Kiss me Kill me [YURI]
6.0
เขียนโดย Nekoyu
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.52 น.
7 chapter
0 วิจารณ์
12.03K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557 03.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) 05.5 Tanabata
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ....................................................................................................................
วันทานาบาตะ วันที่7เดือน7ของทุกปีเป็นวันเทศกาลที่ตำนานลึกซึ้งของญี่ปุ่น ตำนานความรักของดวงดาวโอริฮิเมะดาวเจ้าหญิงทอผ้ากับฮิโบโกชิดาวคนเลี้ยงวัวได้เกิดมีความรักต่อกัน แต่เพราะลุ่มหลงในความรักมากเกินจละเลยต่อหน้า จึงถูกลงโทษต้องพลัดพรากกันโดนมีทางช้างเผือกเป็นกำแพงกั้นขวาง เมื่อถึงวันที่7เดือน7ทางช้างเผือกจะเปิดออกเพื่อให้ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง เป็นตำนานที่โรแมนติกและแสนเศร้าและยังเป็นที่มาของการเขียนคำอธิษฐานใส่กระดาษเพื่อนำไปผูกไว้บนต้นไผ่ขอพรให้สมหวัง.....
หนังสือนิทานตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นสองภาษาซึ่งมีคำแปลเป็นภาษาไทยถูกปิดลงแล้วโดนยัดเก็บใส่กระเป๋าถือทันที ปลายจมูกน้อยๆระบายลมหายใจออกมา สองขาภายใต้กระโปรงสีกรมท่ารีบก้าวยาวๆไปหาหญิงสาวที่ยืนรออยู่
“พี่...”
“พี่เนยคะ...”
เสียงเรียกทำให้เธอหันมามอง
“ว่าไงตัวเล็ก”
แล้วยิ้มให้เด็กสาวตัวเล็กในชุดนักเรียนม.ปลายที่ยืนฉีกยิ้มจนแก้มปริ
“พี่เนยอ่ะ ฟาเรียกตั้งหลายครั้งแล้วใจลอยไปไหนคะ”
คนตัวเล็กทำแก้มป่องยกมือขึ้นกอดอกแสดงท่าทีเง้างอน
“พี่ก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ”
จิรวดียิ้มให้ลูกพี่น้องที่เอ็นดูเหมือนน้องสาวแท้ๆ
โกหก....คิดเรื่องยัยคุมิโกะอยู่ชัดๆ!
กุลธิดารู้ดีว่าญาติผู้พี่กำลังโกหก และรู้ถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้พี่สาวคนนี้ต้องโศกเศร้าดีอีกด้วย เหตุผลทั้งหมดมันก็มาจาก ยัยผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่ชื่อคุมิโกะ
“เดี๋ยวเดือนหน้าพี่เนยก็จะไปอังกฤษแล้ว ฟาต้องเหงาแน่ๆเลย”
เจ้าตัวเล็กทำหน้าหงอยเรียกร้องความสนใจเพื่อเปลี่ยนประเด็นการสนทนา
“ขี้อ้อนจริงนะเรา”
หญิงสาวยกมือขึ้นโอบเอวบางของคนข้างๆเอาไว้ พอสบเข้ากับดวงตากลมโตทีไรก็เหมือนกำลังโดนอ่านความคิดอยู่ทุกที จนต้องหันไปมองทางอื่น
…ไปอยู่ไกลๆก็ดี จะได้ลืมยัยนั่นแล้วก็มีแฟนใหม่ไปเลย
“ฟาชอบอยู่กับพี่เนยนี่นา ฟาชอบเวลาที่พี่เนยสอนภาษาญี่ปุ่นให้น๊า”
ใบหน้าใสระบายยิ้ม
“หัวไวนะเรา พี่สอนแค่ไม่เท่าไรก็พอพูดได้แล้ว”
พี่สาวคนสวยยิ้มแล้วลูบผมสีน้ำตาลเล่น
สองสาวเดินลัดเลาะไปตามทางที่ทอดยาวเบื้องหน้าเป็นสวนสาธารณะที่มีผู้คนมาพักผ่อนยามเย็น จิรวดีจูงมือยคนตัวเล็กไปนั่งเก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เธอนั่งเงียบเหม่อมองแม่น้ำปิงที่ไกลเอื่อยๆไปตามแรงลม
“ยังคิดเรื่องเค้าอยู่อีกเหรอคะ”
“จ๊ะ...ปิดเราไม่ได้จริงๆด้วยสิเนี่ย” พูดยิ้มๆแล้วมองดวงตากลมโตที่จ้องอยู่ “พี่คิดเรื่องคูจังน่ะ”
ญาติผู้น้องหรี่ตาลง มือเล็กกำแน่นเมื่อนึกได้ยินชื่อของสาวญี่ปุ่นคนรักของญาติผู้พี่
“พี่เนยเป็นแฟนที่ดีมากเลยนะคะ ขนาดเค้าบอกให้รอพี่ก็ยังรอ จนจะสามปีแล้วยังไม่มีวี่แววจะกลับมาหาเลย!นี่ก็3ปี ฟาว่าพี่เนยเป็นคนดีมาก...มากเกินไปสำหรับเค้าด้วย”
พูดจบก็หันหน้าหนีพี่สาวไปอีกทางด้วยความโมโห เธอก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังระหว่างจิรวดีกับคนรักเท่าไรนัก แต่สิ่งเดียวที่รู้คือหลังจากตกลงคบหากันอีกฝ่ายก็มาขอให้พี่สาวรอเพราะต้องกลับไปสืบทอดกิจการของทางบ้านที่ญี่ปุ่น หลังจากวันนั้นก็ไม่เคยเห็นยัยผู้หญิงคนนั้นติดต่อมาอีกเลย แม้แต่จดหมายก็ไม่มี ราวกับหายสาปสูญไปแล้ว!
กิจการบ้าอะไร! ยุ่งขนาดไม่มีเวลาจะติดต่อมาหาแฟนเลยรึไง! ข้ออ้างชัดๆ
จิรวดีได้แต่ยิ้มเศร้าๆไม่เคยโกรธเพราะรู้ว่ายัยตัวเล็กพูดไปด้วยความเป็นห่วง
“พรุ่งนี้วันที่ 7 กรกฏาแล้วนะ ทานาบาตะไงจ๊ะ” ก่อนบทสนทนาจะเลวร้ายลงไปกว่านี้ คนเป็นผู้ใหญ่กว่าจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ฟามาเขียนอธิษฐานกับพี่ที่บ้านไหม”
“ ฟาว่ามันก็แค่ความเชื่อตามตำนาน จะเป็นจริงได้รึเปล่าก็ไม่รู้”
กุลธิดาเสมองหนังสือตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าสะพายข้าง รู้ดีด้วยซ้ำว่าตลอดเวลาเกือบสามปีที่ผ่านมาพี่สาวมักเขียนขอพรขอให้คนรักกลับมาหา....ทั้งที่รู้ว่ายิ่งทำก็ยิ่งเจ็บก็ยังงมงายอยู่อย่างนั้น ทั้งที่มันแค่สร้างความหวังให้ตัวเองว่าเค้าจะกลับมาแค่นั้นเอง
ไม่มีทางเป็นจริงได้หรอก!
“แต่พี่เชื่อนะ....”
เธอถอนหายใจแล้วลุกขึ้นเดินมายืนอยู่ริมฝั่งมองทอดสายตาไปยังแม่น้ำเบื้องล่าง
“ถึงจะทำได้แค่ปลอบใจตัวเองก็เถอะนะ” แล้วหันมายิ้มเศร้าๆให้สาวหน้าหวานที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้
.
.......................................................................................................................
….เมื่อ3ปีก่อนตอนที่จิรวดียังเป็นนักศึกษาฝึกงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ความสามารถของเธอเป็นที่ต้องตาคันซาว่าประธานบริษัทชาวญี่ปุ่น จนถูกดึงตัวไปช่วยงานและได้พบกับคันซาว่า คุมิโกะ ทายาทของคันซาว่ากรุ๊ป ด้วยความใกล้ชิดจึงเกิดเป็นความรักขึ้นมา ทั้งเธอและคุมิโกะ เป็นทั้งคู่รักและคู่คิดที่ดีต่อกันมาตลอด แต่ด้วยเพราะประสบการณ์และอายุยังน้อยของทั้งคู่ ทำให้โปรเจคสำคัญของบริษัทล้มเหลวเกิดความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาลส่งผลกระทบต่อตระกูล คันซาว่า
....คุมิโกะต้องกลับไปที่ตระกูลเพื่อทำงานชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น....อย่างไม่มีข้อแม้ใดๆที่จะช่วยลดโทษทัณฑ์ทั้งนั้น
ถึงจะเตรียมใจมาแล้วแต่สุดท้ายผู้หญิงคนหนึ่งก็ไม่อาจต่อต้านความเศร้าโศกได้ ยิ่งคนรักเงียบไปไม่มีข่าวคราวใดๆความเจ็บปวดยิ่งทวีคูณจนแทบยืนหยัดต่อไปไม่ไหว มีเพียงความเชื่อที่ช่วยประคับครองจิตใจที่ปวดร้าวเสมอมา
........................................................................................................................
7 กรกฎาคมเวียนมาครบอีกปีแล้ว ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองต้นไผ่ที่ชูลำต้นสูงใหญ่อยู่ในสวน ถึงมีหลังคาคลุมเอาไว้อีกชั้น แต่แผ่นกระดาษบางอันก็เก่าซีดบ่งบอกถึงกาลเวลาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้เป็นอย่างดี และตอนนี้ก็มีกระดาษใหม่เอี่ยมถูกมัดไว้ตามกิ่งก้านของมัน กระดาษที่บรรจุคำอธิษฐานที่ไม่มีทางเป็นจริงเอาไว้....
..... อยากให้อยู่ด้วยกัน... ..อยากเจอ....... ...อยากพบ......
.....หากได้เจอจะกอดเอาไว้แน่นๆไม่ให้หายไปอีกแล้ว...
.......อยากจะย้อนเวลากลับไป....แก้ไขเรื่องทั้งหมด........
หญิงสาวทรุดตัวลงบนพื้นที่ปูด้วยหินอ่อนรอบตัวรายล้อมไปด้วยกระดาษที่มีเขียนคำอธิษฐานเขียนเอาไว้ นัยน์ตาคู่สวยคลอไปด้วยน้ำตา
…….คำขอพวกนี้มันไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้เลยเหรอ.....
.....คูจัง.........
....................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ