P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

8.1

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.

  46 chapter
  28 วิจารณ์
  49.47K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

41) ปัจฉิมบท EP.1 Two Weeks Beginning [Another Future]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

P.P. Rising: The Bullet Time

เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

  1. Ch.35 ปัจฉิมบท EP.1 Two Weeks Beginning [Another Future]

Rewrite V.3

 

◊◊◊

 

[สามวันต่อมา – วันที่สองของการมาเยือนของยานแม่ศูนย์บัญชาการ ‘มอชชินนี่’]

[10:01] [10/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, สำนักงานการ์เดี้ยนเขตกลาง]

 

“เทลไม่อยู่เหรอฮะ?”

 

เอชเพิ่งเดินเข้ามาที่สำนักงานการ์เดี้ยนถามหาคนที่ไม่อยู่ เจนนิก้าที่แขนขวาหายดีแล้ว กำลังเซ็ตเสื้อผ้าหน้าผมอยู่หน้ากระจกใกล้ๆ ตู้เย็นตะโกนบอก

 

“ล่วงหน้าไปงานกับหัวหน้าแล้วค่ะ”

“หา! อะไรกัน ทั้งๆ ที่บอกให้รอก่อนแท้ๆ” เอชน้อยใจ

“ยังมีหน้ามาพูดอีกนะคะ” เจนนิก้าว่า “เอชมาสายเองนะ”

“ก็คนมันเยอะนี่น่า”

“เจนนิก้า...เราไม่ไปไม่ได้เหรอ?” นิฟที่อยู่ริมหน้าต่างถาม

“ไม่ได้ค่ะไม่ได้ งานนี้หัวหน้าสั่งมาเองนะ...”

“ก็ให้คนอื่นไปสิ”

“เพราะไม่มีคนอื่นแล้วไงค่ะ พวกเราถึงต้องไปเป็นตัวแทนทุกๆ คน” เจนนิก้าว่า “ต่างคนก็มีภารกิจในพื้นที่ของตัวเองอยู่”

“ทำไมเวิลด์เจเนรัลต้องมาด้วยนะ?”

 

นิฟบ่นแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าออกไปทางหน้าต่าง มีสิ่งประดิษฐ์ขนาดใหญ่ลอยฟ้าที่เรียกว่า ‘ยานแม่มอชชินนี่’ อยู่และล้อมรอบไปด้วย เครื่องบินและยานเล็กต่างๆ เต็มทั่วท้องฟ้า

 

“เห็นว่าจะมีการร่างกฎหมายเกี่ยวกับพลังจิตขึ้นมานะค่ะ” เจนนิก้าบอก

“อ้าว ไม่ใช่เปลี่ยน Area TH ที่เจ็ดเป็น Area WG เหรอ?” นิฟถาม

“ยังไม่มีข่าวยืนยันแน่นอนค่ะ แต่เดี๋ยววันนี้คงได้รู้ที่งานนั่นล่ะ”

“รันเนอร์ก็มาด้วยนะฮะ”

 

เสียงใสที่เต็มไปด้วยประกายอันเจิดจ้าของเอช ทำให้อีกสองคนเป็นกังวลแทน เจนนิก้าถามถึงความพร้อมทุกๆ คน

 

“เอาล่ะค่ะ พร้อมกันหรือยังคะ?”

 

นิฟที่เพิ่งผูกผ้าคาดผมสีเขียวเสร็จ หยิบมือถือบนโต๊ะขึ้นมา

 

“พร้อมแล้ว เจนนิก้า...แต่ว่าเหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่าๆ เลยนะ”

“เราต้องไปเตรียมก่อนค่ะ”

“เอ่อ...แล้วพี่ๆ อีกสองคนไม่อยู่เหรอ?” เอชถามอีกสองคนที่เหลือ

“พี่ๆ สองคน? รุ่นพี่ทอมมี่กับคุณไอร่าไปพร้อมกับหัวหน้าแล้วค่ะ”

“ง่ะ...หนีไปกันก่อนหมดเลย” เอชทำเป็นงอน

“เดี๋ยวก็เจอกันที่งานแล้วค่ะ...พอพูดถึงรุ่นพี่ทั้งสองคนนั้นแล้ว...วันก่อนเห็นแปลกๆ ไปนะคะ”

“...เห็นว่าคนสำคัญพวกรุ่นพี่เสีย” นิฟตอบแทน

“ใครเหรอคะ?” เจนนิก้าถาม

“ไม่รู้ค่ะ”

 

‘คนสำคัญ...คงเป็นอย่างงั้น’

 

เอชนึกย้อนถึงเมื่อวาน เห็นคู่บัดดี้ของเธอทำหน้าตาซึมๆ ตลอดทั้งวัน

 

‘พี่ทอมมี่...ใครกันที่ทำให้พี่เป็นได้ถึงขนาดนั้น?’

 

“แล้วรู้หรือยังคะ? ว่ารุ่นพี่คานะกำลังกลับมาแล้ว?”

 

เจนนิก้าเอ่ยขึ้นมาทำให้นิฟสะดุ้งโหยง แต่เอชได้ยินแล้วกลับกระปรี้กระเปร่า

 

“พี่คานะ!” เอชร้อง “จะมาตอนไหนเหรอฮะ?”

“ก็...เห็นว่าเดี๋ยวจะถึงที่นี่แล้วล่ะ”

 

เจนนิก้าบอกไปเช่นนั้น นิฟเดินเข้ามากระซิบถาม

 

“พี่เขาบอกว่าจะมาเหรอ?”

“อือ ใช่ค่ะ...”

“เฮ้อ...มีเอชก็ปวดหัวพอแล้ว” นิฟเอามือกุมหน้าผาก “ยังจะมีรุ่นพี่ตัวป่วนอีก”

“ฮ่าๆ เอาเถอะค่ะ คึกครึนดีออก”

“เฮ้อ มันก็ใช่อยู่หรอก...แต่ถ้าให้ได้ยินคำลงท้ายนั่นตลอดล่ะก็---“

 

ป๊าง!

 

เสียงเปิดประตูด้วยแรงมหาศาลของใครบางคนที่เพิ่งมาถึงสำนักงานการ์เดี้ยน เป็นผู้หญิงอายุราวๆ ยี่สิบปี ผมยาวเลยต้นคอเล็กน้อยดัดลอนสีแดง นัยน์ตาสีเหลืองที่ส่องประกายราวกับว่าเจอสิ่งที่สำคัญ ใบหน้าเรียวคม ใส่ชุดนักเรียนสีเขียวขาวของโรงเรียนซิสเซล ที่ข้อมือขวามีปลอกข้อมือของการ์เดี้ยนอยู่ หล่อนฉีกยิ้มกว้างแล้วชูกำปั้นชี้ฟ้า ก่อนที่จะเอ่ยประโยคหนึ่งที่ลงท้ายด้วยสรรพนามแปลกๆ ที่ทั้งสามคนเคยได้ยินเป็นประจำ

 

“เย้! ฉันคานะ ผู้ที่ไม่ยอมละทิ้งสาวน้อยมอปลาย...กลับมาแล้วก่อยอิ!”

 

◊◊◊

 

[10:05] [10/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ห้องรับแขกแห่งหนึ่งในยานบินขนาดเล็ก WGT ใกล้ยานแม่ศูนย์บัญชาการ ‘มอชชินนี่’]

 

“ฉันขอยอมแพ้”

 

สาวผมสีฟ้าสั้น นัยน์ตาสีขาว สวมฮูดสีดำที่มีนามว่าเรด ประกาศยอมแพ้ในเกมกระดาน ‘The TBBA’ ที่มีชายหัวโล้นไว้หนวดจิ๋มสีน้ำตาลเป็นคู่แข่ง เธอเอื้อมมือตรงหน้ากดสวิตซ์สีแดงที่มีป้ายบอกว่า ‘Surrender’ ผู้คนอีกคนเอ่ยอย่างไม่พอใจ

 

“เกมยังไม่ทันจบ จะรีบยอมไปไหน?”

“แค่ดูเดินหมากต้นเกมก็รู้ผลแล้ว ฉันแพ้ทางจริงๆ”

 

เรดมองไปบนเกมกระดานแล้วส่ายหัว เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเธอพูดจริงแล้ว ก็เอ่ยรับ

 

“ก็ได้ ข้าจะยอมรับการตัดสินใจครั้งนี้ ท่านมือสังหารแห่งเวิลด์เจเนรัล...ไม่ใช่สิ ท่านเรด หนึ่งในสามผู้ก่อตั้งเวิลด์เจเนรัล”

 

ผู้ที่ถูกเรียกตำแหน่งที่แท้จริงเลิกคิ้ว

 

“รู้ดีจังเลยนะคะ แปลกใจมากที่โปรแกรมดิออล์โนว์ (The All-Known) ไม่หมายหัวท่าน”

“คงจะจงรักภักดีกับเวิลด์เจเนรัลอย่างเปิดเผยล่ะมั้ง” อีกฝ่ายว่าไปนั่น

“แล้วที่ไม่เปิดเผย?” เรดถาม

“...ก็เหมือนคุณนั้นแหละ” เขาย้อนกลับ

“ไม่เหมือนหรอกค่ะ สภาพฉันตอนนี้โดนอดีตพรรคพวกเล็งเด็ดหัวแล้ว” เรดยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ “แต่ต้องขอขอบคุณที่ช่วยให้ที่หลบภัยฉันในรังศัตรูที่นี่ ท่านแดเนียล ผู้อำนวยการสูงสุดหน่วยข่าวกรอง WGT”

 

ชายหัวโล้นที่ถูกเรียกชื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วกัดฟัน

 

“แต่ก็ยังอยู่ภายใต้เวิลด์เจเนรัล...”

“หากเป็นเช่นนั้น ท่านจะยึดอำนาจเหรอคะ?”

 

จู่ๆ เรดเอ่ยเรื่องที่เขาไม่คาดคิด แดเนียลจ้องตาคู่สีขาวของเรด

 

“อย่าพูดอะไรที่ไม่มีทางเกิดขึ้นสิ ท่านเรด แม่สาวร้อยปี”

“โอะโอ้ รู้อายุฉันด้วย” เรดหัวเราะ “หน่วยข่าวกรอง WGT ของท่านชักจะไม่ธรรมดาแล้วสิ”

“และท่านก็ไม่ได้มาจาก ‘ที่นี่’ ”

 

ประโยคต่อมาของแดเนียล ทำให้เรดขมวดคิ้วทันที

 

“เอ...คงความหมายเดียวกันกับออลไฮล์ฟิวเจอร์ (All Hail Future) ที่ฝากเด็กของท่านมาบอก”

“ข้าก็มาจาก ‘ที่นั่น’ ที่เดียวกับที่ท่านมา เพียงแต่คนละช่วง...เท่านั้นเอง”

 

คำตอบของแดเนียล ทำให้เธอจ้องเขาชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะเอนตัวพิงโซฟาอย่างสบายใจ

 

“ว่าแล้ว สิ่งที่ฉันเคยคิดไว้มันก็เกิดขึ้นจริงๆ การมาของฉันและอีกสองคนก็ต้องมีคนอื่น ณ ที่เวลาอื่นๆ เหมือนท่านน่าจะรู้อยู่แก่ใจ...แล้วเหตุผลการมาของท่านคืออะไร?”

“อันตรายที่ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ นั้นสิ” แดเนียลพูดกำกวมก่อนที่จะไปเรื่องอื่น “...แต่ตอนนี้มีเรื่องอื่นที่ต้องเป็นห่วงก่อน...อนาคตที่เปลี่ยนไป โดยปกติพวกท่านจะใช้อะไรกำหนดอนาคตโลกใบนี้ นอกจากโปรแกรมดิออล์โนว์ (The All-Known)”

 

เรดหรี่เม้มปากเคาะนิ้วสักพักเอ่ยขึ้นมา

 

“เพราะเรื่องนี้ฉันถึงได้เคลือบแคลงสงสัยอีกสองคนนั้นมาก จนถูกหมายหัวแทน” เรดว่า “เท่าที่สืบมาได้...สองคนนั้นตั้งใจจะหายไป”

“หายไป?” แดเนียลทำสีหน้าไม่เชื่อ

“ใช่...ทิ้งสิ่งที่ตัวเองทำไว้แล้วหลบไปใช้ชีวิตสงบ เหมือนสองคนนั้นจะเบื่อในอำนาจแล้วล่ะ ถ้าไม่ใช่ว่าสถานการณ์ช่วงนี้ที่ไม่ปกติเอาซะเลย โดยเฉพาะไฮเทคอัพเปอร์หน่วยลากัซ”

“โอะโอ เหมือนจะมีเป้าหมายเดียวกันด้วย”

“หึ...แล้วท่านจะทำยังไง หากพวกนั้นสร้างปัญหา”

“อันที่จริง ข้ากับพรรคพวกมีเป้าหมายที่สูงกว่านั้น แต่ถ้าหากเจ้าพวกนั้นมาขวางทางล่ะก็...เห็นทีคงต้องออกโรงกันบ้างแล้ว”

“แล้วไฮเทคอัพเปอร์หน่วยเคนชิโร่ล่ะ”

“รายนั้นอย่าไปยุ่งเลย ข้าว่าหมอนั่นอินดี้ยังไงก็ไม่รู้”

“ท่านใช้คำพูดแบบนั้นเป็นด้วย เห็นพูดจาโบร่ำโบราณอยู่ตลอด” เรดว่า “แต่ก็จริงอย่างที่ว่า ช่วงหลังเหตุการณ์ทดลองระเบิดที่ Area RU มานี่เหมือนเขาจะมีปัญหาเรื่องควบคุมสติปัญญาของตัวเอง”

“แล้วเครื่องไทม์แมนชีนของเวิลด์เจเนรัลอยู่ที่ไหน”

 

เรดหนี่ตาลงกับคำถามที่ไม่ทันตั้งตัว

 

“ฉันไม่ไว้ใจท่านเต็มร้อย...ถึงแม้จะมีบ้างก็เถอะ ท่านน่าจะเข้าใจนะ เครื่องนั่นมันอันตรายมากขนาดฉันไม่อยากยุ่งเป็นครั้งที่สอง ท่านผ่านมันมาก็น่าจะรู้ และที่ถามแบบนี้แสดงว่าเวลาที่ท่านมานั้นไม่มีข้อมูลของเวลานี้อยู่เลยสินะ”

“สรุปคือไม่บอก”

“ใช่ ถึงบอกไปจะอยู่ให้หาเจอหรือเปล่า ท่านคงต้องไปถามเลขานุการเวิลด์เจเนรัลด้วยตัวเอง”

“หาเรื่องตาย”

 

แดเนียลลุกขึ้นยืนแล้วจะเดินออกจากห้องไป เรดสงสัยเลยถาม

 

“นี่ท่านจะไปไหน”

“ไปหาทางแก้ด้วยตัวเอง”

“ทำไมถึงรนหาที่ตาย? อยู่เฉยๆ หาความสุขใส่ตัวไปวันๆ ก็ได้”

“เพราะหน้าที่ของข้าคือยืดเวลาชีวิตมนุษย์ทุกคน”

 

แดเนียลพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะออกจากห้องไป เรดที่ได้ยินนั้นหัวเราะราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก

 

‘เจ้านั่นทำตัวเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมได้ซะได้’

 

◊◊◊

 

[10:10] [10/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, สถานที่แห่งหนึ่ง ใกล้ๆ สนามบินดอนเมือง ใต้ยานแม่ ‘มอชชินนี่’]

 

‘หัวหน้าแว่นมาทำอะไรที่นี่นะ?’

 

สาวผมม่วงที่สวมหูฟังแมวสีฟ้าที่ชื่อว่าเฟท กำลังแอบอยู่กล่องหน้าห้องรกๆ ห้องหนึ่ง

 

‘ตึกร้างนี่มันมีอะไรเกี่ยวกับเวิลด์เจเนรัลงั้นเหรอ? หัวหน้าแว่นถึงได้แอบมาที่นี่...แอบมาเจอใครบางคนที่เป็นคนของเวิลด์เจเนรัล โชคดีนะที่พีทูเห็นอนาคตของเราเองเมื่อวานนี่ ทำให้เห็นเหตุการณ์ที่นี่พอดี รู้ว่าเห็นคุยๆ กันแล้วเปิดวิดีโอให้ดูอะไรสักอย่าง แล้วได้กล่องดำๆ ถึงขนาดโกหกว่าจะไปหาร้านพาเฟ่ต์พรีเนี่ยมให้ ยอมไม่ได้! จะป่วนให้เสียงานเลยนะ ค่อยดู...แต่สงสัยอยู่งานที่หัวแว่นทำให้เวิลด์เจเนรัลคืออะไรนะ? มันจะผิดไปจากอุดมการณ์พวกเราหรือเปล่า?’

 

ตึ่ก...ตึ่ก...

 

เสียงฝีเท้าของสองคนกำลังเดินใกล้เข้ามา เฟทรีบเอาหัวหลบเข้าไปในกล่องสีน้ำตาลตามเดิม เสียงเดินนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และได้ยินเสียงสนทนาของชายสองคน

 

“ลำบากคุณแย่เลยนะครับ” เฟทจำได้ว่าเสียงนี้เป็นของหัวหน้าแว่นของเธอเอง

“ไม่เป็นไรหรอก นายอุตสาห์เอาข้อมูลสำคัญมาให้ทั้งที ฉันก็ต้องลงมาเองอยู่แล้ว”

 

เสียงผู้ชายอีกคนโทนแหลมเล็กน้อยอีกคน ทำให้เฟทไม่แน่ใจว่าเป็นใคร

 

‘คนของเวิลด์เจเนรัลเหรอ? เมื่อวานที่ได้เห็นพีทูเมื่อวานได้ยินไม่ค่อยชัดด้วยสิ ว่าใช่คนนี้หรือเปล่า?’

 

“ห้องนี้หรือ? แม็กซิม” เสียงชายแหลมที่เรียกชื่อจริงของหัวหน้าแว่นถาม

“ใช่ ห้องนี้อยู่นอกระยะของโดรนพวกนั้นพอดี” แม็กซิมพูด

“งั้นเรามาเริ่มดีล (Deal) กันในนั้นเลย ฉันมีเวลาน้อยอยู่”

 

อี๊ด...อ๊าง

 

เสียงเปิดประตูที่เฟทฟังก็รู้ว่าประตูมันค่อนข้างเก่าเลยเปิดทีมีเสียงดัง แล้วก็มีเสียงประตูจะปิดตามมา แต่แล้วก็หยุดลง

 

‘หือ? ปิดไม่สนิท?’

 

เฟทค่อยๆ ออกจากกล่องมาดู ก็พบว่าประตูตรงหน้าเธอนั้น ถูกเปิดแง้มไว้หน่อยหนึ่ง

 

‘ทำไมสองคนนั้นสะเพร่ากันแบบนี้นะ? แบบนี้ถ้าศัตรูอยู่ใกล้ๆ ก็จัดการได้สบายๆ เลยนะนั่น’

 

เธอคิดแบบนั้นแล้ว ก็ค่อยๆ ย่องไปแนบอยู่ริมประตูแล้วจะหยิบกล้องสอดน้อมของเธอออกมา

 

‘หือ? อยู่ไหน? กล้องฉัน...’

 

เฟทหาของในตัวสักพัก จึงได้ข้อสรุป

 

‘ลืมเอามา! โธ่โว้ย!’

 

เธอตบศีรษะตัวเองอยู่หลายครั้งก่อนที่จะตัดสินใจใช้ดวงตาของตัวเองมองแทน แล้วหยิบบิสกิตช็อคโกแลตสอดไส้สตอเบอร์รี่ขึ้นมากินด้วยความหงุดหงิด เฟทเพิ่งเห็นรูปลักษณ์ของอีกคน แน่นอนว่าเขาเป็นผู้ชายที่ไว้ผมสีเขียว ใบหน้าของเขาเห็นจากด้านข้างก็พอรู้ได้ว่าหล่อมาก นัยน์ตาสีดำ ใส่ชุดสีเหลืองน้ำเงินผ้าคลุมยาวของเวิลด์เจเนรัล

 

“รีบเอาออกมาเลย” ชายผมเขียวเร่งรัด

“ได้ครับๆ” แม็กซิมหยิบแผ่นใสขนาดสิบนิ้วขึ้นมา ก่อนที่จะกดอะไรบางอย่างทำให้มีภาพเคลื่อนไหวปรากฎขึ้นบนแผ่นนั่น “เชิญดูให้เต็มตา”

 

บังเอิญว่า ชายผมเขียวที่รับของนั่นจากแม็กซิมถือดูวิดีโอจากแผ่นใสในทิศทางที่เฟทเห็นพอดี เธอเลยพยายามเพ่งจ้องมองมัน ได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ...

 

‘นั่นมัน...เป้าหมาย...คนๆ นั่นนิ!’

 

และแล้วชายผมเขียวส่งเสียงพอใจจากลำคอออกมา แล้วส่งของบางอย่างให้แม็กซิม เป็นกล่องเล็กมากสีดำให้

 

“ขอบคุณมากนะครับ เจ้านี่นะ หายากเอาเรื่องอยู่ใช่ไหม?”

“ก็...มันไม่ถึงกับยากหรอก แต่เวิลด์เจเนรัลมีกำลังมากพอที่จะหามันได้เรื่อยๆ หมายถึงหกลั้นมันให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ล่ะนะ” ชายผมเขียวบอกแล้วเก็บแผ่นใสนั่นเข้าตัวไป “งั้นผมขอตัวก่อนล่ะ”

“เดี๋ยว...ถ้าผมอยากรู้อะไรอย่างหนึ่ง จะได้ไหม?”

“อะไรละ?”

“พวกคุณจะทำอะไรเขา?”

“กำจัดให้พ้นออกจากเส้นทาง”

“กำจัด? ฆ่าเขางั้นเหรอ?”

“จะเป็นอย่างอื่นไปได้ไงละ? นั่นเป็นวิธีเดียวของพวกเรา”

 

‘ฆ่า...เขา!?’

 

เฟทที่ได้ยินแล้วถึงกับตัวสั่น

 

‘นั่นมันขัดอุดมการณ์ของพวกเรา แอคเซียมเอ็กซ์ชัดๆ! การให้ข้อมูลใดๆ ที่ทำให้ใครถึงแก่ความตาย เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้!’

 

หลังจากนั้นเธอก็เห็นปฏิกิริยาผิดปกติของแม็กซิม หัวหน้าแว่นของเธอคือการที่เขาหยิบแว่นสีฟ้าขึ้นมาสวม

 

‘เขาหยิบแว่นนั่นขึ้นมาสวม...นั่นเป็นพฤติกรรมของเขาที่เวลาเครียดจัดขึ้นมานี่หน่า

งั้นแสดงว่ากำลังจะตอกหน้าพวกเวิลด์เจเนรัลสินะ! เอาเลย! หัวหน้าแว่น! สั่งสอนให้มันรู้สำนึกเลย!’

 

เฟทคิดอย่างฮึกเหิมก่อนที่จะได้ยินคำพูดของแม็กซิมที่ไม่คาดคิด

 

“งั้นก็...อย่าให้เรื่องถึงผมล่ะกัน”

 

‘หา!?’

 

“ไม่ต้องห่วงไปหรอก...ฉันขอตัว”

 

‘เฮ้ยๆ ทำไมหัวหน้าแว่นถึง...’

 

เฟทที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก เห็นชาผมเขียวกำลังจะเดินมาทางที่เธออยู่ เลยรีบกลับเข้าไปหลบในกล่อง ก่อนที่จะได้ยินเสียงของชายผมเขียวอีกครั้ง

 

“นี่...รันเนอร์ ฉันได้ข้อมูลนั่นมาแล้วนะ กำลังจะส่งให้เธอ...อือๆ แล้วฉันจะรีบตามไปสบทบ”

 

แล้วเสียงนั่นก็ค่อยๆ ไกลขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ได้ยิน เฟทยังคงอยู่ในกล่องคิดเรื่องที่เธอเพิ่งได้ยินเมื่อครู่

 

‘ทำไมล่ะ? หัวหน้าแว่น...ทำไมถึงทำแบบนั้น?

นี่เขา...ทรยศต่ออุดมการณ์ของตัวเขาเองเหรอ?

ไม่น่า...มันน่าจะมีอะไรเข้าใจผิดแน่ๆ

ใช่ๆ มันต้องใช่แน่ๆ’

 

ป๊าง!

 

กล่องที่เฟทแอบอยู่ถูกเตะกลิ้งไปสองตลบจนเธอกลิ้งกระเด็นออกมาจากกล่อง แล้วเธอก็มองค้อนหาคนที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้น

 

“หัวหน้าแว่น!”

“...เฮ้อ...ให้ตายสิ ฉันกะว่าแล้วต้องเป็นเธอจริงๆ” แม็กซิมส่ายหัว

“ทำไมถึงทำแบบนั้นไปล่ะ!”

“ทำแบบนั้น!? อ๋อ ฉันเอาคืนนะ ที่เธอเตะฉันออกจากกล่องเมื่อคร่าวก่อน---“

“ไม่ใช่! เฟทหมายถึงเป้าหมายต่างหาก! ทำแบบนั้นเขาตายแน่ๆ หัวหน้าแว่นก็ได้ยินไม่ใช่เหรอ? ว่าพวกเขากำลังจะฆ่าคนนั้นน่ะ!”

“แล้วมันยังไงละ?”

“หา!? ยังไง? หัวหน้าพูดแบบได้ไง? หา!” เฟทเข้าไปทุบตีแม็กซิมด้วยแรงอันน้อยนิด “กลายเป็นคนแบบนี้ไปต่างหากเมื่อไร? เป็นหมารับใช้เจ้าพวกนั้นหรือไง!? หา! หา!”

 

เปรี๊ยะ!

 

แก้มข้างขวาของเฟทแดงฉ่านเพราะโดนตบด้วยฝ่ามือของแม็กซิม นัยน์ตาสีเขียวของเฟทเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า เธอถามถึงสิ่งที่ถูกกระทำ

 

“นี่...คำตอบของหัวหน้า...ใช่ไหม?”

 

แม็กซิมไม่ตอบ

 

“ก็ได้...ในเมื่อหัวหน้าแว่นทำแบบนี้ล่ะก็...ฉันจะไปหยุดพวกนั้นให้ได้! คอยดูสิ!”

 

เฟทตะคอกใส่หน้าแม็กซิม ก่อนที่จะหนีออกไปทั้งน้ำตา

 

‘ฉันต้องหยุดพวกเขาให้ได้...ต้องหยุดให้ได้!!’

 

และแล้วเฟทก็วิ่งลับตาของแม็กซิมไป เขาถอนหายใจทิ้ง ก่อนที่จะพึมพำออกมา

 

“เฟท...เธอยังอ่อนต่อโลกไปนะ”

 

มือขวาของแม็กซิมที่ถือกล่องดำเล็กที่มีแสงสีฟ้าไหลออกมาเล็กน้อย เริ่มเคาะที่ข้างลำตัวไปมา

 

‘ขอโทษนะ งานนี้ฉันบอกอะไรเธอไม่ได้จริงๆ’

 

แม็กซิมนึกถึงภาพที่เห็นเฟทร้องไห้เมื่อครู่อีกครั้ง...ก่อนที่จะก้มดูกล่องสีดำแล้วถอนหายใจยกใหญ่ เหมือนเพิ่งจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง

 

.เฮ้อ...ที่เราทำยัยเด็กนั่นร้องไห้อีกแล้ว...ทำฉันใจอ่อนอยู่เรื่อยนะ เฟท คงต้องตามไปคุ้มกันหน่อยละ’

 

◊◊◊

 

[11:52] [10/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, เวทีด้านหน้าสนามบินดอนเมือง ใต้ยานแม่ ‘มอชชินนี่’]

 

“นี่แก...ให้มันรู้กาลเทศะบ้างสิ”

 

พีกำลังต่อว่าทอมมี่ที่จู่ๆ ก็ควักพายแอปเปิ้ลผสมสับปะรดออกมาให้เขา

 

“กลัวพีจังหิวนี่ครับ”

“ฉันไม่หิวเฟ้ย! ถึงหิวขึ้นจริงๆ ก็จะลุกไปที่อื่น ไม่ใช่เอาออกมากินกลางงานที่นี่!”

 

พีกระซิบบอกทอมมี่ด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในงานแถลงข่าวของเวิลด์เจเนรัลที่จัดขึ้น ณ บริเวณหน้าซากปักหักพังของสนามบินดอนเมืองที่ยังหลงเหลือให้เห็นจากฝีมือของรถบรรทุกยิงมิซไซต์ของเอ็มแอลเอภายในการบัญชาการของริชาร์ด หัวหน้าปฏิบัติเอ็มแอลเอ Area EU-5ที่ป่านนี้โดนสั่งพักงานชั่วคราวเพื่อสอบสวนเรื่องทำเกินกว่าเหตุที่เกิดขึ้นและเรื่องการใช้อำนาจนอกเหนือ Area ของตนเอง

 

“ขอโทษครับ” ทอมมี่เก็บพายไว้ในเสื้อเหมือนเดิม

“อีกสิบนาทีใช่ไหม? เทล” ไลพ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทอมมี่ถามเทลที่นั่งติดกัน

“ที่ถูกก็คือ อีกสิบห้านาทีครับ” เทลดูนาฬิกาแล้วตอบ

“เฮ้อ เกลียดงานแบบนี้ชะมัด เสียเวลา”

 

ไลพ์บ่นเสร็จก็เริ่มท่องบทสุนทรพจน์ตามแผ่นกระดาษที่เธอเขียนไว้ก่อนหน้านี่ต่อ ซึ่งสุนทรพจน์นั่น เขาก็ต้องพูดด้วยในฐานะตัวแทนชาวเมือง Area TH-7 ที่อาสาช่วยงานการ์เดี้ยน ตอนแรกเขาปฏิเสธไป แต่ด้วยอ้อนว้อนสุดชีวิตของไลพ์ที่เธอหาคนอื่นมาพูดแทนไม่ได้ พีเลยรับปากด้วยความลำบากใจ แต่ยังไงซะเธอก็บอกว่า ของเขาพูดแค่ขอบคุณแทนชาวเมืองเท่านั้นเอง และอีกอย่างเขากับไลพ์จะขึ้นไปพูดบนเวทีพร้อมๆ กัน

 

‘หวังว่าฉันคงไม่ประหม่าจนเสียงานไปก่อนนะ...ส่วนกำลังใจจากอีกคนที่น่าจะช่วยได้’

 

พีก้มลงมองในกระเป๋าเสื้อของเขาเอง พบกับเรสเทียร์ร่างน้อยหลับอยู่

 

‘คงพึ่งไม่ได้แล้วล่ะ นี่ก็ยังไม่ยอมบอกเรื่องที่หายตัวไปดื้อๆ หลายวันก่อนอีก’

 

พีถอนหายใจอีกละรอบ ก่อนที่เขาจะมองบรรยากาศโดยรอบๆ งาน ตอนนี้พวกเขานั่งอยู่ซีกขวาของเวทีที่มีแผ่นอะไรบางอย่างขนาดใหญ่วางไว้อยู่บนพื้น แล้วปูด้วยหญ้าปลอมเขียว ตรงกลางมีแท่นที่วางไมค์ไว้กล่าวปราศัยแค่นั้น ข้างหลังมีแผ่นแบล็คกราวน์ใสๆ ที่ฉายภาพโลโก้ของเวิลด์เจเนรัลอย่างกับงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ แต่ถ้ามองภาพรวมจะพบว่าตัวงานถูกจัดอย่างรีบเร่งด่วนเลยไม่ค่อยจะมีอะไรมากนัก นอกจากเก้าอี้หน้าเวทีที่มีมากมาย พื้นที่สำหรับนักข่าวและรั้วกั้นส่วนหนึ่งที่ให้คนข้างนอกยืนดูได้ ถ้าไม่นับเก้าอี้พิเศษที่พีและพรรคพวกนั่งอยู่เป็นเก้าอี้ที่นิ่มๆ หน่อย และคนที่มานั่งทางขวาของเวที ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีตำแหน่งสำคัญทั้งนั้น

 

‘นั่งตรงนี้รู้สึกเสียวไส้บอกไม่ถูกยังไงก็ไม่รู้แฮะ’

 

เหงื่อของพีเริ่มไหลออกมาไม่ใช่เพราะอากาศร้อน แต่เพราะเขารู้สึกว่าที่ๆ เขาอยู่นั่น เป็นที่ๆ ที่ไม่ควรมาอย่างยิ่ง หลังจากนั้นพีก็มองมาทางขวามือที่มีเก้าอี้ติดกันตัวหนึ่งว่างอยู่และมีป้ายแปะว่า ‘ไฮเทคอัพเปอร์’

 

‘หวังว่าไม่ใช่พ่อของเมงุมินะ...เขาคงไม่มานั่งแถวนี้ล่ะมั้ง’

 

เขาคิดอย่างงั้นก่อนที่จะนึกถึงเรื่องที่คุยกับอิลลูชั่นเมื่อสองวันก่อน ซึ่งเขาโทรไปคุยก่อนที่เธอจะบินจาก Area TH ไป เพราะลืมถามเรื่องหนึ่ง

 

“เมงุมิงั้นเหรอ?” อิลลูชั่นเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยหลังจากได้ยินคำถามจากพี

“ใช่ เธอรู้อะไรเกี่ยวกับเธอบ้างไหม?” พีถามย้ำอีกครั้ง

“ฉันก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากนักหรอก...ทำไมนายต้องสนใจยัยนั่นมากขนาดนี้ด้วย?”

“เอาน่า...มันมีเรื่องที่ฉันอยากจะรู้ให้ได้นะ”

“...อือ...ฉันจะบอกเท่าที่รู้ล่ะกัน ฟังให้ดีนะ จะพูดแค่ครั้งเดียว...เมงุมิเป็นคนที่ทางไฮเทคอัพเปอร์ส่งมาสังเกตการณ์โครงการวิจัยทั้งหมดใน Area TH ที่เจ็ด...แน่นอนว่า เธอก็ต้องมาดูฉันด้วย...”

“หือ? แค่นี้เหรอ?”

“ใช่ ฉันรู้แค่นี้แหละ...มันตรงกับเรื่องที่นายอยากรู้หรือเปล่าล่ะ?”

“ก็...ตรงบ้างนะ”

“บ้าง!? เฮ้อ...ฉันจะไม่เซาซี้ถามนายล่ะกัน แค่เรื่องของฉันก็จะบ้าตายอยู่แล้ว”

“ขอโทษที่ทำให้เธอคิดแบบนั้น”

“ไม่หรอกๆ เอ่อ มีอีกเรื่องหนึ่ง”

“เรื่องอะไร?”

“เมงุมิกับพ่อของเธอที่เป็นซีอีโอนะ...เป็นไปได้อย่าเข้าใกล้กับพวกเขา”

“ทำไม?”

“มีอะไรบางอย่างที่ฉันสัมผัสได้จากทั้งสองคนนั้น...ว่าพวกเขาเป็นตัวอันตราย”

“อ่า...อือ ฉันจะจำไว้ล่ะกัน”

“มีอะไรอีกเปล่า? เดี๋ยวฉันจะเช็คอินแล้ว”

“อือๆ ไม่ล่ะ โชคดีนะ”

“นายก็เหมือนกัน”

 

และนั่นก็คือบทสนทนาสุดท้ายกับอิลลูชั่นก่อนที่เธอจะจาก Area TH ที่เจ็ดไป

 

‘เหมือนว่าเฟียน่า...เฮ้ย อิลลูชั่นจะไม่ชอบขี้หน้าทั้งพ่อทั้งลูกเลยแฮะ คงเป็นแบบนั้นแน่ๆ’

 

พีถอนหายใจก่อนที่จะพบว่า มีคนเดินมานั่งข้างๆ เขาเลยหันไปดูถึงกับช็อค

 

‘มิซากะ เคนชิโร่!’

 

พีรีบหันหน้าไปอีกทางอย่างร้อนรน

 

‘ทำไมฉันซวยได้ขนาดนี้นะ!?’

 

◊◊◊

 

“แฮ่กๆ แฮ่ก แฮ่ก”

 

เฟทก้มหน้าหายใจหอบ เพราะเธอวิ่งมาไม่หยุดจนถึงหน้าสำนักงานการ์เดี้ยนเขตกลาง Area TH ที่เจ็ด เหตุที่วิ่งมาแทนจะขับมารถ เพราะการจราจรติดขัดอย่างมาก

 

“...ถึงสักที...”

 

‘ที่ๆ เขาอยู่ล่าสุดหลายวันก่อน ฉันจำได้...’

 

เฟทค่อยๆ เดินขึ้นบันไดจับพิงกำแพงไว้ไม่ให้เผลอล้มลงกับพื้น จนถึงชั้นสองซึ่งเป็นชั้นของสำนักงานการ์เดี้ยน เธอหมุนลูกบิดประตู

 

แก๊กๆ

 

‘หือ!? ล็อค?’

 

เฟทหมุนลูกบิดไปมาหลายรอบแล้วเอาหน้าแนบกับกระจกตรงประตูเพื่อที่จะส่องว่าใครอยู่ข้างในบ้าง ซึ่งภายในห้องปิดไฟและไม่มีใครอยู่ เฟทเลยเตะเข้าให้ที่ประตู

 

“โธ่โว้ย!”

 

‘ไม่รู้จะไปหาที่ไหนแล้ว!!’

 

เฟทเดินลงบันไดมาอย่างอ่อนแรง ก่อนที่จะโซเซไปยังหน้าร้านคาเฟ่ที่อยู่ใต้สำนักงาน เอาหลังพิงกระจกใสขนาดใหญ่ของร้านไว้

 

‘หัวหน้าแว่น...ทำไมถึงทำแบบนั้นนะ...’

 

ก๊อกๆ

 

เสียงเคาะกระจกดังจากข้างหลังเฟท เธอพลิกตัวไปดู ก็พบกับชายที่โพกผ้าพันหัวสีขาว ทำหน้าดุ ชี้ที่กระจกแล้วสะบัดมือเป็นการส่งสัญญาณว่า ‘ห้ามพิงกระจกของร้าน’ เมื่อเฟทเห็นแล้วก็ก้มหัวขอโทษ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปเห็นทีวีในร้านที่ถ่ายทอดสดบรรยากาศงานแห่งหนึ่งที่มีข้อความเขียนว่า ‘งานแถลงข่าว: World General ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ณ Area TH-7’

 

‘นั่นมันที่งานนี่น่า’

 

เฟทมองภาพในทีวีนั้นไปเรื่อยๆ จนมีจังหวะหนึ่งกล้องถ่ายทอดสดได้ตัดไปยังส่วนที่นั่งแขกสำคัญ ซึ่งเป็นละแวกทางขาวของเวทีและเธอก็เห็นคนๆ หนึ่ง ผมสีน้ำตาลยาวถึงบ่า นัยน์ตาสีแดงข้างสีน้ำตาลข้าง

 

‘โอ้...ไม่นะ นั้นมันเป้าหมาย...แล้วไปอยู่ที่แบบนั้นได้ไง!’

 

เธอยืนนิ่งสักพักก่อนที่จะหันไปทางท้องฟ้าที่มียานแม่ ‘มอชชินนี่’ ลอยฟ้าอยู่เหนือสนามบินดอนเมือง โดยมีเครื่องบินและยานบินขนาดเล็กมากมายบินโดยรอบ

 

‘ฉันเพิ่งวิ่งมาจากที่นั้นเองนะ...ต้องวิ่งกลับไปอีกแล้วเหรอ?

แต่ยังไงซะ...ฉันต้องขัดขวางพวกเขาให้ได้!’

 

เฟทสูดลมหายใจเต็มปอดก่อนที่จะออกตัววิ่งไปทางยานแม่ของเวิลด์เจเนรัล

 

◊◊◊

 

[12:05] [10/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ตึกสูงแห่งหนึ่งห่างจากสนามบินดอนเมืองสี่ร้อยเมตร]

 

‘ทำไม...ให้มาซุ่มยิงแบบนี้อีก เพื่ออะไร?’

 

เมงุมิได้แต่คิดอยู่ในใจ พูดออกมาไม่ได้ ในขณะที่ร่างกายเธอกำลังนอนเล็งปืนสไนเปอร์ไปทางงานแถลงข่าวของเวิลด์เจเนรัลที่มียานแม่ ‘มอชชินนี่’ ลอยอยู่น่านฟ้า เห็นผู้คนและนักข่าวมากมายผ่านลำกล้อง

 

‘พ่อค่ะ...แค่ทำร้ายผู้หญิงคนนั้นยังไม่พออีกเหรอคะ?’

 

เมงุมิพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมร่างกายตนเองไม่ให้ทำตามคำสั่งที่ถูกส่งผ่านในชิฟที่ฝังอยู่กลางศีรษะ แต่มันไร้ผล

 

‘ตั้งแต่ทีมวิจัยของท่านพ่อปรับของที่อยู่บนหัวใหม่ ร่างกายไม่ยอมฟังคำสั่งฉันเลย...แม้แต่ส่งพลังจิตติดต่อหาพียังไม่ได้...ทั้งๆ ก่อนหน้านี่ยัง---’

 

แล้วเมงุมิเห็นบางสิ่งที่สะท้อนในลำกล้อง เป็นก้อนใสๆ สีแดงที่ถูกฝังอยู่บนหน้าผากของเธอ...

 

‘ตั้งแต่เจ้านี่มาติดบนหัว...ใช้พลังจิตไม่ได้...มันเหมือนกับแร่คริสตัลซันชายน์แต่เป็นสีแดง’

 

ระหว่างนั้นมือไม้ของเธอเริ่มขยับเองอีกครั้ง เหมือนกำลังส่องหาใกล้บางคน ในที่สุดก็เจอคนที่เจอรู้จักซึ่งกำลังจะนั่งลงบนเก้าอี้

 

‘คุณพ่อ...’

 

และเธอก็พาลนึกถึงคำพูดเสียงสั่นๆ ของพ่อเธอหนึ่งที่เธอได้ยินหลังฟื้นมาใหม่ๆ หลังจากเหตุการณ์เครื่องบินระเบิด

 

ลูกฉันตายไปแล้ว...ตายไปแล้ว...หึหึๆ แบบนี้สิดี...เอาเธอเข้าโปรเจคมิซากะซะ!!”

 

‘ทำไมกัน...ทำไมพ่อทำกับหนูแบบนี้

เพราะเรื่องที่ Area RU งั้นเหรอ...’

 

น้ำตาของเธอไหลพรากออกมา ก่อนที่นัยน์ตาสีฟ้าจะเบิกกว้างเพราะเห็นคนที่เธอรู้จักอีกคนอยู่ข้างๆ พ่อของตัวเอง

 

‘พีคุง!’

 

◊◊◊

 

“ลำดับต่อไป จะเป็นการคำแถลงการสถานการณ์ปัจจุบันจากองค์กรการ์เดี้ยน ขอเรียนเชิญ หัวหน้าการ์เดี้ยนสาขา Area TH ที่เจ็ด คุณไลพ์ จาร์วิส ครับ”

 

นั่นคือคำกล่าวนำของพิธีกรของเวิลด์เจเนรัลที่ประกาศบนเวที ไลพ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทอมมี่ลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้ามาบอกบางอย่างกับพี

 

“พอฉันเรียกคุณ ก็ค่อยขึ้นไปนะ”

“อือ”

 

พีพยักหน้ารับ

 

‘อ้าว!? ไม่ได้ขึ้นพร้อมกันเหรอ?’

 

พีถอนหายใจก่อนที่จะมองไลพ์เดินไปยังแท่นที่มีไมค์ตั้งอยู่ และเธอเริ่มกล่าวคำสุนทรพจน์

 

“ดิฉัน ไลพ์ หัวหน้าการ์เดี้ยนประสานสาขา Area TH ที่เจ็ดแห่งนี้ วันนี้ดิฉันมาเป็นตัวแทนเหล่าการ์เดี้ยนทั้งหลายที่ตอนนี้กำลังพยายามอย่างหนักที่จะฟื้นฟูเมืองแห่งนี้ จากการก่อการร้ายขององค์กรลับใต้ดินที่ชื่อว่า ‘ไอริส’ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การ์เดี้ยนได้ทำการ---“

 

ระหว่างนี้พีคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่

 

‘ตะกี้เห็นว่ามีปัญหาอะไรสักอย่าง เลยเลื่อนการแถลงข่าวของเวิลด์เจเนรัลออกไปอีกครึ่งชั่วโมง เลยให้องค์กรอื่นๆ ขึ้นมาพูดเกี่ยวกับเรื่องการฟื้นฟู Area TH ที่เจ็ดก่อน’

 

หลังจากที่คิดสรุปเสร็จ พีก็ฟังไลพ์ที่กล่าวไปเรื่อยๆ แต่แล้วคนข้างๆ กลับทำให้เขาสติหลุด

 

“เธอมากับการ์เดี้ยนหรือ?”

 

เคนชิโร่ถาม พีเกือบสะดุ้งโหยงทั้งตัว

 

‘โธ่...นึกว่าจะไม่สังเกตเห็นฉันแล้ว เห็นไม่มองมาทางนี้’

 

เขาถอนหายใจก่อนที่จะตอบโดยไม่หันไปสบตา

 

“ค่ะ”

“หึ...เธอตั้งใจหรือบังเอิญที่มาอยู่ที่นี่?” เคนชิโร่ถามต่อ

“...บังเอิญค่ะ”

“แล้วเป็นอะไรกับการ์เดี้ยน?”

“อาสาสมัครชั่วคราวค่ะ”

“ชั่วคราว...อ๋อ อยู่ในฐานะพลเมืองอยู่สินะ”

 

‘อะไรของเขาเนี่ย!? ถามอะไรฉันนักหนา...’

 

พีเคาะนิ้ว...ก่อนที่จะถามเรื่องที่เขาอยากจะรู้ ทั้งๆ ที่สถานการณ์แบบนี้ไม่ควรถาม

 

“เอาล่ะค่ะ คุณถามแล้ว ตาฉันถามบ้าง...คุณทำอะไรกับเมงุมิคะ?”

“เมงุมิ...” เคนชิโร่เงียบลงพักหนึ่งก่อนที่จะตอบ “วิวัฒ---”

 

“---ขอเชิญตัวแทนพลเมืองที่อาสาช่วยการ์เดี้ยน ขึ้นมาบนเวทีด้วยค่ะ”

 

ไลพ์พูดผ่านไมค์ บอกให้พีขึ้นมา ระหว่างนั้นมีเสียงตบมือและชัตเตอร์กล้องดังขึ้นมากมาย

 

‘หา!? ได้เวลาแล้วเหรอ...’

 

“ป่ะ พีจัง ขึ้นไปท่าสวยๆ เลย”

 

ทอมมี่หยอกเย้า ซึ่งตอนนี้พีไม่มีอารมณ์จะรู้สึกว่ามันขำหรือสนุกเลยสักนิด เขาลุกขึ้นยืนก่อนที่จะมีทีมงานของเวิลด์เจเนรัลนำทางไปขึ้นทางขวาของเวลา แล้วก็จัดเซตให้เขายืนอยู่ริมขวาและส่งไมค์อีกอันให้ ซึ่งไลพ์ยืนอยู่กลางเวที

 

‘เหอะๆ นึกว่าจะได้ยืนด้วยกัน...’

 

“เอาล่ะค่ะ ช่วยกล่าวเสียงจากพลเมืองที่เสียสละให้ความช่วยเหลือกับการ์เดี้ยน ณ ที่นี้หน่อยค่ะ”

 

ไลพ์พูดส่งให้พีรับช่วงต่อไป พียกไมค์ขึ้นมา ก่อนที่จะเริ่มร่ายบทที่เขาเตรียมไว้

 

“ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกความช่วยเหลือที่เข้ามาใน Area TH ที่เจ็ดแห่งนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเวิลด์เจเนรัล เอ็มแอลเอ การ์เดี้ยน และทุกๆ คนที่ฉันไม่ได้กล่าวถึง---“

 

พึ่บ!!

 

ระบบไฟฟ้าทั้งงานดับลง ทำให้ภาพโลโก้ของเวิร์ดเจเนรัลที่ฉายอยู่ข้างหลังหายไปและไมค์ไม่ติด

 

‘เวรแล้วไง...ทำไมมาดับอะไรตอนนี้?’

 

ระหว่างนี้ในงานเริ่มมีเสียงเอะอะโวยวายขึ้นเล็กน้อย และพีก็ใครบางคนในกลุ่มคนข้างหน้ากำลังโบกไม้โบกมือให้เขาอยู่

 

‘นั่นมัน เอช เจนนิก้าและนิฟนี่หว่า เหอะๆ เพิ่งมากันหรือไงเนี่ย?’

 

พีส่งยิ้มให้พวกนั้น ก่อนที่จะสังเกตเห็นใครอีกกคนที่อยู่ข้างๆ เอช เป็นผู้หญิงผมสีแดงยาว นัยน์ตาสีเหลือง อยู่ในชุดนักเรียนเขียวขาวของโรงเรียนซิสเซลกำลังโบกไม้โบกมือแล้วตะโกนคำแปลกๆ อยู่

 

“ก่อยอิ! ก่อยอิ! ก่อยอิ! ก่อยอิ!”

 

‘หา!? อะไรวะนั่น...แต่ผู้หญิงผมแดงคุ้นๆ แฮะ เหมือนเคยเจอกันที่ไหนหน่า!?’

 

พึ่บ!

 

เสียงไฟฟ้ากลับมาทำงานอีกครั้ง ก่อนที่จะมีเสียงแปลกๆ อะไรสักอย่างดังมาจากข้างหลังพี จนทำให้ทุกๆ คนสนใจไปดู

 

แค่กๆๆๆๆๆ

 

ภาพโลโก้ของเวิลด์เจเนรัลที่ควรจะกลับมาหลังไฟฟ้ามา แต่แล้วมันกลับไม่ใช่ มันกลายเป็นพื้นหลังสีเขียวสกปรกและมีข้อความสีขาวขึ้นปรากฎ

 

::::

:::Fact::::::::

:::::Darkside::

:Violence::::::

:::::Lie:::::::

::::Everything:

::Incoming:::::

:::::::::::::::

::::::Axiom-X::

::::

 

เมื่อพีเห็นแบบนั้นแล้ว คิดอย่างหงุดหงิด

 

‘โห้ยๆ เจ้าพวกนี้อีกแล้วเหรอ? กลุ่มแฮกเกอร์แอคเซียมเอ็กซ์...

แต่พอเห็นแล้ว คราวก่อนก็ยังไม่เห็นว่าจะเอาข้อมูลอะไรออกมาแฉเลยนี่หว่า หรือจะเป็นตอนนี้?

เหอะๆ เล่นกลางงานของเวิลด์เจเนรัลแบบนี้ ล่อเท้าเพียบแน่ๆ’

 

“เจ้าพวกนั้นมาป่วนจนได้”

 

ไลพ์เดินเข้ามาใกล้ๆ พีก่อนที่จะมองที่ภาพฉายที่ดับลง...ก่อนที่จะถ่ายคลิปวิดีโอหนึ่ง ซึ่งเคยถูกเผยแพร่เมื่อวันที่เกิดปรากฎการณ์พีทูไรซิ่ง นั่นก็คือภาพจากกล้องถ่ายทอดสดของไอริส ที่ถ่ายในขณะที่คนช่วยตัวประกัน ทำให้ใจของพีเต้นรัวๆ

 

‘ลางไม่ดี’

 

เขาถึงเจอสถานการณ์ที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจ แต่ยังคงเลือกที่จะทำนิ่งเหมือนไม่รู้เรื่องต่อไป เพราะภาพที่ฉายอยู่เป็นเขาที่ยังอยู่ในสภาพผู้ชายไว้ผมสั้น ผิวเสียคล้ำ มีรอยแผลเป็นอยู่บนหน้า ซึ่งต่างจากตอนนี้มาก พอคลิปนั้นพอจะใกล้ถึงเวลาที่สิ้นสุดการบันทึก กลับดับไปแล้วเปลี่ยนไปยังอีกมุมกล้องหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง แล้วเหตุการณ์ที่ควรไม่มีอยู่ในคลิปก่อน กลับปรากฎอยู่บนคลิปนี้โดยมันยังคงฉายต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งในภาพตอนนี้เรสเทียร์ได้ปรากฎขึ้นมาเป็นครั้งแรกที่เธอกั้นสะเก็ดระเบิดจากการถล่มของมิสไซต์

 

‘เฮ้ยๆ อย่าบอกนะว่า...’

 

และภาพนั้นยังค่อนดำเนินการเล่นต่อไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงที่เขากำลังส่งระเบิดไฮนิวตรอนของนาธานขึ้นอยู่ฟากฟ้าด้วยลำแสงสีฟ้านั่น ยาวจนล้ำแสงนั้นกลายเป็นสีแดงและในที่สุดลำแสงนั้นก็หายไป ปรากฎร่างคล้ายผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาแทนทีคนเก่า ไว้ผมสีน้ำตาลยาวถึงบ่า นัยน์ตาข้างขวาสีแดง ข้างซ้ายสีน้ำตาล รอยแผลบนใบหน้าหายไป ผิวพรรณดูสดใสมากขึ้น เป็นคนๆ เดียวกับบนเวที ณ ตอนนี้ ทำให้ทุกๆ คนในงานพากันจดจ้องมาที่เขาคนเดียว แม้แต่ไลพ์ที่อยู่ข้างๆ เธอมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด

 

‘อะไรกัน...ใครกันที่ถ่ายของพวกนี้ไว้? แล้วแอบตามฉันตั้งแต่เมื่อไร?’

 

ความสงสัยนั้นยังไม่ทันจะคลี่คลาย ภาพก็ถูกตัดต่อเล่นไปเรื่อยๆ ซึ่งมันปรากฎภาพกิจวัตร การเดินทาง สิ่งที่พีทำวันต่างๆ มากมายจนภาพนั้นจบลงด้วยการยืนสนทนาระหว่างเขาและเคนชิโร่ที่สุสาน ราวกับว่าเขาถูกแอบติดตามมาโดยตลอด

 

‘ไม่นะ...’

‘-พี่หญิง สถานการณ์ไม่ดีแล้วนะคะ-’

 

เรสเทียร์ที่ตื่นตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เตือนพีผ่านทางจิต

 

‘ฉันรู้...แต่ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงดี’

 

“คุณไอร่า...”

 

ไลพ์สะกดชื่อปลอมของพีขึ้นมา...ทำให้เขายิ้มขึ้นมาซึ่งไม่เข้ากับสถานการณ์สุดๆ ก่อนที่จะหันหลังไปบอกเธอ โดยเป็นทางที่ทุกๆ คนในงานเห็นเข้าได้อย่างสะดวก

 

“นั่นไม่ใช่ผมชื่อหรอกครับ”

“...จะจะจริงเหรอ...” ไลพ์ถาม

“ครับ”

 

หลังจากนั้นก็มีเสียงชัตเตอร์รัวอย่างมากมายกระหน่ำมาทางเขา...และพีก็ได้ยินเสียงเก้าอี้ล้มลงดังจากการที่ใครบางคนตกใจลุกขึ้นพรวดออกมา ทำสีหน้าไม่น่าเชื่อมาทางเขา

 

‘คุณเคนชิโร่...’

 

“หนีไป!”

 

มีเสียงเด็กผู้หญิงตะโกนขึ้นจากในกลุ่มคนข้างหลัง ซึ่งทุกคนก็มองหาว่าต้นตอเสียงมาจากไหน สักพักก็มีเด็กผู้หญิงผมม่วงชุดสีเขียวที่มีกรอบแว่นตาสีเขียวอันใหญ่วิ่งฝ่าคนออกมาทางหน้าเวที

 

‘นั่นมันเด็กที่...ฉันจับไว้ตอนเนโอ-ไททันสไปเดอร์ออกอาละวาดนี่หว่า! แล้ว...มาที่นี่ได้ไง?’

 

เฟทที่กุมเข่าหอบเหนื่อยหายใจรัวๆ ต่อหน้าเขาสักพัก ก็เงยหน้าบอกเรื่องหนึ่ง

 

“คุณนะ รีบหนีไปซะ!”

“หนี!?” ไลพ์ทวน

“ฉันไม่ได้หมายถึงเธอ! นายคนนี้ต่างหาก...พี รีบหนีไปซะ มีคนกำลังจะฆ่านายนะ!”

“หา! ฆ่าฉัน!? คะ---”

 

ป๊าง!

 

พีกำลังจะถามต่อว่าเป็นใคร แต่แล้วโดนอะไรบางอย่างตีเข้าที่ต้นคอข้างซ้ายจนเขาล้มลงไปด้วยความเจ็บ แต่ยังคงสติไว้ได้อยู่ พีเงยหน้ามองขึ้นไปเป็นผู้หญิงผมสั้นสีชมพูคนหนึ่ง นัยน์ตาสีม่วง ใส่ชุดสีเหลืองน้ำเงินรัดรูป มีตราของเวิลด์เจเนรัลอยู่ ที่กลางอกเธอมีอะไรบางอย่างกลมๆ สีฟ้าหมุนอยู่ ที่ข้อมือและข้อเท้าก็เช่นกัน เธอคนนั้นหยิบปืนพกสีขาวสองกระบอกขึ้นมาเล็งที่เขา แล้วลั่นวาจาสั่งเสีย

 

“ได้เวลาตายแล้ว! ไอ้ตัวเกะกะขวางทางอนาคตของพวกเรา!”

 

ปัง!

 

เสียงปืนดังสนั่นลั่นที่มาพร้อมกับกระสุนแสงสีแดงพุ่งเข้าที่กลางหน้าอกที่มีลูกกลมสีฟ้าจากยอดตึกแห่งหนึ่งที่ไกลออกไป คนที่ถูกยิงลอยกระแทกเข้ากับผนังข้างหลังด้วยแรงกระแทกของกระสุน แต่กระสุนนั้นกลับไม่ทะลุฝังแน่นไว้ในลูกกลมสีฟ้า ทุกคนที่อยู่ในงานแตกตื่นวิ่งหนีตายทันที พีที่ยังตั้งตัวไม่ได้เพราะชาไปทั้งตัวพยายามขยับตัวเองให้ลงจากเวทีจนกลิ้งตกลงไป เรสเทียร์บินออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ

 

“พี่หญิง! เดี๋ยวเรสเทียร์พาหนี---“

 

“ฟิโอน่า!”

 

ผู้ถูกปืนสไนเปอร์ยิงตะโกนเรียกอะไรบางอย่าง เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา มีหุ่นเหล็กขนาดใหญ่สูงสามเมตรสีเหลืองขอบน้ำเงินกระโดดออกมาจากข้างหลังเวทีข้ามหัวห่างพีไม่กี่เมตร หุ่นเหล็กตัวนั้นหันหลังให้แล้วที่ต้นแขนขวามีกระบอกปืนยักษ์อีกด้วย

 

“จัดการมือปืนซะ!”

 

ลำแสงสีเหลืองถูกยิงออกไปจากกระบอกปืนยักษ์ใส่กลางตึกสูงแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปสี่ร้อยเมตร เพียงไม่วินาทีตึกนั้นถล่มลงมาและเห็นมีแสงสีฟ้าเล็กบินออกไป

 

“ล่ามัน!”

 

ใต้เท้าและแผ่นหลังของหุ่นที่มีชื่อว่าฟิโอน่ามีไอพ่นพุ่งออกมาพร้อมกับยานบินหลายสิบลำที่ออกมาจากยานแม่มอชชินนี่บินออกไปทางตึกที่ถล่ม พีที่ทัวแต่ตะลึงกับภาพที่เห็นถูกผู้หญิงที่ฟาดเข้าที่หลังเอาปืนจ่อกะโหลก

 

“เหอะ เรามาทำเรื่องให้มันจบๆ กันเถอะ พี”

“รันเนอร์!”

 

เอชตะโกนเรียกชื่อคนที่กำลังจะฆ่าพี ซึ่งเขาแปลกใจว่าเอชยังไม่หนีไป คนที่ถูกเรียกชื่อทำสีหน้างุนงงก่อนที่จะเลิกคิ้วเพราะจำคนตรงหน้าได้

 

“เอช!?”

 

ครืน! ครืน! อือ!

 

ท้องฟ้าดังก้องกังวานตอบรับการมาของวัตถุบางสิ่งเหนือแร่คริสตัลชายน์ดอกบัวขนาดยักษ์ ออร่าสีฟ้าที่รายล้อมเหนือสิ่งนั้นค่อยๆ ปรากฏบางสิ่งที่สร้างความตะลึงให้พีอีกครั้ง เมืองลอยฟ้าทรงหยดน้ำขนาดมหึมากว่าตัวแร่คริสตัลชายน์ใต้ล่างหลายร้อยเท่าจุดสูงสุดนั้นมีป้อมกราการขนาดใหญ่ที่ชี้เด่นเป็นสง่าและเพราะสิ่งนี้ทำให้รันเนอร์ร้องเสียงหลง

 

“หา! ทำไม? ทำไมป้อมปราการลอยฟ้าชินโคเซ็นถึงมาที่นี่ได้!?”

 

‘ชินโคเซ็น? คือเจ้านั่นเหรอ?’

 

พีเงยหน้าจ้องสิ่งนั้นอย่างถี่ถ้วนเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน และเห็นแสงสีฟ้าพุ่งออกจากตัวเมืองลอยฟ้าจำนวนมากรอบทิศทาง ซึ่งแสงนั่นไปประจบที่ไหนก็เกิดระเบิด เรสเทียร์เห็นสถานการณ์ปั่นป่วนเช่นนี้เร่งให้พีหนีไปก่อนที่ลำแสงสีฟ้าอันหนึ่งพุ่งมาทางที่พวกเขาจนเกิดระเบิดขึ้น

 

-‘พี่หญิง! หนีเร็ว!’-

 

◊◊◊

 

คุยกับคนเขียนกันนะ >_<

จบลงไปแล้วสำหรับปัจฉิมบท EP.1 Two Weeks Beginning สองสัปดาห์แห่งการเริ่มต้นนะจ๊ะ

ในที่สุดก็เขียนจบสักที...อ่า หมายถึง EP. 1 นะ ฮ่าๆ

เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก การผจญภัยอันแสนวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น!!

ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ

By Spy442299 & Nattanan Srising

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา