NR & The Suspiria's School นรินทร์กับโรงเรียนยมทูต

6.5

เขียนโดย AmakusaKanade

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.42 น.

  4 ตอน
  3 วิจารณ์
  9,683 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557 22.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) อาจารย์ประจำชั้น ....... งั้นเหรอ !!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 3 อาจารย์ประจำชั้น ....... งั้นเหรอ !!
         
..............ณ ห้องเรียนแห่งหนึ่ง.....ละมั้งนะ
          เริ่มเช้าวันใหม่ แสงอาทิตย์ได้สาดส่องลงมาต้อนรับวันใหม่ เหล่าต้นไม้ต่างๆเมื่อได้รับแสงอาทิตย์มากระทบกับใบของตนที่ถูกห่อหุ้มโดย น้ำค้างเล็กน้อย พลันก็เรืองแสงระยิบระยับราวกับหมู่ดาวบนผืนดิน หมู่นกต่างๆนานาชนิด ก็ส่งเสียงร้อง จิ๊บๆ บรรเลงดนตรีในยามเช้าที่เงียบเหงาให้ดูสดใสในทันใด
         
      “เอ๊ก อีเอ๊กเอ๊ก!! ต๊ากตั๊กตั๊กตั๊ก!! กระต๊ากตั๊กตั๊กตั๊ก!!! อีเอกเอ๊ก!!!!” แต่ดูเหมือนว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแห่ง นี้......... เขานั่งพับเพียบแล้วเอามือทั้งสองข้างวางบนตักอย่างเรียบร้อยหลังตรง พลางส่งเสียงของสัตว์ที่ขาดหายไปในตอนเช้า(..?)ด้วยใบหน้าที่เฉยเมย
 
    .....ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยจะสดใสในยามเช้าเอาซะเลย
........เขาคนนั้นคือ นรินทร์ นั่นเอง
          “เงียบๆ หน่อย ได้มั้ยคะ!!” เซเลน่าผู้ที่นั่งในท่าเดียวกัน อยู่ข้างๆทางขวามือของนรินทร์ท่ามกลางห้องเรียนธรรมชาติ ได้ตวาดใส่นรินทร์....เว้นระยะนิดนึงจึงพูดต่อ “เอะอะอยู่ได้!!! น่ารำคาญจริง เดี๋ยวแม่ปั๊ดเชือด!!”
          ทันทีที่เซเลน่าพูดนรินทร์ก็เงียบลง “ชิ~” และได้สบถออกมา - - แต่สิหน้าก็ยังคงเฉยเมย
          “อะไร กัน...เธอเนี่ย~” นรินทร์บ่นออกมาพลางหันหน้าไปทางขวามือแล้วพูด “เธอไม่เคยได้ยินเสียงเป็ดรึไง....เป็ดหนะ~”เหมือนนรินทร์จะเริ่มปล่อยมุข หน้านิ่ง
          ”เป็ด บ้านนายร้อง เอ้กอีเอ้กรึคะ มุขไม่ฮาแล้วยังพาฉันเครียดอีก ”เซเลน่าพูดพลางหันไปสบตากับนรินทร์อย่างหมั่นไส้และพูดตอกย้ำ "แป๊กค่ะ"
          ‘ฉึก!!!’ และดูเหมือนว่าจะแทงใจนรินทร์เต็มเป้าเลยล่ะ
          ‘ยัยนี่หาว่าเรามุขแป๊กงั้นเหรอ หนอยยยยย แค้นนนน’นรินทร์คิดพลางเก๊กเฉยเมยไว้
          “หึ!!! ยังไงมุขแป๊กมันก็ยังดีกว่า...ยัยยมทูตบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ดันเก็บวิญญาณมาผิดดวง ทั้งๆที่สามารถเช็คชื่อดวงวิญญาณที่ต้องการเก็บได้ที่สมุดประจำตัวหนะ นะ”นรินทร์พูดพลางเปลี่ยนสีหน้าส่งสายตาพร้อมแสยะยิ้มแสดงอาการเยาะ เย้ยอย่างเต็มที่แล้วพูดซ้ำเติมต่อ “ซุ่มซ่ามชะมัด”
          ‘ฉึก!!!’ และดูเหมือนว่ามันแทงใจดำของเซเลน่าอย่างจัง
          “หนอย ทนไม่ไหวแล้วนะคะ!!” เซเลน่าลุกขึ้นด้วยสีหน้าโกรธกริ้วพลางกำหมัดแน่น “ผู้ชายอะไร ‘ปากจัด’ ”
          “ฉึก!!!” และดูเหมือนว่าจะแทงใจดำนรินทร์อย่างจังอีกแล้ว
          “โหย...ตึ๊ง !!! โครม !!" นรินทร์เผลอทุบโต๊ะเรียนไม้ผุๆเล็กๆของตนจนมันแตกหักกระจาย แล้วพูดต่อ "นี่เธอ!!! แล้วถ้าเธอเป็นฉันเธอจะเคืองมั้ยล่ะฟระ!! สมองเธอคิดบ้างมั้ย!! ห๊ะ!!” นรินทร์ก็หันหน้ามาทางเซเลน่าพลางเปลี่ยนสีหน้าแสดงอารมณ์โกรธอย่างเห็นได้ ชัด
          “หึ ฉันแค่นอนอยู่ดีๆ ตั้งใจว่าพอเช้าวันใหม่มาเยือน ฉันก็จะใช้ชีวิตอย่างปกติ...ชีวิตของฉันมันน่าจะสดใสแบบนั้นแล้วแท้ๆ" นรินทร์พูดเว้นระยะนิดนึงแล้วพูดต่อ "แต่แล้ว!!....พอตื่นมาเจออะไร!!! ห๊ะ!! พญายมติ้งต๊องยืนยิ้มกับตาแก่คนหนึ่งแถมยังโดน %#&%” นรินทร์ระบายออกมายาวเหยียด ( ก็แหงล่ะเป็นกระผมกระผมก็โกรธนะครับ 55 )
          “...(' ')...” แต่ดูเหมือนคำบ่นของนรินทร์นั้นจะไม่ค่อยเข้าหูเซเลน่านัก เพราะทันทีที่นรินทร์อ้าปากด้วยสีหน้าโกรธ....เธอก็เหมือนจะรู้อนาคต จึงได้เอามือ2ข้างอุดหูของเธอไว้เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้สิ่งที่เธอพบนั้นเป็นแค่ภาพที่ไม่มีเสียงของชายหนุ่มคนนึง(นรินทร์) ผู้ซึ่งขยับปากไปๆมาๆพร้อมสีหน้าโกรธกริ้ว
          ”หึ..!!”เธอหัวเราะคำเดียวพลางแสยะยิ้มเหมือนกับตนชนะ
          แน่นอนว่าการหัวเราะคำเดียวสั้นๆนั้นมันเป็นการหัวเราะที่กวนโอ๊ยสุดๆสำหรับนรินทร์
          'หนอยยยย'ทำให้นรินทร์ไม่ชอบใจเอามากๆแต่..นรินทร์ก็ตัดสินใจสงบ
          ”เห่ ออ~”พร้อมถอนหายใจยาวๆ 1 ครั้ง แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆควบคุมอารมณ์ของตน ’เย็นไว้นรินทร์ เย็นไว้ หูววว ถ้าเราบ่นออกมาเดี๋ยวยัยนี่ก็ยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาโกรธยัยนี่ ’ นรินทร์คิดเตือนตนเองพลางเปลี่ยนสีหน้ามาเฉยเมยเหมือนเดิม
          “เห่อ ชั่งมันเถอะครับ ขอโทษนะครับ จากนี้ไปเราคงต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนานสินะครับ” นรินทร์พูดพลางยื่นมือขวาออกไปเหมือนจะอยากจับมือ ”ยังไงซะก็ดีๆกันไว้จะดี กว่านะครับ ผมนรินทร์นะครับ ^^” นรินทร์พูดพลางยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
          นรินทร์พยายามเป็นมิตรกับทุกๆคนแต่เขาก็ไม่ได้คิดเป็นเพื่อนจริงๆหรอก แค่ทำตามมารยาทเท่านั้น นั่นเพราะเขากลัว'เจ็บ'
          ‘แห นะ นี่ฉันเองก็อุส่าเล่นเต็มที่แล้วนะเนี่ย ทำไมหมอนี่ถึงได้ทำตัวแบบนี้อีกนะ’ เซเลน่าคิดพลางยื่นมือขวาไปข้างหน้าแล้วจับมือกับนรินทร์และยิ้มอย่างเป็น มิตร ”ค่ะ คิดได้ก็ดีแล้วล่ะค่ะ ฉันเซเลน่าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ นรินทร์ ^^”
          แน่ นอนว่าเซเลน่าก็รู้อดีตของนรินทร์มาเล็กๆน้อยๆ จากพลังการอ่านจิต ซึ่งเป็นพลังเฉพาะของเธอ แต่การอ่านจิตของเซเลน่านั้นเป็นเพียงแค่การรับรู้ถึงจิตใจคนๆนั้นว่าเขา เป็นคนยังไง มีอะไรที่ค้างคาในใจบ้าง หากฝึกให้คล่องก็จะสามารถเข้าไปรับรู้อดีตต่างๆของคนๆนั้นได้เลยทีเดียว นับว่าเป็นทักษะเก็บข้อมูลดีๆก็เป็นได้
          ทั้งสองเหมือนจะจับมือกันอย่างญาติดีกันแต่ว่า......ทันทีที่จับมือ
          ’ครืด!!!’ เซเลน่าก็บีบมือนรินทร์ไว้อย่างแรงแต่ดูเหมือนว่านรินทร์ก็มีความคิดเดียว กับเซเลน่านรินทร์เลยบีบมือเซเลน่าด้วยทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายต่างบีบมือซึ่งกันและกัน
          มือของทั้ง 2 คนสั่นผับๆๆ
          “ ^^ / ^^“ ทั้ง 2 ยิ้มอย่างเป็นมิตร(แต่คิ้วก็กระตุกเล็กน้อย)
 
          'หึ ดูเหมือนเราจะคิดถูกแหะ'นรินทร์คิด
          'แหนะ ชั่งระแวงซะเหลือเกินนะค่ะ'เซเลน่าคิด
          จับไปสักพักนรินทร์ก็เริ่มสงสัยว่า ทำไมผู้หญิงรูปร่างอ้อนแอ้นอย่างเซเลน่าถึงมีแรงพอๆกับนรินทร์ผู้ที่ฝึกฝน พละกำลังทางกายภาพมาหนักพอสมควร         
          ‘เอ๊ะ ยัยนี่แรงเยอะใช่เล่นเลยแหะ ดูจากรูปร่างภายนอกไม่ได้จริงๆ’ถึงในใจจะสงสัยแต่นรินทร์ก็ยังยิ้มและจับมือ กับเซเลน่าอยู่
          เหตุ ที่ เซเลน่า สาวผู้มีรูปร่างบอบบางนั้นมีพละกำลังพอๆกับนรินทร์ได้นั้น นั่นก็เพราะเซเลน่าผ่านการฝึกฝนอย่างโชกโชนพละกำลังเลยพอๆกับนรินทร์ แถมยังเคยอยู่ตั้งคลาส ss คลาสสูงที่สุดของโรงเรียนอีกด้วย
          ‘เอ๊ะ หมอนี่พละกำลังทางกายภาพพอๆกับเราที่เคยอยู่คลาส ss มาก่อนเลยหรือเนี่ย ผู้ชายนี่มันพิลึกจริงๆ’เซเลน่าก็คิดและยืนยิ้มจับมือกับนรินทร์อยู่เช่นกัน
          โรงเรียน ยมทูตสมศรีนั้นจะมีการแบ่งคลาสห้องเรียนของทุกๆชั้นปี ซึ่งมีทั้งหมด 6 ชั้นปี แบ่งคลาส E /D /C /B /A /S /SS เรียงลำดับจากต่ำสุดมาถึงสูงสุดซึ่งแต่ละคลาสจะมีการแบ่งชนชั้นห้องเรียนกัน ยิ่งได้คลาสต่ำห้องก็จะยิ่งดูแย่ เป็นแบบนี้เพราะพญายมสมชาย ผู้อำนวยการโรงเรียนนี้ คิดสนุกและอยากให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนเลยจัดตั้งกฎนี้ขึ้น มา มีตั้งแต่ห้องเรียนธรรมชาติยันห้องเรียนโรงแรม 5 ดาวเลยทีเดียว
          ทั้ง2 ก็ได้จับมือกันอยู่อย่างนั้นต่อไป
 
..............................30นาทีผ่านไป.....................................
          “หมับ….ผับๆๆ~” ทั้ง 2 ก็ยังจับมือทำความรู้จักกันอยู่อย่างนั้น
          “^^ แหม ไม่นึกเลยนะครับว่ายมโลกเนี่ย จะมีการจับมือทำความรู้จักกันนานขนาดนี้เลย นะครับเนี่ย แถมคุณยังไม่มีทีท่าเหนื่อยเลยนะครับ เก่งจังเลยนะครับ” นรินทร์พูดพลางยิ้มอย่างเป็นมิตร ’อะไรกันเนี่ย ยัยเซเลน่านี่ แรงเยอะชะมัด T T น่ากลัวโคตรผู้หญิงแน่หรือเนี่ย หมีควายรึปล่าวฟระ เจ็บเฟ้ยย !! T T ไม่เอ้า!!!พอได้แล้ว พอๆๆๆๆ!!’แต่ในใจนั้นร้องโหยหวนอย่าง'อนาถ'
          “^^ แหมๆ มันก็ปกติค่ะ ยมโลกหนะการจับมือทำความรู้จักกันนานแบบนี้เป็นปกติค่ะ เพราะเป็นการแสดงถึงความจริงใจไงล่ะค่ะ!! ฮิฮิ” เซเลน่ายิ้มร่าและพูดต่อ “แถมดิฉันยังเป็นแชมป์จับมือทำความรู้จักมาราธอน 3 สมัยซ้อนด้วยนะคะ จับมือแค่30นาทีมันเรื่องจิ๊บๆค่ะ ^^”
          " ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า..ฮ่า งะ.. งั้น..เหรอครับ" นรินทร์ตอบตะกุกตะกัก
......................แล้วในขณะที่ทั้ง 2 จับมือกันอยู่นั้น...........
          “ แป๊ะแป๊ะ แป๊ะ!!!” เสียงปรบมือของชายแก่คนหนึ่งก็ดังขึ้น
          “แอ๊ะ พอได้แล้วทั้ง 2 คน” เสียงชายแก่คนหนึ่งผู้เดินเข้ามายังห้องเรียนธรรมชาติ(..?..)สวมชุดคอปกมี กระดุมแขนยาว พร้อมเนคไทต์และกางเกงขายาวสีดำพร้อมคลุมผ้าคลุมยมทูตยาวสีขาวดำ พร้อมเส้นผมสีน้ำตาลที่ได้ถูกไว้ยาวแถมหยิกปกปิดใบหน้า 'ดูรุงรังดีแท้'
          “....” แต่ว่านรินทร์กับเซเลน่ากลับไม่ได้สนใจชายแก่ที่เดินมาเลยแม้แต่น้อย
          ‘แอ๊ะ เด็กสมัยนี้ ’ชายแก่รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเล็กน้อยที่ทั้ง 2 ไม่สนใจเขา ก็เลยเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าของนรินทร์และเซเลน่าพลางพูด
          ”แอ๊ะ จีบกันอยู่ได้นะ หัดเกรงใจครูบาอาจารย์กันหน่อยก็ได้นะ เจ้าพวกตัวยุ่ง ”
          แน่นอนว่าทันทีที่ทั้งสองได้ยินคำว่า’จีบ’นรินทร์กับเซเลน่าก็คลายมือที่จับกันทันใด
          “เปล่านะครับ/เปล่านะค่ะ” เซเลน่ากับนรินทร์เผลอพูดพร้อมกัน
          จากนั้นนรินทร์กับเซเลน่าก็นั่งลงกับที่เดิมของตนในท่าเดิมๆพร้อมใบหน้าของทั้งสองที่เริ่มออกสีชมพูเล็กน้อย
(-//-) / (-//-)
          แต่ ผู้เป็นอาจารย์นั้นเหมือนจะไม่ได้สนใจลูกศิษย์ของตนเลยสักนิด ทั้งยังเดินออกห่างทั้ง2คน มาอยู่หน้าห้องเรียนธรรมชาติและได้ไปนั่งยังโต๊ะหน้าห้องเรียนที่ดูเหมือน เป็นโต๊ะอาจารย์ผู้สอน
..ถ้าจะถามว่าทำไมนรินทร์กับเซเลน่าถึงนั่งลงบนพื้น!?
          นั่น ก็เพราะห้องเรียนคลาส E นั้น เป็นห้องเรียนสำหรับเด็กต่ำพิเศษ ซึ่งเป็นห้องเรียนที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่อยู่ในป่าหลังอาคารโรงเรียน ห้องนี้จะมีเอกลักษณ์ตรงที่ พื้นห้องนั้นถูกปูด้วยใบหญ้า มุมห้อง 4 มุมจะมีต้นไม้ต้นใหญ่อยู่ และขอบห้องก็จะมีหญ้าต้นใหญ่ที่ยาวประมาณ 100 เซนติเมตรเป็นเขตกั้นรอบห้อง แต่ไม่ต้องห่วงว่าผู้อาศัยพิเศษ (งู เสือ หมูป่า ต่างๆ) จะไม่มาห้องนี้ 'พวกนั้นมาแน่หากโชคดี'ซึ่งห้องนี้ โต๊ะเรียนนั้น จะเป็นโต๊ะไม้ผุๆ เล็กๆ สำหรับนั่งพื้นแล้วเรียน แต่เนื่องจากผุมันจึงพังง่ายมาก นรินทร์ทุบทีเดียว เละ!! เก้าอี้ก็มีแค่ตัวเดียวสำหรับอาจารย์......
          “เอาล่ะวันนี้ อาจารย์จะมาเป็นอาจารย์ปร.....”ชายแก่พูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ไม่ทันที่จะพูดจบ
          “วูบ!!!โครม !!!”ชายแก่ก็หล่นตุ๊บลงไปกับพื้นทันทีพร้อมเก้าอี้ไม้ของอาจารย์ที่แตกหัก กระจุยไปกับพื้น( สภาพเหมือนตอนที่คุณนั่งลงบนเก้าอี้แต่โดนเพื่อนแกล้งดันเก้าอี้ออกนั่นแหละ ครับ)“ แอ๊ะ !!!!!”ชายแก่เผลอร้องซะดังลั่น
....แต่เนื่องจากไม่ได้ใช้งานมานานเลยเป็นอย่างที่เห็น...(ผมอธิบายช้าไปหรือเปล่า ? )
          “ บะฮุบ บึ บึ/ บึบึ อึอึ “ เล่นเอานรินทร์กับเซเลน่าต้องเอามือปิดปากของตนอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
          ‘ งี่เง่าชะมัด บึบึบึ’ นรินทร์คิด
          ‘ซุ่มซ่ามจริงๆ อึอึอึ’ เซเลน่าคิด....ถึงตนจะเป็นยมทูตซุ่มซ่ามอันดับ1ก็เหอะ
....แค่ นั้นยังไม่พอกระดานสอนก็ยังไม่มีให้ใช้เลยเพราะฉะนั้นคงไม่ต้องพูดถึง อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าเช่น หลอดไฟต่างๆ'มันไม่มีแน่' ถ้าอยากได้ต้องสร้างเอาเอง...
          “แอ๊ะ !! เด็กสมัยนี้กล้าด่าอาจารย์ในใจแล้วเร๊อะ!!” อาจารย์ที่ล้มลงกับพื้นก็ได้ลุกขึ้นยืน แล้วปัดกางเกงและเสื้อของตนเอง
          ‘ เย้ย รู้ได้ไงว่ะเนี่ยอ่านใจได้งั้นเร๊อะ’นรินทร์คิดพลางหันหน้าไปทางเซเลน่าด้วย แววตาเป็นประกาย เหมือนกับจะบอกว่า ‘สุดยอด’
          เซ เลน่าก็ทำท่าทางเอามือกอดอกอย่างภาคภูมิเต็มที่เหมือนกับจะบอกว่า‘มันแน่ นอนอยู่แล้ว อาจารย์ที่พ่อฉันคัดเลือกมากับมือหนะ ต้องแจ่มๆทั้งนั้นแหละค่ะ’ ถึงทั้ง2คนจะสื่อสารในใจไม่ได้ก็เหอะ
          “แอ๊ะ !”แต่อาจารย์ที่มีความสามารถฟังเสียงในใจคนได้นั้นรัยรู้คำพูดของทั้ง2เต็ม2หู พร้อมท่าเขินๆ
          นรินทร์ได้โอกาส...
          “อาจารย์ครับ อะไรติดคอรึปล่าวครับ”นรินทร์ยกมือขวาและพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เหมือนจะเล่นมุขอีกแล้ว
          “....” ทุกคนนิ่งกริ๊บ
          เซเลน่าหันหน้าไปทางป่า แสยะยิ้ม และพูดเบาๆว่า “ หึ แป๊ก “
          ‘ฉึก...!/ บะฮุบ!’ แต่ด้วยเสียงที่เงียบกริบทำให้นรินทร์และอาจารย์ได้ยินเต็มๆ 2 หูและดูเหมือนว่ามันแทงใจดำนรินทร์อย่างจัง แต่ในขณะเดียวกันมันก็โดนใจอาจารย์อย่างมาก เล่นเอาอาจารย์เกือบหลุดหัวเราะเลยทีเดียว
          ‘หนอยยยย’ นรินทร์คิดพลางหันหน้าไปทางเซเลน่าที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้สนใจนรินทร์ที่จ้องมาที่เธอเลยแม้แต่น้อย
          “แอ๊ะ พอได้แล้ว เจ้าพวกตัวยุ่ง” อาจารย์พูดดึงดูดความสนใจ
          "....ครับ..ผม = = " นรินทร์ขานตอบแบบปลงๆ
          "ค่ะ ^^" เซเลน่าขานตอบ
          ‘ไม่มีเก้าอี้แล้วแหะ งั้น’อาจารย์คิดพลางกระโดดขึ้นเบาๆ แล้วนั่งลงบนอากาศที่ว่างเปล่าอย่างนุ่มนวล’นั่งแบบนี้ก็ แล้วกัน’
          ‘อู้ว’ ดูเหมือนนรินทร์จะตื่นเต้นมากที่เห็นอาจารย์นั่งลงบนอากาศได้
          ‘…..’ แต่เซเลน่านั้นกลับเฉยเมยเพราะว่าตนก็เจอมาเป็นปกติอยู่แล้ว
          “ แอ๊ะ เอาหล่ะ พวกแก...เอ่อ ลูกศิษย์.... ฉันชื่อ ชิลล์ มาเกอร์ วันนี้ฉันจะมาเป็นอาจารย์ประจำชั้นห้องปี1 คลาส E ของพวกแกนะ จำไว้เจ้าพวกตัวยุ่ง”
          “ ครับ/ค่ะ” นรินทร์กับเซเลน่าขานตอบ
          ‘ เอ๋ คุ้นๆแหะ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนนะ เอ......................ชะ ชะ......ชิลล์......... ‘ เซเลน่าคิดสงสัย
          “ แอ๊ะ วันนี้เป็นวันปรับพื้นฐานแรกสินะ” ชิลล์พูดพร้อมกวาดสายตาไปทั่วห้อง...ถึงเส้นผมจะปิดตาของตนก็เถอะ “ งั้นมาแนะนำตัวกันก่อน เริ่มจากเจ้า!! ไอ้หนุ่มตัวยุ่ง” อาจารย์พูดพลางชี้หน้านรินทร์
          “ครับ!! ผมชื่อ นรินทร์ มาดูเอล ครับ ^^ พึ่งเข้าเรียนที่นี่วันแรกครับ!! ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” นรินทร์ลุกขึ้นตอบ
          ‘ อ้อ!! ลืมไป ท่านผู้อ่านยังไม่รู้กันสินะครับ ทำไมผม(นรินทร์)สามัญชนคนธรรมดาถึงมาเรียนโรงเรียนยมทูตได้นะเหรอครับ คงต้องย้อนความกันหน่อยนะครับ แว๊บ!!!
          ณ ห้องโถงพญายม ต่อจากตอน 2 นะครับ หลังจากเซเลน่า และทุกๆคนได้ออกจากห้องโถงพญายมแล้วก็ได้เดินขึ้นไปเข้าห้องตนเอง ทำธุระส่วนตัวแล้วเข้านอน (ถึงจะเป็นวิญญาณแต่ก็ต้องพักผ่อนนะเออ)
          ในห้องโถงตอนนี้เหลือเพียงพญายมและผู้ตรวจสอบเท่านั้น
          “หึ!! งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ท่านพญายม” ผู้ตรวจสอบพูด
          “ ^^ ” พญายมยิ้มแป้น พลางกระโดดลงมาจากแท่นที่นั่งของตน ลอยตัวลงมายังพื้นพรมข้างหน้าผู้ตรวจสอบอย่างนุ่มนวล” จะรอรีอะไรอีกล่ะครับ หึหึ เรื่องสนุกๆอย่างนี้มันต้องรวดเร็วทันใจสิครับท่านผู้ตรวจสอบ จริงมัั้ย อิอิ” พญายมพูดพลางเดินนำหน้าชายแก่ผู้ตรวจสอบไป
          “ หึ ต้องอย่างนี้สิครับ หึหึ “ ชายแก่พูดพลางจับดวงวิญญาณกลมๆที่ไร้ทางสู้ของผมเดินตามพญายมไป และตอนนั้นผมก็ได้ตื่นแล้วด้วย ผมจึงมองเห็นและรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนั้น....
          “ถึง แล้วสินะ หึหึ “ พญายมพูดพลางแสยะยิ้มชวนสยอง แล้วหันหน้ามาทางผู้ตรวจสอบเหมือนต้องการบอกว่า ’เชิญเข้าไปก่อนเลยครับท่าน’
          “ หึ ครับ...ท่านพญายม” ผู้ตรวจสอบเหมือนรู้ความคิดพญายม ก็ได้เดินมายังหน้าประตูที่จะเปลี่ยนชีวิตของผม ตอนนั้นสัญชาตญาณของผมมันบอกว่า ‘ห้ามเข้าห้องนี้เด็ดขาด‘
          'ถาม ว่าทำไม!! นั่นก็เพราะผมดันเหลือบไปเห็นชื่อห้อง เขียนว่า ‘ ห้องกำเนิด/ลงทัณฑ์’ น๊านน มีแสลชเช๊อะ ลงทันด้วย ทันอะไร ทันตแพทย์สินะเหอะๆ แถมชื่อนั้นเขียนด้วยของเหลวๆ สีดำแข็งๆอีกครับ
          "คงจะเป็นเลือดเวลาถอนฟันสินะครับ"
          ประตูห้องก็ทำจากเหล็กกล้า.....
          "คงจะป้องกันเด็กที่กลัวเจ็บฟันจนต้องหนีสินะครับ ^^"
          แถมสภาพประตูยังเปื้อนโลหิตเต็มไปหมด....
          "หลอกตัวเองไม่เป็นล่ะ  T T "
ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าถ้าเข้าไปห้องนี้พร้อมกับคนที่แสยะยิ้มอย่างสนุกได้นั้น บ่งบอกเลยว่า
          'ไม่ปลอดภัย ‘ ผมพยายามดิ้นสุดชีวิตแต่ดวงวิญญาณหรือจะรอดพ้น
          "...." ไม่มีไครสนใจผมเลยสักนิด
          “ตึก แอ๊ดดด”ในขณะที่ผมกำลังดิ้นอยู่เสียงประตูเปิดออกอย่างช้าๆก็ดังขึ้น
          “ หึเอาล่ะ ขอให้โชคดีนะ เจ้าดวงวิญญาณผู้น่ารัก ฮิฮิ ^^ “ พญายมพูดพลางฉีกยิ้มแล้วหันมาทางผม
          ‘โหว จะอวยพรงั้นเหรอ T T มันจะดีกว่านี้นะครับถ้าเปลี่ยนจาก 'โชคดี' เป็น....
          'ไม่เอาล่ะส่งแกกลับไปตามชะตากรรมของแกดีกว่า'ได้นะครับ ผมจะดีใจม๊ากๆ!! เลยจริงๆครับ ฮือออ’ ในตอนนั้นผมคิดอย่างนี้จริงๆ
          “ หึ ตึก ตึก ตึก..” ดูเหมือนผู้ตรวจสอบจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พลางเดินเข้าไปในห้องอย่างช้าๆ
          “ บ๊ายบาย~ ท่านผู้ตรวจสอบขอให้ฝันดี และนำความสนุกมาให้ผมด้วยน๊า~^^” พญายมที่ยืนอยู่หน้าประตูนี้ พูดพลางแสยะยิ้มสยอง หนำซ้ำยังโบกมือลาอีก บ่งบอกเลยว่าคุณท่านกำลังตื่นเต้นแหงแซะ ไม่สิ ตื่นเต้นชัวปาปเลย T T
          “อีด!!!ปัง!!” แถมยังช่วยปิดประตูห้องให้ผมกับผู้ตรวจสอบซะด้วย
          “ ครึก “ ล็อคอีกต่างหาก ชั่งใจดีจริงจริ๊ง
          “หึ” ชายแก่ผู้ตรวจสอบเดินตรงไปเรื่อยๆ
          " ตึกตักๆ" พร้อมเสียงดวงวิญญาณของผมที่กำลังเปลี่ยนขนาด โตๆ เล็กๆ เรื่อยๆ
................ในห้องตอนนี้เป็นทางเดินโล่ง.............
.......แต่พอเดินๆ ไปเรื่อยๆ ผมก็รู้เลย ......
 
          “โอ้ ยยย ม๊ายยยย พอแล้ว โอ้ยยยย” ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น 0 0 ผมนิเงิบเลย ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำมือของชายแก่ผู้ตรวจสอบอย่างสุดกำลัง แต่ก็ไม่สามารถหลุดได้
          “ โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวนะ ดวงวิญญาณน้อย นั่นมันแค่เสียงผู้คนกำลังชมคอนเสิร์ตวง แก้วตาดวงใจ อยู่หนะ” ผู้ตรวจสอบพูดด้วยสีหน้าปกติ แบบไม่เหลียวมามองผมเลย ถ้าตามน้ำไปผมก็อยากจะตอบ"อ๋องั้นเองเหรอครับ^^" อยู่นะ
...........แต่ไม่ทันที่ผมจะวางใจ เสียงต่อมาก็ดังขึ้น
          “กรร!!! โฮก!! จับมันไว้!! อย่าให้มันหลุดไปได้!! ตัดมัน!! เชือดมัน!! ‘ฆ่า’ มัน!! โอ้ว!!“ = = ผมนิไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย
          "ตึกตัก ผับๆๆๆ"ดวงวิญญาณผมสั่น
          “ อ๋อ ไม่ต้องกลัวๆ นั่นหน่ะ....เอ่อ..... ใช่แล้ว!! ....ละครสัตว์หนะ เรื่อง...มังกรเพชฌฆาต ตอนสับแหลกหน่ะ^^”ผู้ตรวจสอบพูดพลางเดินลึกเข้าไปช้าๆ เรื่อยๆ
          ‘เหอะๆๆ สับแหลก แหม ชื่อน่าดูมากเลยนะครับ ละครเองสินะครับ T T มันคือละคร ละครๆๆๆ’ ผมได้แต่ทำใจแล้วท่องในใจอย่างนั้น
          “ โอ้ยยย!! ปล่อยฉันไปเถอะ!! ฉันผิดไปแล้ว!! ขอร้อง!! อ๊าก!! ฉึก!! ครึบๆ!! ฮ่าๆๆๆ!!! “
          ‘แหงะ คราวนี้ไรอีกงะ’ T T
          “ อ๋อนั่นไม่ต้องกลัวนะ เค้ากำลังซ้อมละครอยู่หนะ เรื่อง ฉันผิดเอง หนะ “ ชายแก่ก็ยังตอบแก้ตัวไปเรื่อยๆ
          ‘ละครงั้นสินะ T T ละคร T T’ ผมก็ได้แต่โอดครวญไปอย่างนั้น
 
.............จนเวลาผ่านไป 30 นาทีก็มาถึงที่หมาย...............
          ตลอด การเดินทางนั้น ผมก็ได้ยินสิ่งที่สุดยอดมากมาย ทั้ง ละครแนวซาดิส แนวต่อสู้ แอคชั่น เลิฟคอมเมดี้ ต่างๆ แถมยังมีละครสัตว์อีกต่างหาก นี่มันโรงละครสินะ
          "....0 0...." แต่ก่อนมาถึงที่หมาย ผมก็แน่นิ่งไปแล้วล่ะครับ
          ถามว่าทำไม!? นั่นเพราะมันมีอีเว้นอยู่ช่วงหนึ่ง~
         ในขณะที่ผู้ตรวจสอบกำลังเดินอยู่นั้น......
          "หมับ !!!" เหตุการณ์ที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นมันก็มา นั่นคือ มีผู้หญิงคนหนึ่ง ผมขาวเทอะทะ ใส่ชุดเสื้อสีแดงที่เปือยๆ คาดว่านะจะเป็นผู้ทาสีตกแต่งโรงละครนะครับ เล่นเปื้อนซะขนาดนั้น T T มาจับขาของผู้ตรวจสอบไว้
          "แผละ !! อยู่ให้นิ่งๆสิฟระ ตอแยอยู่ได้เดี๋ยวปั๊ดฆ่าซะเลย"ไม่ต้องเดี๋ยวแล้วแหละครับ เชื่อไหมครับว่า ผู้หญิงที่จับขาของผู้ตรวจสอบนั้นไม่ทันได้มองหน้าท่านด้วยซ้ำ เพียงประมาณเกือบ 1 วินาที ผมคาดว่าเส้นของผู้ตรวจสอบคงกระตุกเลยเตะหล่อนได้ สภาพหล่อนคือ..... ก็ดังแผละ!!หนิเนอะ T T 
          "ผับๆๆ ตึกตัก ผับๆ ตึกตัก"ผมยิ่งตัวสั่นเข้าไปใหญ่
          " อ๋อ โทษทีๆ ไม่ต้องกลัวๆ พอดีเส้นข้ากระตุกหนะ แห๊ะ"ชายแก่พูดพลางใช้มืออีกข้างที่ไม่จับดวงวิญญาณผมนั้นเกาหัว
          ' ไม่ต้องมา แห๊ะ เลยเฟ้ยยยยยย T T นี่แค่เส้นกระตุกสินะ หวังว่าผมคงไม่โดนนะครับ ห๊า ฮ่าๆ ห๊าาา ฮ๋าๆ'ในตอนนั้นผมทำใจพลางหัวเราะในใจกลบเกลื่อนความกลัวของตนเหมือนคนบ้าเลย จริงๆ
          "แผละ !!" ไม่ทันที่ผมจะทำใจได้ ชายแก่ก็ได้เตะร่างที่กระจัดกระจายบนทางเดินให้ออกไปทางข้างทาง
          " ห๊าา เหิ๊ก ช๊อคครับท่าน 0 0 " พริบตาที่ผมเห็น นั่นแหละ ผมถึงหมดสติเลยล่ะครับเพราะว่า....
          เตะทีเดียวราวกับพายุพัด
..................ทางเดินโล่งสะอาดกิ๊ก................. T T
  แต่ความซวยของผมยังไม่หมดแค่นี้         
          “ หึ เอาล่ะ ที่เหลือก็แค่ทำแบบนี้สินะ หึหึ “ เมื่อผมได้ยินเสียงของผู้ตรวจสอบ ผมก็ต้องตื่นขึ้น....
          ‘ แหม๊ ~ จะทำไรผมเหรอครับ แหม^^ เล่น จับผม ยัดใส่ รูปปั้นกลมๆ แล้ว ง้างหมัดขึ้นแบบนั้น คงจะปัดฝุ่นผมสินะครับ เหอะๆๆ T T ‘ ผมขยับอะไรไม่ได้เลยล่ะตอนนั้น
          “หึ” สิ้นเสียงชายผู้ตรวจสอบ ฝันร้ายของผมก็เริ่มขึ้น           “ ตูมๆๆๆๆๆ อ๊ากกกก แผล๊ะๆๆๆ #%$^#%$@“ไม่ยั้งเลยล่ะครับ
          หลัง จากนั้นสุดท้ายผมก็ได้ตื่นมาแล้วอยู่ในร่างมนุษย์เหมือนเดิมและผู้ตรวจสอบก็ ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟัง และก็ได้บอกว่า "เพื่อเป็นการชดเชยความผิด!!ดังนั้น ทางเราจึงให้นายนรินทร์ มาดูเอล เข้าเรียนที่ โรงเรียนยมทูตสมศรี ทุกอย่างฟรีครับ แลกกับการที่คุณต้องทำตามที่เราบอกครับ" แถมยังได้เรียนห้องพิเศษอีก เรื่องมันก็แค่นี้แหละครับ นี่'ชดเชยความผิด' สินะครับ เหอะๆๆ’
 
          ...กลับมาปัจจุบัน
          “ แอ๊ะ แกชื่อ นรินทร์ สินะเจ้านักเรียนตัวยุ่ง “ ชิลล์ พูดพลาง พะหงกหัวนิดนึงแล้วหันหน้ามาทางเซเลน่า 'ผ่านน่าสนใจดีหนิเจ้าหนุ่มนี่'ชิลล์คิด
          “แอ๊ะ แล้วเธอล่ะ ชื่ออะไร เจ้านักเรียนตัวแสบ” ชิลล์ถามเซเลน่า...ถึงชิลล์จะรู้ว่าเซเลน่าพยายามนึกอะไรอยู่ก็เถอะ
          ‘ เห่อ นึกไม่ออก ชั่งมันก็แล้วกัน ‘เซเลน่าปลง
          “ อ๋อ เอ่อดิฉันชื่อ เซเลน่า อาธิส ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อาจารย์ชิลล์^^ ” เซเลน่าตอบกลับอย่างเป็นมิตร
          " อ๋องั้นเหรอ ลูกท่านพญายมสินะ"ชิลล์พูด
          " ค่ะ ^^" เซเลน่าตอบ
          “ แอ๊ะ เอาล่ะ นักเรียนก็มีเท่านี้สินะ พวกแกอ่อนสินะเลยต้องเรียนปรับพื้นฐานก่อนเปิดเทอมกับข้า เจ้าพวกตัวยุ่ง “ ชิลล์พูดพลางแสยะยิ้ม ‘ น่าสนุกดีหนิ ‘
          “ ครับ / ค่ะ “ เซเลน่ากับนรินทร์ตอบพร้อมกัน
          “ แอ๊ะ งั้นก่อนจะเปิดเทอม เหลือเวลาอีกแค่ 5 วัน!! ฉะนั้นพวกแกจะต้องมาที่ห้องเรียนนี้! จากเช้ามืด! ตี 5 เรียนกับข้าจนถึง เที่ยงคืน! ทุกวันเข้าใจมั้ย !!! “ ชิลล์พูดขึ้นเสียงด้วยสีหน้าจริงจังและน้ำเสียงหนักหน่วง
          “ค่ะ !!” เซเลน่าตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นเต็มที่ เพราะเธอรู้ดีว่าสภาพสังคมโรงเรียนยมทูตสมศรีนั้นเป็นยังไง
          “ เอ่อ คร๊าบบ”ส่วนนรินทร์ นั้นก็ตอบน้ำเสียงเนือยๆไป เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าโรงเรียนเป็นยังไง'ทำไมต้อง ทำท่าทางจริงๆจังๆด้วยล่ะเนี่ย แค่โรงเรียนเอง เห๊อะ'นรินทร์คิด
          ‘หืม!!/ หืม!!’ เล่นเอาทั้งเซเลน่าทั้งชิลล์ต้องหันหน้ามาทางนรินทร์เลยทีเดียว
          ‘ หึ หมอนี่ไม่รู้สินะค่ะ ฮิฮิ ก็พึ่งเข้ามาหนิ ได้....น่าสนุกดีหนิค่ะ ‘ เซเลน่าคิดดูเหมือนคำว่า'น่าสนุก'จะแพร่หลายเอามากๆ
          ‘ โหว ใจกล้าดีหนิ สงสัยไม่รู้อะไรเลยแหงมๆ ฮ่าๆๆ เจ๋งๆ แบบนี้สิถึงจะสนุก’ อาจารย์ชิลล์คิด
          “ หืม มีอะไรติดหน้าผมรึปล่าวครับ ทำไมจ้องผมจัง?” นรินทร์ที่รู้ตัวว่าตนถูกมองก็ถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
          “เปล่าค่ะ / แอ๊ะ ไม่มีไรหนิ “ เซเลน่ากับอาจารย์ชิลล์ตอบ
          “ แอ๊ะ เอาล่ะ” ชิลล์พูดขึ้นดึงดูดความสนใจอีกครั้ง
          “….” เซเลน่ากับนรินทร์ก็ได้เงียบแล้วหันมาสนใจอาจารย์ของตน
          “งั้น เรามาเริ่มเรียนกันเลยมั้ย !! นักเรียนผู้น่ารักทุกท่าน หึหึหึ “อาจารย์พูดขึ้นพร้อมลักษณะการพูดของอาจารย์ชิลล์ก็เปลี่ยนไป
          ‘หยึกหยึย!!’ เล่นเอานรินทร์กับเซเลน่าก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมายังไงหยั่งงั้น
          “…..”
          “หึ..” มีเพียงอาจารย์ชิลล์เท่านั้นที่ยิ้มร่าอยู่ได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย
 
..................................................................................
          เวลา 7.59 น. . .....ณ ห้องโถงยมทูต
          “ท่าน พญายมเจ้าค่ะ การเรียนปรับพื้นฐานของ คลาส E จะเริ่มขึ้นแล้วนะเจ้าค่ะ “ เสียงน่ารักอุบอิมของมานัท ได้พูดขึ้น ปลุกพญายมที่กำลังบรรทมอยู่ในห้องแบบไม่รู้เวล่ำเวลาเอาซะเลย
          “ หืมม~ อ๋อ~ งั้นเหรอ นัทจัง “ พญายมพูดขึ้น ตื่นด้วยเสียงงัวเงีย
          “ฮ้า วววว !” พญายมเอามือปิดปากแล้วหาวหนักๆก่อนจะบิดขึ้เกียจนิดนึงแล้วพูดต่อ” งั้น รอแปปนะ ขอไปแต่งตัวก่อน เชิญนัทจังไปดูพลางๆได้เลยครับ เดี๋ยวผมตามไป ^^”
          “รับทราบเจ้าค่ะ” มานัทตอบด้วยใบหน้าเฉยเมยแล้วได้เดินออกจากห้องพญายมไป
          ‘ เฮ้อ ~ งั้น รีบแต่งตัวก่อนดีกว่า ว่าแต่ อาจารย์ ที่เราส่งไปถ้าจำไม่ผิด ชิลล์ มาเกอร์สินะ ฮิฮิ น่าสนุกชะมัด ไม่มีนักเรียนคนไหนทนอยู่กับอาจารย์นี้ได้เกิน 3 วันหรอก ฮ๊าวว! แล้วเจ้าพวกนี้จะรอดรึปล่าวนะ น่าสนุกจริงๆ’ พญายมคิด พลางเดินไปทางห้องน้ำเพื่อนทำธุระต่างๆนา
          ‘ ก็เป็นอาจารย์ มหาซาดิส หนิเนอะ ‘……………(^ ^)
          "แงะ!!!" 0 0
………………………………………………………………………………
จบ ไปอีกตอนนะครับ ขอโทษครับอัพช้าหน่อย หมดไฟเหอะๆ แต่ไฟลุกแล้วล่ะครับ ยังไงก็วิจารณ์ได้นะครับ เกิดมุขแป๊กอะไรยังไง หรือไม่เข้าใจตรงไหนหนะครับ แฮะๆ ^^
ปล. เดี๋ยวผมจะมาเพิ่มและแก้ไปเรื่อยๆนะครับ ตามเดิม ผมอ่านเองงงเองเลยล่ะครับ 55 ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา