The last Blood.สายเลือด นิทรา [BL , Yaoi]

9.0

เขียนโดย เฟรล่าฟลอเร

วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.47 น.

  24 ตอน
  0 วิจารณ์
  25.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 19.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
จุดตายของแวมไพร์มีกี่แห่งกัน แสงแดด ลิ่มตอกหัวใจ หรือแม้กระทั่ง...เผา
 
     ทริสทรี่ไม่อยากเชื่อว่าคนที่กำลังเอาปืนเล็งหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้คือคนที่พาเขาออกมาจากคฤหาสน์ พาเขาไปเปิดหูเปิดตายังสถานที่ต่างๆ และยังเป็นร่างกำเนิดใหม่ของอายาซาชิ!
 
     เสียงหัวเราะขื่นๆ ดังขึ้นเบาๆ ราวกับความทรงจำในค่ำคืนนั้นย้อนกลับมา บางที ชะตากรรมของพวกเขาอาจลิขิตมาให้ฆ่ากันและกันมานานแล้วก็ได้ ถึงจะไม่ใช่ลิ่มอย่างในตำนาน แต่เขาก็รู้จักเจ้ามังกรสีเงินชนิดนี้ดี เสียงคำรามของมันก็เหมือนบทเพลงคร่าวิญญาณ เมื่อกระสุนทะลุเข้าสู่จุดอ่อนของเขา ชีวิตกึ่งอมตะของแวมไพร์ก็จะสิ้นสุดลง
 
     ด้วยความเร็ว แม้จะอยู่ในระยะประชิด เขาก็สามารถหลบหลีกลูกกระสุนได้ แต่ประเด็นอยู่ที่เขาเลือกจะทำมันหรือไม่ก็เท่านั้น
 
     “อุ๊บ!” ฮิโรชิเผลอหัวเราะออกมาในที่สุด เขาเหนี่ยวไกปืนออกไปจนเกิดเสียงเบาๆ ตามแบบฉบับปืนที่มีที่เก็บเสียง แต่ทริสทรี่กลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยสักนิด นั่นเพราะในรังเพลิงมีเพียงความว่างเปล่าบรรจุอยู่เท่านั้น
 
     เขาเซไปพิงกำแพงด้วยความอ่อนใจ ขณะที่ดวงตายังสบกับนัยน์สีเลือดนั่นอยู่ไม่เว้นวาย ทริสทรี่เชื่อได้อย่างไรกันนะว่าเขาจะลงมือทำร้ายได้ลงคอ ถึงตอนนี้ยังคงมีรอยยิ้ม ใช่! เขาคือเจ้าชาย คือผู้กล้า คืออัศวิน สำหรับเจ้าหญิงแสนสวยคนนี้ ทุกสิ่งที่เงินและอำนาจเอื้อมถึง ไม่มีอะไรที่เขาจะนำมาให้ไม่ได้
 
     ทริสทรี่ขมวดคิ้ว การล้อเล่นแบบนี้ไม่ตลกเลยสักนิด เขาเบือนหน้าหนีอย่างรวดเร็วและเตรียมตัวโบยบินจากไป แวมไพร์แปลงร่างเป็นค้าวคาวได้ เขารู้แต่ว่าตนมาที่นี่ด้วยพาหนะลอยฟ้าอันแสนล้ำยุค ถ้าถามทางดีๆ และบินไปตามทิศทางนั้น บ้านเกิดของเขาคงอยู่ไม่ไกล
 
     “เดี๋ยวก่อนสิ จะหนีฉันไปอีกแล้วเหรอ” ฮิโรชิรวบร่างนั้นมากอดไว้อย่างแน่นหนา “ไม่เอาน่า จะรีบกลับไปหาบ้านน่าเบื่อนั่นทำไม อยู่กับฉันดีกว่า ในที่ที่มีเพียงเรา ฉันจะเนรมิตปราสาทที่สวยพระราชวังแวร์ซาย ทำสวนดอกไม้ให้เธอ ระเบียงห้องจะต้องมองเห็นพระจันทร์เต็มดวงได้สวยที่สุด เสมือนหลักฐานแห่งรักของเรา ดีไหม?”
 
     ทริสทรี่รู้สึกเหมือนฟังคนพูดพร่ำเพ้อละเมอเป็นครั้งแรกในชีวิต อายาซาชิเคยกล่าวคำรักหวานซึ้งกับเขาเช่นกัน แต่มันในรูปแบบบทเพลงและบทกวีอันแสนซึ้งกินใจ มิใช่ปราสาทหลังงามที่มาพร้อมโซ่ตรวนแห่งการผูกมัดและการกักขังเอาไว้ เสมือนสาวงามกับหอคอยสูงเสียดฟ้าในนิทาน
 
     เขาถอนหายใจเบาๆ “จะต้องมีหลักฐานแห่งรักใดๆ กัน ในเมื่อความรักของข้ามอบแก่เจ้าเมื่อร้อยปีก่อน ส่วนตัวเจ้าก็มีเพียงความลุ่มหลง”
 
     เขาไม่ได้หลงทระนงตัว แต่เขารู้ว่าตนเกิดมาพร้อมสิ่งนี้จริงๆ ความเย้ายวนชวนให้หลงเสน่ห์เป็นของคู่กายแวมไพร์ตั้งแต่กำเนิด เปรียบได้ดั่งเสียงเพลงร่ายมนตร์ของไซเรน ทั้งเขาและเธอเหล่านั้นจะแตกต่างอันใดกัน ในเมื่อมนตร์เสน่ห์เย้ายวนนั้นล้วนดึงดูดให้ผู้สัมผัสต้องสิ้นใจในท้ายที่สุด
 
     ฮิโรชิไม่สบอารมณ์กับคำว่า ‘ลุ่มหลง’ นั่นเลยสักนิด สิ่งที่เขามีมิใช่ความลุ่มหลง มันคือความรักอันเปี่ยมล้นหัวใจต่างหาก แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะคิดเช่นไร เขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจจากร่างงดงามเบื้องหน้านี้อย่างแน่นอน หากความรักคือการให้ สิ่งใดที่ทริสทรี่ปรารถนา เขาย่อมนำมาให้ได้ทั้งนั้น เขาจึงเป็นคนรักผู้สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ช้าก็เร็ว ทริสทรี่จะสัมผัสถึงสิ่งนี้ได้ และยอมอยู่ภายใต้กรงขังด้วยความเต็มใจ
 
     เขาจุมพิตข้างแก้มใสนั้นเบาๆ “เชื่อสิ ทริสทรี่ที่รัก สักวันเราจะพูดคำว่ารักได้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ เลย”
 
     “แล้วเจ้าคิดอย่างไรกับปัจจุบันกาลนี้กัน?”
 
     “ฉันคิดว่า...” รอยยิ้มมั่นใจฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา “...ถ้าเธอไม่ไปกับฉัน ลูกน้องที่กำลังส่องสไนเปอร์จะทะลวงกระสุนใส่ศีรษะวาเลนเซียในวินาทีนี้เลย”
 
    
 
     ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนใหญ่คนโต
 
     เมอยาสก้าจิบชาอยู่ในโรงแรมห้าดาวสุดหรูใจกลางเมืองในญี่ปุ่น หลังจากใช้พลังตบเงินผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสมาด้วยกัน เฉพาะเงินสดก็สามารถกินดื่มเที่ยวได้ดุจราชาไปอีกพักใหญ่ๆ แล้ว ถ้าต้องการเพิ่มเติมเธอค่อยโทรไปถามเอาอีกที ตอนนี้นักธุรกิจใหญ่คนนั้นกลายเป็นถ้ำสมบัติที่สามารถหาเงินทองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ เหมือนเครื่องผลิตเงินชั้นดีที่ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาธนบัตรปลอม
 
     จะมีอะไรเยี่ยมไปกว่านี้อีก
 
     อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้มาญี่ปุ่นเพื่อแช่ออนเซ็น รับประทานซูชิต้นตำรับ หรือสัมผัสเลือดอร่อยๆ ของชายสายเลือดปลาดิบเท่านั้น แต่มาเพื่อตามหาตัวแวมไพร์ผู้คร่าชีวิตเธอในคืนนั้น ข่าวล่าสุดได้ความเรื่องชื่อของเด็กหญิงชาวเอเชียที่พาตัววาเลนเซียมาแล้ว เมื่อใช้อินเตอร์เน็ตค้นหาดู ปรากฏว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกคนใหญ่คนโตพอสมควรเลยทีเดียว
 
     เมื่อดื่มจนพอใจ เธอคิดว่ามันคงถึงเวลาสำหรับการเยี่ยมเยี่ยนเป้าหมายเสียที
 
     โชเฟอร์ที่กำลังตระเวนรถรอบค่ำถึงกับผิวปากด้วยความอารมณ์ดี เมื่อเห็นร่างของคนที่เดินออกมาจากโรงแรมห้าดาวกำลังโบกเรียกตนอยู่ ส่วนใหญ่ลูกค้ากลุ่มพิเศษพวกนี้มักจะให้ทิปหรือปฏิเสธเงินทอนเสมอ ถึงเขาจะไม่มีญาติหรือครอบครัว แต่การเก็บเงินเพื่อดื่มเล็กๆ น้อยๆ หลังเลิกงานคือความสุขอย่างหนึ่งของผู้ชายญี่ปุ่น
 
     เมื่อลูกค้าสาวบอกจุดหมายที่ต้องการ เขาเคลื่อนรถออกไปอีกครั้งด้วยความลิงโลด ถ้างวดนี้ได้แบงค์หมื่นเยนล่ะก็ เขาจะเปิดสาเกดีๆ สักขวดฉลองเสียเลย
 
     ใช้เวลาพักหนึ่ง รถโดยสารแล่นมาถึงหน้าคฤหาสน์หลังหนึ่ง เขาหันมายิ้มให้คุณลูกค้าด้วยความเป็นมิตร วันนี้เขาตั้งใจขับเป็นพิเศษ หวังว่าเธอจะสัมผัสถึงมันและมอบคำขอบคุณมาในทิปก้อนโต “ถึงแล้วครับ คุณลูกค้า”
 
     แน่นอนว่านั่นย่อมเป็นภาษาสากล เพราะลูกค้ารายนี้เป็นชาวต่างชาติ
 
     เมอยาสก้ามีเงินสดเหลืออยู่เต็มกระเป๋า เพราะผู้ชายคนนั้นเดินทางมาจากประเทศที่ค่าเงินใหญ่ เมื่อมาแลกเป็นเงินเยนได้ เธอจึงอู้ฟู่ขึ้นจากความอู้ฟู่เดิมอีกหลายเท่าตัว ถึงกระนั้น เรื่องอะไรจะต้องจ่ายค่าแท็กซี่ให้เปลือง ในเมื่อเธอมี ‘บัตรผ่านสีแดง’ อยู่กับตัวยี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างนี้
 
     ดวงตาสติหลุดทำให้เธอยิ้มอย่างพอใจ จงเป็นเกียรติเสียเถิดที่ได้รับใช้เมอยาสก้าคนนี้ เธอเป็นถึงเผ่าพันธุ์แวมไพร์ผู้สูงศักดิ์เชียวนะ
 
     ท่ามกลางความรื่นเริงยินดีในชีวิตเมอยาสก้าทั้งหมดทั้งมวล สาวใช้คนหนึ่งยืนอย่างสงบ ก่อนจะแจ้งแก่เด็กสาวผู้มาเยือนยามราตรีด้วยน้ำเสียงอันสุภาพยิ่ง “ท่านฮิโรมิเดินทางไปต่างประเทศแล้วค่ะ สุภาพสตรีที่มากับท่านก็เดินทางไปพร้อมกันค่ะ”
 
     ‘อะไรนะ!?’
 
    
 
     “เธอทำอะไรเนี่ย!”
 
     ฮิโรมิอุทานลั่น เมื่อเห็นร่างของชายชาวเอเชียคนหนึ่งนอนอยู่ในสภาพสิ้นใจสมบูรณ์ ที่คอเขามีรอยกัดของคมเขี้ยวแบบเดียวกับเขี้ยวแวมไพร์อันแหลมคมของวาเลนเซีย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะหญิงสาวเป็นเจ้าของชั่วคราวของห้องนอนส่วนตัวในคอนโดนี้
 
     พวกเธอตัดสินใจมาพักกันในคอนโดของฮิโรชิ โดยแจ้งให้เขาทราบล่วงหน้าผ่านทางแล็ปท็อปที่สื่อสารกันประจำ แน่นอนว่าเธอถามจนเลิกถามด้วยความถอดใจไปแล้วว่าเขาพาทริสทรี่หนีไปอยู่ที่ไหน แต่ทุกครั้งคำตอบที่ออกมามีแต่การส่งให้เธอไปสู้กับหมีที่ขั้วโลก หรือเดินเล่นกับจิงโจ้ในออสเตรเลีย ซึ่งพี่ชายเธอช่างใจดีเหลือเกินในการบอกคำใบ้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นแน่ๆ
 
     แน่นอนว่าลูกน้องของเธอกำลังสืบหาร่องรอย ขณะที่ลูกน้องพี่ชายเธอก็คงกำลังกลบมันอยู่ เหมือนคนสองคนที่กำลังตามรอยกันอยู่บนภูเขาหิมะ คนหนึ่งเดินหารอยเท้า อีกคนทำลายรอยเท้าของตนเอง เรื่องนี้สร้างความยุ่งยากให้เป็นอย่างมาก เพราะนั่นหมายความว่าเวลาที่ควรจะถูกย่นกลับยืดออกไปไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
 
     และเห็นทีว่าวาเลนเซียเองก็กำลังใจเซ็งได้ที่เหมือนกัน
 
     หญิงสาวแวมไพร์ตวัดลิ้นเลียเลือดที่ติดอยู่มุมปาก ท่วงท่าของเธอช่างงดงามเหลือคำใดจะเอ่ยเลยจริงๆ หากว่าศพในห้องไม่ใช่ฝีมือเธอ และนั่นทำให้เสน่ห์งดงามตามแบบฉบับหญิงสาวชั้นสูงดูอันตรายมากกว่าน่าเข้าใกล้ “มื้อค่ำ”
 
     ฮิโรมิทั้งโมโหทั้งกลัว “ทำไมไม่รอฉันซื้อเลือดมาก่อนล่ะ ทำแบบนี้เดี๋ยวคนเขาก็แตกตื่นกันหรอก!”
 
     ไหนจะสืบหามายังคอนโดนี้ ไหนจะชื่อเสียง ไหนจะอะไรต่อมิอะไร แถมตัววาเลนเซียเองยังเสี่ยงกับการโดนลากออกไปกลางแสงอาทิตย์ เพราะเจ้าหน้าที่คงไม่ฟังหรอกว่าแวมไพร์ไม่ถูกโรคกับแดดแผดจ้า ที่สำคัญ เธอจะทำยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นกันล่ะคราวนี้ ค่าเสียหายให้ครอบครัวเหยื่อเอย ค่าปิดปากสื่อเอย
 
     วาเลนเซียไม่เข้าใจว่าเด็กหญิงจะตื่นตระหนกทำไมกันนักหนา อย่างกับชุดเสื้อผ้าที่ศพใส่อยู่มันดูเข้ากันกับสภาพร่างกายอย่างนั้นแหละ ระหว่างตระเวนราตรี เธอเจอเข้ากับชายจรจัดคนหนึ่ง สำหรับแวมไพร์ที่พบการล่าอยู่ทุกวัน การลดสีสันในการรับประทานคือการลดความสนุกในชีวิตไปสักร้อยข้อได้ เธอจัดแจงพาเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและชำระกายอย่างดี สร้างสุขอนามัยในมื้ออาหาร ก่อนจะลงมือรับประทานมื้อค่ำด้วยความอิ่มเอมใจ
 
     เธอผลุนผลันออกจากห้องไป แน่นอนว่าด้วยเหตุผลประการเดียวคือเธอไม่ต้องการให้วาเลนเซียรู้ว่าเธอกำลังจะติดต่อกับพี่ชาย แต่พี่ชายตัวดีของเธอก็ดันไม่เปิดกล้องคุยเอาตอนนี้ เธอสั่งลูกน้องให้ติดต่อหาลูกน้องของฮิโรชิ น่าขณะเดียวกันก็อดกระฟัดกระเฟียดไม่ได้ ช่างน่าขำสิ้นดีที่น้องสาวยังไม่รู้เบอร์โทรติดต่อของพี่ชายเท่าลูกน้องของเขา!
 
     อนึ่ง นอกจากรู้ใจฮิโรชิ เหล่าลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ทั้งหลายยังรู้ใจฮิโรมิอีกด้วย การบอกกับเด็กหญิงว่า ‘เราจะอำพรางศพให้’ คงเป็นการบอกให้เธอวิ่งโร่เอาศพไปส่งสถานีตำรวจดีๆ นี่เอง พวกเขาจึงเลือกใช้คำสุภาพนุ่มนวลในการบอกสั้นๆ เพียง ‘พวกเราจะจัดการเอง’ แทน ส่วนวิธีการไม่จำเป็นต้องบอกให้รู้แต่อย่างใด
 
     ในไม่ช้า ศพของชายคนนั้นก็โดนกำจัดออกไปจากคอนโด พร้อมหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ สามชั่วโมงต่อจากนั้น ฮิโรมินั่งหน้าบูด จ้องวาเลนเซียเขม็งเหมือนจะกลัวว่าเธอจะก่อเรื่องอีก
 
     หญิงสาวเลิกคิ้ว “ข้าไม่ได้ฆ่าเขาด้วยเรื่องนายท่าน เจ้าก็เห็นอยู่”
 
     ‘แน่ล่ะสิ ในเมื่อเธอฆ่าเขาเพื่อความสนุกของตัวเอง’ ฮิโรมิกลอกตาเบาๆ แต่เพื่อความปลอดภัยในชีวิต เธอเลือกจะเถียงอยู่ในใจ
 
     ฮิโรมิคั่นเวลาแห่งความเบื่อและการเฝ้าโดยการยกมือถือขึ้นมากดเล่น และพบข้อความเข้าจากหัวหน้าสาวใช้ในคฤหาสน์จากญี่ปุ่นส่งมาพอดี ปกติพวกเธอจะอยู่กันอย่างสงบเสงี่ยม สงบเสียจนคร้านจะชวนคุย การติดต่อจะมีขึ้นเฉพาะกรณีพิเศษเท่านั้น และดูเหมือนว่าครั้งนี้อาจจะมีกรณีที่ว่า
 
     ‘ มีเด็กผู้หญิงต่างชาติไม่ทราบชื่อต้องการพบท่านฮิโรมิและสุภาพสตรีที่เดินทางไปพร้อมกันกับท่าน ’
 
     สุภาพสตรีที่ว่าคงหมายถึงวาเลนเซีย เด็กหญิงโคลงศีรษะไปมา ก่อนจะถามคนที่ยืนมองพระจันทร์ทางหน้าต่าง แลดูสุนทรีย์ผิดกับน้องสาวเจ้าของห้องอย่างเธอเหลือเกิน “เอ่อ...! ถ้าเธอหายไป จะมีใครตามหาตัวไหม หรือ...เธอรู้จักกับใครที่จะมาตามหาเธอแบบข้ามน้ำข้ามทวีปบ้างหรือเปล่า”
 
     วาเลนเซียไม่ใส่ใจจะละสายตาออกจากดวงจันทร์ด้วยซ้ำ “ข้าไม่สุงสิงกับใครขนาดนั้นหรอก”
 
     หรืออย่างน้อย พวกคนที่มีทีท่าว่าจะตกหลุมรักเธออย่างดูดดื่มตั้งแต่แวบแรกที่เห็น ก็กลายเป็นมื้อค่ำของทริสทรี่ไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่คน ตามความเข้าใจและประสบการณ์นับร้อยปี เธอไม่คิดว่าศพพวกนั้นจะกลายร่างเป็นซอมบี้มาตามหาความรัก (หรือความแค้น) อะไรอีก
 
     ฮิโรมิสรุปสั้นๆ กับตัวเองว่ามันคงเป็นความเข้าใจผิด
 
    
 
To be continue.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา