเพื่อเปลี่ยนชุด ใครมีถ่ายต่อก็เตรียมตัว

“น้ำครับเดย์” พีทพระเอกของเรื่องเดินเอากระบอกน้ำมาส่งให้ร่างบางนางร้ายสาวสวย

“ขอบคุณค่ะ คุณพีทไม่ทานด้วยละค่ะ”

“ขอบคุณครับ แต่ผมเรียบร้อยมาแล้ว เห็นเดย์มัวแต่ช่วยงานพี่ๆ ช่างแต่งหน้ายังไม่ได้พักผมเลยคิดว่าคงหิวน้ำบ้างแหละ”

“ขอบคุณค่ะ” รับไว้ตามมารยาท พร้อมยกดื่มเพื่อให้รู้ว่ายินดีรับไม่ได้รังเกียจ

“ตอนเย็นนี้เดย์ว่างมั้ยครับ อยากชวนทานข้าวด้วยกันน่ะครับ” ร่างสูงของพระเอกหนุ่มถามเข้าประเด็น

“เย็นนี้... ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ พอดีนัดกับพี่แหววไว้ว่าจะไปซื้อของที่ตลาดน้ำนะค่ะ” ร่างบางครุ่นคิดก่อนตอบออกไปเพราะเพิ่งนึกได้ว่าแหววชวนไปเที่ยวตลาดน้ำหาดใหญ่แล้ว และเธอก็อยากจะไปซื้อของฝากด้วย

“หรอครับ เสียดายจัง ว่าแต่แก้มแดงมากเลยนะครับนั่นน่ะ ไม่หาอะไรประคบเดี๋ยวบวมนะครับ” พระเอกหนุ่มชวนคุยต่อ “เดี๋ยวผมไปหาอะไรมาประคบให้ดีกว่า”

“เดี๋ยวค่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเดย์ว่าเสร็จตรงนี้แล้วจะไปซื้อผ้าเย็นที่ 7-11 ใกล้ๆ นี่แหละค่ะ ขอบคุณนะค่ะ” ร่างบางรั้งไว้เพราะเกรงใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ไปหาซื้อเองก็มีผู้เสนอผ้าเย็นมาให้

“ผ้าเย็นครับ”

ร่างบางมองตามเสียงจึงรู้ว่าเป็นชายหนุ่มตัวร้ายของเรื่อง จะไม่รับก็ดูจะน่าเกลียดเพราะเขามีน้ำใจเอามายื่นให้ถึงที่ขนาดนี้แล้ว จึงรับไว้แล้วกล่าวขอบคุณ

“ขอบคุณค่ะ”

“เดย์เตรียมของเสร็จรึยังครับ พี่เอ็มให้มาถามเพราะเห็นบอกว่าจะไปเที่ยวตลาดน้ำด้วย” ร่างบางทำหน้าสงสัย เพราะปกติผู้ที่ถูกกล่าวถึงมักไม่ค่อยจะไปไหน แม้ออกต่างจังหวัดก็มักจะโชว์เดี่ยวเสมอ ไม่เคยเห็นไปไหนเป็นกรุ๊ปเลยสักครั้ง

“หรอค่ะ เดย์นัดไว้กับพี่แหววแค่สองคนเอง กะจะไปรถรับจ้างนะค่ะ” ร่างบางบอกกล่าวอย่างใช้ความคิด ว่าถ้าคนไปมากขนาดนี้จะไปกันยังไง

“เสียใจครับ จากสองคนตอนนี้ก็เห็นจะเป็นเจ็ดแปดคนแล้วที่เตรียมตัว” เอสชี้แจง

“แล้วจะไปกันยังไงละค่ะทีนี้” เปรยอย่างใช้ความคิด

“เอารถตู้กองถ่ายไปครับ” คำตอบชัดเจน แต่ก็ทำให้ร่างบางกังวลเพราะคิดว่าไม่เหมาะที่จะเอารถบริษัทไปใช้สอยส่วนตัว

“จะดีหรอค่ะ มันจะน่าเกลียดรึเปล่าที่เราเอารถบริษัทมาใช้ส่วนตัว”

“แล้วใครไปด้วยละครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ ทำให้ร่างบางได้คิดว่าคนที่ไปด้วยคือผู้จัดของเรื่อง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเจ้าของบริษัทนั่นเอง

“อ๋อ ใช่! จริงด้วย พี่เอ็มไปด้วย” ร่างบางร้องอ๋อเข้าใจ

“งั้นผมไปด้วยได้มั้ยครับ” พีทแทรกเข้ามาหลังจากที่ฟังอยู่นานว่าสองคนจะไปไหน และเขาเองก็อยากจะไปเที่ยวที่แบบนั้นอยู่แล้ว

“ก็ดีนะครับ ไปหลายๆ คนสนุกดี” เป็นเอสที่ตอบรับอย่างยินดี

“แล้วตกลงมีใครไปบ้างละค่ะ” ร่างบางถามถึงคนที่จะไป

“ก็มี ผม เอ็ม ที พี่แหวว เดย์ คุณเปิ้ลฝ่ายเสื้อผ้า คุณเกรท รวมคุณพีทด้วยก็แปดคนพอดีครับ”

“หรอค่ะ งั้นเดี๋ยวเดย์ขอตัวไปเตรียมของก่อนนะค่ะ” ร่างบางขอตัวอย่างสุภาพเพราะต้องการไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและลบเครื่องสำอางออกจากใบหน้าเสียหน่อย เพราะรู้ดีว่าลองแต่งแบบนี้ออกไปการเที่ยวตลาดน้ำครั้งนี้คงได้มีคนมาออมุงดูกันเต็มแน่นอน

ร่างบางเปลี่ยนเสื้อผ้าลบเครื่องสำอางจากเต็นท์ เก็บของเรียบร้อยแล้วเดินตรงไปยังบ้านพักของตัวเองที่พักร่วมกับแหวว ระหว่างทางพบร่างสูงของผู้รับบทผู้ร้ายของเรื่องเดินไปด้วย

“คุณเอสรู้จักคุณทีรึเปล่าค่ะ”

“รู้สิครับ เราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน”

“เขาเป็นคนยังไง ขี้หึงมั้ย คือ เดย์กลัวเขาจะคิดมากที่เดย์ดูจะสนิทกับพี่เอ็ม” ร่างบางบอกความกังวล

“เดย์รู้ว่าเอ็มมีแฟนเป็นผู้ชายหรอครับ” ถามเพราะไม่คิดว่าเอ็มมันจะเอาเรื่องของตัวเองมาเล่าสู่ใครฟัง

“รู้ค่ะ พี่เอ็มบอก” จากคำบอกเล่านี้ทำให้ร่างสูงรู้ว่าร่างบางตรงหน้าเขาต้องถูกให้ความสำคัญจากเพื่อนรักอย่างมากถึงขั้นเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง

“แล้ว... ไม่รู้สึกรังเกียจหรอ” ถามหยั่งเชิง เพราะต้องการรู้ความรู้สึกและทัศนะของว่าที่ภรรยาในอนาคตที่ร่างสูงหมายใจไว้

“รังเกียจทำไมค่ะ เดย์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาสองคนถึงขั้นต้องไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสักหน่อย ถึงต้องรู้สึกชอบหรือไม่ชอบหรือรังเกียจอะไรเขา หรือคุณเอสรังเกียจค่ะ” ร่างบางตอบตามความคิดตัวเอง และถามกลับอย่างสงสัย

“เปล่าครับ อย่าลืมสิว่าผมเป็นเพื่อของเขาทั้งสองคน หากเพื่อนมีความสุข ผมก็โอเคอยู่แล้ว ที่ผมถามเพราะมีหลายคนที่ไม่ยอมรับเรื่องความรักระหว่างผู้ชายด้วยกัน” ร่างสูงอธิบาย

“ค่ะ ใช่! สังคมบ้านเรายังไม่เปิดกว้างขนาดนั้น เรื่องใหม่ จริงๆ คงบอกว่ามันเป็นเรื่องใหม่ไม่ได้เพราะในอดีตกาลที่ผ่านมา ก็เคยมีเรื่องพวกนี้ แต่ด้วยความคิดติดกรอบเลยทำให้เรื่องพวกนี้ถูกทำให้เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ไม่เคยมี จนมาถึงสมัยนี้เริ่มที่จะแสดงออกกันชัดเจนขึ้น เพราะสังคมเปิดกว้างมากขึ้น และมากขึ้น ด้วยการที่มากขึ้นนี้บางทีก็ต้องให้เวลากับคนรุ่นเก่าที่ไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติให้ทันตามกาลได้ คงต้องปล่อยให้ตายตามกาลของตัวเองเท่านั้น ส่วนพวกที่ปรับเปลี่ยนได้และยอมรักก็จะมีความสุขได้กับสิ่งที่เห็น ที่เป็นอยู่ การจะยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ได้คงต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดการยอมรับต่อไปในวันข้างหน้านะค่ะ เดย์เชื่อว่าในวันข้างเรื่องแปลกประหลาดวันนี้ที่ใครๆ ไม่ยอมรับ วันข้างหน้าก็แค่เรื่องธรรมดาที่ใครๆ ที่ต่างพบเห็นกันได้ทั่วไป เพียงแต่ความรักจะมั่นคงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนนั้นแล้วละค่ะ คุณเอสว่าจริงมั้ยค่ะ”

“ครับ ว่าแต่เดย์มีความรักรึยังครับ” พลั้งปากถามไปแต่ยังไงก็ยังอยากได้คำตอบอยู่ดี “คือ ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับ แล้วผมก็ต้องขอโทษด้วยที่ระราบระล้วง”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดย์ตอบได้ ความรักเดย์มีค่ะ ไม่มีใครบนโลกนี้ที่ไม่มีรักหรอกนะค่ะคุณเอส อย่างน้อยๆ เชื่อว่าทุกคนต้องรักตัวเองแน่นอน เดย์เองก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอกค่ะ รักตัวเอง แล้วก็มีคนที่รักคือครอบครัว แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ” ร่างบางตอบยิ้มร่าเมื่อนึกถึงวันวานแห่งความสุขที่มันผ่านพ้นไปแล้ว แต่การได้นึกถึงมันก็มีความสุขได้ทุกครั้งอยู่ดี

“ครับ ผมเองก็เหมือนกัน แล้วคนรู้ใจละครับ” ถามต่อเพราะเริ่มจะสนิทปากมากขึ้นแถมร่างบางตรงหน้าก็ไม่รู้สึกอึดอัดที่จะตอบคำถาม

“ไม่มีหรอกค่ะ จะบอกว่ายังไงดี ไม่มีใครบนโลกนี้ที่รู้ใจกันและกันได้ แม้แต่ตัวเราเองในบางครั้งก็ยังไม่รู้ใจตัวเองเลยนะค่ะ” ร่างบางตอบไปยิ้มไป ชายหนุ่มมองแล้วรู้สึกลุ่มหลงจนเกือบเผลอเดินชนคนอื่นที่เดินสวนมา ดีที่ไหวตัวทันเสียก่อน

จากคำตอบที่ได้ทำให้ร่างสูงรู้แล้วว่าเธอนั้นไม่มีใครที่เป็นคนพิเศษในใจ ทำให้ยิ่งมีกำลังใจและแรงฮึดที่จะไขว่คว้าเธอคนนี้มาครอบครองให้ได้

สองหนุ่มสาวเดินคุยกันมาเรื่อยๆ จนถึงทางแยกที่จะไปยังบ้านพักของแต่ละคน ร่างสูงจึงยิ้มส่งพร้อมบอกเวลาและสถานที่นัดหมายเพื่อที่จะได้ออกเดินทางกัน

“งั้นผมขอตัวไปเตรียมของก่อนนะครับ อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่รถหน้ารีสอร์ท” ร่างสูงบอกขอตัวอย่างสุภาพพร้อมบอกสถานที่นัดพบและเวลารวมพล

บรรยากาศระหว่างทั้งคู่อยู่สายตาวาววับของร่างบางหน้าหวานที่มองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ ยิ่งโดยเฉพาะผู้หญิงแล้วจากที่ไม่ค่อยชอบใจเล็กน้อยตอนนี้แปลเปลี่ยนเป็นเกลียดเข้ากระดูกดำ ทั้งๆ ที่เธอเขาไปเตือนแล้วและขอร้องให้เห็นใจดีๆ กลับยังไม่รู้จักทำตามที่ตัวเองพูด ยังพยายามมาอยู่ใกล้ผู้ชายของเธอ

“เมื่อฉันขอเธอดีๆ แล้วไม่ให้ ก็อย่าว่าฉันร้ายก็แล้วกัน”

 

“นี่เธอ สังเกตมั้ยยะว่าช่วงนี้มีอะไรเกิดขึ้น” ลูกช้างช่างแต่งหน้าประจำกองเปิดประเด็น

“แหม คิดว่าเธอมีตาอยู่คนเดียวหรอจ๊าแม่คุณลูกช้าง”

“อ้าว! หรอ ฉันนึกว่าฉันมีตาอยู่คนเดียวนะเนี๊ยะ”

“นี่หลอน เอาเถอะ พูดไปไม่ถือหรอก ว่าแต่เห็นหน้านางเอกสุดฮอทประจำของเรามั้ยละ รู้สึกว่าเธอจะปิ๋วแล้วนะ”

“แน่สิยะ ก็คุณเอสเขาเล่นไปเข้าทางน้องเดย์ชัดเจนขนาดนั้น”

“แต่งานนี้นอกจากตัวร้ายสุดเพอร์เฟกซ์แล้วยังมีพระเอกสุดหล่อด้วยนะเธอ”

“หรอ ยังไง”

“ก็เมื่อกี๊ฉันเห็นสองหนุ่มเขาแข่งกันเอาใจน้องเดย์เขาเราเสียนางเอกกลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลย”

“สมน้ำหน้า ว่าแล้วเชียวว่าเรื่องที่คุณเอสคบกับหล่อนน่ะเป็นเรื่องที่หล่อนปล่อยข่าวเข้าตัวๆ เองชัดๆ วันนี้เป็นไง”

“ก็เป็นไงล่ะ”

“ก็เขาไม่เอานะสิย่ะ” เสียงซุบซิบนินทานางเอกสาวสวยสนุกปากบรรดาทีมงานที่ก่อนหน้านั้นนางเอกสาวไปพูดเรื่องต่างๆ ที่ตัวร้ายสุดเพอร์เฟกซ์เทคแคร์ตัวเองที่ดูเหมือนมันจะเกินเพื่อนกันด้วยซ้ำให้บรรดาเหล่าทีมงานได้ฟังกันเรื่อยๆ บ่อยจนบางทีก็ทำให้ทีมงานนึกรำคาญจึงจับกลุ่มนินทากันอย่างที่เห็น

“ว่าแต่เธอจำฉากเมื่อเช้าได้มั้ย ฉันว่าแม่นั่นตั้งใจแน่ๆ”

“ตั้งใจอะไรอ่ะ”

“ไปอยู่ไหนมานังเปรี้ยว เขาเห็นกันทั้งกอง”

“ฉันออกไปซื้อของเตรียมให้น้องๆ เขาตอนพักง่ะ เกิดอะไรขึ้น”

“แหม ก็แม่นางเอกตัวร้ายของเรานะสิ แกล้งเหวี่ยงมือโดนหน้าน้องเดย์”

“จริงหรอ เล่นขนาดนั้นเลยหรอ แล้วน้องเดย์ว่าไง”

“จะว่าไง เธอก็ซื่อเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ อย่างที่นางเอกของเราอ้างนะสิ”

“หรอ”

“ก็คนเขาไม่เคยตั้งแง่กับใคร ขนาดฉันที่เคยนินทาเขาเสียๆ หายๆ เขายังไม่โกรธฉันเลย” ลูกช้างปิดประเด็น

“ว่าแต่ช่วงเย็นๆ เห็นว่าจะไปเที่ยวตลาดน้ำกันนินา”

“ใครไปบ้างล่ะ”

“ก็เห็นว่ามีพี่แหววนะ น้องเดย์ คุณเอส คุณพีท บอสของเรา คุณน้องเกรท แล้วก็พี่เปิ้ลฝ่ายเสื้อผ้า”

“โอ้ย! ถ้าฉันไม่ติดงานนะจะไปด้วยแล้วเชียว”

“ใช่! อยากรู้จัง ตัวแสดงไปครบขนาดนี้อะไรจะเกิดขึ้น”

“แต่ไม่เป็นไร พี่เปิ้ลไปด้วย เดี๋ยวเราไปถามพี่เปิ้ลเอา ว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างไร”

เรื่องเล่าสนุกปากเหล่านี้ไม่พ้นหูนักข่าว และเหยี่ยวข่าวต่างๆ ที่แฝงตัวเอยและจ้างคนในกองเองให้เป็นแหล่งข่าวให้ และแน่นอนเรื่องนี้ก็เป็นข่าวไปทั่วในวันต่อมา เป็นข่าวซิบซิบตามหน้าหนังสือซุบซิบกระจิบข่าวที่ไม่ต้องมีหลักฐานใดๆ ให้อ้างอิง

          ถึงร่างบางนางร้ายจะไม่ได้มีหน้าตาทางสังคมไฮโซ แต่ด้วยความที่เป็นดาราจึงเป็นบุคคลที่ถูกจับตามองอยู่แล้ว ข่าวต่างๆ ที่พาดพิงย่อมขายได้เสมอ ประจวบเหมาะกับคนที่เป็นข่าวด้วยคือตัวร้ายไฮโซทายาทนักธุรกิจพันล้าน รวมถึงมีตำแหน่งเป็นถึงประธานของบริษัทลูกในเครือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของประเทศเสียด้วย ผนวกกับเป็นเรื่องราวรักสามเศร้าที่มีนางเอกดาวรุ่งมาเกี่ยวข้องด้วยไม่พอยังพ่วงสงครามระหว่างตัวร้ายฝ่ายชายและพระเอกสุดฮอทประจำปีเข้าไปอีก จึงเกิดดราม่าข่าวคราวรักสามเศร้าระหว่างเราสี่คนเกิดขึ้น

          โดยข่าวออกที่ไปในแนวนางร้ายสาวสวยไปแย้งความรักของตัวร้ายสุดหล่อจากนางเอกดาวรุ่งเพราะเคยมีข่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่าทั้งสองกำลังคบหาดูใจกันอยู่ ส่วนพระเอกดังนั้นกำลังให้ความสนใจนางร้ายสาวที่เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้

つづく.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา