Easy Mode ; Hard Mode
เขียนโดย Hungshu
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 15.25 น.
แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 16.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ผู้ล่า (ครึ่งแรก)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ******************************
โลกผ่านมุมมองของ ???
******************************
ตึก!....ตึก!
ฝีเท้าของบุคคลเบื้องหน้ายังคงวิ่งหนีสุดชีวิต…
ตึก!...ตึก!
แม้เขาจะพยายามวิ่งเร็วแค่ไหน
จะซ่อนอย่างไร
ก็ยังคงถูกเจออย่างง่ายดาย
ตึก!...ตึก!...
จากที่เคยสนุกในตอนแรก
ตอนนี้กลับเริ่มน่าเบื่อเสียแล้ว…
ทั้งๆที่ตอนแรกพูดจาซะดิบดี…
……………………….
25 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลาประมาณ 12.00 น.
“คืนนี้เราจะไปสืบเรื่องนั้นกัน”
หลงฉวน พูดเสียงดังขึ้นมาหลังเลิกคาบเรียน
นักศึกษาหลายคนหันมองไปทางต้นเสียง
“เรื่องนั้น...น่ะหรอ”
เหล่าเสียงซุบซิบดังขึ้นในห้อง
แม้ว่า หลงฉวน จะไม่ได้พูดประกาศหน้าชั้น
แต่เจ้าตัวก็ยังคงพูดเสียงดังให้ผู้อื่นได้ยิน
เหมือนอยากเป็นจุดสนใจ
เหมือนอยากให้ผู้อื่นมองตนเองว่าเป็นคนเก่ง
น่าสมเพช…
เรื่องนั้น
คงหมายถึงเรื่องที่ในช่วงนี้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยของเราหายตัวไปบ่อยๆ
2 เดือนก่อนก็ 3 คน
เดือนที่แล้ว 2 คน
ส่วนเดือนนี้พึ่งมีหายตัวไปคนหนึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง
แค่เรื่องที่แต่ละคนหายตัวไปก็น่าตกใจแล้ว
แต่ที่แปลกคือคนที่หายไปต่างเป็นคนมีดังในมหาลัยด้านความสามารถทางกีฬาทั้งสิ้น
จะว่าไปหลงฉวนก็อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยนี่น่า
จากคำให้การของคนที่เห็นคนเหล่านั้นครั้งสุดท้ายให้การตรงกันว่า
พวกเขาต่างกลับบ้านตามปรกติหลังจากซ้อมกีฬาของชมรมในมหาลัยทั้งสิ้น
ทางมหาลัยจึงเริ่มออกกฏให้นักศึกษาแต่ละคนกลับบ้าน
หรือ หอพักก่อนค่ำ
ซึ่งก็แน่นอน
มีนักศึกษาส่วนใหญ่ทำตามไม่กี่คน
ส่วนมากก็ยังเที่ยวเตร่เหมือนเดิม
จะมีก็แต่พวกที่ต้องพักในหอพักของมหาลัยที่ต้องกลับหออย่างช่วยไม่ได้เพราะยามจะปิดประตูหอตั้งแต่ 2 ทุ่ม
คนที่พักอยู่หอถ้าเผลอออกไปเที่ยวจนกลับไม่ทันไม่ค้างบ้านเพื่อนก็มักนอนในร้านโต้รุ่ง
ส่วนภายในตัวมหาลัยก็ยังกับตึกร้างตั้งแต่ 5 โมงเย็นแล้ว
“นาย!...เอ่อ ชื่อไรหว่า…ช่างเถอะ เย็นนี้มากับชั้นด้วย”
หลงฉวนอยู่ๆก็โอบไหล่ผมยังกับเพื่อนสนิท
เริ่มพูดแกมบังคับให้ผมไปด้วย
“เฮ้ย หลงฉวน นายอย่าบังคับคนอื่นดิวะ ไม่เห็นหรอว่าเค้าไม่สบายใจ”
จิ้นหลิง พูดเตือนหลงฉวน
“บังคับอะไรกัน หมอนี่เต็มใจอยู่แล้ว...เนอะ”
“...อะ...ครับ”
ผมตอบกลับไป
เต็มใจบ้าอะไร
คนทั้งห้องต่างรู้อยู่แล้วว่าแกมันทำกับผมเหมือนเป็นเบ๊
แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
จิ้นหลิงได้ยินผมตอบรับไปก็ทำหน้าลำบากใจ
อะไรกันจะทำตัวให้เป็นคนดีเรียกคะแนนนิยมรึไง
แค่ตัวแกเองเรียนได้คะแนนอันดับท็อผ แล้วคอยติวให้เพื่อนอยู่เสมอก็พอแล้วมั้ง
จะมาทำตัวเป็นพระเอกสงสารผมอีกทำไม
“หลงฉวนงั้นเอาแบบนี้ คืนนี้ผมไปด้วยแล้วกัน”
จิ้นหลิงเสนอตัวเองออกมา
เพื่อนหลายคนต่างค้าน
แต่ดูเหมือนส่วนใหญ่จะค้านพอเป็นพิธีมากกว่า
ส่วนหนึ่งคงอยากทำอะไรเสี่ยงๆเพื่อความตื่นเต้น
คำพูดแม้จะค้านจิ้นหลิง แต่ใบหน้าและดวงตากลับเหมือนจะอยากไปด้วยเต็มที่
“ดีเลย งั้นคืนนี้ 2 ทุ่มเราไปรวมกันหลังร้านเสี่ยวฉู”
2 ทุ่ม...คงกะว่าถ้าใครเลือกที่จะมาก็เลิกความคิดจะกลับหอสินะ
เอาเถอะยังไงซะผมก็…
………………………………
25 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลาประมาณ 20.00 น. หลังร้านอาหารเสี่ยวฉู
ร้านเสี่ยวฉู
ร้านอาหารเล็กๆ หลังมหาลัย
หลังร้านพอจะมีจุดที่สามารถปีนกำแพงกลับเข้าไปในมหาลัยได้
พลั้ก!
“นั่งทำบ้าอะไรอยู่นับซิ กี่คน”
หลงฉวนอยู่ที่ก็ตบหัวผมเมื่อถึงเวลา
ไม่ได้บอกมาก่อนซักหน่อย
ถึงจะโกรธแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ผมเริ่มนับคนที่มา...1...2...3…
7 คน
นอกจากผม หลงฉวน และ จิ้นหลิงแล้ว
ยังมีเพื่อนชายของหลงฉวนอีก 1 คน ส่วนเพื่อนของจิ้นหลิงที่มา 3 คน...ต่างเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น
...ชิเนื้อหอมชะมัด น่าหมั่นไส้ซะจริง
“มากันแค่นี้สินะ...งั้นไปกันได้แล้ว”
หลงฉวนมองรอบๆเมื่อเห็นไม่ทีท่าว่าใครจะมาเพิ่มแล้วก็เพิ่มปีนกำแพงเข้าไปในมหาลัย
ไม่นานนักพวกเราทุกคนก็ข้ามกำแพงมากันหมด…
พวกเราเริ่มทำการเดินสำรวจไปยังอาคารต่างๆเริ่มจากโรงยิมที่ที่คนที่หายสาบสูญรายแรกอยู่
จากนั้นก็สำรวจไปยังอาคารต่างๆ โดยมีหลงฉวนเป็นคนนำ…
หลงฉวนดูเหมือนจะจริงจังกับเรื่องนี้มากกว่าที่ผมคิด
สาเหตุอะไรนั้นผมก็ไม่คิดจะสนมันหรอก
ตอนนี้ผมได้แต่เดินตามหลงฉวนไปเงียบๆ
ส่วนที่น่าหงุดหงิดก็พวกนักศึกษาสาวที่จิ้นหลิงพามาด้วยนี่แหละ
แต่ละคนยังกับจะจังหวะอ่อยจิ้นหลิง ทำเป็นกลัวโน้นนี่ทั้งๆที่จริงเหมือนจะไม่สนสภาพรอบข้างด้วยซ้ำ
ตัวจิ้นหลิงเองดูเหมือนจะทำหน้าลำบากใจนิดๆเหมือนกัน
อ่านบรรยากาศเป็นไหมนะยัยพวกนี้
บึก!
“อะ...ขอโทษครับ”
ผมที่เดินชนหลงฉวนที่อยู่ๆหยุดเดิน
แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ยินที่ผมพูด
เขาหน้าซีดยังกับเห็นอะไรซักอย่างเข้า
แต่ผมลองมองดูไปรอบๆแต่กลับไม่เห็นอะไรที่แปลกไปตรงไหน
บริเวณที่เราหยุดอยู่เป็นระเบียงทางเดินของตึกในอาคาร 3 ชั้น 4
จากจุดนี้มองเห็นก็มีเพียง
ฝั่งซ้าย จะเห็นประมาณชั้น 3 ถึงชั้น 5 ที่เป็นดาดฟ้าของอาคาร 4
ฝั่งขวา ก็มีเพียงประตูและห้องเรียนมืดๆที่หากไม่เข้าไปเปิดไฟก็มองไม่เห็น
“เป็นอะไรไปน่ะ”
จิ้นหลิงที่ถามขึ้นมา
หลงฉวนหันหน้ากลับมาหาพวกเราเหมือนถูกผีหลอก
พยายามจะพูดอะไรซักอย่าง
แต่กลับส่ายหน้าแล้วก็เงียบไป
“กลับกันเถอะ”
อยู่ๆหลงฉวนก็พูดขึ้นมา
เพื่อนของหลงฉวน (หมอนั่นชื่ออะไรกันนะ) เหมือนจะถามเหตุผล
แต่พอเห็นสีหน้าของเขาก็เงียบลง
ทางฝั่งเพื่อนสาวของจิ้นหลิงเหมือนจะบ่นอะไรซักอย่างที่ผมไม่ได้ใส่ใจมากนัก
แต่คงจะนินทาตัวหลงฉวนนั่นแหละที่เหมือนจะเป็นคนต้นคิดจะสำรวจเอง
แต่กลับยกเลิกทั้งๆที่เราเริ่มสำรวจได้เพียงโรงยิม 1 อาคาร 1 2 3
แต่ยังเหลืออาคารอีกตั้ง 3 อาคารและโรงยิมอีก 2 โรง
ซึ่งจริงๆกว่าจะสำรวจเสร็จน่าจะเกือบเที่ยงคืน
แต่นี่กลับสำรวจไปเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
คะแนนนิยมของตัวหลงฉวนพรุ่งนี้คงลดฮวบฮาบแน่ๆ
………………………….
25 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลาประมาณ 22.00 น.
พวกเราปีนกำแพงกลับออกมาจากนั้นแต่ละครก็เริ่มแยกย้ายกัน
คนที่อยู่บ้านตนเองน่าจะโชคดีหน่อย
แต่คนที่อยู่หอนี่สิจะทำยังไงหว่า…
ช่างมันเถอะไม่ใช่เรื่องของเรานี่หน่า
พอเห็นทุกคนกลับไปหมดแล้ว
ผมหันหลังกลับแล้วไปทำธุระของตนเองต่อ…
…
...
“เฮ้ หลงฉวน มาทำอะไรที่นี่น่ะ”
ผมเดินกลับมาที่อาคารเรียน 4
หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว
หลงฉวนดูเหมือนจะมีอะไรซักอย่างค้างคาใจ
เขากลับมาที่อาคารเรียน 3 อีกครั้ง
จากนั้นก็ก็เดินไปยังแต่ละห้องเหมือนกำลังหาอะไรซักอย่าง
ทำแบบนั้นซ้ำๆจนเกือบครึ่งชั่วโมงจนผมเริ่มทนไม่ไหว
หลงฉวนตกใจหยุดนิ่งแล้วค่อยๆหันกลับมาหาผม
“โธ่เอ้ย แก...เองหรอ”
“อา แล้วตกลงมาทำอะไรน่ะ”
หลงฉวนไม่ตอบคำถามของผม
แต่กลับมองหน้าผมด้วยหน้าตาหน้ากลัว
“ชั้นควรจะถามแกมากกว่า...แกมาทำอะไรที่นี่”
“เอ...ก็แค่มาหาอะไรสนุกๆทำล่ะมั้ง”
“สนุก?”
กร็อบ!
หลงฉวนยังมีสีหน้าไม่เข้าใจ
พอมองไปตามเสียงก็เห็นแขนข้างหนึ่งของตนบิดไปอย่างผิดรูปร่าง
กระบองตำรวจชนิดเหล็กที่ผมซ่อนเอาไว้หวดเต็มแรงไปยังข้อต่อ
“อ้าก!...ไอ้....แก”
“โทษทีนะ ถ้าเป็นนายสภาพเต็มร้อยผมก็ไม่มั่นใจว่าจะฆ่านายได้เท่าไร”
“อะ...อึก”
กร็อบ!
ผมตั้งใจจะฟาดไปยังศรีษะของหลงฉวนเต็มแรง
แต่เจ้าตัวใช้แขนขึ้นมาการ์ดทันเวลา
แต่ถึงอย่างนั้นแขนข้างนั้นก็คงใช้ไม่ได้แล้วล่ะ
หลงฉวนกัดฟันวิ่งหนีลงบันไดสุดชีวิต
ในสภาพที่แขนทั้งสองข้างใช้การไม่ได้
ต่อให้ตนเองจะเรียนศิลปะต่อสู้มา
เมื่อต้องสู้กับคนที่มีอาวุธก็คงจะยากอยู่ดี
ผมไล่ตามหลงฉวนไปอย่างไม่รีบร้อน
ตึก!....ตึก!
หลงฉวนยังคงวิ่งหนีสุดชีวิต…
ตึก!...ตึก!
แม้เขาจะพยายามวิ่งเร็วแค่ไหน
จะซ่อนอย่างไร
ก็ยังคงถูกเจออย่างง่ายดาย
ตึก!...ตึก!...
ระหว่างที่ผมไล่ตามบางครั้งอย่างตอนที่เข้าประตูโรงยิม
อยู่ๆหลงฉวนก็กระโจนออกมาหมายจะเตะใส่หน้าผม
ถ้าไม่รู้ล่วงหน้าก่อนก็คงเสร็จไปแล้ว
พึ่งจะมีหลงฉวนคงแรกนี่แหละที่ผมปล่อยให้หนีไปแล้วหันกลับมา
หาจังหวะโจมตีกลับแบบนี้
แต่ถึงอย่างนั้นจากที่เคยสนุกในตอนแรก
ตอนนี้กลับเริ่มน่าเบื่อเสียแล้ว…
ทั้งๆที่ตอนแรกก่อนมานี่พูดจาซะดิบดีว่าจะหาตัวคนร้าย
ตอนนี้คนคนนั้นอยู่นี่แล้วไง
ไหงกับหนีไปล่ะ…
เอาเถอะอย่างน้อยก็ถือว่าสนุกกว่ารายอื่นล่ะนะ
แต่มันก็ควรจะจบได้แล้วล่ะนะ
ผมตอนให้หลงฉวนไปยังโรงยิม 2 ตามที่คาดไว้
“แก...ทำไม…”
“มันก็เป็นแค่งานอดิเรกคลายเครียดน่ะ”
หลงฉวนทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกอยู่ครู่นึง
ผิดคาดผมนึกว่านิสัยอย่างหลงฉวนถ้าได้ยินอย่างนั้นควรจะโกรธเสียอีก
“ฮะ! ฮะ! ฮะ!”
อยู่ๆหลงฉวนหัวเราะเสียงดังขึ้นมากระทันหัน
“งั้นหรอ...เป็นนายเองงั้นหรอ...”
อย่าบอกนะว่านี่หนีมาตลอดหลงฉวนยังไม่ได้นึกเลยว่าเป็นผม
จะทึ่มไปไหนกัน...ไม่สมเหตุสมผลซะเลย
“ดีจริงๆ...ที่เป็นนาย....”
หลงฉวนเข่าทรุดลงไป
หัวเราะทั้งน้ำตาเหมือนคนที่หมดภาระ
กร็อบ!
เสียงกระดูกแตกดังสนั่นโรงยิม
ทำไมหลงฉวนถึงพูดอย่างนั้นนะ
แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะต้องเก็บกวาดซะแล้ว
================================================
ส่งท้ายตอน
******************************
โลกผ่านมุมมองของ หลงฉวน
******************************
ผมฆ่าคนไปซะแล้ว…
มันเริ่มประมาณ 2 เดือนก่อน
ใบหน้าที่คุ้นตากำลังวิ่งหนีผมที่ระเบียงทางเดินมืดๆ
ตอนแรกผมนึกว่าฝันร้ายไปเอง
แต่ตอนเช้ากลับได้ข่าวว่าคนคนนั้นหายตัวไป
ตอนแรกผมปลอบใจตัวเองว่ามันน่าจะเรื่องบังเอิญ
แต่หลังจากนั้นฝันลักษณะเดียวกันก็เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง
ทุกครั้งคนที่ผมฝันหายตัวไป
ผมเริ่มกลัว
ปรกติทุกครั้งที่ผมกลับมาที่บ้านหลังซ้อมกีฬาเสร็จ
ผมหลับเป็นตายตลอด
เป็นไปได้ไหมว่าเราจะละเมอไปทำอะไรแบบนั้น
ผมเริ่มศึกษาผ่าน Internet ก็เห็นกรณีที่มีคนเดินละเมอ
แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีคนละเมอไปฆ่าคนมาก่อน
นอกจากในหนัง
ผมปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทของผม
หมอนั่นหัวเราะพลางบอกกับผมว่าไร้สาระ
ถ้าผมที่อยู่ในหอพักเดินออกไปแบบนั้นกล้องวงจรปิดคงจะจับได้แล้วผมคงถูกตั้งเป็นผู้ต้องสงสัยไปนานแล้ว
ได้ยินแบบนั้นผมก็สบายใจ
แต่ทว่าคืนนั้นเองผมก็เห็น…
เห็นหมอนั่นวิ่งหนีสุดชีวิต...แบบเดียวกับทุกครั้ง
ผมตะโกนให้หยุด...แต่มือที่ตีลงไปกลับไม่ยอมหยุด
จนในที่สุดหมอนั่นก็สิ้นลมหายใจ
ผมตกใจตื่นในตอนเช้าภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรกในชีวิตว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ
และความฝันเมื่อคืนไม่ใช่เรื่องจริง
แต่แล้วไม่รู้เพราะผมไม่เคยขอพรพระเจ้าหรืออย่างไร
ท่านจึงไม่ยอมทำตามให้
ในเช้าวันถัดมาหมอนั่นก็หายสาบสูญไป
ไปช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ราว 2-3 วัน
วันนี้ล่ะที่ผมต้องพิสูจน์เรื่องให้ได้
ถ้ามีคนอยู่กับเราทั้งคืนคงน่าจะไม่มีปัญหา
ผมนึกถึงไอ้เด็กที่ผมใช้ให้ไปซื้อของประจำพอดี
ไอ้นี่ชื่ออะไรหว่า…
ถ้าเป็นไอ้นี่ ต่อให้ผมเป็นฆาตกรตอนกลางคืนจริงๆ
พลาดไปก็คงไม่มีคนเสียใจเท่าไร
แถมถ้าอยู่ๆไอ้นี่ตายไปผมจะต้องถูกตั้งเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นแน่
ก็ผมเล่นประกาศลั่นอย่างนั้น
ถ้าผมถูกจับอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการไถ่โทษให้หมอนั่นแล้วกัน
แต่จิ้นหลิงกลับทำเสียแผนซะได้ดันพาใครมาด้วยเยอะแยะ
ช่างเถอะถ้าเป็นมัน น่าจะพอปกป้องคนอื่นจากผมได้
ถึงมันจะชอบทำตัวเป็นเด็กเรียนอย่างเดียว
แต่ดูจากท่าทางการเคลื่อนไหวแล้ว จิ้นหลิงฝีมือไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อความชัวร์ผมได้เรียกเพื่ีอนอีกคนนึงมาด้วย
คืนนั้นคนมาน้อยกว่าที่คิดแต่ไม่เป็นไร
พวกเราสำรวจไปตามอาคารเรียนต่างๆจนมาถึง…
อาคาร 3 ชั้น 4...ภาพที่หมอนั่นถูกฆ่าที่นี่ยังคงชัดเจนติดตา
ตอนนั้นที่ผมฝันยังนึกทิวทัศน์ไม่ออกเท่าไร คงเพราะเป็นตอนกลางวัน
แต่พอมาเห็นตอนกลางคืนที่นี่ใช่แน่
ผมไล่ให้ทุกคนกลับบ้านไป
แล้วกลับไปที่อาคาร 3 ชั้น 4 อีกครั้งเพื่อตรวจดูหาร่องรอยต่างๆ
อยู่ๆก็มีคนมาเรียกใครกันนะ…
ที่แท้เป็น....นี่น่าจะตามมาทำไมเนี่ยวันนี้ก็ทำเสียแผนไปทีหนึ่งแล้ว
…
…
หลังจากที่...บอกกลับผมเช่นนั้น
ถึงจะโกรธมันแค่ไหน แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก
กลัวที่ตนเองจะเป็นคนผิดมากกว่าแก้แค้นให้เพื่อนงั้นหรือ
ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเห็นเหตุการณ์พวกนั้นได้
แต่ก็ดีแล้วที่ผมไม่ได้เป็นคนฆ่านายนะไอ้เพื่อนยาก...ดีจริงๆ
....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ