For Love เพราะ...รัก
-
เขียนโดย ฝันเฟื่อง
วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.59 น.
21 ตอน
2 วิจารณ์
21.96K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 13.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) For Love เพราะ...รัก >>> ตอนที่ 15
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกันต์ Say:
‘’แล้วนี่จะกลับไปเรียนเมื่อไหร่ พ่อจะได้ให้กฤตไปจัดการให้’’ พ่อพูดขึ้นมาระหว่างที่เรากำลังกินข้าวเช้ากันอยู่ ตอนนี้ผมกับพี่เกดกลับมาอยู่บ้านได้สองอาทิตย์แล้วครับแต่ยังไม่มีใครรู้นอกจากคนในบ้านเพราะผมยังไม่ได้บอกใคร
‘’อาทิตย์หน้าครับ’’ ผมตอบพ่อทันที เรื่องที่เรียนก็ที่เดิมถึงผมจะหยุดเรียนไปตั้งหกเดือนแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะพ่อผมจัดการให้ได้อยู่แล้ว พ่อผมใหญ่น่ะ หึหึ
‘’แล้วจะอยู่บ้านหรือว่ากลับไปอยู่ที่คอนโดล่ะ’’ แม่หันมาถามผมบ้าง
‘’กลับไปอยู่คอดโดครับ .. แม่ครับ’’
‘’ว่าไงจ๊ะ’’
‘’กันต์อยากได้รถ’’ พ่อกับแม่มองหน้าผมทันทีที่ผมพูด ตอนนี้ผมขับรถเป็นแล้วนะคะ ผมให้พี่กฤตสอนให้ตั้งแต่กลับมาถึงแล้ว
‘’นึกยังไงถึงอยากได้รถ’’ พ่อถามพร้อมกับมองหน้าผม
‘’ก็กันต์ขับรถเป็นแล้วนี่ครับ แล้วอีกอย่างเวลาอยากจะไปไหนก็จะได้ขับไปเองไม่ต้องให้ใครคอยรับส่ง’’
‘’อืม’’ พ่อตอบผมสั้น ๆ
‘’แล้วกันต์อยากได้แบบไหน ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร แม่จะได้จัดการให้ถูก’’
‘’ไม่ต้องซื้อใหม่หรอกครับ รถบ้านเราก็มีเยอะแยะ เดี๋ยวกันต์ไปเลือกเอาที่มีอยู่ดีกว่า’’ แม่นิ่งไปอย่างใช้ความคิดก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ออกมา
‘’ตามใจจ๊ะ’’
‘’ขอบคุณครับ’’ ผมตอบแม่พร้อมกับรอยยิ้ม
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วผมกับแม่ก็มานั่งเล่นกันในสวน ส่วนพ่อผมก็เหมือนเดิม คือไปทำงาน ชีวิตพ่อผมมีแต่งานครับ งานยุ่งทั้งปี
‘’เออ กันต์ แม่ให้คนไปเปลี่ยนรหัสให้แล้วนะ’’
‘’ครับ’’ รหัสที่แม่พูดถึงก็คือรหัสประตูห้องผมเองครับ แม่เล่าให้ฟังว่ามีคนไปหาผมที่คอนโดในช่วงแรก ๆ ที่ผมหายไปซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใครเพราะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่รู้รหัสห้องผม ผมไม่รู้เหตุผมที่เค้าไปตามหาผม และก็ไม่อยากจะรู้ด้วย เพราะรู้ไปก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น
‘’ว่าแต่ ตั้งแต่กลับมานี่ ลูกแม่หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย’’ แม่พูดพร้อมกับยิ้มล้อผม
‘’แม่อ่า อย่าแซวกันต์ กันต์เขินนะ’’ ผมค้อนแม่ทันที ตั้งแต่ผมกลับมาอยู่บ้านทุกคนก็เอาแต่บอกว่าผมเปลี่ยนไปเยอะเลย ทุกคนบอกว่าผมน่ารักกว่าแต่ก่อนแล้วก็ดูมั่นใจมากขึ้น
‘’สงสัยแม่ต้องให้รางวัลกับเกดหน่อยแล้ว ที่ทำให้ลูกแม่น่ารักขึ้นได้มากขนาดนี้ คริคริ’’ ผมไม่ได้ตอบอะไรแม่ได้แต่ยิ้มเขิน ๆ ส่งไปให้ก่อนจะโผเข้าไปกอดไปซุกกับอกแม่ ผมรักแม่จังเลย
..................................................................................................................................
วันนี้เป็นวันที่ผมจะกลับไปเรียนเป็นวันแรกแล้วครับ ถ้าถามว่าผมตื่นเต้นหรือป่าว คำตอบก็คือ ไม่เลยแต่ดีใจมากกว่าที่จะได้กลับไปเจอเพื่อน ๆ แล้วอีกอย่างผมก็อยากเจอกับใครบางคนมาก ๆ อยากรู้อยากเห็นว่าตอนนี้เค้ามีความสุขมากไหมเพราะถ้าตอนนี้เค้ามีความสุขมาก ผมก็จะรีบไปทำลายความสุขนั้นของเค้าซะแต่ถ้าเค้าไม่มีความสุขผมก็จะไปเพิ่มความทุกข์ให้กับเค้าเอง อย่ามองว่าผมร้ายนะครับ ผมแค่โดนบังคับให้ต้องร้ายก็เท่านั้นเอง ผมไม่ได้อยากร้ายกับใครเลย แต่ในเมื่อผมให้ความรักเค้าแล้วแต่เค้ากลับทำลายมันต่อจากนี้ไปก็อย่าหวังว่าจะได้รับความรักนั้นจากผมอีก กันต์คนเดิมได้ตายไปแล้ว ต่อไปนี้จะมีแต่กันต์คนใหม่ กันต์ที่ไม่มีคำว่าปราณีใครหน้าไหนทั้งนั้น ทุกคนที่เคยทำผมเจ็บมันต้องเจ็บกว่าผมพันเท่า...!!!!
ผมขับรถมาที่ ม. พอจอดรถเสร็จก็เดินไปที่ประจำที่พวกผมเคยอยู่กัน ตอนนี้เพื่อนผมยังไม่มีใครรู้ว่าผมกลับมาแล้ว ผมเดินมาพร้อมกับสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมาที่ผมแต่ผมไม่ได้สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้น ผมสนใจแค่ผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนนั่นเท่านั้น
...ตึง...
‘’กูกลับมาแล้ว’’ ผมนั่งพร้อมกับมองหน้าทุกคนที่มองผมอย่างตกใจ มองอะไรกันขนาดนี้วะ ก็รู้ว่าหล่อขึ้นเยอะแต่แบบนี้มันเกินไปป่าววะ มันสามคนยังคงอึ้ง อึ้ง อึ้ง
‘’นี่ถ้าไม่มีใครพูดอะไรกูกลับแล้วนะ’’ ผมบอกพร้อมกับลุกขึ้นพร้อมจะเดินกลับ
‘’ก้านนนนนนนนนนนนน’’ เก้ารั้งแขนผมไว้ทันทีพร้อมกับตะโกนซะดังลั่นตึก เรียกสายตาจากทุกคนมาที่พวกเราอีกครั้ง
‘’กันต์...!!!!..’’ อันนี้พีตะโกนครับ
‘’มึงหยุดเลยนะ ไม่ต้องตะโกนอีกนะ’’ ส่วนเอกที่กำลังจะตะโกนเรียกชื่อผมก็โดนผมเบรกซะก่อน
‘’กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นบอกพีเลย’’ พีบอกแล้วก็ย้ายมานั่งข้าง ๆ ผมพร้อมกับเกาะแขนผม ส่วนเก้าก็เกาะอีกข้างพร้อมกับเอาหน้ามาถูกับไหล่ผมไปด้วย
‘’พวกเราคิดถึงกันต์มากเลยนะ คิดถึง ๆ ๆ ‘’ เก้าบอกพร้อมกับถู ๆ ไปกับไหล่ของผม
‘’กันต์เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ น่ารักขึ้นมากกกก’’ เอกพูดพร้อมกับมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม
‘’โอ้ยยย พอก่อนได้ไหมมึงนี่ เสื้อกูยับหมดแล้ว’’ ผมหันไปดุเก้าที่ตอนนี้ยังไม่หยุดเอาหน้ามาถูผมเลย แต่เพราะคำพูดของผมทำให้ตอนนี้ทั้งสามคนมองหน้าผมอย่างตกใจระคนอึ้ง
‘’กันต์ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ปกติกันต์ไม่พูดมึงกูนะ’’ พีพูดกับผมอย่างสงสัย
‘’แปลกตรงไหนใคร ๆ เค้าก็พูดกัน มึงสามคนเวลาคุยกันยังพูดมึงกูกันเลย ทำไมกูจะพูดบ้างไม่ได้ล่ะ’’ ผมตอบพีไปตามที่ผมคิด ปกติเวลาที่สามคนนี้คุยกันก็จะคุยกันมึงกูกันตลอดแต่เวลาที่คุยกับผมทั้งสามคนจะแทนชื่อตัวเองกันตลอดเหมือนกัน
‘’กันต์เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ’’ เอกบอกพร้อมกับจ้องหน้าผม
‘’แต่เก้าชอบนะ กันต์ดูมั่นใจขึ้นเยอะเลย น่ารักกว่าแต่ก่อนด้วย คริคริ’’ เก้าบอกพร้อมกับหัวเราะแล้วก็ถู ๆ กับไหล่ของผมต่อ เฮ้อออ บอกว่าเดี๋ยวเสื้อยับ ฟังกันมั่งหรือป่าวเนี่ยยย
‘’เลิกเรียนแล้วไปฉลองกัน เรา..เอ่อ..กูมีเรื่องจะถามมึงเยอะแยะเลย’’ พีคงไม่ชินกับการพูดแบบนี้กับผมสักเท่าไหร่เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาทั้งชีวิตเราไม่เคยพูดคำหยาบใส่กันเลยสักครั้ง
‘’อืม ไปสิ แต่กูขอเลือกร้านเองนะ’’ ผมตอบพีพร้อมกับรอยยิ้ม
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นห้องเรียนกัน เพื่อนในห้องทุกคนที่เห็นผมต่างก็เข้ามาทักทายถามไถ่ว่าหายไปไหนมา บางคนก็มาแซวว่าหล่อขึ้นน่ารักขึ้น
‘’แล้วจะไปไหนต่อกันดีล่ะ’’ เก้าถามหลังจากที่เราเลิกเรียนแล้วกำลังจะเดินออกจากห้อง
‘’ก็ไปกินข้าวไง มึงจะไปร้านไหน’’ พีตอบเก้าแล้วก็หันมาถามผม
‘’บ่ายสองอยู่เลย ร้านที่กูจะไปมันเปิดกลางคืนนะ’’
‘’ร้านอะไรของมึง’’
‘’ร้านเหล้า’’ ผมตอบพีสั้น ๆ ซึ่งก็เรียกสายตาจากพวกมันสามคนอีกแล้ว
‘’มึงเที่ยวที่แบบนั้นด้วยหรอวะ’’
‘’อืม’’ ผมตอบเอกสั้น ๆ ก่อนจะเดินไปที่รถ
‘’นี่กันต์ขับรถมาเองหรอ’’
‘’อืม กูให้พี่กฤตสอนขับน่ะ’’ ผมตอบคำถามเก้าก่อนจะเปิดประตูรถแต่ยังไม่ทันจะขึ้นก็นึกขึ้นมาได้สะก่อนว่าเรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยว่าจะไปไหนกันก่อนเพราะผมกะว่าจะไปที่ร้านเหล้านั้นซักสี่ทุ่ม
‘’แล้วนี่ตกลงว่าจะไปไหนกัน’’ ผมถามพร้อมกับมองหน้าพวกมัน
‘’งั้นไปกินข้าวกัน’’ พีตอบผมหลังจากที่มองหน้าเอกกับเก้าที่ไม่มีความเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่ผมมาถึงจนตอนนี้ผมยังไม่เห็นมันสองคนคุยกันสักคำ ตอนนั่งเรียนเก้าก็มานั่งกับผมแล้วให้พีไปนั่งกับเอกแทน แต่ผมว่าผมพอจะรู้ปัญหาของมันสองคนนะครับ แต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งมากพีเองก็คงจะคิดเหมือนผมปล่อยให้มันจัดการปัญหาด้วยตัวเองกันไปก่อน ถ้าไม่ไหวกันจริง ๆ ค่อยยืนมือเข้าไปช่วยก็แล้วกัน
‘’กูไปกับมึงนะกันต์’’ เก้าบอกผมพร้อมกับขึ้นไปนั่งบนรถผมเรียบร้อย เอกมองตามเก้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินไปที่รถตัวเอง พวกผมมากินข้าวกันที่บ้านพีแล้วก็นั่งคุยกันไปสักพักก่อนจะแยกย้ายกันกลับแล้วก็นัดเจอกันอีกทีตอนสี่ทุ่ม
‘’ไวท์อยู่ไหน’’ ตอนนี้ผมกลับมาที่คอนโดแล้วครับ ระหว่างรอเวลาที่นัดกับเพื่อน ผมก็โทรไปชวนไวท์ที่ตอนนี้ก็กลับมาอยู่ไทยแล้วเหมือนกันเพราะตั้งแต่กลับมาผมยังไม่ได้เจอกับไวท์เลย และผมก็มีอีกหนึ่งเหตุผลที่อยากเจอไวท์แต่ยังบอกใครไม่ได้
‘’กินเหล้าอยู่บ้านเพื่อนน่ะ กันต์มีไรหรือป่าว’’
‘’จะชวนไปเที่ยว ไปด้วยกันนะ ชวนเพื่อนมาด้วยก็ได้ เราอยากเจอไวท์ ตั้งแต่กลับไทยยังไม่ได้เจอกันเลย’’
‘’ได้ ๆ กี่โมงล่ะ’’
หลังจากที่ผมนัดแนะเวลาและก็สถานที่กับไวท์เสร็จแล้ว ผมก็ไปอาบน้ำแต่งตัว นั่งรอเวลาไปเรื่อย ๆ ใกล้แล้วสินะ เราจะได้เจอกันแล้วนะ พี่ภู…!!!
...........................................................................................................................................
‘’เพิ่งเคยเห็นมึงแต่งตัวแบบนี้นะ’’ พีเอ่ยทักผมทันทีที่เจอกัน ผมว่าผมก็แต่งธรรมดานะแค่เสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์ แปลกตรงไหน ตอนนี้พวกผมมาถึงร้านกันหมดแล้วเหลือแต่ไวท์ที่ยังมาไม่ถึงแต่ไม่เป็นไรค่อยออกมารับอีกที พวกผมเดินเข้าร้านทันที ผมเป็นคนเลือกโต๊ะเอง
‘’มึงสักด้วยหรอ กูพึ่งเห็น’’ ผมพึ่งสังเกตว่าพีมีรอยสักด้วย
‘’อืมม สักได้สักพักแล้ว’’ พีตอบพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ส่วนเอกกัลป์เก้าก็นั่งดื่มกันอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไร ผมมองไปยังโต๊ะโต๊ะหนึ่งซึ่งผมเคยได้ไปนั่งอยู่หนึ่งครั้ง หึหึ อยู่กันครบเลยนี่ ผมมองไปยังผู้ชายสี่คนที่นั่งกินเหล้ากันอยู่พร้อมกับสาว ๆ ที่รายล้อม ทุกคนยังเหมือนเดิมเลยนะ เหมือนเดิมทุกอย่าง เคยเลวยังไงก็เลยอยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนไปเลย จากโต๊ะที่พวกผมนั่งถ้ามองจากตรงนั้นคงมองมาไม่เห็นพวกผมแน่ ๆ แต่ถ้ามองจากโต๊ะพวกผมไปเห็นชัดเลย ผมคิดว่าพีเองก็คงเห็นพวกนั้นแล้วแน่ ๆ ถึงได้นั่งเงียบไปเลย ผมรู้ว่าพีก็ยังรักพี่ไม้อยู่พอมาเห็นพี่ไม้อยู่กับสาวก็คงจะเสียใจไม่น้อย ส่วนผมถ้าบอกไม่รู้สึกอะไรก็คงจะโกหก ผมยอมรับว่าผมเจ็บแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เพราะผ่านจุดที่เจ็บปวดที่สุดมาแล้ว แต่มันกลับทำให้ผมยิ่งมีแรงผลักดันมากกว่า ผมบอกแล้วว่าถ้าผมเจ็บมันต้องเจ็บมากกว่าเป็นพันเท่า เตรียมตัวรอรับมันได้เลย พี่ภู...
‘’ไปเต้นกัน’’ เก้าลากผมออกไปเต้นซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
ตอนนี้ผมกับเก้าแล้วก็พีที่ตามออกมาเต้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครซึ่งก็สามารถเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากทุกคนได้ดี จนตอนนี้พวกผมสามคนกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในร้านหมดแล้ว รวมถึงพวกมันทั้งหมดด้วย ผมมองหน้ามันแล้วก็แอบยิ้มเยาะหน่อย ๆ มันเองก็มองมาที่ผมด้วยเหมือนกัน ทันที่มีเราสบตากันมันก็อึ้งไปเลยสงสัยว่าจะช็อกคงไม่คิดว่าจะเจอผมที่นี่ในสภาพแบบนี้สินะ
‘’กันต์ กันต์’’
‘’อ้าวไวท์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่’’
‘’มาถึงเมื่อกี้ โทรมาก็ไม่รับเลยเดินเข้ามาเลย’’ ผมหันไปคุยกับไวท์ที่มาสะกิดเรียกผมก่อนจะลากพีกับเก้ากลับมานั่งที่โต๊ะเพื่อจะแนะนำไวท์ให้รู้จัก หลังจากที่แนะนำให้รู้จักกันหมดแล้วเราก็นั่งกาเหล้ากันอีกสักพักผมก็ลากไวท์ให้ออกมาเต้นด้วยกันโดยที่มีสายตาของไอ้พี่ภูที่ยังคงมองมาที่ผมอย่างไม่ละสายตาไปไหนสักวินาทีเดียว
‘’กันต์ ทำอะไรเนี่ย’’ ไวท์ถามทันทีที่ผมคล้องแขนไปที่รอบคอของไวท์ ก่อนที่ผมจะจุ๊บปากไวท์ทันที ผมจุ๊บเฉย ๆ นะครับไม่ได้จูบแบบลึกซึ้งอะไรเพียงแต่จุ๊บค้างไว้สักพักแต่ถ้ามองจากมุมที่พี่ภูนั่งมันคงเห็นเหมือนว่าผมกับไวท์จูบกันอยู่
‘’ก็จุ๊บทักทายไง’’ ผมตอบไวท์ที่มองผมอย่างงง ๆ
‘’วันนี้แปลก ๆ นะกันต์ เมาหรือป่าวเนี่ย’’
‘’นิดหน่อย’’ ผมตอบพร้อมกับทำแก้มป่องใส่ไวท์
‘’วันนี้กันต์น่ารักจังเลยนะ’’ ไวท์บอกพร้อมกับขยี้หัวผม
หลังจากที่เต้นกันจนเหนื่อยเราก็กลับมานั่งที่โต๊ะที่ตอนนี้เหลือแค่เอกกับเก้าส่วนพีหายไปไหนก็ไม่รู้ถามเก้าเก้าบอกว่าพีไปเข้าห้องน้ำตั้งนานแล้วยังไม่กลับโทรไปก็ไม่รับ ผมจึงมองไปที่โต๊ะของพวกมันที่ตอนนี้พี่ไม้ก็หายไปเหมือนกัน ผมว่าผมรู้แล้วล่ะว่าพีหายไปไหนแล้วก็ไปกับใคร
‘’เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ’’ ผมหันไปบอกไวท์ก่อนจะเดินไปห้องน้ำ
หมับ...!! หลังจากที่ทำธุระเสร็จขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้องน้ำก็มีใครบางคนมาดึงแขนผมไว้ก่อน
‘’กันต์ พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม’’ ผมมองหน้าพี่ภูที่ทำตาละห้อยให้ผม พอมองใกล้ ๆ แบบนี้พี่ภูดูซูบผอมลงไปเยอะเลย ไม่ต้องมาแสดงละครให้ผมดูหรอก มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว
‘’ขอโทษนะครับ คุณเป็นใคร ผมไม่รู้จัก แล้วกรุณาเอามือของคุณออกไปจากตัวผมด้วยครับ’’ ผมบอกพร้อมกับกระชากแขนออกมาจากมือพี่ภูที่ตอนนี้มองผมอึ้ง ๆ
‘’พี่อยากขอโทษ กันต์ฟังพี่หน่อยได้ไหม’’ ผมมองคนตรงหน้าที่มองผมด้วยสายตาสั่นไหวแล้วมันก็ทำให้ใจผมสั่นไปด้วย อย่านะกันต์ อย่าใจอ่อนเด็ดขาด จำความเจ็บปวดที่เค้าทำกับเราไว้สิ
‘’กันต์..!!’’ ก่อนที่ผมและพี่ภูจะพูดอะไรไวท์ก็เดินเข้ามาหาผมพร้อมกับมองหน้าพี่ภูอย่างไม่ไว้ใจ
‘’มีอะไรกันหรือป่าว’’
‘’ไม่มีอะไรหรอก เค้าทักคนผิดน่ะ ไปกันเหอะ’’ ผมเดินควงแขนไวท์ออกมาจากพี่ภูที่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองผมกับไวท์ พอกลับมาที่โต๊ะก็ไม่เจอใครแล้ว หายไปไหนกันหมดแล้วเนี่ยยย
‘’ไม่ใครอยู่แล้ว งั้นเรากลับกันเหอะ’’ ผมหันไปชวนไวท์กลับทันทีเพราะคนอื่นหายกันไปหมดแล้ว อยู่กันสองคนก็ไม่สนุกแล้ว แล้วอีกอย่างผมกลัวใจตัวเอง กลัวว่าถ้าพี่ภูเข้ามาคุยอีกผมจะใจอ่อนยอมยกโทษให้เค้าง่าย ๆ แต่ก่อนที่ผมกับไวท์จะเดินออกไปผมก็ต้องหยุดชะงักกับเสียงร้องที่คุ้นเคยผมมองไปที่เวทีก็เจอกับพี่ภูที่ตอนนี้มองมาที่ผมพร้อมกับร้องเพลง
\\\..เมื่อก่อนไม่เคยได้คิด ผิดอะไรไม่เคยจะรู้
ไม่ได้ดูว่าในสิ่งที่กระทำ ทำให้ใครบางคนเสียใจ
จนเมื่อจบตรงการแยกทาง ทุกๆ อย่างที่เคยทำไว้
ก็ได้กลับมาเตือนย้ำใจให้คิด ว่าฉันนั้นโง่แค่ไหน
อยากจะหมุนเวลาให้กลับยังไง ก็ไม่ย้อนมันคืนได้แล้ว
ได้แต่ขอให้เธอได้โปรดอภัยให้กัน สักครั้งจะยอมได้ไหม
ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจมันทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า
แต่ก่อนไม่เป็นอย่างนี้ อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล
อยากให้เธอได้ฟังว่าฉันละอาย ที่ทำให้เธอเสียใจ
ทำให้จบตรงการแยกทาง ทุกๆ อย่างที่เคยทำไว้
คงไม่กลับมาเตือนย้ำใจให้คิด ว่าฉันนั้นโง่แค่ไหน
อยากจะหมุนเวลาให้กลับยังไง ก็ไม่ย้อนมันคืนได้แล้ว
ได้แต่ขอให้เธอได้โปรดอภัยให้กัน สักครั้งจะยอมได้ไหม
ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจแทบทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า
รู้ว่าแผลที่ฉันนั้นได้ฝากยากจะลบมันไปจากใจ
แต่ว่าขอได้ไหม ให้เป็นฉันได้ไหม ให้ฉันรักษาเธอเอง
ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจมันทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า
อยากจะพูดให้รู้ว่า...รักเพียงเธอ…///
ยังเหมือนเดิมทุกอย่างเลยนะ หึหึ เสียงเพลงของพี่มันไม่ทำให้ผมยอมยกโทษให้ได้หรอกนะ มันไม่สามารถทำให้ผมหวั่นไหวได้อีกแล้วล่ะ
‘’กันต์ ไปกันเหอะ’’ ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้ไวท์ก่อนจะมองไปที่เวทีอีกทีแล้วก็เดินออกไปจากร้านพร้อมกับไวท์ พอออกมาแล้วผมกับไวท์ก็แยกย้ายกันกลับรถใครรถมัน แต่เราก็นัดกันไปกินข้าวกันวันหลังแล้ว ผมมองตามรถไวท์ที่ขับออกอย่างรู้สึกผิดที่เอาไวท์มาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้ของผม ใช่ ผมยอมรับว่าไวท์ก็เป็นส่วนหนึ่งในของเกมนี้
‘’พี่กฤต กันต์มีเรื่องให้ช่วยหน่อยครับ’’
‘’มีเรื่องอะไรหรอครับ’’
‘’คือกันต์อยากได้ร้านเหล้าอ่ะ พี่กฤตจัดการให้หน่อยได้ไหมครับ’’
‘’ร้านไหนครับ’’
‘’ร้าน xxx ครับ’’
‘’ให้พี่ซื้อให้หรอครับ’’
‘’ทำยังไงก็ได้ครับแล้วแต่พี่กฤต แต่กันต์ต้องได้เป็นเจ้าของนะ’’
‘’ได้ครับ’’
‘’พี่กฤตอย่าบอกพ่อกับแม่กันต์นะ พี่เกดก็ด้วยห้ามให้ใครรู้นอกจากเราสองคน’’
‘’ครับ’’
ผมวางสายจากพี่กฤตก่อนจะมองไปในร้านอีกครั้งแล้วก็ขับรถกลับคอนโด …พี่ภูกันต์เริ่มแล้วนะครับ เตรียมตัวรับมือให้ดีล่ะ หึหึ…
‘’แล้วนี่จะกลับไปเรียนเมื่อไหร่ พ่อจะได้ให้กฤตไปจัดการให้’’ พ่อพูดขึ้นมาระหว่างที่เรากำลังกินข้าวเช้ากันอยู่ ตอนนี้ผมกับพี่เกดกลับมาอยู่บ้านได้สองอาทิตย์แล้วครับแต่ยังไม่มีใครรู้นอกจากคนในบ้านเพราะผมยังไม่ได้บอกใคร
‘’อาทิตย์หน้าครับ’’ ผมตอบพ่อทันที เรื่องที่เรียนก็ที่เดิมถึงผมจะหยุดเรียนไปตั้งหกเดือนแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะพ่อผมจัดการให้ได้อยู่แล้ว พ่อผมใหญ่น่ะ หึหึ
‘’แล้วจะอยู่บ้านหรือว่ากลับไปอยู่ที่คอนโดล่ะ’’ แม่หันมาถามผมบ้าง
‘’กลับไปอยู่คอดโดครับ .. แม่ครับ’’
‘’ว่าไงจ๊ะ’’
‘’กันต์อยากได้รถ’’ พ่อกับแม่มองหน้าผมทันทีที่ผมพูด ตอนนี้ผมขับรถเป็นแล้วนะคะ ผมให้พี่กฤตสอนให้ตั้งแต่กลับมาถึงแล้ว
‘’นึกยังไงถึงอยากได้รถ’’ พ่อถามพร้อมกับมองหน้าผม
‘’ก็กันต์ขับรถเป็นแล้วนี่ครับ แล้วอีกอย่างเวลาอยากจะไปไหนก็จะได้ขับไปเองไม่ต้องให้ใครคอยรับส่ง’’
‘’อืม’’ พ่อตอบผมสั้น ๆ
‘’แล้วกันต์อยากได้แบบไหน ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร แม่จะได้จัดการให้ถูก’’
‘’ไม่ต้องซื้อใหม่หรอกครับ รถบ้านเราก็มีเยอะแยะ เดี๋ยวกันต์ไปเลือกเอาที่มีอยู่ดีกว่า’’ แม่นิ่งไปอย่างใช้ความคิดก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ออกมา
‘’ตามใจจ๊ะ’’
‘’ขอบคุณครับ’’ ผมตอบแม่พร้อมกับรอยยิ้ม
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วผมกับแม่ก็มานั่งเล่นกันในสวน ส่วนพ่อผมก็เหมือนเดิม คือไปทำงาน ชีวิตพ่อผมมีแต่งานครับ งานยุ่งทั้งปี
‘’เออ กันต์ แม่ให้คนไปเปลี่ยนรหัสให้แล้วนะ’’
‘’ครับ’’ รหัสที่แม่พูดถึงก็คือรหัสประตูห้องผมเองครับ แม่เล่าให้ฟังว่ามีคนไปหาผมที่คอนโดในช่วงแรก ๆ ที่ผมหายไปซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใครเพราะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่รู้รหัสห้องผม ผมไม่รู้เหตุผมที่เค้าไปตามหาผม และก็ไม่อยากจะรู้ด้วย เพราะรู้ไปก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น
‘’ว่าแต่ ตั้งแต่กลับมานี่ ลูกแม่หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย’’ แม่พูดพร้อมกับยิ้มล้อผม
‘’แม่อ่า อย่าแซวกันต์ กันต์เขินนะ’’ ผมค้อนแม่ทันที ตั้งแต่ผมกลับมาอยู่บ้านทุกคนก็เอาแต่บอกว่าผมเปลี่ยนไปเยอะเลย ทุกคนบอกว่าผมน่ารักกว่าแต่ก่อนแล้วก็ดูมั่นใจมากขึ้น
‘’สงสัยแม่ต้องให้รางวัลกับเกดหน่อยแล้ว ที่ทำให้ลูกแม่น่ารักขึ้นได้มากขนาดนี้ คริคริ’’ ผมไม่ได้ตอบอะไรแม่ได้แต่ยิ้มเขิน ๆ ส่งไปให้ก่อนจะโผเข้าไปกอดไปซุกกับอกแม่ ผมรักแม่จังเลย
..................................................................................................................................
วันนี้เป็นวันที่ผมจะกลับไปเรียนเป็นวันแรกแล้วครับ ถ้าถามว่าผมตื่นเต้นหรือป่าว คำตอบก็คือ ไม่เลยแต่ดีใจมากกว่าที่จะได้กลับไปเจอเพื่อน ๆ แล้วอีกอย่างผมก็อยากเจอกับใครบางคนมาก ๆ อยากรู้อยากเห็นว่าตอนนี้เค้ามีความสุขมากไหมเพราะถ้าตอนนี้เค้ามีความสุขมาก ผมก็จะรีบไปทำลายความสุขนั้นของเค้าซะแต่ถ้าเค้าไม่มีความสุขผมก็จะไปเพิ่มความทุกข์ให้กับเค้าเอง อย่ามองว่าผมร้ายนะครับ ผมแค่โดนบังคับให้ต้องร้ายก็เท่านั้นเอง ผมไม่ได้อยากร้ายกับใครเลย แต่ในเมื่อผมให้ความรักเค้าแล้วแต่เค้ากลับทำลายมันต่อจากนี้ไปก็อย่าหวังว่าจะได้รับความรักนั้นจากผมอีก กันต์คนเดิมได้ตายไปแล้ว ต่อไปนี้จะมีแต่กันต์คนใหม่ กันต์ที่ไม่มีคำว่าปราณีใครหน้าไหนทั้งนั้น ทุกคนที่เคยทำผมเจ็บมันต้องเจ็บกว่าผมพันเท่า...!!!!
ผมขับรถมาที่ ม. พอจอดรถเสร็จก็เดินไปที่ประจำที่พวกผมเคยอยู่กัน ตอนนี้เพื่อนผมยังไม่มีใครรู้ว่าผมกลับมาแล้ว ผมเดินมาพร้อมกับสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมาที่ผมแต่ผมไม่ได้สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้น ผมสนใจแค่ผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนนั่นเท่านั้น
...ตึง...
‘’กูกลับมาแล้ว’’ ผมนั่งพร้อมกับมองหน้าทุกคนที่มองผมอย่างตกใจ มองอะไรกันขนาดนี้วะ ก็รู้ว่าหล่อขึ้นเยอะแต่แบบนี้มันเกินไปป่าววะ มันสามคนยังคงอึ้ง อึ้ง อึ้ง
‘’นี่ถ้าไม่มีใครพูดอะไรกูกลับแล้วนะ’’ ผมบอกพร้อมกับลุกขึ้นพร้อมจะเดินกลับ
‘’ก้านนนนนนนนนนนนน’’ เก้ารั้งแขนผมไว้ทันทีพร้อมกับตะโกนซะดังลั่นตึก เรียกสายตาจากทุกคนมาที่พวกเราอีกครั้ง
‘’กันต์...!!!!..’’ อันนี้พีตะโกนครับ
‘’มึงหยุดเลยนะ ไม่ต้องตะโกนอีกนะ’’ ส่วนเอกที่กำลังจะตะโกนเรียกชื่อผมก็โดนผมเบรกซะก่อน
‘’กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นบอกพีเลย’’ พีบอกแล้วก็ย้ายมานั่งข้าง ๆ ผมพร้อมกับเกาะแขนผม ส่วนเก้าก็เกาะอีกข้างพร้อมกับเอาหน้ามาถูกับไหล่ผมไปด้วย
‘’พวกเราคิดถึงกันต์มากเลยนะ คิดถึง ๆ ๆ ‘’ เก้าบอกพร้อมกับถู ๆ ไปกับไหล่ของผม
‘’กันต์เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ น่ารักขึ้นมากกกก’’ เอกพูดพร้อมกับมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม
‘’โอ้ยยย พอก่อนได้ไหมมึงนี่ เสื้อกูยับหมดแล้ว’’ ผมหันไปดุเก้าที่ตอนนี้ยังไม่หยุดเอาหน้ามาถูผมเลย แต่เพราะคำพูดของผมทำให้ตอนนี้ทั้งสามคนมองหน้าผมอย่างตกใจระคนอึ้ง
‘’กันต์ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ปกติกันต์ไม่พูดมึงกูนะ’’ พีพูดกับผมอย่างสงสัย
‘’แปลกตรงไหนใคร ๆ เค้าก็พูดกัน มึงสามคนเวลาคุยกันยังพูดมึงกูกันเลย ทำไมกูจะพูดบ้างไม่ได้ล่ะ’’ ผมตอบพีไปตามที่ผมคิด ปกติเวลาที่สามคนนี้คุยกันก็จะคุยกันมึงกูกันตลอดแต่เวลาที่คุยกับผมทั้งสามคนจะแทนชื่อตัวเองกันตลอดเหมือนกัน
‘’กันต์เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ’’ เอกบอกพร้อมกับจ้องหน้าผม
‘’แต่เก้าชอบนะ กันต์ดูมั่นใจขึ้นเยอะเลย น่ารักกว่าแต่ก่อนด้วย คริคริ’’ เก้าบอกพร้อมกับหัวเราะแล้วก็ถู ๆ กับไหล่ของผมต่อ เฮ้อออ บอกว่าเดี๋ยวเสื้อยับ ฟังกันมั่งหรือป่าวเนี่ยยย
‘’เลิกเรียนแล้วไปฉลองกัน เรา..เอ่อ..กูมีเรื่องจะถามมึงเยอะแยะเลย’’ พีคงไม่ชินกับการพูดแบบนี้กับผมสักเท่าไหร่เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาทั้งชีวิตเราไม่เคยพูดคำหยาบใส่กันเลยสักครั้ง
‘’อืม ไปสิ แต่กูขอเลือกร้านเองนะ’’ ผมตอบพีพร้อมกับรอยยิ้ม
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นห้องเรียนกัน เพื่อนในห้องทุกคนที่เห็นผมต่างก็เข้ามาทักทายถามไถ่ว่าหายไปไหนมา บางคนก็มาแซวว่าหล่อขึ้นน่ารักขึ้น
‘’แล้วจะไปไหนต่อกันดีล่ะ’’ เก้าถามหลังจากที่เราเลิกเรียนแล้วกำลังจะเดินออกจากห้อง
‘’ก็ไปกินข้าวไง มึงจะไปร้านไหน’’ พีตอบเก้าแล้วก็หันมาถามผม
‘’บ่ายสองอยู่เลย ร้านที่กูจะไปมันเปิดกลางคืนนะ’’
‘’ร้านอะไรของมึง’’
‘’ร้านเหล้า’’ ผมตอบพีสั้น ๆ ซึ่งก็เรียกสายตาจากพวกมันสามคนอีกแล้ว
‘’มึงเที่ยวที่แบบนั้นด้วยหรอวะ’’
‘’อืม’’ ผมตอบเอกสั้น ๆ ก่อนจะเดินไปที่รถ
‘’นี่กันต์ขับรถมาเองหรอ’’
‘’อืม กูให้พี่กฤตสอนขับน่ะ’’ ผมตอบคำถามเก้าก่อนจะเปิดประตูรถแต่ยังไม่ทันจะขึ้นก็นึกขึ้นมาได้สะก่อนว่าเรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยว่าจะไปไหนกันก่อนเพราะผมกะว่าจะไปที่ร้านเหล้านั้นซักสี่ทุ่ม
‘’แล้วนี่ตกลงว่าจะไปไหนกัน’’ ผมถามพร้อมกับมองหน้าพวกมัน
‘’งั้นไปกินข้าวกัน’’ พีตอบผมหลังจากที่มองหน้าเอกกับเก้าที่ไม่มีความเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่ผมมาถึงจนตอนนี้ผมยังไม่เห็นมันสองคนคุยกันสักคำ ตอนนั่งเรียนเก้าก็มานั่งกับผมแล้วให้พีไปนั่งกับเอกแทน แต่ผมว่าผมพอจะรู้ปัญหาของมันสองคนนะครับ แต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งมากพีเองก็คงจะคิดเหมือนผมปล่อยให้มันจัดการปัญหาด้วยตัวเองกันไปก่อน ถ้าไม่ไหวกันจริง ๆ ค่อยยืนมือเข้าไปช่วยก็แล้วกัน
‘’กูไปกับมึงนะกันต์’’ เก้าบอกผมพร้อมกับขึ้นไปนั่งบนรถผมเรียบร้อย เอกมองตามเก้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินไปที่รถตัวเอง พวกผมมากินข้าวกันที่บ้านพีแล้วก็นั่งคุยกันไปสักพักก่อนจะแยกย้ายกันกลับแล้วก็นัดเจอกันอีกทีตอนสี่ทุ่ม
‘’ไวท์อยู่ไหน’’ ตอนนี้ผมกลับมาที่คอนโดแล้วครับ ระหว่างรอเวลาที่นัดกับเพื่อน ผมก็โทรไปชวนไวท์ที่ตอนนี้ก็กลับมาอยู่ไทยแล้วเหมือนกันเพราะตั้งแต่กลับมาผมยังไม่ได้เจอกับไวท์เลย และผมก็มีอีกหนึ่งเหตุผลที่อยากเจอไวท์แต่ยังบอกใครไม่ได้
‘’กินเหล้าอยู่บ้านเพื่อนน่ะ กันต์มีไรหรือป่าว’’
‘’จะชวนไปเที่ยว ไปด้วยกันนะ ชวนเพื่อนมาด้วยก็ได้ เราอยากเจอไวท์ ตั้งแต่กลับไทยยังไม่ได้เจอกันเลย’’
‘’ได้ ๆ กี่โมงล่ะ’’
หลังจากที่ผมนัดแนะเวลาและก็สถานที่กับไวท์เสร็จแล้ว ผมก็ไปอาบน้ำแต่งตัว นั่งรอเวลาไปเรื่อย ๆ ใกล้แล้วสินะ เราจะได้เจอกันแล้วนะ พี่ภู…!!!
...........................................................................................................................................
‘’เพิ่งเคยเห็นมึงแต่งตัวแบบนี้นะ’’ พีเอ่ยทักผมทันทีที่เจอกัน ผมว่าผมก็แต่งธรรมดานะแค่เสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์ แปลกตรงไหน ตอนนี้พวกผมมาถึงร้านกันหมดแล้วเหลือแต่ไวท์ที่ยังมาไม่ถึงแต่ไม่เป็นไรค่อยออกมารับอีกที พวกผมเดินเข้าร้านทันที ผมเป็นคนเลือกโต๊ะเอง
‘’มึงสักด้วยหรอ กูพึ่งเห็น’’ ผมพึ่งสังเกตว่าพีมีรอยสักด้วย
‘’อืมม สักได้สักพักแล้ว’’ พีตอบพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ส่วนเอกกัลป์เก้าก็นั่งดื่มกันอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไร ผมมองไปยังโต๊ะโต๊ะหนึ่งซึ่งผมเคยได้ไปนั่งอยู่หนึ่งครั้ง หึหึ อยู่กันครบเลยนี่ ผมมองไปยังผู้ชายสี่คนที่นั่งกินเหล้ากันอยู่พร้อมกับสาว ๆ ที่รายล้อม ทุกคนยังเหมือนเดิมเลยนะ เหมือนเดิมทุกอย่าง เคยเลวยังไงก็เลยอยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนไปเลย จากโต๊ะที่พวกผมนั่งถ้ามองจากตรงนั้นคงมองมาไม่เห็นพวกผมแน่ ๆ แต่ถ้ามองจากโต๊ะพวกผมไปเห็นชัดเลย ผมคิดว่าพีเองก็คงเห็นพวกนั้นแล้วแน่ ๆ ถึงได้นั่งเงียบไปเลย ผมรู้ว่าพีก็ยังรักพี่ไม้อยู่พอมาเห็นพี่ไม้อยู่กับสาวก็คงจะเสียใจไม่น้อย ส่วนผมถ้าบอกไม่รู้สึกอะไรก็คงจะโกหก ผมยอมรับว่าผมเจ็บแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เพราะผ่านจุดที่เจ็บปวดที่สุดมาแล้ว แต่มันกลับทำให้ผมยิ่งมีแรงผลักดันมากกว่า ผมบอกแล้วว่าถ้าผมเจ็บมันต้องเจ็บมากกว่าเป็นพันเท่า เตรียมตัวรอรับมันได้เลย พี่ภู...
‘’ไปเต้นกัน’’ เก้าลากผมออกไปเต้นซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
ตอนนี้ผมกับเก้าแล้วก็พีที่ตามออกมาเต้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครซึ่งก็สามารถเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากทุกคนได้ดี จนตอนนี้พวกผมสามคนกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในร้านหมดแล้ว รวมถึงพวกมันทั้งหมดด้วย ผมมองหน้ามันแล้วก็แอบยิ้มเยาะหน่อย ๆ มันเองก็มองมาที่ผมด้วยเหมือนกัน ทันที่มีเราสบตากันมันก็อึ้งไปเลยสงสัยว่าจะช็อกคงไม่คิดว่าจะเจอผมที่นี่ในสภาพแบบนี้สินะ
‘’กันต์ กันต์’’
‘’อ้าวไวท์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่’’
‘’มาถึงเมื่อกี้ โทรมาก็ไม่รับเลยเดินเข้ามาเลย’’ ผมหันไปคุยกับไวท์ที่มาสะกิดเรียกผมก่อนจะลากพีกับเก้ากลับมานั่งที่โต๊ะเพื่อจะแนะนำไวท์ให้รู้จัก หลังจากที่แนะนำให้รู้จักกันหมดแล้วเราก็นั่งกาเหล้ากันอีกสักพักผมก็ลากไวท์ให้ออกมาเต้นด้วยกันโดยที่มีสายตาของไอ้พี่ภูที่ยังคงมองมาที่ผมอย่างไม่ละสายตาไปไหนสักวินาทีเดียว
‘’กันต์ ทำอะไรเนี่ย’’ ไวท์ถามทันทีที่ผมคล้องแขนไปที่รอบคอของไวท์ ก่อนที่ผมจะจุ๊บปากไวท์ทันที ผมจุ๊บเฉย ๆ นะครับไม่ได้จูบแบบลึกซึ้งอะไรเพียงแต่จุ๊บค้างไว้สักพักแต่ถ้ามองจากมุมที่พี่ภูนั่งมันคงเห็นเหมือนว่าผมกับไวท์จูบกันอยู่
‘’ก็จุ๊บทักทายไง’’ ผมตอบไวท์ที่มองผมอย่างงง ๆ
‘’วันนี้แปลก ๆ นะกันต์ เมาหรือป่าวเนี่ย’’
‘’นิดหน่อย’’ ผมตอบพร้อมกับทำแก้มป่องใส่ไวท์
‘’วันนี้กันต์น่ารักจังเลยนะ’’ ไวท์บอกพร้อมกับขยี้หัวผม
หลังจากที่เต้นกันจนเหนื่อยเราก็กลับมานั่งที่โต๊ะที่ตอนนี้เหลือแค่เอกกับเก้าส่วนพีหายไปไหนก็ไม่รู้ถามเก้าเก้าบอกว่าพีไปเข้าห้องน้ำตั้งนานแล้วยังไม่กลับโทรไปก็ไม่รับ ผมจึงมองไปที่โต๊ะของพวกมันที่ตอนนี้พี่ไม้ก็หายไปเหมือนกัน ผมว่าผมรู้แล้วล่ะว่าพีหายไปไหนแล้วก็ไปกับใคร
‘’เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ’’ ผมหันไปบอกไวท์ก่อนจะเดินไปห้องน้ำ
หมับ...!! หลังจากที่ทำธุระเสร็จขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้องน้ำก็มีใครบางคนมาดึงแขนผมไว้ก่อน
‘’กันต์ พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม’’ ผมมองหน้าพี่ภูที่ทำตาละห้อยให้ผม พอมองใกล้ ๆ แบบนี้พี่ภูดูซูบผอมลงไปเยอะเลย ไม่ต้องมาแสดงละครให้ผมดูหรอก มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว
‘’ขอโทษนะครับ คุณเป็นใคร ผมไม่รู้จัก แล้วกรุณาเอามือของคุณออกไปจากตัวผมด้วยครับ’’ ผมบอกพร้อมกับกระชากแขนออกมาจากมือพี่ภูที่ตอนนี้มองผมอึ้ง ๆ
‘’พี่อยากขอโทษ กันต์ฟังพี่หน่อยได้ไหม’’ ผมมองคนตรงหน้าที่มองผมด้วยสายตาสั่นไหวแล้วมันก็ทำให้ใจผมสั่นไปด้วย อย่านะกันต์ อย่าใจอ่อนเด็ดขาด จำความเจ็บปวดที่เค้าทำกับเราไว้สิ
‘’กันต์..!!’’ ก่อนที่ผมและพี่ภูจะพูดอะไรไวท์ก็เดินเข้ามาหาผมพร้อมกับมองหน้าพี่ภูอย่างไม่ไว้ใจ
‘’มีอะไรกันหรือป่าว’’
‘’ไม่มีอะไรหรอก เค้าทักคนผิดน่ะ ไปกันเหอะ’’ ผมเดินควงแขนไวท์ออกมาจากพี่ภูที่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองผมกับไวท์ พอกลับมาที่โต๊ะก็ไม่เจอใครแล้ว หายไปไหนกันหมดแล้วเนี่ยยย
‘’ไม่ใครอยู่แล้ว งั้นเรากลับกันเหอะ’’ ผมหันไปชวนไวท์กลับทันทีเพราะคนอื่นหายกันไปหมดแล้ว อยู่กันสองคนก็ไม่สนุกแล้ว แล้วอีกอย่างผมกลัวใจตัวเอง กลัวว่าถ้าพี่ภูเข้ามาคุยอีกผมจะใจอ่อนยอมยกโทษให้เค้าง่าย ๆ แต่ก่อนที่ผมกับไวท์จะเดินออกไปผมก็ต้องหยุดชะงักกับเสียงร้องที่คุ้นเคยผมมองไปที่เวทีก็เจอกับพี่ภูที่ตอนนี้มองมาที่ผมพร้อมกับร้องเพลง
\\\..เมื่อก่อนไม่เคยได้คิด ผิดอะไรไม่เคยจะรู้
ไม่ได้ดูว่าในสิ่งที่กระทำ ทำให้ใครบางคนเสียใจ
จนเมื่อจบตรงการแยกทาง ทุกๆ อย่างที่เคยทำไว้
ก็ได้กลับมาเตือนย้ำใจให้คิด ว่าฉันนั้นโง่แค่ไหน
อยากจะหมุนเวลาให้กลับยังไง ก็ไม่ย้อนมันคืนได้แล้ว
ได้แต่ขอให้เธอได้โปรดอภัยให้กัน สักครั้งจะยอมได้ไหม
ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจมันทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า
แต่ก่อนไม่เป็นอย่างนี้ อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล
อยากให้เธอได้ฟังว่าฉันละอาย ที่ทำให้เธอเสียใจ
ทำให้จบตรงการแยกทาง ทุกๆ อย่างที่เคยทำไว้
คงไม่กลับมาเตือนย้ำใจให้คิด ว่าฉันนั้นโง่แค่ไหน
อยากจะหมุนเวลาให้กลับยังไง ก็ไม่ย้อนมันคืนได้แล้ว
ได้แต่ขอให้เธอได้โปรดอภัยให้กัน สักครั้งจะยอมได้ไหม
ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจแทบทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า
รู้ว่าแผลที่ฉันนั้นได้ฝากยากจะลบมันไปจากใจ
แต่ว่าขอได้ไหม ให้เป็นฉันได้ไหม ให้ฉันรักษาเธอเอง
ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจมันทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า
อยากจะพูดให้รู้ว่า...รักเพียงเธอ…///
ยังเหมือนเดิมทุกอย่างเลยนะ หึหึ เสียงเพลงของพี่มันไม่ทำให้ผมยอมยกโทษให้ได้หรอกนะ มันไม่สามารถทำให้ผมหวั่นไหวได้อีกแล้วล่ะ
‘’กันต์ ไปกันเหอะ’’ ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้ไวท์ก่อนจะมองไปที่เวทีอีกทีแล้วก็เดินออกไปจากร้านพร้อมกับไวท์ พอออกมาแล้วผมกับไวท์ก็แยกย้ายกันกลับรถใครรถมัน แต่เราก็นัดกันไปกินข้าวกันวันหลังแล้ว ผมมองตามรถไวท์ที่ขับออกอย่างรู้สึกผิดที่เอาไวท์มาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้ของผม ใช่ ผมยอมรับว่าไวท์ก็เป็นส่วนหนึ่งในของเกมนี้
‘’พี่กฤต กันต์มีเรื่องให้ช่วยหน่อยครับ’’
‘’มีเรื่องอะไรหรอครับ’’
‘’คือกันต์อยากได้ร้านเหล้าอ่ะ พี่กฤตจัดการให้หน่อยได้ไหมครับ’’
‘’ร้านไหนครับ’’
‘’ร้าน xxx ครับ’’
‘’ให้พี่ซื้อให้หรอครับ’’
‘’ทำยังไงก็ได้ครับแล้วแต่พี่กฤต แต่กันต์ต้องได้เป็นเจ้าของนะ’’
‘’ได้ครับ’’
‘’พี่กฤตอย่าบอกพ่อกับแม่กันต์นะ พี่เกดก็ด้วยห้ามให้ใครรู้นอกจากเราสองคน’’
‘’ครับ’’
ผมวางสายจากพี่กฤตก่อนจะมองไปในร้านอีกครั้งแล้วก็ขับรถกลับคอนโด …พี่ภูกันต์เริ่มแล้วนะครับ เตรียมตัวรับมือให้ดีล่ะ หึหึ…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ