My first love รักครั้งแรกของฉัน
9.5
เขียนโดย Ichigo
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.41 น.
23 ตอน
15 วิจารณ์
24.32K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560 22.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) บ้านผีสิง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ และแล้วเราสองคนก็ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าสิ่งๆหนึ่ง และสิ่งๆนั้นก็เป็นสิ่งที่ฉันสามารถบอกอย่างเต็มปากเต็มคำได้เลยว่ามันน่ากลัวยิ่งกว่าสั่งให้ฉันไปกระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้นสองในห้องที่บ้านฉันซะอีก(ฉันได้บอกไปรึยังว่าบ้านฉันมีสองชั้น-o-?) เอาเรื่องบ้านไว้ก่อนแล้วมาสนใจกับสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ดีกว่า เอาล่ะๆ อยากรู้รึยังว่าสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญอยู่คืออะไร? เอาเหอะถึงไม่อยากรู้ฉันก็จะบอกให้รู้อยู่ดีนั้นล่ะ เพราะสิ่งนั้นก็คือ แท่นแทนนนน บ้านผีสิงจ้าโฮกกกกกTToTT สิ่งที่ฉันกลัวมากกว่าไอ้เครื่องเล่นบ้าบอที่เพิ่งเล่นเสร็จไปเมื่อตะกี้นี้ก็คือผีนี้ล่ะT^T ถึงแล้วว่าจะรู้อยู่แก่ใจก็ตามเหอะว่าสิ่งที่กำลังจะเข้าไปเจอนั้นเป็นของปลอมทั้งหมด แต่คนมันกลัวยังไงก็กลัวอยู่ดีนั้นแหละ
“นี้แหละๆ สิ่งเรียกว่าเป็นเดอะเบสเลยล่ะน้าที่เวลามาสวนสนุกแล้วต้องเล่นน่ะ Let’s go!!” ฟิวปล่อยมือฉันแล้วยิ้มหน้าระรื่นเดินนำลิ่วๆเข้าไปแล้วปล่อยให้ฉันยืนเอ๋ออยู่ข้างหลังคนเดียว นี่ตั้งใจจะทิ้งกันรึไงห้ะ? แล้วมาเดอะบงเดอะเบสเล็ทกงเล็ทโกอะไรไอด้อนโนววว=O=
“เดี๋ยวสิ! นี่ตั้งใจจะให้ฉันเดินเข้าไปคนเดียวรึไง?” ฉันเรียกสติกลับมาแล้วตะโกนเรียกไปก่อนที่ฟิวจะเดินเข้าไปในสถานที่ๆน่ากลัวนั่น
“^-^ก็ตามมาสิ” เค้าหันมายิ้มให้ฉันทีนึงแล้วตอบเสียงเรียบ รอยยิ้มนั่นสามารถทำให้พวกสัตว์สงวนทั้งหลายแหล่ในบริเวณนั้นถึงกับละลายในช่วงพริบตาได้เลยที่เดียว แต่สำหรับฉันล่ะก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด เพราะรอยยิ้มนั่นมันช่างชั่วร้ายT^T พอพูดจบเค้าก็หันกลับไปที่ทางเข้าบ้านผีสิงแล้วเดินนำลิ่วเข้าไปตามเดิม และนั่นมันก็ทำให้ฉันต้องรีบวิ่งตามเค้าเข้าไปข้างในอย่างจำใจ
เมื่อฉันได้ย่างกายเข้ามาข้างในได้เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นมันก็ทำให้ฉันอยากจะกระโดดถีบประตูทางเข้าออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้เลยToT เพราะตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในบ้านที่ดีไซน์แบบสไตล์ยุโรปที่มันจะมีบันไดแยกออกเป็นสองทางเหมือนที่เห็นในหนังนั้นแหละ แต่ตอนนี้สไตล์คฤหาสน์สุดหรูนั้นได้กลายเป็นสไตล์สุดแสนสยองขวัญไปแล้ว บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความมืดมีเพียงแสงสลัวๆจากโคมไฟน่ากลัวๆตรงทางเข้าเพียงแค่สองดวง ตรงบันไดมีรอยเท้าที่ทาสีเรืองแสงไว้ตามทางหรือเป็นอีกนัยก็คือเป็นเหมือนลูกศรนำทางนั้นเอง แต่สำหรับฉันแล้วมันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนำทางอย่างเดียวแต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ฉันกลัวมากขึ้นกว่าเดิมยังไงล่ะT^T
“กรี๊ดดดดดดด” ทุกคนคนคิดว่าเป็นเสียงฉันสินะ=_= ฮะๆ แต่เปล่าเลยนั่นไม่ใช่เสียงฉันหรอก เพราะตอนนี้ฉันยังเดินขาสั่นอยู่ที่บันไดอยู่เลย นั่นมันเป็นเสียงของคนที่เข้ามาก่อนต่างหากล่ะและก็เพราะเสียงนั้นที่ทำให้ฉันทวีคูณความกลัวมากขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า และก็เพราะเสียงนั่นอีกเช่นกันที่มันทำให้ฉันเกิดความคิดอยากจะไปกระโดดถีบประตูทางเข้าหนีออกจากที่บ้าๆนี้อีกเป็นครั้งที่สอง=_=
“กรี๊ดดดดOoO” ฉันแหกปากอ้าหลอดลมทันทีที่ขึ้นมาถึงชั้นสอง ส่วนสาเหตุที่ทำให้ฉันแหกปากน่ะหรอ? นั้นเป็นเพราะไอ้ผีบ้าแวมไพร์แดรกคิวล่าที่นอนอยู่ในโลงที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบันไดมากเท่าไหร่ได้ลุกขึ้นมาแยกแขกเขี้ยวแหลมๆใส่น่ะสิ จริงๆ แล้วฉันไม่ได้แหกปากให้กะอีแค่แดรกคิวล่าที่น่าตาไม่น่ากลัวนี่หรอกนะ แค่เพราะตกใจต่างหาก-o-
“อ้าวๆ นี่พิงค์กลัวไอนี่หรอ?” เค้าหันมาถามฉันที่เดินอยู่ข้างหลังแล้วชี้ไปที่ไอ้แดรกคิวล่าบ้าๆตัวนั้นที่ตอนนี้กำลังลงไปนอนในโลงตามเดิมอยู่ ลงไปเลยไป-^-
“ไม่ได้กลัวสักหน่อย! แค่ตกใจต่างหากล่ะ-*-” ฉันตะโกนตอบไปแล้วขมวดคิ้วอย่างหัวเสียใส่ทันที เอาจริงๆก็คือกลัวนั้นแหละ
“หรออออ งั้นก็ไปกันต่อเหอะ^__^”
“กรี๊ดดดดดดดดดดTToTT” คราวนี้ฉันเจอไอ้ผีบ้าหน้าเละๆโดนขังอยู่ในกรง ถ้ามันอยู่ในกรงเฉยๆฉันก็คงไม่กลัวมันหรอกแต่มันเล่นพุ่งมากตรงหน้ากรงแล้วเขย่ากรงให้มันสั่นแถมไอกรงบ้านี่ก็เหมือนจะพังลงมาอีกต่างหากToT คราวนี้ฉันไม่รอช้าที่จะแหกปากและกระโดดไปคว้าหาที่พึ่งใกล้ตัวหรือก็คือแขนของฟิวนั้นเอง-_-^
“ฮ่าๆๆ ไหนบอกไม่กลัวไง^-^”
“ยอมรับก็ได้ ฉันกลัวผี แล้วก็กลัวมากแบบขี้ขึ้นสมองเลยด้วยY^Y”
“ก็แค่เนี้ย” พอพูดออกมาแค่นั้นฟิวก็เปลี่ยนตำแหน่งมือของฉันจากที่ฉันเกาะแขนอยู่ให้เลื่อนลงไปจับมือของเค้าแทน ถึงมันจะรู้สึกเขินจนหน้าแทบไหม้ก็เหอะแต่นาทีนี้ฉันยอมหน้าด้านแล้วเดินจับมือเค้าไปแบบนั้นดีกว่าเป็นลมหัวใจวายตายก่อนออกจากที่นี้ดีกว่า-///- ถึงมันจะน่าอายขนาดไหนฉันก็ยังอดยอมรับไม่ได้อยู่ดีว่าการจับมือเดินมาอย่างนี้มันไม่ใช่แค่อุ่นแค่ตรงมืออย่างเดียวแต่มันรู้สึกอุ่นอยู่ข้างในหน้าอกแปลกๆอย่างที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกแปลกๆตอนนี้มันคืออะไร?
ตอนนี้เราก็เดินผ่านไอ้ผี(ปลอม)พวกนั้นมาได้เยอะแล้ว แต่ที่แปลกคือหลังจากที่จับมือกับฟิวแล้วฉันก็ไม่แสดงอาการกลัวหรือแหกปากอะไรอีกเลย ตอนนี้เราเดินมาจนทางที่เราเดินตามรอยเท้าเรืองแสงนั้นหายไปข้างในประตูบานนึงที่ตอนนี้ปิดสนิท นี่มันคือห้องอะไรล่ะเนี่ยที่เดินมาตลอดทางก็ไม่เห็นจะมีประตูให้ต้องเปิดเองเลยนี่ หรือมันจะป็นห้องที่น่ากลัวที่สุดของบ้านผีสิง-o- แต่ก่อนที่ฉันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้คนข้างๆฉันก็ได้เอื้อมมือไปเปิดประตูออกซะแล้ว
เฮ้ย! นี้คิดจะเปิดก็เปิดเลยหรอ? ไม่คิดจะบอกให้คนกลัวผีรู้หน่อยเลยหรือไง? แล้วถ้าเกิดเปิดประตูออกมาแล้วมีไอ้ผีบ้าห้อยหัวลงมาแฮ่ใส่แล้วคนกลัวผีตกใจหัวใจวายจะทำยังไงห้ะ-o-? แต่แล้วความคิดทั้งหมดของฉันมันก็ต้องหยุดลงเมื่อเปิดประตูออกมาแล้วพบกับแสงสว่างจากโลกภายนอก หรือจะเรียกอีกอย่างไอประตูนั้นก็คือทางออกนั้นเอง=_=
“เฮ้อออออ-o-” การออกมาจากขุมนรกที่มีชื่อว่าบ้านผีสิงได้นั้นถือเป็นลาภอันประเสริฐ=_=
“นี่”
“หือ(^_^ )?”
“ยิ้มทำไม นี่บีบมือฉันมาตลอดจนช้ำไปหมดแล้วเนี่ย ปล่อยได้หรือยัง-///-” พอพูดมาแค่นั้นถึงกับทำให้ฉันต้องรีบสะบัดมือทิ้งทันที ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึเปล่าเพราะเมื่อกี้เหมือนฉันเห็นฟิวหน้าแดงนะ-o-
“แฮะๆ โทดทีๆ คือว่ามันลืม^///^”
“งั้นเราไปเล่นกันต่อเหอะเนอะ”
พอพูดแค่นั้นฟิวก็จัดการลากฉันไปเครื่องเล่นอันนู้นทีอันนี้ทีแบบไม่ให้หยุดพักหายใจเลย นี่กะจะฆ่าฉันให้ตายคาสวนสนุกเลยใช่มั้ยคะToT? เอาเถอะไว้ฉันจะเก็บไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกันว่าครั้งต่อไปฉันจะไม่ชวนฟิวมาสวนสนุกด้วยกันแล้ว-^-
“นี้แหละๆ สิ่งเรียกว่าเป็นเดอะเบสเลยล่ะน้าที่เวลามาสวนสนุกแล้วต้องเล่นน่ะ Let’s go!!” ฟิวปล่อยมือฉันแล้วยิ้มหน้าระรื่นเดินนำลิ่วๆเข้าไปแล้วปล่อยให้ฉันยืนเอ๋ออยู่ข้างหลังคนเดียว นี่ตั้งใจจะทิ้งกันรึไงห้ะ? แล้วมาเดอะบงเดอะเบสเล็ทกงเล็ทโกอะไรไอด้อนโนววว=O=
“เดี๋ยวสิ! นี่ตั้งใจจะให้ฉันเดินเข้าไปคนเดียวรึไง?” ฉันเรียกสติกลับมาแล้วตะโกนเรียกไปก่อนที่ฟิวจะเดินเข้าไปในสถานที่ๆน่ากลัวนั่น
“^-^ก็ตามมาสิ” เค้าหันมายิ้มให้ฉันทีนึงแล้วตอบเสียงเรียบ รอยยิ้มนั่นสามารถทำให้พวกสัตว์สงวนทั้งหลายแหล่ในบริเวณนั้นถึงกับละลายในช่วงพริบตาได้เลยที่เดียว แต่สำหรับฉันล่ะก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด เพราะรอยยิ้มนั่นมันช่างชั่วร้ายT^T พอพูดจบเค้าก็หันกลับไปที่ทางเข้าบ้านผีสิงแล้วเดินนำลิ่วเข้าไปตามเดิม และนั่นมันก็ทำให้ฉันต้องรีบวิ่งตามเค้าเข้าไปข้างในอย่างจำใจ
เมื่อฉันได้ย่างกายเข้ามาข้างในได้เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นมันก็ทำให้ฉันอยากจะกระโดดถีบประตูทางเข้าออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้เลยToT เพราะตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในบ้านที่ดีไซน์แบบสไตล์ยุโรปที่มันจะมีบันไดแยกออกเป็นสองทางเหมือนที่เห็นในหนังนั้นแหละ แต่ตอนนี้สไตล์คฤหาสน์สุดหรูนั้นได้กลายเป็นสไตล์สุดแสนสยองขวัญไปแล้ว บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความมืดมีเพียงแสงสลัวๆจากโคมไฟน่ากลัวๆตรงทางเข้าเพียงแค่สองดวง ตรงบันไดมีรอยเท้าที่ทาสีเรืองแสงไว้ตามทางหรือเป็นอีกนัยก็คือเป็นเหมือนลูกศรนำทางนั้นเอง แต่สำหรับฉันแล้วมันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนำทางอย่างเดียวแต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ฉันกลัวมากขึ้นกว่าเดิมยังไงล่ะT^T
“กรี๊ดดดดดดด” ทุกคนคนคิดว่าเป็นเสียงฉันสินะ=_= ฮะๆ แต่เปล่าเลยนั่นไม่ใช่เสียงฉันหรอก เพราะตอนนี้ฉันยังเดินขาสั่นอยู่ที่บันไดอยู่เลย นั่นมันเป็นเสียงของคนที่เข้ามาก่อนต่างหากล่ะและก็เพราะเสียงนั้นที่ทำให้ฉันทวีคูณความกลัวมากขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า และก็เพราะเสียงนั่นอีกเช่นกันที่มันทำให้ฉันเกิดความคิดอยากจะไปกระโดดถีบประตูทางเข้าหนีออกจากที่บ้าๆนี้อีกเป็นครั้งที่สอง=_=
“กรี๊ดดดดOoO” ฉันแหกปากอ้าหลอดลมทันทีที่ขึ้นมาถึงชั้นสอง ส่วนสาเหตุที่ทำให้ฉันแหกปากน่ะหรอ? นั้นเป็นเพราะไอ้ผีบ้าแวมไพร์แดรกคิวล่าที่นอนอยู่ในโลงที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบันไดมากเท่าไหร่ได้ลุกขึ้นมาแยกแขกเขี้ยวแหลมๆใส่น่ะสิ จริงๆ แล้วฉันไม่ได้แหกปากให้กะอีแค่แดรกคิวล่าที่น่าตาไม่น่ากลัวนี่หรอกนะ แค่เพราะตกใจต่างหาก-o-
“อ้าวๆ นี่พิงค์กลัวไอนี่หรอ?” เค้าหันมาถามฉันที่เดินอยู่ข้างหลังแล้วชี้ไปที่ไอ้แดรกคิวล่าบ้าๆตัวนั้นที่ตอนนี้กำลังลงไปนอนในโลงตามเดิมอยู่ ลงไปเลยไป-^-
“ไม่ได้กลัวสักหน่อย! แค่ตกใจต่างหากล่ะ-*-” ฉันตะโกนตอบไปแล้วขมวดคิ้วอย่างหัวเสียใส่ทันที เอาจริงๆก็คือกลัวนั้นแหละ
“หรออออ งั้นก็ไปกันต่อเหอะ^__^”
“กรี๊ดดดดดดดดดดTToTT” คราวนี้ฉันเจอไอ้ผีบ้าหน้าเละๆโดนขังอยู่ในกรง ถ้ามันอยู่ในกรงเฉยๆฉันก็คงไม่กลัวมันหรอกแต่มันเล่นพุ่งมากตรงหน้ากรงแล้วเขย่ากรงให้มันสั่นแถมไอกรงบ้านี่ก็เหมือนจะพังลงมาอีกต่างหากToT คราวนี้ฉันไม่รอช้าที่จะแหกปากและกระโดดไปคว้าหาที่พึ่งใกล้ตัวหรือก็คือแขนของฟิวนั้นเอง-_-^
“ฮ่าๆๆ ไหนบอกไม่กลัวไง^-^”
“ยอมรับก็ได้ ฉันกลัวผี แล้วก็กลัวมากแบบขี้ขึ้นสมองเลยด้วยY^Y”
“ก็แค่เนี้ย” พอพูดออกมาแค่นั้นฟิวก็เปลี่ยนตำแหน่งมือของฉันจากที่ฉันเกาะแขนอยู่ให้เลื่อนลงไปจับมือของเค้าแทน ถึงมันจะรู้สึกเขินจนหน้าแทบไหม้ก็เหอะแต่นาทีนี้ฉันยอมหน้าด้านแล้วเดินจับมือเค้าไปแบบนั้นดีกว่าเป็นลมหัวใจวายตายก่อนออกจากที่นี้ดีกว่า-///- ถึงมันจะน่าอายขนาดไหนฉันก็ยังอดยอมรับไม่ได้อยู่ดีว่าการจับมือเดินมาอย่างนี้มันไม่ใช่แค่อุ่นแค่ตรงมืออย่างเดียวแต่มันรู้สึกอุ่นอยู่ข้างในหน้าอกแปลกๆอย่างที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกแปลกๆตอนนี้มันคืออะไร?
ตอนนี้เราก็เดินผ่านไอ้ผี(ปลอม)พวกนั้นมาได้เยอะแล้ว แต่ที่แปลกคือหลังจากที่จับมือกับฟิวแล้วฉันก็ไม่แสดงอาการกลัวหรือแหกปากอะไรอีกเลย ตอนนี้เราเดินมาจนทางที่เราเดินตามรอยเท้าเรืองแสงนั้นหายไปข้างในประตูบานนึงที่ตอนนี้ปิดสนิท นี่มันคือห้องอะไรล่ะเนี่ยที่เดินมาตลอดทางก็ไม่เห็นจะมีประตูให้ต้องเปิดเองเลยนี่ หรือมันจะป็นห้องที่น่ากลัวที่สุดของบ้านผีสิง-o- แต่ก่อนที่ฉันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้คนข้างๆฉันก็ได้เอื้อมมือไปเปิดประตูออกซะแล้ว
เฮ้ย! นี้คิดจะเปิดก็เปิดเลยหรอ? ไม่คิดจะบอกให้คนกลัวผีรู้หน่อยเลยหรือไง? แล้วถ้าเกิดเปิดประตูออกมาแล้วมีไอ้ผีบ้าห้อยหัวลงมาแฮ่ใส่แล้วคนกลัวผีตกใจหัวใจวายจะทำยังไงห้ะ-o-? แต่แล้วความคิดทั้งหมดของฉันมันก็ต้องหยุดลงเมื่อเปิดประตูออกมาแล้วพบกับแสงสว่างจากโลกภายนอก หรือจะเรียกอีกอย่างไอประตูนั้นก็คือทางออกนั้นเอง=_=
“เฮ้อออออ-o-” การออกมาจากขุมนรกที่มีชื่อว่าบ้านผีสิงได้นั้นถือเป็นลาภอันประเสริฐ=_=
“นี่”
“หือ(^_^ )?”
“ยิ้มทำไม นี่บีบมือฉันมาตลอดจนช้ำไปหมดแล้วเนี่ย ปล่อยได้หรือยัง-///-” พอพูดมาแค่นั้นถึงกับทำให้ฉันต้องรีบสะบัดมือทิ้งทันที ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึเปล่าเพราะเมื่อกี้เหมือนฉันเห็นฟิวหน้าแดงนะ-o-
“แฮะๆ โทดทีๆ คือว่ามันลืม^///^”
“งั้นเราไปเล่นกันต่อเหอะเนอะ”
พอพูดแค่นั้นฟิวก็จัดการลากฉันไปเครื่องเล่นอันนู้นทีอันนี้ทีแบบไม่ให้หยุดพักหายใจเลย นี่กะจะฆ่าฉันให้ตายคาสวนสนุกเลยใช่มั้ยคะToT? เอาเถอะไว้ฉันจะเก็บไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกันว่าครั้งต่อไปฉันจะไม่ชวนฟิวมาสวนสนุกด้วยกันแล้ว-^-
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ