หนี้ตามสัญญา
6.0
เขียนโดย kanokpich
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.32 น.
2 ตอน
5 วิจารณ์
4,973 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557 19.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "ที่ผมมาวันนี้เพราะเรื่องสัญญาระหว่างคุณพ่อกับคุณอาทั้งสองคน และนี่ก็คงจะเป็น..กนกพิชญ์?" ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะพูดขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน สายตายังคงไม่ลดละจ้องมองไปที่กนกพิชญ์แล้วสำรวจทุกรายละเอียดบนใบหน้าของเธอ
คุณเป็นใคร? รู้จักฉันได้ยังไง? ไหนจะจ้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นอีก
"คุณอาทั้งสองจะให้ผมเป็นคนจัดการทุกอย่างหรือจะให้เป็นหน้าที่ของคุณอาทั้งหมดเลยดีครับ" ณัฐภัทรวางสายตาจากกนกพิชญ์แล้วหันไปทางกรชัยกับพินธุอร น้ำเสียงเขาสุขุมนุ่มนวลน่าฟัง มีหางเสียงตามมารยาทของการสนทนาระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
"หลานณัฐโตแล้วหน้าตาดีเหมือนคุณพ่อเลยนะจ๊ะ" พินธุอรพูดชมไปตามจริง
"ขอบคุณครับ แต่ผมว่าเรารีบพูดเรื่องของเราเลยดีกว่าครับ ผมมีเวลาไม่มากต้องรีบกลับไปประชุมให้ทันตอนสี่โมงนี้ครับ" ณัฐภัทรรวบรัดตัดบทสนทนาเพื่อให้เขาไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระ และเวลาทุกวินาทีมีค่ามากมายสำหรับเขาคนนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าไม่ควรพูดและเป็นการเสียมารยาทแต่เขาไม่สนใจในเรื่องนี้ เพราะการที่เขามาที่นี่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ถือเป็นการให้เกียรติและรักษาสัญญามากพอแล้ว
"อาไม่มีปัญหาหรอกจ๊ะ หลานณัฐเห็นควรว่าอย่างไรอาทั้งสองก็ว่าตามนั้นจ๊ะ" พินธุอรพูดเอาใจว่าที่ลูกเขย ถึงแม้ตนจะรู้สึกเสียหน้าและอึดอัดที่ถูกณัฐภัทรตัดบทสนทนาการสานสัมพันธ์อันดีของเธอ
"ก็ดีครับจะได้จบๆ กันไปเสียที อีกสองวันผมจะให้คนของผมไปพบคุณอาและกนกพิชญ์ที่บ้านนะครับ ถ้ายังไงแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ.." ณัฐภัทรพูดไม่ทันจบประโยคดีเขาลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับจะกล่าวคำอำลา แต่ถูกกรชัยทักไว้เสียก่อน
"อ้าวเดี๋ยวก่อนสิหลาน ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนเหรอ" กรชัยอยากจะให้ณัฐภัทรกับลูกสาวของตนได้ทำความรู้จักกันไว้เสียก่อน
"ไม่เป็นไรครับ สวัสดีครับ" ณัฐภัทรกล่าวลาพร้อมกับพนมมือไหว้คุณอาของเขาทั้งสอง และก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับทุกคนสายตาคมเหลือบไปมองกนกพิชญ์เป็นครั้งสุดท้าย แต่เป็นสายตาที่กนกพิชญ์ไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับเขาเอาเสียเลย
"คุณพ่อคุณแม่คะ! นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะผู้ชายคนนั้นเป็นใครแล้วทำไมเขาถึงพูดจาแบบนั้นแถมเขายังรู้จักชื่อของพิชญ์ด้วยคุณพ่อคุณแม่ไปทำอะไรเขาไว้รึเปล่าคะแล้วเขาจะมาพบคุณพ่อกับคุณแม่แล้วก็พิชญ์ที่บ้านทำไมคะแล้ว..#@$#^%(&_@@(*^*@_)$.............." เมื่อณัฐภัทรเดินหายลับออกจากประตูร้านอาหารไป เสียงแรกที่ดังขึ้นเป็นเสียงของกนกพิชญ์ และสายตาที่จับจ้องไปยังบิดามารดาของเธอ ก่อนที่คำถามมากมายจะพวยพุ่งออกมาจากปากของเธอจนคนถูกถามฟังแทบไม่ทัน และไม่รู้จะตอบคำถามไหนของเธอก่อนดี เช่นเดียวกับเชอร์รี่ที่ยังนั่งงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้
"เอ่อคือ.....คือ.." กรชัยและพินธุอรอึกอักพูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้กับลูกสาวอย่างไรดี ได้แต่มองหน้ากันไปมาส่งสายตาให้กันพร้อมหลบสายตาของกนกพิชญ์อย่างไม่กล้าสู้หน้า
"กลับบ้านกันดีกว่าค่ะพิชญ์ว่าเรื่องนี้เราต้องคุยกันอีกยาว! ขอโทษนะเชอร์รี่เอาไว้เรานัดเลี้ยงข้าวกันวันหลังดีกว่า ไปค่ะคุณพ่อคุณแม่" กนกพิชญ์อยากจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เต็มทีจึงต้องขอตัวพากรชัยกับพินธุอรกลับให้ถึงบ้านโดยเร็วเพื่อซักฟอกกันให้รู้เรื่อง
แต่งสดสั้นยาวแล้วแต่เวลาที่มีจ้ารักคนเม้นนะเออ จุ๊บๆ
คุณเป็นใคร? รู้จักฉันได้ยังไง? ไหนจะจ้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นอีก
"คุณอาทั้งสองจะให้ผมเป็นคนจัดการทุกอย่างหรือจะให้เป็นหน้าที่ของคุณอาทั้งหมดเลยดีครับ" ณัฐภัทรวางสายตาจากกนกพิชญ์แล้วหันไปทางกรชัยกับพินธุอร น้ำเสียงเขาสุขุมนุ่มนวลน่าฟัง มีหางเสียงตามมารยาทของการสนทนาระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
"หลานณัฐโตแล้วหน้าตาดีเหมือนคุณพ่อเลยนะจ๊ะ" พินธุอรพูดชมไปตามจริง
"ขอบคุณครับ แต่ผมว่าเรารีบพูดเรื่องของเราเลยดีกว่าครับ ผมมีเวลาไม่มากต้องรีบกลับไปประชุมให้ทันตอนสี่โมงนี้ครับ" ณัฐภัทรรวบรัดตัดบทสนทนาเพื่อให้เขาไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระ และเวลาทุกวินาทีมีค่ามากมายสำหรับเขาคนนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าไม่ควรพูดและเป็นการเสียมารยาทแต่เขาไม่สนใจในเรื่องนี้ เพราะการที่เขามาที่นี่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ถือเป็นการให้เกียรติและรักษาสัญญามากพอแล้ว
"อาไม่มีปัญหาหรอกจ๊ะ หลานณัฐเห็นควรว่าอย่างไรอาทั้งสองก็ว่าตามนั้นจ๊ะ" พินธุอรพูดเอาใจว่าที่ลูกเขย ถึงแม้ตนจะรู้สึกเสียหน้าและอึดอัดที่ถูกณัฐภัทรตัดบทสนทนาการสานสัมพันธ์อันดีของเธอ
"ก็ดีครับจะได้จบๆ กันไปเสียที อีกสองวันผมจะให้คนของผมไปพบคุณอาและกนกพิชญ์ที่บ้านนะครับ ถ้ายังไงแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ.." ณัฐภัทรพูดไม่ทันจบประโยคดีเขาลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับจะกล่าวคำอำลา แต่ถูกกรชัยทักไว้เสียก่อน
"อ้าวเดี๋ยวก่อนสิหลาน ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนเหรอ" กรชัยอยากจะให้ณัฐภัทรกับลูกสาวของตนได้ทำความรู้จักกันไว้เสียก่อน
"ไม่เป็นไรครับ สวัสดีครับ" ณัฐภัทรกล่าวลาพร้อมกับพนมมือไหว้คุณอาของเขาทั้งสอง และก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับทุกคนสายตาคมเหลือบไปมองกนกพิชญ์เป็นครั้งสุดท้าย แต่เป็นสายตาที่กนกพิชญ์ไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับเขาเอาเสียเลย
"คุณพ่อคุณแม่คะ! นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะผู้ชายคนนั้นเป็นใครแล้วทำไมเขาถึงพูดจาแบบนั้นแถมเขายังรู้จักชื่อของพิชญ์ด้วยคุณพ่อคุณแม่ไปทำอะไรเขาไว้รึเปล่าคะแล้วเขาจะมาพบคุณพ่อกับคุณแม่แล้วก็พิชญ์ที่บ้านทำไมคะแล้ว..#@$#^%(&_@@(*^*@_)$.............." เมื่อณัฐภัทรเดินหายลับออกจากประตูร้านอาหารไป เสียงแรกที่ดังขึ้นเป็นเสียงของกนกพิชญ์ และสายตาที่จับจ้องไปยังบิดามารดาของเธอ ก่อนที่คำถามมากมายจะพวยพุ่งออกมาจากปากของเธอจนคนถูกถามฟังแทบไม่ทัน และไม่รู้จะตอบคำถามไหนของเธอก่อนดี เช่นเดียวกับเชอร์รี่ที่ยังนั่งงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้
"เอ่อคือ.....คือ.." กรชัยและพินธุอรอึกอักพูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้กับลูกสาวอย่างไรดี ได้แต่มองหน้ากันไปมาส่งสายตาให้กันพร้อมหลบสายตาของกนกพิชญ์อย่างไม่กล้าสู้หน้า
"กลับบ้านกันดีกว่าค่ะพิชญ์ว่าเรื่องนี้เราต้องคุยกันอีกยาว! ขอโทษนะเชอร์รี่เอาไว้เรานัดเลี้ยงข้าวกันวันหลังดีกว่า ไปค่ะคุณพ่อคุณแม่" กนกพิชญ์อยากจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เต็มทีจึงต้องขอตัวพากรชัยกับพินธุอรกลับให้ถึงบ้านโดยเร็วเพื่อซักฟอกกันให้รู้เรื่อง
แต่งสดสั้นยาวแล้วแต่เวลาที่มีจ้ารักคนเม้นนะเออ จุ๊บๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ