Arahabaki action
-
เขียนโดย คุกกี้คามุอิ
วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 23.32 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
8,630 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 03.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) Bien (เบียง)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหมายเหตุ ตอนที่สอง ถูกสมาชิก pocketonline.net วิจารณ์ว่า เป็น dirty joke คุกกี้ขออภัยที่เขียนไว้แต่ไม่ได้ปรับปรุง ขออภัย แค่ตอนเดียวครับกองเศษชิ้นส่วนตุ๊กตาลงมาที่พื้นหย่อมหญ้า มีวัวเดินผ่านมาอุจจาระใส่ บรรยากาศยังคงสงบสุขดีอยู่ เพราะเกาะนี้เป็นเกาะสงบสุข
อาราฮาบากิยังคงเป็นชิ้นๆอยู่ มันตกลงมาในพิ้นที่เกษตรกรรมอีกแล้ว พิ้นที่เกษตรกรรมอยู่แถวตะวันออกของภูมิประเทศเบียง วัวตัวที่สองเดินมาปล่อยอุจจาระใส่อาราฮาบากิอีกตัว บรรยากาศยังคงดีอยู่ เพราะเกาะนี้เป็นเกาะสงบสุข วัวตัวที่สามทำให้อาราฮาบากิโชคดี เพราะวัวตัวที่สามมารับประทานกองอุจจาระให้ แย่หน่อยที่ชิ้นส่วนถูกรับประทานเข้าไปในท้องวัวตัวที่สาม
หนึ่งวันได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เด็กชายผมสีทองเหลืองเข้ามาในฟาร์ม สังเกตเห็นว่าวัวตัวหนึ่งไม่สบาย ไม่ยอมกินหญ้าตามปกติ เด็กชายจึงโทรศัพท์เรียกคุณหมอสัตว์ที่อยู่ระแวกหนึ่งไม่ห่างไกลจากฟาร์ม
"วัวของที่บ้านไม่สบายครับคุณหมอ เพียงตัวเดียวเองครับ ขอบคุณที่ช่วยครับ"
เด็กชายเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาดๆ ยี่ห้อแรงเยอร์ที่โด่งดังกำลังหมดราคาให้กับเด็กเกษตรกรรม เด็กชายคลุกคลีกับเกษตรมาหลายปีไม่ค่อยซื้อกางเกงยีนส์มาใหม่
ปุ !
เสียงเกางเกงยีนส์เริ่มขาดและขยาย เด็กชายอายที่จะไปไหนเมื่อสังเกตกางเกงยีนส์ตัวนั้น จึงแสร้งเมินหน้าไปหาวัว และสายตาไปสังเกตเข้ากับเศษชิ้นส่วนที่ห่างไกลจาวัวไม่กี่ก้าวเดิน
"นั่นคืออะไรน่ะ"
เด็กชายผมสีทองเหลืองเดินเข้าไปในสิ่งที่สังเกต ที่หย่อมหญ้าตรงนั้นปรากฏสิ่งหนึ่งเป็นเศษหิน แต่กลิ่นอุจจาระยังวนเวียนอยู่กับเศษหิน ทำให้เด็กชายรู้สึกเหม็น จะหอมก็ได้ถ้าไม่รังเกียจ แต่ทว่าเด็กชายก็กล้าที่จะถือเศษหินนั้นขึ้นมาดม แล้วก็เพ่งพิจารณามันอย่างนักวิชาการโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์
"อาราฮาบากิ ศาสนาพุทธ ชินโต นี่มันมีจริงเหรอ ในหนังสือเขาเคยบอกว่า ศาสนาเก่าของญี่ปุ่น ชินโต สร้างขึ้นหรืออาจจะเป็นวัตถุนอกโลก เป็นของมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า "
เด็กชายสังเกตชิ้นส่วนที่เรียกว่า ศีรษะ ของมัน แล้วต้องตกใจที่เศษนั้นมีเสียงพูดขึ้น
"ถ้าไม่อยากให้วัวตาย จงให้หมอมาหาวัวของเจ้า"
มือเด็กชายสั่นจนปล่อยเศษชิ้นส่วนลงบนพื้น
"พูดได้ด้วยเหรอ แล้วทำไมถึงรู้เรื่องวัวของผม"
"สังเกตดูชิ้นส่วนของข้าดีดี"
"ศีรษะ แขน ขา ขาหายไปหนึ่งข้าง โอ๊ะ อะไรเนี่ย รู้สึก รู้สึกวิงเวียนศีรษะ ขอไปรับประทานยาพาราเซตา...ครอก"
เด็กชายไม่ทันหันเข้าบ้าน ได้ล้มคว่ำลงบนพื้นหญ้า โชคไม่ดีอีกขั้นที่ใบหน้าทับกองอุจจาระของวัว ถ้าผู้ปกครองมาเจอคงต้องพาเด็กชายไปล้างหน้าหลายรอบและปรับปรุงผืนหญ้าให้ใหม่ เพื่อหญ้าที่ดีต่อการขับถ่ายของวัว
"เจ้า เจ้าเป็นอะไรไป แล้วข้าจะทำยังไงต่อไป"
เสียงรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูหยุดจอดริมถนน ประตูฝั่งพวงมาลัยถูกเปิดโดยบุรุษหนุ่มในมาดเสื้อกาวน์ คุณหมอที่เด็กชายเรียกหานั้นเอง แต่สงสัยว่า วัวที่จะให้รักษานั้นคือตัวไหน อยู่ตรงไหน แต่ด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ จึงชอบดูสัตว์ทุกตัว สายตาของหมอได้พบกับ เป็ด ไก่ ห่าน หงส์ คุณหมอคิดว่า พวกนี้ทำให้จิตใจของหมอสดชื่น กลิ่นอุจจาระนั้นคุณหมอก็รู้จักแยกประเภทของสัตว์ออก หมายความว่าหมอคนนี้เก่งเหลือเชื่อ ในที่สุดหมอเดินมาถึงวัวเจ้าปัญหาแล้ว ฝูงวัวมีวัวเพียงตัวเดียวนอนตะแคงซมดิน ไม่ยอมขยับกายไปกินหญ้า หมอนั่งลงยองๆ ใกล้กับร่างวัวนั้น
"เจ้าเป็นอะไรหรือ ถึงนอนซมอยู่แบบนี้ รู้ไหม ถ้าไม่กินหญ้า ก็ไม่มีพลังงานหรอกนะเจ้าวัว"
อีกเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาอย่างโกรธๆ
"ไอ้หมอหรือเปล่า ช่วยวัวตัวนั้นเลย มันกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป"
"ใครกำลังพูดหมอ เอ๊ะใคร"
แต่หมอไม่ได้สังเกตุเห็นชิ้นส่วน กลับไปพบเด็กชายล้มทับอุจจาระ
"ไอ้ดิ๊กกอรี่ ไอ้หนูเป็นอะไรทำไมมานอนตรงนี้ หืม เหม็นเป็นบ้าเลย"
หมอได้จับพลิกให้ร่างดิ๊กกอรี่หงายขึ้นมา ใบหน้าตาคงหล่อเหลาขึ้นเพราะได้ยาวิเศษพอกหน้าไว้ เจ้าหมอกลับแอบจิต หันหน้าไปทางอื่นเพื่อให้ตัวเองขำเงียบๆเมื่อเห็นหน้าของเด็กชาย
"พ่อแม่ก็ไม่อยู่ เลยกล้าทำแบบนี้เหรอ ดิกกอรี่ เล่นอะไรไม่เข้าท่า"
ร่างกายเด็กชายเกิดอาการเคลื่อนไหวขึ้น ตัวเด็กชายลุกขึ้นมา เอาหน้าไปชนกับหมอ แล้วเด็กชายก็จามหนึ่งที อุจจาระกระเด็นโดนเสื้อหมอ และหน้าตาหล่อเหลาของหมออาจจะได้หล่อขึ้นเพราะยาพอกหน้าชนิดใหม่
"คุณหมอ คุณหมอเหรอครับ วัวตัวนั้นกินเศษสิ่งแปลกปลอมเข้าไป มันคือตุ๊กตาอาราฮาบากิครับ"
"อาราฮาบากิ เทวรูปดินแดนหนึ่งที่ชื่อว่า ชาโปเหนะ(ญี่ปุ่น) งั้นหรอ"
เด็กชายกับหมอทั้งคู่ได้ลุกขึ้นยืน เด็กชายพาหมอไปพบกับวัตถุประหลาดที่พื้นหญ้า
"หมอว่า มันเหม็นน่าดูเลย"
"มันพูดได้ด้วยนะหมอ"
ตุ๊กตาตัวนั้นได้เห็นหน้าของหมอชัดๆครั้งแรก แล้วเริ่มมีความหวัง
"ช่วยข้าด้วย แต่ก่อนอื่น ช่วยวัวตัวนั้นก่อน ผ่าท้องมันเลยก็ได้"
"ครับ หมอเข้าใจนะครับ ท่านเทวรูป ว่าวัวมันกินเศษชิ้นส่วนเข้าไป "
วัวที่เป็นตัวปัญหานั้นไม่ทันได้รับการรักษา จู่ๆมันก็โผล่หน้ามายิ้มยิงฟันให้หมอกับเด็กเห็นว่า มันแข็งแรงดี แล้วมันก็เดินจากไปกินหญ้า
"ดิกกอรี่ หมอกำลังสงสัยจังว่า ใชวัวตัวนั้นหรือเปล่า? ตัวเดิมที่ไม่สบายน่ะ"
"เอ่อ ใช่ครับ"
ทำไมมันกลับมาแข็งแรง? หมอกับเด็กวิ่งพากันไปที่คอก
"น่าจะอยู่ที่อุจจาระนี่นา"
อุจจารระที่ว่านั้น มีเป็นสิบกองในคอก เจ้าอาราฮาบากิตะโกนว่า
"ช่วยหาให้ด้วย มันอาจจะอยู่ในอุจจาระ"
"คนอย่างผมต้องมาช่วยหาชิ้นส่วนเหรอเนี่ย" คุณหมอถาม
"ช่วยกันเถอะครับคุณหมอ ผมจะช่วยดม"
อ้วก !
"ดิกกอรี่ ! อย่าเพิ่งเป็นลม ช่วยหมอก่อนสิ"
ทั้งคู่ต่างคลุกคลีกับอุจจาระจนต้อง เอามือมาปิดปาก แต่ลืมตัวไปว่ามือเลอะอุจจาระ สิบนาทีผ่านไปแล้วจริงๆ ทั้งคู่บ่นใส่กันว่า ไม่มีชิ้นส่วน ก็จึงต้องทบทวนมันอีกรอบ ยังคงสาละวนกับหน้าที่ที่ต้องทำให้กับอาราฮาบากิ ว่าแต่ทั้งคู่ช่วยอาราฮาบากิเพราะว่านับถือหรือเปล่า ยังน่าสงสัยอยู่มาก
"เจอแล้วล่ะครับ คุณอาราฮาบากิ"
เด็กชายเป็นผู้พบแล้วต้องใช้อุปกรณ์กวาดกองอุจจาระออกนอกคอก อาราฮาบากิเกิดความดีใจ ที่จะได้ชิ้นส่วนครบสมบูรณ์ ขาข้างนั้นได้กลับคืนมามีกลิ่นหอมอบอวลเป็นของแถม คุณหมอหมดภาระหน้าที่ จึงบอกกับเด็กชายถึงเรื่องเงิน
"แพงนะ"
"เท่าไหร่เท่านั้นเลยหมอ ผมมีเงินอยู่"
"เสื้อกาวน์หมอนี่น่ะ แพงนะ"
"เหอๆ ผมขอโทษ"
บรรยากาศของเกษตรกรรมยังคงดีอยู่ ไม่มีรถรามาวิ่งบ่อยๆ คุณหมอกลับไปขึ้นรถยนต์แล้ว สตาร์ทรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูราคาประมาณหลายล้านออกไปอย่างโก้ เก๋ เริดหรู เริดสะแมนแตน ฯลฯ
"หมอไปแล้ว ช่วยข้าให้เหมือนเดิม"
เด็กชายต้องกอบกองชิ้นส่วนกลิ่นอบอวลล่อจมูกเข้าไปในกระท่อม ชีวิตของอาราฮาบากิเจอกระท่อมอีกแล้ว คราวนี้ผู้ประกอบร่างกลับเป็นเด็กชายฝรั่งผมสีทองเหลือง นัยน์ตาสีฟ้าที่ดูเยือกเย็น แต่แฝงความรู้สึกที่ว่า อ่อนโยนต่อสรรพสิ่งใดในโลกา
ชีวิตอาราฮาบากิเหมือนเกิดขึ้นใหม่ มันลองขยับร่างกายอีกครั้งหนึ่ง แล้วรู้สึกว่า คล่องแคล่ว
คำสาบของอาราฮาบากิคืออะไร อาราฮาบากิสามารถสาบใส่ผู้อื่นได้ แต่ไม่ทราบว่าตนเองเป็นตัวนำโชคต่างๆให้กับสิ่งมีชีวิตในบางครั้ง อาราฮาบากิรู้สึกว่าตัวเองมีความซวยเข้ามาจึงคิดว่าตัวเองก็โชคร้ายไม่ได้แพ้มมนุษย์ ทั้งๆที่เล่นตลกไปกับชาวนาที่โบว์กูป์ไปครั้งเดียว อย่างนี้แสดงว่า อาราฮาบากิเป็นสิ่งที่ถูกสาบ คราวนี้อาราฮาบากิไม่ส่งคำสาบใส่เด็กชายดิกกอรี่ เพราะตนนั้นต้องมาพบกับสิ่งเลวร้ายเหมือนคำสาบติดตัวอยู่แล้ว
ในแววตาของเด็กช่างสงสัย มองดูเทวรูปและใช้มือลูบใบหน้าเทวรูปที่ศีรษะ และไออุ่นได้เกิดที่มือของเด็กชาย เหงื่อไหลออกที่มือจนชื้นตัว เหงื่อที่เปรอะร่างกายเทวรูปก็ซึมเข้าไปข้างใน อาจจะดีกว่าการที่นิ้วเด็กชายต้องกุดเพราะเทวรูปให้โชคร้ายแก่ตน เทวรูปไม่ต้องลืมตา สติของตัวเองก็รู้ว่ามองเห็นใบหน้าของเด็กชายดิกกอรี่อ่อนช้อย
"อยากบอกให้รู้สักหน่อย" เทวรูปขยับเขยื้อนร่างกายเพียงนิดและรู้สึกตื่นจากภวังค์ที่คำนึงอยู่
"ข้าจะยึดครองโลก แต่ข้ายังทำไม่ได้ เนื่องจากข้ายังไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าสิ่งใด"
เด็กชายผมทองเหลืองวิตกขึ้นมา แต่ก็ข่มความรู้สึกให้อาราฮาบากิกล่าวต่อไป
"ข้าจะยึดเบียงไว้เป็นของข้า ดินแดนนี้ข้ายังไม่เจอโชคร้ายที่ติดมากับข้า ข้าจะไปที่ปราสาทของเบียง อย่าคิดว่าข้าจะทำอะไรเจ้า ถ้าเจ้าได้เคารพข้าเหมือนเคารพกษัตริย์ ข้าจะให้เจ้ามีกิจการที่รุ่งเรือง"
"แต่ผมว่า ท่านยังไม่อาจคำนึงถึงบางสิ่งของท่าน ถ้าท่านไม่ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน ท่านก็อาจจะออกไปสู้รบกับทหารอย่างสบาย แต่ท่านยังโดนคำสาบอยู่อย่างนี้ ผมว่าท่านจะทำให้เบียงต้องล่มจมไปกับท่านมากกว่านะ"
ตุ๊กตาเทวรูปพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโชคชะตาที่ตนได้รับ ประตูกระท่อมคือหนทางใหม่ที่จะพบกับโชคชะตาที่เล่นตลกเกินกว่าที่จะสนุกและขำไปกับเรื่องตลกได้
"ไปส่งข้าหน่อย ข้าจะเผชิญกับอะไรอีกมากมาย เพื่อความหวังของข้า เพื่อตัวข้า"
คำพูดที่เด็กชายเห็นใจกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตัวเล็กนี้ ช่วยทำให้เด็กถือเทวรูปไปยังหน้าประตู แล้วเปิดออกไปข้างนอก บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกสงบกลับกลายเป็นเสียงอึกทึกด้วยเหล่าผู้คน
สงครามเบียง
ระหว่างเผ่ากษัตริย์นำด้วยทหารเอกและเผ่าประชาชนนำด้วยเอลฟ์หนุ่มหูแหลม ต่างฝ่ายอยู่คนละฟากเนินภูเขาที่เด็กชายดิกกอรี่มองเห็นจากขอบประตูกระท่อม
ฝ่ายประชาชน เอลฟ์หนุ่มพร้อมรบจนส่งสัญญาณ ตะโกนไปพร้อมกับกองทัพที่ตะลุยอย่างสามัคคี
"โจมตีมันเลย !!"
ฉับพลันอาราฮาบากิหลุดจากมือ แล้วเด็กชายดิกกอรี่วิ่งไปคอกสัตว์ไปหาม้าสีน้ำตาลตัวหนึ่ง แล้วขึ้นนั่งควบปุเรงๆ เป็นคาวบอยแล้วหนีไปจากแผ่นดินก่อนจะกลายเป็นสมรภูมินี้
"ฮี้ ย่า" เด็กชายดิกกอรี่ขี่ม้าหนีไปแล้วอย่างเร็ว
"ดิกกอรี่ ดิกกอรี่ ทำไมเจ้าทิ้งข้า" เจ้าตุ๊กตาโวยวายอย่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
================================= อ่านแล้วสำหรับท่านก็ขอให้ระวังจะเปรี้ยวปาก เอ๊ะ กินข้าวไม่ลงคร้บ แต่คราวนี้พยายามเรียบเรียงมันให้เข้าที่แล้วส่ง เสร็จแล้วก็editอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์จาก part 1 มากครับ แล้วก็ความพยายามในการทำงานก็ คิดว่าจะลงเรื่องแต่งไว้หลายๆเว็บ เพื่อประสบการณ์ และเพื่อความสุขของทุกท่าน
อาราฮาบากิยังคงเป็นชิ้นๆอยู่ มันตกลงมาในพิ้นที่เกษตรกรรมอีกแล้ว พิ้นที่เกษตรกรรมอยู่แถวตะวันออกของภูมิประเทศเบียง วัวตัวที่สองเดินมาปล่อยอุจจาระใส่อาราฮาบากิอีกตัว บรรยากาศยังคงดีอยู่ เพราะเกาะนี้เป็นเกาะสงบสุข วัวตัวที่สามทำให้อาราฮาบากิโชคดี เพราะวัวตัวที่สามมารับประทานกองอุจจาระให้ แย่หน่อยที่ชิ้นส่วนถูกรับประทานเข้าไปในท้องวัวตัวที่สาม
หนึ่งวันได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เด็กชายผมสีทองเหลืองเข้ามาในฟาร์ม สังเกตเห็นว่าวัวตัวหนึ่งไม่สบาย ไม่ยอมกินหญ้าตามปกติ เด็กชายจึงโทรศัพท์เรียกคุณหมอสัตว์ที่อยู่ระแวกหนึ่งไม่ห่างไกลจากฟาร์ม
"วัวของที่บ้านไม่สบายครับคุณหมอ เพียงตัวเดียวเองครับ ขอบคุณที่ช่วยครับ"
เด็กชายเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาดๆ ยี่ห้อแรงเยอร์ที่โด่งดังกำลังหมดราคาให้กับเด็กเกษตรกรรม เด็กชายคลุกคลีกับเกษตรมาหลายปีไม่ค่อยซื้อกางเกงยีนส์มาใหม่
ปุ !
เสียงเกางเกงยีนส์เริ่มขาดและขยาย เด็กชายอายที่จะไปไหนเมื่อสังเกตกางเกงยีนส์ตัวนั้น จึงแสร้งเมินหน้าไปหาวัว และสายตาไปสังเกตเข้ากับเศษชิ้นส่วนที่ห่างไกลจาวัวไม่กี่ก้าวเดิน
"นั่นคืออะไรน่ะ"
เด็กชายผมสีทองเหลืองเดินเข้าไปในสิ่งที่สังเกต ที่หย่อมหญ้าตรงนั้นปรากฏสิ่งหนึ่งเป็นเศษหิน แต่กลิ่นอุจจาระยังวนเวียนอยู่กับเศษหิน ทำให้เด็กชายรู้สึกเหม็น จะหอมก็ได้ถ้าไม่รังเกียจ แต่ทว่าเด็กชายก็กล้าที่จะถือเศษหินนั้นขึ้นมาดม แล้วก็เพ่งพิจารณามันอย่างนักวิชาการโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์
"อาราฮาบากิ ศาสนาพุทธ ชินโต นี่มันมีจริงเหรอ ในหนังสือเขาเคยบอกว่า ศาสนาเก่าของญี่ปุ่น ชินโต สร้างขึ้นหรืออาจจะเป็นวัตถุนอกโลก เป็นของมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า "
เด็กชายสังเกตชิ้นส่วนที่เรียกว่า ศีรษะ ของมัน แล้วต้องตกใจที่เศษนั้นมีเสียงพูดขึ้น
"ถ้าไม่อยากให้วัวตาย จงให้หมอมาหาวัวของเจ้า"
มือเด็กชายสั่นจนปล่อยเศษชิ้นส่วนลงบนพื้น
"พูดได้ด้วยเหรอ แล้วทำไมถึงรู้เรื่องวัวของผม"
"สังเกตดูชิ้นส่วนของข้าดีดี"
"ศีรษะ แขน ขา ขาหายไปหนึ่งข้าง โอ๊ะ อะไรเนี่ย รู้สึก รู้สึกวิงเวียนศีรษะ ขอไปรับประทานยาพาราเซตา...ครอก"
เด็กชายไม่ทันหันเข้าบ้าน ได้ล้มคว่ำลงบนพื้นหญ้า โชคไม่ดีอีกขั้นที่ใบหน้าทับกองอุจจาระของวัว ถ้าผู้ปกครองมาเจอคงต้องพาเด็กชายไปล้างหน้าหลายรอบและปรับปรุงผืนหญ้าให้ใหม่ เพื่อหญ้าที่ดีต่อการขับถ่ายของวัว
"เจ้า เจ้าเป็นอะไรไป แล้วข้าจะทำยังไงต่อไป"
เสียงรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูหยุดจอดริมถนน ประตูฝั่งพวงมาลัยถูกเปิดโดยบุรุษหนุ่มในมาดเสื้อกาวน์ คุณหมอที่เด็กชายเรียกหานั้นเอง แต่สงสัยว่า วัวที่จะให้รักษานั้นคือตัวไหน อยู่ตรงไหน แต่ด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ จึงชอบดูสัตว์ทุกตัว สายตาของหมอได้พบกับ เป็ด ไก่ ห่าน หงส์ คุณหมอคิดว่า พวกนี้ทำให้จิตใจของหมอสดชื่น กลิ่นอุจจาระนั้นคุณหมอก็รู้จักแยกประเภทของสัตว์ออก หมายความว่าหมอคนนี้เก่งเหลือเชื่อ ในที่สุดหมอเดินมาถึงวัวเจ้าปัญหาแล้ว ฝูงวัวมีวัวเพียงตัวเดียวนอนตะแคงซมดิน ไม่ยอมขยับกายไปกินหญ้า หมอนั่งลงยองๆ ใกล้กับร่างวัวนั้น
"เจ้าเป็นอะไรหรือ ถึงนอนซมอยู่แบบนี้ รู้ไหม ถ้าไม่กินหญ้า ก็ไม่มีพลังงานหรอกนะเจ้าวัว"
อีกเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาอย่างโกรธๆ
"ไอ้หมอหรือเปล่า ช่วยวัวตัวนั้นเลย มันกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป"
"ใครกำลังพูดหมอ เอ๊ะใคร"
แต่หมอไม่ได้สังเกตุเห็นชิ้นส่วน กลับไปพบเด็กชายล้มทับอุจจาระ
"ไอ้ดิ๊กกอรี่ ไอ้หนูเป็นอะไรทำไมมานอนตรงนี้ หืม เหม็นเป็นบ้าเลย"
หมอได้จับพลิกให้ร่างดิ๊กกอรี่หงายขึ้นมา ใบหน้าตาคงหล่อเหลาขึ้นเพราะได้ยาวิเศษพอกหน้าไว้ เจ้าหมอกลับแอบจิต หันหน้าไปทางอื่นเพื่อให้ตัวเองขำเงียบๆเมื่อเห็นหน้าของเด็กชาย
"พ่อแม่ก็ไม่อยู่ เลยกล้าทำแบบนี้เหรอ ดิกกอรี่ เล่นอะไรไม่เข้าท่า"
ร่างกายเด็กชายเกิดอาการเคลื่อนไหวขึ้น ตัวเด็กชายลุกขึ้นมา เอาหน้าไปชนกับหมอ แล้วเด็กชายก็จามหนึ่งที อุจจาระกระเด็นโดนเสื้อหมอ และหน้าตาหล่อเหลาของหมออาจจะได้หล่อขึ้นเพราะยาพอกหน้าชนิดใหม่
"คุณหมอ คุณหมอเหรอครับ วัวตัวนั้นกินเศษสิ่งแปลกปลอมเข้าไป มันคือตุ๊กตาอาราฮาบากิครับ"
"อาราฮาบากิ เทวรูปดินแดนหนึ่งที่ชื่อว่า ชาโปเหนะ(ญี่ปุ่น) งั้นหรอ"
เด็กชายกับหมอทั้งคู่ได้ลุกขึ้นยืน เด็กชายพาหมอไปพบกับวัตถุประหลาดที่พื้นหญ้า
"หมอว่า มันเหม็นน่าดูเลย"
"มันพูดได้ด้วยนะหมอ"
ตุ๊กตาตัวนั้นได้เห็นหน้าของหมอชัดๆครั้งแรก แล้วเริ่มมีความหวัง
"ช่วยข้าด้วย แต่ก่อนอื่น ช่วยวัวตัวนั้นก่อน ผ่าท้องมันเลยก็ได้"
"ครับ หมอเข้าใจนะครับ ท่านเทวรูป ว่าวัวมันกินเศษชิ้นส่วนเข้าไป "
วัวที่เป็นตัวปัญหานั้นไม่ทันได้รับการรักษา จู่ๆมันก็โผล่หน้ามายิ้มยิงฟันให้หมอกับเด็กเห็นว่า มันแข็งแรงดี แล้วมันก็เดินจากไปกินหญ้า
"ดิกกอรี่ หมอกำลังสงสัยจังว่า ใชวัวตัวนั้นหรือเปล่า? ตัวเดิมที่ไม่สบายน่ะ"
"เอ่อ ใช่ครับ"
ทำไมมันกลับมาแข็งแรง? หมอกับเด็กวิ่งพากันไปที่คอก
"น่าจะอยู่ที่อุจจาระนี่นา"
อุจจารระที่ว่านั้น มีเป็นสิบกองในคอก เจ้าอาราฮาบากิตะโกนว่า
"ช่วยหาให้ด้วย มันอาจจะอยู่ในอุจจาระ"
"คนอย่างผมต้องมาช่วยหาชิ้นส่วนเหรอเนี่ย" คุณหมอถาม
"ช่วยกันเถอะครับคุณหมอ ผมจะช่วยดม"
อ้วก !
"ดิกกอรี่ ! อย่าเพิ่งเป็นลม ช่วยหมอก่อนสิ"
ทั้งคู่ต่างคลุกคลีกับอุจจาระจนต้อง เอามือมาปิดปาก แต่ลืมตัวไปว่ามือเลอะอุจจาระ สิบนาทีผ่านไปแล้วจริงๆ ทั้งคู่บ่นใส่กันว่า ไม่มีชิ้นส่วน ก็จึงต้องทบทวนมันอีกรอบ ยังคงสาละวนกับหน้าที่ที่ต้องทำให้กับอาราฮาบากิ ว่าแต่ทั้งคู่ช่วยอาราฮาบากิเพราะว่านับถือหรือเปล่า ยังน่าสงสัยอยู่มาก
"เจอแล้วล่ะครับ คุณอาราฮาบากิ"
เด็กชายเป็นผู้พบแล้วต้องใช้อุปกรณ์กวาดกองอุจจาระออกนอกคอก อาราฮาบากิเกิดความดีใจ ที่จะได้ชิ้นส่วนครบสมบูรณ์ ขาข้างนั้นได้กลับคืนมามีกลิ่นหอมอบอวลเป็นของแถม คุณหมอหมดภาระหน้าที่ จึงบอกกับเด็กชายถึงเรื่องเงิน
"แพงนะ"
"เท่าไหร่เท่านั้นเลยหมอ ผมมีเงินอยู่"
"เสื้อกาวน์หมอนี่น่ะ แพงนะ"
"เหอๆ ผมขอโทษ"
บรรยากาศของเกษตรกรรมยังคงดีอยู่ ไม่มีรถรามาวิ่งบ่อยๆ คุณหมอกลับไปขึ้นรถยนต์แล้ว สตาร์ทรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูราคาประมาณหลายล้านออกไปอย่างโก้ เก๋ เริดหรู เริดสะแมนแตน ฯลฯ
"หมอไปแล้ว ช่วยข้าให้เหมือนเดิม"
เด็กชายต้องกอบกองชิ้นส่วนกลิ่นอบอวลล่อจมูกเข้าไปในกระท่อม ชีวิตของอาราฮาบากิเจอกระท่อมอีกแล้ว คราวนี้ผู้ประกอบร่างกลับเป็นเด็กชายฝรั่งผมสีทองเหลือง นัยน์ตาสีฟ้าที่ดูเยือกเย็น แต่แฝงความรู้สึกที่ว่า อ่อนโยนต่อสรรพสิ่งใดในโลกา
ชีวิตอาราฮาบากิเหมือนเกิดขึ้นใหม่ มันลองขยับร่างกายอีกครั้งหนึ่ง แล้วรู้สึกว่า คล่องแคล่ว
คำสาบของอาราฮาบากิคืออะไร อาราฮาบากิสามารถสาบใส่ผู้อื่นได้ แต่ไม่ทราบว่าตนเองเป็นตัวนำโชคต่างๆให้กับสิ่งมีชีวิตในบางครั้ง อาราฮาบากิรู้สึกว่าตัวเองมีความซวยเข้ามาจึงคิดว่าตัวเองก็โชคร้ายไม่ได้แพ้มมนุษย์ ทั้งๆที่เล่นตลกไปกับชาวนาที่โบว์กูป์ไปครั้งเดียว อย่างนี้แสดงว่า อาราฮาบากิเป็นสิ่งที่ถูกสาบ คราวนี้อาราฮาบากิไม่ส่งคำสาบใส่เด็กชายดิกกอรี่ เพราะตนนั้นต้องมาพบกับสิ่งเลวร้ายเหมือนคำสาบติดตัวอยู่แล้ว
ในแววตาของเด็กช่างสงสัย มองดูเทวรูปและใช้มือลูบใบหน้าเทวรูปที่ศีรษะ และไออุ่นได้เกิดที่มือของเด็กชาย เหงื่อไหลออกที่มือจนชื้นตัว เหงื่อที่เปรอะร่างกายเทวรูปก็ซึมเข้าไปข้างใน อาจจะดีกว่าการที่นิ้วเด็กชายต้องกุดเพราะเทวรูปให้โชคร้ายแก่ตน เทวรูปไม่ต้องลืมตา สติของตัวเองก็รู้ว่ามองเห็นใบหน้าของเด็กชายดิกกอรี่อ่อนช้อย
"อยากบอกให้รู้สักหน่อย" เทวรูปขยับเขยื้อนร่างกายเพียงนิดและรู้สึกตื่นจากภวังค์ที่คำนึงอยู่
"ข้าจะยึดครองโลก แต่ข้ายังทำไม่ได้ เนื่องจากข้ายังไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าสิ่งใด"
เด็กชายผมทองเหลืองวิตกขึ้นมา แต่ก็ข่มความรู้สึกให้อาราฮาบากิกล่าวต่อไป
"ข้าจะยึดเบียงไว้เป็นของข้า ดินแดนนี้ข้ายังไม่เจอโชคร้ายที่ติดมากับข้า ข้าจะไปที่ปราสาทของเบียง อย่าคิดว่าข้าจะทำอะไรเจ้า ถ้าเจ้าได้เคารพข้าเหมือนเคารพกษัตริย์ ข้าจะให้เจ้ามีกิจการที่รุ่งเรือง"
"แต่ผมว่า ท่านยังไม่อาจคำนึงถึงบางสิ่งของท่าน ถ้าท่านไม่ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน ท่านก็อาจจะออกไปสู้รบกับทหารอย่างสบาย แต่ท่านยังโดนคำสาบอยู่อย่างนี้ ผมว่าท่านจะทำให้เบียงต้องล่มจมไปกับท่านมากกว่านะ"
ตุ๊กตาเทวรูปพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโชคชะตาที่ตนได้รับ ประตูกระท่อมคือหนทางใหม่ที่จะพบกับโชคชะตาที่เล่นตลกเกินกว่าที่จะสนุกและขำไปกับเรื่องตลกได้
"ไปส่งข้าหน่อย ข้าจะเผชิญกับอะไรอีกมากมาย เพื่อความหวังของข้า เพื่อตัวข้า"
คำพูดที่เด็กชายเห็นใจกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตัวเล็กนี้ ช่วยทำให้เด็กถือเทวรูปไปยังหน้าประตู แล้วเปิดออกไปข้างนอก บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกสงบกลับกลายเป็นเสียงอึกทึกด้วยเหล่าผู้คน
สงครามเบียง
ระหว่างเผ่ากษัตริย์นำด้วยทหารเอกและเผ่าประชาชนนำด้วยเอลฟ์หนุ่มหูแหลม ต่างฝ่ายอยู่คนละฟากเนินภูเขาที่เด็กชายดิกกอรี่มองเห็นจากขอบประตูกระท่อม
ฝ่ายประชาชน เอลฟ์หนุ่มพร้อมรบจนส่งสัญญาณ ตะโกนไปพร้อมกับกองทัพที่ตะลุยอย่างสามัคคี
"โจมตีมันเลย !!"
ฉับพลันอาราฮาบากิหลุดจากมือ แล้วเด็กชายดิกกอรี่วิ่งไปคอกสัตว์ไปหาม้าสีน้ำตาลตัวหนึ่ง แล้วขึ้นนั่งควบปุเรงๆ เป็นคาวบอยแล้วหนีไปจากแผ่นดินก่อนจะกลายเป็นสมรภูมินี้
"ฮี้ ย่า" เด็กชายดิกกอรี่ขี่ม้าหนีไปแล้วอย่างเร็ว
"ดิกกอรี่ ดิกกอรี่ ทำไมเจ้าทิ้งข้า" เจ้าตุ๊กตาโวยวายอย่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
================================= อ่านแล้วสำหรับท่านก็ขอให้ระวังจะเปรี้ยวปาก เอ๊ะ กินข้าวไม่ลงคร้บ แต่คราวนี้พยายามเรียบเรียงมันให้เข้าที่แล้วส่ง เสร็จแล้วก็editอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์จาก part 1 มากครับ แล้วก็ความพยายามในการทำงานก็ คิดว่าจะลงเรื่องแต่งไว้หลายๆเว็บ เพื่อประสบการณ์ และเพื่อความสุขของทุกท่าน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ