NR & The Suspiria's School นรินทร์กับโรงเรียนยมทูต

6.5

เขียนโดย AmakusaKanade

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.42 น.

  4 ตอน
  3 วิจารณ์
  9,706 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557 22.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ได้เวลาสนุกแล้วสิ....งั้นเหรอ!!?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 

 
ตอนที่2   ได้เวลาสนุกแล้วสิ....งั้นเหรอ!!?
 
 
 
 
 
.........................ณ ยมโลก………………………………………….
 
 
 
       ถ้าจะให้พูดถึงโลกวิญญาณที่ซึ่งเต็มไปด้วยยมทูตและวิญญาณต่างๆมากมายพวกคุณคิดถึงอะไรครับ
 
สำหรับผมแล้วคงไม่อยากเชื่อแน่ๆว่าที่ยมโลกนั้นไม่ค่อยต่างอะไรกับโลกมนุษย์เลยจริงๆ มีตึกมีบ้าน และป่าต่างๆ รายล้อมอยู่มากมายมีสัตว์ต่างๆนาๆชนิดวิญญาณทุกๆชนิดต้องกินต้องดื่มกันอย่างปกติเพียงแต่ว่า.................มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ต่างจากโลกมนุษย์ นั่นก็คือความตาย.................................
 
การตายนั้นสำหรับยมโลกแล้วมันไม่ใช่แค่การที่สิ่งๆนึงไม่หายใจไม่กระดุกกระดิก .............................แต่การตายของโลกนี้นั้นมันคือการสูญสลายและลาจากกันชั่วนิรันดร์
 
      และที่นั่นก็ได้มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งซึ่งได้ถูกปกครองโดยพญามัจจุราช.........ที่ตอนนี้
 
”เห้อ..!!”........กำลังเอามือขวาเท้าคางแล้วนั่งไขว้ขาเข้าด้วยกันนั่งอยู่ที่ห้องโถงของพญามัจจุราชพร้อมถอนหายใจหนักๆ
 
“เห้อ!!  น่าเบื่อจังเลย นัทจัง มีอะไรให้คลายเบื่อบ้างอ๊ะ!!!” เสียงทุ้มๆของชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่บนแท่นสวมชุดคลุมสีดำยาวปกปิดร่างกายอันแข็งแกร่งของเขาได้อย่างมิดชิด กำลังโวยวายอยู่ในห้องเต็มไปด้วยพรมสีดำมีตะเกียงไฟวางรอบข้างทางเดิน และทางเดินก็ได้ถูกปูด้วยพรมสีแดงดูแล้วช่างสง่างามยิ่งนัก
 
“หืม….!? ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะเจ้าค่ะ ท่านพยายมทูตสมชาย” เสียงเด็กหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ มานัท ลอว์เดอร์ รูปร่างสูงน้อยอย่างเด็กอายุ 7 ขวบผมสีน้ำเงินเข้มของเธอยาวถึงกลางหลังแต่ถูกมัดรวมกันจนกลายเป็นทรงทวินเทล กำลังพูดกับท่านพญามัจจุราชที่มีนามว่า'สมชาย'อยู่
 
“ก็มันน่าเบื่อนี่นา......... นัทจัง เด็กที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยน่าสนใจสักนิ๊ดวันๆฉันก็เอาแต่นั่ง แล้วปั้มเอกสารกลางอากาศต่างๆนาๆพญามัจจุราชที่ไหนมันจะทำแบบนี้ตลอดเวลาได้บ้างล่ะครับ!!! (ก็ที่นี่ไง)เบื่อจะแย่อยู่แล้ว~...นี่ยังไม่นับ....@&^$&*” พญามัจจุราชสมชายบ่นยาวเหยียดอย่างกับคนขี้บ่น จนมานัทรู้สึกหงุดหงิดตะหงิดๆขึ้นมายังไงอย่างงั้น
 
 
 
แต่แล้วขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังคุยกันอย่างเบื่อหน่าย ก็เกิดเรื่องขึ้น.............
 
“ผลั๊ก ....!?ตุ๊ป !?” เสียงเปิดประตูอย่างรีบร้อนของชายแก่คนหนึ่งใส่ชุดคลุมสีดำยาวมีดวงตาสีแดง ได้ผลักประตูเข้ามายังในห้องของพญามัจจุราชด้วยสีหน้ารีบร้อนหอบหิกๆๆ
 
“ท่านพญายมสมชายคร๊าบบบ !!แฮะๆๆ”ชายแก่ผู้ผลักประตูมาได้พูดแล้วหอบแหกๆอยู่หน้าประตู
 
“มีอะไรเหรอเจ้าค่ะ ท่านผู้ตรวจการ”มานัทเป็นผู้เอ่ยขึ้นถามด้วยความสงสัยแต่ก็ยังทำสีหน้าเบื่อๆอยู่ดี
 
“คือว่า.... แฮะๆๆ..... นักเรียนเซเลน่าอาธิส....แฮะๆๆๆ....ที่ได้ไปทำภารกิจแรกเก็บดวงวิญญาณที่โลกมนุษย์...แฮะๆๆ ....กลับมาแล้วขอรับ ...แฮะๆๆ” ชายแก่พูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก(ภารกิจแรกที่โลกมนุษย์)
 
“อ๋อ....งั้นเหรออออออออ...”ท่านพญายมทูตสมชายก็ยังนั่งไขว้ขาอยู่ที่เก้าอี้บนแท่น เอามือเท้าคางแล้วพูดลากเสียงยาวแสดงถึงความเบื่อหน่ายได้เป็นอย่างดี
 
“แต่ว่า......”ท่านผู้ตรวจการยังพูดไม่ทันจบ
 
“ขวับ.....!!!!” พลันร่างของหญิงสาวที่โผล่มากับการเทเลพอร์ตก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าแท่นของพญามัจจุราช
 
“เซเลน่า อาธิส รายงานตัวค้า....!? คลาส SS รหัสประจำตัวคือ SN123 ค่ะ ” ทันทีที่ร่างของเธอปรากฎอยู่ต่อหน้าพญายมเธอก็เอ่ยขึ้นพร้อมด้วยท่าทางที่ดีใจยิ่ง
 
“อ๋อ งั้นเหรอออออออออออ”และพญามัจจุราชก็พูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ ลากยาวเป็นหางว่าว
 
(‘ ‘) มานัทก็ได้แต่ยืนทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่อย่างนั้น
 
(0 0) มีเพียงท่านผู้ตรวจการแก่คนหนึ่งเท่านั้นที่ยืนอึ้งเงียบอยู่อย่างนั้นพลางคิด’นี่เธอยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ’
 
“ฮิฮิ วันนี้ดิฉันได้นำพาดวงวิญญาณ ของนายนรินทร์ มาดูเอล ตามคำบัญชาของท่านพญามัจจุราชเรียบร้อยแล้วค่ะ” เซเลน่าไม่รอช้ารีบพูดเข้าเรื่องทันที
 
“อ๋องั้นเหรออออออออ..... หา....!? เธอว่าไงนะ นักเรียนเซเลน่า” พญามัจจุราชเปลี่ยนจากสีหน้าเบื่อหน่ายเป็นสีหน้าตื่นตระหนกทันใด
 
“ ฮิฮิ ใช่แล้วค้า ท่านพญายมฉันได้ทำภารกิจนำพาดวงวิญญาณได้สำมาเร็จแบบง่ายดาย โดยที่พวกติลก็ยังไม่โผล่มายุ่งด้วยสักกะนิ๊ดเลยค่ะ คาดว่าคงกลัวพลังดิฉันจนหัวหดเลยเป็นแน่ค่ะหึหึหึ”เซเลน่าพูดด้วยสีหน้ามั่นใจพร้อมแสยะยิ้มใส่ท่านพญามัจจุราช
 
‘อย่างเซเลน่าหนะเหรอ ทำภารกิจได้สำเร็จโดยไม่เกิดเรื่องหนะเอาจริงดิ๊!!?’ไม่รู้ทำไมเหมือนกันพญามัจจุราชกับผู้พิทักษ์พญามัจจุราชมานัทสงสัยเหมือนกันด้วยสีหน้าไม่สู้ดีพร้อมเหงื่อแตกพล่าน
 
 และแล้ว.....“ซะ... ซะ..... เซเลน่าทำภารกิจสำเร็จโดยไม่มีความวุ่นวายกรี๊ดดดด!!!!! เป็นลม” มานัทผู้ยืนเบื่อหน่ายก็ได้เปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นสีหน้าหวาดกลัวราวกับจะเกิดภัยพิบัตอันรุนแรงขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงตะโกนดังไปทั่วห้องโถงของพญามัจจุราช เล่นเอาทุกๆคนที่อยู่ในห้องต้องอุดหูเลยทีเดียว
 
“ปีด....ปีด...ปีด...!!!” แต่ความตกใจยังไม่พอแค่นั้นเสียงสัญญาณเตือนภัยก็ยังดังขึ้นไปทั่วคฤหาสน์ของพญายมพร้อมผู้คนที่ทำงานอยู่ในคฤหาสน์ก็รีบมาที่ห้องโถงของพญามัจจุราชราวกับว่า จะมีอุกกาบาตตกใส่ในโลกยมทูตยังไงยังงั้น
 
“ท่านพญายม/มัจจุราช/สมชาย มีอะไรเกิดขึ้นหรือ ขอรับ/ครับ/ค่ะ/เจ้าค่ะ/” พลันเสียงของผู้คนก็เริ่มดังขึ้นถามด้วยความสงสัยทันใด
 
“อะอะ เอ๊ ท่านพญายมทูตค่ะ เกิดอะไรขึ้นค่ะ ทำไมถึงได้วุ่นวายอย่างนี้ล่ะค่ะ” เซเลน่าถามขึ้นด้วยความสงสัยพลางมองไปซ้ายทีขวาทีอย่างร้อนรน
 
“ทุกคน เงียบบบบบ!!? “ ทันทีที่พญายมทูตลุกขึ้นพร้อมตะโกนเสียงดังทุกๆคนก็เงียบตามคำพูดของพญายมอย่างเคร่งครัดราวกับสัตว์เลี้ยงที่เชื่องๆ
 
“ อะแฮ่ม!!! "พญายมกระแอมนิดนึง ก่อนจะอ้าปากพูดต่อ
 
"..."
 
“เอาหล่ะ ทุกๆท่านครับ ฟังให้ดีนะครับ!!! โปรดเช็คสภาพดินฟ้าอากาศแล้วทุกๆอย่างในคฤหาสน์และโรงเรียนยมทูตสมศรีด้วยต้องตรวจให้ละเอียดยิ๊บเลยนะทุกคน วันนี้อาจจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นก็เป็นได้นะ!!! “ พญายมพูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างสุดๆ
 
นั่นทำให้มีคนต่างๆ กระซิบนู่นนี่มากมาย
 
“มันเกิดไรขึ้นล่ะเนี่ย? ทำไมกันล่ะ? ......เสียงผู้คนบ่นดังขึ้นเรื่อยๆ”
 
“เอ่อ.......ท่านพญามัจจุราชค่ะ.....มันเกิดอะไรขึ้นกันเหรอค่ะ???“ เซเลน่าเมื่อได้ยินคำสั่งดังกล่าวก็ตกใจแล้วยกมือถามขึ้นด้วยความสงสัยทันทีและทันทีที่เธอถามทุกๆคนในห้องนั้นก็เงียบลง
 
“หึ!!? นี่เธอยังไม่รู้เหรอ!!! ต้นเหตุมันก็เพราะเธอนั่นแหละยัยนักเรียนบ้า!!?”ท่านพญามัจจุราชตะคอกใส่นักเรียนสาวเซเลน่า
 
“อ่าวหนู.......หนูบ้าเหรอค่ะ”เซเลน่าถามด้วยสีหน้างงๆพลางคิด’เราทำอะไรผิดล่ะเนี่ย T T’
 
“ หึ!!!! ผมเชื่อว่าหลายท่านคงจะสงสัยเช่นกันนะครับ"พญายมพูดพลางกวาดสายตาไปทั่วห้องโถง
 
"งั้นผมขอบอกไว้นะตรงนี้เลยนะครับ!! ขอให้ทุกๆท่านตั้งใจ!และเตรียมใจฟังให้ดีๆล่ะ!!”พญามัจจุราชผู้ซึ่งพูดเสียงเรียบๆแต่ดังกังวานชวนสยองนิดๆเมื่อประกอบกับท่าทางและสีหน้าอันจริงจังของพญายม และผู้พิทักษ์พญายมมานัท ที่ทุกๆคนพึ่งสังเกตเห็นว่า นอนเป็นลมอยู่ข้างๆ พญามัจจุราชลุกขึ้น เอามือซ้ายท้าวเอวพลางหยิบหน้ากากสีขาวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานด้วยมือขวามาสวมใส่แสดงให้เห็นว่าท่านจริงจังมากแค่ไหน
 
“คระอึบ!!!......” ผู้คนที่กำลังตั้งใจฟังอยู่นับ100คนกลืนน้ำลายพร้อมกันและตั้งใจฟัง พร้อมบรรยากาศตอนนี้ที่เงียบและตึงเครียดมาก
 
พญามัจจุราชไม่รีรออะไรมาก พลันเอ่ยขึ้น “นักเรียนหญิงแห่งโรงเรียนยมทูตสมศรี เซเลน่า อาธิส..................."
     "...กระอึ้บ..!" เหล่าคนในห้องโถงกลืนน้ำลายพร้อมกัน
     "บัดนี้ได้ทำภารกิจนำดวงวิญญาณที่โลกมนุษย์ มาส่งข้าได้สำเร็จโดยง่ายดาย..”ยมทูตพูดพลางหันหน้าไปด้านข้างหลบหน้าฝูงชนในห้องโถง
 
สิ้นเสียงของท่านพญามัจจุราชน้ำตาแห่งความปราบปลื้มของท่านพญามัจจุราชก็ได้ไหลรินย้อยลงมาจากหน้ากากของเขา ทุกคนในห้องต่างตื่นตระหนกเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายขึ้น
 
“คุณหนูเซเลน่า ทำได้แล้วสินะ T T ฮือออออออออออออ!!!” บ้างก็ร้องไห้ด้วยความปลามปลิ้ม
 
“เอ๋.....................”(‘ ‘) เซเลน่ายืนงง?
 
“มหาภัยพิบัติ!!!!! ต้องเกิดมหาภัยพิบัติแน่ๆทุกๆคนรีบประจำตำแหน่งแล้วตรวจสอบอย่างเคร่งครัดเร็วเข้า!!!”บ้างก็ตื่นตระหนกและเร่งรีบตรวจสอบสิ่งรอบข้าง
 
“เอ๋....................?”(‘ ‘)
 
“ไม่นะ!! ไม่จริงใช่มั้ย!! คุณหนูทำภารกิจได้งั้นเหรอ!!โลกนี้ต้องถึงกาลอวสานแล้ว ทุกอย่างมันจบลงแล้ว!!” บ้างก็นั่งคุกเข่าลงกอดเข่า แล้วสลด
 
“เอ๋.....................?”(‘ ‘)
 
“เย้!!! คุณหนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ คุณหนูเติบโตแล้ว!! วันนี้ต้องฉลอง เฮ้!!!!”บ้างก็ดีใจกันยกใหญ่
 
“เอ๋??????????????????????????????????????” (‘ ‘)มีแต่เพียงหญิงสาวคนนึงที่ยืนงงพร้อมหน้าแดงแป๊ดขึ้นเรื่อยๆเขาไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ เซเลน่านั่นเอง.......................>///< “ทุกคน”เซเลน่าเริ่มหงุดหงิดเล็กๆน้อยๆ
 
และแล้วเมื่อเธอเริ่มทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของพ่อเธอและทุกๆคนในคฤหาสน์
 
“เงียบ.....นะ....ค๊า......!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เซเลน่าตะโกนขึ้นสุดเสียงแล้วในเสียงของเธอนั้นเธอก็แฝงพลังเวทย์ขยายเสียงเข้าไปด้วยทำให้เสียงของเธอดังก้องกังวาลไปทั่วห้องโถง
 
.......................................................................................................
 
“........................เงียบกริบ...................” ทุกๆคนที่ได้ยินเสียงของคุณหนูเซเลน่าต่างก็เงียบและหยุดการกระทำต่างๆ
 
ที่ทุกๆคนจัดเต็มแบบนี้นั่นก็เพราะว่าแผนการแสดงความยินดีกับคุณหนูเซเลน่าลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านพญายมทูตนั้น ทุกๆคนต่างช่วยกันคิดขึ้นมาโดยแกนนำความคิดทั้งหมดนั้นก็คือท่านพญายมทูตผู้เป็นพ่อของเธอนั่นแหละ แผนการนี้คิดมานานตั้งแต่คุณหนูเซเลน่าเริ่มได้คลาส SS เมื่อ10 ปีที่แล้วแต่แล้วแผนการนี้นั้นก็ไม่ได้ถูกใช้มานานหลายปีเพราะว่าคุณหนูเซเลน่านั้นเป็นบุคคลที่ซุ่มซ่ามสุดๆ เลยไม่เคยทำภารกิจสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียวทั้งภารกิจ จับวิญญาณสัตว์ร้ายเอย ดูแลสวนผักชาวบ้านเอยต่างๆนาและนี่ก็เป็นภารกิจที่100ของเธอ ซึ่งเป็นภารกิจแรกที่เธอทำสำเร็จและก็เป็นภารกิจแรกที่เธอได้ออกไปที่โลกมนุษย์
 
“คุณพ่อค่ะ.... หนูทนไม่ไหวแล้วนะค่ะ!! กะอีแค่ภารกิจระดับ 1 ดาวเนี่ยหนูทำสำเร็จอย่างง่ายดาย ทำไมต้องทำท่าทางตกใจกันซะเวอร์ขนาดนี้ล่ะค่ะ ทุกๆคนก็เหมือนกันค่ะ ทำไมต้องแกล้งทำมุขของพ่อให้อลังกาลล้านแปดด้วยล่ะค่ะ” เซเลน่ารู้ทันและดุทุกๆคนในคฤหาสน์อย่างไม่บันยะบันยังเลย....
 
เสร็จก็หันหน้าขวับไปยังหญิงสาวผู้ที่สลบอยู่นะตอนนี้ “คุณก็เหมือนกันค่ะคุณมานัท ไม่ต้องมาแกล้งหลับ ทีเรื่องไร้สาระแบบนี้ทำไมไม่รู้จักตักเตือนคุณพ่อบ้างค่ะ รู้ทั้งรู้ว่าคุณพ่อหนูเพี้ยนแค่ไหน ก็ยังจะตามใจท่านอีกนะค่ะ!!”…………….. ไม่มีไครแย้งเซเลน่าสักคนแม้แต่ผู้ที่เป็นพ่อของเธอ(พญามัจจุราชหรือพญายมทูตอ่ะแหละ)ก็ยังเงียบพร้อมถอดหน้ากากแล้วยิ้มแป้น ทุกๆคนก็เช่นกัน
 
“เห้อ...!?” เมื่อเห็นท่าทีที่ทุกๆคนเงียบเหมือนกำลังสำนึกผิด(แต่สีหน้ายิ้มแย้มเนี่ยนะ!?) เซเลน่าก็ถอนหายใจหนักๆ1ครั้งก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “คราวนี้แค่นี้ก่อนแล้วกันนะค่ะ หนูเองก็ไม่ใช่พวกขี้บ่นด้วย!!!”
 
‘เหรอออออออออออออออ..!!’ ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ทุกๆคนก็ดันคิดแบบเดียวในใจพร้อมๆกันซะอย่างนั้น
 
“เอาหล่ะ!!! พอแค่นี้ก็แล้วกัน"พญายมเอ่ยขึ้น
 
"เอ่อ...แล้วไหนล่ะดวงวิญญาณที่จะเอามาส่งพ่อ”พญายมพูดขึ้นพลางยื่มมือขวาและแบบมือขอดวงวิญญาณ
 
“อ๋อ.... นี่ค่ะ ^^ “ เซเลน่าพูดพลางยื่นมือขวาออกไปข้างหน้าแล้วแบบมือ ไฟดวงวิญญาณสีขาวก็ลอยอยู่บนมือเธอ
 
“ อะเอ่อ ท่านพญามัจจุราชครับ เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่ง!!!"เสียงของชายแก่ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น เพราะถ้าพญายมปั้มตรายมทูตเสร็จภารกิจให้ ดวงวิญญาณดวงนี้ก็จะถูกส่งไปพิพากษาตามปกติไม่มีทางดึงดวงวิญญาณนี้กลับมาได้เลยนั่นเอง
 
     พญามัจจุราชเมื่อได้ยินเสียงของชายแก่ก็หันหน้าไปมองแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีอะไรงั้นเหรอ ท่านผู้ตรวจการ ^^”
 
“เอ่อคือว่า ผมสงสัยอะไรอย่างนึงนะครับ” ชายแก่พูดพลางหันไปทางเซเลน่าที่กำลังจะยื่นดวงวิญญาณให้พญามัจจุราช “ก่อนที่ท่านจะปั้มตราลงบนวิญญาณนั้น ผมขอถามชื่อของดวงวิญญาณนั้นหน่อย...จะได้ไหมครับ”
 
“แหม!! ก็ไม่เห็นต้องถามหนิค่ะ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าชื่อ นรินทร์ มาดูเอล ไงล่ะค่ะ”เซเลน่าพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจนิดๆ
 
     (‘ ‘) แต่แล้วทันทีที่ได้ยินชื่อ พญามัจจุราชก็อึ้งเพราะทีแรกก็ไม่ทันสังเกตว่าชื่ออะไรรู้แค่ว่าลูกสาวของตนนั้นได้ทำภารกิจได้สำเร็จก็พอ แต่พอได้ยินชัดๆก็ถึงกับอึ้งเลย  
 
"……………………………………." ทุกคนในห้องโถงตอนนี้ก็เงียบกริบ
 
“เอ่อ เซเลน่าจ๊ะ (0 0)” เสียงของมานัท พูดออกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉียบ
 
“มีอะไรเหรอค่ะ” เซเลน่าถามด้วยความงงงวย
 
“เธอลองเอาสมุดนักเรียนของเธอมาดูสิ เนื้อหาพร้อมเงื่อนไขของภารกิจมันปรากฏอยู่ในนั้นหนะ”
 
      ทันทีที่เซเลน่าได้ยินเธอก็รีบเก็บดวงวิญญาณเข้าไปในตัวของเธอ แล้วเธอก็หยิบสมุดนักเรียนออกมาจากกระเป๋าเสื้อพลันมือของเธอก็เปิดสมุดประจำตัวนักเรียนเล่มเล็กๆสีดำทันที แล้วเธอก็อ่านเนื้อหาภารกิจให้ทุกๆคนได้ยิน........................
 
ภารกิจ ระดับ 1 ดาว
 
คุณสมบัติ คลาส D ขึ้นไป
 
ชื่อภารกิจ นำดวงวิญญาณมาให้ พญามัจจุราช
 
เงื่อนไขการทำภารกิจ ให้ไปที่ประเทศไทย จังหวัดกรุงเทพมหานครแล้วนำดวงวิญญาณของ
 
'นินรา สุขบรรเจิด'  มาให้พญามัจจุราช
 
'นั่นไง !!! 0 0' นี่ก็ไม่รู้ทำไมอีกเหมือนกันแต่ทุกๆคนในห้องโถงยกเว้นเซเลน่าได้โวยวายในใจเหมือนกันเด๊ะ
......................ทุกคนสตั้น 10วินาที..................
 
     บรรยากาศเงียบพร้อมสีหน้าทุกคนที่นิ่งซีดไปหมดทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งพญายม
 
“แฮะๆๆ แหมๆๆ หนูรู้แล้วล่ะค่ะ^^"  เซเลน่าพูดพร้อม(แอ๊บ)เสียงน่ารัก
 
"หนู่คงเผลอไปหน่อยเลยนำมาผิดคนซะได้นะค่ะ แฮะๆๆ ^^” เซเลน่าพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมเอามือขวาเกาหัวพลางหัวเราะแห้งๆ
 
"....................." ทุกๆคนก็ได้แต่ยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น
 
 
 
“วูบ…..!!” ทันใดนั้นก็มีสิ่งๆหนึ่งปรากฎขึ้นตรงหน้าเซเลน่าที่ตอนนี้กำลังยิ้มยืนเกาหัวอยู่
 
     เป็นร่างชายร่างสูงใหญ่ที่ปิดหน้าปิดตาด้วยผ้าพันแผล (ก็ไม่รู้ว่าหายใจได้ยังใง)ในชุดคลุมสีดำยาวพร้อมใส่หมวกสีดำทึบให้ความรู้สึกลึกลับชอบกล
 
และทันทีที่่ชายคนนั้นปรากฎตัวตรงหน้าทุกคน
 
“ผู้จัดห้อง…!!!?อุ๊ป” เซเลน่าเผลอตะโกนซะเสียงดังพร้อมใบหน้าที่ตกใจพร้อมเอามือปิดปาก
 
“นับว่าเป็นวันที่ดีจริงๆเลยนะครับ^^ คุณหนู เซเลน่า อาธิส “ผู้จัดห้องพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มละไมอย่างเป็นมิตร
 
“งั้นเหรอค่ะ แฮะๆๆ”เซเลน่าที่ยืนยิ้มเกาหัวอยู่ก็เปลี่ยนมาเป็นสีหน้าแห้งๆซีดนิดๆพลางเอามือที่เกาหัวอยู่ลงมาแนบลำตัวตอบพร้อมยิ้มแห้งๆ
 
“คุณรู้สาเหตุที่ผู้จัดห้องอย่างผมต้องมาที่นี่ไหมครับ ^^ คุณ....หนู”ผู้จัดห้องพูดด้วยท่าทางเป็นมิตร
 
      และ ณ บัดนี้ในห้องโถงของพญายมก็ได้เต็มไปด้วยสีหน้าของทุกๆคนที่ซีดบ้าง เวทนาบ้าง(?)แสดงถึงความเป็นห่วงคุณหนูผู้ร่าเริงของตน
 
“กระอึก!!?”ทุกๆคนในห้องโถงตอนนี้ได้กลืนน้ำลายดังอึก เพราะว่าอยู่ดีๆบรรยากาศก็เริ่มตรึงเครียดจริงๆซะงั้น
 
     แต่แล้วบรรยากาศนั้นก็ได้ถูกทำลายลงนั่นก็เพราะว่า
 
“คงไม่นะค่ะ.... คุณผู้จัดการห้อง...... ทำไมถึงถามหนูแบบนั้นล่ะค่ะ” เซเลน่าพูดพลางเก๊กใบหน้าให้น่าสงสารโดยบีบน้ำตาให้ออกมาเล็กน้อยแล้วนั่งลงพับเพียบ ดูแล้วน่ารัก(เอ้ย)น่าสงสารไปอีกแบบ
 
“เอิ่ม/อั๊ยย๊ะ.................= = ?” เล่นซะทุกๆคนในห้องโถงถึงกับอึ้งพูดไม่ออกไปเลย
 
“หนูยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะค่ะ! ทำไมคุณผู้จัดการห้องถึงมาเยือนที่นี่ล่ะค่ะหรือว่าจะมากลั่นแกล้งหนูหรือค่ะ โถ่ว!!!“ เซเลน่าพูดพลางบีบน้ำตาออกมาแล้วเอามือน้อยๆของเธอทั้ง2ข้างปิดปากแล้วพูดต่อไป “ไม่นะค่ะ หนูเป็นแค่สาวน้อยตาม่วงๆ(?)คนนึงนะค่ะทำไมท่านผู้จัดการห้องถึงได้ทำแบบนี้ล่ะค่ะ”เซเลน่าพูดพลางสายหัวเล็กน้อย พลางเอามือปาดน้ำตาที่ตนเองบีบออกมาอย่างนุ่มนวลโดยที่ฝ่ายผู้จัดการห้องนั้นไม่สามารถพูดแทรกได้แม้แต่นิดเดียว
 
“โธ่เอ๋ย หนูทำอะไรผิดไปค่ะ ทำไม?.........โชคชะตาต้องเล่นตลกกับสาวน้อยผู้มีร่างกายอันบอบบางอย่างฉันด้วยล่ะค่ะ ฮืออๆT T”
 
“เอิ่ม.................?"
‘คุณหนู.........ของพวกเรา............คงถอดแบบมาจากพ่อเธอแหงมๆ’เหล่าผู้คนที่อยู่ในห้องโถงทุกคนยกเว้นผู้จัดการห้องได้คิดเหมือนกันเด๊ะ!!หนำซ้ำก็หันหน้าขวับ!!ไปทางผู้เป็นพ่อของเธออย่างพร้อมเพรียงกันอีก
 
     พญามัจจุราชที่รู้สึกตัวว่าตนโดนจ้องก็ทำท่าทางเอามือเกาหัวพร้อมสีหน้าที่เริ่มแดงทีล่ะนิดราวกับว่า ทุกๆคนที่จ้องเขากำลังชื่นชมยกยอในตัวเขาอยู่ ’เขินจัง’ คือสิ่งที่พญามัจจุราชคิด
 
“อะแฮ่ม!!? คุณหนูครับ ^^” ผู้จัดการห้องพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างเป็นมิตร
 
“ค่ะ!?” T T เซเลน่าก็ได้แสดงละครน้ำเน่าของเธอต่อไป
 
“ตอบไม่ตรงคำถามเลยนะครับ^^ แต่ก็เอาเถอะครับ....ตามกฎยมทูต ผู้ใดที่ทำภารกิจพลาดมา 100 ครั้งติดต่อกันจะต้องโดนลงโทษขั้นร้ายแรงให้ย้ายไปอยู่ในระดับ E ระดับเด็กต่ำพิเศษนะครับ ^^ วงเล็บไม่มีการขัดขืนและไม่ถือสิทธิ์ว่าใครใหญ่นะครับ^^ทุกคน(วิญญาณรึป่าว ?)ต้องเท่าเทียม”
 
“งั้นหรือค่ะ ฮึ ฮึ” เซเลน่า พูดขึ้นพลางบีบน้ำตาออกมาอีกระลอก
 
“หึ!!นั่นสินะค่ะ คงสมควรแล้วล่ะค่ะ………………...ก็ฉันมันเป็นคนแบบนี้หนิค่ะ T T………. ฉันผิดเองที่ไม่สามารถ………...ทำภารกิจให้สำเร็จจริงๆได้สักทีสินะค่ะฮือออๆๆ“ เซเลน่าพูดพลางแกล้งร้องไห้เพื่อให้ผู้จัดการห้องเห็นใจ
 
     แต่แล้วผู้จัดการห้องก็หาได้สนใจไม่
 
“แหมๆคุณหนูเนี่ยะ ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย ^^” ผู้จัดการห้องพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรพลางแบมือแล้วยื่นมือไปข้างหน้าพลางแสงสว่างบนมือก็เกิดขึ้นเล็กน้อย
 
“แต่ว่า”ทันทีที่แสงสว่างขึ้นสมุดประจำตัวนักเรียนที่อยู่ในมือของเซเลน่าก็ได้ลอยตัวขึ้นแล้วกลายเป็นแสงแล้วเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นสมุดสีขาวลายแถบดำทันที แล้วสมุดก็หล่นลงมาลงบนมือเซเลน่า
 
“ตุบ!!!?”
 
“ยังไงซะ กฎก็คือกฎนะครับ คุณหนู ^^”
 
"........."ทุกๆคนในห้องโถงก็ถึงกับอึ้งเงียบกันเล็กน้อยรวมถึงเซเลน่าก็ด้วย เพราะผู้จัดการห้องคนนี้เด็ดขาดจริงๆ
 
“แหม!ดิฉันอุส่าเล่นละครซะขนาดนี้แล้วน่ะค่ะเนี่ย ยังไม่ใจอ่อนอีก สมแล้วล่ะค่ะที่เป็นผู้จัดการห้อง เก่งจริงๆ ^^”เซเลน่าได้เก็บสมุดประจำตัวเล่นใหม่ของเธอไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมพลางเอามืออันน้อยๆของเธอปาดน้ำตาพลางลุกขึ้นมายืนในท่าทางสง่างามพร้อมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอช่วยให้บรรยากาศตึงเครียดเมื่อกี้ได้หายไปจนหมด
 
‘อึ้ง.!!!........อั๊ยย๊า/แหม!!! คุณหนูของพวกเราเนี่ย ชั่งสุดยอดจริงๆเลยเน๊อะ ฮิฮิฮิฮ่าๆๆ!!’และก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คนในห้องโถงนี้ก็ยังคงคิดเหมือนกันเปี๊ยบแต่ก็ได้ปั้นใบหน้าเงียบขรึมไว้ ยกเว้นผู้จัดการห้องที่ตอนนี้ก็ยังยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
 
“^^ก็ไม่นึกเลยนะครับว่าคนแรกที่ได้อยู่คลาส E จะเป็นคุณหนูผู้เป็นลูกสาวของพญายมนะครับเนี่ย ^^”ผู้จัดการห้องพูดขึ้น
 
“แฮะๆงั้นสิทธิพิเศษต่างๆ ของคลาส SS นั้น คุณหนูก็จะถูกริบคืนนะครับ”นี่ก็คือคำพูดของผู้จัดการห้องเช่นกัน
 
“ค่ะ”^^ เซเลน่าพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
 
“ อ่าครับ ^^ หมดธุระแล้วงั้นผมก็ขอตัวก่อนนะครับรายละเอียดอยู่ในสมุดประจำตัวเล่นใหม่ของคุณหนูนะครับขอให้สนุกกับการเรียนที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กๆน้อยๆนะครับ ^^ ” สิ้นเสียงผู้จัดการห้องพูดก็มีรังสีออร่าสีดำได้ปกคลุมร่างกายของผู้จัดการห้องไว้แล้วผู้จัดการห้องก็ได้กลายเป็นแสงสีดำหายวูบไปในพริบตา
 
     แต่แล้วเซเลน่าก็ยังยืนยิ้มอยู่ดี ^^
 
     เหล่าผู้คนในห้องโถงต่างก็ดีอกดีใจและปราบปรื้มในตัวคุณหนูของเขาที่ไม่งอแงตามปกติเลยแม้แต่น้อย
 
“ว๊ายยยคุณหนูค๊า คุณหนูของฉัน!!!!?” เสียงของแม่บ้านคนหนึ่งวิ่งมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมยิ้มแป้นเพื่อจะมากอดคุณหนูของเธอที่ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ามกลางทุกๆคนที่ยืนมองด้วยสีหน้ายินดีที่คุณหนูของพวกเขาได้โตขึ้นเช่นกัน
 
     แต่แล้วก็ในขณะเดียวกันที่แม่บ้านคนนั้นจะกอดคุณหนู คุณหนูก็ได้เข้าไปกอดแม่บ้านก่อนพร้อม...........
 
“T T ฮืออออ ป้านาค่ะ หนูจะต้องสูญเสียสิทธิพิเศษไปทั้งหมดเลยอ่ะค่ะ แง้!!!แล้วขนม เตียงนอนนุ่มๆ เครื่องดนตรีต่างๆรวมไปถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆล่ะค่ะ ฮือออออT T หนูไม่ยอมอ่ะป้านาหนูไม่ย้อมมมม T T ฮือออออ!!!!......แล้วไหนจะ......&%$^&%$”งอแงแบบไม่บันยะบันยังเลย
 
“แง๊ะ!!!!!”เล่นเอาทุกคนในห้องถึงกับเงิบกันไปเลยทีเดียว
 
‘อะไรเนี่ย!!!วันนี้มันวันเงิ๊บแห่งชาติรึไงกัน!! ’ทุกๆคนก็คิดเหมือนกันอีกแล้วพลางตะลึงเล็กๆน้อยๆ(คิดเหมือนกันเยอะหลายครั้งไปแล้ว)
 
‘…แต่ก็ชั่งเถอะ!!'ทุกๆคนปลงพลางคิด
 
'ก็สมกับเป้นคุณหนูดีเนอะ ฮ่าๆๆ’นี่คือสิ่งที่ทุกๆคนที่อยู่ในห้องโถงคิดในตอนนี้ด้วยอารมณ์ขำขันและสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
 
“ ฮือออออออ! ป้านาค่ะ T T ” คุณหนูผู้ที่กำลังกอดแม่บ้านอยู่นั้นเมื่อเห็นแม่บ้านยืนนิ่งอยู่ก็พูดขึ้นพลางร้องไห้ต่อไปและกอดแม่บ้านแน่นขึ้น
 
“ โอ๋ๆๆ คุณหนูของดิฉัน แหมๆ อดทนได้ดีมากๆค่ะไม่ต้องร้องนะค่ะไม่เป็นไรหรอกค่ะ^ ^”แม่บ้านที่พึ่งรู้สึกตัวได้ว่าคุณหนูต้องการคนปลอบก็ได้พูดขึ้นพลางเอามือขวาลูบหัวของเซเลน่า พร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน
 
“จริงเหรอค่ะป้านา หนูอดทนได้ดีใช่ไหมค่ะ ฮือ.. อึก... ฮือ.. อึก..” เซเลน่าเริ่มคลายกอดแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับแม่บ้านและสะอึกไปด้วย
 
“ใช่แล้วค่ะคุณหนูคนเก่งของป้า” ทันทีที่เซเลน่าเงยหน้ามามองแม่บ้านแม่บ้านก็ได้ลดมือที่ลูบหัวคุณหนูของเธอลง แล้วใช้มือข้างนั้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบาท่ามกลางทุกๆสายตานับร้อยที่มองดูคุณหนูด้วยความเอ็นดู
 
“ขอบคุณนะค่ะคุณป้า T T หนูดีใจที่สุดเลยค่ะที่ได้รู้จักป้า ^^ ขอบคุณมากๆนะค่ะ” เซเลน่าพูดเสร็จก็เริ่มยิ้มอย่างสดใสขึ้นมา
 
‘ก็เอาเถอะ ถึงลูกสาวคนนี้ของฉันจะเป็นคนที่ซุ่มซ่ามและชอบนำปัญหามาให้อยู่เรื่อยๆก็เถอะแต่ว่า…’พญายมหยุดคิดนิดนึงแล้วเริ่มหันไปมองเหล่าผู้คนหลายคนที่จับจ้องคุณหนูอยู่ โดยทุกๆคนที่มองคุณหนูนั้นได้ยิ้มหน้าบานกันทุกคนเลยทีเดียว
 
‘แต่ว่ายังไงซะ คงมีแต่ลูกคนนี้เท่านั้นแหละที่คอยเติมแต้มสีสันคฤหาสน์หลังนี้ที่ครั้งนึงเคยเงียบเหงามาก่อนล่ะนะ ชั่งเหมือนเธอซะจริงๆนะ ซีเลีย’ พญายมทูตนึกพลางสายตาของท่านพญายมก็ออกแววเศร้านิดนึงแต่แล้วก็กลับมาเป็นปกติ และก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาด้วยความจริงใจโดยที่ตนไม่รู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มนั้นชั่งอบอุ่นและเต็มไปด้วยความภูมิใจในตัวลูกสาวของตนทำเอาผู้พิทักษ์พญายม มานัท ที่ไม่ค่อยจะแสดงสีหน้าออกมาเท่าไหร่นั้น ยิ้มตามไปเลย เป็นเหตุการณ์ที่อบอุ่นจริงๆถึงจะเป็นแค่เวลาไม่กี่วินาทีที่ทุกๆคนยิ้มก็เถอะแต่มันก็ได้เติมเต็มความสุข และสิ่งที่ขาดหายไปของคฤหาสน์หลังนี้ได้หน่ะนะ
 
      ทุกๆคนได้ยิ้มอย่างอบอุ่นอยู่ครู่หนึ่ง........
 
.........แล้วทุกๆสิ่งก็ได้พังทลายลงเพราะคำพูดของผู้ตรวจสอบชายแก่คนนึง
 
“แล้วทีนี้พวกเราจะเอายังไงกับวิญญาณหนุ่มผู้โชคร้ายคนนี้ดีล่ะครับ ท่านพญายม”
 
‘เอ่อนั่นสิ เกือบลืมวิญญาณของหนุ่มคนนี้ไปแหนะเอ............!?’พญายมทูตครุ่นคิดพลางเอามือเท้าคาง “อื่มจะเอาไปใส่กลับร่างเดิมก็ไม่ได้...................อื่มมมม = = ………………”พญายมครุ่นคิดพลางขมวดคิ้ว
 
“อ้อ!!!!!” พญายมเผลออุทานซะเสียงดัง
 
“หึหึ!! ฉันรู้แล้ว ดีเลยได้ของเล่นคลายเบื่อด้วย ฮิฮิถ้าสำนวนของมนุษย์คงจะเป็นยิงปืนนัดเดียวได้นก2ตัวสินะฮึฮึ”พญายมพูดพลางแสยะยิ้ม แล้วหันไปมองหน้าชายแก่ผู้ตรวจสอบและดูเหมือนว่าชายผู้ตรวจสอบนั้นจะมีความคิดเหมือนพญายมพอมองหน้าพญายมปั๊ปก็ได้พูดกับเซเลน่าปุ๊ปเลย
 
“คุณหนูเซเลน่าครับ ถ้าจำไม่ผิดคลาส E หนะมีแต่คุณหนูสินะครับ” ชายแก่พูดด้วยเสียงเรียบ
 
“ใช่ค่ะ ท่านผู้ตรวจสอบ “เซเลน่าพูดตอบพลางก้มหน้า
 
“แล้วถ้าหากมีผู้อื่นไปเรียนเป็นเพื่อนคุณหนูล่ะครับ คุณหนูจะว่าอะไรไหมครับ” ชายแก่พูดด้วยพลางแสยะยิ้มพร้อมดวงตาที่ลุกลี้ลุกลนแสดงถึงความตื่นเต้นและความอยากสนุก
 
“จริงเหรอค่ะ แหมถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีนะค่ะ ^^ หนูไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”และทันทีที่คุณหนูเซเลน่าตอบด้วยความเต็มใจนั้นชายแก่ก็หันไปสบตากับพญายมทันทีพลางแสยะยิ้มชวนสยองกันทั้ง2ฝ่ายและดูเหมือนว่าทุกๆคนในห้องโถงนั้นก็คิดออกว่าทั้ง2คนคิดยังใงเหมือนกัน....
 
     และดูเหมือนว่าทุกๆคนก็เห็นดีเห็นงามด้วยเช่นกัน
 
‘ได้เวลาสนุกแล้วสิ’ ทุกคนในห้องโถงได้คิดพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมายกันอีกครั้งพลางยิ้มสยองๆนิดๆ
 
     เว้นไว้แต่เพียงคุณหนูผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่ากำลังจะมีเรื่องสนุก(งั้นเหรอ)
เกิดขึ้น................................................
 
“ทุกคนเป็นอะไรกันค่ะเนี่ย ?”
 
’อ่าว งง’
 
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
แก้แล้วนะครับ ผมอ่านดูแล้วงงๆเช่นกันเลยแก้นิดๆหน่อยๆครับ ^^
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา