NR & The Suspiria's School นรินทร์กับโรงเรียนยมทูต

6.5

เขียนโดย AmakusaKanade

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.42 น.

  4 ตอน
  3 วิจารณ์
  9,587 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557 22.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) กร๊วก....งั้นเหรอ~ = =

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ตอนที่ 4 กร๊วก....งั้นเหรอ~ = =

 

     ขณะนี้เวลา 23 . 50 น.

         คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง เป็นคืนที่แสงจันทร์สว่างมาก ค่ำคืนที่ปกติน่าจะมืดมิดแต่กลับสว่างขึ้นเล็กน้อยเพียงพอให้ดวงตาของมนุษย์มองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวได้ในรัศมี 5 เมตร มีลมพัดโชยอ่อนๆ พอให้ร่างกายเย็นสบาย แต่ทั้งๆที่น่าจะเป็นคืนที่ให้อารมณ์ สงบ สบาย ผ่อนคลายแท้ๆ ........

     “แฮะๆ ๆ ๆ / หะ หะ หะ” นรินทร์กับเซเลน่าหอบในขณะที่ชุดของทั้ง 2 นั้นได้เปียกซกๆจากเหงื่อของพวกเขาเอง (0 0)

     “นายอย่าเร่งนักสิ..หะ..หะ...ตาม’จังหว่ะ’ไม่ทันนะค่ะ..แหะ...แหะ”เซเลน่าพูดพลางหอบไปพลาง(0 0 จังหว่ะ!!)

     “แฮะ...แฮะ...ทำไมล่ะ แฮะ..แฮะ.. นี่หนะเหรอคลาส ss ที่ว่าเก่งนักเก่งหนาหนะ แฮะ..แฮะ.. เจอแค่นี้ไม่ไหวแล้วเหรอ”นรินทร์พูดพลางเอามือขวาปาดเหงื่อของตน(0 0 เจอแค่นั้น!!)

     “หนอย..หะ หะ...นาย..หะ หะ ...เห็นฉันเป็นผู้ชายหรือยังไง หะ หะ”เซเลน่าที่หอบอยู่ก็พูดโต้เถียงนรินทร์(= = เอ๋?)

     “ ไม่รู้สิ - - “ นรินทร์ตอบกลับไปอย่างเนือยๆ

      ‘กึย - - * ตอบแบบนั้นหมายความว่าไงหะ’ เซเลน่ารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดๆกับคำพูดของนรินทร์

     ‘ เอาเถอะๆ ปลงๆ’แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักเลยหันหน้าไปทางอาจารย์ ชิลล์ แล้วพูดว่า“ แฮะ แฮะ อาจารย์ค่ะ นี่พวกเราเล่นวิ่งมาทั้งวี่ทั้งวันแล้วนะค่ะ แฮะ..แฮะ...ฉันว่าพอแค่นี้ได้ หะ หะ ได้รึปล่าวค่ะ ?” ( หูว = =)

     “นั่นสิครับ แฮะ แฮะ”นรินทร์ตอบเห็นด้วย

     นรินทร์กับเซเลน่าพูดในขณะที่วิ่งรอบสนามข้างห้องคลาส E ขาทั้ง 2 นั้นถูกล่ามด้วยโซ่ไว้ด้วยกันคนละข้าง

     “แอ๊ะ!! ก็ได้ๆ วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน - - “ อาจารย์ชิลล์ที่นั่งอยู่กลางอากาศได้พูดกับนักเรียนของตน พลางเงยหน้ามองดาวบนท้องฟ้าแล้วพูดเบาๆ “ คลาย” โซ่ที่มัดขาของเซเลน่ากับนรินทร์ก็หายไป'พวกนี้มัน -*-'อาจารย์ชิลล์คิด

     “ตุ๊บ!!! / ตุ๊บ !!” ทันทีที่โซ่หายไปเซเลน่ากับนรินทร์ถึงกับทรุดแล้วนอนหอบอยู่บนพื้น

     “ขอบคุณครับ แฮะ แฮะ/ ขอบคุณค่ะ หะ หะ”เซเลน่ากับนรินทร์ขอบคุณอาจารย์ทั้งๆที่ยังนอนอยู่กับพื้น

     ก็แหงล่ะ เพราะว่าทั้ง 2 นั้น ได้ถูกอาจารย์ชิลล์สั่งให้วิ่ง 3 ขาตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยที่ไม่ต้องพักเที่ยงกันเลย วิ่งมาตั้งแต่เช้ายันค่ำ

     “ แฮะ...แฮะ..อา...แฮะ แฮะ...อาจารย์ชิลล์ครับ...แฮะ..แฮะ”นรินทร์พูดพลางหอบพลาง

     “ แอ๊ะ มีอะไรอีกล่ะ - - ” อาจารย์ชิลล์พูดพลางหันหน้ามามองนักเรียนของตน

     “ แฮะ แฮะ ไอ้การฝึกร่างกายด้วยการวิ่ง แฮะ อย่างเดียวเนี่ยครับ มันช่วยอะไรเหรอครับ?” นรินทร์ถามอาจารย์ในขณะที่ตนเริ่มหยุดหอบพลางลุกขึ้นมานั่ง

     “ หะ หะ ใช่แล้วค่ะ อาจารย์ วันแรกเองนะค่ะ แถมแค่ปรับพื้นฐานเอง หะ ....หูว แล้วฝึกแบบนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอค่ะอาจารย์?” เซเลน่าก็เหมือนจะเริ่มหายหอบก็พูดพลางลุกขึ้นมานั่งบนพื้นเช่นเดียวกับนรินทร์

     “แอ๊ะ ปล่าว.... ข้าแค่อยากจะลองทดสอบพวกเจ้าดูหน่ะ”อาจารย์ชิลล์ตอบพลางเอามือกอดอกในขณะที่นั่งอยู่แล้วพูดต่อ “เหมือนว่าข้าจะหวังเกินเหตุไปหน่อย ลูกพญายมและ….”อาจารย์พูดพลางหันหน้าไปทางนรินทร์พลางขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า”....เด็กน้อยผู้น่ารังเกียจ....” ถึงนักเรียนทั้ง 2 จะไม่เห็นใบหน้าอาจารย์ แต่ว่าก็พอรู้เลยว่าอาจารย์ทำสีหน้าเวทนา นรินทร์

     จากนั้นบรรยากาศก็เปลี่ยนไป จากที่เมื่อกี้เป็นบรรยากาศห้องเรียนลุยๆแบบ ปกติธรรมดา กลายเป็นมาคุเต็มที่(มาคุ แปลว่า ตึงเครียดนะครับ )

      “ อืม...”เมื่อนรินทร์ได้ยินเช่นนั้นก็ก้มหน้าลงทำให้ผมของนรินทร์ปิดใบหน้าของตน ” อาจารย์ ช่วยตอบให้ตรงคำถามหน่อยครับ ”นรินทร์พูด 'กะแล้วเชียว'นรินทร์คิด

     ส่วนเซเลน่าก็หันหน้าไปมองทางนรินทร์แสดงอาการเป็นห่วงเล็กน้อย แล้วหันหน้ามาทางอาจารย์ชิลล์ต่อ

     “ หืม ข้าไม่จำเป็นต้องบอกประโยชน์ของการฝึกวันนี้หรอก พวกแกคิดเองได้หนิ และอีกอย่าง...”อาจารย์ชิลล์ตอบพลางลุกขึ้นมายืน

     “เป้าหมายของพวกแกทั้ง 2 หน่ะ ยังเป็นไปไม่ได้หากมีอะไรมากวนใจพวกแกอยู่”อาจารย์ชิลล์พูด

     “...”นรินทร์กับเซเลน่าเงียบ

     “ แอ๊ะ เอาหล่ะวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน จะเรียนต่อหรือไม่เรียนต่อก็ตามใจพวกแกนะ ถึงต่อให้พวกแกอยากเรียนต่อข้าก็ไม่สอนเจ้าหรอก ไม่น่าสนใจ ฮ๊าว ข้าขอตัวไปนอนก่อนล่ะ”อาจารย์ชิลล์พูดเสร็จก็เดินสาวท้าวออกไปนอกป่า และก็หายไปแบบไร้ร่องรอย

     "....." นรินทร์กับเซเลน่าก็เงียบกริบไปพักนึง

     ตอนนี้ในสนามข้างห้องเรียนธรรมชาติคลาส E เหลือไว้แค่ นรินทร์กับเซเลน่าอยู่กันตามลำพัง 2 ต่อ 2

     “ นี่ยัยเซเลน่า”นรินทร์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น

     “หืม มีอะไรเหรอค่ะ?” เซเลน่าหันมาพูดกับนรินทร์

     “ปล่าว ไม่มีไร กลับกันเหอะ”นรินทร์พูดพลางลุกขึ้นยืน ดวงตาของนรินทร์ฉายแววเศร้าสอยนิดนึงก่อนจะกลับเป็นเหมือนเดิม’ไว้ค่อยพูดกับพญายมเลยดีกว่าแหะ’นรินทร์คิด

     “ เอ๋!? กลับ จุดๆๆ 0///0”เซเลน่าหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย” จะบ้าเหรอไง!! 0//0เราเพิ่งจะรู้จักกันเองนะ นาย....... เสียมารยาทที่สุด >//<” เซเลน่าพูดพลางเอามือปิดหน้าของตนที่แดงแป๊ดสุดๆ(โอ้ความคิดของเซเลน่าท่าน)

     “เอ่อ คือว่า = = ...ท่านผู้ตรวจสอบที่พาวิญญาณฉันไปใส่ในร่างนี้หน่ะเค้าบอกว่าให้ฉันไปพักบ้านเธอก่อน ไว้เปิดเทอมแล้วเขาจะจัดการเรื่องหอพักไว้ให้หนะ”นรินทร์ตอบกลับไปด้วยสีหน้าเฉยเมย โดยไม่ทันได้เห็นสีหน้าของเซเลน่ามากนักเพราะมันมืดแล้วแสงจันก็ไม่สามารถทำให้เห็นสีหน้าได้ชัดเจนอีกต่างหาก

     “ อะ......อ๋อ ค่ะ แบบนั้นเหรอกเหรอค่ะ งั้นเรากลับกันเลยนะค่ะเหนียวตัวไปหมดแล้วล่ะค่ะ ^///^ “เซเลน่าก็ลุกขึ้นยืนแล้วตอบนรินทร์ด้วยรอยยิ้มแต่หน้าก็ยังแดงอยู่ ’ฉันคิดไรเนี่ย อายชะมัด >\\\< ม่ายยยย เอ่อ แต่ไม่แน่ว่าหมอนี่จะรู้หนิ -///- สีหน้าเฉยเมยสุดๆ เห้อ โล่ง - - ’

     “ อ่าครับ....บะฮุบ “นรินทร์ตอบแบบเฉยเมย แต่ก็หลุดหัวเราะไปนิดหนึ่ง

     ‘นั่นไง 0 0 ม่ายยยยยยยยย!!!’เซเลน่าร้องโหยหวนในใจ

     ’บ๊ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า บ้าเหรอ เราพึ่งรู้จัก ฮึฮึขำ’นรินทร์คิดพลางหัวเราะในใจแต่สีหน้าก็ไม่เปลี่ยน - - เฉยเมยยยย

     จากนั้นเซเลน่าก็เข้ามาจับมือนรินทร์อย่างรวดเร็ว แต่หน้าก็แดงนิดหนึ่งแล้วใช้พลังเทเลพอร์ต หายตัวไปยัง’บ้าน’ของเซเลน่า

     “วูบบบ!!”

     “ขวุบ!!” พริบตาเดียวร่างของทั้ง 2 ก็มาถึงยังหน้ารั้วคฤหาสน์แห่งนึง บรรยากาศโดยรอบชวนรู้สึกหดหู่นิดหน่อย มีรั้วบ้านและประตูรั้วเป็นเหล็กสีดำ ทางเดินจากรั้วไปถึงคฤหาสน์ยาวประมาณ 300 เมตร ทางเดินเป็นพื้นดินธรรมดาๆ รอบๆทางเดินก็ถูกประดับไปด้วยเสาไฟที่สูงประมาณ 200 เซนติเมตร แล้วที่ยอดเสาจะมีตะเกียงไฟตั้งอยู่ บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ รอบๆคฤหาสน์ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตรจะมีป่าต่างๆรายล้อมอยู่ สรุปคือใหญ่สุดๆ

         แต่เมื่อมาถึงนรินทร์กับเซเลน่าก็ปล่อยมือกัน จากนั้นเซเลน่าก็ได้เดินนำ แล้วพานรินทร์เข้าบ้านตน

...................เดินไปประมาณ 50 เมตรแรก……

     “….” ทั้ง 2 คนไม่มีไครพูดอะไรเลย

     ‘ อื่ม ทำไมยัยนี่ถึงไม่เทเลพอร์ตเข้าบ้านเลยนะ ’ นรินทร์สงสัยเล็กน้อยพลางทำสีหน้าเฉยเมย ‘ จะบ้าเหรอ บ๊ะ ฮ่า ฮ่า‘ - - แต่ดูเหมือนว่านรินทร์ยังตลกค้างอยู่นิดหน่อย

     ‘ หนอย หมอนี่ ไม่เข้าใจความคิดของคนอื่นเลยนะ คนเค้าอุส่าเปิดโอกาสให้คุยแล้วแท้ๆ เสียมารยาทจัง’ เซเลน่าคิดดูเหมือนว่าเซเลน่าจะไม่ค่อยใส่ใจกับเหตุการณ์ของตนเมื่อกี้สักนิด

     ‘ ชักรู้สึกอึดอัดแหะ’นรินทร์คิดพลางกวาดสายตาไปรอบๆ = =

     ‘เอ๋ ทำไมหล่ะ’นรินทร์สงสัยเพราะในขณะที่กวาดสายตา เขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบกับเหล่าต้นไม้ต่างๆ ทั้ง 2 ฟาก ของทางเดินนั้น ทุกต้นเหี่ยว โศกเศร้ากันอย่างมาก ได้อารมณ์หดหู่แบบสุดๆ

     “นี่เซเลน่า”เมื่อสงสัยนรินทร์ก็ถามเซเลน่าทันใด

     “มีอะไรเหรอค่ะ ^ ^ ”เซเลน่าก็หันมาพูดกับนรินทร์ด้วยรอยยิ้ม

     “ทำไม ต้นไม้ข้างๆ ถึงดูหดหู่กันจังล่ะ”นรินทร์ถามเซเลน่า

     “เอ๋ สังเกตด้วยเหรอค่ะ ^^ แฮะๆ”เซเลน่าตอบพลางหัวเราะแห้งๆ

     “ตอบมาเร็วๆเหอะน่า” นรินทร์เร่ง

     “เห่อ” เซเลน่าถอนหายใจครั้งนึงก่อนจะพูดต่อ”นรินทร์ นายรู้ไหม”

     “หืม”

     “เหล่าต้นไม้ที่ยมโลกหนะ จะสามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้ชัดเจนล่ะ”เซเลน่าพูดแต่ก็หันหน้ากลับไปมองข้างหน้าเหมือนจะหลบหน้านรินทร์

     “เรื่องนั้นไม่บอกฉันก็รู้น่า ฉันไม่ได้โง่นะ”นรินทร์ตอบเซเลน่า

     “แล้วเหตุผลที่เป็นแบบนั้น ก็คือ “เซเลน่าพูดพลางหันหน้ามามองนรินทร์แล้วยิ้มให้”^^ เค้าคงกำลังรอใครบางคนที่สำคัญมากๆของพวกเค้ากลับมาล่ะมั้งค่ะ ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ก็เหอะ”พูดเสร็จเซเลน่าก็หันกลับไป

     จากนั้นบรรยากาศก็กลับมา มาคุ อีกแล้ว..................’อะไรเนี่ยพิมพ์เองโวยเอง’ไรเตอร์คิด

     “อ่าว เหรอ” นรินทร์เมื่อได้ยินดังนั้นก็รู้ทันทีว่าตนพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดเข้าให้แล้ว” เอ่อ เซเลน่า..ขอโทษนะ ”นรินทร์พูดพลางก้มหน้าพลางคิด’เอ๋ รู้สึกมันขัดๆกันอยู่นะ อืมไว้ค่อยถามอาจารย์ก็แล้วกันอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นดีกว่า เคลียของเราก่อนๆ “แล้วนรินทร์สะบัดหัวไล่ความคิดของตน

 

     “โหว (*0*) ขอโทษเป็นด้วยเหรอค่ะ” เซเลน่าพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยอย่างเห็นได้ชัด

     “ เงียบหน่า เซเลน่า”นรินทร์พูดแต่หน้าก็แดงนิดนึง

     ‘ เริ่มเปิดใจแล้วสินะ’ เซเลน่าคิดพลางยิ้มแล้วหัวเราะคิกคัก

     “ หืม หัวเราะอะไรของเธอหน่ะ หนอย”เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ นรินทร์ก็พูดขึ้น พลางหน้าก็แดงถึงใบหู

     “ ไม่รู้สิค่ะ ฮ่าๆๆ^^”

ในระหว่างที่ทั้ง 2 พูดกันอย่างเพลิดเพลินนั้น ทั้ง 2 ก็ได้เดินมาถึงประตูบ้าน แล้วเซเลน่ากับนรินทร์ก็เข้าบ้าน

     “ตึก”ทันทีที่เซเลน่าเปิดประตู

     “อ้าว!! คุณหนู เซเลน่าของป้ากลับมาแล้วเหรอเจ้าค่ะ^^”ก็มีแม่บ้านคนหนึ่งวิ่งเข้ามากอดเซเลน่าทันที

= = นรินทร์ทำหน้าเอ๋อ

     “กลับดึกจังนะค่ะ แหมเปียกหมดแล้วดูสิไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ มานี่ๆเลยค่ะ ”แม่บ้านที่กอดเซเลน่าก็ลากเซเลน่าเข้าบ้าน

     “ทางนี้ค่ะๆ คุณหนู”ต่อมาก็มี เมดสาว 5 คน เดินเข้ามาแล้วมาลากตัวคุณหนูของพวกเขาไป โดยที่ไม่สนใจนรินทร์เลยสักนิด

     “= = เอิ่ม” นรินทร์เริ่มส่งเสียงนิดนึง

     “อ๋อ นี่คุณหนูพาใครเข้าบ้านด้วยเหรอเจ้าค่ะ แหม ขอประทานโทษทีนะค่ะ พอดีดิฉันไม่ทันสังเกต ^^ เจ้าค่ะ” แม่บ้านคนแรกที่วิ่งเข้ามากอดเซเลน่านั้นก็ได้เดินกลับมารับแขก(ป้านา)

     “ งั้นเหรอครับ 55 ^^ คุณป้า!!เนี่ยมีอารมณ์ขันจังเลยนะครับ ^^ “นรินทร์พูดโต้กลับไปโดยเน้นคำว่าป้า

     “ไม่ขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะ ^^* ”คุณป้าพูดพลางยิ้มแต่คิ้วก็กระตุกเล็กน้อย

     “ เอ่อ คือ ผมไม่ต้องการอาบน้ำก่อนนะครับ ผมอยาก..”นรินทร์พูดยังไม่ทันจบก็โดนแทรก

     “ไม่ได้ถามเจ้าค่ะ”ป้านาพูด

     “^^ ผมต้องการพบพญายมหน่อยครับ” นรินทร์พูดต่อโดยไม่สนใจคำพูดของแม่บ้าน

     “อ๋อก็ได้เจ้าค่ะ เชิญทางนี้เลยเจ้าค่ะ ฉันก็ไม่อยากพูดกับท่านนานหรอกเจ้าค่ะ”ป้านาพูดพลางเชิญนรินทร์เข้าบ้าน ‘เอ๋ ทำไมเราถึงรู้สึกไม่ถูกชะตากับชายคนนี้ล่ะปกติเราไม่ทำแบบนี้หนิ’ป้านาคิดสงสัยตนเอง

     “ อ่าครับ ^^ งั้นก็รีบพาผมไปสิครับ”นรินทร์ตอบกลับป้านาไปแบบปกติเพราะนรินทร์ก็เจอมาเยอะแล้วแบบนี้

      จากนั้นป้านาก็พานรินทร์เข้าบ้านไป ไปพบกับพญายม ระหว่างทางไปห้องโถงพญายม นรินทร์ก็หันมองไปรอบๆภายในคฤหาสน์ ภายในคฤหาสน์นี้มีห้องมากมาย ทั้งห้องน้ำ ห้องครัว ซึ่งจะแบ่งเป็นแถบๆไป แถบห้องนอนต่างๆ แถบห้องวิจัย รักษาความปลอดภัยต่างๆมากมาย ซึ่งคฤหาสน์นี้ใหญ่มาก พื้นห้องก็ถูกปูไปด้วยพื้นกระเบื่องสีน้ำตาล ระหว่างทางก็มีหลอดไฟติดให้ความสว่างอยู่เต็มไปหมด นรินทร์มองเพลินไปได้สักพัก ก็ไปเจอของดีเข้า...

     ‘ เอ๋นั่นมัน...!?'นรินทร์หยุดเดินแล้วมองไปยังสิ่งๆนั้น

     'รูปยัยเซเลน่าเหรอ.. แล้วอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คงเป็น พ่อ(พญายม)กับแม่สินะ’นรินทร์คิด

     ‘ยัยนี่เหมือนแม่จังเลยแฮะ’ นรินทร์ยืนมองรูปแล้วแววตาของนรินทร์ก็เปลี่ยนไปทำให้บรรยากาศรอบข้างอบอุ่น เป็นมิตรอย่างบอกไม่ถูก 'เป็นครอบครัวที่ดีจังเลยนะยัยนั่น ^^'

     “เอ่อ... นี่คือ รูปคุณหนูเซเลน่ากับครอบครัวท่านค่ะ ผู้ชายนั้นคือ ท่านพญายมสมชายค่ะ ส่วนผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆอีกคนนั้นชื่อ ท่านซีเลีย ค่ะเป็นแม่ของคุณหนู”ป้านาหันมาพูดกับนรินทร์อย่างอ่อนโยน ' เอ๋?' ป้านาสงสัยตนเองเล็กน้อยที่อยู่ดีๆอารมณ์ตนก็แปลเปลี่ยนเอาดื้อๆ

     “แต่ว่า ท่านซีเลียนั้นได้เสียไปเมื่อ 10ปีก่อน ตั้งแต่คุณหนูอายุ 8 ขวบแล้วล่ะค่ะ หลังจากตอนนั้นคุณหนูก็ไม่เคยหลั่งน้ำตาแห่งความโศกเศร้าจริงๆอีกเลยล่ะเจ้าค่ะ”ป้านาเผลอพูดเรื่องเศร้าๆให้นรินทร์ฟังพลางสงสัย’เอ๋ ทำไมนะ เมื่อกี้ เรายังรังเกียจชายคนนี้อยู่เลยหนิ ทำไมอยุ่ดีๆ เราถึงรู้สึกว่าชายคนนี้เป็นคนดีที่น่าไว้ใจมาก เป็นมิตร...เขาเป็นคนยังไงกันแน่ - -’

     “ งั้นเหรอครับ เธอเป็นเด็กที่เข้มแข็ง อ่อนโยน และเอาใจใส่ผู้อื่นนะครับ”นรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน 'ทำไมป้าคนนี้ อยู่ดีๆก็เป็นมิตรเฉยเลยฟระ? พิลึกคน?'นรินทร์คิด

     “เจ้าค่ะ”ป้านาตอบ

     “งั้น เอ่อ ช่วยพาผมไปพบท่านพญายมไวๆหน่อยครับ มีหลายเรื่องที่ผมอยากถามเค้าหน่อยครับ ^^ “นรินทร์พูดเร่งป้านา

     “ อ๊ะ เอ่อ เจ้าค่ะ”ป้านาตอบ แล้วป้านาก็พานรินทร์เดินไปห้องพญายมต่อ

................ไม่นานนักก็ถึงห้องพญายม...................

     ห้องพญายม ประตูห้องเป็นประตูบานใหญ่ดั่งที่บอกไปในตอนที่ 2ครับ พอมาถึง ป้านาก็เดินจากไปทันที โดยทิ้งคำพูดไว้ให้นรินทร์ว่า “พ่อหนุ่มเชิญเข้าไปได้เลยนะจ๊ะ ^^” เหมือนคำพูดของป้านาจะเริ่มเป็นคำพูดที่ดูสนิทสนมขึ้น

     'หยึย'แต่ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่คนเค้าอุส่าสนิทด้วยแต่นรินทร์กลับขนลุกขึ้นมาซะงั้น 'ป้าคนนี้เป็นอะไรมากป่าวเนี่ย 0 0'นรินทร์คิดแบบนี้ได้สักพัก แต่ก็ปลง

     ' ชั่งมันเหอะ แต่ก็ดีนะ ^^ นึกว่ามีแต่คุณน้าคนเดียวซะอีกที่เป็นแบบนี้'นรินทร์คิดและเริ่มยิ้มขึ้นมา รอยยิ้มนั้นเหมือนเด็กน้อยที่ได้รับของรางวัลจากผู้ใหญ่ แต่ความรู้สึกนี้ก็อยู่ได้ไม่นานก่อนที่นรินทร์จะเริ่มกลับมาคิดสิ่งที่ตนต้องทำ

     และในตอนนี้นรินทร์ยืนอยู่หน้าประตูห้องโถงพญายม พร้อมคำถามมากมายของเขาก็ผุดขึ้นเต็มหัวไปหมด

     "เอาหล่ะ ฮืบบ!! หูว ตึง ตึง ตึง" นรินทร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วผ่อนออกพลางเคาะประตูอันเบ้อเร่อ

     “แอ๊ด !!! / ฟุบ!!” จากนั้นประตูห้องก็เปิดออกเองอัตโนมัติพร้อมของบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ก็ได้พุ่งออกมาเหมือนจรวด

     "หืม = = นั่นมัน เย้ย!!" นรินทร์ตกใจเล็กน้อย

     ด้วยประสบการณ์ของการเป็นนักเลงวัยเด็กของนรินทร์

     "ตูม!!!" นรินทร์ก็ได้ใช้มือทั้งสองข้างของเขายื่นออกมารับของสิ่งนั้นไว้ทันท่วงที ร่างกายของนรินทร์กระเด็นกลับหลังเล็กน้อยแต่ก็หยุดท่อนไผ่ยักษ์ไว้ได้อยู่หมัด

     "หืม - - นี่มัน!" นรินทร์พูดแล้วมองไปยังสิ่งของที่อยู่ข้างหน้าตน

     ของสิ่งนั้นเป็นไม้ไผ่ท่อนหนึ่งขนาดยาวประมาณ 2 เมตร เส้นผ่านสูญกลางประมาณ 50 เซนติเมตร

     “ ไอ้พญากร๊วกเอ้ย !!! -*-”นรินทร์ตะโกน

 

 .................................................................................................

ห่างหายกันไปตั้งนาน เหอะๆๆ ขอโทษครับ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา