ภารกิจพิชิตหัวใจยัยเทพเจ้าแห่งดอกไม้

9.3

เขียนโดย khanom_thai

วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 04.35 น.

  16 ตอน
  36 วิจารณ์
  19.39K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter12

 

 "ข้าเป็นอะไรไป" เจ้าชายทีเฟียร์ลืมตาขึ้นมาแล้วมองหน้าฉัน

 "ก็เจ้าชายจะจูบกับยัยผีผมแดงนั่นน่ะสิ" ฉันหันไปทางผีผมแดงที่นอนอยู่ใต้น้ำแข็งอันงดงามของยูกิ อนนะเรียบร้อย

 "จูบหรอ" เจ้าชายทีเฟียร์หันไปมองผีผมแดงนั่น

 "ใช่จูบ" ฉันทวนคำให้เขาเข้าใจมากขึ้น

 "แหวะ ข้าคงไม่คิดไปจูบกับภูตผีชั้นตำแบบนั้นหรอกสยอง" เจ้าชายทีเฟียร์ยกมือขึ้นถูปากอย่างแรง

 "แต่ก็เกือบน๊า" ฉันพูดลอยๆออกมา

 "ป่ะข้าเราเดินทางต่อเถอะ" เจ้าชายทีเฟียร์ลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าพวกเราไป

 "แล้วเราจะไปไหนกันหรอ" ฉันลุกขึ้นแล้วเอ่ยถาม

 "ไปหากุหลาบสีเงินที่ถูกฝังอยู่ใต้น้ำแข็งล้านปีไง" สมายด์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางยิ้มๆ

 "จริงสิป่ะเราไปกัน" ฉันเดินตามเจ้าชายทีเฟียร์ไปพร้อมๆกับทุกคนทันที

  ตอนนี้เราทั้ง 8 ได้เดินทางมาถึงถ้ำ ถ้ำหนึ่งความเย็นที่แผ่ออกมาฉันรับประกันว่าติดลบแน่นอน เพราะมันเย็นยะเยือกจนถึงขั้วหัวใจ

 "ถึงแล้วทุกคน ข้าไม่รู้ว่าข้างในจะมีอะไรบ้างนะ ดังนี้พวกเจ้าต้องเตรียมพร้อมรับมือมันให้ดีๆ" เจ้าชายทีเฟียร์สั่งแล้วกำชับทุกคนไว้

 "แล้วกุหลาบนี่มันมีรูปร่างเป็นยังไงเจ้าพอจะรู้บ้างไหม" ฉันทำหน้าสงสัยแล้วถามเจ้าชายทีเฟียร์

 "ข้ารู้เพียงแค่ว่ามันจะอยู่ใต้น้ำแข็งล้านปีเท่านั้น" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเดินเข้าไปในถ้ำ

  ถำในตอนนี้มีเพียงความมืดสลัว แต่มันก็แฝงไปด้วยอันตราย ไอเย็นของน้ำแข็งเริ่มแผ่ออกมาเรื่อยๆ จนฉันอดที่จะคิดไม่ได้ว่าถ้าเราอยู่ที่นี่นานๆเราคงจะต้องกลายเป็นน้ำแข็งแน่ๆ พวกเราใช้เสื้อกันหนาวคลุมร่างเอาไว้จะยกเว้นเสียก็แต่ยูกิ อนนะที่ใส่สายเดี่ยวแล้วเดินสบายใจเฉิบ ฉันกวาดตามองรอบๆถ้ำ แล้วก็พบเจอกับอะไรบางอย่าง

 "กุหลาบ!!!!" ฉันเอ่ยร้องอย่างดีใจเมื่อมองเห็นกุหลาบดอกสวยต้นหนึ่งถูกไว้ในน้ำแข็ง

 "กุหลาบสีเงิน" เจ้าทีเฟียร์เอ่ยร้องเสียงหลงเป็นผลให้ทุกคนชะงัก

 "ให้ข้าจุดไฟไหม" คาไมทาจิตนที่สองเอ่ยถาม

 "เอาเลยสิ" สมายด์เป็นคนตอบ

 "เดี๋ยวข้าจุดให้" คาไมทาจิตนที่สามจุดไฟแล้วนำไปปักไว้ตามจุดต่างๆ

 "นี่น่ะหรอกุหลาบสีเงิน" เรเทลจ้องมองกุหลาบสีเงินใต้นั้นแข็งดอกนั้นด้วยแววตาชื่นชม

 "เราจะเอามันออกมายังไง" ยูกิ อนนะกอดอกถาม

 "แฟรงก์เกินสไตน์เจ้าใช้ก้อนหินทุบได้ไหม" เจ้าชายทีเฟียร์หันไปถามแล้วแฟรงก์เกินสไตน์ก็พยักหน้า

  ปึกๆๆ ปึกๆๆ ปึกๆๆ

 การใช้ก้อนหินก้อนโตทุบไม่มีที่ท่าว่าจะทำให้น้ำแข็งล้านปีกระทบกระเทือนแม้แต่น้อย

 "เดี๋ยวหยุด" ฉันหันไปบอกแฟรงก์เกินสไตน์แล้วเดินเข้าไปใกล้ดอกกุหลาบสีเงินใต้น้ำแข็งดอกนั้น

 "ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาท่าน ถ้าหากท่านยอมรับข้าในฐานะเทพแห่งดอกไม้ขอให้น้ำแข็งละลายแล้วขอให้ข้าได้ท่านกลับไปที" ฉันเอ่ยกับดอกกุหลาบสีเงินใต้น้ำแข็งดอกนั้น ก่อนจะค่อยๆใช่มือกดเบาๆลงที่น้ำแข็ง

 "ละลายแล้ว" เรเทลเอ่ยร้องแล้วกระโดดกอดท่านพี่เซนอนอย่างดีใจ

 "สวยจัง" ฉันหลุบตามองกุหลาบสีเงินที่งดงาม

 "เจ้าเด็ดดอกมันออกมาได้ไหม" เจ้าชายทีเฟียร์ถามฉันออกมาอย่างมีความหวัง

 "ได้สิ" ฉันค่อยๆใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบอย่างแผ่วเบาๆและค่อยๆออกแรงดึงมันออกมาและ

 "ขอบคุณพระเจ้า" สมายด์ยิ้มร่าแล้ววิ่งเข้ามาดูกุหลาบในมือของฉัน

 "แล้วพวกเจ้าจะเอาไปทำอะไรกันหรอ" ฉันเลิกคิ้วมองแต่ล่ะคน

 "เอาเป็นว่ากลับเมืองแวมไพร์ข้าจะเป็นคนบอกเจ้าเอง" เจ้าชายทีเฟียร์หันมามองแล้วกุมมือของฉัน

  ตอนนี้ก็ใกล้เย็นแล้วอาจจะอยู่ช่วงโพล้เพล้  ตะวันใกล้จะลาลับขอบฟ้าทำให้ฉันรู้สึกเหงาเป็นพิเศษฉันบินตามเจ้าชายทีเฟียร์ด้วยท่าทางเหม่อลอย ตอนนี้พวกเราทั้งหมดกำลังจะกลับไปสู่โลกแวมไพร์อีกครั้ง แต่ฉันไม่ใคร่สนใจอะไรมากนัก ในเวลานี้ฉันรู้เหงาจับหัวใจฉันหันมองตะวันที่ค่อยๆเคลื่อนลงขอบฟ้าทุกที และทุกที.....

 แหมะ

 "เคเคียว" เจ้าชายทีเฟียร์หันมามองฉันด้วยสีหน้าตะลึง

 "ฮึกๆๆ" ฉันสะอื้นตัวโยน

 "เจ้าร้องไห้ทำไม" เจ้าชายทีเฟียร์หันมาให้มือปาดน้ำตาออกให้ฉัน

 "ข้ารู้สึกเหงา ฮึกๆๆฮือๆๆๆ" ฉันร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร เพราะตอนนี้ฉันรู้อัดอั้นใจมากกว่า

 "ใจเย็นๆนะ" เรเทลบินเข้ามาโอบกอดฉัน

 "เรเทล" ฉันหลับลงในอ้อมกอดของเพื่อนรักคนนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดหายมิดที่ดับสิ้นไป

  กลิ่นหอมของอะไรบางอย่างลอยเข้ามาในจมูกของฉัน กลิ่นหอมของดอกไม้ ดอกไม้ชนิดหนึ่งฉันพยายามฝืนเปลือกตาให้เปิดออกอยู่หลายครั้งแต่มันก็ไร้ผลนี่ฉันเป็นอะเนี่ย

 "เคเคียวฟื้นแล้ว" เสียงของผีฟ้าดังขึ้นทำให้ค่อยๆลืมตา แล้วหันมองเพดานห้อง

 "ได้แล้ว" เจ้าชายทีเฟียร์ยกอะไรสักอย่างออกมาจากครัว

 "เจ้าสกัดมันเร็วจัง" ฮานาโกะหันไปบอก

 "พวกเจ้าทำอะไรกันหรอ" ฉันกระพริบตาปริบๆแล้วมองถ้วยน้ำชาที่ที่อยู่ในมือของเจ้าชายทีเฟียร์

 "อ้อไม่มีอะไรหรอก ทานน้ำชาก่อนไหม" เรเทลรับแก้วจากเจ้าชายทีเฟียร์แล้วหันมาพูดกับฉัน

 "น้ำชางั้นหรอ" ฉันมองน้ำในถ้วยแล้วใช้จมูกดมกลิ่น

 "ดื่มสักหน่อยนะ มันมีส่วนผสมของดอกไม้อยู่" เรเทลยกมันให้กับฉัน

 "อ่ะอืม ขอบใจ" ฉันรับมองแล้วค่อยจิบมันทีล่ะน้อย

 "เป็นยังไงบ้าง" เรเทลเอ่ยถามด้วยท่าทีร้อนใจ

 "โอ๊ยยย" ฉันยกมือกุมขมัยของตัวพลันอะไรบางอย่างก็เข้ามาในหัวสมอง

 

 "ท่านแม่ ท่านแม่ข้าอยู่ไหน" ฉันลืมตามองหญิงสาวผมยาวสีดำขลับคนหนึ่งแล้วถามหาท่านแม่ของฉัน

 "เคเคียว" หญิงสาวผู้นั้นมองฉันด้วยแววตาที่สุดแสนจะเอ็นดู

 "แม่ข้าล่ะ" ฉันตวาดถามกลับไป

 "ต่อไปนี้ข้าคือแม่ของเจ้าเคเคียวลูกรัก" หญิงสาวผู้นั้นใช้มือกดลงตรงหน้าผากของฉัน ฉับพลันดวงตาสีแดงเพลิงของฉันก็กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์

ความทรงจำบางอย่างแล่นเข้ามาอีกครั้ง

  "ท่านลุง" ฉันเอ่ยปากออกไป

 "หนูเคเคียว เจ้าโอเซียหายไปไหน" อยู่ๆท่านลุงก็เอ่ยถามฉัน

 "ไม่เห็นเลยค่ะคุณลุง แล้วคุณแม่มีไหน" ฉันเอ่ยถามหาท่านแม่

 "เนมิโกะยังไม่กลับมา แล้วลูซี่ล่ะหายไปไหน" คุณลุงถามหาแมวตัวโปรดของฉัน

 "ลูซี่ออกไปเล่นกับโมร์ทีค่ะท่านลุง" ฉันลุกจากที่นอนแล้วเดินไปท่านลุง

 "มีอะไรหรือเปล่าเคเคียว" ท่านลุงลูบหัวฉันอย่างปลอบโยน

 "เคเคียวคิดถึงท่านแม่จังค่ะ ท่านแม่หายไปหลานวันแล้ว ท่านน้าเวลล่าก็ยังไม่ส่งข่าวอะไรมาเลยเคเคียวคิดถึงท่านแม่จังค่ะ" ฉันเอ่ยตามความรู้สึกออกไป ท่านน้าไม่ส่งข่าวมาเลยแล้วก็หายตัวไปเมื่อสองวันก่อน

 "เราต้องไว้ใจน้าสิหลานรัก" ท่านลุงลูบหัวฉันอีกรอบ

 "แต่เคเคียวคิดถึงท่านแม่นี่ค่ะ" ฉันเงยหน้าทำตาอ้อนๆ

 "เดี๋ยวลุงไปเรียกเจ้าโอเซียมาอยู่เป็นเพื่อนนะ เจ้าลูซี่ปล่อยไปบ้างเดี๋ยวเครียดตาย555รู้หรือเปล่าว่ากลิ่นตัวเจ้าใกล้จะเหมือนลูซี่ไปทุกทีแล้วนะ" ท่านลุงพูดทีเล่นที่จริงกับฉัน

 "ค่ะท่านลุง" ฉันตอบรับแล้วเดินไปหยิบตุ๊กตามาเล่น

  15 นาทีต่อมา

 ก๊อกๆๆๆๆ ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

 "เคเคียว เจ้าอยู่หรือเปล่า" เสียงโอเซียดังเข้ามาในห้อง

 "อืมเข้ามาสิประตูไม่ได้ล็อก" ฉันเอ่ยปากบอกแล้วหันไปหวีผมให้ตุ๊กตาของฉันต่อ

 "ท่านป้ากับท่านแม่หายไปหลายวันเลยเนาะ" โอเซียเดินมานั่งข้างฉัน

 "ตุ๊กตาอีกแล้วหรอ" โอเซียก้มลงมองดูตุ๊กตาในมือของฉัน

 "อ้าวโอเซียผู้หญิงก็เล่นตุ๊กตาสิ" ฉันเอ็ดกลับไป

 "ทำไมเจ้าถึงทำตัวเหมือนมนุษย์จัง" โอเซียมองฉันแล้วยักคิ้วกวนๆ

 "มันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วยล่ะ" ฉันแห้วกลับไป อะไรกันก็คนชอบเล่นตุ๊กตาอ่ะ

 "นี่เธอไม่ใช่แวร์วูฟล์หรอ" อยู่โอเซียก็ถามฉัน

 "ถ้าใช่ฉันก็มีหางแล้วมั้ง" ยังยักคิ้วกวนประสาทอย่างที่โอเซียชอบทำกลับไป

 "แล้วเธอเป็นอะไรล่ะ" โอเซียยังไม่ยอมลดล่ะที่จะถาม

 "เทพน่ะ" ฉันตอบไป แล้วก็หวีผมตุ๊กตาตัวโปรดของฉันต่อ

 "เคเคียวตาเธอสวยจังนะ" โอเซียสบตาฉัน

 "ขอบใจ แต่ท่านน้าเมื่อไหร่จะกลับมาข้าคิดถึงท่านแม่จวนจะแย่อยู่แล้ว" ฉันเอ่ยถาม

 "ข้าไม่รู้" โอเซียตอบหน้าตาย

 "แย่แล้ว เนมิโกะ ตายแล้ว" เสียงตะโกนของใครคนหนึ่งทำให้เราชะงัก

 "ท่านแม่" ฉันร้องออกมาด้วยน้ำตาที่ไหลริน

 "เคเคียว เจ้าอย่าร้องไห้สิ" โอเซียเอ่ยปลอบฉัน

 "ท่านแม่ ไม่จริงใช่ไหม" ฉันตะดกนออกไปสุดเสียงก่อนที่จะล้มลงไป

 "เคเคียว ไม่ได้การแล้วเราจะต้องผนึกความทรงจำอันแสนเลวร้ายนี้ไว้" เสียงของท่านลุงทำให้ฉันเริ่มขยับเปลือกตา

 "เคเคียว" เสียงของท่านปู่ดังแว่วเข้าในโสตประสาทของฉัน

 "เนมิโกะจากไปแล้วนะ" เสียงของท่านลุงดังขึ้นน้ำเสียงเขาดูอบอุ่นและอ่อนโยน

 "ท่านป้าเสียชีวิตแล้วอย่างงั้นหรอครับ" เสียงของโอเซียดังมาอีกคน ทำให้ฉันยิ่งสับสนว่าตนเองเป็นอะไรอยู่ที่ไหน ฉันพยายามฝืนเปลือกตาที่หนักอึ้งให้เปิดออกแต่มันกลับไร้ผล เหมือนมีอะไรบางอย่างสะกดมันให้ปิดอยู่อย่างงั้น

 "เราคงต้องลบความทรงจำทั้งหมดของเคเคียวแล้วล่ะ" ท่านลุงกล่าวกับท่านปู่

 "ท่านพ่อครับข้าขอคุยกับเคเคียวเป็นครั้งสุดท้าย" โอเซียเอ่ยอ้อนวอนพ่อก่อนที่ฉันจะฝืนเปลือกตาให้เปิดออก

 "ได้สิลูก" ผู้เป็นพ่อของเด็กชายเอ่ยขึ้นอย่างใจดี และในเวลาต่อมาเปลือกตาของฉันก็เบาและบางเฉียบทำให้ฉันสามารถลืมตาขึ้นมาได้ และหลังจากลืมตาฉันก็พบเพียงเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ซึ่งเขาก็คือโอเซียนี่เอง

 "เคเคียว ลาก่อนนะ ข้าจะเก็บเจ้าไว้ตลอดไปข้าสัญญา" โอเซียลงวางมีที่เย็นเฉียบของเขาลงตรงมือของฉัน

 "ได้เวลาแล้ว" เสียงของท่านลุงดังขึ้นก่อนที่โอเซียจะปล่อยมือไปแล้วเดินไปยืนดูอยู่ห่างๆ

 "ลาก่อนหลานรัก" ท่านปู่วางมือลงบนหน้าผากของฉันก่อนจะกดมันลงไปความเจ็บปวดแล่นเข้ามาให้สมอง และทุกๆอย่างก็เลือนหายไป

 "เคเคียว" เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น

 "ที่นี่ที่ไหน" ฉันเอ่ยถามแล้วยกมือกุมขมับของตัวเองเอาไว้

 "บ้านเราไงหลานรัก" หญิงชราคนหนึ่งยกมือลูบหัวของฉันอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน

 "ท่านย่าโทโมกิค่ะ ข้าทำขนมให้แล้วนะค่ะ" เสียงใสๆของเด็กผู้หญิงดังขึ้น

 "ฟื้นแล้วหรอ" ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้นเดินมานั่งลงข้างๆฉัน

 "ฉัน..." ฉันพูดได้เพียงเท่านั้น

 "สวัสดีเคเคียวฉันชื่อเรเทลเป็นผีบ้านผีเรือนจ๊ะ" เรเทลย้มบางๆให้ฉันและจากวันนั้นมาเราก็สนิทกันเรื่อยๆและเรื่อยๆจนถึงวันที่ฉันถูกพวกแวร์วูฟล์จับตัวไปและเรื่องราวทุกอย่างก็ไหลเข้ามาในหัวสมองของฉัน จวบจน

 "เคเคียว" เจ้าชายทีเฟียร์ลูบหัวของฉัน

 "โอเซีย" ฉันหันไปมองโอเซียแล้วน้ำตาไหลริน

 "เคเคียวข้าขอโทษ" โอเซียเดินเข้ามาใกล้ฉันแล้วเอ่ยขอโทษฉัน

 "ข้ารักเจ้า" ฉันเอ่ยออมาทั้งน้ำตา

 "ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้รักเจ้าแล้วข้ารักเชอร์บี้" โอเซียพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงแล้วหลุบตาลงต่ำ

 "ข้าเข้าใจดี ข้าขอให้เจ้ามีความสุขนะ" ฉันหลับตาลงแล้วเอ็นตัวลงนอน

 "เคเคียวจำพวกเราทุกคนได้ไหม" เสียงของเรเทลทำให้ฉันหันไปมอง

 "จำได้เสมอ ทุกเรื่องราว ท่านแม่เนมิโกะไม่ใช่แม่ข้า" ฉันเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา และ

 เคล้ง!!!!

 เสียงอะไรบางอย่างแตกลง ฉันก้มตาลงมองบนผ้าห่มก็พบกับเลือดสีแดงสด ฉันเงยหน้ามองทุกคนแล้วนั้นมันทำให้ทุกคนถึงกับตะลึง

 "ตาของเคเคียว" เจ้าชายทีเอ่ยแล้วมองดวงตาของฉัน

 "สีแดง" เชอร์บี้เบิกตาโผลง

 "เจ้าเป็นลูกผสมระหว่างแม่มดกับภูติแห่งดอกไม้" เสียงของท่านพี่เซนอนทำให้ฉันยกมือกุมดวงตาของตัวเอง

 "องค์เป็นลูกของท่าน เอริน" ทาบีลัสเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

 "เอริน นี่ชื่อท่านแม่ของข้าหรือ" ฉันหลุบตาลง

 "แล้วทำไมท่านป้าถึง" สมายด์เอ่ยขึ้น

 "เพราะว่าเกิดสงครามระหว่างภูติกับมนุษย์ขึ้นไง เอรินจึงตายจากไป" เจ้าชายทีเฟียร์เว้นช่วงหายใจก่อนจะพูดต่อ

 "เนมิโกะ เป็นพี่สาวของเอรินนี่เจ้าไม่รู้หรอ" เจ้าชายทีเฟียร์หันไปทางทาบีลัส

 "ข้าจะขอกลับไปอยู่ที่ดินแดนดอกไม้นะ" เจ้ากับทุกคน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา