Kiss me Kill me [YURI]
6.0
เขียนโดย Nekoyu
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.52 น.
7 chapter
0 วิจารณ์
12.00K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557 03.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) 06 Woman in black
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ....................................................................................................................
มือเล็กไขกุญแจดอกใหญ่ออกแล้วผลักบานประตูเหล็กเข้าไป สายลมแผ่วเบาพัดกระดิ่งลมที่แขวนไว้ในสวนส่งเสียงกรุ้งกิ้งราวกับกำลังต้อนรับที่มีคนกลับมา นัยน์ตากลมโตมองไปรอบๆจนไปสะดุดเข้ากับต้นไผ่ลำสูงที่ปลูกไว้ริมรั้ว
วันนี้เป็นวันที่ 7 กรกฎาคมซะด้วย เห็นแล้วก็ทำให้หวนคิดถึงญาติผู้พี่ขึ้นมา ทานาบาตะเวียนมาถึงอีกปีแล้ว...พี่สาวของเธอยังคงทำอะไรลมๆแล้งๆเหมือนเดิมอยู่รึเปล่านะ...
....................................................................................................................
ชุดวันพีชสีหวานถูกโยนลงบนเตียงนอนที่เกลื่อนไปด้วยเสื้อผ้า หลังจากรื้อค้นหาชุดจนหมดตู้แล้วสาวเจ้าก็นั่งลงบนเก้าอี้ คิ้วได้รูปขมวดมุ่น
ชุดไหนก็ไม่ได้เรื่อง....เฮ้อแต่งให้ตายยังไงก็สวยสู้ยัยนั่นไม่ได้...
กุลธิดารู้ดีอยู่แก่ใจไม่ว่าคืนนี้จะแต่งตัวแบบไหนไปก็ไม่มีทางเด่นเกินกว่าสาวสวยผมสีเพลิงได้ มันจะไม่มีหนทางที่เอาชนะคนคนนั้นได้เลยรึไงกัน!?
นัยน์ตาสีน้ำตาลปรายตามองไปทางตู้เสื้อที่เปิดอ้าจนเห็นกล่องกระดาษแบรนหรูที่ซุกอยู่ด้านในสุด
เหลือแต่ตัวนั้น....
ปลายจมูกน้อยๆระบายลมหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นเดินไปยืนอยู่หน้าตู้อีกครั้ง
สองมือแกะกล่องกระดาษนำชุดตัวสวยออกมาสะบัด
เธอทาบเดรสสั้นเกาะอกสีฟ้าเนื้อผ้าเบาบางลงบนตัว จริงๆชุดนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักแต่ที่ถูกใส่กล่องเพราะเคยใส่แล้วมันเน้นหน้าอกหน้าใจที่เป็นจุดจนเกินงามไปน่ะสิ!
ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มปีศาจน้อย ถ้าเลือกชุดนี้แล้วจัดเต็มไปอาจพอสูสีกับผู้หญิงคนนั้นก็ได้
เด่นขนาดนี้ยัยวิปริตต้องมองเราแน่.... ดะ..เดี๋ยวก่อน! นี่เรากำลังลงทุนยอมแต่งตัวไปอ่อยผู้หญิงด้วยกันอยู่เหรอเนี่ย!?
ความคิดแปลกๆที่แล่นขึ้นมาก็ทำให้ใบหน้าหวานส่ายไปมายกใหญ่
มะ..ไม่ใช่นะ! แค่จะเอาชนะยัยเฉยๆ...ใช่ๆแค่อยากชนะ!
....................................................................................................................
ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเบาบาง แก้มอมชมพูขึ้นสีระเรื่อก้มลงจนปอยผมสีน้ำตาลหล่นปรกหน้า ริมฝีปากอิ่มวาวเคลือบกล็อซเม้มเข้าหากัน นัยน์ตาสีน้ำที่ผ่านการเขียนขอบตาเน้นความกลมโตหรี่มองนาฬิกาบนข้อมือ สร้อยเงินพร้อมจี้สุดเก๋ประดับอยู่บนคอระหงส์ แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คนทั่วไปคงเป็นหน้าอกหน้าใจอันมากมายภายใต้เดรสสั้นเกาะอกสีฟ้า ชายกระโปรงเนื้อบางเบาสั้นเหนือเข่าโชว์เรียวขาสวยที่รับกับรองเท้าส้นสูงแฟชั่นแต่งหมุดเงินสีขาว
กุลธิดาถอนหายใจออกมา ทั้งที่นัดกันอย่างดีแต่ก็ไม่มีใครมาตรงตามเวลาซักคนแถมยังให้เธอมายืนรออยู่คนเดียวอีก
“โทดทีคนเยอะเลยนานไปหน่อย..... แล้วมายืนทำอะไรตรงนี้เนี่ย?”
โซดาในชุดเสื้อยืดพิมพ์ลายการ์ตูนตัวโคร่งกับยีนส์สั้นสุดเซอร์มองเพื่อนซี้ที่พยายามยืนหลบทำตัวให้เล็กกว่าตู้ขายน้ำอัตโนมัติตรงหน้า
“ฟะ..ฟารออยู่โน้น ตะ...แต่ไม่กล้าไปหาอ่ะ”
แมวน้ำในชุดเอี้ยมกระโปรงยีนส์ส่งยิ้มยากเย็น ก็หลานอธิการเล่นจัดเต็มจนเด่นซะขนาดนั้น นี่จะมาดูหนังรึจะมาเดินแฟชั่นโชว์กันแน่!
“มากันแล้วเหรอ”
เสียงร้องทักทำให้แมวน้ำกับสาวเซอร์หันมามอง
ใบหน้าสวยเน้นอายไลนเนอร์แต่งตาให้ดูโฉบเฉี่ยว ริมฝีปากบางสีสดเหยียดยิ้มสองมือขยับเสื้อสีเทาชายสั้นที่ใส่ทับเสื้อสีน้ำตาลด้านในที่ชายเสื้อยาวจนแทบคลุมทับยีนส์ขาสั้นสุดสั้น แถมสาวสวยยังสวมคาร์ดิแกนสีหวานเป็นเสื้อคลุมมาด้วยแทบมองไม่เห็นยีนส์สีซีดไปกันใหญ่ ขาเรียวสวมทับเลคกิ้งรัดรูปสีดำเข้าคู่กับบู๊ทสีดำหุ้มข้อเป็นอย่างดี
“อื้อ...ฟายืนรออยู่ตรงโน้นอ่ะ ไปกันเลยไหม”
บอกแล้วยิ้มยากเย็นเป็นสองเท่า รายนี้ก็เด่นเหมือนจะมาเดินแบบไปด้วยอีกคน
“อ่อ เห็นล่ะ”
มีณชญาเลียริมฝีปากสีสด ผู้หญิงคนนี้นี่มีดีที่หน้าตากับรูปร่างจริงๆ นัยน์ตาสีเทามองพิจารณาดื่มด่ำหน้าอกอันมากมายที่เด่นสะดุดตา แต่กลับจับความรู้สึกอันน่าขยะแขยงที่มาจากชายสองคนที่ยืนคุยกันแถมยังส่งสายตาหื่นกระหายอย่างเปิดเผย
“อะ..อ่าวไปเลยเหรอ?”
แมวน้ำร้องเสียงหลงที่เห็นสาวสวยเดินนำไปด้วยความเร่งรีบ
“รอนานไหม”
เสียงทักทำให้ใบหน้าหวานที่ก้มมองพื้นค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง
“มะ..ไม่หรอก”
สวย...คนบ้าอะไรเนี่ย! ขนาดแต่งตัวห่วยๆมาก็ยังสวยอีก...น่าอิจฉาชมัด
ดวงตากลมโตมองสาวสวยสำรวจตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ต่อให้งัดไม้เด็ดมาใช้ยังไม่อาจทัดเทียมคนคนนี้ได้เลย ก็เพิ่งเคยเจอคนที่สวยได้ทุกสภาพแบบนี้มาก่อน
ฝ่ายคนถูกมองก็ไม่น้อยหน้ามองหน้าอกหน้าใจล้นหลามกลับด้วยตาเป็นประกาย
“แมวน้ำกับโซดาล่ะ”
เสียงใสถามให้คนที่เพลินอยู่กับการมองระลึกถึงจุดประสงค์หลักได้ นัยน์ตาสีเทาปรายตามองไปทางชายสองคนที่ยังมองมาไม่เลิก
“มาโน้นแล้วไง”
บอกแล้ววาดแขนขึ้นโอบไหล่เล็กให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งน้อยๆ
..มือไวไปไหม!
สาวหน้าหวานตาโตแต่ยังไม่ทันจะได้สะบัดตัวออก แมวน้ำกับโซดาก็เดินตรงเข้ามาหาซะก่อน
“เข้าไปข้างในกันเหอะ ใกล้จะถึงเวลาแล้วมั้ง”
“อื้อ”
สุดท้ายเธอก็ต้องจำยอมปล่อยให้คนข้างๆโอบไหล่พาเดินเข้าไปในด้านจนได้
.......................................................................................................................
นัยน์ตาสีเทาเหลือบมองภาพสะท้อนของผู้ชายสองคนที่ยังเดินตามอยู่ห่างๆ ขนาดเดินเข้ามาจนถึงหน้าโรงหนังพวกนั้นยังตามไม่เลิก สาวสวยเลยจงใจเดินนำทุกคนไปทางห้องน้ำแทนจนมองเห็นทางเข้าห้องน้ำแถมยังมีสุภาพสตรีจอแจอยู่รอบบริเวณพวกเขาก็ไม่สะทกสะท้านยังหยุดยืนมองได้อีก ทั้งที่เธออุส่าโอบไหล่คนที่เป็นจุดเด่นเอาไว้แต่พวกนั้นก็ยังส่งสายตาโลมเลียไม่เลิก
ปลายรองเท้าบูทหยุดการก้าวเดินและปล่อยมือจากไหล่เล็กให้สาวหน้าหวานหันมาส่งสายตาแปลกใจ ส่วนแมวน้ำกับโซดาที่เดินตามมาก็หยุดอยู่กับที่เหมือนกัน
“จะมาห้องน้ำก่อนเหรอ?”
ริมฝีปากอิ่มถามแต่ไม่ได้รับคำตอบ แถมอีกฝ่ายยังถอดเสื้อคลุมของตัวเองมาคลุมให้อีก
เอ๋? จะเอามาใส่ให้ทำไมเนี่ย!?
นัยน์ตาสีน้ำตาลก้มมองเสื้อคลุมเนื้อดีสลับกับมองใบหน้าสวยที่หันไปทางด้านหลัง
“เดินตามกันขนาดนี้ จะตามไปจนถึงตอนเข้าห้องน้ำเลยไหมคะ”
มีณชญาจงใจถามเสียงดังให้นักถ้ำมองสองคนได้สะดุ้งสุดตัว ทำเอาผู้คนที่อยู่รอบบริเวณรวมไปถึงแมวน้ำกับสาวเซอร์หันมองผู้ชายทั้งสองที่มีสีหน้าบอกบุญไม่รับ สุดท้ายพวกเขาก็รีบเดินหนีจากสายตาที่มองด้วยความประณาม
“พะ..พวกนั้นเดินตามเรามาเหรอ!”
แมวน้ำหน้าซีดบอกเสียงระล่ำระลัก
“มันไปแล้ว ช่างเหอะไม่มีอะไรหรอก”
ผิดกับโซดาที่ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
ฝ่ายคนที่โดนผลกระทบอย่างแสนสาหัสที่สุดคงหนีไม่พ้นกุลธิดา นัยน์ตาสีน้ำตาลไหววูบในหัวเริ่มประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดถึงเหตุผลที่สาวสวยมีพฤติกรรมแปลกไป
ดะ...โดนมองเหรอเนี่ย!!
ไหล่เล็กสั่นไหวสองมือกระชับเสื้อคลุมให้ปกปิดจุดเด่นของตัวเอง
“ฟะ..ฟา...ไม่รู้ตัวเลยว่าโดนมอง”
ริมฝีปากอิ่มสั่นระริก ป็นครั้งแรกจริงๆที่ไม่ทันระวังตัวจนกลายเป็นอาหารตาให้พวกหื่นกามที่ไหนก็ไม่รู้
“หัดส่องกระจกก่อนออกจากบ้านซะบ้าง เดี๋ยวจะโดนลากลงข้างทางก่อนมาถึงเอา”
สาวผมสีเพลิงบอกคำพูดร้ายๆให้ได้ยินกันแค่สองคนทำให้ใบหน้าหวานชักสีหน้าใส่
แค่โดนมองก็รู้สึกแย่เต็มทนแล้วยังเจอคนซ้ำเติมอีก
“อื้อรู้แล้ว ขอบคุณนะที่เตือน”
คนที่เริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่บอกเสียงเรียบ มือเล็กกำแน่น ท่าทางอย่างตรงไปตรงมากับความรู้สึกของตัวเองทำให้ริมฝีปากสีสดเหยียดยิ้มรับ
“เอ๋? จะไปห้องน้ำเหรอรอด้วย”
แมวน้ำตาโต
“ฟากับมิ้นท์ไปรอหน้าโรงหนังกันก่อนเลย เดี๋ยวเรากับโซดาตามไป”
เธอรีบมาบอกนัดแนะกับสองสาวก่อนจะเดินตามคนมาดนิ่งไปติดๆ
“จะเข้ากับเค้าด้วยไหมล่ะ ตามสบายนะชั้นจะไปเดินเล่นรอละกัน”
ดวงตากลมโตมองตามสาวสวยที่เดินปลีกตัวออกไปแล้วเบ้หน้าใส่
เออนะทิ้งเรากันหมด....ไปเอาตั๋วคนเดียวก็ได้
……………………………………………………………………………………………………………
ข้อมือเรียวยกนาฬิกาขึ้นมองพลางเอนหลังพิงผนังสีขาว
“มิ้นท์”
เสียงเรียกทำให้ดวงตาคู่คมเงยขึ้นสบเข้ากับใบหน้าโบกเครื่องสำอางจัดเต็ม แถมยังมั่นด้วยการแต่งแซกสั้นเหนือเข่าสายเดี่ยวสีดำสนิทโชว์สรีระที่น่ามองไม่แคร์สายตาใคร
“ตรงเวลาดีนะคะ พี่แหวน”
มีณชญาเหยียดยิ้มใส่คนตรงหน้าที่รู้จักคุ้นเคยกันดี
“ก็รีบมาอยากเคลียร์กับมิ้นท์ไง”
เธอบอกเสียงอ่อน พอจะเดินเข้าไปหาก็สบเข้ากับสายตาเย็นชาให้ต้องหยุดเว้นระยะห่างไว้
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ”
“ทำไมล่ะคะ? คนใหม่ของพี่ไม่รวยเท่ามิ้นท์รึไง อย่างพี่น่ะต้องเงินเท่านั้นนี่นา”
ริมฝีปากสีสดตอกกลับด้วยถ้อยคำหมิ่นอย่างเจ็บแสบ
สาวรุ่นพี่กำมือแน่นแต่ยังยิ้มรับ
“พี่อาจจะผิดที่ไปจากมิ้นท์ แต่มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิดเล็กๆน้อยๆเองเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เลยเหรอ”
“คงต้องตอบว่า ไม่”
ใบหน้าสวยเหยียดยิ้มใส่
“มิ้นท์....พี่รักมิ้นท์ มิ้นท์ก็รู้ไม่ใช่เหรอ!”
“รักเงินมิ้นท์มากกว่ามั้งคะ”
นัยน์ตาสีเทามองด้วยความเย็นชา มันช่างหนาวเหน็บไปถึงใจของหญิงสาวชุดดำจนเธอต้องยกมือขึ้นจับแขนตัวเองแน่น ไม่มีคำพูดไหนจะสรรหามาให้คนเย็นชาตรงหน้าได้เลย
ท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้น ใบหน้าจัดเต็มเสมองไปรอบๆจบสบเข้ากับเด็กสาวหน้าหวานที่เดินตรงเข้ามา
เพียงเสี้ยววินาทีเธอเห็นรอยยิ้มร้ายกาจจากใบแสนน่ารัก
“มิ้นท์ รอฟานานไหม”
สองมือตรงเข้าควงแขนสาวสวยที่ไม่ทันตั้งตัว คิ้วเรียวขมวดมุ่นกับการอ้อนที่เบียดหน้าอกหน้าใจที่เบียดแขนเรียวอยู่
กุลธิดาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งที่สาวชุดดำสุดมั่นหน้าเดินเข้ามาคุยกับยัยหัวแดง สมกับที่เป็นสาวสวยจริงแค่ยืนอยู่เฉยๆก็มีคนเข้าหาแล้ว แต่ถ้าคิดจะแย่งเหยื่อ(?)ของเธอละก็ ฝันไปเหอะ
หญิงสาวแปลกหน้าเม้มริมฝีปากแน่น บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักที่สาวลูกครึ่งทำตัวเย็นชาก็ได้
“มิ้นท์จะไปคว้าใครมาแก้เหงาพี่ก็ไม่ได้ว่าหรอกนะ แต่เรื่องเรายังไม่จบ!”
แล้วจะสนทำไม! ที่สำคัญเธอเป็นคนที่มาก่อนยัยเด็กนี่ด้วยซ้ำ
ฟะ..แฟนเก่างั้นเหรอ!?
ฝ่ายสาวหน้าหวานพยายามเผยยิ้มกลบความกระอักกระอวลในใจ ใครจะไปคิดว่ายัยนี่จะฮอตถึงขนาดมีแฟนเก่ามาตามรังควานขอคืนดีด้วยแบบนี้ล่ะ! แต่เล่นมาบอกว่าเธอโดนคว้ามาแก้เหงาแบบนี้มันจะดูถูกกันไปเกินไปแล้ว!
“คว้ามาแก้เหงา เก็บไว้บอกตัวเองเถอะค่ะ แล้วก็เลิกยุ่งกับมิ้นท์ได้แล้วนะคะ ตอนนี้ฟาคบกับมิ้นท์อยู่”
ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มร้ายๆเปลี่ยนมาดสาวใสกลายเป็นนางร้ายไปทันที ท่าทีที่เปลี่ยนไปทำให้คิ้วเรียวเลิกสูง นี่ยัยแอ๊บแหลคิดจะเล่นบทแฟนใหม่กันจริงๆรึไง
“หึ...มันก็แค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละ เดี๋ยวเค้าก็เบื่อ”
ริมฝีปากสีแจ่มบอกด้วยน้ำเสียงเป็นต่อด้วยความที่รู้จักสาวผมแดงมาก่อน
นัยน์ตาน้ำตาลเสมองไปรอบๆก็เห็นผู้คนเริ่มมารุมล้อม นั่นสินะมองจากสายตาคนทั่วไปเหมือนพวกเธอกำลังมีเรื่องกันอยู่กลายๆ ถ้าเป็นหนึ่งชายสองหญิงล่ะก็ คงกลายเป็นศึกชิงนายอย่างที่มีให้เห็นทั่วไปแน่นอน
บังเอิญว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นนางร้ายหัวแดง ก็คงต้องเป็นชิงนาง(ร้าย)แทนสินะ....
ถูกรุมล้อมหเป็นตกเป็นจุดน่าสนใจมันก็ดีอยู่หรอก แต่ตกเป็นเป้าสายตาในทางเสียภาพพจน์แบบนี้ไม่ดีแน่....
“ไปนอนหลับฝันเอาจะง่ายกว่านะคะ แล้วเราก็รักมากด้วยมิ้นท์ไม่มีทางทิ้งฟาไปง่ายๆเหมือนทิ้งคนเก่าหรอกค่ะ”
ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มปีศาจน้อยบอกด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ มือน้อยๆกอดแขนคนข้างๆแน่นเอนศีรษะซุกไหล่บางด้วยท่าทีออดอ้อน
หึ...แหลเก่งขนาดนี้น่ามอบรางวัลออสก้าสาขานักหญิงแสดงดีเด่นให้จริงๆ
เอาเหอะอย่างน้อยความสตอเบอร์รี่ของยัยนี่ก็ช่วยให้เธอสลัดคู่ขาเก่าจอมตื้อได้ง่ายขึ้นละมั้ง...
ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มแทนคำตอบให้คนคุ้นเคยที่ยืนตัวสั่นด้วยสีหน้าของผู้แพ้
“แล้วเราจะได้รู้กันมิ้นท์! พี่ไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่!”
หญิงสาวบอกเสียงสั่นให้คนรักเก่าได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำแล้วเป็นฝ่ายถอยหนีไปเอง
ทันทีที่คนแปลกหน้าชุดดำเดินหนีไปจนลับสายตา สองมือที่กอดแขนเรียวก็คลายออกปล่อยสาวสวยให้เป็นอิสระทันที
“หายกันแล้วนะกับเรื่องหน้าห้องน้ำ”
ใบหน้าหวานเผยยิ้มน่ารัก สองมือกระชับเสื้อคลุมเนื้อดีให้เห็น การออดอ้อนแสนน่ารักนั่นก็ทำไปเพื่อตอบแทนที่อีกฝ่ายช่วยไว้จากการถูกพวกหื่นกามตามมอง คราวนี้ก็เลยเล่นละครเป็นแฟนใหม่เพื่อให้สาวผมแดงหลุดจากการตามตื้อของแฟนเก่า จะได้ไม่มีหนี้บุญคุณตกค้างต่อกัน!
“ฟาไปเอาตั๋วมาแล้ว ไปหาพวกแมวน้ำกันเหอะ”
นัยน์ตาสีเทาเห็นแมวน้ำมีสีหน้ากระอัลกระอวลยืนอยู่กับโซดาในกลุ่มไทยมุงที่กำลังแยกย้ายกันไป
“ก็ยืนอยู่นั่นไง”
ริมฝีปากสีสดบอกเสียงเรียบให้คนที่เดินนำไปชะงักปลายเท้ากวาดสายตามองหาเพื่อนทั้งสองทันที
“อ่าว? มากันตอนไหนเนี่ย!”
สาวหน้าหวานตาโตที่เจอทั้งสองยืนอยู่ใกล้ๆโดยที่ไม่รู้คงเพราะมัวแต่ให้ความสนใจกับยัยป้าหน้างิ้วจนลืมมองดูรอบๆแถมยังอยู่ในมาดนางร้ายเต็มที่อีกต่างหาก ขืนถูกเห็นเข้าละก็แย่แน่ๆ ภาพพจน์อันดีงามที่อุส่าทำมาพังแน่ๆ!
มะ..มาตั้งเมื่อไรเนี่ย! คงไม่ทันเห็นอะไรไปหรอกนะ
“กะ..ก็ซักพักแล้วน่ะ เราจะเดินเข้าไปแล้วนึกว่าคนนั้นมาหาเรื่องฟากับมิ้นท์น่ะสิ แต่โดนโซดาห้ามไว้”
แมวน้ำบอกเสียงระล่ำระลักเหลือบมองคนหน้านิ่ง
คำพูดอันใสซื่อตรงไปมาตรงมากับท่าทางตื่นตะหนกของสาวอวบทำให้ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มโล่งใจ ที่เธอถูกมองว่าเป็นผู้เสียหายกำลังโดนคนแปลกหน้าคุกคามอยู่
“ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไรหรอก ฟากัยมิ้นท์น่ะดูแลตัวเองเป็นดีกว่าคนแถวนี้อีกมั้ง”
แต่ถ้อยคำแฝงความนัยราวมองตัวตนของเธอออกจากคนมาดนิ่ง ทำให้ต้องเสสายตาหนีไปทางอื่น
“ แค่มีเรื่องเคลียร์กับคนเคยรู้จักน่ะ แต่คุยกันไม่ค่อยลงตัวเท่าไร”
สาวสวยบอก ไหล่บางยักย้ายอย่างไม่สะทกสะท้านต่อเหตการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
“นี่ๆฟาไปเอาตั๋วมาแล้ว อันนี้ของแมวน้ำกับโซดานะ”
เห็นท่าไม่ดีคนดังของชั้นปีเลยพาทุกคนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา มือนั้นยื่นตั๋วหนังให้คนตรงหน้า
“ใช่เรื่องนี้จริงๆด้วย! ตอนดูเทลเลอร์สนุกมากเลย แบบนี้ต้องน่ากลัวสะใจแน่ๆ”
แมวน้ำบรรยายถึงความน่ากลัวของหนังแล้วฉีกยิ้มแก้มปริจนคนข้างๆทำหน้าบอกบุญไม่รับถึงความคลั่งหนังสยองขวัญของเพื่อนซี้ สาวสวยเหยียดยิ้มรับไม่ยินดียินร้ายในสิ่งที่ได้ยินผิดกับคนตัวเล็กที่แอบหันไปกรอกตาทางอื่นด้วยสีหน้าสุดเซ็ง
........................................................................................................................
บริเวณหน้าโรงภาพยนต์คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่แห่กันมาเขียนคำอธิษฐานกิจกรรมสุดฮิตในวันทานาบาตะ ซึ่งทางห้างสรรพสินค้าก็มีการจัดกิจกรรมให้ผู้มีอุปการะคุณได้สนุกสนานกับการเขียนความปรารถนาที่ต้องการแล้วนำมาผูกไว้กับต้นไผ่จำลองที่ทางห้างจัดทำขึ้น
“เชิญร่วมกิจกรรมวันทานาบาตะค่ะ ”
ประชาสัมพันธ์หญิงในชุดยูกาตะสีสันสดใสเชื้อเชิญลูกค้าด้วยรอยยิ้ม
“ เขียนขอให้ผอมลงกว่าดีไหมเนี่ย”
แมวน้ำบอกกลั้วหัวเราะเดินไปหยิบกระดาษกับปากกามาก่อนใคร
“กินแหลกแบบนี้ชาติหน้าคงผอม”
“แหม! งั้นเขียนบ้างสิไป ขอให้ตัวเองพูดเยอะๆเหมือนชาวบ้านเค้าเป็นก็ได้นะ ยัยคนพูดน้อย”
“อยากขียน ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขจัง มิ้นท์จะเขียนอะไรเหรอ”
ริมฝีปากอิ่มโปรยยิ้มบอกเจตนาตัวเอง
“อยากให้โลกนี้ไม่มีคนเสแสร้งน่ะ ถ้าเป็นจริงได้คงดีนะ”
บอกแล้วเหยียดยิ้มให้คนฟังหุบยิ้มหันหน้าไปทางอื่น
....................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ