รักกูหน่อยนะครับ กูไม่อยากร้าย 1

-

เขียนโดย Jido

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 01.22 น.

  10 chapter
  0 วิจารณ์
  14.76K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 01.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
“ ให้น้องเขียนชื่อตัวเองใส่หลังรูปถ่ายของน้องๆ นะครับทั้งชื่อจริงชื่อเล่นนะครับ ขอตัวโตๆ เลยนะครับ ”
ผมนั่งมองเด็กปีสองสั่งให้น้องปีหนึ่งเขียนชื่อใส่หลังรูปถ่ายเพื่อที่พวกปีสองจะได้เอาไปจับน้องรหัส และระหว่างรอให้ปีหนึ่งเขียนเสร็จพวกปีสองก็พูดเกี่ยวกับเรื่องการเรียนและการทำกิจกรรมทั้งของสาขาและของคณะ บลาๆๆๆ อีกมากมายโดยที่รุ่นพี่ปีสามอย่างพวกผมต้องมานั่งคุมพวกนี้อีกที
ความจริงวันนี้ปีสี่ต้องมาคุมแต่ไอ้พี่รหัสผมที่เป็นหัวหน้าชั้นปีสี่เสือกเปลี่ยนแผนให้ปีสามมาคุมแทนเพียงเพราะมันยังอยู่ต่างประเทศ เหอๆ เหตุผลโคตรเชี่ย
“ เอาล่ะครับน้องๆ เดี๋ยวต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของพี่ปีสามพาน้องๆ ทำกิจกรรมนะครับ ”
เสียงของไอ้โฟนน้องรหัสไอ้แพรพูดขึ้นหลังจากเก็บรวบรวมรูปถ่ายของเด็กปีหนึ่งหมดเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มันพูดจบพวกเด็กปีสองก็เริ่มสลายตัวไปที่ไหนสักแห่ง
ส่วนไอ้แพรกับไอ้โซเดียมเพื่อนซี้ของผมก็รีบลากผมและคนอื่นๆ ไปหาเด็กปีหนึ่งทันที 
หึ่ย! หงุดหงิด ไอ้เด็กบ้านั้นก็มองอยู่ได้ ผมพยายามไม่มองสบตากับรีเรย์ที่ส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้ตั้งแต่ผมเดินมาแล้ว
“ สวัสดีปีหนึ่ง!!! ”
“ สวัสดีครับ/ค่ะ ”
เสียงตะคอกดังๆ ของไอ้โซเดียมทำให้พวกเด็กปีหนึ่งรีบพูดสวัสดีกลับแทบไม่ทัน
“ รู้ว่าคณะเราผู้หญิงมันน้อยแต่เสียงดังกว่านี้ได้ไหมคุณ!!! ”
ไอ้ห่า! เรียนวิศวะผู้หญิงมันก็น้อยเป็นธรรมดาแล้วยิ่งตอนนี้มีเฉพาะสาขาผมคือสาขาโยธาผู้หญิงก็ยิ่งน้อยกว่าปกติอยู่แล้ว
“ ไอ้เหี้ยเลิกเล่นได้แล้วมึง ”
ไอ้เรนที่ทนไม่ไหวเดินมาแย่งไมค์จากไอ้โซเดียมก่อนจะเอาไปพูดเอง
“ ปีหนึ่งครับพวกพี่คือรุ่นพี่ปีสามนะครับ เดี๋ยวพวกพี่จะแนะนำตัวกันทีละคนนะครับแต่ก่อนจะแนะนำตัวสิ่งหนึ่งที่พี่อยากให้น้องจำไว้คือมาก่อนเป็นพี่ มาพร้อมเป็นเพื่อนมาหลังเป็นน้อง ฉะนั้นการไหว้คนอายุมากกว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่เป็นการแสดงความเคารพนะครับน้องๆ ”
 
# Reray Talks #
พวกปีสามแนะนำตัวกันไปเรื่อยๆ แต่สายตาของผมก็ยังจ้องมองแต่พี่มิ้น จนกระทั่งการแนะนำตัวมาถึงพี่ตีมและพี่เรน สองคนนี้ยังแนะนำตัวธรรมดาแต่พี่แพรกับพี่โซเดียมนี่ดิ
“ ชื่อแพรครับ หล่อ รวย สุภาพบุรุษ ฉลาด ช่างเอาใจ สนใจหลังไมค์นะครับ ”
แถมด้วยการขยิบตาข้างหนึ่งทำเอาไอ้พวกผู้ชายใจหญิงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ห่า! โยธาแม่งกะเทยเยอะกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย
“ พี่โซเดียมครับ พี่ยังโสด ใครอยากได้พี่ไปนอนกอดมาขอเบอร์พี่เลยนะ จุ๊บ ” น่านนนน มีส่งจ่งส่งจุ๊บแต่ก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่แพ้กัน
“ มึง! กูชอบพี่คนนี้ว่ะ ”
ผมและเพื่อนในกลุ่มหันขวับไปมองไอ้เบิร์นคนสวยประจำกลุ่มที่มันพูดขึ้นมา ปกติมันไม่ชอบใครง่ายๆ นะถึงมันจะแรดก็เหอะ
อะ! ลืมบอกกลุ่มผมมีสี่คนคือไอ้เบิร์น ดีน เอเย่น แล้วก็ตอนนี้ได้เพื่อนใหม่ชื่อบีน เป็นลูกชายเพื่อนแม่ไอ้เอเย่นมารวมกลุ่มด้วย แต่พูดก็พูดเหอะไอ้บีนมันดูหน่อมแหน่มมากๆ อย่างกับคนทำอะไรไม่เป็นแต่นิสัยดีสุดๆ
“ มึงคิดจะปล่อยนอร์ตั้งแต่วันแรกเลยเหรอ ” ไอ้เอเย่นพูดกวนๆ
“ ไอ้ห่า! ”
ไอ้เบิร์นมันตวาดไอ้เอเย่นครับก่อนไอ้ดีนมันจะก้มไปกระซิบอะไรสักอย่างกับไอ้เบิร์น
“ ชื่อมายมิ้นครับ แต่เรียกพี่มิ้นเฉยๆ ก็พอ ”
ผมเลิกสนใจพวกมันและมองพี่มิ้นอย่างไม่พอใจที่พี่มิ้นยิ้มให้ไอ้พวกสัมภเวสีร่วมสาขาของผม ผมอยากจะตะโกนเหลือเกินว่า ‘คนนี้ว่าที่เมียกูไอ้สัส ไม่ต้องเสือกมายุ่ง’ แต่ผมต้องอดทนเพราะผมมีแผนที่ดีกว่านั้น
“ พี่มิ้นมีแฟนหรือยังคร้าบบบ ”
“ ขอเบอร์ได้ไหมฮะ ”
ผมจ้องหน้าไอ้สัมภเวสีสองตัวเขม็งเพราะมันบังอาจมายุ่งกับคนของผม
“ พวกมึงจำหน้ามันสองคนไว้ ”
ผมบอกไอ้พวกเพื่อนซึ่งพวกมันรู้เรื่องพี่มิ้นแล้ว และผมก็หันกลับไปมองหน้าพี่มิ้นอีกครั้งแล้วขยับปากพูดเสียงเปล่า
“ ตอบดีๆ นะครับ ”
“ พี่ยังไม่มีแฟนครับ ส่วนเบอร์ให้ไม่ได้ครับ ”
ผมกำมือแน่นและเผลอกัดปากตัวเองอย่างที่ชอบทำเวลาหงุดหงิด ไอ้พวกเพื่อนก็ได้แต่ตบไหล่ผมให้ใจเย็นๆ หึ! กูจะเอาคืนทบต้นทบดอกเลย!
 
เริ่มกิจกรรมไปได้สักพักพวกปีสองก็มารับช่วงต่อ ผมกับเพื่อนตั้งหน้าตั้งตาทำกิจกรรมต่อไป แม้ว่าในใจผมอยากจะไปกระชากร่างเล็กที่นั่งหัวเราะอยู่กับเพื่อนมาจูบต่อหน้าพวกสัมภเวสีที่คิดจะจีบพี่มันก็เถอะ
“ เฮ้ย! พวกมันเดินไปทางห้องน้ำแล้วว่ะ ”
“ ไปดิ ”
“ บีนปิดประตูห้องน้ำแล้วก็ลงกลอนด้วย ”
ผมสั่งไอ้บีนที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย มันทำหน้าสงสัยแต่ก็ยอมทำตามที่ผมบอก ลงกลอนเสร็จไอ้เอเย่นก็รีบยกไอ้ตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างล้างหน้ากับไอ้เบิร์นก่อนจะเอาตัวเองปิดไอ้บีนไว้
“ บุหรี่มั้ยพวกมึง ”
“ ก็ดี ”
ผมพ่นควันสีขาวออกจมูกพลางยื่นบุหรี่ให้ไอ้ดีนมันต่อ ไอ้เหี้ยสองตัวที่มันกล้าพูดแซวพี่มิ้นก็กำลังเดินมาล้างมือตรงที่ที่พวกผมยืนอยู่
“ มึงกล้าดียังไงว่ะถึงมาแซวเมียกู ”
ผมถามพร้อมกับเอียงหน้ามองพวกมันอย่างกวนส้นตีน
“ พวกมึงคิดจะจีบเมียกูเหรอ ”
“ มึงพูดเหี้ยอะไร ”
ผมดูดบุหรี่เข้าปอดอย่างใจเย็นแล้วพ่นควันออกมาเป็นวงกลมจากนั้นก็เดินอ้อมมาล็อกคอมันสองตัวไว้โดยที่ผมมองหน้าพวกมันผ่านกระจก
“ กูเตือนพวกมึงแค่ครั้งเดียว ”
“ อย่ามายุ่งกับพี่มิ้นนั่นมันเมียกู! ถ้ามึงไม่ฟังกูจะทำให้พวกมึงไม่อยากหายใจอยู่บนโลกนี้ต่อแน่นอน ”
ผมบอกพวกมันด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับยืนจ้องหน้าพวกมันผ่านกระจกนิ่งๆ จากนั้นก็ผลักพวกมันออกแล้วเดินตามไอ้พวกเพื่อนออกจากห้องน้ำ
“ มึงว่ามันจะเลิกยุ่งตามที่มึงบอกป่ะ ”
“ กูไม่รู้ กูรู้แค่กูเตือนมันแล้ว ”
“ ถ้ามันไม่ฟังกูจะถือว่ามันไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป ”
“ มึงแม่งเลวว่ะไอ้เรย์ ”
“ ไม่เลวกูเป็นเพื่อนพวกมึงไม่ได้หรอกไอ้อ่อย ”
ผมพูดแล้วกระโดดขี่หลังไอ้เบิร์นที่ตัวเล็กกว่าผมมาก ไม่อยากบอกว่ามันสูงแค่ 168 โคตรเตี้ยอ่ะ เตี้ยกว่าพี่มิ้นอีก
“ ไอ้เรย์คุยกันหน่อยดิ ”
ผมหันไปมองคนที่เดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าผม
“ สำหรับพี่มิ้นได้เสมอครับ ”
ผมตอบรับพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎที่มุมปาก แผนการของผมเริ่มเดินแล้วซินะ
 
ร่างเล็กบอบบางเดินนำร่างสูงออกมาที่หลังตึกคณะซึ่งไกลจากจุดที่ทำกิจกรรมพอสมควร ร่างเล็กคิดว่าเขาคงไม่เดินเข้าไปขอคุยกับเด็กน่ารำคาญคนนี้แน่ถ้าเพื่อนของเขาไม่เสนอแผนการบางอย่างที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากเด็กที่ชื่อรีเรย์
“ พี่มิ้นจะคุยอะไรกับน้องเรย์ครับ ”
“ แข่งรถกับกู ถ้ามึงแพ้มึงต้องเลิกยุ่งวุ่นวายกับกู หายออกไปจากชีวิตกู เจอหน้ากูก็ไม่ต้องทักเหมือนเราไม่รู้จักกัน ”
“ หึ! แล้วถ้าน้องเรย์ชนะล่ะ ”
แวบนึงที่มายมิ้นรู้สึกเหมือนกับว่าในแววตาคู่นั้นกำลังยิ้มเยาะเขาอยู่ก่อนจะแปรเปลี่ยนกลับมามองเขาแบบกรุ้มกริ่มเช่นเคย
“ มึงจะเอาอะไรล่ะ ”
“ เป็นแฟนกับน้องเรย์ ”
“ ได้ แต่แค่เดือนเดียว ”
“ คำว่าแฟนของน้องเรย์คือคบกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปเรียนพร้อมกันกลับพร้อมกัน กินข้าวด้วยกัน อยู่ด้วยกันนอนห้องเดียวกัน เตียงเดียวกัน จับมือ กอด จูบ ... และอย่างว่า ถ้าคำว่าแฟนของพี่มิ้นไม่ใช่แบบที่น้องเรย์พูดมาน้องเรย์ก็ไม่แข่ง ”
แม้มายมิ้นจะเจ็บใจและอยากจะกระทืบร่างสูงตรงหน้ามากแค่ไหนแต่เขาก็พยายามข่มอารมณ์ไว้ไม่ให้เสียการใหญ่
“ เออก็ได้ ตกลงมึงจะแข่ง? ”
มายมิ้นที่มั่นใจในฝีมือตัวเองมากพอว่าเขาไม่มีทางแพ้เด็กอย่างรีเรย์แน่ๆ ร่างเล็กจึงกล้าพูดตอบตกลง ในขณะที่ร่างสูงกำลังข่มอารมณ์ดีใจไม่ให้เผลอยิ้มออกมาที่แผนการของเขาดูเหมือนจะสำเร็จด้วยดีแต่มันยังไม่จบแค่นี้
“ ไม่แข่งอ่ะ ของเดิมพันมันน้อยเกินไปอีกอย่างน้องเรย์กลัวแพ้พี่มิ้น รู้หรอกว่าพี่มิ้นฝีมือเป็นอันดับหนึ่งในสนามอ่ะ ”
รีเรย์เสแสร้งแกล้งทำหน้าง้ำงอว่าเขารู้ทันมายมิ้น ทำให้มายมิ้นหัวเสียที่โดนร่างสูงรู้ทันและแกล้งปั่นประสาทเขาเล่น
“ แต่ถ้าพี่มิ้นเพิ่มไอ้รถสีแดงสุดเก๋คันนั้นมาเป็นของเดิมพันอีกอย่างก็น่าสนนะ ”
ร่างเล็กมองตามสายตาร่างสูงไปที่รถแอชตันมาตินสีแดงซึ่งเป็นรถของเขาเองทำให้ร่างเล็กคิดหนัก เพราะมายมิ้นรักรถของตัวเองมากถึงมากที่สุดแต่เมื่อเขานึกถึงผลที่จะได้รับก็ทำให้ร่างเล็กตอบตกลง
“ ก็ได้! ถ้ามึงแพ้มึงต้องหายไปจากชีวิตกูและรถมึงต้องเป็นของกู ”
“ แต่ถ้าพี่มิ้นแพ้พี่มิ้นต้องเป็นแฟนน้องเรย์หนึ่งเดือนและรถคันนั้นต้องเป็นของน้องเรย์ ”
ติดกับเต็มเปาเลยนะพี่มิ้นของน้องเรย์  รีเรย์ได้แต่คิดในใจอย่างขำๆ
“ เออ งั้นคืนนี้เจอกันที่สนาม XXX ”
หึๆ ไอ้เด็กเหี้ยทีนี้มึงจะได้หายไปจากชีวิตกูสักที ได้ทั้งชีวิตสงบๆ กลับคืนมาได้ทั้งรถแค่คิดก็มีความสุขว่ะ
ร่างเล็กเดินจากร่างสูงมาอย่างมีความสุขแต่ถ้ามายมิ้นหันกลับมามองสักนิดก็จะเห็นว่ารีเรย์ยืนมองเขาด้วยสายตาของคนที่เหนือกว่า
ย้อนไปก่อนแยกกันที่หน้าผับหลังจากมายมิ้นกลับไปแล้ว
“ เฮ้ย ไอ้เรย์กูลืมบอกมึงอีกอย่าง ”
“ ไรว่ะไอ้พี่โซ ”
“ ไอ้มิ้นมันรักรถมันยิ่งกว่าชีวิต กูบอกไว้เผื่อมึงคิดแผนออก ”
“ เออๆ อีกอย่าง ”
“ ไรอีกว่ะมึงรีบพูดมาให้หมด กูหมดความอดทนล่ะ ”
“ ไอ้เหี้ยอย่ามาใส่อารมณ์กับกู กูรุ่นพี่มึง ... เออๆ ก็จะบอกแล้วเนี่ย ไอ้เหี้ยมิ้นมันเป็นมือหนึ่งของทุกสนามเถื่อนเลยนะเว้ย ”
“ แต่กูเป็นมือหนึ่งในสนามอาชีพรุ่นเยาวชนสี่สมัยซ้อนว่ะ รู้แล้วเหยียบไว้ล่ะ ”
“ O_O ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา