P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

8.1

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.

  46 chapter
  28 วิจารณ์
  49.41K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

39) อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 10 [ผู้ใช้ภาพมายา]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
P.P. Rising: The Bullet Time
เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

Ch.33 อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 10 [ผู้ใช้ภาพมายา]

Rewrite V.3
 
◊◊◊
 
[10:21] [06/01/2058]
[Area TH-7 เขตตะวันตก, Yellow Zone, เหมืองถ่านหินชั้น B5]
 
“พอฉันให้สัญญาณ บุกเข้าไปพร้อมๆ กันนะ ฉันข้างหน้า เอริสกับเหม่ยซิงทางขวา ทอมมี่กับพีทางซ้าย”
 
เฟียน่าผมยาวสีแดงที่มือซ้ายขับลูกบิดประตูพร้อมเปิดและมีลูกบอลสีทองเหลืองลอยสามลูกอยู่รอบตัวเธอ บอกแผนเสร็จสับ ตอนนี้พวกเขาเข้ามาส่วนที่ลึกที่สุดของเหมืองถ่านหินที่เป็นส่วนสถาบันวิจัยของไฮเทคอัพเปอร์ภายใต้การดูแลของด็อกเตอร์ลากัซ สถานที่ที่ว่ามียาถอนพิษของอิลลูชั่นและโซตะอยู่ แต่ทว่าตั้งแต่เข้าเหมืองมากลับไม่มีใครอยู่เลย ยกเว้นตรงหน้าประตูเขา ดูเหมือนมีร่องรอยการต่อสู้เยอะพอสมควร
 
‘ชักไม่แน่ใจแล้วว่า นี่มันเป็นกับดักหรือเปล่า?’
 
พีคิดก่อนที่จะเห็นสัญลักษณ์นับถอยหลังของเฟียน่าที่ชูห้านิ้วขึ้นมา ค่อยๆ ลดลงทีละนิ้วจนไม่เหลือ เธอบิดประตูเปิดออกเข้าไปในห้องนั้นทันที ทุกๆ คนพากันรีบแห่เข้าไป ตั้งท่าเตรียมประจันหน้า ภายในห้องนั้นเป็นห้องโถงเหล็กขนาดใหญ่กว้าง 20x30 ตารางเมตร บนพื้นที่เศษซากคล้ายหุ่นยนต์กระจายเต็มพื้นไปหมด และมีผู้หญิงผมแดงคนหนึ่งที่นั่งพิงเสาเหล็กทางขวามือ สภาพเธอเหมือนจะเจ็บไปทั้งตัว บนใบหน้ามีรอยช้ำหลายจุดๆ มีเลือดไหลออกจากปาก มือทางขวาของเธอกำมีดสามแฉกของอิลลูชั่นไว้หนึ่งอันอยู่ และแผ่นหลังเธอสะพายดาบไม้ไผ่ไว้ เมื่อเฟียน่าเห็นเธอแล้วรีบวิ่งกู่เข้าไปหา
 
“แม่!!”
“คุณเฟลิกซ์!”
 
ทอมมี่ว่าตามที่เห็นแล้วเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พีและคนอื่นๆ ก็ตามมาเช่นกัน
 
“เฟีย...น่า”
“แม่อย่าเพิ่งตายนะ!” เฟียน่าตะคอก
“จะ...บ้าหรือไง” เฟลิกซ์ทำเสียงดุ “แค่เจ็บตัวจนลุกไม่...ไหวแค่นั้นเอง...ทอมมี่ ขอยืมไหล่หน่อย”
“อ่าครับๆ”
 
ทอมมี่เดินเข้าไปทางซ้ายของตัวเฟลิกซ์ ก่อนที่จะประคองตัวโอบไหล่ขึ้นมา
 
“แม่อยู่ที่นี่ได้ไงคะ?” เฟียน่าที่ไม่รู้ถาม
“ก็...มาช่วยเด็กนั้นด้วยกันนะ”
“เด็กนั้น!? ไอ้ตัวก็อบปี้...บังอาจพาแม่ฉันทำเจ็บตัวแบบนี้---“
“อย่าไปโทษเด็กคนนั้นเลย...แม่ดึงดันที่จะมาเอง” เฟลิกซ์ยิ้ม “ว่าแต่ไอ้หุ่นบ้านั่นทำฉันเจ็บตัวเป็นบ้า”
 
พีมองรอบๆ ตัวหาคนที่อาจจะอยู่ด้วยกัน แต่ไม่เจอ
 
“คุณเฟลิกซ์ แล้ว...เฟียน่าอีกคนล่ะ?”
“อ้าว...พี มาด้วยหรือ? เด็กนั้นนะ อยู่ข้างหลังประตูเกทสามอันใหญ่ (Gate-3) ตรงนั้น”
 
เฟลิกซ์ใช้มือขวาที่ถือมีดของอิลลูชั่นชี้ไปขวามือที่มีประตูเหล็กขนาดใหญ่มหึมาปิดกั้นราวกับเป็นกำแพงขวางไว้ โดยมีตัวอักษรสีขาวขนาดใหญ่ว่า ‘Gate-3’ พีเดินตรงไปที่หน้าประตูเป็นคนแรก พยายามมองหาสวิตซ์แถวๆ นั้น คนอื่นถยอยตามกันมา ก่อนที่เฟลิกซ์บอกเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
 
“เด็กคนนั้นเข้าไปหลังประตูนะ ตอนแรกมันเปิดอยู่นะ แต่พอเข้าไปแล้วกลับปิดเอง นี่มันก็นานแล้วที่เด็กนั่นยังไม่ออกมาเลย”
“แล้วหลังเจ้านี่มันมีอะไรคะแม่?” เฟียน่าถาม
“น่าจะเป็นตัวยาถอนพิษที่เด็กคนนั้นว่าไว้”
 
วิ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!
 
ทันทีที่เฟลิกซ์ตอบเสร็จ มีเสียงไมค์หอนดังไปทั่วบริเวณ พีเอามือปิดหูก่อนที่จะหันไปดูข้างบนรอบๆ ก็เจอกับลำโพงคล้ายเทเลโข่งตัวหนึ่งสีเหลืองและกล้องวงจรปิดติดอยู่เหนือหัว พอเสียงไมค์หอนนั่นเงียบไป ก็มีเสียงชายแก่คนหนึ่งเข้ามาแทน
 
“จุ๊ๆๆๆๆ มากันเป็นหมู่คณะเลยนะ พวกเธอ”
 
เมื่อเฟียน่าได้ยินเสียงนั่นแล้ว ตาเธอโตขึ้นมา ส่วนเฟลิกซ์ส่งเสียงร้องในลำคอ
 
“หึ...เสียงแกยังน่าขยะแขยงเหมือนเดิมนะ ลากัซ”
 
‘ลากัซ!? เสียงนั่นเหรอ? คือด็อกเตอร์ลากัซ’
 
พีจดจำเสียงนั่นบันทึกลงสมองไว้อย่างดี และแล้วเสียงของลากัซก็เริ่มสู่ช่วงต่อไป
 
“หึ คนที่มากับอิลลูชั่น...นึกว่าใคร คุณเฟลิกซ์ ดิฟเฟอร์ รักษาการณ์แทนหัวหน้าปฏิบัติการณ์ภาคสนามเอ็มแอลเอ Area TH ที่เจ็ดนี่เอง...โอ้ๆ ข้างๆ นั่นมัน เจเนซิสไลท์ เฟียน่า ดิฟเฟอร์ มาทั้งแม่ทั้งลูก”
“แก!” คนที่ถูกเรียกว่าเจเนซิสไลท์ตะคอกเหนือหัว “ถ้ารู้ว่าทำกับแม่ฉันแบบนี้ น่าจะฆ่าแกตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว!”
“ขอบคุณความหวังดีจากเธอซะจริงๆ เจเนซิสไลท์ เออ...จริงสิ ผมต้องขอบคุณเธอมากๆ อีกเรื่อง ที่อยู่ให้เราเก็บข้อมูลพลังจิตของเธอทั้งนานสองนาน”
“เฮ้ยๆ แล้วแกรู้ตั้งแต่เมื่อไรว่าฉันเป็นสปายนะ!? ใช่เมื่อหลายวันก่อนหรือเปล่าเห็นส่งเจ้าพวก SP ประกบตามไว้”
“แหม ไม่ใช่แบบนั้นหรอก...หนึ่งเดือนก่อนที่เธอจะถูกส่งมาหาเราต่างหาก”
“หมายความว่า แกรู้ตั้งแต่แรก! หน่อยๆ แกมุดหัวอยู่ไหน!?”
 
เฟียน่าเดือดจัด ซึ่งพีคิดว่าเป็นเพราะเห็นสภาพบาดเจ็บของเฟลิกซ์ แม่ของเธอ ก่อนที่จะได้ยินเสียงอะไรบ้างอย่าง คล้ายเครื่องจักรไอน้ำแล้วตามด้วยเสียงลมพัดอย่างเป็นจังหวะผ่านลำโพง เฟียน่าได้ยินเสียงนั้นแล้ว เธอมีปฏิกิริยาผิดปกติ นัยน์ตาเบิกกว้าง อ้าปากค้าง และลั่นคำตอบที่เธอรู้จากเสียงนั้น
 
“ลากัซ...นี่แกอยู่ที่ป้อมปราการลอยฟ้าชินโคเซ็นแล้วเหรอ!”
 
‘ป้อมกราการลอยฟ้าชินโคเซ็น!? ชื่อนี้อีกแล้ว!’
 
พีที่ได้ยินชื่อสถานที่นี้บ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่ทำได้แต่เก็บความหงุดหงิดนั้นไว้ในใจ ด็อกเตอร์ลากัซกล่าวชื่นชมเฟียน่า
 
“หึหึ ฟังจากเสียงรอบข้างแค่นี้ก็รู้แล้วหรือ สมแล้วที่ถูกฝึกจากหน่วยข่าวกรอง WGT”
“ห๊ะ...นี่แกรู้มากจังนะ ลากัซ” เฟียน่าว่า
“ก็เธอเป็นตัวทดลองที่ผมจับตาดูอยู่นี่ครับ ต้องรู้ทุกๆ อย่างอยู่แล้ว”
“เลิกพล่ามสักทีเหอะ แกต้องการอะไร!?”
“ต้องการอะไร? ก็ขั้นตอนต่อไปของการทดลองไงครับ”
 
อ๊อด!
 
เสียงอ๊อดดังลั่นมาจากข้างหลัง ทุกคนหันไปดูพบว่า มีประตูเหล็กข้างบนขนาดใหญ่ ถูกดันปิดทางออกทางเดียวอย่างรวดเร็ว เท่ากับว่าทุกคนถูกขังในที่นี่เป็นที่เรียบร้อย
 
“ติดกับตาแก่เจ้าเล่ห์จนได้” เหม่ยซิงพูด
 
อ๊อด!
 
มีเสียงอ๊อดดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นทางประตูเหล็กใหญ่ Gate-3 ที่เฟลิกซ์บอกก่อนหน้านี่ว่าถูกปิดหลังอิลลูชั่นเข้าไป...ซึ่งประตูมันค่อยๆ ถูกเปิดอ้าออกเก็บเข้าด้านข้างช้าๆ ระหว่างนั้นด็อกเตอร์ลากัซที่บรรยายเพิ่มเติมกับสิ่งที่เขากำลังจะทำต่อไป
 
“พวกเธอคิดว่าเป็นใครกัน? คิดจะมาหยุดความยิ่งใหญ่ที่ผมกำลังจะสร้างมันขึ้นมา...เสียใจนะ แผนการถล่มที่เหมืองด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดนะ ต้องล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะที่นี่มันไม่มีสิ่งที่เวิลด์เจเนรัลต้องการให้มันหายไปหรอก ฮ่าๆ แต่ไหนๆ พวกเธอก็มาถึงที่นี่กันแล้ว ขอใช้ร่างกายทุกคนให้คุ้มค่าก่อนจะถูกฝังทั้งเป็น”
 
‘ฝังทั้งเป็น!?’
 
พีคิดตามด็อกเตอร์ลากัซ
 
‘เฮ้ยๆ จริงสิ เฟียน่าบอกว่าอีกไม่นานจะมีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดที่นี่’
 
“เฟียน่า! สั่งไม่ให้เครื่องบินมาบอมไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้นะสิ มันเป็นโดรนเครื่องบินแบบสื่อสารทางเดียว...สั่งอะไรไป ยกเลิกกลางคันไม่ได้!”
 
‘หา! แบบนั้นก็...
เดี๋ยวก่อนๆ พวกเราทุกคนมีพลังจิตที่...น่าจะใช้หนีออกไปอยู่นะ’
 
เมื่อพีคิดแบบนั้นได้แล้วกำลังจะบอกเรื่องนั้นให้ทุกคน แต่แล้วประตูตรงหน้าที่กำลังเปิดก่อนหน้านี่ ถูกเปิดเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งข้างหน้าปรากฏให้เห็นร่างผู้หญิงผมแดงสั้นคนหนึ่งที่นั่งสับหงกก้มหน้าแบขาออก สภาพดูไม่ค่อยได้ ตรงข้างหน้ามีโหลแก้วขนาดใหญ่อยู่ข้างหลัง ที่ศีรษะเธอมีอะไรบางอย่างสีเหลืองครอบหัวอยู่ เฟลิกซ์เห็นแล้วพูดออกมา
 
“นั่นมัน...เด็กคนนั่น!”
 
‘เฟียน่า! ไม่ใช่สิ อิลลูชั่น...’
 
พีจะเดินเข้าไปหา แต่โดนเฟียน่าตัวจริงรั้งไว้
 
“เดี๋ยวก่อน...มันแปลกๆ”
“โธ่...” เสียงลำโพงดังขึ้นอีกครั้ง “ไม่เข้าไปหาคนสำคัญของพวกเธอสักหน่อยล่ะ?”
“นี่แกทำอะไรยัยก็อบปี้นั่น!?” เฟียน่าถาม
“เจเนซิสไลท์ เธอเสียมารยาทมากนะ ที่เรียกน้องสาวแบบนั้น”
“ไม่ใช่น้องสาว!” เฟียน่าตะโกน “มันเป็นของสกปรกที่แกทำขึ้นต่างหาก!”
“ของสกปรก? มันถือกำเนิดจากตัวเธอนะ หึ เอาเถอะ คุณเฟลิกซ์ ก่อนหน้านี่คงได้ยินบางแล้วสินะ เสียงกรีดร้องของอิลลูชั่น”
“แก...” เฟลิกซ์พูดสั้นๆ ที่ไม่รู้จักสรรหาคำด่าอะไร
“อยากรู้ไหม? ว่าเสียงนั่นผมทำอะไรกับเธอ ขอเปิดเครื่องก่อน”
 
ทันใดนั้นร่างกายของสาวผมสั้นสีแดงนามว่าอิลลูชั่น ลุกขึ้นยืนขึ้นมาก่อนที่จะเงยหน้าขึ้น ปรากฎให้เห็นเครื่องที่สวมศีรษะของเธออย่างชัดเจนเป็นหมวกคลุมไปทั่วบริเวณหัวและมีส่วนที่เรียกว่ากระจกใสครอบปิดตาทั้งสองข้าง บนกระจกใสนั้นมีวงกลมสีแดงขนาดใหญ่ขึ้นมา มันทำให้ร่างกายของอิลลูชั่นสั่นไปทั้งตัว ทั้งมือทั้งขาและกัดฟันราวกับคนที่กำลังโกรธเกี้ยวอย่างรุนแรงและเขาเพิ่งสังเกตว่ามือข้างขวาของเธอถือมีดสั้นสามแฉกที่มีประกายไฟฟ้าอยู่ด้วยอันหนึ่ง เมื่อพีเห็นแบบนั้นเลยตะโกนถาม
 
“นี่แกทำอะไรกับเธอนะ!”
“หือ...ก็แค่มอบของเล่นให้เธอเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนไม่ให้ผมระเบิดกล่องเล็กดำๆ ข้างหลังเธอในหลอดแก้วทดลองนั่นนะ”
 
พีเพ่งมองไปยังหลอดแก้วข้างหลังที่ว่า ซึ่งตรงกลางนั่นมีแท่งสองแท่งที่จับกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำขนาดเล็กและข้างขวามีระเบิดแปะไว้อยู่
 
‘หรือว่าในนั้นจะมี...’
 
“ต้องชื่นชมในความใสซื่อของอิลลูชั่นจริงๆ พอผมจะขู่ว่าจะทำลายยาถอนพิษนั้น ก็ยอมทำตามที่ผมสั่งทุกๆ อย่าง”
“เฮ้ยๆ แล้วแกทำอะไรกับยัยก็อบปี้นั่นล่ะ!” เฟียน่าถาม
“เกือบลืมบอก...เครื่องที่เธอใส่อยู่เป็นหนึ่งในรุ่นทดลองของเครื่องควบคุมการสั่งงานของสมองโดยตรง...ตอนนี้ผมทำให้เธอคลั่งอยากจะฆ่าทุกๆ คนที่เข้ามาใกล้เธอในระยะห้าเมตรนะ”
“เลวระยำได้ใจฉันจริงๆ ลากัซ” เฟลิกซ์บอก
“เป็นคำชมที่ต้องขอน้อมรับไว้อย่างสุดซึ้ง...” ลากัซพูดเชิงยีย่วนกวนประสาท ก่อนที่จะเตือนเหม่ยซิงที่กำลังจะขยับตัวไปหาอิลลูชั่น “หยุด! ทุกคนอย่าขยับ ไม่งั้นผมจะระเบิดยาถอนพิษนั่นซะ”
 
ตอนนี้ทุกๆ คนต่างเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้ เอริสมองสายตาเหม่ยซิงแล้วพยักหน้า แต่เหม่ยซิ่งกลับส่ายหน้าแทนเหมือนจะตกลงอะไรสักอย่าง ส่วนพีที่ไม่ถูกจะทำเช่นกันกับสถานการณ์แบบนี้เลยถามความต้องการ
 
“แล้วแก...ทำแบบนี้ต้องการอะไร!?”
“ต้องการ!? ใช่ๆ ผมมีความต้องการอยู่แล้ว ถึงลงทุนสละฐานวิจัยที่นั่น...ผมแค่อยากทดสอบอะไรนิดๆ หน่อยๆ ใครดีหน่า?”
“แกพูดเรื่องอะไร!? อย่าบอกนะ หมายถึงอิลลู---” เฟียน่าว่า
“เธอคนผมน้ำตาล”
 
จู่ๆ ด็อกเตอร์ลากัซพูดถึงลักษณะกายภาพคนหนึ่งขึ้นมา ซึ่งในกลุ่มมีแต่พีคนเดียวที่มีผมเป็นสีน้ำตาล
 
‘เฮ้ยๆ เรียกฉันทำไม?’
 
“เดินไปข้างหน้าสิบก้าว” ลากัซสั่ง
“หา!” พียังไม่ทำตาม
“ถ้าไม่ทำตามที่สั่ง จะทำลายยานั่นทิ้งเดี๋ยวนี้”
“ก็ได้ ก็ได้!”
“พี...”
 
เฟียน่าพูดขึ้นแล้วจับไหล่ของเขาด้วยความเป็นห่วง พีพยักหน้าบอกใบ้ว่าไม่เป็นไรก่อนที่จะปัดมือเธอที่รั้งเขาไว้ลง เดินไปข้างหน้าสิบก้าวที่ตามโดนสั่ง ซึ่งทำให้ระยะห่างกับอิลลูชั่น ผู้หญิงที่เขาเจอตั้งแต่ที่สนามบิน คนที่คิดว่าตัวเองเป็นเฟียน่าอยู่ห่างเพียงสิบเมตร
 
“ผมขอเตือนคนอื่นไว้ก่อน ถ้าขยับตัวแม้แต่น้อย ทั้งยาและสมองของอิลลูชั่นได้ระเบิดเป็นชิ้นๆ แน่ โดยเฉพาะเจเนซิสไลท์ ห้ามใช้พลังนั่นเด็ดขาด” ลากัซขู่ “เอาล่ะ แม่เธอคนนั้น ชื่ออะไร”
“...พะ...ไอร่า!”
“ไอร่า...งั้นหรือ...ผมจำได้ เธอเป็นการ์เดี้ยนที่ไปโรงงานทางเหนือสินะ”
 
เมื่อพีได้ยินลากัซพูด ถึงกับบางอ้อ
 
‘โรงงานทางเหนือ...อ๋อ หุ่นยนต์นั่นเป็นฝีมือแก!’
 
“ช่วยกรุณาทำตามที่ผมจะบอกต่อไปด้วยนะครับ อยากจะทำให้แน่ใจว่าสิ่งที่เธอทำให้เห็นตอนนั้นเป็นจริงหรือไม่...เดี๋ยวผมจะสั่งให้อิลลูชั่นเข้ามาตัดเนื้อเธอเป็นชิ้นๆ และเธอก็ต้องฆ่าอิลลูชั่น”
“ฆ่า!?”
“ถ้าผมเห็นว่าเธออ้อมแรงล่ะก็ จะกดระเบิดหัวอิลลูชั่นซะ”
“ทำเพื่ออะไรเนี่ย!?” พีที่ไม่เข้าใจตรรกะของด็อกเตอร์ลากัซถาม
“การทดลองนะการทดลอง ผมขี้เกียจเล่ารายละเอียดให้ฟัง เอาเป็นว่าเริ่มกันเลยดีกว่า!”
 
จู่ๆ ด็อกเตอร์ลากัซพูดให้สัญญาณเริ่มต้นโดยที่พียังไม่ทันตั้งตัว ร่างกายของอิลลูชั่นขยับเดินมาข้างหน้าทีละก้าวอย่างลำบาก เหมือนเธอจะฝืนเดินมาก
 
“โอ้ๆ ปฏิเสธเครื่องคุมสมองได้ขนาดนี้ ทำได้น่าประทับใจมาก อิลลูชั่น” ลากัซว่า “คงต้องเริ่มระดับความแรงเข้าไปอีก”
“อ๊าก!”
 
อิลลูชั่นร้องลั่นกุมขมับขึ้นมา ก่อนที่จะปล่อยมือก้มหน้าลง เงยหน้ามองพีแล้ววิ่งเข้าใส่ เขากระโดดหลบข้างขวา ร่างของเธอพุ่งตัวเข้ามาจางหายไปอย่างรวดเร็ว
 
‘เดี๋ยวก่อนนะ สเต็ปแบบนี้มันเหมือนตอนแรกที่เจอ---’
 
พีที่รู้สึกตัวช้าไปจะเอี่ยวหลังมอง แต่แล้วก็ถูกมีดไฟฟ้าแทงเฉี่ยวเอวซ้ายจากข้างหลังเขาไป พีที่พลิกตัวหันไม่ถนัดแต่แรกเลยล้มลงไปกับพื้นแถมรู้สึกชาเล็กน้อยตรงที่ได้แผล อิลลูชั่นหยุดนิ่งชะงักชั่วครู่ ก่อนที่จะหันมามองเขา
 
“โอโอ้ จะจบแล้วหรือนี่...” ลากัซกล่าว
“จบงั้นเหรอ? ยังหรอก!”
 
พีใช้พีทูควบคุมลมของเขา สร้างลมรอบขาก่อนที่จะดันกับพื้นสไลด์ไปข้างหลังเพื่อหลบคมมีดไฟฟ้าของอิลลูชั่นที่กำลังจะง้างขึ้นปักกลางอกเขาทันอย่างเฉียวเชียด เขาลุกตัวขึ้นมาพบกับเศษเหล็กชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งกำลังลอยมาทางเขาจากฝีมือของอิลลูชั่นที่ไปหยิบแถวนั่นขว้างมา ซึ่งไม่มีเส้นสีแดงพลังของเรสเทียร์ขึ้นเตือน แต่ด้วยสัญชาตญาณของเขา มือขวารีบรวบรวมลมให้มากที่สุด แล้วปัดเศษเหล็กนั้นไปทางขวาปักกับกำแพง ด็อกเตอร์ลากัซเห็นแบบนั้นแล้วเลยก็พูดทักทาย
 
“เธอ...มีพลังจิตด้วยหรือ? น่าสนใจดีนิ พลังของเธอเป็นแบบไหนกันหรือ?”
“แล้วทำไมฉันต้องบอกแกด้วย!”
“งั้นผมคงต้องระเบิดหัวอิลลูชั่นทิ้ง”
“ลม! ควบคุมลม” พีรีบบอกทันที ก่อนที่จะกระโดดหลบอิลลูชั่นที่วิ่งเข้ามาฟัน
 
‘ทำไงดีเนี่ย...จะถึงหยุดทั้งเธอและเจ้าลากัซนั้นได้...’
 
พีมัวแต่คิดมากไปหน่อยเลยไม่ทันสังเกตว่าคู่ต่อสู้ของเขาได้หายไปแล้ว พีกวาดสายตารอบตัวสักพัก...ก็มีร่างของเธอปรากฏขึ้นมาต่อหน้าในระยะสามเมตรแล้วค่อยๆ เดินเข้ามาช้าๆ แต่เขากับได้ยินเสียงของเธอดังขึ้น พีตั้งใจฟังทิศทางมาของเสียงนั้น
 
“ฆ่าฉัน...ฆ่าฉัน...พี...ฆ่าฉัน...”
 
‘ข้างหลัง!’
 
พีเผลอใช้ศอกขวากระทุงสุ่มไปข้างหลัง เข้าที่ท้องของอิลลูชั่นที่ล่องหนอยู่เต็มๆ จนเธอเผลอปล่อยมีดสามแฉกไฟฟ้าหล่นกับพื้นไป พีรีบวิ่งเข้าไปที่อาวุธนั้นแล้วใช้พลังจิตลมส่งมีดนั้นกระเด็นไปอีกทาง แล้วหันกลับมาก็พบว่าร่างปลอมก่อนหน้านี่หายจางไป
 
‘นี่ เธอยังมีสติพอพูดได้อยู่นี่หน่า!’
 
“ฆ่าฉัน...ฆ่าฉันที...ขะขะขอร้องล่ะ”
 
อิลลูชั่นพยายามสะกดคำพูดกล่าวนั้นอย่างสุดชีวิต ก่อนที่ลากัซจะบ่น
 
“อิลลูชั่น ทำไมเธอถือดื้ออยู่เรื่อยนะ?”
“อ๊าก!”
 
อิลลูชั่นร้องลั่นกุมศีรษะราวว่ามันเจ็บปวดมากอีกครั้งแล้วร่างกายเธอจะหายไปทันที แล้วอีกไม่กี่วินาทีต่อมา มีอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่หน้าทางขวาของพี
 
‘มองไม่เห็น..หมัดงั้นหรอ?’
 
พียังตั้งตัวไม่ทัน เลยโดนหมัดล่องหนเข้าที่หน้าอีกครั้ง ตามด้วยลูกถีบที่อิลลูชั่นเผยตัวออกมาเข้าที่ท้องของเขาจนล้มลงไปกับพื้น หัวเขากระแทกก้อนอะไรสักอย่างเลยทำให้ในหัวเบลอไปหมด แต่พอมองเห็นลางๆ ว่าคนที่ทำร้ายเขาเดินเข้ามาข้างซ้ายลำตัวแล้วยกเท้าซ้ายขึ้นมากระทืบเข้าที่หน้าอก
 
“อ๊าก!”
 
‘จุกชะมัด’
 
แล้วหลังจากนั้นพีก็ถูกกระทืบเท้าเข้าที่หน้าอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า สติที่เบลอจากการถูกของกระแทกที่หัวและความเจ็บปวดที่ท้องและหน้าอก ทำให้ขยับตัวไม่ได้ ในระหว่างนั้นมือขวาของพีที่เคยมีสีแดงคล้ายเส้นเลือดรอบๆ แผ่นกระจกได้หายไปหมดเรียบร้อย
 
‘ให้ตายสิ...พลาดท่าจนได้...
หือ!?’
 
พีเห็นน้ำตาของคนที่ทำร้ายเขาร่วงลงหล่นมาเป็นสาย...
 
‘นี่เธอ...’
‘-พี่หญิง! รีบใช้พลังเลยค่ะ!-’
 
เสียงเรสเทียร์ดังขึ้นก้องหัว พีที่ยังไม่รู้ว่าเรสเทียร์กลับมาคุยในใจกับเขาได้ยังไง แต่เขารู้ดีว่าตอนนี้ควรทำอะไรก่อน รีบพูดใช้พลังบลูเลตไทม์
 
“โฟกัส!”
 
และแล้วทุกๆ อย่างรอบตัวช้าลงไปถนัดตาและมีเสียงนาฬิกาเดินหนึ่งครั้ง เขาค่อยๆ พลิกตัวออกมา
 
“โฟกัส!”
 
พีพูดเพื่อต่อเวลาเพราะมันผ่านเกือบห้าวินาทีก่อนที่พลังจะหยุดทำงาน เขาค่อยๆ ประคองตัวลุกขึ้น
 
‘-พี่หญิง...-’
‘เรสเทียร์!? หายไปไหนมา... ’
‘-เอาไว้ก่อนเถอะค่ะ ตอนนี้พี่หญิงรีบทำให้เธอสลบก่อนน่าจะดีกว่า-’
‘สลบ? จริงสิ... ’
 
“โฟกัส!”
 
พีใช้พลังบลูเลตไทม์ต่อเนื่องอีกครั้ง แล้วเดินไปยังตรงหน้าอิลลูชั่น เพื่อเรียกปืนกระบอกนั่นขึ้นมา
 
“เอ๊กซ์แทรคกัน! (Extract Gun)”
 
มีลำแสงออกมาจากฝ่ามือขวาของเขา ซึ่งพีเพิ่งสังเกตว่ารอยสีแดงก่อนหน้านี่ได้หายไปแล้ว กลุ่มก้อนแสงสีฟ้ารวมตัวกันจนเป็นปืนกระบอกขาว คว้ามันด้วยมือขวาแล้วยกขึ้นเล็งที่ศีรษะของอิลลูชั่น
 
“โฟกัส!”
 
พีใช้พลังบลูเลตไทม์เป็นครั้งที่สี่ติดต่อกัน กดเหนียวไกค้างไว้เพื่อชาร์จพีทูจากตัวเขาขึ้นมาที่ปลายกระบอกปืน
 
‘ขอโทษนะ ที่ต้องทำเธอเจ็บตัว...อิล...เฟียน่า...’
 
ฟู่ว!!
 
พีปล่อยไกปืน ทำให้ลมที่รวมตัวจำนวนมากก่อนหน้านี้เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ ลอยเข้าปะทะอิลลูชั่นจนกระเด็นไปยังกำแพงอีกฝั่งจนมีควันขึ้นเต็มไปหมด เวลารอบตัวกลับมาเดินเป็นปกติ ทุกๆ คนที่จับตาดูเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ทัน มองด้วยสีหน้าตะลึง
 
‘จบแล้วใช่ไหม?’
 
พีหายใจหอบอย่างหนักและเขาก็มองไปยังกลุ่มควันเบื้องหน้า...รอคอยจนควันนั้นหายไป พบกับร่างของอิลลูชั่นที่นอนอยู่และเครื่องควบคุมที่สวมหัวหลุดออกมาพังเป็นส่วนๆ
 
‘สำเร็จ!’
‘-ค่อยอย่างชั่ว-’
 
เสียงเรสเทียร์ถอนหายใจ
 
‘เรสเทียร์ ขอบคุณที่มาทันเวลานะ’
‘-เรสเทียร์ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ที่หายไป...-’
 
“นี่เธอ...ทำได้ยังไง?” เสียงวิตกกังวลอย่างชัดเจนของด็อกเตอร์ลากัซ “...เคลื่อนที่ไวขนาดนั้น และปืนกระบอกนั่นมัน...”
“หึ...” พีเสยผม “อย่างที่แกเข้าใจนั่นแหละ”
“ธะเธอเองเหรอ...เธอนั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆๆ” ด็อกเตอร์ลากัซหัวเราะ “ไม่ต้องเสียเวลาตามหาอีกต่อไปแล้ว...วางอาวุธนั่นลงและคุกเข่าซะ! ไม่งั้นจะระเบิดเจ้ายาถอนพิษ!”
“ไม่! โฟ---”
 
พีปฏิเสธเสียงแข็งและจะใช้พลังบลูเลตไทม์ทันทีเพื่อที่จะรีบไปคว้าเจ้ากล่องดำช่วยสองชีวิตนั่น แต่แล้วเขากลับชะงักลงเพราะไม่เห็นกล่องนั้นแล้ว
 
‘หายไปไหน!? หรือว่าตกลงไปแล้ว?’
 
“ปฏิเสธเสียงแข็งเลยนะ คุณวีรบุรุษแห่ง Area TH ที่เจ็ด...งั้นชีวิตของอิลลูชั่นจงดับสูญไปซะ! เฮ้ย! กล่อง...กล่องนั่นหายไปไหน?”
 
ด็อกเตอร์ลากัซร้องตกใจ เมื่อไม่พบกล่องที่ใช้เป็นตัวประกันแล้ว
 
“อยู่นี่!”
 
เอริสตะโกนเรียนทุกๆ คนให้หันมามองกล่องที่เธอเหนือหัวอยู่
 
‘คุณเอริส ทำไมถึง...จริงสิ เธอมีพีทูเทเลพอตเลยแอบวาปหายตัวไปหยิบมา’
 
พียิ้มก่อนที่จะตะโกนบอก
 
“ขอบคุณมากๆ นะครับ คุณเอริส”
“เรียกฉันว่า เอริสซ่าสิค่ะ!”
 
เอริสแสดงท่าทางงอนอย่างชัดเจนด้วยการยืนเท้าเอวแก้มป่อง เหม่ยซิงแอบขำ ส่วนคนอื่นๆ รู้สึกโล่งใจกันเป็นแถวๆ ก่อนที่เฟียน่าตัวจริงจะเดินเข้ามาหาพี
 
“พี...เป็นอะไรมากไหม?”
“ไหวครับ ยังไหวอยู่”
 
และแล้วด็อกเตอร์ลากัซเสนอข้อตกลงขึ้นมา
 
“เธอ...อยากมีพลังจิตที่แข็งแกร่งกว่านี้ไหม? ลองคิดดูสิว่า---”
 
ตูม!
 
มีลูกบอลสีทองเหลือง ลอยเข้าใส่กล้องวงจรปิดและลำโพงด้วยความเร็วสูงจนระเบิด คนที่ใช้พลังนั้นก็คือเฟียน่าตัวจริง เธอพูดส่งท้าย
 
“คำพูดพิษสงของแกนะ...ไม่มีใครเขาเชื่อหรอก”
“เจเร...ซิสไลท์” ลำโพงที่ใกล้จะพังดังขึ้น “ทำแบบนี้...เธอต้องเสีย...ใจภายหลังแน่ ขอบอกไว้ก่อน อีกไม่กี่วันทุกอย่างจะต้องกลายเป็นของ---”
 
ตูม!
 
เจเนซิสไลท์ซัดลูกบอลสีเหลืองของเธอเข้าไปที่ลำโพงนั้นอีกครั้งจนไม่เหลือซาก
 
“อิลลูชั่น!”
 
เฟลิกซ์ตะโกนเรียก อิลลูชั่นที่โดนกระสุนปืนของพีซัดเต็มๆ เธอค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา แต่ยังคงก้มหน้าหายใจรัวริน เฟลิกซ์ละตัวจากทอมมี่แล้วเดินไปหา แต่เฟียน่าตัวจริงเดินไปถึงก่อน ตามด้วยพี
 
“นี่เธอ...ยังไหวไหม? ทุกอย่างนะ...มันจบลง...แล้วนะ”
“จบ...มันจบแน่ๆ ไงเหรอ?”
 
เสียงแสบของอิลลูชั่นทำให้พีเป็นห่วง จะเดินเข้าไปทัก แต่แล้วมือขวาของอิลลูชั่นที่ไปหยิบมีดสามแฉกไฟฟ้าด้ามหนึ่งตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ยกขึ้นมาแล้วตวัดจะฟันเฟียน่าตัวจริง แต่เธอไวตัวทันเลยหลบได้ก่อน ศึกตัวจริงกับร่างก็อบปี้จึงเริ่มขึ้น
 
“นี่เธอ จะทำอะไร!?” เฟียน่าถาม
“เธอ...ถ้าไม่มีเธอแล้วล่ะก็...”
 
แล้วอิลลูชั่นที่แทบหมดเรี่ยวแรงเดินหน้าไล่ฟันเฟียน่าอีกครั้ง แต่เธอก็หลบได้สบายเช่นเคย
 
“ถ้าไม่มีเธอสักคน..ถ้าไม่มีเธอสักคน! ฉันก็จะไม่เป็นแบบนี้!!!”
 
เฟียน่าที่ฟังประโยคสติแตกของอิลลูชั่นแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะจับข้อมือที่อิลลูชั่นถืออาวุธจะเข้าฟันไว้อย่างสบาย แล้วพูดประจานหน้า
 
“บ้าไปแล้วหรือไง! หา! เธอคิดว่าฉันอยากให้เธอเกิดขึ้นมางั้นเหรอ? มีคนหน้าเหมือนกัน นิสัยก็เหมือนกัน ความจำก็เหมือนๆ กัน แล้วนี่ยังจะไล่แทงฉันอีก...เธอนี่มันไร้ค่าซะจริงๆ”
“ไร้ค่า...ใช่ไร้ค่า ปกป้องคนๆ เดียวยังไม่ได้...ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย! ย๊าก!”
 
อิลลูชั่นทำสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด ด้วยการใช้หน้าผากตัวเองโหม่งเข้าที่สันจมูกของเฟียน่าจนเธอต้องเดินเซถอยหลังไป และอิลลูชั่นง้างมีดในมือเธอกะจะแทงเฟียน่าเต็มแรง
 
แย่แล้ว!
 
“โฟ---“
 
เปร๊ง!
 
เสียงปะทะกันระหว่างมีดสามแฉกทั้งสองอัน เฟลิกซ์ที่เข้าไปปัดมีดที่อิลลูชั่นถือไว้กระเด็นออกไปด้วยมีดของเธอเองอีกอัน
 
“คุณ!?”
“เธอ...พอได้แล้ว...ไม่มีใครต้องเจ็บตัวเพราะเรื่องนั้นแล้วนะ”
“...ฆ่าฉันที...ขอร้องละ...”
 
อิลลูชั่นที่ร้องขอความตายต่อหน้าเฟลิกซ์...คนที่เป็นแม่ของเฟียน่า ยกมีดของอิลลูชั่นที่ใช้ปัดอาวุธในมือก่อนหน้านี่ขึ้นมา แล้วใช้ด้ามจับมีดนั่นเคาะเข้าที่หัวของอิลลูชั่นเบาๆ
 
“โอ้ย!?”
“พูดอะไรเพี๊ยนๆ ออกมาห๊ะ?” เฟลิกซ์ต่อว่าด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง
“...ก็...ฉันไม่สมควรมีชีวิตอยู่ต่อไป...ชีวิตที่มีอยู่ก็ไม่ใช่ของตัวเองด้วยซ้ำ”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
“มัน...มัน...มัน...”
 
ร่างกายของอิลลูชั่นสั่นไปทั้งตัว เฟลิกซ์เห็นเธอเป็นแบบนั้นแล้วโยนมีดทิ้งไป แล้วใช้ทั้งสองมือจับไหล่ของอิลลูชั่น
 
“เธอคงสับสนตัวเองมาก...ฉันต้องขอโทษด้วยที่โกหกมาตลอด...”
“...ไม่เป็นไรหรอก...คุณแสร้งทำเป็นแม่ของฉันเพราะหน้าที่...”
“ใครบอกล่ะ...ใครบอกว่าฉันแสร้ง?”
 
อิลลูชั่นเงยหน้าขึ้นมองเฟลิกซ์
 
“อ่า...ฉันพูดไม่ค่อยเก่งด้วยสิ” เฟลิกซ์ว่า “ถึงเธอจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่ใช่ของตัวเอง แต่หลังจากที่เธอคิดเองได้ พูดได้ ทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเองได้ นั่นเป็นความทรงจำที่เธอสร้างขึ้นมาเองไม่ใช่เหรอ?”
“แต่คุณ...ก็ไม่ใช่แม่---”
“เป็นได้สิ ฉันเป็นแม่ของเธอได้ ถ้าเธออยากให้ฉันเป็น...ที่จริงถ้าคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ เธอก็คล้ายๆ กับคำว่าฝาแฝด ก็เท่ากับเป็นลูกของฉันของหนึ่งด้วยเหมือนกันล่ะ เนอะ? ว่าไหม? เอ่อ...ถ้าฉันแถไม่เก่ง ต้องขอโทษด้วยนะ”
“ขอโทษ!? หึ...หึ...ฮือ”
 
สำเนียงกึ่งเล่นกึ่งเอาจริงของเฟลิกซ์ ทำให้พีชักจะเป็นห่วงว่ามันจะกล่อมอิลลูชั่นได้ผลหรือไม่ แต่แล้วก็เห็นบ่อน้ำตาแตกของคนที่โดนกล่อมก่อนที่เธอคนนั้นจะเข้าสวมกอดเฟลิกซ์แน่นและร้องเสียงสะอื้นดังไปทั่ว
 
‘จบลงซะทีสินะ...’
 
พียิ้มอย่างสบายใจที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านมา เขาจะเดินไปหาใกล้ๆ อิลลูชั่น
 
“โอ้ยๆ อย่ากอดแรงนักสิ เจ็บอยู่นะ” เฟลิกซ์ตบแผ่นหลังบอกอิลลูชั่น
“ขะขะขอโทษค่ะ!” อิลลูชั่นผงะตัวออกมา
“สภาพดูไม่ได้เลยนะ...เฟียน่า” พีเผลอเรียกผิด “ฉันขอโทษทีเผลอใช้กำลังกับเธอ”
“นั่นไม่ใช่ชื่อของฉันหรอกนะ พี” อิลลูชั่นยิ้ม “แต่นายทำถูกแล้ว ไม่งั้นฉันคงไม่รอด...และก็...ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ”
“อือ...ส่วนยาถอนพิษนั้นได้มาแล้วนะ อยู่กับเอริส”
 
อิลลูชั่นมองไปข้างหลังเฟลิกซ์ ทางที่เอริสและคนอื่นๆ อยู่ เอริสยกกล่องให้ดูแล้วบอกเรื่องของนั้น
 
“นี่! ฉันเช็คของข้างในแล้วนะ มีอยู่จริงๆ”
“...ดีจัง...” อิลลูชั่นว่า “โซตะ...รอดแล้ว”
“เอ่อ...อย่าหาว่าฉันขัดจังหวะเลยนะ ช่วยกันหาทางออกจากที่นี่ก่อนที่เครื่องบินจะมาทิ้งระเบิดอีกสิบห้านาทีก่อนดีกว่าไหม? ตะกี้ฉันลองใช้พีทูล่ะ เจาะไม่ได้”
 
เฟียน่าตัวจริงเอ่ยขึ้นมา ชี้ไปยังประตูเหล็กที่กั้นทางออกไว้อยู่
 
“สิบห้านาที!” เหม่ยซิงร้องลั่น
“จะหนีทันไหมครับ?” ทอมมี่ถาม
“ก่อนอื่นต้องพังไอ้ประตูเหล็กอันนั้นให้ได้ก่อน”
 
เฟียน่าพูด อิลลูชั่นมองประตูเหล็กยักษ์แล้วมองที่ดาบไม้ไผ่ที่สะพายอยู่ข้างหลังเฟลิกซ์ ก่อนที่จะคุยบางเรื่องกับเฟียน่า
 
“นี่เธอ...อยากรู้อะไรไหม? อะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันกับเธอไม่เหมือนกันนะ”
“หือ? อือๆ” เฟียน่ารับคำอย่างงงๆ
“คุณเฟลิกซ์...ช่วยส่งของที่ฝากไว้ให้ฉันที”
 
เฟลิกซ์หยิบดาบไม้ไผ่ที่สะพายหลังอยู่ส่งให้อิลลูชั่น แล้วเธอค่อยๆ เดินไปตรงหน้าประตูเหล็กยักษ์ที่ปิดตายอยู่
 
‘นั่นเธอจะทำอะไรนะ!? ไอ้ดาบไม้ไผ่นั่น---’
 
อิลลูชั่นตั้งฉากดาบไม้ไผ่นั้นขึ้น ก่อนที่เธอจะเปล่งวาจาบางอย่างออกมา
 
“ยูคาริ ฉันขอยืมพลังของเธออีกครั้งนะ...”
 
สิ้นสุดคำขอนั่น ดาบไม้ไผ่ที่เธอถืออยู่ส่องประกายแสงสีขาวบริสุทธิ์ออกมามากจนกลบตัวอิลลูชั่นไป ทุกคนที่อยู่ในที่นั่นรู้สึกอย่างเดียวกันว่า แสงนั่นมันอบอุ่นไม่แสบตา
 
‘อะไรนะ?’
‘-พลังแบบนี้มัน...-’
 
เรสเทียร์ที่เอ่ยในใจไม่ทันจบ แสงนั้นก็หายไปแต่ตัวอิลลูชั่นเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง ที่หลังของเธอมีปีกสีขาวขนาดใหญ่ที่เห็นขนปุกปุยหนาอย่างชัดเจนและดาบไม้ไผ่ก็เปลี่ยนเป็นกระบี่สีขาวเรียวยาวที่มีออร่าสีขาวปกคลุมอีกที อิลลูชั่นเอ่ยบางเรื่องก่อนที่จะใช้มัน
 
“ยูคาริ เคยพูดอยู่เสมอว่า อุปสรรคใดๆ ก็ขวางกั้นความฝันของเราไม่ได้...กำแพงเหล็กข้างหน้า จงหายไปซะ!”
 
เธอเอ่ยเสร็จ ตวัดกระบี่สีขาวเป็นวงกว้างไปทางประตู ณ เบื้องหน้า โดยที่ไม่มีแสงหรือคลื่นปะทะอะไรทั้งนั้น แต่อีกไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูเหล็กนั้นถูกชำแหละเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกองกับพื้น เปิดทางหนีให้ทุกคนและปีกกับกระบี่ที่อิลลูชั่นมีอยู่ก็สลายหายไปทันที เหลือแต่เพียงดาบไม้ไผ่ที่มีเสียงรอบแตกร้าวขึ้นมา
 
‘แม่เจ้า...อะไรวะนั่น...’
 
ระหว่างที่คนอื่นมัวอึ่งกันอยู่ เอริสพูดบางสิ่งที่เธออยากจะบอกทุกคนตั้งแต่แรก เพียงแต่ไม่มีอากส
 
“คือ...จะบอกว่า...ใช้พีทูของเรา...วาปส่งทุกคนออกไปได้นะ...แต่คงไม่ทันแล้วมั้ง ฮ่าๆ”
 
◊◊◊
 
[11:25] [06/01/2058]
[Area TH-7 เขตตะวันตก, Yellow Zone, ข้างเครื่องบินเจ็ท WG-410]
 
ตูม!
 
ระเบิดลูกสุดท้ายที่ถูกทิ้งจากโดรนเครื่องบินของเวิร์ดเจเนรัลที่เฟียน่าเรียกมา ลงเข้าที่หน้าเหมืองจนหินถล่มทับไปหาย พี เฟียน่า อิลลูชั่นที่มีดาบไม้ไผ่สะพายหลังและเฟลิกซ์ที่ยืนดูอยู่ริมหน้าผาใกล้ๆ กับเครื่องบินเจ็ทสองลำ สีเหลืองของเจเนซิสไลท์เรียกมาและสีดำของ MIA ที่จอดอยู่ข้างๆ ส่วนคนอื่นอยู่เครื่องบินกันหมด...เฟียน่าเดินไปข้างหน้าจนสุดปลายหน้าผา ก่อนที่จะบ่น
 
“ภารกิจทำลายโปรเจคแร็คนาร็อคล้มเหลวจนได้”
“เอาน่า เฟียน่า ยังไงเรารอดกันมาหมดได้นะ”
 
พีที่อยู่ข้างหลังเธอพูดปลอบ
 
“ก็ดีอยู่หรอก...แต่หลังจากนี้ฉันคงโดนทำโทษยาวแน่ๆ ฐานบงพร่องเรื่องข้อมูล” เฟียน่าส่ายหัว
“พ่อของเธอมาเห็นต้องภูมิใจแน่ๆ”
 
เฟลิกซ์พูดออกมา ทำให้เฟียน่าแอบยิ้มและเหมือนอิลลูชั่นจะไม่เข้าใจ เธอเลยบอก
 
“เธอไม่รู้เรื่องหรอก พวกนั้นเอาความทรงจำที่แท้จริงเกี่ยวกับพ่อของเฟียน่าออกไป”
“อ๋อ...” อิลลูชั่นเก็บงำความสงสัยไว้ ยังไม่กล้าถาม
 
‘-พีคุง...พีคุง...หนีไป...-’
 
เสียงของใครบางคนดังก้องหัวพีขึ้นมา ทำให้เขากระวนกระวายมองรอบๆ ตัว
 
‘เมงุมิ!’
 
“พ่อนะ...คงต้องว่าฉันแน่ๆ” เฟียน่าหันมาคุย “ว่าทำงานแค่นี้ยังไม่สำเร็จ...แต่เขาก็ไม่อยู่ให้ว่า---“
 
เปรี้ยง!
 
“อ๊าก!”
 
จู่ๆ ก็มีกระสุนแสงสีแดงปริศนาพุ่งเข้าที่กลางหน้าอกของเฟียน่าจนเธอเซล้มลงไปทางหน้าผา พีที่หันหลังหาต้นตอเสียงของเมงุมิอยู่ พอได้ยินเสียงปืนดังลั่นภูเขาหันมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สายไปเสียแล้ว ร่างของเฟียน่าร่วงลงหุบเหวหน้าผาลับสายตาพีไป โดยไม่มีใครตั้งตัวทัน
 
“เฟีย...น่า...”
 
เฟลิกซ์ยืนช็อคค้าง ก่อนที่จะวิ่งไปข้างหน้าแล้วสบัดแขนซ้ายกางโล่ของเอ็มแอลเอที่ติดตัวขึ้นมากันตัวพีและอิลลูชั่นไว้
 
“รีบขึ้นยานไปซะ! เร็วสิ!”
 
การกระทำของเฟลิกซ์ทำไปตามแบบฝึกที่เธอเคยฝึกมา แต่ในใจเธอตอนนี้ลงหายไปพร้อมๆ กับร่างของเฟียน่า ส่วนอีกสองคนยังคงตั้งสติไม่ได้
 
‘เฟียน่า...ตะกี้มัน...อะไร...เธอ...ถูกยิง แล้วร่วงลงไป...’
 
พีนึกภาพย้อนก่อนหน้านี่ กลับเห็นภาพรอยยิ้มทั้งน้ำตาสุดท้ายตอนที่เธอจะหายลับตาไป เขาตะเบ็งเสียงเรียกเพื่อนคนสำคัญที่ไม่มีวันหวนกลับมาอย่างสุดชีวิต
 
“เฟียน่า!”
 
◊◊◊
 
คุยกับคนเขียนกันนะ >_<
จบลงไปแล้วสำหรับบท ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 10 [ผู้ใช้ภาพมายา]’ นะจ๊ะ
ในที่สุดเรื่องราวของ ‘เฟียน่า’ และ ‘อิลลูชั่น’ ก็ใกล้จะจบลงแล้ว
เรื่องราวของเธอในอนาคตจะเป็นเช่นไรต่อไป
โปรดติดตามตอนสุดท้ายของบทอิลลูชั่นที่มีชื่อว่า ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 11 [สถานที่ที่เธอชอบ]’
เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก การผจญภัยอันแสนวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น!!
ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ
By Spy442299 & Nattanan Srising

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา