แผลที่ไม่หาย { Y }
7.7
เขียนโดย acertam
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.03 น.
30 ตอน
5 วิจารณ์
30.04K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558 17.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) Chapter 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกรุงเทพฯ ประเทศไทย 2554
"ลายไทย เอาป้ายชื่อที่รุ่นพี่แจกให้เมื่อวานเอามาเปล่า"
เสียงของ นัท เพื่อนสนิทของผม ที่เขาถามขึ้นทำให้ผมหลุดจากอาการเหมอลอย ทว่าแต่กลับไม่ได้ฟังประโยคที่เพื่อนถาม
"อะไรนะนัท โทษทีพอดีฉันไม่ได้ฟังที่นายพูด"ผมถามพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ
"เฮ้อ...นายเหม่อเป็นสิบรอบแล้วนะวันนี้ เป็นอะไรของนาย"
นัทถามพร้อมกับทำคิ้วขมวดใส่ บ่งบอกว่าเขาทั้งไม่พอใจแล้วก็เป็นห่วง
ผมกัดริมฝีปากแน่น นั้นเป็นเพราะผมคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน
หลังจากที่คาสึมิตกบันได ผมก็ไม่รู้ความเป็นไปของเธอและมาร์ค หลังจากนั้นอีก เพราะผมรีบกลับบ้านขังตัวเองไว้ในห้องผมโทรเรียกนัทมาให้เป็นเพื่อน แต่ผมก็ไม่เล่าอะไรให้เขาฟัง เพราะผมขวัญเกินกว่าจะพูดถึงมัน และ สิ่งที่ผมพูดอาจเกี่ยวถึงอนาคตของมาร์ค ผมเลยปิดปากเงียบ
นัทถามผมเรื่องมาร์ค แต่ผมตอบคำดวยการร้องไห้ นัทเลยเข้าใจไปว่าวันที่เขากลัวได้มาถึงแล้ว เขาคิดว่าผมถูกมาร์คทิ้ง และผมก็ไม่คิดจะแก้ตัว
มาร์คโทรหาผมสองครั้ง แต่ผมไม่รับสาย ผมปิดเครื่องใส่ด้วยหลังจากนั้น แต่มาร์คไม่ละความพยายาม เขามาถึงหน้าบ้านผม มากดกริ่งเรียกและยืนรอท่ามกลางอากาศหนาวจัดของโตเกียวที่แทบจะฆ่าคนได้
ผมรู้นิสัยของเขาดี ถึงแม้จะพูดยังไงเขาก็ไม่กลับแน่
ผมขอร้องให้นัทไปบอกเขา ซึ่งคำๆนี้ผมไม่อยากจะพูดมันออกมาเลย คำว่า 'เลิก'
แต่บอกเลยไม่มีคืนไหนที่ผมไม่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดและความคิดถึงเขา
หลังจากที่พ่อกลับมาจากการทำงาน ผมบอกพ่อว่าอยากมาเรียนต่อที่ประเทศไทย เพราะ อยากเจอพี่บ้าง ผมอยากไปจากญี่ปุ่น
ดูเหมือนพ่อจะสงสัย ซักถามอะไรหลายอย่าง เพราะผมกพลังจะขึ้นมัธยมปลายปีสอง ถ้าหากย้ายตอนนี้ผมอาจจะต้องเรียนซ้ำชันหนึ่งปี แต่ผมไม่สน ผมอยากจะย้าย เพราะแค่เห็นหน้ามาร์ค ความรู้สึกผิดที่มีต่อคาสึมิก็ไหลอาบทั่วร่างผม รวมถึงความเจ็ปปวดด้วย
แต่นัทเพื่อนสนิทผมเขาก็ย้ายมาที่เมืองไทยกับผมเขาเป็นห่วงผม ผมรู้ว่าเขาคิดอะไรกับผม แต่ผมก็ต้องเฉยๆ ผมไม่อยากทำร้ายความรู้สึกดีๆที่เขามอบให้ผมมาตลอด เพราะผมเชื่อว่าสักวัน เขาจะหยุดรักผมได้สักที
นัทเขาเป็นผู้ชายที่ เพอร์เฟกต์ ทั้ง หน้าตา รูปร่าง ฐานะ นัทถูกชวนเข้าวงการบันเทิงอยู่บ่อยๆแต่เขากลับปฏิเสธ เพราะเขาไม่ชอบ เขาบอกผมว่า มันไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง
แม้เวลาผ่านไปสามปีแล้ว แต่มาร์คกับคาสึมิตอกย้ำผม พวกเขาทำให้ผมฝันเห็นเหตุการณ์วันนี้แทบทุกคืน เหมือนจะย้ำฝังลงไปในสมองของผมว่า อย่าได้คิดลืมเลือนพวกเขาเป็นอันขาด
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกนัท แค่คิดอะไรเรื่อยเปือย"ผมตอบแล้วยิ้มบางๆให้ นัทจึงเอื้อมมือมาโยกศีรษะผมไปมาด้วยความเป็นห่วง
"อย่าทำให้ฉันกังวลสิ"เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลเหมือนเช่นเคย
"ฉันไม่เป็นไรแค่ตื่นเต้นน่ะ"ผมยักไหล่นิดหน่อย
"แล้วตกลงได้เอาป้ายชื่อมาหรือเปล่า ถ้าไม่เอามาโดนพี่ซ้อมแน่ๆ"
ซวยแล้วผมลืมเอามาคับ (ตาย) ใครตายเจ๊ (ลายไทยไง) ฮืม
"เออคิอ เขาลืมนะ" ตายแน่
"งั้นถ้านายไม่มี เราก็จะไม่มีนะ" ฮ่ะหมายความว่า
"นี้ๆ ทำอะไร " ไอ้เพื่อนัทมันเอาป้ายชื่อทิ้งถังขยะ ซวยยยยยยยยย
"ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่ป้ายชื่อเองซ้อมก็ซ้อม" เฮ้อออ นัทน่านัทไม่น่าเลย
พวกผมเลยเดินไปหารุ่นพี่ที่อยู่คณะพกเราสองคนเรียน สถาปัตย์ ระหว่างทางที่ผมเดินไป มีกลุ่มนักศึกษากลุ่มใหญ่กำลังเดินมาทางเราด้วย ทว่าสิ่งที่ทำให้ผมตัวชาวาบคือ ผมเห็นผู้ชายที่มีลักษณะเหมือนมาร์คทุกระเบียบนิ้วเดินอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
ไม่ผิดแน่!!
แววตาแข็งกร้าวฉายชัดบนดวงตาสีน้ำเงินเข้มลึกลับราวกับหัวงมหาสมุทรและไหนจะรูปร่างและความสูงของเขาอีกล่ะ ผมรู้สึกเหมือนใบหน้าของเขาคมชัดและเป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ก่อน
มาร์ค!!
ต้องเป็นเขาไม่ผิดแน่!!
"เป็นอะเปล่าลายไทย"นัทถามผมด้วยความงงเมื่อเห็นผมหยุดเดิน
".........."ผมไม่ได้ตอบเขาได้แต่ยืนแข็งตัว
"ลายไทยนายทำให้ฉันกังวลแล้วนะ"นัทเอยเสียงเข้ม มือหนาบีบแขนผมแรงขึ้นจนผมต้องหันไปมองเขา
"เป็นอะไรของนาย"
"ฉ ฉันเห็น..." ผมพูดอึดอัด แต่เมื่อกลุ่มนักศึกษากลุ่มนั้นเดินสวนทาง ผมกวาดสายตาไปรอบๆ แต่กลับไม่เห็น ผู้ชายคนนั้น คนที่เหมือนมาร์ค
"เห็นอะไร นายเห็นอะไร" นัททำหน้าไม่เข้าใจ เขาจับไหล่ผมไว้แน่น พยายามจะเรียกสติ ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ไม่ผิดแน่ ผมเห็นเขาจริงๆ
"ได?"
"ไม่มีอะไรฉันคิดว่าเห็นคนที่รู้จัก สงสัยตาฝาด"
บางครั้งความคิดถึงก็นำคนเราสู่จินตนาการอันมืดหม่นและยากจะหาคำตอบ
ช่วงพักเที่ยง ผมกับนัทถูกรุ่นพี่ปล่อยตัวช้ากว่าคนอื่น เพราะถูกทำโทษ ก็ลืมเอาป้ายชื่อมา แฮ่ๆ บ้า
"เราจะกินอะไรกันดีล่ะ"นัทถาม
"ทำไมเราไม่จ้องที่ก่อน คนก็เยอะมาแล้ว" ผมตอบกลับไป
"เออน่า จะกินอะไรล่ะ"
"นายล่ะจะกินอะไร"ผมถามย้อนหลัง
"เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ"นัทกลอกตาเหมือนเซ็งน่าดูเลยที่ผมถาม
"บอกมาเถอะน่า"ผมทำเสียงสูงขึ้นนิดๆ
"สปาเกตตีมั้ง"
"อืม งั้นก็เอาเหมือนนายจะได้เสร็จเร็วๆ เพราะตอนนี้หิวมาก"
แอบแปลกใจนิดหนึ่งที่นัทนึกอยากกินของโปรดของผม
"โอเค งั้นรอแถวนี้ก่อนนะ" นัทพูดก่อนจะเดินไปร้านขายอาหาร
แล้วก็ได้อาหารสุดพิเศษกลับมา เพราะหิวมากกกกกกก
ผมม้วนเส้นสปาเกตตีด้วนส้อมอย่างง่ายดาย และเยหน้าขึ้นจากจานกำลังจะเอาเข้าปาก
!!!
เคร้ง!
ผมทำส้อมตกลงกระทบจานเสียงดัง นัทสะดุ้ง เขาหันมามองผม
"เป็นอะไรลายไทย"
ทว่าผมเบิกตาค้างอยู่แบบนั้น...
ก็จะให้ผมไม่ตกใจได้ยังไง ในเมื่อผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมตรงนี้ตือมาร์ค! ไม่ผิดแน่ๆ ทั้งแววตา จมูก ริมฝีปาก
เป็นเขาจริงๆ!
"มีอะไรหรือเปล่าได"นัทถามผม
"ไม่ ไม่มีอะไร"
ผมเลยก้มหน้าทานต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าผมหันหน้าขึ้น ตาคู่นั้นดูเหมือนจ้องมาทางผมสายตาแบบนั้น เหมือนกำลัง เคียดแค้นอะไรผมสักอย่าง ทั้งๆที่ผมต่างหากที่ต้องเป็นคนเคยดแค้น
"อิ่มแล้วล่ะ ไปก่อนนะ" ทนไม่ได้จริงๆ ผมกลัวๆว่าผมจะร้องไห้ออกมา
"รอด้วยยยยย"นัทวิ่งตามผมมาติดๆ
"เป็นไรหรือเปล่า ไม่สบายหรอ" มือนัทมาจับที่หน้าผากของผม
"ไม่หรอก ไปกันเถอะ" ผมยิ้มจางๆ เฮ้อออออ
"คับ"นัทตอบแล้วก็ยิ้มให้ผม
ใช่ ผมไม่เป็นไร ผมยังไหว ใช่ยังไหว ผมจะไม่มีวัน อ่อนแอเด็ดขาด
ผมได้แต่ย้ำกับตัวเอง ย้ำอยู่แบบนั้น จนผมและนัทเดินออกมาจากโรงอาหารพร้อมกันโดยที่ผมไม่ได้เหลียวหลังกลับไปอีกเลย
### เฮ้ออออ เจ๊ สงสารจังเลย แต่งเองสงสารเอง เทพป่ะ###
ยังไงก็ติดตามกันหน่อยเน้ออออออออออ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ