ทัณฑ์ร้าย ซาตานเถื่อน 18+
10.0
1) ซาตานไร้หัวใจ!!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1 ซาตานไร้หัวใจ!!!
เมื่อเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างและพบกับแสงอาทิตย์ในยามเย็นเช่นนี้ มันทำให้ อนันตกาล อิสรวนากุล ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย นั้นคิดถึงอนันตนาถขึ้นมาอย่างอดเสียมิได้ หากน้องสาวของเขาไม่หนีออกจากบ้านโดยที่ไม่มีผู้ใดได้รับรู้ถึงต้นเหตุและรับทราบเหตุผลที่ทำให้เธอหายไปเช่นนี้ บัดนี้บ้านของเขาก็คงเป็นบ้านที่มีความอบอุ่น และสุขใจมิใช่น้อย หากแต่ในความเป็นจริงที่พบเจอนั่นก็คือ หลังจากที่อนันตนาถหนีออกจากบ้านไป เธอมิได้รับรู้แม้แต่น้อยเลยว่า เธอได้นำเอาความสดใสของผู้เป็นมารดาที่เฝ้าทะนุถนอมเฝ้าเลี้ยงดูเธอมาอย่างอบอุ่นและรักใคร่นั้นติดตามเธอไป ตัวของคุณหญิงพรพรรณีในตอนนี้ มีแต่สีหน้าที่เต็มไปด้วยความหมองเศร้า วันทั้งวันไม่ยอมพูดจาข้าวปลาอาหารก็ไม่แม้แต่จะได้หลุดลงไปให้กระเพาะได้ทำงานในหน้าที่ของมัน ท่านเอาแต่นั่งโทษตัวเองว่าดูแลลูกไม่ดีบ้าง ว่าไม่เอาใจใส่ความรู้สึกลูกบ้าง เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ เธอคนนั้นเป็นอย่างไร และอยู่ที่ไหนมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
อนันตกาลใช้เวลาหลายเดือนในการสืบหาเบาะแส และตามหาตัวน้องสาวของเขา แต่ไม่ว่าจะตามหาเท่าไหร่ ก็ทำให้ความหวังของเขาและคนในครอบครัวเริ่มริบหรี่ลงทุกที เขาทราบแค่เพียงต้นเหตุที่เลวร้ายเท่านั้น แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เขาได้ตัวน้องสาวกลับคืนมาแต่อย่างใด ยิ่งคิดยิ่งแค้น ยิ่งแค้นยิ่งเกลียดชัง เขาเองที่เป็นคนผิด เขาเป็นคนชักศึกเข้าบ้าน อนันตกาลกัดฟันแน่นจนรับรู้ได้ถึงแรงของฟันกรามทั้งบนและล่างที่บดขยี้กันจนแน่น
“พี่กาลครับ ป้าจันทร์จัดโต๊ะเสร็จแร้ว คุณพ่อกับคุณแม่กำลังรอทานข้าวอยู่น่ะครับ” เสียงของอนันตภพดึงเขาหลุดออกมาจากความคิดเมื่อครู่ ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นคำตอบเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามน้องชายไปด้วยความเงียบสงบ
“คุณพ่อกับคุณแม่ รอผมนานรึปล่าวครับ” อนันตกาลเอ่ยถามผู้เป็นพ่อและแม่ เพราะรับรู้ได้ทันทีว่า ตนเป็นต้นเหตุของการทานอาหารของมื้อค่ำนี้ช้าออกไปจากทุกๆวัน
“งั้นทานกันเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดสะหมด ” ปวรุตม์ผู้เปรียบดั่งประมุขของบ้านเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ทรงอำนาจ เมื่อเห็นว่าสมาชิกในบางบ้างลงมาครบแล้ว
“ทานอีกหน่อยน่ะครับ...คุณแม่ กาลตักให้ ปลากะพงของโปรดคุณแม่ไม่ใช่หรอครับ” อนันตกาลตักปลากะพงชิ้นโตให้ผู้เป็นแม่ คะยั้นคะยอให้หล่อนได้กินอาหารไปบำรุงร่างกายบ้าง เพราะตอนนี้ร่างกายของคุณหญิงพรพรรณีนั้นซูบผอมไปจนแปลกตา
“ตากาล เมื่อไหร่จะเจอน้องหรอลูก ป่านนี้ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จะอดมื้อกินมื้อบ้างรึปล่าวก็ไม่รู้” คูณหญิงพรพรรณีพูดด้วยเสียงสั่น น้ำตาคลอ เพราะเดือนแล้วเดือนเล่าที่หล่อนไม่ได้รับการติดต่อและการส่งข่าวคราวจากลูกสาวคนเล็ก
“คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงน่ะครับ เดี๋ยวเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภพกับพี่กาลเองน่ะครับคุณแม่ ผมสองคนสัญญาว่าจะตามตัวน้องนาถ กลับมาให้ได้เลยครับ ใช่ไหมพี่กาล?”อนันตภพให้คำมั่นสัญญากับผู้เป็นแม่ แต่ดูเหมือนว่าพี่ชายของเขาจะแน่นิ่งจนผิดสังเกตุ
“ใช่ไหมครับพี่กาล พี่กาล พี่กาลครับ” ชายหนุ่มจึงถามย้ำพี่ชายอีกครั้ง เพื่อเรียกสติของพี่ชายคืนมา
“เอ่อ ครับๆ ใช่ครับคุณแม่” อนันตกาลรีบตอบทันที เมื่อรับรู้ได้ว่ามีเสียงของผู้เป็นน้องถามย้ำเพื่อต้องการคำตอบจากเขา
มื้อค่ำผ่านไปด้วยความเหงาหงอยของคนในบ้านเฉกเช่นทุกวัน อนันตกาลหนีจากความรู้ตึงเครียดนั้นเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เขาทำเช่นนี้เสมอ ทุกครั้งที่เขาคิดอะไรไม่ออก เขาก็จะต้องหลบเข้ามาหามุมสงบในห้องทำงานนี้แทบทุกครั้ง ชายหนุ่มมองเอกสารกองโตที่รอการอนุมัติจาก ท่านประธาน ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีกะจิตกะใจ แม้แต่จะหยิบงานขึ้นมาดูเลย พอคิดแล้วอนันตกาลก็ปวดขมับขึ้นมาหนึบๆ
ตั้งแต่ที่เขาและอนันตภพ ได้รับตำแหน่งประธาน และรองประธานกรรมการของบริษัทนี้ เขาก็ได้รับผิดชอบการดูแลเกี่ยวกับไร่และฟาร์มอนันตคีรีทั้งหมด โดยทิ้งภาระในการดูแลกิจการโรงแรมของครอบครัวให้ผู้เป็นน้องดูแล เขาเลือกที่จะแบกรับงานหนัก เพื่อที่จะให้อนันตภพได้ทำงานในที่สบาย หลายวันที่โหมงานหนักและทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้ร่างกายของเขาเมื่อยล้าเต็มที ไฟในห้องทำงานก็ถูกปิดลง พร้อมทั้งประตูเชื่อมระหว่างห้องทำงานและห้องนอนถูกเปิดออก ชายหนุ่มล้มตัวลงนอน พลันเหลือบไปเห็นรูปถ่ายของเขากับน้องสาว ซึ่งทำให้ความคิดเคียดแค้นชิงชังก่อเกิดเข้ามาในหัวเขาทันที
“แกจะต้องชดใช้กับสิ่งที่แกทำกับน้องสาวฉัน” ชายหนุ่มปฏิญาณเสียงเข้ม ก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าในที่สุด
เช้าวันต่อมา ชายหนุ่มได้ออกไปดูแลฟาร์มและไร่อย่างเคย ต่างกับวันอื่นก็ตรงที่ วันนี้ชายหนุ่มมุ่งตรงไปยังกระท่อมท้ายไร่กลางป่าลึก พร้อมลูกน้องคนสนิทสองสามคน
“กวาดถูให้พร้อมน่ะ....นายมั่น เร็วๆนี้อาจจะมีคนงานใหม่มาพักที่นี่” นายมั่นพยักหน้ารับคำสั่งจากเจ้านาย แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะหากว่าเจ้านายจะให้คนงานมาอยู่ก็คงจะต้องใช้เวลาเดินออกจากป่าไปยังถนนที่เชื่อมไปยังท้ายไร่อีกเป็นชั่วโมง แต่ก็เลือกที่จะเงียบเพราะไม่อยากจะโดนพายุร้ายเข้าถล่ม
“ผมจะให้ช่างมาซ่อมแซม และคนมาปัดกวาดให้เรียบร้อยภายในวันนี้ครับนาย” นายสินน้องชายของนายมั่นเอ่ยบอกผู้เป็นนาย ก่อนจะเดินไปตรวจสอบบริเวณรอบๆกระท่อม
อนันตกาลเดินทางกลับมายังบ้านขุนเขาในเวลาบ่าย ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ ที่อดีตเพื่อนรักของเขาจะต้องชดใช้ ภัทรดนัยแกจะต้องเจ็บปวดกว่าฉันเป็นล้านเท่า ในเมื่อแกเลือกที่จะทำร้ายน้องสาวของฉัน ฉันก็จะแก้แค้นด้วยการทำร้ายน้องสาวของแกเหมือนกัน
ก๊อกๆ ๆ เสียงเคาะประตูทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์เมื่อครู่
“เจ้านายครับ นี่เป็นข้อมูลที่ผมหามาที่เกี่ยวกับคุณภัทรดนัย และก็น้องสาวของเขาครับ แต่...” เลขาหนุ่มอึกอัก
“แต่อะไรของแกอีก ว่าไง...ศิลา อย่ามัวแต่เงียบอย่างนี้สิว่ะ ฉันอยากจะจัดการให้มันเสร็จๆไปมันจะได้รับรู้ถึงความทรมาน ที่ได้แต่ยืนมองคนที่มันต้องรักเจ็บปวดเสียที” เลขาหนุ่มตะลึงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจ้านาย เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนที่มีท่าคนสุขุม อ่อนโยนจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ บัดนี้ในตาคู่นั้นแทบจะเผาไหม้สิ่งต่างๆรอบตัวให้หมดสิ้น
“คือ วันเสาร์นี้ คุณภูษณิศา จะเดินทางไปต่างประเทศแล้วครับ” ศิลาพูดต่อ ซึ่งเจ้านายหนุ่มของเขาเพียงแค่พยักหน้ารับรู้เท่านั้น
“คงถึงเวลาจริงๆแล้วสิน่ะ มันจะต้องเจ็บปวดมากกว่าน้องสาวฉันเป็นล้านเท่า” คำพูดที่หลุดออกมาจากไรฟันนั้น เล่นเอาเลขาหนุ่มจอมทะเล้นอย่างศิลากร ถึงกับนิ่งเงียบราวกับโดนสะกด
ไรเตอร์ฝาก comment และ Fav ด้วยน่ะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไป
มีไรติชมกันได้น่ะ ไรเตอร์จะได้นำไปแก้ไขปรับปรุง
ขอบคุณทุกเสียง ทุกสายที่เป็นกำลังใจให้ ไว้ ณ ที่นี่ด้วยน่ะค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ