Love Unlimited! รักนี้ไม่มีจำกัด
เขียนโดย Fame
วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.46 น.
แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557 22.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ให้ตายเถอะเมอร์ลิน!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter2 : ให้ตายเถอะเมอร์ลิน!!
“2140”
“ของมึงอ่ะ”
“กู0147”
ฟิล์มมองเพื่อนที่กำลังบอกเลขรหัสของสายรหัสตัวเอง ร่างบางถอนหายใจยาวๆแล้วมองหมายเลข 4 ตัวบนกระดาษแผ่นเล็กๆก่อนกระดาษแผ่นนั้นจะถูกดึงไปต่อหน้าต่อตาโดยคนร้ายนั้นคือ......
“F**k!!! มอสเอาของกูคืนมานะ!!”่
“เรื่องไร? กูถามมึงตั้งนานแล้วว่ามึงได้เลขอะไรแต่มึงก็แม่งเอาแต่เงียบไม่ตอบคำถามกูๆเลยต้องเอามาดูเองนี่ไง”
ห๊ะ??...
“อย่างที่ไอ้มอสบอกนั่นแหละ... มึงเหม่ออะไรวะ?”
ใบหน้าหวานผินหันมามองเจ้าของเสียง ภูมิมองหน้าของเพื่อนที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงวันอย่างเซ็งๆ ดวงตาคู่คมเข้มภายใต้กรอบแว่นหนาจ้องมองเขาอย่างคาดเค้น ร่างบางถอนหายใจอีกครั้ง ส่วนมือเรียวหยาบด้านของกีฬาก็ม้วนจอนผมสีสว่างที่คลอเคลียแก้มก่อนจะตอบคำถามที่ถูกถามจากสายตาคู่คมของเพื่อนแว่น
“Nothing....”
ภูมิถอนหายใจออกมาแล้วก็ไม่เซ้าซี้ถามอะไรมาก ร่างสูงของเดียร์ที่มองสถานการณ์อยู่ก่อนแล้วทำได้เพียงแค่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอาโดยไม่ได้คิดติดใจอะไรเนื่องจากที่รู้กันอยู่แล้วว่าฟิล์มอยู่ฝรั่งเศสแล้วคนแถวทวีปยุโรปเป็นคนที่เชื่อใจยากถ้าไม่แลกสิ่งที่เท่าเทียมกัน หรือก็คือถ้าอยากให้เขารู้สึกเชื่อใจเราก็ควรที่จะเชื่อใจเขาตอบ ฟิล์มหันหน้าหนีเพื่อนในกลุ่มแล้วก็มองสมุดรายชื่อของรุ่นพี่ละคนมีในคณะนี้ ตอนนี้เป็นวันที่สองในการตามล่าหาลายเซ็นโดยที่เขามีลายเซ็นประดับเพียงแค่3ลายเซ็นแต่มีรุ่นพี่คุมเชียร์(หรือพี่ว้าก)ถึง54คนในคณะนี้ ไหนจะสายรหัสของเขาอีก ที่เขาเหม่อเพราะว่าเขานึกถึงคำสั่งของพี่ว้ากคนเมื่อวานแล้วเขาถึงกับกลุ้ม คนที่เป็นเฮดว้ากคือ.... พี่ทศ และมันก็จริงเพราะมอสเป็นคนบอกเอง
ร่างบางของฟิล์มที่ตอนนี้นั่งเหม่ออยู่กลางกลุ่มของหนุ่มหล่อสุดฮอตจริงๆแล้วใครจะรู้ว่า มอส ภูมิ เดียร์ จริงๆแล้วเป็นใคร
“ไงไอ้มอส”
เสียงปริศนาดังขึ้นพร้อมกับแรงตบหลังดังปึก! มอสหันกลับไปมองรวมทั้งภูมิและเดียร์ยกมือขึ้นไหว้ มีเพียงฟิล์มที่ทำหน้าเหลอหลาใส่ดวงตาสีม่วงเข้มเหลือบมองบุคคลผู้มาใหม่อย่างแปลกใจบวกกับงุนงงกับความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้งสามคนด้วย
“เออ... ไหว้พระเถอะมึง แล้วนั่นใครวะ??”
ผู้อวุโสกว่าพูดขึ้น ฟิล์มตกใจนิดหน่อยแต่ก็ยังคงทำหน้านิ่งใส่แบบเดิม
“นั่นฟิล์มครับพี่โอเชี่ยน”
มอสเป็นคนตอบแทน.....
He’s...โอเชี่ยน? คิดว่าตัวเองเป็นการ์ดเอเลเมนฮีโร่ในเกมส์กลคนอัจฉริยะหรือไง? ฟิล์มคิดในใจ
“อ่อ... ไอ้เด็กใหม่ที่มาวันแรกก็โดนเล่นอ่านะ?”
ไร้เสียงตอบกลับมีเพียงปฏิกิริยาที่พยักหน้าตอบ ฟิล์มถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ร่างบางพูดภาษาฝรั่งเศสใส่ภูมิเบาๆ คล้ายๆว่า ‘ขอตัวไปทำธุระก่อนนะ’ ซึ่งภูมิเองก็ไม่ได้อะไรมากมายและเนื่องจากภูมิเองที่รู้ภาษาฝรั่งเศสก็พยักหน้ารับแล้วร่างที่เล็กกว่าส่วนสูงของเด็กรุ่นเดียวกันก็รีบออกจากโต๊ะหินอ่อนในซุ้มเพื่อออกมาตามหาลายเซ็นของพวกพี่ว้ากต่อ(หรือพี่ที่คุมเชียร์นั่นแหละ)
“ฟิล์มมันพูดอะไรวะ?”
มอสหันมามองภูมิหลังจากที่พึ่งรู้ตัวว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาไม่ได้อยู่ที่โต๊ะแล้ว
“ทำธุระมัน” ภูมิตอบเสียงเรียบแล้วก็พูดต่อ
“พวกมึงสองตัวนี่ก็เนียนโคตร ทำไมไม่ไปเรียนนิเทศวะกูว่าแม่งรุ่ง”
“มึงก็ว่าไปนั่น... จริงๆแล้วพวกมึงแหละผิด เขาบอกให้กระจายๆทำไมมึงถึงมารวมอยู่แค่คนๆเดียววะ?”
โอเชี่ยนพูดขึ้นร่างสูงกำยำของเพื่อนมาใหม่นั่งลงข้างๆมอสที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับที่โดนภูมิด้วยวาจาเชือดเฉือนนิ่มๆของหนุ่มแว่นหน้าหล่อ เดียร์แค่หน้าเซ็งๆใส่เท่านั้น
“กูสงสารฟิล์มว่ะ”
“ทำไมวะเดียร์?”
“มึงน่าจะรู้นะว่าฟิล์มมันได้รหัสอะไรไอ้มอส...”
เดียร์พูดด้วยน้ำเสียงกึ่งๆรำคาญใส่เพื่อนร่างสูงของเด็กปี2ที่แฝงตัวรวมกลุ่มกับรุ่นน้องปี1เพื่อคอช่วยเหลือเด็กปี1หลายๆคนที่มีปัญหา
“เออว่ะ! กูลืม!!!!”
มอสตอบเสียงหลงภูมิเพียงแค่ทำหน้านิ่งที่เจ้าตัวชอบทำบ่อยๆ
“สงสาร? แล้วน้องเขาได้เลขอะไรวะ?” โอเชี่ยนถามต่อ
“1405!!!”
“!!!!!!!!!”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“พี่ครับ พี่ใช่พี่แชมป์หรือเปล่าครับ?”
ฟิล์มทักผู้ชายร่างสูงที่ตอนนี้นั่ลงอยู่บนโต๊ะหินอ่อนโดยมีเพื่อนๆของพี่เขานั่งอยู่รอบๆที่แซวไม่หยุดปาก ฟิล์มแทบจะสะกดอารมณ์ไม่ให้ต่อยหน้ารุ่นพี่
“ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่าเอ่ย?”
“ช่วยเซ็นไอ้นี่ให้ผมหน่อยครับ”
มือบางหยาบด้านของนักกีฬายืนสมุดล่าลายเซ็นรุ่นพี่ให้กับคนที่เป็นรุ่นพี่ที่ชื่อแชมป์
“โธ่น้องครับ จะให้พี่คุมเชียร์เซ็นให้เนี่ย มันต้องทำอะไรบ้างครับ?”
ร่างเล็กคิ้วกระตุกและเนื่องจากที่ว่าตัวเขาจำหน้าพี่แชมป์ได้ แชมป์เป็นพี่ว้าก(หรือพี่คุมเชียร์)ปี3
“ผม ฟิล์ม โมริตะ แอนเดอร์สัน ปี1 คณะสถาปัตยกรรมครับ”
“งั้น น้องต้องการอะไรครับ?”
“อยากให้พี่ช่วยเซ็นชื่อในสมุดรายชื่อให้ผมหน่อยครับ”
“ได้ดิ ไม่มีปัญหา”
แชมป์ยิ้มให้แล้วหยิบสมุดที่รุ่นน้องตัวเล็กยื่นมาให้เขา ฟิล์มเพียงแค่มองนิ่งๆและตัวเขาเองนั้นก็กำลังพยายามข่มอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นให้เย็นลงเพราะไม่อยากมีเรื่องให้ใหญ่โต เพราะเปิดวันแรกเขาก็โดนหนักแล้วเผลอๆเขาคงไม่อยู่ดีในมหา’ลัยนี้แน่
“เอาล่ะ เสร็จแล้วครับ”
“ขอบคุณครับ”
ฟิล์มรับสมุดแล้วเดินออกไปไม่เหลี่ยวหลังมามองอีกเลย
“ทำไมให้ง่ายจังวะ?”
“ก็น้องเขาน่ารักดี....”
แชมป์ตอบแล้วมองตามแผนหลังเล็กๆนั่นจนลับตา
ฟิล์มเดินมานั่งตรงโต๊ะหินอ่อนของอีกฝากของอาคารใหญ่ ร่างบางมองลายเซ็นในสมุดที่เกือบจะครบช่องเหลือเพียงไม่กี่ช่องเท่านั้นที่จะครบลายชื่อของรุ่นพี่คุมเชียร์ แต่คนท้ายๆที่เขาจะให้เซ็นคงไม่พ้น ‘เฮดว้าก’ สุดโหดคนนั้น
“What da…. ทำไมฉันต้องซวยแบบนี้เนี่ย”
ดวงตาสีม่วงเข้มเหม่อมองท้องฟ้ากว้างของเมืองเอเชียที่เป็น1ในเชื้อสายเลือดของเขา ฟิล์มที่นั่งปลีกวิเวกมานั่งอยู่คนเดียวในสถานที่ๆเงียบสงบ.... เรือนผมสีสว่างปลิวไสวตามแรงลมอ่อนๆ ฟิล์มฟุบลงกับโต๊ะหินอ่อนอย่างเซ็งๆ ดวงหน้าหวานบูดบึ้งตามอารมณ์ของเจ้าตัว ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหยิบ Nokia Lumia 1020 ที่สั่นเตือนข้อความเข้า คิ้วเรียวขมวดมุ่นมองมันก่อนจะเลื่อนเปิดอ่าน
‘คุณมี1อีเมลที่ยังไม่ได้อ่าน’
ฟิล์มเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจก่อนกดแตะเข้าไปอ่าน
‘เขาเรียกรวมน้องปี1ที่เดิม...รีบมา
From: ภูมิ’
ฟิล์มรีบลุกออกจากโต๊ะแล้วรีบตามจุดหมายที่ในอีเมลนั่นบอกทันที โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีอีก1ข้อความที่เข้ามาใหม่
‘เขากำลังจะเฉลยสายรหัสโดยบอกคำใบ้’
.
.
.
.
.
.
“ไปไหนมาวะ?”
“หาที่สงบๆอยู่น่ะ”
ฟิล์มตอบมอสทันทีที่ตอนนี้เขาได้รวมกลุ่มกับเด็กปี1ที่มากันเกือบครบ(ครบไม่ครบอันนี้ไม่รู้เด็กมันเยอะเกินไป)และกลุ่มเขาก็มาครบกันทุกคนด้วยความที่ฟิล์มตัวเล็กกว่าผู้ชายในเกณฑ์อายุทำให้ร่างเล็กผมสีสว่างไม่รู้เลยว่าข้างหน้านั้นพวกรุ่นพี่ปี3เขากำลังทำอะไรกัน มีเพียงเสียงที่ดังผ่านทางโทรโข่งเท่านั้น
“เอาล่ะครับ วันนี้น้องๆได้กระดาษเลขรหัสกันแล้วใช่ปะครับ?”
“ครับ/ค่ะ”
“แล้วบางคนก็มีคำใบ้บอกอยู่ด้วยใช่มั้ยครับ?”
“ครับ/ค่ะ”
“ที่พี่เรียกรวมกันวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ น้องๆก็อยู่แล้วใช่มั้ยครับที่พวกพี่ปี2บอกไปเมื่อวานว่า”
“วันนี้เราจะตามหาพี่รหัสกันครับ/ค่ะ!”
“นั่นก็มีส่วน จริงแล้วก่อนที่เราจะตามหาพี่รหัสกันนั้น วันนี้พี่จะเฉลยสตาฟปี2ที่แฝงตัวกันอยู่ในพวกปี3ที่คอยช่วยเหลือน้องๆในด้านต่างๆนะครับ”
ห๊ะ?
คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจฟิล์มเงยหน้ามองเพื่อนใหม่สามคนที่รู้จักกันได้สองวันที่ตอนนี้กำลังยกยิ้มหลุดคาแรกเตอร์ที่แต่ละคนร้างมาตั้งแต่แรก......
หรือว่า!!!!!!!!!
“เชิญสตาฟปี2ออกมาข้างหน้าเลยครับ!”
จบคำพูดของพี่ปี3 มอส ภูมิและเดียร์รวมถึงสตาฟหลายๆคนก็เดินออกมาโดยตอนนี้ฟิล์มได้แต่นิ่งเงียบและแบบตกใจนิ่งๆอีกทั้งยังขายหน้าอีกเล็กน้อย เพราะว่าเขาได้พ่นคำหยาบมาสารพัดใส่บ้างละ ทำเรื่องไม่สมควรด้วยบ้างล่ะ ก็เขาไม่รู้นี่ว่าจะมีการรับน้องแบบนี้นี่ บริเวณรอบๆข้างตัวเขาก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเสียงโห่บ้างไรตามประสามนุษย์ล่ะนะ ฟิล์มหัวเราะหึๆในลำคอแล้วเจ้าตัวก็พึ่งรู้ว่ามีข้อความเข้า ฟิล์มไม่รอช้าที่จะเปิดอ่านแล้วยกยิ้มหยันบางๆออกมา อีกซักพักเขาคงจะเฉลยสายรหัสกันแล้ว
“มีเรื่องเซอร์ไพรส์กันไปแล้วพอให้ตกใจเล่นกันนะครับ เป็นไงตกใจกันมากมั้ยเอ่ย ฮ่าๆ”
พี่ปี3หัวเราะอย่างอารมณ์แล้วก็พูดใส่โทรโข่งต่อ
“มาต่อกันเลยนะ นอกจากจะมีสตาฟปี2ปะปนอยู่กับน้องๆแล้วพี่ก็มีเรื่องที่จะเซอร์ไพรส์แล้วอยากขอบคุณพวกเขามากๆ ขอให้น้องปี2ที่เข้าคุมเชียร์เดินออกมาข้างหน้าเลยครับ”
เสียงกรี้ดกร้าดของสาวๆดึงความสนใจได้อย่างดี ดวงตาสีม่วงเข้มเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อเฮดว้ากที่ตนคิดว่าเป็นปี่3นั้นดันมาเป็นรุ่นพี่ปี2รวมราวๆเกือบ10ได้ที่ปะปนกับพี่ว้าก
“แหม่ๆ เสียงกรี้ดถล่มถลายจริงๆ พี่ก็หล่อนะครับ ไม่เห็นกรี้ดให้พี่มั่งเลย”
“ฮ่าๆ”
แล้วก็ตามเสียงหัวเราะของเหล่าเด็กปี1 การเรียกรวมครั้งนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานไม่เหมือนกับรับน้องวันแรกที่เต็มไปด้วยความกดดันจนผู้หญิงบางคนถึงกับร้องไห้ ฟิล์มถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆแล้วมองไปข้างหน้าตรงที่พวกพี่เขารวมสตาฟปี2ที่แฝงอยู่ในกลุ่มพวกเขา......
(Part2: Film Talk)
ผมเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองถ้าไม่เห็นกันจริงๆแบบนี้ ทำไมเฟรดไม่บอกผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยล่ะว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หรือเฟรดดี้เองก็ยังไม่รู้? ให้ตายเถอะเมอร์ลิน ผมมองกระดาษแผ่นเล็กที่มีตัวเลขสี่ตัวต่างกันถูกพิมพ์ไว้ที่ได้คืนจากมอส เอ่อ.... ผมควรเรียกเขาว่าพี่สินะ โอเค ที่ได้คืนจากพี่มอส ก่อนที่ผมเดินขอตัวออกมาหาลายเซ็นของพวกปี3 ถ้าจำไม่ผิดเขาคือพี่โอเชี่ยน ผมถอนหายใจเซ็งๆอีกครั้งเนื่องจากผมดวงซวยในวันแรกแม้จะเป็นที่รู้จักในพวกหมู่มากแต่ก็ไม่มีใครอยากคบผมเป็นเพื่อนหรือมาทำความรู้จักผมหรอกเพราะกลัวซวยไปด้วย ผมพอเข้าใจนะ ผมเอามือสางๆผมหน้าม้าสีบลอนด์สว่างที่ได้มาจากป๊ะป๋าออกอย่างรำคาญๆ อากาศก็ร้อนอบอ้าว ดีที่ว่าที่เขาเรียกรวมที่ซุ้มถึงจะมีร่มบังแดดแต่อากาศร้อนใช้ได้
“หลังจากที่เราเผยโฉมอสูร เอ้ย! เผยโฉมหน้าของน้องปี2แล้ว พี่ขอให้น้องๆปี1รับผ้าสีดำที่พวกพี่แจกด้วยครับ”
ผมมองรุ่นพี่ที่ถือโทรโข่งพูดแล้วก็เห็นพวกพี่เขาคอยแจกผ้าสีดำยาวพอที่จะปิดตาได้.... ปิดตา?
“น้องจะเห็นนะครับว่าผ้ามันยาวมากๆ ให้น้องๆทุกคนนะครับยืนขึ้นแล้วอยู่ในความสงบด้วย”
ทุกคนก็ทำตามอย่างไม่มีขัดอะไรผมเองก็คือหนึ่งในนั้น ถึงแม้ว่าผมจะนั่งจะยืนหรือจะนอนยังไงผมมันก็เป็นจุดเด่นอยู่นั่นแหละ
“หันหลังแล้วเอาผ้าผูกปิดตาน้องๆเลยครับ แล้วห้ามแอบดูนะครับถ้าแอบดูจะถูซ่อมทั้งเจอร์นะครับ เขาใจตรงกันนะ”
“ครับ/ค่ะ”
“เอาล่ะผูกตาได้”
ผมทำตามที่รุ่นพี่เขาบอกโดยทันที การเอาอะไรผูกตาหรือปิดตามันเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบมากที่สุด เพราะมันทำให้มืดมองไม่เห็นอะไรเลย ถึงแม้ว่าผมจะชอบความมืดก็เถอะ แต่แบบนี้มันก็ไม่ดีนักหรอก ผมรู้สึกเหมือนมีคนเดินผ่านๆผมไปหลายๆคน บ้างก็หยุดข้างๆหรือจะหยุดตรงไหนก็แล้วแต่ ผมถอนหายใจเซ็งๆเมื่อผมไม่รู้สึกอะไรเลยข้างหลังผม
“พี่จะนับถึง3นะครับ ให้น้องเอาผ้าปิดตาออกแล้วหันกลับมาโดยน้องๆยังหลับตาอยู่นะครับ”
“1”
“2”
“3!”
ผมถอดผ้าที่ปิดตาออกแล้วหันกลับหลังมา ผมรู้สึกประหม่าแล้วก็ตื่นเต้นนิดๆ เพราะผมไม่รุ้เลยไงว่าพอผมลืมตาแล้วผมจะเจออะไร จนพี่เขาสั่งให้ลืมตาขึ้นนั่นแหละ
“กรี้ดด”
“โห... พี่”
แล้วก็บลาๆๆ ผมมองไปข้างหน้าที่ว่างเปล่าไม่มีใครอยู่เลย สายตาของผมเลยเบนไปมองรอบข้างแทน ผมมองเพื่อนร่วมรุ่นที่ตอนนี้คุยกับพี่รหัส(หรือเปล่า?)อย่างสนุก บ้างก็มีตกใจหรือสตั้นซ์กับสิ่งที่รุ่นพี่เขาเอามาเซอร์ไพรส์ผมเห็นเด็กผู้หญิงคนนึงร้องไห้โฮเมื่อพี่รหัสของเธอเซอร์ไพรส์โดยงูปลอมที่อยู่ในมือของเขา ผมกลั้นขำนิดๆ แล้วเสียงของพี่คนเดินก็ดังขึ้น
“อ่ะแฮ่ม! แหม่ๆ คุยกันออกรสเลยทีเดียว น้องๆบางคนยังไม่เจอพี่รหัสตัวจริงใช่มั้ยครับ? พอดีว่ามันเป็นเซอร์ไพรส์อีกชั้นนะครับ รายละเอียดเดี๋ยวพี่ที่น้องๆเจอเขาจะอธิบายให้ครับ พี่จำได้ว่าปี1ปีนี้มีหนุ่มลูกครึ่งมาเรียนด้วยสินะ?”
what....the hell…
“ใช่ครับ/ค่ะ”
“เขาชื่อฟิล์มใช่ปะ? เอาล่ะน้องฟิล์มครับ ช่วยยกมือหน่อยครับ”
“......”ผมแค่ทำหน้านิ่งใส่แล้วก็ยกมือ
“นั่นน้องฟิล์มนะ ขอให้น้องๆนะครับแยกกันตามอัธยาสัยเลย Free Timeครับ น้องฟิล์มนะครับ มาหาพี่ข้างหน่อยครับ”
ผมได้แต่เดินไปอย่างช่วยไม่ได้เพราะแค่วันแรกผมก็ซวยแล้วนะถ้ามีอีกผมคงจะแย่ ตลอดที่เดินมาข้างตัวผมเองก็เดินผ่านพวกพี่มอส พี่ภูมิ พี่เดียร์บ้าง WTF…. ผมจะเจออะไรอีกมั้ย? ผมเดินตามที่พี่เขาบอกจนมาถึงตรงข้างหน้าซุ้มและตัวผมเองที่ว่าเด่นแล้วก็ยิ่งเด่นกว่าเดินจนตกเป็นเป้าสายแก่หลายๆคนที่ดินผ่านไปมา ผมยืนอยู่หน้ารุ่นพี่ปี3ที่มีสีผมไฮไลท์สีพาสเทลสุดแสบสันราวกับสีรุ้งแถมส่วนสูงของเขาก็ต้องทำให้ผมเมื่อยคออีกซักระยะเพราะต้องเงยหน้าคุย....ผมโคตรจะอิจฉาคนเอเชียเลย โอ้พระเจ้า...ให้ตายเถอะ!
“ฟิล์มใช่ปะ?”
“อ่า....ครับ”
“พี่ขอดูรหัสของเราหน่อยสิ”
ผมยื่นกระดาษแผ่นนี้ให้พี่เรนโบว์(ผมตั้งชื่อแบบนี้ให้เพราะผมพี่เขาเหมือนสีรุ้ง)พี่เขายิ้มให้ผมแล้วหยิบกระดาษแผ่นเล็กนั่นไปดู
“ว่าแล้วเชียว.....”
“ครับ?”
“อ้อ เปล่าๆ อ่ะพี่ให้เอาไปทำความเข้าใจนะเพราะคำใบ้พี่รหัสของน้องจะเป็นแบบลูกโซ่ ไม่ใช่ง่ายๆที่จะเจอ น้องโดนทศสั่งล่าลายเซ็นอยู่ใช่ปะรีบๆหน่อยละกันนะ”
“ครับ”
“พี่ชื่อคิว ยินดีที่ได้รู้นะครับน้องฟิล์ม”
“ครับ”
พี่คิวยิ้มให้แล้วพี่เขาก็เดินไปธุระต่อ ผมมองกระดาษแผ่นเล็กในมือของผมที่มีอยู่สองใบ หนึ่งในนั้นคือเลขรหัสส่วนอีกอันคือ..... ‘คำใบ้’ ผมคลี่กระดาษแผ่นเล็กนั่นก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นอย่างหงุดหงิด
‘สูงชะลูดเสียดฟ้า’
.
.
.
.
.
.
.
God damn it!!!!!
(Part 2: End talk)
ตอนนี้ใบหน้าหวานกำลังทำหน้าหงิกใส่ Nokia Lumia 1020ที่เปิดออนแอปพลิเคชั่นที่เรียกว่า Skype กับคนที่เป็นถึงพี่ชายต่างแม่ของเขาเอง
(โคตรขำเลยบอกตรงๆ)
“แกก็พูดได้นี่หว่า”
(เอ้า ฉันไม่ผิดนะแกสิผิดทำไมไม่เชื่อฉันเล่า)
“ใครมันจะไปรู้ว่าพูดจริงพูดเล่นล่ะ”
น้ำเสียงที่กล่าวออกมาอย่างหงุดหงิดในภาษาฝรั่งเศส ฟิล์มมองผู้ชายที่ออนสไกป์กับเขาที่มีสีผมสีบลอนด์ทองสว่างไฮไลท์สีม่วงเข้มกับดวงตาสีมรกตที่สาวๆหลงไหล เฟรดหัวเราะใส่น้องชายหน้าหวานก่อนจะพูดต่อ
(ที่นั่นเป็นไงบ้างล่ะ?)
“ก็..ร้อนวันแรกแทบจะน็อก แดดร้อนมาก”
(ก็ใกล้เส้นศูนย์สูตรนี่หว่าทำไงได้)
“เฟรด...”
(ว่า?)
คิ้วเรียวบางขมวดมุ่นกลีบปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง เฟรดมองหน้าน้องชายตัวเองแล้วเลิกคิ้วคมขึ้นอย่างนึกแปลกใจ
“แกว่าฉันจะรอดมั้ยวะ?”
(มันขึ้นอยู่กับแก จะรอดหรือจะแย่มันอยู่ที่แกส่วนคำใบ้นั่นไม่ลองให้หม่ามี๊แปลให้ล่ะ?)
ฟิล์มยู่ปากใส่ก่อนจะพูดต่อ
“ไม่อยากกวนแม่ ฉันอยากจะทำด้วยตัวเอง”
(ไอ้‘สูงชะลูดเฉียดฟ้า’ถ้าไม่เข้าใจจริงๆมันอยากนะ ถ้าให้ฉันแปลมันจะเป็นฉันจะเข้าใจว่ามันเป็นเสาเพราะเสามันสูงแล้วแกคิดว่าไง?)
“ก็คิดแบบนั้น”
(โอ้ว ฉันต้องไปก่อนนะ บายบี)
“เค”
แอปสไกป์ถูกปิดลง ฟิล์มถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆร่างบางหยัดกายลุกขึ้นนั่งตอนนี้เขานอนอยู่บนม้านั่งหินอ่อนที่มหา’ลัยเขายังไม่อยากกลับบ้านเพราะเขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่เขาต้องมานั่งรอที่นี่ในตอนนี้ แล้วก็เป็นไปตามคาดการณ์ ร่างสูงของสี่หนุ่มบอยแบนด์รุ่นพี่ปี2 ที่เดินตรงเข้ามาหาเขา ดวงตาสีม่วงเข้มจ้องมองรุ่นพี่ที่คุ้นเคยปากบางเอ่ยทักเสียงเรียบๆที่ทำคนฟังนั้นถึงกับไปไม่เป็นทีเดียว เพราะปกติถ้ารู้ๆกันอยู่ก็คือ.... ฟิล์มไม่ทักใครก่อนนี่นา
“ไงฟิล์ม”
“.............”ร่างบางไม่ตอบ
มอสได้แต่ถอนหายแล้วทั้งสี่คนก็นั่งลงข้างๆร่างเล็กผมสีบลอนด์ มอสรู้สึกกดดันจึงทำได้แค่นั่งนิ่งๆเงียบๆเท่านั้น
“แล้วพวกพี่มาทำไมกันครับ? ไม่กลับบ้านหรือมีไปทำธุระกับน้องรหัสหรอครับ?”
“ก็กำลังทำอยู่ครับ”
ฟิล์มเลิกคิ้วแล้วมองภูมิที่มองหน้าเขานิ่ง ฟิล์มผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ แล้วมองอีกสามคนที่เหลือเอาแต่เงียบนิ่งกัน มือเรียวจึงหยิบเอาสมาร์ทโฟนคู่ใจออกมาเล่นแก้เซ็งแทน
.
.
.
.
.
.
.
ฟิล์มที่ตอนนี้ถูกลากไปไหนไม่รู้ยืนจังก้าหน้าอึนอยู่หน้าผับแห้งหนึ่งกับสี่หนุ่มบอยแบนด์ ร่างสูงของภูมิยืนบัตรสีดำสนิทให้กับการ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าประตูก่อนที่จะส่งสัญญาณที่บ่งบอกเขาได้แล้ว ภายในเต็มไปด้วยแสงไฟหลากสีผู้คนมากหน้าหลายตา บ้างก็ปล่อยเสต็ปโชว์ความเทพกลางฟลอร์ ใบหน้าหวานแสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจนความเบื่อหน่ายที่พบเจอจนชินตอนอยู่ตั้งแต่เกรด10ตอนนั้นเขาโดนเฟรดลากมาให้เป็นไม้กันหมาให้ไอ้พี่หน้าคมที่กวนประสาทเขาบ่อยๆ
“ช้าวะ”
เสียงร้องทักที่ดังขึ้นทำให้ใบหน้าหวานผินหันไปมองก็พบกับกลุ่มรุ่นพี่กลุ่มใหญ่ที่นั่งล้อมโต๊ะใหญ่ ถ้าเขาจำไม่ผิดนั่นคือที่นั่งระดับวีไอพี
“โทษทีมีปัญหานิดหน่อย”
ภูมิเป็นคนออกหน้าแทน โอเชี่ยนผิวปากหวือก่อนจะขอตัวไปทำธุระอะไรซักอย่างส่วนมอสเองก็ขอตัวออกไปตามด้วยคนละทาง ดวงตาสีม่วงเข้มจ้องมองกลุ่มพวกรุ่นพี่อย่างไม่วางแต่และไม่ค่อยอยากจะไว้ใจเท่าไหร่เพราะเขาไม่รู้จักใครเลย
จังหวะเพลงมันส์ๆดังขึ้นแต่ได้หาเรียกความสนใจของร่างบางไม่ ฟิล์มเดินตามรุ่นพี่ใส่แว่นแล้วนั่งลงในกลุ่ม แล้วก็ได้เสียงแซวที่เล่นเอาร่างบางผมสีสว่างคิ้วกระตุก
“ไปเอามาจากไหนวะไอ้ภูมิ”
“เด็ดใช้ได้เลยนี่หว่า”
“โหย น่ารักจังวะ”
แล้วก็อีกสารพัดคำที่ฟิล์มไม่อยากนึกถึง
“เฮ้ยพี่ๆ นี่รุ่นน้องผมนะเกรงใจผมหน่อยดิ”
“Damn it…..”
ฟิล์มสบถคำหยาบเบาๆอย่างหัวเสียให้ตายเถอะทำไมเขาต้องมาเจอพี่ทศด้วยวะ ตอนแรกก็ไม่เห็นหรอกแต่พอนั่งเท่านั้นแหละ ดวงหน้าหวานซีดเผือดดีที่ว่าตรงที่เขานั่งยังเป็นแสงไฟสลัวๆที่ไม่ทำให้เห็นหน้าได้ชัด ใบหน้าคมคายที่จิบเครื่องดื่มหลากสีอย่างนิ่งๆ ดวงตาคู่คมที่ผินมองไปทางข้างหน้าดูมีเสน่ห์ที่สามารถสะกดสายตาคนมองตอบได้อย่างดีทรงผมที่ถูกเซ็ดมาอย่างดีผิดกับลุคที่อยู่มหา’ลัยจนฟิล์มนึกอึ้ง รุ่นพี่หลายๆคนฟิล์มพอรู้จักจากการแนะนำของภูมิ ส่วนเดียร์ที่ตอนนี้ไปนั่งคั่วสาวที่ไหนก็ไม่รู้ ฟิล์มนั่งนิ่งๆมองสิ่งรอบข้างที่เกิดขึ้นอย่างเซ็งๆ ภูมิที่สังเกตุเห็นเลยทักเบาๆ
“เบื่อ?”
“อืม”
“ถ้ามันไม่ถนัดก็เรียกอย่างที่เจอกันครั้งแรกก็ได้”
“อืม”
ภูมิยักคิ้วให้ก่อนจะยกแก้วเหล้าจิบขึ้นฟิล์มมองก่อนจะขอให้ภูมิชงเหล้าให้ เห็นแบบนี้เขาก็เคยกินว้อดก้ารัสเซียกับเหล้าต้มมาก่อนนะ กะอีของแค่นี้จะขนาดไหนเชียว ฟิล์มรับแก้วเหล้าจากภูมิอย่างเซ็งๆดวงตาคู่ตัวหันไปมองฟลอร์ที่รวมเล่าคนสเต็ปเทพไว้
The sun goes down
The stars come out
And all that counts
Is here and now
My universe will never be the same
I’m glad you came……..
เสียงจังหวะมันส์ๆที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากดีเจฝีมือดี นิ้วเรียวเคาะนิ้วตามจังหวะเพลงอดไม่ได้ที่จะเคลิ้มตามจังหวะเพลงที่ได้ยิน เรดเลเบิ้ลผสมโซดาพอไม่ให้แสบคอมากเกินไปถูกเจ้าของดวงตาสีม่วงของลูกครึ่งกระดกลงคอรวดเดียว แล้วก็มีมือชงเหล้าคอยชงให้เขาเรื่อยๆ
‘‘You cast a spell on me, spell on me’’
ริมฝีปากขยับร้องตามเนื้อเพลงเบาๆ แล้วคิดอะไรในใจก่อนที่ความคิดนั้นจะถูกเฉลยออกมาให้คนภายนอกรู้เขาเองก็จะรู้แล้วว่าใครคือคนใน‘คำใบ้’ มันเป็นเรื่องดีอีกหนึ่งวันที่เขาเจอโชคดีที่ภูมิลากเขาให้มาทำความรู้จักกับพวกรุ่นพี่ในเจอร์ไม่งั้นเขาไม่โชคดีอย่างหรอก ‘สูงชะลูดเฉียดฟ้า’ ฟิล์มแสยะยิ้มอย่างทันทีร่างบางไม่รอช้าแก้วเหล้าถูกดื่มจนหมดแล้วเจ้าตัวก็สาวเท้าไปหาจุดหมายทันที
Turn the light out now
Now I’ll take you by the hand
Handyou another drink
Drink it if you can
Can you spend a little time,
Time is slipping away,
Away from us so stay,
Stay with me I can make,
Make you glad you came….
ร่างสูงเกือบ198เซนติเมตรที่กำลังโยกร่างกายตามจังหวะเพลงมันส์ๆ ร่างสูงที่ดูเป็นจุดเด่นแต่ใบหน้านั้นเป็นจุดเด่นยิ่งกว่ายิ่งเมื่อสายตาคมที่เผลอสบมองสาวสวยที่ตนเล็งไว้ไม่วายที่สาวเจ้าจะเดินเข้ามาหาตามคำเชื้อเชิญ แต่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนยืนมองอย่างนั้นนานแล้ว สายตาเรียบที่ติดจะเบื่อหน่ายมองร่างสูงอย่างเซ็งๆ ตอนนั้นก็คนนั้นที แล้วคราวนี้มาคนนี้ โอ้พระเจ้า หมอนี่ช่างร้ายกาจเสียเหลือเกิน!!!!!!!!!!!
แรงสะกิดเบาๆที่สามารถเรียกเจ้าของร่างสูงให้หันกลับไปมองโดยไม่สนใจของหวานที่เต้นโยกย้ายสายสะโพกเลยแม้แต่น้อง เดียร์สะดุ้งอย่างตกใจเมื่อรู้เลยคุณกับสาวเจ้าที่เขาเผลอตกมาให้กลับไปก่อนเพราะตัวเขาดันติดธุระ ดวงตาคู่คมมองคนตัวเล็กกว่าที่ยืนกอดอกแสยะยิ้มให้เขา ใบหน้าของเด็กหนุ่มลูกครึ่งที่ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวดูหล่อคมเข้มเลยซักนิดนั้นเรียบนิ่งอย่างเจ้าตัวเคยทำ
“ว่า”เดียร์พูดเสียงเรียบๆ
“อ่ะ...”
มันชดเจนมากที่จะตอบคำถามมือเรียวส่งกระดาษแผ่นเล็กไปให้เดียร์รับมาอย่างแปลกใจเล็กๆ ก่อนจะหัวเราะหึแล้วยิ้มหยันๆให้อย่างช่วยไม่ได้กับความฉลาดเป็นกรดของรุ่นน้องตัวเล็ก
“รู้ได้ไง...”
“It’s secrets”
“…………”
เดียร์เงียบไปก่อนจะคิดในใจเกี่ยวกับแผนการตามหาพี่รหัสตัวเอง นี่ตัวเขาทำให้แผนมันแตกหรือเปล่าทำไมมันไอ้นี่มันถึงเจอตัวเขาเร็วนัก เดียร์มองเจ้าเด็กแสบที่เจอกันครั้งแรก ตอนแรกเขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นลูกครึ่งแต่พออ่านชื่ออ่านประวัติแล้วเท่านั้นแหละเขาโคตรตกใจเลย ไหนจะเรื่องที่แจ็กพอร์ตแตกอีก เขาไม่คิดว่ารุ่นพวกเขาจะทำให้รหัสลูกโซ่เจอเร็วขนาดนี้ ไม่เหมือนกับรุ่นที่เขาเจอเลยซักนิด ขนาดสามวันยังแก้ตัวแรกไม่ออกเลยด้วยซ้ำ เดียร์เลยยื่นกระดาษแผ่นอีกแผ่นให้กับฟิล์มอย่างช่วยไม่ได้ ร่างเล็กคลี่ยิ้มบางๆแล้วเดินจากเดียร์ไปอย่างรวเร็ว
“กูนี่แหละจะโดนคนแรก....”
พูดตัวเองเบาๆเพื่อให้ย้ำถึงความผิดพลาดและผลที่จะตามมา ในเมื่อตัวเขารู้สึกแย่แล้วทำไมเขาต้องมายืนรากงอกให้ความรู้สึกมันแย่กว่าเดิมล่ะ? ไม่รอให้คิดซ้ำสองร่างสูงของเดียร์ก็เดินออกจากฟลอร์ทันที
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ