P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

8.1

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.

  46 chapter
  28 วิจารณ์
  50.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

38) อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 9 [ตัวตนที่แท้จริง]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

P.P. Rising: The Bullet Time

เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

  1. Ch.32 อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 9 [ตัวตนที่แท้จริง]

Rewrite V.3

 

◊◊◊

 

[มุมมองของทอมมี่]

[Area TH-7 เขตกลาง,Blue Zone, ร้านคาเฟ่ใต้สำนักงานการ์เดี้ยนเขตกลาง]

 

“ลาเต้เย็นได้แล้วครับ”

 

ชายหนุ่มอายุราวๆ ห้าสิบ บนศีรษะโพกผ้าพันหัวสีขาวอยู่ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่ เขายื่นแก้วพลาสติกที่มีลาเต้เย็นให้ทอมมี่ที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์

 

“ขอบคุณมากครับ เฮียปาย”

“จ่ายเงินด้วย” เจ้าของร้านแบมือ

“โห จะรีบทวงไปไหน?” ทอมมี่ทำเสียงแสร้งไม่พอใจ

“ร้านนี้จ่ายก่อนรับของนะทอมมี่ อย่ามาเนียน”

“ครับๆ”

 

และแล้วทอมมี่ก็ควักเงินขึ้นมาจ่ายไป

 

“ให้ตายสิ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนหรือไง? เห็นตาคล้ำๆ”

 

ไลพ์ที่นั่งเท้าคางอยู่เก้าอี้อีกตัวใกล้ๆ ถาม

 

“ครับ ยังไม่ได้หลับเลยสักนิด” ทอมมี่ว่า

“ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงเพื่อน แต่ก็ควรพักผ่อนบ้าง”

“ถ้ายังไม่ได้เห็นหน้าพี...เฮ้ย ไอจังละก็ ผมหลับไม่ลงหรอกครับ”

“คุณพี่ทอมมี่...เฮ้อ” ไลพ์ถอนหายใจกับสภาพของรุ่นพี่ของเธอเอง “เหลือแต่คุณไอร่าคนเดียวจริงๆ นั่นแหละ ที่ยังติดต่อไม่ได้ ส่วนรุ่นน้องเอชป่านนี้ยังไม่ฟื้นเลย อยากรู้จริงๆ ว่าเมื่อคืนมันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่? แถมยัยบ้าคานะยังไม่กลับมาอีก”

“ผมก็เช่นกันครับ เง้อ...” ทอมมี่ดูดลาเฟ้เย็นด้วยสภาพงัวเงีย

“นมสดปั่นได้แล้วครับ” เจ้าของร้านยื่นแก้วที่มีนมสดให้ไลพ์

“ขอบคุณค่ะ” และแน่นอนว่าเธอจ่ายตังค์ไป ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นมา “ฮัลโหล...อือๆ เดี๋ยวไปแล้ว ไม่ต้องโทรมาย้ำหรอกหน่า...หึ? จริงดิ...งั้นรีบมาไวๆ เลย...เหอะๆ เอาอะไรคิดว่าฉันจะห่วงนาย? แค่วันนั้นยังไม่พออีกเหรอ? อือๆ ถ้ามาถึงแล้วก็รออยู่ที่สำนักงานล่ะกัน งั้นฉันขอตัวไปดูเจ้านั่นก่อน...บาย”

“อ๋อ หวานใจโทรมาใช่ไหมครับ?” ทอมมี่หมายถึงต้น

“คุณพี่ทอมมี่ ถ้าฉันไม่เห็นว่าคุณอยู่ในสภาพนี้และไม่ใช่ที่นี่ล่ะก็ ฉันจะพ่นไฟใส่ก้นคุณไปแล้วนะคะ”

 

ไลพ์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ในมือเธอจุดไฟแช็คเล่น

 

“อุ้ย...” ทอมมี่เหมือนจะได้สติขึ้นมา

“งั้นฉันไปดูว่าที่หัวหน้าการ์เดี้ยน Area TH ที่หกคนใหม่ทำงานก่อน ถ้าคุณพี่ทอมมี่ไม่ไหวล่ะก็ เชิญนอนพักข้างบนให้พอเถอะค่ะ เดี๋ยวเรามีงานต้องเคลียร์กับเมืองนี้อีกยาว”

“ครับๆ”

 

และแล้วไลพ์เดินออกจากร้านคาเฟ่พร้อมกับนมสดปั่นของเธอไป

 

“ยังหนุ่มยังแน่น ทำตัวให้ดูแข็งแรงหน่อย” เจ้าของร้านว่า

“อยากจะทำแบบนั้นอยู่นะครับ แค่วันนี้ไม่ไหวจริงๆ”

“ฮ่าๆ เอาเถอะ...ถ้ามีเรื่องกลุ้มใจปรึกษาเฮียได้”

“เรื่องคราวนี้ขอผ่านดีกว่าครับ”

 

ทอมมี่ถอนหายใจ...เขาไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืนเพราะนั่งเฝ้าอยู่หน้าคอมดูสัญญาณ GPS ที่ติดอยู่ปลอกคอมือการ์เดี้ยนของพี แต่ในที่สุดเขาเผลอหลับไปตอนตีสี่ จนเทลที่มาเวรตอนเช้าเข้ามาปลุก

 

ติ๊งๆ

 

เสียงอีเมลเข้ามือถือ ทอมมี่หยิบขึ้นมาดูอย่างอ่อนแรง เป็นเมลจากเทลที่บอกว่า ‘ทำเรื่องที่ขอร้องให้เสร็จแล้ว ส่งข้อมูลผ่านมือถือของพี่ทอมมี่เรียบร้อย’ ทันใดนั้นเขาตาโตขึ้นมา ก่อนที่จะกดรับข้อมูล สักพักปรากฎแผนที่ที่ระบุติดตามตำแหน่งหนึ่งขึ้นมา

 

‘ที่นี่มัน...บ้านเฟียน่านิ?

พีอยู่ที่นั่นตอนนี้!?’

 

ทอมมี่ผงะตัวลุกขึ้นยืนจนเจ้าของร้านตกใจ แล้วเขาก็รีบเดินออกจากร้านเพื่อที่จะไปหาเพื่อนรักของเขา

 

“เธอ! ไม่เอาลาเต้ไปด้วยหรือ?”

“ฝากไว้ก่อนครับ เดี๋ยวมาเอาที่หลัง”

 

แล้วเจ้าของร้านก็รับปากอย่างช่วยไม่ได้

 

◊◊◊

 

“พูดเป็นเล่นหน่า!?”

 

พีถามหลังได้ยินเรื่องที่ไม่น่าเหลือจากปากของเจเรซิสไลท์ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกันกับในไฟล์โปรเจคที่เห็นใน SP-Lab

 

“ใช่ เด็กคนนั้นเป็นเพียงหนึ่งในผลการทดลองโปรเจค เอสพี-เจเรซิสไลท์ (SP-Genesis Light) เท่านั้น” เหม่ยซิงอธิบาย “เธอคนนั้นถือกำเนิดขึ้นมาจากดีเอนเอจากเฟียน่าคน แม้กระทั่งความทรงจำก็ถูกคัดลอกจากสมองของเฟียน่าด้วยและได้ทำการเปลี่ยนแปลงบางส่วนเพื่อให้ไม่เป็นอุปสรรค์ในระหว่างวิจัยของพวกเราล่ะ”

“หือ? แล้วที่คุณบอกเรื่องก่อนหน้านี่ล่ะ เกี่ยวกับของเฟียน่า---“

“ใช่ เฟียน่า ตอนนั้นฉันหมายถึงเฟียน่าตัวจริงนะ”

 

‘เฮ้ยๆ เรื่องจริงเหรอวะเนี่ย!?’

 

พีคิดอย่างงั้นแล้วถามให้หายสงสัย

 

“แล้วทำแบบนั้นทำไม? โคลนมนุษย์ขึ้นมาทำไมละ?”

“พลังจิตยังไงล่ะ...” เหม่ยซิงอธิบาย “เฟียน่ามีพลังจิตที่พวกเราเรียกว่าเจเรซิสไลท์ (Genesis Light) ที่มีพลังงานในขั้นสูง พวกนักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มเลยรุมสุมหัวขอเสนอทดลองสร้างร่างแยกเฟียน่าขึ้นมา หวังว่าจะสามารถค้นหาและพัฒนาพลังจิตในมนุษย์ขึ้นมาเอง แต่แล้วกลับได้ผลอีกอย่าง...ตัวตนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเกือบทั้งหมดไร้พลังจิตโดยสิ้นเชิงและสติสัมปชัญญะเข้าขั้นล้มเหลว มีแต่ร่างโคลนเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่มีพลังจิตก็คือเฟียน่าที่เธอเจอตั้งแต่ที่สนามบิน แต่กลับมีพลังไม่เหมือนกับตัวต้นแบบ ยิ่งเกิดเรื่องพีทูไรซิ่งขึ้นมาด้วย คนที่ดูแลโครงการก่อนหน้านี่เลยผลักไสไล่ส่งเธอมาให้พวกเรานักวิจัยอิสระนะ”

“นักวิจัยอิสระ?”

“เธอคงคิดว่าพวกเราเป็นพวกนักวิทยาศาสตร์เห็นแก่ตัวของไฮเทคอัพเปอร์ล่ะสิ พวกฉันแค่ได้รับการจ้างวานให้มาวิจัยเท่านั้นเอง อย่าเอาพวกเราไปเหมารวม...ในบรรดากลุ่มนักวิทยาศาสตร์สังกัดไฮเทคอัพเปอร์ จะมีกลุ่มใหญ่ที่มีอิทธิพลมาก คือกลุ่มของด็อกเตอร์ลากัซ ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ดูแลโปรเจคนี้ เจ้าพวกนั้นวางยาพิษไว้ในตัวของก็อบปี้เฟียน่าด้วย”

“วางยา!?”

“ถ้าไม่รับสารเฉพาะทางที่พวกนั้นผลิตขึ้น หัวใจของเด็กคนนั้นจะหยุดเต้น มันเป็นวิธีการหนึ่งกันความลับรั่วไหล ช่วงนี้ก็อบปี้เฟียน่าถึงได้ตระเวนบุกตามที่ผลิตยาของไฮเทคอัพเปอร์ จนอีกฝ่ายเริ่มไหวตัวทันแล้ว”

 

พีเริ่มคิดลงล็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนที่ทำงานกับการ์เดี้ยนทั้งหมด

 

‘โรงงานผลิตยา...ที่ช่วงนี้ถูกถล่ม คนที่ทำคือเฟียน่าคนนั้นเหรอ?’

 

“แล้วเจอไหมครับ?” พีถาม

“ก็เจอบ้างล่ะ” เหม่ยซิงบอก “แต่ปัญหาก็คือ ไม่ใช่แค่เธอที่ต้องได้รับยาคนเดียว...โซตะ ก็ต้องได้รับยาด้วยเช่นกัน แถมต้องใช้ปริมาณสิบเท่าที่ใช้กับก็อบปี้เฟียน่าด้วย”

“โซตะก็ด้วย!?” พีตะลึง

“ไม่ๆ โซตะต่างออกไปนะ...เด็กคนนั้นคือหนึ่งในกลุ่มทดลองยาพิษ”

“ใช่ คนที่ทำให้เด็กนั่นเป็นแบบนั่นนะ” เอริสเสริม “ก็คือตาลุงแก่เห็นแก่ตัวของเฟียน่าไง”

“หา!? ด็อกเตอร์ซิส...” เฟียน่าตัวจริงเหมือนจะเพิ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ”ระหว่างที่ฉันไม่อยู่หลายปีมานี่ ก่อเรื่องอีกแล้วเหรอ?”

“ก็...มันเป็นความผิดพลาด” ด็อกเตอร์ซิสที่อยู่มุมห้องนิ่งเงียบมานานเพิ่งพูดแล้วก้มหลบหน้า

“ไม่อยู่หลายปี?” พีถาม “หายไปไหนมา”

“รับงานเป็นสายลับนะ” เฟียน่าบอก “ช่วงหลังมานี่ฉันเป็นสปายปลอมตัวอยู่ฝั่งลากัซ”

“สปาย? เป็นสปายให้ใคร”

“WGT หน่วยข่าวกรองอิสระของเวิลด์เจเรนัล แฝงตัวเป็นผู้ช่วยพิเศษของด็อกเตอร์ลากัซ แต่เมื่อวานเพราะยัยคนชื่อว่าเรดทำแผนฉันพังหมด”

“บอกเขาหมดแบบนี้มันจะดีหรือ เฟียน่า” เหม่ยซิงถาม

“ได้รับการอนุมัติจาก ผอ. แล้ว”

“ผอ. เธอใจดีนะ ชักอยากจะรู้จักแล้วสิ”

“อย่ารู้จักเลยจะดีกว่า”

 

เฟียน่าไม่อยากให้เหม่ยซิงเข้าถึง ผอ. ของเธอเองเลยปฏิเสธ พีที่พอคลายความสงสัยบางเรื่องแล้วเอ่ยถามเรื่องอื่น

 

“ว่าแต่..เฟียน่า...อีกคนอยู่ที่ไหนล่ะ?”

“ป่านนี้ยังติดต่อไม่ได้เลย” เอริสบอก ก่อนที่เฟียตัวตัวจริงที่รู้บอก

“ยัยก็อบปี้นั่นมาสถาบันวิจัยใต้ทะเลทางใต้นะ”

“หือ?” เหม่ยซิงร้อง

“ก็เมื่อคืนไง พีก็อยู่ด้วยนิ ยัยตัวก็อบปี้นั่นเห็นตระเวนตามห้องดาต้าหาข้อมูลอะไรบางอย่างเนี่ยแหละ...เห็นว่าเจอสถานที่ผลิตยาถอนพิษอะไรนั่นแล้ว”

“ยาถอนพิษ!? มีด้วยเหรอ?” เอริสถาม

“ตอนแรกที่ฉันเข้าถึงข้อมูลภายในนะ ตกใจอยู่เหมือนกันว่ามันมีจริงๆ หรือเปล่า แต่ลองเช็คดูแล้วว่ามีจริงๆ”

“ถ้าได้มันมา คงไม่ต้องการตัวเยียวยานั่นอีกตลอดไป” เหม่ยซิงว่า “แล้วเธอรู้เปล่าว่ามันอยู่ที่ไหน”

 

เฟียน่าตัวจริง เดินไปที่แผงควบคุม หยิบแฟลชไดท์ขึ้นมา มันเป็นอันเดียวกับของพีที่ไปขโมยข้อมูลมา ซึ่งเขาเห็นแล้วตกใจเพราะโดนขโมยไปตอนไหนก็ไม่รู้ เธอกดไล่ดูข้อมูลโปรเจคในนั้น

 

“มันอยู่ในไฟล์ที่เมื่อคืน...ถ้าจำไม่ผิด มันอยู่หน้านี้นะ...ตัวยาถอนพิษ AP-41 ใน Area TH ที่เจ็ด มีอยู่ที่...” เธอจ้องดูชื่อสถานที่ที่อยู่บนจอ “เฮ้ย!”

 

อยู่ดีๆ เฟียน่าตัวจริงก็ตะโกนลั่นออกมา ก่อนที่จะหันไปถามเอริส

 

“เอริส! ที่นี่ติดต่อข้อมูลภายนอกได้ไหม?”

“ได้ค่ะ”

 

หลังจากที่เธอรู้เรื่องแล้ว เฟียน่ากดคียบอร์ดรัวๆ จนหน้าจอมีโลโก้ของเวิลด์เจเรนัลขึ้นมา และมีหน้าต่างเข้าระบบ แน่นอนเธอก็กรอกชื่อและรหัสผ่านไป หลังจากนั้นก็มีข้อมูลมากมายไหลเข้ามา แล้วเธอเลือกมาหนึ่งอัน มันขึ้นมากำลังเชื่อมต่อภาพจากดาวเทียม และเฟียน่าก็ระบุตำแหน่งว่า ‘เหมืองถ่านหิน, เขตตะวันตก,Area TH-7’ ลงไป ภาพมุมสูงจากดาวเทียมก็ค่อยๆ ซูมเข้าไปจนปรากฎภูมิประเทศที่มีภูเขาลอบรอบ และตรงหน้าเหมือนจะมีเหมืองแห่งหนึ่งที่มีไฟลุกและระเบิดอยู่

 

“ยัยนั่น!” เฟียน่าทุบแผงควบคุม “ไปถึงเร็วเกินไปแล้ว”

“เฟียน่าอีกคน?” พีถาม

“อือ ยัยนั่นไปเอายาถอนพิษตามข้อมูลนะ...แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นที่นั่นนะ”

“ที่นั่นมีอะไร?” เหม่ยซิงถาม

“ก็...มันเป็นงานของเวิลด์เจเรนัลนะ ฉันเพิ่งยืนยันตำแหน่งสถานที่ดำเนินการโปรเจคลับอันตรายของเจ้าด็อกเตอร์ลากัซให้ทางหัวหน้าไปว่าเป็นที่นั่น อีกภายในสองชั่วโมง เหมืองนั่นจะถูกปูพรมด้วยระเบิด”

 

คำตอบของเฟียน่าตัวจริง แทบทำให้ทุกๆ คนอ้าปากค้าง

 

“งั้นก็หมายความว่า...” เอริสว่า

“ถ้ายัยนั่นออกมาไม่ทันล่ะก็ ถูกฝังทั้งเป็นแน่ๆ” เฟียน่าตัวจริงบอก

 

‘อยู่ที่นั่นเหรอ? ไปคนเดียวเนี่ยนะ?’

 

พีก้มหน้าคิดหนักอยู่สักพัก เอ่ยถามเฟียน่าตัวจริง

 

“นี่ เฟียน่า...พาฉันไปที่นั่นหน่อยได้ไหม...อยากจะช่วยนะ”

“ช่วย!?”

“ใช่ ถ้าทุกๆ อย่างเป็นเรื่องจริงล่ะก็ ฉันนะ ยังมีเรื่องของเคลียร์กับยัยนั่นอีกทั้งเยอะนะ และอยากทำให้ยัยนั่นเข้าใจเรื่องตัวตนจริงๆ ด้วย...ฉันมั่นใจว่าทำได้”

 

พีร้องขอด้วยความจริงใจโดยลืมเรื่องของเมงุมิไปสนิท เมื่อเฟียน่าตัวจริงแล้วหลับตายิ้มรับ

 

“ใจดีอีกแล้วนะนาย ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ”

 

เฟียน่าคว้าเครื่องสื่อสารขนาดเล็กขึ้นมาแนบหูซ้าย แล้วกดติดต่อใครบางคน

 

“นี่! รันเนอร์ ฉันขอเครื่องบินเจ็ตด่วนสักลำตรงตำแหน่งที่ฉันอยู่เลยตอนนี้...เอาหน่า ขอด่วนๆ เลย เกิดอะไรขึ้นฉันรับผิดชอบเอง...อือๆ เธอไม่ต้องเสนอหน้ามา...ใช่ เป็นเรื่องส่วนตัวนะ..โอเค ขอบใจมาก”

 

เฟียน่ากดวางสายลง ก่อนที่จะบอกข่าวดี

 

“เดี๋ยวอีกห้านาทีจะมีเครื่องบินเจ็ตมาหน้าบ้าน ถ้าใครอยากจะไปก็ไปได้นะ แต่ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวเองด้วย”

“แหมๆ ว่าแต่เขา ตัวเธอก็เห็นใจเหมือนกันนี่หน่า” เอริสแซวเอาศอกสะกิดแขนเฟียน่า

“ไม่!” เฟียน่าปฏิเสธทันควัน “คือมัน...เฮ้อ สงสัยฉันติดเชื้อมาจากนายแน่ๆ พี นายมันชอบออกหน้าช่วยเหลือคนอื่นอยู่เรื่อย ถือซะว่าคราวนี้ฉันทดแทนหนี้ที่ฉันติดนายไว้ล่ะกัน...สรุปแล้วมีใครไปช่วยยัยบ้านั่นกับฉันบ้าง?”

 

พี เอริส เหม่ยซิง และด็อกเตอร์ซิส ยกมือทั้งหมด เมื่อเฟียน่าเห็นแบบนั้นแล้วก็ตวาดใส่คนที่ไม่เจียมตัว

 

“ด็อกเตอร์ซิส! คุณอยู่เฝ้าเด็กคนที่ว่าเหอะ”

“แต่ว่า...”

“คุณซิส...แค่ฉันไม่เรียกว่าลุง ยังไม่สำนึกมากพอสินะ จะให้ไม่คุยกับคุณตลอดไปเลย จะดีไหม?”

 

ด็อกเตอร์ซิสเงียบลงราวกับคนที่ทำผิดมามากมาย

 

‘เหอะๆ แม้แต่เฟียน่าตัวจริงก็ยังมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีกับลุงตัวเองเลยแฮะ’

 

พีคิดแบบนั้น เฟียน่าพูดนำ

 

“งั้นทุกคนรีบไปข้างบนกันเถอะ”

 

และแล้วทุกๆ คนก็พร้อมกันเดินออกจนเหลือพีและเฟียน่าที่กำลังจะออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย เขามีบางเรื่องที่ติดใจเลยเอื้อมมือจับไหล่ของเฟียน่า

 

“เฮ! เฟียน่า”

“หือ? มีอะไร”

“เอ่อ...คือ เฟียน่าอีกคนนะ มีชื่อเรียกอื่นไหม? คือ...ถ้าฉันไปเรียกยั่ยนั่นว่าก็อบปี้...มันจะ---”

“อ๋อ...มีสิ ฉันเคยเรียกชื่อนั่นต่อหน้านายแล้ว”

 

เฟียน่าตัวจริงบอกชื่อร่างโคลนอีกคนของเธอโดยไม่หันหน้ามาสบตาและเดินก้าวจากห้อง

 

“ผู้ใช้ภาพมายา อิลลูชั่น (illusion)”

 

◊◊◊

 

[09:59] [06/01/2058]

[Area TH-7 เขตตะวันตก, Yellow Zone, บนเครื่องบินเจ็ท WG-410]

 

‘โอเค...ตั้งสติไว้ อย่าสับสนง่ายๆ นะพี ค่อยๆ คิดทีละเรื่อง’

 

พีกุมมือกำลังรวบรวมความคิดทั้งหมดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน ตอนนี้เขานั่งอยู่บนที่พักพิงโดยมีเข็มขัดรัดตัวไว้บนเครื่องบินเจ็ทของเวิร์ดเจเรนัลที่เฟียน่าตัวจริงเรียกมารับ กำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้า

 

‘เรื่องแรก ความจริงเกี่ยวกับเฟียน่า...ฉันไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง หรอกนะว่า ทำไมถึงมี ‘โคลนมนุษย์’ ขึ้นมา ทั้งๆ ที่มันผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงและก็ไม่รู้ว่าพวกเขาทำยังไงด้วย แต่มันไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้แล้ว เธอคนนั้น...อิลลูชั่นหรือคนที่ฉันเรียกว่าเฟียน่ามาเกือบตลอดทั้งสองสัปดาห์ เธอกำลังเสี่ยงอันตรายตัวคนเดียวเพื่อตัวเธอเองและโซตะ...หึ นิสัยที่ชอบทำอะไรตัวคนเดียวเหมือนเฟียน่าเมื่อก่อนจริงๆ แฮะ’

 

พีเงยหน้าไปมองเฟียน่าตัวจริงที่กำลังสั่งการอะไรบ้างอย่างกับนักบินอยู่

 

‘เฟียน่า...เธอคนที่อยู่ตรงหน้าฉัน เปลี่ยนไปเยอะสมควรแฮะ เหมือนความคิดเธอจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น...หลังที่คุยกันตอนขึ้นเครื่องบินมา ก็ได้รู้เรื่องราวคร่าวๆ แล้วว่า เธอเข้าร่วมกับ WGT อย่างลับๆ เมื่อห้าปีก่อน แล้วทำทีเข้าร่วมทำการทดลองกับด็อกเตอร์ลากัซ ในโครงการ SP-Genesis Light นั่น เมื่อตอนสองปีก่อน จนให้กำเนิด ‘อิลลูชั่น’ หรือเฟียน่าอีกคนที่ฉันเจอและเห็นเธอบอกอีกว่า ที่ไฮเทคอัพเปอร์ยังมีเครื่องคัดลอกความทรงจำที่อยู่ในขั้นทดลอง ใช้กับเธอเพื่อปลูกความทรงจำใหม่โดยผ่านการดัดแปลงใหม่ พอฉันได้ยินแบบนี้แล้วเลยถามเรื่องความลับที่เป็นคนของ WGT เธอบอกว่าเพราะได้รับความช่วยเหลือจากเอริสและเหม่ยซิงที่เป็นคนดูแลเรื่องการปลูกถ่ายความทรงจำนั่นพอดี เลยไม่มีใครจับได้ แน่นอนฉันสงสัยว่าความทรงจำที่ถูกก็อบปี้ไปว่ามันมีเรื่องอะไรบ้าง เฟียน่าเธอบอกว่าก็ทั้งหมดนั่นแหละ ยกเว้นเรื่องที่เข้าร่วม WGT และเรื่องที่ใช้ยืนยันตัวจริงได้อีกทั้งนิสัยใจคอยังเหมือนกันจนตัวเธอตกใจเองตอนที่แอบดูพฤติกรรมอิลลูชั่นช่วงเกิดใหม่ๆ เฟียน่ายังพูดไว้อีกว่า...มนุษย์ไม่ได้พิษสงพิเศษจากสัตว์อื่นอะไรมาก แม้กระทั่งจิตใจที่ซับซ้อนยังถูกทำใหม่เลียนแบบได้ง่ายๆ

หลังจากนั้นฉันก็คุยกับเอริสเรื่องของโซตะ ก็ได้ยินสภาพของเด็กคนนั้นตอนนี้อย่างใจหาย ว่าตัวของโซตะอยู่ในห้องไอซียูที่ในสถาบันวิจัยใต้ดิน โดยมีผู้ช่วยชายอีกสองคนในทีมของเธอที่ฉันไม่ค่อยได้เห็นหน้าสักเท่าไหร่ดูแลอยู่ เห็นว่าภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าไม่ได้รับตัวเยียวยาหรือยาถอนพิษล่ะก็ เด็กคนนั้นต้องลาโลกนี้ไปแน่ๆ แม้กระทั่งอิลลูชั่น ตัวเธอคนนั้นยังเหลือเวลาอีกสามวัน เพราะแบ่งยาให้โซตะเกือบทั้งหมด พอฉันฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็พอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมอิลลูชั่นหรือก็อบปี้เฟียน่าคนนั้นแอบออกไปข้างนอกเกือบทุกคืนทำไม

บางทีนิสัยดื้อรั้น ชอบทำอะไรตัวคนเดียว ไม่น่าเอามาใส่กับอิลลูชั่นเลย...

แล้วป่านนี้ยัยนั่นจะรู้สึกยังไงกันนะ ถ้ารู้ว่าความทรงจำและตัวเธอ เป็นของที่ถูกสร้างขึ้น...ไม่ใช่ตัวของเธอเอง คงต้องคลั่งไม่ก็บ้าแน่ๆ ถ้าคิดนิสัยพื้นฐานนิสัยของเฟียน่า               

เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้คงต้องรีบหาตัวเธอและรีบพาเผ่นออกจากที่นั่นไว้ไวที่สุด เห็นว่าเครื่องบินนี้จะถึงเหมืองนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง

จบไปอีกเรื่อง...ต่อมาก็เป็นเรื่องของเรสเทียร์สินะ’

 

พีแบมือดูแผ่นกระจกบนฝ่ามือขวาของเขา ที่มีสีแดงก่อนหน้านี่เริ่มจางลงไปมากแล้ว

 

‘เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่นะ เรสเทียร์...ใช้พลังก็ไม่ได้ แถมยังปวดแขนขวายังไม่หายดีด้วย

โอเค เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้อะไรอีกล่ะ นอกจากรอยัยนั่นโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง...แล้วถามเรื่องลบความทรงจำที่ได้ยินมาจากเรดให้ได้ ต่อไปก็เป็นเรื่องของ---’

 

พอเขาคิดถึงตรงนี้ เงยหน้าไปทางซ้ายที่มีทอมมี่นั่งอยู่ข้างๆ

 

‘ไอ้หมอนี่ จู่ๆ ก็ดักอยู่หน้าบ้านตอนที่ฉันและพวกของเฟียน่ากำลังจะขึ้นเครื่องบินเจ็ทที่มาจอดถนนหน้าบ้านและทะลึ่งตามมาด้วย มันบอกว่าที่มาที่นี่ได้เพราะไอ้ปลอกมือการ์เดี้ยนที่ฉันใส่อยู่ มันแอบติดเครื่องส่งสัญญาณไว้

ทำไมมันต้องเอาของเล่นติดไว้ฟ่ะ!?

เฮ้อ เอาเถอะ เมื่อมันตามมาแล้ว ทั้งฉันและเฟียน่าตัวจริงอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้ฟัง...แน่นอนว่ามันตกใจมากและทำท่าเชื่ออย่างง่ายดายเหมือนเรื่องของเขาตอนที่เหตุการณ์พีทูไรซิ่งใหม่ๆ

เหอะๆ ไอ้นี่ถ้าเพื่อนเล่าอะไรให้ก็เชื่อหมดเลยเนอะและเพราะมันมาด้วยเลยได้รู้เรื่องของเอช ว่าทำไมฉันถึงไปเจอกันในป่าบีเก็ตได้...เป็นความบังเอิญล้วนๆ ที่ว่าเอชกับเพื่อนของเธออีกสองคน ไปส่งเด็กที่หลงทางในเขตใต้ แล้วขากลับผ่านแถวนั้นพอดี แล้วเจอโจรปล้นหรือโจรลักพาตัวเด็กอะไรสักอย่าง เด็กสามคนนั้นเลยเข้าไปช่วย แต่ทำท่าพลาดอีท่าไหนก็ไม่รู้ เอชถึงได้ตกภูเขา ยังดีที่เด็กคนนั้นไม่เป็นอะไรมากเพราะพีทูฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้ แต่ฉันสงสารที่เธอต้องมาโดนไอ้หุ่นนั่นตบกระเด็น...’

 

พีเอามือทั้งสองกุบขมับไว้เพราะเริ่มปวดขมับ ทอมมี่ที่อยู่ข้างๆ เห็นอาการแล้วถามด้วยความเป็นห่วง

 

“พีจัง เป็นอะไรครับ?”

“ปวดหัวนะ...ถ้าสมองฉันบันทึกอ่านได้แม่นยำ คงไม่ต้องเป็นแบบนี้”

“เห็นใจอยู่นะครับ เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้มันมากมายเหลือเกิน”

“แต่ฉันคิดว่า ความรู้สึกนี้คงไม่เท่าครึ่งหนึ่งของยัย...อิลลูชั่นนั่นแน่ๆ หึ เรียกชื่อนี่มันยัยนั่นไม่คุ้นเลยแฮะ”

“ครับ...แล้วพีจังล่ะ เรื่องที่ถูกหมายหัวจากพีทูไรซิ่ง---”

“พอๆๆๆ” พีโบกมือห้าม “ฉันยังไม่อยากคิดเรื่องนั้นตอนนี้นะ แค่นี้ก็ปวดหัวมากพอแล้ว”

 

พีถอนหายใจชุดใหญ่ เหม่ยซิงตะโกนถามเฟียน่าที่อยู่ด้านหน้าเครื่องบิน

 

“นี่! เฟียน่า! ก่อนที่เราจะไปถึง เธอมีแผนไหม?”

“หือ? มีสิ” เฟียน่าเดินกลับเข้ามาห้องโถงเครื่องบินที่มีหลายคนนั่งรัดเข็มขัดอยู่ “ลุยเข้าไปโต่งๆ แบบนี้เลย”

“หา!? จะบ้าเหรอเฟียน่า?” พีว่า

“ไม่บ้าหรอก เท่าที่ฉันเช็คล่าสุดจากดาวเทียมเหมือนว่าที่นั่นโดนยัยก็อบปี้ตัวฉันถล่มซะเละ  คนงานเหมืองแถวๆ นั้นหนีออกมากันหมดแล้ว...แต่มันแปลกๆ”

“แปลกๆ!?”

“มันไม่มีคนของไฮเทคอัพเปอร์อยู่เลยสิ ทั้งๆ ที่ใต้เหมืองนั้นมีสถานีวิจัยลับที่สำคัญอยู่”

“ฉันว่า ตอนเข้าไปคงจะรู้เองล่ะ” พีพูด “ตอนนี้คงต้องรีบไปช่วยยัยบ้าที่บู๊อยู่คนเดียวนั่นให้ไวที่สุด”

“ใช่ ถูกอย่างที่นายพูด...ถ้าปล่อยให้ยัยนั่นตายละก็...มันรู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้”

“เอ๊ะ!? เธอมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?” เอริสถาม

“แล้วทำไมหรือ? คิดแบบนี้ไม่ได้หรือไง? ลองคิดดูสิ เอาเนื้อเหยื่อกับดีเอ็นเอบางส่วนตัวฉันไปสร้างเป็นคน แล้วจู่ๆ ก็รู้ว่ายัยนั่นกำลังตาย---”

“อ๋อ เป็นห่วงนี่เอง” เอริสทำเสียงล้อเลียน

“ไม่ได้ห่วงนะ! ฉันไม่อยากให้ยัยนั่นเกิดมาบนโลกนี่ด้วยซ้ำไป...แต่ไหนๆ ก็เกิดมาแล้ว...ก็ไม่อยากให้จากไปง่ายๆ เท่านั้นเอง”

 

พีดูท่าทางของเฟียน่าแล้วสรุปในใจ

 

‘ไอ้ท่าทางซึนเดเระนี่ ไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลยนะ เฟียน่า...แต่ยังไงซะ ตอนนี้ฉันสัมผัสได้ถึงระยะห่างระหว่างเราสองคนมากขึ้นแฮะ...เป็นเพราะเธอโตขึ้นหรือเพราะ WGT องค์กรย่อยของเวิลด์เจเรนัลกันแน่?’

 

เหมือนเฟียน่ารู้ตัวว่าพีจ้องมองอยู่ เธอเลยเดินเข้ามาประชิดตัวเขา

 

“นี่...พี ฉันไม่รู้หรอกว่าอะไรที่ทำให้นายกลายเป็นแบบนี้...แต่นายสัญญากับฉันอย่างหนึ่งได้ไหม? ว่าจะไม่ใช้พลังนั่น...ฆ่าคน”

“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก”

“ก็ดี...”

“ไงเธอถามอะไรแบบนี้ละ?”

“คิดได้มั้ง คงเป็นเพราะเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่ Area RU กองกำลังพิเศษเอ่ย หน่วยพิทักษ์บลาๆๆๆ...เอาล่ะ อีกสิบวินาทีจะถึงจุดหมาย เตรียมตัวให้พร้อม ฉันจะเป็นเปิดทางให้เอง!”

 

อ๊อดๆๆๆ!

 

เสียงเตือนภัยอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากด้านหน้าเครื่องบิน คนขับที่เป็นผู้ชายสวมหมวกปิดเกือบทั้งหน้าหันมาตะโกนบอก

 

“มิสไซล์จากเหมืองสองลูกกำลังมาทางนี้ครับ!”

“หึ...ว่าแล้ว เจ้าลากัซคงไม่ให้เราเข้าง่ายๆ ทุกคน! หาที่เกาะไว้!”

 

เฟียน่าสั่งแล้ววิ่งไปที่นั่งข้างคนขับเครื่องบินอีกที่ กดปุ่มอะไรบางอย่างทำให้มีคันโยกเครื่องบินออกมา เธอใช้มือทั้งสองจับไว้แน่น ก่อนที่จะสั่งลูกน้องข้างๆ

 

“คอยบอกระยะมิสไซล์ให้ฉันด้วย”

“ครับ...สามสิบไมล์...ยี่สิบเจ็ดไมล์...ยี่สิบห้าไมล์---“

 

‘โห้ยๆ เราจะรอดไหมเนี่ย!?’

 

พีที่เพิ่งรัดเข็มขัดติดกับผนังของเครื่องบินกระวนกระวายใจ ก่อนที่มือขวาของทอมมี่จะกุมมือซ้ายของเขา

 

“พีจัง ก่อนที่เราทั้งคู่จะตาย ผมขอจูบลา---”

“ปากเสีย!” พีตวาดใส่พร้อมชักมือซ้ายออก

“ก็แหม เรา---“

“หุบปากซะ! นั่งนิ่งๆ ไป”

 

เมื่อทอมมี่เห็นว่าพีเอาจริงเลยเลิกเล่น

 

‘ให้ตายสิ มันพูดอะไรของมันวะ คนยิ่งเครียดๆ อยู่...’

 

พีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วใช้หางตามองทอมมี่ที่ทำหน้าเศร้าอยู่

 

“เอาหน่า...เราไม่ตายหรอก แกคิดมากไปได้”

“เหรอครับ!?”

“ก็เออสิวะ...”

 

เมื่อทอมมี่ได้ยินแบบนั้นก็พยายามตะเกียดตะกายจะมากอดพีให้ได้ ถ้าไม่ติดที่เข็มขัดรัดตัวไว้

 

“เจ็ดไมล์! หกไมล์! ห้าไมล์! สี่ไมล์!”

“ปล่อยอีเอ็มพีแฟร์! (EMP Flare)”

 

กึ่ก! เฟื๊อบ!

 

มีอะไรบางอย่างถูกยิงออกจากเครื่องบิน ก่อนที่เฟียน่าจะบังคับเครื่องให้ทิ้งดิ่งลงสู่พื้นดินอย่างกระทันหัน

 

ตูม! ตูม!

 

เสียงระเบิดกลางอากาศที่ไม่ไกลมากนัก แล้วเฟียน่าพยายามเฉิดหัวเครื่องบินให้อยู่ในแนวเดิม ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างหายใจไม่ทั่วถึง เฟียน่าตะโกนถาม

 

“มีใครเป็นอะไรไหม?”

“โอเค ไม่มีใครเป็น” เหม่ยซิงปลดเข็มขัดแล้วลงไปหยิบแว่นที่หลุดออกมาจากหน้าเธอ

“แปลกแฮะ...มีแค่สองลูกเอง!?” เฟียน่านั่งดูเรดาห์ “ปกติเจ้าลากัซน่าจะมีเยอะกว่านี่นิ...”

“ดีแล้วไม่ใช่หรือไงคะ?”

 

เอริสว่าแล้วเฟียน่าก็ลุกขึ้นมาเข้าสู่ห้องโถงเครื่องบินตามเดิม ก่อนที่จะบอกเป้าหมายต่อไป

 

“อีกห้านาที เราจะถึงเหมืองนั่นแล้ว...เตรียมลุยกันเถอะ!”

 

◊◊◊

 

คุยกับคนเขียนกันนะ >_<

จบลงไปแล้วสำหรับบท ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 9 [ตัวตนที่แท้จริง]’ นะจ๊ะ

และแล้วพวกเขาทั้งหมดมุ่งตรงไปช่วยเฟียน่า

การช่วยเหลือครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่

โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 10 [ผู้ใช้ภาพมายา]’

เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก การผจญภัยอันแสนวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น!

ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ

By Spy442299 & Nattanan Srising

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา