Arahabaki action

ณ ดินแดนหนึ่งในโลกแฟนตาซี คืนหนึ่งที่ท้องฟ้ามืดมิด แต่ไม่ยักจะเห็นดวงดาวที่เรียงร้อยกันเป็นสัญลักษณ์ในราศี มีดาวดวงหนึ่งซึ่งมองดูท่าว่าจะกลมและใหญ่ อยู่ใกล้กับพระจันทร์เสี้ยวดวงหนึ่ง บัดนี้พระจันทร์ไม่สว่างสไวเหมือนในอดีต ดาวดวงใหญ่นั้นแข่งกันประกายแสงสว่างจ้าในสายตาคนเดินดิน ดินแดนนี้เหมือนจะนับถือศาสนาพุทธ แค่เพียงหมู่บ้านเกษตรกรรมก็มีรูปปั้นพระพุทธรูปที่ก่ออิฐถือปูนปั้นตั้งเรียงรายคู่กับทางเดิน แต่ดินแดนนี้กลับมีชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า beaucoup แปลว่า มาก เพื่อให้เศรษฐกิจเจริญก้าวหน้ามาก

วันนี้ดาวดวงนั้นกลับสว่างจ้ามากกว่าที่เคย แม้จะไม่มีใครสังเกตมองดู แต่มีชาวนาผู้ยากไร้คนหนึ่งแอบเห็นแสงสีแดงสดใสจากดวงดาวลงมาบนพื้นนาปรังของชาวนา ที่พิ้นนาปรากฏเป็นวงกลม วัวควายต่างวิ่งกระเจิงกันไปตัวละทิศทาง วงกลมได้ปรากฏชิ้นส่วน เป็นวัตถุประหลาดกำลังรวมตัวกันเป็นรูปเป็นร่าง ในที่สุด รูปร่างเหมือนมนุษย์ตัวเล็กๆนั้นก็กระจายเป็นชิ้นๆ ยังไม่ทันได้เคลื่อนไหวใดๆ

ชาวนาผู้ยากไร้เดินมามองดูพื้นนา ได้เก็บรวบรวมชิ้นส่วนประหลาดใส่กระสอบแล้วเดินถือกระสอบกลับเข้าไปในกระท่อมของตน แขวนกระสอบไว้กับตะปู ห้องหนึ่งซึ่งแคบลงทุกที เพราะกระท่อมหลังนี้มัผู้อาศัยอยู่ 5 คน ครอบครัวนี้มีพ่อแม่ และลูกชาย 2 ลูกสาวอีก 1 ขณะนี้ลูกชายคนโตอยู่ม.4ลูกสาวคนรองอยู่ประถม6และชายคนเล็กอยู่ประถม 3 หลังจากที่คืนนี้ดึกแล้ว ทุกคนต่างนอนกันบนเสื่อสักหลาดที่ปูไว้พร้อม มีแสงสว่างคล้ายแสงดาวประกายจากกระสอบที่เก็บชิ้นส่วนประหลาดไว้ แสงสว่างนานสามถึงสี่วินาที แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนั้น

รุ่งอรุณ ลูกๆต่างตื่นนอนไปอาบน้ำและจัดของใส่กระเป๋านักเรียน เสื้อผ้าที่ใช้ไม่ค่อยมีกัน จึงดูยับ มีลอยหลายลอยบนเสื้อผ้า พวกลูกๆได้กล่าวลา สวัสดีพ่อแม่ก่อนไปเรียน คุณแม่ก็ออกไปทำธุรกิจส่วนตัวส่วนคุณพ่อมีหน้าที่ทำนาและเฝ้าดูทั้งกระบือและนาข้าวและก็บ้าน ฯลฯ คุณพ่อเกิดความรู้สึกกับเศษหินที่เก็บได้เมื่อคืนว่ามันคืออะไร จึงยกกระสอบมาเท ชิ้นส่วนต่างๆได้หล่นลงบนเสื่อสักหลาด คุณพ่อเพร่งดูแล้วรู้สึกว่ามันคือตุ๊กตาประหลาด

"เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน"

ชาวนาถือเศษที่เป็นหัว แล้วหยิบเศษอื่นมาพิจารณาต่อ

"แขน ขา และร่างกาย ดูท่าทางอวบอ้อนแอ้น สงสัยเป็นรูปร่างหญิง"

แค่นี้ก็พอประกอบร่างกันได้ เมื่อประกอบเสร็จ ตุ๊กาตัวนั้นขยับร่างเคลื่อนไหวเหมือนมีชีวิตขึ้นมาทันที ที่หัวตุ๊กตาสามารถหมุนรอบสามร้อยหกสิบองศา ร่างกายขยับหมุนซ้ายขวา แต่ไม่สามารถขยับแบบหน้าหลัง ซึ่งคนแต่งเรื่องก็ไม่ทราบเหมือนกัน

"นี่มัน...อะไรกัน"

ชาวนาตกใจ ถอยหลังห่างออกไปจากสิ่งที่ตนเห็น

"ที่นี่ที่ไหน" ตุ๊กตาตัวนั้นพูด

"ผืนนาดินแดนตะวันออกของประเทศ beaucoup"

"เจ้าเป็นคนโชคไม่ดีรู้ไหม ข้ามีประวัติอันยาวนาน ทุกคนนับถือข้าเป็นเทพเจ้า ข้าคืออาราฮาบากิ อาจจะเป็นสัญลักษณ์นำโชคของท่านก็ได้? ...หรือเปล่า?"

"เป็นเทพเจ้าจากต่างแดนเหรอครับ ไหว้ล่ะครับ อย่าทำอะไรผมเลย แบบนี้คงต้องกราบไหว้ทำความเคารพต่อท่าน ผู้ทรงโปรด ขอให้ท่านข่วยเรื่องการทำมาหากินเพื่อครอบครัวด้วยเถิด"

"ฉันคงต้องบอกอีกหนเหรอว่าเจ้าโชคไม่ดี กระบือของเจ้าน่ะ ม่องเท่งแล้ว"

"กระบือผม.....ไม่นะ ผมจนก็จน !! เครียดก็เครียด!!"

ชาวนาลุกขึ้นวิ่งไปหาเหล้ามาดื่ม

"ดื่มเหล้าคลายทุกข์ ข้าพเจ้าอยากให้กลับเป็นอย่างเดิม ไม่งั้นไม่มีงานไม่มีเงิน"

ตุ๊กตาอาราฮาบากิเกิดความเห็นใจจึงพูดและเสกคำสาปด้วยสายตาที่ออกสีส้มแดง

"ข้าจะให้เจ้าน่ะ เลิกเหล้าแล้วมันก็กลับมาเป็นอย่างเดิม"

"เลิกเหล้า?"

"ใช่แล้ว"

และแล้ว ทุกวันต้องทำนาแทนกระบือ ทำงาน ทำนา ทำงาน ไหว้บูชาตุ๊กตา ทำงาน ทำนา เก็บเงิน ทำนา แล้วก็ทำนา ใช้หนี้ ทำงานทำงานแล้วก็ทำงาน

ทว่า...........

มีคนมาขอเงิน เครียด ! เป็นหนี้การพนัน เครียด ! ลูกชายโดนพักการเรียน เครียด ! ภรรยาแอบไปมีชู้ เครียด ! เครียด ! เครียด !

กินเหล้า ! ......คลายเครียด !?...

"ทำไมมันกลับมาเป็นแบบเดิม?ท่าน นี่มันอะไร?"

"ก็เจ้าปราถนาให้ข้าทำให้มันเป็นอย่างเดิม ข้าพูดผิดตรงไหน?"

"แต่ไม่น่าจะกลับมาอีหรอบนี้นี่ ท่าน ท่านไม่ได้ฃ่วยข้าพเจ้าเลย"

คงจะรู้กันว่าเทพเจ้าตนนี้ทำให้โชคดีกลายเป็นเลว?

อาราฮาบากิยิ้ม(ยิ้มเป็นด้วย?)ที่มุมปากแล้วที่เท้าทั้งสองก็มีไอพ่นเลเซอร์ทำให้ตัวลอย เลเซอร์ก็เหมือนเวทย์มนต์อย่างหนึ่งจึงทำให้ร่างกายลอยขึ้น

"ข้าจะไปแล้ว หวังว่าเจ้าคงมีความสุขกับเหล้าที่ดื่ม"

"มีความสุขกับผีอะไรท่าน เครียดเครียดชะมัด เหลือแต่เหล้า พอเงินไม่มี ครอบครัวต่าง ก็พากันหนีข้าพเจ้าไปที่อื่น เครียด !"

เจ้าตุ๊กตาลอยจากไปบนฟ้า ชาวนาผู้ยากไร้ก็ภาวนาไว้ว่า อย่าเจออีกเลย

ภารกิจที่สำคัญที่สุดของเจ้าตุ๊กตาคือ เป็นผู้ยิ่งใหญ่ วันนี้ดินแดนแฟนตาซีที่เขตหนึ่งมีรูปปั้นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่โต นักท่องเที่ยวได้ทำการถ่ายภาพส่วนบน แต่ปรากฏว่ากล้องโพราลอยด์ถ่ายติดวัตถุเล็กๆอย่างหนึ่งลอยอยู่ในภาพข้างเศียรพระพุทธรูปซึ่งมันคืออาราฮาบากิลอยผ่านมา แต่ผู้คนที่เห็นรูปแล้วยังไม่ทราบ

"ทั่วเมืองนี้นับถือศาสนาอะไรกันเนี่ย ข้าเห็นว่าจะเน้นศาสนาพุทธ หรือข้าเกิดมาผิดที่

ที่นี่ beaucoup ดินแดนที่เศรษฐกิจก้าวหน้า ก็งั้นๆ ข้าน่าจะช่วยอะไรได้ ตอนนี้ขอให้ข้าใหญ่โตขึ้นมาก่อนแล้วข้าจะบริหารประเทศนี้"

เหตุการณ์ไม่คาดคิด ฟ้าครึ้มมีเมฆสีเทาหนาทึบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ผ่าแล้วผ่าอีก ลงมาที่สายล่อฟ้าของตึกสูงใหญ่ ขนาดบนตึกยังมีรูปปั้นพระพุทธรูป ปนไปกับไม้กางเขน โชคดีของสิ่งศักดิ์สิทธื์ที่ไม่พังทลายไปกับสายฝน แต่ทุกวันนี้อาราฮาบากิมองมุมไหนก็เหมือนจะรู้สึกว่า สิ่งมีชีวิตในเมืองจะปั่นป่วน ไม่เหมือนสิ่งไร้ชีวิต รถติดเพราะรถชนกัน เหตุผลคือ เจ้าตุ๊กตามันไปมองรถยนต์ทำให้คนขับเป็นลมบ้าหมู ร่างกายชักขึ้นมากระทันหัน ตำรวจก็จับผิดต่อว่าคนเป็นลมบ้าหมูว่า "คุณทำผิดกฏหมาย"

"ผมไม่เคยเป็นนะครับ ลมบ้าหมูไม่เคยมาก่อนจริงๆ"

"ครั้งต่อไปคุณห้ามขับรถแล้วกัน คุณไปรถเมล์เป็นไหม"

โครม !

ไม่ทันไร ตำรวจก็เห็นรถเมล์ชนที่ป้ายรถเมล์แล้ว คนก็แตกตื่น ป้ายที่เขียนว่า Bus stop ก็งอเป็นไส้กรอก ตำรวจวิ่งไปที่รถเมล์

"คุณทำอะไรอะ รู้มั้ยว่าอย่าดื่มแล้วขับ"

"ผม ผมเกิดอาการชักกระตุกร่างกายบังคับไม่ได้"

จากนั้นไม่ว่าตำรวจหรือคนชับก็อาเจียนออกมา ร่างกายเริ่มโทรมกระทันหัน

"เรียกรถพยาบาลเถอะ"

ตำรวจออกคำสั่งให้คนขับรถเมล์และให้ตนเอง

อาราฮาบากิหมุนกลิ้งตลบสามรอบ แล้วเพ่งพิจารณาว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ แต่อาจยังไม่รู้ว่าตนเป็นคนทำให้เกิด ตนนั้นเป็นอาถรรพ์

"ไม่ได้เรื่อง ประเทศนี้เป็นอะไรไปนะ?..."

เจ้าตุ๊กตาอาถรรพ์เลิกสนใจประเทศ Beaucoup เหาะผ่านไปยังดินแดนแฟนตาซีอื่น นกกระสาที่บินรวมกลุ่มตามฤดูกาลต่างพากันร่วงหล่นไปทีละตัว ทั้งๆที่อาราฮาบากิยังไม่ได้ชนนกตัวไหนเลย เครื่องบินเองก็ใบพัดหลุดเครื่องก็ร่วงลงไปในมหาสมุทรอาเทน่า มีข่าวสารประกาศทางทีวีแต่ละประเทศว่าเกิดเหตุเครื่องบินตกหล่นที่มหาสมุทรอาเทน่า

เมฆฝนโผล่ขึ้นตามหลังอาราฮาบากิมาติดๆ

"ทำไมสิ่งเลวร้ายมันตามข้ามา ข้าพเจ้าติดคำสาปซะเองล่ะมั้ง"

ตุ๊กตาอิฐได้หลบสายฟ้าไปมา จนต้องพลิกตัวหลายตลบ เพื่อเร่งความเร็วที่จะพ้นเหตุการณ์ธรรมชาติที่แปรปรวนดังเช่นฝนตกฟ้าร้อง

"ดินแดนของข้า ขอสักที่เถอะ ข้าจะเข้าไปยึดมันง่ายๆ"

สายฟ้าสีขาวฟ้าฟาดผ่านตุ๊กตาคราวนี้หลบไม่พ้น ตุ๊กตาแตกเป็นเสี่ยงๆ หล่นไปยังเกาะแห่งหนึ่งชื่อว่า เกาะมหัศจรรย์เบียง ดินแดนแห่งจินตนาการและเมืองผู้ดี ความอาถรรพ์ยังไม่จบสิ้น เกาะมหัศจรรย์ถึงคราวซวยที่จะต้องพบอาราฮาบากิ

=============================== เบียง ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ดี

งานทดลองเขียนแฟนตาซีที่มีเทวรูป(นำโชค?)เป็นพระเอก ข้าพเจ้ารู้สึกภูมืใจกับ จินตนาการที่ลำเลิศดีกว่า Green Spirit ซึ่ง Green Spirit จะกลายเป็นตอนสั้นๆหลายตอนและเล็กน้อยมากกว่า ขอบคุณสำหรับการติดตาม ผมว่า อาราฮาบากิ แอคชัน น่าติดตามครับ