ยุคันตวาต (ลมสิ้นยุค)

9.4

เขียนโดย PingJa

วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.49 น.

  152 ตอน
  11 วิจารณ์
  129.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

102)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

=============================================

 

 

     ...เมื่อไม่มีทางเลือกอี่นอยู่แล้ว ยูกิโอะก็ขยับเกราะอ่อนให้เข้าที่อีกครั้งก่อนจะถือดาบคาตานะอาถรรพ์ที่ยังคงถูกเก็บไว้ในฝักและเดินนำออกไป จนกระทั่งเธอมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูป้อมปราการใหญ่ที่ยังคงปิดสนิทอยู่ แถมพวกเวรยามเหมือนกับกำลังรีบหาแผ่นไม้มาตอกเพิ่มความแข็งแรงกันอยู่อย่างขะมักเขม้นจนหญิงสาวต้องขมวดคิ้ววูบทันที

 

      ' เฮ้อ...นี่ถ้าเวลาหมู่บ้านถูกบุกรุกจริงแล้วถ้าทำไม่ได้อย่างนี้ล่ะก็แม่จะฆ่าทิ้งให้ '  หญิงสาวโคลงหัวพร้อมกับคิดในใจเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปและพูดห้วนๆทันที

 

      " เปิดประตู "

 

      " ท...ท่านยูกิโอะ? ต...แต่ว่า? "

 

      " เออ...บอกให้เปิดประตู อย่างไรเสียนางก็เป็นคนสำคัญของหมู่บ้าน จะให้ปิดตลอดไปก็คงไม่ได้ แล้วอีกอย่าง ข้าไม่ชอบพูดซ้ำ "  เธอพูดเรียบๆอีกครั้งอย่างเริ่มรำคาญ นั่นทำให้พวกเวรยามรักษาประตูรีบกุลีกุจอเอาแผ่นไม้ที่ตอกประตูออก ก่อนจะค่อยๆปล่อยกว้านชักประตูลงอย่างช้าๆ

 

      " ท่านยูกิโอะขอรับ...แล้วจะให้พวกข้า... "

 

      " ไปเตรียมปืนใหญ่ไว้... "  หญิงสาวหันมาแสยะยิ้มและพูดเรียบๆอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้พวกเวรยามทั้งหมดหันไปมองหน้ากันและเดากันเอาเองว่านี่เป็นเพียงคำพูดล้อเล่นหรือคำสั่งแบบจริงจังกันแน่

 

      " อ้าว? ยัยท่านหญิงสีแดงชาดเองหรอกหรือ? โธ่เอ้ย นึกว่าใคร เดินดุ่มๆออกมาพร้อมกับจิตคุกคามอันน่ากลัวแบบนั้น "  ทันทีที่ยูกิโอะเดินออกมา หมวยสาวผู้อยู่ในชุดเกราะทหารจีนร้องทักออกมา แต่สภาพที่เธอเป็นอยู่ในเวลานี้ถึงกับทำให้ยูกิโอะต้องขมวดคิ้ววูบทันที

 

      " ไปทำอย่างไรให้อยู่ในสภาพนี้ได้กันล่ะเนี่ย ยัยเลือดเสือ "

 

        ท่านผิง หรือท่านอาจารย์หญิงที่ทุกๆคนกลัวนักกลัวหนา เวลานี้กำลังนั่งอยู่บนร่างที่ใหญ่ปานยักษ์ปักหลั่นของอังเดรที่สลบเหมือดสิ้นสติสมประดีไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจจะทราบได้...ดาบสีเงินขนาดใหญ่ราวกับแผ่นเหล็กของมือสังหารร่างยักษ์บัดนี้ถูกปักพื้นหญ้าตั้งเด่อยู่ข้างๆ...สภาพของมือสังหารนามว่าอังเดรเวลานี้น่วมยิ่งกระท้อนที่ถูกทุบจนหวานเจี๊ยบ ในขณะที่หญิงสาวร่างเล็กที่ถืออาวุธยาวนั่งทับอยู่กลับมีเพียงรอยช้ำเล็กๆที่บริเวณข้อนิ้วมือขาวๆทั้งสองข้างของเธอ ซึ่งน่าจะเกิดจากการชกชายหนุ่มร่างยักษ์ที่อยู่ข้างใต้จนน่วมเท่านั้น แต่เมื่อยูกิโอะเพ่งมองอีกครั้ง รอยช้ำเล็กๆนั่นก็เปล่งแสงสว่างนวลๆตา ก่อนที่รอยช้ำจะสลายหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยแม้แต่น้อย

 

      " ก็เจ้ายักษ์อังเดรนี่น่ะสิ...อยู่ๆก็ลงมาจากหอคอยและพุ่งเข้ามาพร้อมกับจิตคุกคามแปลกๆ ตัวเจ๊ก็เลยตอบโต้ไปตามสัญชาตญาณ...เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ "  หญิงสาวพูดราวกับไม่รู้สึกผิดซักนิด นั่นทำให้แม้แต่ยูกิโอะที่ว่าสามัญสำนึกแปลกไปจากคนทั่วไปยังถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกทันที

 

      " นี่ ยัยเลือดเสือ...ไม่สิ ท่านผิง...ถึงข้าจะไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรได้มากนักหรอกนะ แต่คนที่ครอบครองความเป็นอมตะอย่างเรา ไม่ควรจะรังแกผู้ที่ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเช่นนี้นะ! "

 

      " โธ่เอ๊ย ข้าไม่ได้รังแกเสียหน่อย ก็เด็กนี่พุ่งเข้ามาหาข้าเอง...พูดก็พูดเถอะนะ ถ้าเป็นเจ้าที่มายืนอยู่ที่นี่แทนข้า ป่านนี้เจ้าเด็กนี่คงได้เสียแขนหรือขาไปซักข้าง หรือไม่ก็สิ้นลมหายใจไปแล้ว "

 

      " ถ...เถียงไม่ออกเลย...เฮ้อ...แต่ว่านะ ท่านผิง "

 

      " หืม? "

 

      " ถึงเราทั้งคู่จะเป็นผู้ถือครองความเป็นอมตะ แต่ท่านรู้ไหมว่าท่านทำเช่นนี้ไม่ได้ ท่านผิง "  ยูกิโอะพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะอ่อนจากปรกติของเธอ และถ้าให้พูดตรงๆ ดูเหมือนว่าเธอจะให้ความยำเกรงหมวยสาวตรงหน้าอยู่หน่อยๆด้วยซ้ำไป

 

      " หืม? อะไรไม่ได้? "

 

      " ท่านจะทิ้งจดหมายไว้ว่า ...เจ๊ขอกลับไปไหว้สุสานบรรพบุรุษที่แผ่นดินใหญ่ซักเดือน ๒ เดือนนะ...แล้วจากหมู่บ้านนี้ไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้าเลย ทั้งยังหายไปตั้ง ๔-๕ ปี ก่อนอยู่ๆจะกลับมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้ไม่ได้นะ "  ยูกิโอะถอนหายใจพร้อมกับขยายความให้อย่างช้าๆ ในขณะที่หญิงสาวนามว่าท่านผิงคนนั้นทำแก้มป่องอย่างขัดใจทันที

 

      " พูดอะไรของเจ้ากัน เจ้ากับข้า รวมถึงไอ้เด็กศรี---อ้อ หมายถึงท่านผู้เฒ่านั่นกับสหายหนุ่มๆของมันเป็นผู้ช่วยกันสร้างหมู่บ้านขึ้นมานะ แล้วเจ้าของหมู่บ้านมันจะต้องขออนุญาตใครกันถึงจะสามารถออกไปเที่ยวเล่นบ้างได้ล่ะเนี่ย "

 

      " เที่ยวเล่น? ...๔-๕ ปีอย่างนั้นหรือ? " 

 

      " แหมๆ สมเป็นผู้ที่เป็นเหมือนกับข้าทุกประการ หลังจากพยายามกันมานาน ในที่สุดเราก็เริ่มเข้าอกเข้าใจกันแล้ว เห็นหรือไม่? "

 

      " เฮ้อ เอาเถอะ...แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะ? "  อยู่ๆ ยูกิโอะถามขึ้นห้วนๆอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ท่านผิงกลับเอียงคอและยิ้มพรายราวกับรู้ถึงความหมายของคำถามห้วนๆนี้ ก่อนจะทำหน้านึกอยู่ครู่นึงและตอบเบาๆทันที

 

      " หืม?...อ่า...๖ แต้ม "

 

      " แปลว่ายังไม่ผ่านเลยแม้แต่น้อยสินะ "  ยูกิโอะถอนหายใจเฮือกอีกครั้งด้วยสีหน้าที่แทบจะเก็บความผิดหวังไว้ไม่มิด

 

      " จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกนัก เพราะถ้าหากให้ข้าให้คะแนนดาบที่เจ้าตีขึ้นเล่มนี้อย่างเดียว ข้าคงจะให้ ๘ แต้มเลย เพราะนี่เป็นดาบที่ถูกตีมาได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ "  หมวยสาวพูดพร้อมกับลุกขึ้นและถอนดาบที่ใหญ่ปานแท่งเหล็กนั้นขึ้นมากวัดแกว่งราวกับดาบเล่มนี้เบาเป็นขนนกพร้อมกับยิ้มยิงฟัน และถามต่อทันทีว่า

 

      " ดาบนี้ มีนามว่าอะไรอย่างนั้นหรือ? "

 

      " ?...ดาบเล่มนั้นของอังเดรมีชื่อว่า กังสดาล (ระฆัง) "

 

      " ฮ่าๆๆ กะแล้วเชียว เดาไว้ไม่มีผิดเลย "

 

      " เอ๋? "

 

      " ถึงจะไม่อยากจะยอมรับ แต่เจ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่ช่างตีศาสตราธรรมดาๆ...มันราวกับว่าเจ้าเป็นศิลปินอย่างไรอยางนั้น เพราะเจ้าไม่ได้สักแต่แค่ตีดาบ แต่เจ้าตีดาบที่เหมาะกับผู้ใช้ที่สุด ซึ่งข้านับถือเจ้าในข้อนี้จริงๆนะคุณหนู...เจ้ารู้ดีแต่แรกแล้วว่าจุดเด่นที่สุดของอังเดรคือจิตสังหารที่ป่าเถื่อนและน่าเกรงกลัว เมื่อรวมกับรูปร่างและหน้าตาที่น่าเกรงขามตั้งแต่แรกเห็น มันทำให้เขาเป็นหนึ่งในมือสังหารฝึกหัดที่สามารถจัดการกับเหตุการณ์ต่างๆได้โดยแทบไม่จำเป็นต้องลงมือสู้เลยด้วยซ้ำ...และเมื่อมีดาบนี่อยู่ในมือ ดาบกังสดาลเล่มนี้ถูกตีขึ้นจากโลหะพิเศษที่ทำหน้าที่เหมือนระฆังที่ช่วยขยายจิตสังหารของเขาให้มากขึ้นเป็นสิบๆเท่า มันทำให้จิตสังหารของเขาถูกขยายจนแม้แต่ข้ายังตกใจเลยทีเดียว "

 

      " แต่ก็ยังได้แค่ ๖ แต้ม? "

 

      " ก็แน่ล่ะสิ เพราะดาบนี่มันทำให้เจ้าเด็กอังเดรเสียนิสัย และหลงทระนงตนว่าไม่มีผู้ใดที่สามารถต้านทานจิตสังหารที่ถูกขยายด้วยดาบกังสดาลของเจ้าได้...ซึ่งก็จริงที่มันอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่มันก็ทำให้เด็กนี่ฝึกฝนร่างกายน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และเมื่อถึงที่สุด...เมื่อเด็กนี่ได้พบกับผู้ที่สามารถต้าน...หรือไม่เกรงกลัวจิตสังหารอันน่าสั่นสะท้านของเขา...ก็...ผลก็คืออย่างที่เห็น...ข้าให้คะแนนดาบกังสดาลนี่ ๘ แต้ม แต่ให้คะแนนเจ้าอังเดรนี่แค่ ๔ แต้ม เพราะอย่างนั้นถัวเฉลี่ยแล้วจึงได้แค่ ๖ แต้มเท่านั้น "

 

      " เถียงไม่ออกเลย... "

 

      " ดูจากเครื่องแต่งกายและท่าทางในการสั่งการของเจ้าเด็กนี่ แปลว่าระหว่างที่ข้าไม่อยู่ เด็กนี่ก็ถูกเลื่อนขึ้นเป็นมือสังหารแล้วสินะ? "

 

        ยูกิโอะเหลือบมองมือสังหารชาวตะวันตกร่างยักษ์ที่ยังคงนอนหมอบสลบไสลอย่างไร้มาดมือสังหารแห่งหมู่บ้านยุคันตวาตเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

      " ใช่...เด็กนี่เลื่อนชั้นขึ้นเป็นมือสังหารแล้ว "

 

     " เห? ถ้าเป็นเช่นนั้นป่านนี้ปริมาณพวกมือสังหารทั้งหมดแห่งหมู่บ้านยุคันตวาตมิทะลุเกิน ๒๐๐ กว่าคนไปแล้วรึนี่? ...ก็เมื่อครั้งที่ข้าจากมา เวลานั้นท่านผู้เฒ่าก็มีมือสังหารในมือร้อยกว่าคนแล้วนี่...แหม ช่างเติบโตจนหนึ่งในผู้ก่อตั้งคนนี้อดรู้สึกภูมิใจอกภูมิใจสุดๆไม่ได้จริงๆ...เอ้อ แล้วพวกนั้นไปไหนหมดล่ะ? หรือว่าท่านผู้เฒ่าส่งไปทำภารกิจ แล้วยังเจ้าพวกมือสังหารอาวุโสอีก พวกสภาอีก...เอ...ไม่ได้เจอกันมาตั้ง ๔-๕ ปี งานนี้ต้องฉลองกันให้เมาหัวราน้ำไปเลย "  ท่านผิงผู้นั้นครางออกมาเบาๆอย่างภาคภูมิใจ แต่หญิงสาวผู้เป็นช่างตีดาบชาวญี่ปุ่นตรงหน้ากับนิ่งงันอย่างอึ้งๆไปอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่ในที่สุด เธอจะใช้ความพยายามอย่างมา ในการตัดสินใจพูดออกมาเบาๆว่า

 

      " ท่านผิง..สิ่งที่ท่านกำลังจะได้ยินอยู่นี่เป็นเรื่องที่ท่านอาจจะไม่ชอบใจ แต่มันเป็นจริงทุกประการ... "

 

      " หืม? อยู่ๆทำไมถึงได้พูดอย่างจริงจังขนาดนั้นล่ะ? "  หญิงสาวในชุดเกราะครางออกมาพลางกลั้วหัวเราะเบาๆ แต่ยูกิโอะกลับหลับตาลง และดูก็รู้เลยว่าเธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ร่วมด้วยเลยโดยสิ้นเชิง

 

      " มากับข้าสิ...ท่านผิง...มีสถานที่หนึ่งที่ข้าจะต้องให้ท่านดู...สถานที่ที่อธิบายทุกอย่างได้อย่างแจ่มชัดที่สุด... "

 

      " เอ๋? "  ท่านผิงครางออกมาเบาๆอย่างเริ่มงงงวยกับท่าทีและคำพูดที่เต็มไปด้วยปริศนาของอีกฝ่าย แต่ยูกิโอะไม่เปิดโอกาสให้เธอถามต่อ เพราะหญิงสาวหันหลังกลับไปและเดินนำเธอออกไปแล้ว

 

         โดยไม่อาจจะหาช่องเพื่อสอดปากถามได้ ท่านผิงทำได้แต่เลิกคิ้วบางของเธออย่างงุนงง แต่เธอก็ยังใจเย็นพอที่จะแบกศาสตราวุธประจำตัวขึ้นบ่าและเดินตามอีกฝ่ายไปแต่โดยดี...ในขณะที่ยูกิโอะเดินนำเธอขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเลี่ยงผ่านป้อมปราการอันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน ขึ้นไปบนหน้าอันผาที่อยู่ติดกับด้านหลังป้อมปราการ ซึ่งเป็นหน้าผาที่สูงชันกว่าหอคอยชั้นสูงสุดของหมู่บ้านเสียอีก แต่ด้วยพลังแฝงของทั้งยูกิโอะและท่านผิง ทำให้พวกเธอเดินมาจนถึงจุดที่เกิอบจะถึงส่วนปลายยอดหน้าผาอย่างรวดเร็ว

 

      " นี่? "

 

      " ใกล้ถึงแล้วล่ะ "

 

      " นี่? "

 

      " อีกนิดเดียว อยู่ตรงหน้านี่แล้ว "

 

      " นี่...ยูกิโอะ...ข้ากับเจ้าเป็นสหายกันมากว่าหลายร้อยปี...ถึงแม้ว่าตอนพบกันครั้งแรกพวกเราจะสู้กันจนปางตายทั้งคู่ก็ตามที เพราะฉะนั้น เลิกทำท่ามีลับลมคมใน แล้วก็คายออกมาได้แล้ว "  ในที่สุด ท่านผิงผู้นี้ก็พูดขึ้นอย่างเริ่มหมดความอดทนพร้อมกับกระแทกศาสตราวุธยาวของเธอลงกับพื้นหินอย่างแรงจนเกิดเสียงดังลั่น ในขณะที่อยูกิโอะเองบัดนี้ก็หยุดเดินลงและหันกลับมาหาเธอพร้อมกับเริ่มต้นพูดขึ้นเรียบๆทันที

 

      " ท่านผิง...เจ๊...ตั้งใจฟังข้าให้ดีนะ "

 

      " หืม? "

 

      " ที่นี่คือที่ๆข้าอยากให้ท่านมาดู "  ยูกิโอะผายมือไปที่บันไดหินที่ถูกสร้างสลักขึ้นอย่างหยาบๆทอดไปถึงด้านบนหน้าผา ซึ่งทำให้คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วของหมวยสาวยิ่งขมวดปมอย่างไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่

 

      " ถ้านี่เป็นหนึ่งในมุกตลกห่วยๆของเจ้า หรือเจ้าพวกลูกศิษย์ตัวดีทั้งหลายพวกนั้นล่ะก็ ข้าเหยียบเจ้าแน่ ยัยท่านหญิงสีแดงชา--- " 

 

        หญิงสาวชะงักค้างไปในชั่วเสี้ยววินาที เพราะเมื่อลับแง่หินมาถึงด้านบนสุด...แทนที่ควรจะเป็นลานหญ้าเตียนๆที่สูงที่สุดในละแวกนี้ แต่เวลานี้ที่นี่กลับกลายเป็นสุสานขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยหลุมศพที่ถูกประกอบพิธีทางศาสนาที่แตกต่างกันเป็นร้อยๆหลุม ที่มีทั้งไม้กางแขน ป้ายหลุมศพจารึกชื่อ รูปปั้นเทพธิดานำทางหลังความตายที่ถูกสลักขึ้นจากหินอย่างหยาบๆ...บรรยากาศอันข้าหนักทั้งหมดทั้งมวล เมื่อรวมกับท้องฟ้าที่หม่นหมองในคือเดือนมืด มันทำให้ที่นี่ช่างหดหู่จนเธอถึงกับสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง

 

      " ท...ที่นี่มัน?! "

 

      " ตาท่านผู้เฒ่าเรียกหน้าผาแห่งนี้ว่า ผาสิ้นสุด ...สถานที่ที่ฝังร่างอันไร้วิญญาณของมือสังหารรุ่นก่อนเกือบทั้งหมดไว้ "

 

      " !!! "

 

      " ...หลังจากที่ท่านจากไปได้ไม่ถึงขวบปี เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นกับหมู่บ้านและเหล่ามือสังหารทั้งหมดร้อยกว่าคน...มือสังหารทั้งหมดที่เรามีกว่า ๒ ใน ๓ ส่วน ทำการก่อกบฏและคิดหมายจะเปลี่ยนแปลงกฎและอุดมการณ์ของท่านผู้เฒ่า...อุดมการณ์ที่มีมาตั้งแต่แรกการก่อตั้งหมู่บ้านถูกสั่นคลอนด้วยคลื่นของเหล่ากบฏ...อุดมการณ์ที่พวกเราเพียรพยายามสร้างขึ้นมาพร้อมกับหมู่บ้าน...เหลือเพียงข้า และมือสังหารผู้ภักดีที่เหลือเพียง ๑ ใน ๓ ของจากที่เหลือเท่านั้นที่เป็นผู้ปกป้อง "

 

      " ว...ว่าอย่างไรนะ?! "  หมวยสาวร้องออกมาอย่างตกใจสุดขีดจนแทบสิ้นสติ ดวงตาชั้นเดียวของเธอเบิกกว้างจนแทบกลายเป็นเหลือกโพลงอยู่รอมร่อ ในขณะที่ยูกิโอะก้มหน้าลงพร้อมกับพูดต่อทันที

 

      " มันอาศัยช่วงเวลาที่ท่านหายตัวไป และช่วงที่ท่านผู้เฒ่าไปรับมือสังหารฝึกหัดคนใหม่ที่นครลำปางที่ภาคเหนือ...ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หมู่บ้านอ่อนแอที่สุดลงมือก่อกบฏและหมายจะเข้าควบคุมหมู่บ้านไว้ จึงเกิดการปะทะขึ้นอย่างรุนแรงระหว่างมือสังหารที่ยังคงภักดีและพวกกบฏที่มีมากกว่าชนิดที่นับได้กว่าครึ่งค่อนกลางหมู่บ้านของเราเอง "

 

      " ...ท่านเป็นผู้ฝึกฝนมือสังหารทุกคนมาตั้งแต่รุ่นที่หนึ่ง แต่ข้าสามารถพูดได้เลยว่ารุ่นที่ท่านฝึกฝนก่อนจะจากไปนั้นเป็นรุ่นที่เก่งกาจที่สุดแล้ว เพราะขนาดเวลานั้นข้ามีทั้งดาบระดับสุดยอดที่เหนือกว่าโจชิโยซามุเล่มนี้ และมีเกราะไหมฟ้านี่อยู่ พวกมัน...พวกมือสังหารกบฏยังฝ่าเข้ามาได้ถึงหอคอยบัญชาการชั้นสูงสุด และก่อความวุ่นวายจนข้าถึงกับได้รับบาดเจ็บสาหัส จนสามารถพูดได้เลยว่า หากข้าไม่มีพลังของความอมตะอยู่ในร่าง...ป่านนี้ข้าคง... "  ยูกิโอะกุมมือที่ยังคงสั่นสะท้านจากการหวนนึกถึงอดีตอันดำมืดและเลวร้ายที่สุดของหมู่บ้าน ดวงตาฉายแววแห่งความหวาดกลัวอย่างที่เธอแทบไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนที่เธอจะหลับตาลง พร้อมๆกับที่ท่านผิงทิ้งอาวุธประจำตัวของเธอลงพื้นและเข้ามาเขย่าตัวยูกิโอะจนตัวโคลงพร้อมกับตวาดดังลั่น

 

      " นี่มันเรื่่องอะไรกัน?! แล้วพวกมือสังหารชั้นบัญชาการรุ่นเก่าล่ะ พวกสภาบัญชาการล่ะ?! "

 

        ยูกิโอะดวงตาหม่นแสงลง ก่อนจะเดินนำผ่านหลุมฝังศพที่รายรอบไปจนถึงบริเวณส่วนขอบหน้าผา อันเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพที่ถูกเรียงรายอยู่นับสิบหลุม และแต่ละหลุมก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเหมือนกันทุกประการ

 

      " พวกเขาไม่ได้มีพลังเช่นเดียวกับพวกเรานะ ท่านผิง... "

    

      " ป...แปลว่า?! "

 

      " โชคดีของหมู่บ้านอย่างที่สุด ที่ท่านผู้เฒ่าได้รับข่าวสุดท้ายของเรา และไม่รู้จะด้วยวิธรใดก็ตาม เขากลับมาถึงหมู่บ้านในช่วงเวลาวิกฤตขั้นสุดท้ายพอดี...ตลอดเวลาที่ข้ารู้จักกันมา ข้าไม่เคยเห็นเขาเป็นเช่นนั้นมาก่อนเลย...ท่านผู้เฒ่ารวมกำลังที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนพร้อมกับดาบอาถรรพ์ในมือ ลงมือจัดการทุกอย่างโดยไม่เห็นว่าเป็นผู้ที่เขาเคยช่วยชีวิต หรือเป็นสหาย เป็นมือเท้าให้แก่เขาเลย... "

 

      " จ...เจ้าท่านผู้เฒ่า? ส...สังหารพวกเราอย่างนั้นเหรอ?! "

 

      " มัน! ไม่ใช่พวกเรา! ผิง...พวกมันเดินคนละเส้นทางกับเราตั้งแต่ที่มันก่อการกบฏและทำลายฐานการบัญชาการของพวกเราแล้ว...ท่านผู้เฒ่าและดาบของเขาเพียงแค่ลงมือจบวิกฤตทุกอย่างลงอย่างรวดเร็วที่สุดเท่านั้น " 

 

      " ต...แต่... "

 

      " หลังจากเหตุการณ์นั้น ท่านผู้เฒ่าจำต้องเปลี่ยนโครงสร้างของหมู่บ้านใหม่ แปรจากหมู่บ้านที่เติบโตขยับขยายขึ้นเกือบร้อยปี กลับมาสู่ช่วงเวลาที่เราต้องเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง...มือสังหารถูกลดอำนาจและจำนวนลงจากที่มีนับร้อย เหลือเพียงมือสังหารรุ่นใหม่ที่ถูกคัดมาเพียง ๒๐ กว่าคนเท่านั้น และทุกคนต้องขึ้นตรงต่อท่านผู้เฒ่าเพียงผู้เดียว... "

 

      " ล...แล้วสิงห์...สิงห์ของข้า ไม่สิ พวกมือสังหารฝึกหัดเด็กๆคนอื่นๆล่ะ?! "  ท่านผิงหันมาถามพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือดอย่างหวาดวิตกเต็มที่ ก่อนที่เธอจะมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อยทันตาเห็นเมื่อยูกิโอะตอบกลับมาว่า

 

      " โชคดีอย่างที่สุด หรือไม่พวกมือสังหารกบฏก็เล็งไว้แต่แรกแล้ว ที่พวกมันเลือกที่จะลงมือในช่วงที่พวกมือสังหารฝึกหัดตั้งแต่อนาสตาเซียซึ่งเป็นหลานของเจ้าคอนสแตนติน สิงห์ และคนอื่นๆถูกส่งไปทำภารกิจ และไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านทั้งหมด พวกเขากลับมาหลังจากที่เรื่องเกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว และได้รับการเลื่อนชั้นอย่างกะทันหันให้เป็นมือสังหารรุ่นปัจจุบันทันที...ในขณะที่มือสังหารรุ่นเก่าที่เหลือรอดอยู่ก็มีเพียงเมือง ซึ่งเป็นคนท้ายๆของมือสังหารเก่าแล้วเท่านั้นที่ยังคงทำหน้าที่มือสังหารอยู่...ในขณะที่คนที่เหลือรอดคนอื่นๆเลือกที่จะว่ามือและเร้นกายไปจากหมู่บ้าน...คิดว่าคงจะยังเหลือรอดอยู่ไม่กี่คนแล้วล่ะ "

 

      " ใคร? "

 

      " หืม? "

 

      " จำที่เราสามคนแบ่งหน้าที่กันได้หรือไม่? ยูกิโอะ...ท่านู้เฒ่าเป็นผู้ให้ชีวิตพวกมัน...เจ้าเป็นผู้ให้เขี้ยวเล็บแก่พวกมัน...ส่วนข้า...ข้าเป็นอาจารย์ให้การฝึกฝนและแนวคิดของหมู่บ้านแก่พวกมัน! ข้าฝึกฝนพวกมันทุกคนมากับมือ ยูกิโอะ...พวกมันไม่มีทางก่อการกบฏแข็งข้อต่อหมู่บ้านที่เป็นสิ่งสูงสุดของพวกเราทั้งหมดได้...เพราะฉะนั้น บอกมา...ใครเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องระยำตำบอนนี้ขึ้น "  ท่านผิงที่กลับมาครองสติได้อีกครั้ง พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่แทบจะปิดบังความโกรธเกรี้ยวภายในไว้ไม่มิด ราวกับว่าเธอเดาเหตุการณ์ได้แล้วว่านี่จะต้องมีต้นเหตมาจากใครซักคนแน่ๆ

 

      " อ้อ...ต้นเหตุ...เจ้ากำลังมองมันอยู่นี่อย่างไรล่ะ... "

 

      " ? "  ท่านผิงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่แล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นเพราะที่สุดหน้าผาที่หมิ่นเหม่ที่สุดนั้น มีป้ายหลุมศพป้ายหนึ่งที่ตั้งเด่นอยู่...เป็นป้ายที่แตกต่างจากป้ายอื่นๆโดยสิ้นเชิง เพราะป้ายนี่เป็นแผ่นหินสีดำที่ไม่มีแม้แต่การสลักชื่อหรือคำไว้อาลัยไว้เลยแม้แต่น้อย

 

      " มือสังหารคนสุดท้ายในรุ่นที่ไอ้ท่านผู้เฒ่ารับมา...เป็นคนที่เก่งทั้งในเชิงบู๊และบุ๋นคนนึง แต่จิตใจยังคงเต็มไปด้วยความแค้น...มันมีอำนาจและวาทศิลป์มากพอในการปลุกปั่นมือสังหารทั้งหมดจนก่อการได้...ข้าและท่านผู้เฒ่านี่แหละที่เป็นคนจัดการมันเอง "

 

      " อย่างนั้นรึ? เจ้าเป็นคนฝังร่างของมันไว้ใต้นี้อย่างนั้นรึ... "

 

      " อันที่จริงแล้ว ไม่ใช่...และในสถานการณ์ปัจจุบัน...ข้าชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันตายจริงๆรึเปล่า "  ยูกิโอะกอดอกพูดเบาๆ ในขณะที่ท่านผิงที่ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้นหันขวับกลับมาทันที

 

      " ว่าอย่างไรนะ?! เจ้าหมายความว่าอย่างไร? "

 

      " เวลานี้มีกลุ่มมือสังหารเถื่อนกลุ่มใหม่เกิดขึ้น กลุ่มมือสังหารที่ใช้ตราประจำกลุ่มแบบเดียวกับเรา เพียงแต่เป็นสีดำสนิท...และจากที่ข้าได้ข่าวมา...มันมีโครงสร้างไม่ต่างจากพวกเราในอดีตเลยแม้แต่น้อย "

 

        เปรี้ยง! ครืนนน!

 

        ยูกิโอะพูดยังไม่ทันขาดคำ หมัดเล็กๆของท่านผิงก็ชกเข้าที่แผ่นป้ายหลุ่มศพสีดำอย่างรุนแรงจนกระทั่งหน้าผาแห่งนี้สะเทือนวูบ...ป้ายหลุมศพสีดำที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างหยาบๆแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที

 

      " ดี! ดีจริงๆ! "

 

      " ท่านผิง? "

 

      " บอกข้ามา ยูกิโอะ...บอกข้ามา ว่าข้าจะหาพวกมันได้จากที่ไหน เพราะงานนี้ข้าจะข้ามันเอง...ด้วยง้าวของข้านี่แหละ! "  ดวงตาที่ส่องประกายอย่างแรงกล้าของหมวยสาวตรงหน้าทีให้ยูกิโอะที่รู้จักกันมานานเกินพอรู้ได้ทันทีว่า...งานนี้เธอไม่ยอมจบจนกว่าจะได้เอาเลือดของู้ที่เกี่ยวข้องกับการกบฏในหมู่บ้านนี้ล้างศาสตราวุธประจำกายของเธอแน่ๆ!

 

      " เวลานี้ท่านผู้เฒ่าเอง...รวมถึงกลุ่มของสิงห์เป็นผู้สืบเกี่ยวกับมือสังหารเถื่อนนี่อยู่ "

 

      " ที่ไหน?! "

 

      ' ดูจากสายตา...เวลานี้เราคงเปล่าประโยชน์ที่จะห้ามปรามแล้วล่ะ...พูดมากเกินไปแล้วสินะเรา '  ยูกิโอะโคลงหัวพร้อมกับคิดในใจเล็กน้อย แต่เวลานี้ท่านผิงใจร้อนจนตวาดถามกลับมาอีกครั้ง

 

      " ข้าถามว่าที่ไหน?! "

 

      " หึๆ ท่านไปเที่ยวเล่นที่กรุงอโยธยาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ล่ะ...ท่านผิง "

 

 

 

 

................................................

 

 

 

 

     ...ท่านผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้านยุคันตวาตเวลานี้นั่งอ่านจดหมายแผ่นเล็กๆที่ลายมือของไกรอย่างช้าๆ โดยที่พยายามไม่สนลายมือที่ไก่เขี่ยและอ่านยากราวกับเด็กเล็กๆและการสะกดคำที่บางคำต่างจากคำปกติไป เพราะเนื้อความเท่าที่เขาถอดออกมาจากจดหมายได้ เป็นข่าวที่สร้างความประหลาดใจและความหวั่นวิตกให้เาอย่างที่สุด...

 

     ...การมาขอเจรจาอย่างฉันท์มิตร...ของมือสังหารแห่งกลุ่มบรรลัยกัลป์...

 

      " ท่านผู้เฒ่าเจ้าคะ "  

 

      " ศกุนตลา... "  ท่านผู้เฒ่าไม่จำเป็นต้องหันกลับไปมอง เพราะฟังแค่เสียงเขาก็รู้แล้วว่าผู้ที่โผล่มาอย่างปัจจุบันทันด่วนนี้เป็นใคร

 

      " ข้าล่วงห้ามาก่อน เพื่อสำรวจเส้นทางเจ้าค่ะ "

 

      " อืม "

 

        ยูกิโอะขมวดคิ้ววูบเล็กน้อย ก่อนจะเดาได้ว่าท่านผู้เฒ่าคงจะรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เธอจึงถอนหายใจเฮือกและพูดออกมาช้าๆว่า

 

      " ...ท่านคงทราบแล้วสินะเจ้าคะ...เรื่องแผนการอันโง่เขลาและคาบลูกคาบดอกของไกร "

 

      " หืม? ...คาบลูกคาบดอกน่ะใช่...แต่ว่า โง่เขลาอย่างนั้นรึ? "  ท่านผูเฒ่าหันไปเลิกคิ้วถามอย่างช้าๆ ในขณะที่ศกุนตลาตาลุกวาวอีกครั้ง

 

      " มันทำให้หมู่บ้านต้องตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง...หลังจาก...ครานั้น "

 

      " เราสัญญากันแล้วว่าเรื่องครานั้นจะไม่มีผู้ใดพูดถึงมันอีก...เรื่องทุกอย่างจบลงที่ หุบผาสิ้นสุดแล้ว...และข้าเชื่อว่าทุกอย่างสิ้นสุดลง และมันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน "  ท่านผู้เฒ่าพูดพร้อมกับขยำกระดาษที่ไกรพยายามเขี่ยมาเพื่อเตือนเขาล่วงหน้าทิ้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วนพร้อมกับพูดต่อกับมือสังหารสาวผู้น่าจะภักดีต่อหมู่บ้านที่สุด (ดีไม่ดีอาจจะภักดีต่อหมู่บ้านมากกว่าท่านผู้เฒ่าเองเลยด้วยซ้ำ) ที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังช้าๆ

 

      " ข้าเป็นห่วงเรื่องของยัยดาราคนนี้มากกว่า...เจ้าคิดว้าอย่างไรบ้างล่ะ? "

 

        คำถามของท่านผู้เฒ่าทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับมาเรียบๆ

 

      " เธอและกลุ่มบรรลัยกัลป์ของเธอก็ไม่ต่างจากเป้าหมายที่พวกเราเคยสังหาร...เริ่มแรกพวกมันก็จะสู้...แต่เมื่อสู้ไม่ได้ก็พยายามจะหนี...เมื่อรู้ตัวแล้วว่าหนีไม่ได้ก็พยายามต่อรอง...และถ้าเป็นปรกติ...ข้าก็คงจะลั่นกระสุนหลังจากฟังคำต่อรองอันน่าเบื่อหน่ายของพวกมันเสร็จสิ้น... "

 

      " อย่าประเมินศัตรูต่ำไป...ศกุนตลา...พวกมันไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นศัตรูที่ต่อกรกับเราได้อย่างสูสีต่างหาก " 

 

      " แต่ท่านก็เคยพูดเช่นกันว่าถ้าประเมินศัตรูสูงเกินไป ก็รังแต่จะกดดันตัวเอง "

 

        ท่านผู้เฒ่าทำหน้านึกเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆอย่างผ่อนคลายขึ้นทันที

 

      " อืม...ข้าพูดจริงๆนั่นแหละ เฮ้อ ขอบใจมากนะที่ทำให้ข้าผ่อนคลายมากขึ้น "

 

      " เจ้าค่ะ "

 

        ท่านผู้เฒ่าถอนหายใจเฮือกอย่างผ่อนคลายลงเล็กน้อย พร้อมกับเอามือไขว้หลังและกลับสู่มาดของหัวหน้าสูงสุดแห่งหมู่บ้านยุคันตวาตทันที เมื่อร่างของไกรและหญิงสาวอีกคนหนึ่งเข้ามาสู่คลองสายตา รายล้อมด้วย อนาสตาเซีย อเทตยา สิงห์ และสมิงสาวใต้อาณัติทุกตัวล้อมรอบราวกับขบวนแห่แหนที่ดูแล้วแปลกตาที่สุด

 

      " เด็กผู้หญิงคนนั้นน่ะหรือ? "

 

      " เจ้าค่ะ ท่านผู้เฒ่า...โปรดระวังด้วย นางมีความสามารถในการแปลงโฉมและเปลี่ยนแปลงกลิ่นอายได้อย่างน่ากลัว...หากคลาดสายตาเพียงนิดเดียว นางก็อาจจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่เราไม่รู้จักไปแล้วก็ได้ "

 

      " อืม เข้าใจล่ะ "  ท่านผู้เฒ่าพยักหน้ารับ พร้อมกับเดินก้าวเข้าไปเพื่อจะได้ไปเจอกันครึ่งทาง ซึ่งเมื่อเห็นท่านผู้เฒ่าเข้ามา ไกรก็หลบตาพร้อมกับก้มหัวเคารพเบาๆทันที

 

      " ท่านผู้เฒ่า... "

 

      " เชิดหน้าไว้ ไกร...ข้าไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรเจ้าหรอก "  ท่านผู้เฒ่าพูดด้วนความสุขุม ก่อนจะเหลือบไปมองหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของไกรเหมือนกับพยายามใช้ชายหนุ่มเป็นโล่กำบังพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจทันที

 

      " ข้าคือท่านผู้เฒ่า ผู้เป็นหัวหน้าสูงสุดแหงหมู่บ้านยุคันตวาต ผู้เป็นนายเหนือมือสังหารแห่งหมู่บ้านทั้งปวง...เจ้าปรารถนาจะพบกับข้าสินะ! "

 

        น้ำเสียงอันทรงอำนาจที่แม้แต่ไกรและคนอื่นๆก็ยังได้ยินไม่ได้บ่อยๆนัก สร้างความน่าเกรงขามในการพบกันครั้งแรกจนดาราถึงกับต้องแอบตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะสูดลมหายใจลึกพร้อมกับฝืนแสยะยิ้มออกมาช้าๆ

 

      " ใช่แล้วเจ้าค่ะ "

 

      " ถ้าอย่างนั้น...เจ้าคือ? "

 

      " อ้อ...ขออภัยที่ข้าเสียมายาท...ข้าคือดารา...ดาราแห่งบรรลัยกัลป์...ผู้นำข้อเสนอที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้มาให้ท่าน "

 

      " หึ! เจ้าพูดราวกับรู้ความคิดของข้าดีอย่างนั้นแหละ...ดารา "

 

        ท่านผู้เฒ่าขมวดคิ้วพร้อมกับพูดกร้าว แต่ดารากลับยิ้มบางๆพร้อมักบพูดออกมาด้วยเสียงอันดังชัดเจนว่า

    

      " เชื่อข้าเถอะเจ้าค่ะ เพราะข้าคือลูกสาวของผู้ที่ท่านเชื่อมั่นว่าสังหารไปแล้วกับมือ...ข้าคือลูกสาวของผู้ที่ท่านเชื่อว่าท่านฝังวิญญาณไว้ภายใต้ป้ายหลุมศพสีดำบนผาสิ้นสุด...ข้าคือลูกสาวของอดีตมือสังหารแห่งยุคันตวาตผู้บัดนี้กลายมาเป็นท่านผู้เฒ่าแห่งกลุ่มบรรลัยกัลป์ของเราอย่างไรล่ะ! "

 

    

 

 ..............................................

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา