NR & The Suspiria's School นรินทร์กับโรงเรียนยมทูต

6.5

เขียนโดย AmakusaKanade

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.42 น.

  4 ตอน
  3 วิจารณ์
  9,586 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557 22.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ไม่รู้อิโหน่อิเหน่.....งั้นเหรอ!!!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        .....  ตอนที่1 ไม่รู้อิโหน่อิเหน่!!! งั้นเหรอ!!

 

 

 

    ..........ณ บ้านเมืองอันสงบสุข เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งก้อสร้าง ตึกระฟ้าอาคารบ้านช่อง ผู้คนสัญจรไปสัญจรมา มีพ่อค้าแม่ค้า มากหน้าหลายตา กำลังขายของกันอย่างปกติ

          "ผักมั้ยจ๊า ผักสดๆร้อนๆเลยจร้า!!!"แม่ค้าสาวสวยวัย18ปี รูปร่างผอมเรียวสวย ผมสีทองยาวถึงกลางหลังถูกมัดรวมเป็นทรงหางม้า ดวงตาสีฟ้าที่จับจ้องไปที่ผู้คนมากมายพร้อมรอยยิ้มอันสดใส ปากสีชมพูของเธอได้อ้าและตะโกนขายผักอย่างขยันขันแข็งท่ามกลางผู้คนที่เดิน ผ่านไปมา

          "อิ๊ๆ กินผักอย่างเดียว มันไม่อร่อยหรอกน๊าา มาซื้อเนื้อร้านพี่มั้ยแจ๊!!!"

"วันนี้ ลด20เปอร์เซ็นต์เลยนะแจ๊ !!!" เสียพ่อค้าหนุ่มวัย18 ปี ท่าทางโรคจิต ผมยาวรุงรัง มีหนวดเครายาวเทอะทะ  ก็กำลังเรียกลูกค้า พร้อมแซวแม่ค้าขายผักที่อยู่ร้านตรงข้ามร้านขายเนื้อของเขาอย่างสบายอารมณ์

          "หนอย....!!! ไอ้กร๊วกเอ้ย!!! จะมาแซวพี่ตูเหรอฟะ!! จะเอาเหรอไง!!" หนุ่มน้อยที่คาดว่าน่าจะเป็นน้องชายของแม่ค้าขายผักกำลังโวยวายใหญ่ ด้วยสีหน้าที่โกรธ 'แต่น่ารัก' เพราะหน้าตาน่ารักราวกับเด็กอายุ 12 ปี ผมสีน้ำตาลปนดำๆ ดวงตาสีเขียว พร้อมโครงหน้าที่สวยคล้ายผู้หญิง

          "แหมๆ ไม่เป็นไรหรอกนะจ๊ะ เอลวิน" แม้ค้าสาวพูดพร้อมเอามือลูบหัวน้องชายผู้น่ารักของเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้ม อย่างเป็นมิตร "คิดซะว่าพวก หมู หมา กา ไก่ แถวนี้มันร้องหาอาหารนะจ๊ะ น้องรัก" แม้ค้าสาวพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสวยงามราวกับเทพธิดา แต่คำพูดนั้นโหดร้ายราวกับซาตาน "ฮะพี่ชิลล์" เอลวินตอบด้วยใบหน้าฉีกยิ้มให้เห็นฟันสีขาวเรียงสวยโดยมีเขี้ยว2เขี้ยวคล้าย แวมไพร์อยู่ด้วยแสดงถึงความชื่นชมและพอใจในตัวพี่สาวที่จิตใจยังงดงามเหมือนหน้าตาพี่(ในสายตาของเอลวิน)

          แต่ทว่า ไม่ใช่แค่เอลวินเท่านั้นที่คิดอย่างนั้น

          "อะเฮือก!!!?" ราวกับฝ้าผ่าลงมาอย่างรุนแรงใส่พ่อค้าหนุ่มนั่น 'โดนใจพี่' นี่คือสิ่งที่พ่อค้าหนุ่มคิดในตอนนี้ พร้อมกับหน้าตาที่แสยะยิ้มหื่นๆ แล้วพ่อค้าแม่ค้าก็ถกเถียงกันเล่นอยู่อย่างนั้นไป

 .......จนเวลาก็ผ่านไป ประมาณ 10 นาที....

           พ่อค้าหนุ่มก็กำลังยิ้มไม่หุบหลังจากได้ฟังคำด่าของแม่ค้าสาวสวยไม่ว่าจะเป็น "หน้าหื่นเอย บ้ากามเอย น่าหยะแหยงเอย" เหตุผลง่ายสั้นๆเพราะว่า "โดนใจพี่"   

          และแล้วทั้งฝั่งแม่ค้าและพ่อค้า ก็ต้องรู้สึกแปลกๆเมื่อหันไปเห็นผู้คนที่อยู่นอกเมืองที่ดูเหมือนเริ่มเอะอะโวยวายแล้วเริ่มหายไปทีละนิดๆ 

ที่พ่อค้าและแม่ค้าเห็นเพราะสถานที่ที่พวกเขาขายของเป็น ตัวเมืองชั้นในซึ่งจะมีพื้นที่สูงกว่ามากขึ้นเรื่อยๆจากนอกเมืองมาในเมืองเหมือนภูเขาเลยเห็นชัดเจนและที่ที่3คนนั้นอยู่ก็เป็นทางถนนเดินใหญ่ด้วย เรียกว่าที่ทำเลดีๆก็ว่าได้

“เฮ้ย!!! เอะอะโวยวายเอะอะโวยวาย”

“พวกเอ็งทำอะไรว่ะ”

“ก็ฉันกำลังเอะอะโวยวายไง”

"อ่าวเร๊อะ บทพวกข้ามีแค่นี้สินะ"

“ใช่ๆ บทน้อยๆอยู่ตั้งใจเล่นหน่อยดิ ฉันกำลังเอะอะโวยวายอยู่น๊า”

" เอาหว่ะ ฉันด้วย ฉันเอะอะโวยวาย"

“ฉันก็กำลังเอะอะโวยวายเหมือนกันล่ะ”

“ผมก็เอะอะโวยวายเหมือนกันนะฮะ”เสียงผู้คนเริ่มเอะอะโวยวายกันใหญ่

"เกิด อะไรขึ้นหว่า ทำไมดูเหมือนคนที่อยู่นอกเมืองนี้ค่อยๆลดลงๆ เรื่อยๆแว๊ะ ?" พ่อค้าหนุ่มเอ่ยขึ้นดังๆโดยหวังตำตอบจากใครสักคนที่เดินผ่านไปมา ซึ่งแน่นอนว่าแม้ค้าสาวกับน้องชายของเธอก็อยากรู้เหมือนกัน

...... แต่แล้ว............................................................

"จะถามไรกันนักหนาเล่า!! ฉันก็เอะอะโวยวายไงโว้ยยยย!!"

เงิ้บ (‘ ‘) (‘ ‘) (‘ ‘).....

แต่แล้วพ่อค้าหนุ่มและแม่ค้าสาวก็หาได้สนใจไม่ พลางคิด

'เดี๋ยวเราเก็บข้าวของกลับดีกว่า รู้สึกสังหรใจไม่ดีชอบกลแหะ' พ่อค้าหนุ่มและแม่ค้าสาวคิดในใจเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย โดยจู่ๆเหล่าผู้คนก็เริ่มมาอัดแน่นทางผ่านร้านของพ่อค้าหนุ่ม และแม่ค้าสาว

         

...............................................

            'ว๊ากกก !!!? ขอโทษคร๊าบบบบ!! หลบไปครับ!! หลบไป๊!!! 'ชายหนุ่มผมดำตะโกนออกมาในขณะที่วิ่งมาด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง (..มั้ง) พร้อมกับผู้คนที่เดินไปมาตอนนี้ได้วิ่งหนีจากที่นั่นอย่างรวดเร็วราวกับซักซ้อมกันมาเนิ่นนานโดยมีเสียงบ่นเล็กน้อย 

     "ชิ!!! นริทร์อีกแล้วรึฟระ!!!เสียงผู้คนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความขุ่นเคือง 

     "ขุบๆขวับๆ"

     "หนอยเจ้าตัวยุ่งนั่น!!!"

     "ขวับๆขวุบๆ"

     "น่ารำคาญชะมัดโว๊ย!!"

     "ตุบๆ" เสียงผู้คนบ่นเสร็จพลางก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้น

 

................. "หู้ว!!~" เสียงสายลมพัดผ่านที่แห่งนั้น......

     ทางเดินเปิดโล่งในพริบตาภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาที  เว้นไว้แต่เพียงพ่อค้าแม่ค้า 3 คนที่ขายของอยู่แถวนั้น อย่าง งงๆ ??....  = = ? / = = ?/ = = ?

‘เอ๋ มันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ!?’ พ่อค้าหนุ่ม แม่ค้าสาวและน้องชายของเธอสงสัย

              "ขวับ!!!"  "โครมๆ !!!" "ฟู้ว !!!" 

     นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นแทนคำตอบทันทีที่ยืนงงอยู่ก็มีเด็กหนุ่มวิ่งมาอย่างเอาเป็นเอาตาย ตามด้วยหม้อ ตะหลิ่ว จวัก ที่ไม่รู้มาจากไหนตามมาด้วย ความเร็วและพลังทำลายนั้น อย่างกับลูกประทัดปิงปองเลยทีเดียว

          พริบตาที่ภาพชายหนุ่มวิ่งผ่านหน้าร้านพ่อค้าและแม่ค้าไปพร้อมเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นทันที "อ๊ะ ขอโทษนะครับ ^^อิอิ"

     จวัก หม้อ ตะหลิว และขยะต่างๆสารพัดได้พุ่งชนกับร้านของพวกเขาเล่นเอาทั้งร้านและข้าวของในร้านพลันล้มระเนระนาดไปกับพื้น โดยที่ไม่โดนชายหนุ่มที่วิ่งผ่านมาเลยสักนิ๊ด

     แถมยัง....ตามด้วย'ลูกไฟ'ที่มาซ้ำเติมร้านของพวกเขาอีกทีจนทั้งร้านทั้งข้าวของมลายหายสิ้นไปในพริบตา....ทิ้งไว้แต่อาหารชั้นเลิศที่ย่างได้กร๊อบกรอบ

   เหลือแต่ 3 ผู้โชคดี๊ดี ยืนอึ้งอ้าปากค้าง หน้าซีดเผือก ตาเหมือนจะถล่นออกมาพร้อมเพียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย.....  0.0!!! 0.0!!! 0.0!!!   

    ทั้ง 3 คนได้แต่ยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น...ไม่มีไครพูดอะไรและถามอะไรสักคำ เพราะสิ่งที่เห็นมันยากกว่าจะรับได้..........ละมั้ง

สิ่งที่พ่อค้าหนุ่มคิดในใจตอนนี้ คือ ‘เหอะๆๆ ดูสิ เนื้อของเราที่ขายไม่ค่อยออกตอนนี้ดันถูกย่างซะน่ากินเลยเนอะ มันน่าดีใจมั้ยล่ะเนี่ยหึหึ’ประชด

สิ่งที่แม่ค้าสาวคิดตอนนี้คือ ^^‘ขอให้คนที่พังร้านฉันตายบาดนะจ๊ะ^^’ สาปแช่งในใจ

(‘ ‘) ‘โห สุดยอดอ่ะเท่สุดๆเลยวุ้ยย !!!><’ มีเพียงหนุ่มน้อยผู้น่ารักไร้เดียงสาเท่านั้นที่คิดแบบนี้

     และแล้วพ่อค้าหนุ่มและแม่ค้าสาวก็เดินเข้าไปยังซอกตึกพร้อมๆกันโดยไม่ได้นัดหมาย

‘บรรยากาศไม่น่าให้แฮะ งั้นก็ตามๆน้ำไปล่ะกัน’หนุ่มน้อยคิดเสร็จก็เดินตามพวกผู้ใหญ่ไปในซอกตึก

แล้วทุกคนก็นั่งลงกอดเข่าราวกับเด็กน้อยขี้แย แล้วนั่งซึมอยู่ที่ตรงนั้น พลางคิดในใจพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมายอีกครั้ง

T T / T T 'หมดกัน' พ่อค้าหนุ่มและแม่ค้าสาวคิด

(‘ ‘) ‘เอ๋ ไม่ค่อยเข้าใจพวกผู้ใหญ่เลยแฮะ โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วยังทำแบบนี้อีก’หนุ่มน้อยคิดพลางแสยะยิ้มและส่งสายตาเวทนาพวกผู้ใหญ่รวมถึงพี่สาวของเขาด้วย

ทันทีที่หนุ่มน้อยส่งสายตาเวทนาไปสัก 3 วินาทีแม่ค้าสาวรู้สึกตัวทันก็เงยหน้าขึ้นมาทางเขาพร้อมส่งสายตาดุแต่ยังอยู่ในสีหน้ายิ้มแย้มราวกับจะบอกว่า ‘เหอะ เดี๋ยวโดนนะจ๊ะ^^’

‘เอ๋....1?’ หนุ่มน้อยผู้ไม่รู้เรื่องอะไรเอาซะเลยได้แต่โอดครวญในใจพร้อมนึกภาพการลงโทษของพี่สาว เล่นเอาหนุ่มน้อยขนลุกเลยทีเดียว

“ไม่นะ!! ผมทำอะไรผิดไปล่ะเนี่ย ใครรู้ช่วยบอกผมหน่อยเหอะ T T ฮือออๆ?” หนุ่มน้อยก็ได้แต่โอดครวญในใจพร้อมก้มหน้าลงชิดกับเข่าในท่านั่งกอดเข่าอยู่ในตอนนี้พร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินพร้อมตัวสั่นผับๆๆ ด้วยความหวาดกลัว

 

....ทางด้านชายหนุ่มผู้ที่วิ่งอย่างเหนื่อยๆหอบ แหกๆๆอยู่......

     "หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะว้อย !!!" "ขวับๆ" "ฟู่วๆ"   เสียงชายชราลำตัวอ้วนพลี(= = ?)ผู้ใส่ผ้ากันเปื้อนสีขาววิ่งมาพร้อมขว้าง ขยะ กระป๋องน้ำ จวัก ลูกไฟ และ อื่นๆ อีกมากมายที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนมาทางชายหนุ่มคนหนึ่ง อย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมหน้าตาที่แดงปิ๊ด แสดงถึงความโกรธเกรี๊ยวอย่างรุนแรง โดยไม่สนสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อยนอกจากชายหนุ่มผู้ที่กินแล้วไม่จ่ายที่ร้านของเขา

     "เย้ย!!! เกือบ...!!หยุดก็โง่สิครับ !!!!"ชายหนุ่มผู้กินไม่จ่ายพูดพลางหลบการโจมตีของอีกฝ่าย

'บ้างก็กระทะ บ้างก็หม้อแกง ทำไมไม่เอาถังแก๊สมาโยนใส่ตูเลยฟระ!!' ชายหนุ่มคิดในใจอย่างหัวเสีย

"ก็บอกแล้วใงล่ะครับ ว่าเดี๋ยวผมมาจ่าย อ๊ะ !!!" เด็กหนุ่มวิ่งหน้าตั้งด้วยฝีเท้าราวกับ ...ใส่เกียร์หมา(มั้ง) วิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายจนเส้นผมอันดกดำของหนุ่มนั่นชี้โด่ เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างกับกำลังแว๊นอยู่ในชุด เสื้อคอปกสีขาวแขนยาว กับกางเกงวอร์มสีดำยาวที่ไม่น่าจะเข้ากันเล๊ยย

          แถมยังใส่ซะเรียบร้อย ( ใส่เสื้อไว้ในกางเกง )

          "ไม่ฟังโว้ยยย!! ไอ้เด็กชอบแก้ตัวเอ้ย!! แบบนี้ต้องเอาให้เข็ดหลาบ!!" นั่นเป็นคำตอบที่ออกมาจากปากเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวพร้อมด้วย ลูกไฟ จวัก ต่างๆนาๆ อย่างต่อเนื่องไปตลอดทาง

          "เย้ยย!!!" "ฟุบ!!!"  ชายหนุ่มกระโดด หลบลูกไฟ กับ จวักที่พุ่งเข้ามา ราวกับลูกปืนใหญ่ที่พร้อมสอยเขาร่วงได้อย่างทันควัน พร้อมเบ้หน้า ล่อลิ้นใส่เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวอย่างหน้าหมั่นไส้ หน้าตื๊บให้เละ!!คาฝ่าเท้า

          "เพล้งๆ!!!" "ขวับๆ!!!" 

          "แบร่ๆ ไม่โดนหรอก!!"

"ไอ้ตาแก่โง่!!---งี้เง่า---ขี้งก!!--- อ้วนพลี!!---อีกหน่อยขอให้หัวล้านบ้านแป้วไปเลยนะเฟ้ย!!(เกี่ยวมั้ย) ฮ่าๆๆ!!!"คำด่าออกมาจากปากชายหนุ่มอย่างไม่บันยะบันยังเลยแม้แต่น้อย

     และนั่นทำเอาเจ้าของร้านขายก๋วนเตี๋ยวได้ยินประโยคดังกล่าวเต็ม2รูหู ทำให้เกิดรอยย่นที่หน้าผากทันที พร้อมความโกรธและจิตสังหารที่พุ่งสูงปรี๊ดดดดด....ดั่งภูเขาไฟประทุ!!!

          "งั้นเหรอ หึหึ!!! " สั้นๆแต่ให้ความรู้สึกสยองอีกแบบเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวพูดพลางแสยะยิ้มพร้อมกับความกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวชายแก่ ทำเอาชายหนุ่มถึงกับอยากจะอาเจียนออกมาเลยทีเดียว

......

          ตี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด....!!!!

  1. 7.00น.

     ......"ยะเฮ้ย !!!!"

     "ขวับๆ!! ครุบๆ!! ตุ๊บๆ!!.....โป๊กกกก โอ้ยยย ..........................แฮะ...แฮะ.. ฝันเหรอเนี่ย !?"

     "เจ็บชะมัดเลยวุ้ย!! ตกเตียงเลยหรอเนี่ย อู๊ยยยย.."  ชายหนุ่มผู้ที่พึ่งตื่นจากฝันกำลังลุกจากพื้นห้องนอนของตนอย่างตะกุกตะกักพร้อมเอามือกุมศรีษะที่กำลังปูดขึ้นมาเล็กน้อย

     "ฝันแปลกชะมัด อูยยย แถวยังเจ็บอีกต่างหาก" ชายหนุ่มบ่นเบาๆพร้อมหันหน้าไปมองนาฬิกา

     "7 โมงเช้าแล้วหรอ อาบน้ำดีกว่าแฮะ" พูดเสร็จชายหนุ่มก็ตรงไปที่ห้องน้ำพร้อมอาบน้ำ ทำธุระต่างๆนาๆ เพื่อไปโรงเรียน

         

.....30 นาทีผ่านไป

     "เห้ออออ !!!"เด็กหนุ่มเดินด้วยสีหน้าหมดแรงในขณะที่เดินไปโรงเรียนใกล้บ้านเขา

     'นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว แฮะๆๆ'

     'อ้อ!! ลืมไป เด็กหนุ่มที่ว่านั่นไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็ผมนี่แหละครับ ผมชื่อ นรินทร์ มาดูเอล เองครับ แฮะๆๆ เนื่องจากเมื่อเช้าพึ่งตื่นจากฝันบ้าบอคอแตก ที่ผมคาดว่าน่าจะเกิดขึ้น เพราะผมอ่าน การ์ตูน กับนิยายมากไปหน่อยมั้งฮะ วันนี้เป็นวันเปิดเรียนเทอม 2 ของ ม.6 ของผมนะครับ จะว่าไปผมก็ยังง่วงอยูเลยนะฮะเนี่ย' นรินทร์เอามือปิดปากแล้วหาวหนักๆ 1 ครั้ง

'จะว่าไป โรงเรียนเนี่ย!! คุณคิดว่ามันสนุกมั้ยครับ?'

ผมพูดในใจพลางเดินไปโรงเรียน ซึ่งบัดนี้เวลา 7.34 น.แล้ว

'สำหรับผม ผมคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่บ้าบอสิ้นดีครับ แต่มันก็ไม่ได้บ้าบอซะทุกอย่าง อย่างการเรียนผมก็ตั้งใจเรียนดี เพียงแต่แค่สังคมเท่านั้นที่ยังไงๆผมก็ไม่สามารถเข้ากับคนรอบข้างได้จริงๆสักที เอ๋ เดี๋ยว? จะว่าไปผมก็เคยเข้ากับคนอื่นได้นะครับ แล้วก็ได้เป็นเพื่อนสนิทด้วย’

     'รึว่าสังคมไม่ได้บ้าบอ แต่ผมต่างหากที่บ้าบอ? ....เอ่าเฮ้ย...แต่ยังใงก็ชั่งมันเหอะครับ'

............ ระหว่างที่ผมงุมงำมา ผมก็เดินมาถึงโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว

     และผมก็กำลังจะก้าวเท้าเข้าสู่เขตโรงเรียนแล้ว!!!

     ณ บัดนี้ผมก็พร้อมที่จะเข้าสู่โหมดนักเรียนเฟรนลี่แล้ว ผมปั้นใบหน้าที่ยิ้มแย้มแล้วทักทาย สวัสดีคุณครู และเพื่อนๆ ของผม ‘ถึงผมจะแค่แกล้งเป็นเพื่อนก็เถอะ'

'อ้อ!ครับ โรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ ณ ตอนนี้คือ โรงเรียนนานาชาติเชสโต้นะครับ ก็....เป็นโรงเรียนนานาชาติปกตินั่นแหละครับ ที่ผมเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ก็เพราะผมคิดว่า สังคมที่เต็มไปด้วยคนหลายสัญชาติเป็นสังคมที่แปลกดี และผมก็หวังว่าผมจะได้เข้าไปเรียนแล้วมีเพื่อนดีๆสัก 5-10 คน.....พูดคุยกัน...กินข้าวด้วยกัน....ทำรายงานด้วยกัน...นั่งเป็นกลุ่มๆ ประมาณนี้แฮะๆๆ'

     ผมเดินจึนถึงหน้าห้องเรียนแล้ว แล้วผมก็เดินเข้าไปในห้องเรียนเพื่อวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะ

    'แต่แล้วผมก็ต้องล้มเลิกความคิดอันโลกสวยนั่น นั่นก็เพราะ...ตั้งแต่วันแรกที่ผมได้เข้ามาในห้องเรียนนี้ ผมก็เห็นคนในห้องส่วนนึงที่ทำหน้าตาพร้อมท่าทางต่างๆสารพัดแสดงถึงความรังเกียจผม ที่สอบได้คะแนน อันดับ1 ของโรงเรียน เล่นเอาความคิดโลกสวยผมแตกสลายในพริบตาเหอะๆๆ' 

พอวางกระเป๋าเสร็จ ผมก็เดินไปรอเข้าแถวที่สนามหน้าโรงเรียนทันที เพราะผมก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ตรงไหนดี และอีกอย่างก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าแถวแล้วด้วย?

     แน่นอนว่าระหว่างทางผมก็ได้ทักทายเพื่อนๆ ทั้ง ชาย และ หญิง อย่างเป็นมิตรกับทุกๆคน ทุกคนก็ยิ้มให้ผม แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะผมรู้ว่าพวกนี้แค่ทำท่าทางเป็นมิตรเพราะต้องการป้องกันการโดนกลั่นแกล้ง และไม่อยากมีเรื่องกับคนที่สอบได้อันดับ1 และแถมยังมีข่าวว่าผมเป็นนักเลงเถื่อนที่เหี้ยมโหดที่สุดในโรงเรียนอีกด้วย.......ถึงอย่างนั้นผมก็คิดว่าในใจพวกนั้นอยากตื๊บผมให้เละ แหงมๆ' ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องจริงเพราะว่า

     "ชิ!! ไอ้นรินทร์ หน้าหมั่นไส้ชะมัด!! ทำท่าทางเป็นมิตรอยู่ได้!! อยากตื้บให้เละคา...ชิบหาย!!"เสียงดังแจวมาจากแถวข้างหลังผม ห่างออกไปราวๆ 5 เมตร แต่ผมก็ได้ยินชัดเปรี๊ยะ!!

     'เหอะๆ จะนินทาก็ขอให้นินทาเบาๆได้มั้ยฟระ น่ากลัวชะมัด T T โรงเรียนนี้ ทำไมไม่เห็นเหมือนในนิยายหรือการ์ตูนที่อ่านมาเลยฟระ และอีกอย่างวีรกรรมต่างๆที่ทำให้ได้ฉายานักเลงนั่นน่ะมันก็แค่ตอนผมยังเด็กเองนะเฮ้ย ชกต่อยตามประสาเด็กเองโว้ยยย ความจริงชั่งโหดร้ายเหลือเกิ๊น!!!'ผมได้แต่โวยวายอยู่ในใจ

แค่เดินไปที่สนามหน้าโรงเรียนพร้อมทักทายไปเรื่อยๆตามมารยาทก็กินเวลาไปตั้งเยอะจนตอนนี้ก็ปาเข้าไป 8โมงแล้ว

พอผมมาถึงสนามหน้าโรงเรียนก็.....

     "กริ๊งงงงงงงงงงงงง....!!!" เสียงออดก็ดังขึ้นถี่ยิบ

     "เอาล่ะ!! เจ้าพวกนักเรียนทั้งหลาย!!!! มาเข้าแถวได้แล้วอย่าเดินเอ้อระเหิดล่องลอยไปตามสายลมอยู่ น๊าาาาค๊าาาาา!!!!"  อาจารย์สาววัย 20 ปี หน้าตาโลลิ ตัวเล็กๆ ผมสีทองยาวถึงกลางหลัง ดวงตาสีแดง ในชุดเสื้อยืดแขนยาวใส่สบายสีฟ้า ตัดกับกระโปรงยาวสีชมพูกำลังพูดด้วยไมค์อยู่ที่หน้าเวทีตรงหน้าแถว ดูแล้วน่ารักมาก โดนใจพวกโลลิค่อน โดยเฉพาะ 'ผม' ที่มองแล้วเคลิ้มกับอาจารย์  (ฮิฮิ)

     'มีแค่คนนี้เท่านั้นที่คอยเติมกำลังใจผมอย่างล้นเหลือ ฮิฮิ' ผมนึกพร้อมทำหน้าฟิน

'ฮิ ฮิ๊......ณ จุดจุดนี้ ถ้ามีอุกาบาตหล่นใส่หัวผม แล้วผมตายคาที่ ผมก็ไม่เสียใจแล้ว หึหึ' (ผมไม่ได้ชอบแบบจริงๆจังๆนะครับ แค่ชื่นชอบเพราะมันน่ารักดีเท่านั้นเอง)

  และแล้วเวลาในการเข้าแถว ทำกิจกรรมหน้าเสาธงก็ได้เริ่มขึ้น ถึงจะเป็นโรงเรียนนานาชาติก็เหอะ

     .....และเมื่อเวลาแห่งการเข้าแถวผ่านไป...................

     ผมก็ได้เดินมาอยู่ในห้องเรียนเดิมๆ แล้วผมก็นั่งลงอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องสุด เพราะจะได้เรียนได้สะดวก 'เห้อ!!! ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมก็ไม่เป็นไรหรอก ชั่งหัวมัน 3 กิโล!! คือประโยคเดียวที่ผมช๊อบชอบ'

......................ในขณะที่ผมโวยวายในใจอาจารย์ก็ได้เข้ามาสอนคาบแรกแล้ว.....................

     จากนั้น เวลาเรียนเดิมๆก็ได้ผ่านพ้นไปอย่างปกติเหมือนเดิม แต่ว่าวันนี้ผมมีความรู้สึกว่าความเงียบสงบสุ๊ขสุข(?)ของผมกำลังจะจบลงแล้ว............................... ล่ะมั้งนะ!?......ไมเราคิดแบบนี้หว่า...?

      เมื่อเลิกเรียน ผมเดินกลับจากโรงเรียนแล้วมาถึงบ้านของผม ผมอาศัยอยู่คนเดียวเนื่องจาก พ่อกับแม่ได้เสียไปตั้งแต่ผมอายุ 7 ขวบ ส่วนตัวผมก็ไม่ได้เศร้าเสียใจอะไรมากหรอกครับ แต่ก็ยังเสียใจอยู่ดีนั่นแหละแต่แค่นิดส์ๆ(เติมS)อ่ะนะครับ หลังจากท่านเสียไปคุณน้าผมก็รับผมมาเลี้ยง แต่สุดท้าย ผมก็ขอแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวก่อนเพราะผมอยากใช้ชีวิตคนเดียวเหมือนใน การ์ตูนบางเรื่องบ้างเพราะว่า.......

.................. มันเท่ดีออกจะตายไป ไงล่ะครับ !!!

     บ้านของผมเป็นบ้าน ทำจากปูน แฮะๆๆก็บ้านจัดสรร ปกติ 2 ชั้นนั่นแหละครับ

'มีหลังคาด้วยนะเออ ^^' โดยที่ชั้น2 ห้องใกล้ระเบียงนั้น เป็นห้องนอนของผมเองครับ และห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น จะอยู่ชั้นล่างครับ   

    พอผมเดินมาถึงบ้าน ผมก็.................เข้าบ้าน จากนั้นก็.........ถอดรองเท้า............แล้วก็ถุงเท้าต่างๆ.........แล้ว ผมก็ทำธุระต่างๆ 

   เมื่อผมจัดการธุระอะไรต่างๆ ส่วนตัวในบ้านเสร็จ ผมก็อาบน้ำ เข้านอน ตามปกติ บัดนี้เวลา 22.00 น. พอดีเป๊ะครับ ผมก็ได้นอนลงบนเตียงนอนที่นุ่มนิ่มสีขาว  พร้อมเปิดดนตรีเบาๆกล่อมผมเข้านอนครับ

แล้วผมก็หลับไป zzZZ...

 

        

 

  และเมื่อ .........เวลา 0.03 น.

     "เห้อ!!! ถึงซะที ทีนี่สินะ แฮะๆๆ ฉันมารับดวงวิญญาณแล้วนะค๊า!! มารับดวงวิญญาณไม่ใช่ผู้อื่นใดที่ไหนหรอกค่ะ ก็'ยมทูต' นั่นแหละค๊าา^^ ฮิฮิ"

'คราวนี้จะได้ไม่โดน เพื่อนๆแกล้งเรื่องซุ่มซ่ามซะทีเหอะๆๆ ^^'  หญิงสาวในชุดนักเรียนสีขาวและใส่กางเกงนักเรียนสีดำยาว และทั้งยังมีเสื้อคลุมสีดำไว้ ถือเคียวสีดำอันใหญ่โตกว่าตัวของเธอ ใบเคียวยาวประมาณ 1.5 เมตร ก้านเคียวยาวประมาณ 2 เมตร กำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศพร้อมบ่นออกมาพร้อมหอบ หิกๆ ดวงตาสีม่วงทึบได้จับจ้องไปที่บ้าน 2 หลังที่รูปร่างเหมือนกันเด๊ะ!! พร้อมกับเส้นผมสีเงินของเธอที่ยาวเหยียดถึงเอวได้พัดผลิ้วไปตามสายลมยามรัตติกาล เธอจำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อมารับดวงวิญญาณ ที่อยู่ในบ้านจัดสรร แถวนี้โดยยมทูตสาวมีนามว่า

          "เซเลน่า อาธิส"  ฉายา จอมมหารั่ววงเล็บในบางเวลา

     "เอ......?" เซเลน่าลากเสียงยาวพร้อม ขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย

     "แล้วบ้าน 2 หลังนี้มันหลังไหนกันหว่า เหมือนกันเด๊ะเลยอ๊ะ !!!"

     "เอ.........?"ยมทูตสาวทำท่าครุ่นคิด โดยเอานิ้วชี้และนิ้วโป้งของมือขวาหนีบคางไว้ ในสภาพที่ตัวลอยอยู่กลางอากาศ

     "เอ......  นิน? .... นิน? ..... นินไรน๊า?.....รา?"

     "ติ๊ก!!" ยอมทูตสาวดีดนิ้ว 1 ครั้งเหมือนคิดอะไรออก (ชื่อ ของผู้ที่เธอจะมารับดวงวิญญาณนั่นเอง)

          "นาริน.....นรินทร์!!" เซเลน่าตะเผลอโกนออกมา และทันทีที่ตะโกนออกมาเธอก็รีบเอามือปิดปางของตน

     "อุ๊ป ใช่ๆ นรินทร์ นี่เอง แฮะๆๆ^^  แหมๆ... กว่าจะนึกออก ฮิฮิ" ยมทูตสาวเซเลน่าทำท่าทางดีใจใหญ่ที่คิดชื่อออก พร้อมสายตาสีม่วงของเธอที่จับจ้องไปยังป้ายชื่อ บ้านจัดสรรหลังที่อยู่ใกล้สุดกับเธอ 

     "นรินทร์ มาดูเอล" ยมทูตสาวยิ้มร่าพร้อมดีใจใหญ่ที่หาเป้าหมายเจอได้ทันที ทันใดนั้น....

     "เอ๊ะ?"

     "อื่มมมม นามสกุลไม่ใช่ 'สุขบรรเจิด' หรอกเหรอ?" ยมทูตสาวเซเลน่าเอะใจเล็กน้อยแต่ด้วยความดีใจที่จะทำงานเสร็จง่ายๆ เลยกลบความสงสัยนั้นของเธอ พร้อมสบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆนั่นออกไป

"เอา เถ๊อะ!!! นรินทร์ก็คือนรินทร์สินะค่ะ เราคงจำนามสกุลผิดล่ะมั้ง แฮะๆๆ น่าอายจังถึงจะไม่มีใครรู้ก็เถอะ^^" ยมทูตสาวเซเลน่าบ่นกับตนเอง พลางบุกบ้านผู้อื่นโดยถือวิสาสะ เทเลพอร์ต เอาดื้อๆ มาในบ้านจัดสรร 2 ชั้น

     เพียงแค่พริบตาเดียว ยมทูตสาวก็มาอยู่ในห้องของนรินทร์แล้ว "อิอิ งานแรกๆ เย้ๆๆ ^^ ง่ายดายซะเหลือเกิ๊น!! ไม่มีพวกตัวป่วนด้วย ฮิฮิ"หญิงสาวพูดพลางอมยิ้มพลางเดินเข้าใกล้เป้าหมายเพื่อหวังจะ 'เก็บดวงวิญญาณ' ไปตัดสินโทษ แต่ทว่า เมื่อเจอเป้าหมายเธอก็ต้องชะงัก!?

     "อ้าว!!? วิญญาณ ยังไม่ออกจากร่างงั้นเหรอ" เธอตะลึงเล็กน้อย ก่อนใบหน้าที่ตกใจของเธอจะหายไป และความหายนะของนรินทร์ หนุ่มน้อยผู้โชคดีจะเริ่มขึ้น

     "แหมๆ ไหนๆก็จะตายละ ฮิฮิ!! ^^ ขอกระชากวิญญาณกลับไปเร็วๆเลยแล้วกันนะค่ะ คุณนรินทร์ ^^" หญิงสาวคิดขึ้นมา พลางง้างเคียวในมือขึ้นสูงแล้ว ฟันลงที่เตียงของผู้ที่เธอคิดว่านั่นเป็นดวงวิญญาณที่ท่านพญามัจจุราช สั่งให้เธอมาเก็บและพาไปยังทางเดินที่ถูกต้องทันที

     "ควับ !!! ฟุ๊ปป !!!" พริบตาที่เคียวยมทูตอันใหญ่โตฟันเข้าที่ร่างของนรินทร์นั้น ดวงวิญญาณของนรินทร์ ก็หลุดออกจากร่างแล้วลอยออกมาเป็นดวงไฟเล็กอยู่ตรงหน้าเซเลน่าทันที โดยที่เจ้าของดวงวิญญาณไม่รู้เลยว่า ตนถูกยมทูตจอมเซ่อซ่า 'ดึงวิญญาณไปเสียแล้ว!!'

....ไม่มีรอยแผลในร่างกาย ไร้ร่องรอยการลงคมเขี้ยว ไร้เสียง สรุปคือไร้ร่องรอยใดๆทั้งสิ้น

     ทันทีที่ดวงวิญญาณหลุดออกมายมทูตสาวเซเลน่า ก็ได้เอามือไปสัมผัส จับดวงวิญญาณของนรินทร์ ที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เลยว่าตนถูกดึงวิญญาณไปเรียบร้อยแล้ว

     ทันทีที่จับได้ ดวงวิญญาณก็ได้เข้าไปอยู่ในตัวของเซเลน่าเรียบร้อยแล้ว เป็นการเก็บดวงวิญญาณขั้นพื้นฐานปกติ

    "ฮิฮิ๊ ไม่นึกเลยว่าจะง่ายดายขนาดนี้....ที่เหลือก็ เทเลพอ...อ๊ะ!!!" ยมทูตสาวคิดไม่ทันจบก็ยิ้มขึ้น

    "กลางคืนของที่โลกมนุษย์ สวยดีนี่นา………ไปเที่ยวบินชมเมืองสักหน่อยก่อนเทเลพอร์ตกลับสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรหนิเนอะ!! ^^"  เมื่อคิดดังนั้นยมทูตสาวเซเลน่า ก็เทเลพอร์ตออกจากบ้านอย่างเงียบงัน พร้อมทะยานร่าง หายไปในท้องฟ้าอันมืดมิด ทิ้งร่างอันไร้วิญญาณของชายหนุ่มนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงซะอย่างนั้น

          โดยที่เธอไม่ทันสังเกตเลยว่า บ้านจัดสรรหลังถัดไปนั้น มีป้ายเขียนชื่อของคนที่อยู่ที่นั่นว่า

     นินรา  สุขบรรเจิด    (0.0 โอ้ว....!!!)

--------------------------------------------------------------------------------

จบ ตอนที่ 1 นะครับ ^^ แฮะๆๆ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ พึ่งเขียนครั้งแรกครับ ยากอยู่พอสมควรแหะครับ แต่จะพยายามเขียนให้ดีที่สุดนะครับ จะวิจารณ์ก็ได้นะครับ ตามสบายๆ แฮะๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา