friend or love เพื่อนหรือคนรักกันที่ฉันคิดกับเขา
9.3
เขียนโดย forzeชะแว้ก
วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 14.11 น.
19 ตอน
1 วิจารณ์
23.07K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557 20.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
18)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"จะไปรู้มั้ย...ร่างมันขยับไปเอง...."
"..."
"ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ถึงช่วยนาย หรือเป็นเพราะนายเหมือนกับ..."
"เหมือนกับ?"
"ไม่มีอะไรหรอก"หลังจากที่สามคนนั้นออกไป...เขาก็ถามมาว่าทำไมถึง่ชวยเขาเพราะตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เหตุผลของตัวฉันเองด้วยซ้ำและเป็นเพราะเขาคล้ายคลึงกับเด็กคนนั้นมากถ้าเกิดเขาเป็นเด็กคนนั้นจริงๆล่ะ คงไม่หรอก....ฉันเลยปฏิเสธว่าไม่มีอะไรได้แค่เท่านี้เขาเริ่มขมวดคิ้วเหมือนกับว่าไม่เชื่อคำพูดของฉันแต่นั้นก็เป็นความเชื่อของเขานี่....จะเชื่อไม่เชื่อก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาฉันได้แต่คิดอย่างงั้นเพียงอย่างเดียว
"ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้?""เพราะเราเป็นเพื่อนกัน"เพื่อนอย่างงั้นเหรอ? หึ....ก็มันเป็นอย่างงั้นจริงๆนี่...ช่วงตอนที่ฉันยังเรียนแล้วไปเข้าด้านมืดหรือไม่ว่าจจะไปที่ไหน...ก็เจอแต่เขาเห็นซากุระว่าถ้าเป็นยังนี้คงต้องเป็นโชคชะตาที่ฟ้าดินกำหนดมาให้แต่ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ จะให้พูดก็เชื่อแค่20%เท่านั้นแหละเพราะเรื่องนี้อาจจะไม่เป็นจริงมันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้นี่นา...
................
"จริงสิไหนๆพ่อก็เคลียคดีเรื่องนี้ได้แล้ว คิดว่าไงถ้าเราทั้งหมดจะไปฮาวาย"
"แต่ว่าหนูว่ามันแพงเกินนะค่ะพ่อไปแวนี้อย่างเกาหลีก็ได้นี่"
"ไม่เอาหรอกโอกาสแบบนี้ไม่มีมาบ่อยหรอกนะ"เฮ้อ...ทำไมถึงได้ดื้อเหมือนเด็กขนาดนี้นะจริงๆก็อยากไปอยู่หรอกแต่ว่าค่าตั๋วมันแพงเลยคิดว่าน่าจะไปแถวนี้ยังจะดีกว่าด้วยซ้ำไปแต่พ่อฉันน่ะสิดันเป็นคนหัวดื้อขนาดนี้ขนาดฉันกับนารุโตะยังเถียงไม่ขึ้นเลยแล้วแบบนี้จะเอายังไงต่อไปดีล่ะเนี่ย...
"นารุโกะ ยอมๆไปดีกว่านะก็รู้นี่ว่าพ่อเป็นคนแบบไหน"
"เฮ้อ...งั้นก็ช่วยไม่ได้นะแต่ขอให้ออกจากโรงพยาบาลให้ได้ก่อนแล้วกัน"
"เป็นอันตกลงนะ...เราจะไปกันทั้งหมดเจ็ดคนนะ"
โอ๊ะ เจ็ดเลยเหรอหรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้เพราะเวลาพ่อบอกจำนวนอย่างเช่น3คนดันเพิ่มมาเป็น4ครั้งนี้ฉันว่าน่าจะเพิ่มมาเป็น 9 คนแหงๆถ้าตามทฤษดีที่ฉันคิดอยู่ตอนนี้นะ
"เดี๋ยวสิพ่อ ทำไมไปกันเยอะขนาดนี้ล่ะ แล้วจะเดินทางไปยังไงครับ พ่อหัดคิดก่อนพูดบ้างได้มั้ย"
"ตั๋วฟรีน่ะจริงสิแถมอีกสองใบนี่งั้นก็ไปกัน9คนนะ"เป็นตามที่ฉันคิดไว้พ่อมักจะหาข้ออ้างแต่เรื่องตั๋วอาจจะจริง...แต่ไอ้แถมสองนี่ไม่เชื่อเด็ดขาดเลยรู้เลยว่าเป็นข้ออ้างชัดๆเพราะพ่อชอบหาข้ออ้างคล้ายๆกันมาตลอดหรือไม่ก็เหตุผลที่ค่อนข้างไร้สาระเอามากๆจนฉันไม่เชื่อ....เฮ้อ
..................
"ยาฮู้"โอเคให้มันได้อย่างนี้ซิ...หลังจากที่ฉันออกจากโรงพยาบาลพ่อก็รีบออกเดินทางและพอฉันกับทุกคนขึ้นไปเก็บกระเป๋าแล้วก็ลงมาข้างล่างแล้วจู่ๆพ่อฉันเกิดเหมือนจะเป็นบ้าอะไรขึ้นมารีบโดดลงไปในทะเลก่อนใครเลย ทำตัวเป็นเด็กไปได้แล้วก็ทำตัวอย่างกับว่าไม่เคยมาเที่ยวทะเลอย่างงั้นแหละ
"ไม่ลงไปหน่อยเหรอ"
"ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากลงอีกอย่างแดดก็ร้อนพอแล้ว แล้วทำไมเธอไม่ไปเล่นบ้างล่ะซากุระ"
"ฉันเองก็กลัวผิดฉันคล้ำเหมือนกัน..."ขอยอมรับว่าบางทีซากุระกับฉันก็คิดอะไรตรงกันเสมอแค่บางครั้งนะซากุระค่อยๆนั่งข้างฉันแล้วหันไปมองนารุโตะที่กำลังเล่นน้ำส่วนที่เหลือเหรอ...อยู่ในโรงแรมสงสัยคงไม่อยากจะเล่นน้ำล่ะมั้งเจ้าชิกะมารุ....คงจะบอกว่าน่ารำคาญอีกแน่ๆส่วนฮินาตะเหรอเห็นว่าคลื่นไส้นิดหน่อยเลยขอพักผ่อนที่เหลือก็ลงเล่นน้ำกันหมดยกเว้นฉันกับซากุระเท่านั้น
"นารุโกะ...ฉันมีของจะให้เธอน่ะ"
"อะไรเหรอ?"
"หลับตาสิ"ฉันงงกับคำพูดของซากุระ ฉันค่อยๆหลับตาลงฉันรู้สึกได้ว่าเหมือนซกุระกำลังใส่อะไรให้ฉันแต่ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงฉันก็ใส่เองได้
"ลืมตาได้แล้วล่ะ"ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วมองไปข้างล่างฉันเบิกตากว้างแล้วรีบหยิบมันขึ้นมาไว้ในมือ
"ซากุระ....นี่..."
"ก็สร้อยเธอไง ฉันเห็นมันขาดฉันเลยเอามาซ่อมให้น่ะ กว่าจะซ่อมได้เจ็บแทบตาย"
"งั้นแปลว่าแผลทีมือเธอต้นเหตุมาจาก...สร้อยของฉันงั้นเหรอ?"
"อื่อ..."ซากุระค่อยๆส่งยิ้มหวานมาให้ฉัน ตอนแรกฉันเองก็ไม่คิดว่าจะมีคนซ่อมมันได้และไม่มีใครคิดที่จะใส่ใจซักนิดแต่ซากุระกับซ่อมมันให้เหมือนใหม่กว่าเดิม
"เธอไม่น่าลำบากถึงขนาดนี้เลยก้ได้นี่ซากุระ..."
"ก็ฉันอยากช่วยเธอนี่..."
"หึ....ขอบใจนะซากุระฉันก็มีอะไรให้เธอเหมือนกัน"
"อะไร....นารุโกะ"
"ฉันอุตส่าห์ไปหามาซื้อมาให้เห็นหัวมัน....ฉันเลยซื้อมาให้แต่ฉันว่ามันเข้ากับเธอมากเลยนะ"
"ขอบใจนะ เธอไม่รู้หรอกว่ามันสำคัญกับฉันมากแค่ไหนริบบิ้นเนี่ยฉันจะเก็บไว้เป็นอย่างดีเลย"
"ฉันก็จะเก็บสร้อยนี่ไว้เป็นอย่างดีเลย"ฉันกับซากุระมองหน้ากันแล้วค่อยๆส่งยิ้มให้กันการที่มีเพื่อนนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าการมีเพื่อนมันไร้สาระแต่พอมาเจอพวกเขาเลยทำให้ฉันเข้าใจว่ามันไม่ไร้สาระกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เพราะพวกเขาทำให้อคติของฉันเริ่มหายไปเรื่อยโดยเฉพาะซากุระที่ทำให้ฉันรู้ความหมายของการเป็นเพื่อนว่าต้องทำยังไงหรือเป็นเพื่อนที่ดียังไง
.....................
"ดึกป่านนี้ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ"
"ฉันนอนไม่หลับน่ะ นายล่ะซาสึเกะ?มาทำอะไรที่นี่ตอนนี้?"
"มาเดินเล่น....นั่งด้วยได้มั้ย"
"ได้สิ...สวยจังนะที่นี่ตอนกลางคืนน่ะ"
"อื่อ....นารุโกะมีเรื่องที่ฉันอยากจะบอกเธอ"
"อะไรงั้นเหรอ"
"ฉัน...."รู้ล่ะว่าหมอนี่จะพูดอะไรคงไม่กล้าจะพูดล่ะสิหน้าแดงซะขนาดนี้
"ฉันก็ชอบนายนะซาสึเกะ"
"รู้ได้ไงว่าฉันจะบอกอะไรเธอน่ะ"
"ดูจากสีหน้านายก็รู้แล้วนายยังจับมือฉันอีกแล้วนายก็อยู่ใกล้ฉันซะขนาดนี้ไม่มีทางที่ฉันจะไม่รู้"
"หึ"เขาค่อยๆกระตุกยิ้มออกมาแล้วค่อยๆใช้มือมาลูบแก้มฉันเบาๆแล้วทำการประกบริมฝีปากฉันเป็นครั้งที่สามที่ฉันโดนเขาจูบไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้กันนะความรู้สึกที่เรียกไม่ถูกซักนิดเขาค่อยๆถอนริมฝีปากออกมา
"เป็นอะไร"
"เปล่า....ฉันว่าเรากลับกันเถอะ"
"อื่อ"นารุโกะจับมือกับซาสึเกะแปลว่าถ้าเข้าห้องไปต้องถามให้รู้เรื่องให้ได้เลย
......................
"..."
"ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ถึงช่วยนาย หรือเป็นเพราะนายเหมือนกับ..."
"เหมือนกับ?"
"ไม่มีอะไรหรอก"หลังจากที่สามคนนั้นออกไป...เขาก็ถามมาว่าทำไมถึง่ชวยเขาเพราะตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เหตุผลของตัวฉันเองด้วยซ้ำและเป็นเพราะเขาคล้ายคลึงกับเด็กคนนั้นมากถ้าเกิดเขาเป็นเด็กคนนั้นจริงๆล่ะ คงไม่หรอก....ฉันเลยปฏิเสธว่าไม่มีอะไรได้แค่เท่านี้เขาเริ่มขมวดคิ้วเหมือนกับว่าไม่เชื่อคำพูดของฉันแต่นั้นก็เป็นความเชื่อของเขานี่....จะเชื่อไม่เชื่อก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาฉันได้แต่คิดอย่างงั้นเพียงอย่างเดียว
"ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้?""เพราะเราเป็นเพื่อนกัน"เพื่อนอย่างงั้นเหรอ? หึ....ก็มันเป็นอย่างงั้นจริงๆนี่...ช่วงตอนที่ฉันยังเรียนแล้วไปเข้าด้านมืดหรือไม่ว่าจจะไปที่ไหน...ก็เจอแต่เขาเห็นซากุระว่าถ้าเป็นยังนี้คงต้องเป็นโชคชะตาที่ฟ้าดินกำหนดมาให้แต่ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ จะให้พูดก็เชื่อแค่20%เท่านั้นแหละเพราะเรื่องนี้อาจจะไม่เป็นจริงมันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้นี่นา...
................
"จริงสิไหนๆพ่อก็เคลียคดีเรื่องนี้ได้แล้ว คิดว่าไงถ้าเราทั้งหมดจะไปฮาวาย"
"แต่ว่าหนูว่ามันแพงเกินนะค่ะพ่อไปแวนี้อย่างเกาหลีก็ได้นี่"
"ไม่เอาหรอกโอกาสแบบนี้ไม่มีมาบ่อยหรอกนะ"เฮ้อ...ทำไมถึงได้ดื้อเหมือนเด็กขนาดนี้นะจริงๆก็อยากไปอยู่หรอกแต่ว่าค่าตั๋วมันแพงเลยคิดว่าน่าจะไปแถวนี้ยังจะดีกว่าด้วยซ้ำไปแต่พ่อฉันน่ะสิดันเป็นคนหัวดื้อขนาดนี้ขนาดฉันกับนารุโตะยังเถียงไม่ขึ้นเลยแล้วแบบนี้จะเอายังไงต่อไปดีล่ะเนี่ย...
"นารุโกะ ยอมๆไปดีกว่านะก็รู้นี่ว่าพ่อเป็นคนแบบไหน"
"เฮ้อ...งั้นก็ช่วยไม่ได้นะแต่ขอให้ออกจากโรงพยาบาลให้ได้ก่อนแล้วกัน"
"เป็นอันตกลงนะ...เราจะไปกันทั้งหมดเจ็ดคนนะ"
โอ๊ะ เจ็ดเลยเหรอหรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้เพราะเวลาพ่อบอกจำนวนอย่างเช่น3คนดันเพิ่มมาเป็น4ครั้งนี้ฉันว่าน่าจะเพิ่มมาเป็น 9 คนแหงๆถ้าตามทฤษดีที่ฉันคิดอยู่ตอนนี้นะ
"เดี๋ยวสิพ่อ ทำไมไปกันเยอะขนาดนี้ล่ะ แล้วจะเดินทางไปยังไงครับ พ่อหัดคิดก่อนพูดบ้างได้มั้ย"
"ตั๋วฟรีน่ะจริงสิแถมอีกสองใบนี่งั้นก็ไปกัน9คนนะ"เป็นตามที่ฉันคิดไว้พ่อมักจะหาข้ออ้างแต่เรื่องตั๋วอาจจะจริง...แต่ไอ้แถมสองนี่ไม่เชื่อเด็ดขาดเลยรู้เลยว่าเป็นข้ออ้างชัดๆเพราะพ่อชอบหาข้ออ้างคล้ายๆกันมาตลอดหรือไม่ก็เหตุผลที่ค่อนข้างไร้สาระเอามากๆจนฉันไม่เชื่อ....เฮ้อ
..................
"ยาฮู้"โอเคให้มันได้อย่างนี้ซิ...หลังจากที่ฉันออกจากโรงพยาบาลพ่อก็รีบออกเดินทางและพอฉันกับทุกคนขึ้นไปเก็บกระเป๋าแล้วก็ลงมาข้างล่างแล้วจู่ๆพ่อฉันเกิดเหมือนจะเป็นบ้าอะไรขึ้นมารีบโดดลงไปในทะเลก่อนใครเลย ทำตัวเป็นเด็กไปได้แล้วก็ทำตัวอย่างกับว่าไม่เคยมาเที่ยวทะเลอย่างงั้นแหละ
"ไม่ลงไปหน่อยเหรอ"
"ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากลงอีกอย่างแดดก็ร้อนพอแล้ว แล้วทำไมเธอไม่ไปเล่นบ้างล่ะซากุระ"
"ฉันเองก็กลัวผิดฉันคล้ำเหมือนกัน..."ขอยอมรับว่าบางทีซากุระกับฉันก็คิดอะไรตรงกันเสมอแค่บางครั้งนะซากุระค่อยๆนั่งข้างฉันแล้วหันไปมองนารุโตะที่กำลังเล่นน้ำส่วนที่เหลือเหรอ...อยู่ในโรงแรมสงสัยคงไม่อยากจะเล่นน้ำล่ะมั้งเจ้าชิกะมารุ....คงจะบอกว่าน่ารำคาญอีกแน่ๆส่วนฮินาตะเหรอเห็นว่าคลื่นไส้นิดหน่อยเลยขอพักผ่อนที่เหลือก็ลงเล่นน้ำกันหมดยกเว้นฉันกับซากุระเท่านั้น
"นารุโกะ...ฉันมีของจะให้เธอน่ะ"
"อะไรเหรอ?"
"หลับตาสิ"ฉันงงกับคำพูดของซากุระ ฉันค่อยๆหลับตาลงฉันรู้สึกได้ว่าเหมือนซกุระกำลังใส่อะไรให้ฉันแต่ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงฉันก็ใส่เองได้
"ลืมตาได้แล้วล่ะ"ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วมองไปข้างล่างฉันเบิกตากว้างแล้วรีบหยิบมันขึ้นมาไว้ในมือ
"ซากุระ....นี่..."
"ก็สร้อยเธอไง ฉันเห็นมันขาดฉันเลยเอามาซ่อมให้น่ะ กว่าจะซ่อมได้เจ็บแทบตาย"
"งั้นแปลว่าแผลทีมือเธอต้นเหตุมาจาก...สร้อยของฉันงั้นเหรอ?"
"อื่อ..."ซากุระค่อยๆส่งยิ้มหวานมาให้ฉัน ตอนแรกฉันเองก็ไม่คิดว่าจะมีคนซ่อมมันได้และไม่มีใครคิดที่จะใส่ใจซักนิดแต่ซากุระกับซ่อมมันให้เหมือนใหม่กว่าเดิม
"เธอไม่น่าลำบากถึงขนาดนี้เลยก้ได้นี่ซากุระ..."
"ก็ฉันอยากช่วยเธอนี่..."
"หึ....ขอบใจนะซากุระฉันก็มีอะไรให้เธอเหมือนกัน"
"อะไร....นารุโกะ"
"ฉันอุตส่าห์ไปหามาซื้อมาให้เห็นหัวมัน....ฉันเลยซื้อมาให้แต่ฉันว่ามันเข้ากับเธอมากเลยนะ"
"ขอบใจนะ เธอไม่รู้หรอกว่ามันสำคัญกับฉันมากแค่ไหนริบบิ้นเนี่ยฉันจะเก็บไว้เป็นอย่างดีเลย"
"ฉันก็จะเก็บสร้อยนี่ไว้เป็นอย่างดีเลย"ฉันกับซากุระมองหน้ากันแล้วค่อยๆส่งยิ้มให้กันการที่มีเพื่อนนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าการมีเพื่อนมันไร้สาระแต่พอมาเจอพวกเขาเลยทำให้ฉันเข้าใจว่ามันไม่ไร้สาระกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เพราะพวกเขาทำให้อคติของฉันเริ่มหายไปเรื่อยโดยเฉพาะซากุระที่ทำให้ฉันรู้ความหมายของการเป็นเพื่อนว่าต้องทำยังไงหรือเป็นเพื่อนที่ดียังไง
.....................
"ดึกป่านนี้ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ"
"ฉันนอนไม่หลับน่ะ นายล่ะซาสึเกะ?มาทำอะไรที่นี่ตอนนี้?"
"มาเดินเล่น....นั่งด้วยได้มั้ย"
"ได้สิ...สวยจังนะที่นี่ตอนกลางคืนน่ะ"
"อื่อ....นารุโกะมีเรื่องที่ฉันอยากจะบอกเธอ"
"อะไรงั้นเหรอ"
"ฉัน...."รู้ล่ะว่าหมอนี่จะพูดอะไรคงไม่กล้าจะพูดล่ะสิหน้าแดงซะขนาดนี้
"ฉันก็ชอบนายนะซาสึเกะ"
"รู้ได้ไงว่าฉันจะบอกอะไรเธอน่ะ"
"ดูจากสีหน้านายก็รู้แล้วนายยังจับมือฉันอีกแล้วนายก็อยู่ใกล้ฉันซะขนาดนี้ไม่มีทางที่ฉันจะไม่รู้"
"หึ"เขาค่อยๆกระตุกยิ้มออกมาแล้วค่อยๆใช้มือมาลูบแก้มฉันเบาๆแล้วทำการประกบริมฝีปากฉันเป็นครั้งที่สามที่ฉันโดนเขาจูบไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้กันนะความรู้สึกที่เรียกไม่ถูกซักนิดเขาค่อยๆถอนริมฝีปากออกมา
"เป็นอะไร"
"เปล่า....ฉันว่าเรากลับกันเถอะ"
"อื่อ"นารุโกะจับมือกับซาสึเกะแปลว่าถ้าเข้าห้องไปต้องถามให้รู้เรื่องให้ได้เลย
......................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ