ทัณฑ์ร้าย ซาตานเถื่อน 18+
2) นางฟ้าแสนสวย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่ 2 นางฟ้าแสนสวย
ค่ำคืนนี้เปรียบดุจดั่งเฉกเช่นทุกคืนที่บ้านอัณศยา มีแต่เสียงหัวเราะของคนในบ้าน พ่อ แม่ลูกต่างอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
“คุณพ่อค่ะ วันพรุ่งนี้ณิศาจะไปฝรั่งเศสแล้วน่ะค่ะ” เสียงออดอ้อนของสาวสวยที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกสาวคนเล็กของ คุณชยุตพงศ์ ดังขึ้น ซึ่งผู้เป็นพ่อก็อดที่จะเอ็นดูหล่อนไม่ได้
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ เธอช่างดูสวยงามราวกับนางในวรรณคดี ตากลมโตที่บ่งบอกถึงความใสซื่อบริสุทธิ์ ขนตาสีดำแพงาม มันช่างรับกับคิ้วที่โก่งเหมือนคันศร ปากบางสวยรับกับจมูกโด่งเป็นสัน พอคิดได้เช่นนั้น ผู้เป็นพ่อก็มีอาการหวงลูกสาวขึ้นมาจับใจ พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่เขาจะปล่อยให้ลูกสาวได้ออกไปเผชิญกับโลกภายนอกเพียงลำพัง เพราะหลังจากที่จบปริญญาตรีแล้ว ลูกสาวคนเล็กของเขาก็เข้าทำงาน เครือบริษัท อัณศยา ทันที
“ไว้พรุ่งนี้ พ่อจะให้พี่ภัทรเขาไปส่งณิศานะลูก แม่เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยพูดกับหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“สบม. อยู่แล้วค่ะ...ยังไงหนูต้องขออู้งานสักเดือนสองเดือนได้ใช่ไหมค่ะ ท่านประธาน ”ภูษณิศาออดอ้อนผู้เป็นพ่ออย่างเคยตัว พร้อมสวมกอดผู้เป็นพ่ออย่างเคยตัว
“รักกันเข้าไปเหอะ รักพ่อคนเดียวสิน่ะ สงสัยจะลืมคิดไปว่า มีแม่สวยๆตรงนี้อีกคน” คุณหญิงภูษิดาขัดจังหวะพ่อลูก ด้วยอารมณ์หมั่นเขี้ยวเล็กๆกับภาพความน่ารักของสามีและลูกสาว
“คุณแม่ก็...ทำเป็นคนแก่ขี้น้อยใจไปได้ ”หญิงสาวอดที่จะแหย่ผู้เป็นแม่ไม่ได้ เพราะครอบครัวของหล่อนมักจะมีหยอกล้อกันเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง
“นั่นปากหรอย่ะ จริงๆเลย ยัยลูกคนนี้” ผู้เป็นแม่เอ็ด แล้วยิ้มให้แก่ความน่ารักของเธอ
“อ้าว...พี่ภัทรมาแล้ว ช่วยณิศาหน่อยนะค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่รุมตะลุมบอลณิศาแย่แร้ว” ภูษณิศาวิ่งไปเกาะแขนพี่ชาย ในโลกนี้เธอคิดว่านอกจากพ่อแล้วก็คงมีอีกคนที่แสนดีและอบอุ่นได้มากถึงเพียงนี้ ซึ่งทำให้เธอกับภัทรดนัยนั้นดูสนิทสนมกันมากกว่าพี่น้องทั่วไป
“พี่ไม่เกี่ยวนะ วันนี้ขออยู่ฝั่งคุณพ่อกับคุณแม่แล้วกัน” ภัทรดนัยพูดระคนเสียงหัวเราะไปด้วย วันนี้เขาเลือกที่จะเข้าข้างพ่อและแม่เห็นจะดีที่สุด เพราะน้องสาวแสนสวยของเขาดูท่าทีแล้วคงจะเป็นฝ่ายพ่ายแก่ผู้เป็นพ่อและแม่อย่างแน่นอน
“ไหงเป็นงั้นอ่ะ...พี่ภัทร”หญิงสาวแหวใส่พี่ชาย ก่อนจะทำหน้าบึ้งบู้บี้ใส่ทุกคน ทำให้ทุกคนในห้องโถงนี้ อดที่จะขำหญิงสาวไม่ได้ วันนี้ช่างเป็นวันที่มีความสุขอีกวันของบ้านอัณศยา หากแต่เสียงหัวเราะเหล่านี้กำลังจะหายไปโดยที่ไม่มีใครได้คาดคิด
และเมื่อช่วงเวลาที่เฮฮาปาร์ตี้ของคนในบ้านหมดไป ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำกิจวัตรในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งภูษณิศาก็เช่นกัน ที่ตอนนี้กำลังนั่งง่วนอยู่กับการเช็คของในกระเป๋าเดินทางใบโต เพื่อเดินทางในวันพรุ่งนี้ หญิงสาวนั่งเหม่อลอยอยู่นานสองนาน สุดท้ายแล้วก็อดที่จะใจหายไม่ได้ นานมากแล้วสินะที่ตนไม่ได้เดินไปไหนมาไหนคนเดียว การเดินไปฝรั่งเศสครั้งนี้ เธอแค่หวังว่าจะเป็นการพักสมองหลังจากการทำงานหนักก็แค่นั้น แต่ก็ไม่นานนักหรอกเพราะเธอไม่อยากทิ้งภาระไว้ให้แก่ภทัรดนัยเพียงผู้เดียว เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงทิ้งตัวลงนอนใกล้ๆกับกระเป๋าเดินทางก่อนจะหลับเผลอไป
เช้าวันรุ่งขึ้น....
“ตายจริงเราเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย แล้วนี่กี่โมงแล้วหล่ะ” หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียง พ่างงงงง เหมือนโดนตีแสกหน้าอย่างจัง เมื่อตอนนี้นาฬิกาในโทรศัพท์ขึ้นตัวเลข 09.47 น. โชว์หรา
“โอ๊ย ตายๆ ๆ ๆ ” หญิงสาวกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำทันที เหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึงสามชั่วโมงก่อนการเดินทาง ไหนจะต้องไปเช็คอิน ก่อนหนึ่งชั่วโมงอีกหล่ะ หญิงสาวจึงรีบร้อนกว่าปกติ
ก๊อกๆๆ เสียงประตูหน้าห้องของเธอดังขึ้น
“ณิศาเสร็จรึยังเอ่ย เดี๋ยวพี่ภัทรเขามีประชุมต่ออีกนะลูก”ผู้เป็นแม่ขึ้นมาตามลูกสาว เพราะเห็นว่าลูกยังไม่ออกจากห้องตั้งแต่เช้า
“ใกล้แล้วค่ะ คุณแม่” เสียงโหวกเหวกโวยวายของภูษณิศาดังลั่นมาจากห้องน้ำในห้องนอนของเธอ
“เห้อ...ไม่ไหวจริงๆเลย ยัยลูกคนนี้” ผู้เป็นแม่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินลงบันไดไปรอส่งลูกข้างล่าง
วันนี้คุณหญิงภูษิดามีสีหน้าแปลกไปกว่าทุกวัน สีหน้าของหล่อนแลดูหมองคล้ำ และไม่สบายใจเอามากๆ เพราะเป็นธรรมดาของผู้เป็นแม่ที่มีอาการเป็นห่วงลูก ผิดก็ตรงที่หล่อนเป็นห่วงมากเกินไปหน่อย จนทำให้เครียดและนอนไม่หลับทั้งคืน
ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที...ลูกสาวตัวแสบก็หอบเอากระเป๋าเดินทางใบโตลงมายังหน้าห้องโถง คุณผู้หญิงของบ้านจึงเดินไปหาลูกสาวทันที
“ณิศา ไม่ลืมอะไรแล้วน่ะลูก” คุณหญิงถามลูกสาว เพื่อให้อีกฝ่ายคิดทบทวน
“ไม่ลืมหรอกค่ะ หนูจะอู้งานทั้งทีก็ต้องเตรียมพร้อมกันหน่อย” ภูษณิศาอดที่จะพูดแหย่พ่อที่ตอนนี้นั่งหน้าขรึม คิ้วขมวด ที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ อยู่ที่ในห้องโถงไม่ได้
“แต่พ่อไม่ได้บอกเราสักหน่อยน่ะว่าจะไม่หักเงินเดือน” คุณชยุตพงศ์พูดพร้อมลุกจากเก้าอี้เดินไปยังที่สองแม่ลูกยืนอยู่
“คุณพ่อใจร้าย ได้ยังไงกันไหนบอกให้ลาพักร้อนได้ไงค่ะ” ภูษณิศาพูดพร้อมกระโดดหอมแก้มซ้าย ขวาของผู้เป็นพ่ออยู่หลายฟอดใหญ่ และเดินไปทำเช่นเดียวกัน กับผู้เป็นแม่ เพื่อไม่ให้น้อยหน้ากันทั้งสองฝ่าย ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของภัทรดนัย เพื่อเดินทางไปยังสนามบินในทันที
“บ๊ายบายค่ะ คุณพ่อคุณแม่ แล้วณิศาจะซื้อของมาฝากน่ะค่ะ” ภูษณิศาลดกระจกรถคันหรูเพื่อบอกลา พ่อและแม่
“ไปดีมาดีน่ะลูก” คุณชยุตพงศ์กล่าว หลังจากเดินมาส่งลูกสาวที่หน้าบ้านพร้อมภรรยา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ