แวมไพร์นักร้องปะรองนายฮันเตอร์นักรัก
-
เขียนโดย คอนเฟตี้
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 00.35 น.
2 ตอน
2 วิจารณ์
4,744 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 กันยายน พ.ศ. 2557 00.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) การถ่ายรูปและ'ฮาร'
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เอาละหลังจากที่ฉันและสมาชิกวงเรโซแนนซ์ได้กินข้าวกินปลากันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คงต้องทำงาน ทำงาน แล้วก็ทำงานละสินะเนี่ย~ เอาเถอะมันเป็นเรื่องปกติไปแล้วนินะ
ฉันและสมาชิกของวงอีก3คนนั่งรถตู้ของบริษัทค่ายเพลงที่พวกเราอยู่ไปสถานที่ๆทำการถ่ายแบบลงหนังสือ ก็คงจะไม่แปลกหรอกนะที่เราต้องถ่ายภาพลงนิติยาสารมากมายน่ะ แต่ตอนถ่ายเนี่ยสิที่ฉันแสบตาเป็นบ้า
“ถึงแล้วครับ~ ที่เหลือพวกคุณก็เข้าไปในตึกแล้วขึ้นไปชั้น3ห้องหมายเลข304นะครับ~”คนขับรถตู้พูดขึ้นพรางมองพวกเราที่กำลังเดินลงจากลงเพื่อเข้าไปถ่ายรูป
“งั้นก็ เข้าไปข้างในกันเถอะ..”เมื่อรถตู้ขับออกจากตึกที่เราอยู่ฉันก็พูดขึ้นพรางเดินนำเหล่าสมาชิกของวงเพื่อทำงานต่อ
แต่ก็ต้องเข้าใจละนะน้องใหม่ในวงการอุส่ามาเองทั้งทีแต่กลับไม่มีใครมารอต้อนรับอะไรเลยแบบเนี่ย เป็นใครก็ต้องหลงทางเป็นธรรมดานินะ
เมื่อเดินมาถึงชั้น3ฉันก็เดินนำสมาชิกของวงไปเพื่อหาหมายเลขห้อง แต่ว่าฉันก็ดันลืมหมายเลขห้องที่ต้องไปซะงั้น! จะเดินลงกลับไปถามก็คงขาลากแน่เพราะงั้นตอนนี้มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้น!!
“เอ่อ..คือว่าฉันลืมหมายเลขห้องน่ะ เพราะงั้นพวกนายช่วยไร้ดูทีละห้องได้ไหม~”ฉันหันมาพูดกับสมาชิกของวงอีก3คนแล้วยิ้มหวานเพื่อให้พวกเขาเห็นใจคนขี้ลืมอย่างฉันบ้างน่ะนะ~
“หา~? เอาจริงดินี้เธอลืมหมายเลขห้องไปแล้วจริงๆเหรอเนี่ย!~”บีลีฟพูดพรางมองหน้าฉันเหมือนจะไม่ให้อภัยทำไงดีอะ~~
“เอาน่าๆ บีลีฟเองก็อย่าใจร้ายเกินไปเลยนะโซน่าก็เป็นคนขี้ลืมอยู่แล้วเราก็รู้ดีนินา~ เพราะงั้นตอนนี้ช่วยกันหาห้องถ่ายรูปก่อนเถอะนะ~”ฟิลลิ่ง~ พระเจ้าของฉันนายช่วยฉันได้ดีมากเลยเพื่อนรัก~~ แต่ว่ามาหาว่าฉันขี้ลืมแบบนี้เนี่ยจะดีใจหรือเสียใจดีละเนี่ย!?
“งั้นก็..หาห้องทำงานกันเถอะ..”ไอเดียรีบพูดตัดบทก่อนที่บีลีฟจะท้วงกลับมาอีก ให้ตายเถอะเขาเป็นคนที่เรื่องมากจริงๆนะเชื่อเลยตั้งแต่ร่วมวงด้วยกันมาเนี่ยบีลีฟเป็นคนที่จู้จี้จุกจิกที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักเลย~
“งั้นฉันจะไปดูห้องที่1,2,3 นะ ส่วนพวกนายก็4,5,6,7,8 โอเค~”ฉันพูดพรางเตรียมเดินไปดูห้องที่บอกเพื่อไม่ให้เสียเวลาที่สุดแล้วละนะ
“อ่า~ ยังไงก็ระวังไว้ด้วยละ ถ้าความลับแตกจะเกิดเรื่องได้นะ!~”บีลีฟเตือนฉันก่อนที่จะเดินไปพร้อมกับฟิลลิ่งและไอเดีย
ฉันไม่พูดอะไรเพียงแค่โบกมือจากด้านหลังแล้วเดินไปห้องที่1ห้องนี้ไม่มีชื่อเจ้าของห้องเลยแฮะ ถ้าไม่มีก็แปลว่าไม่มีคนอยู่สินะ งั้นก็ต้องต่อไป เมื่อมาถึงห้องที่2แน่นอนมันก็ยังคงไม่มีชื่อเจ้าของห้องเขียนไว้เช่นกัน จนมาถึงห้องที่3ดูเหมือนว่าทางสามคนนี่นก็คงจะกำลังดูห้องที่4อยู่สินะเนี่ย~ เอาละไหนดูซิ
“ฮาร..งั้นเหรอ เป็นชื่อที่แปลกดีแฮะ งั้นห้องนี้ก็น่าจะมีคนอยู่สินะ งั้นก็~”ฉันเคาะประตู3ครั้งแล้วพูดว่า
“ขอโทดนะคะ!~ มีใครอยู่รึเปล่าคะ!~”ฉันเรียกเจ้าของห้องพรางเคาะประตูไปด้วยเรื่อยๆ แปลกดีแฮะกลับไม่มีเสียงใครตอบกลับมากเลย หลังจากนั้นเมื่อฉันคิดได้ก็
จับที่ลูกบิด เมื่อฉันจับที่ลูกบิด ฉันรู้สึกได้เลยว่าคนที่อยู่ในห้องนี้ต้องมีอะไรบางอย่าง เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็คงเป็นเพราะเซ้นมันบอกละนะ เมื่อฉันตัดสินใจได้แน้วแน่แล้วฉันก็บิดลูกบิดแล้วแง้มประตูออกนิดหนึ่ง ทันใดนั้นเอง!!
“โซน่า!!~”เสียงของฟิลลิ่งดังขึ้นทำให้ฉันตกใจจึงปิดประตูดังปั้ง!! บ้าเอ้ยฟิลลิ่งชอบทำให้ฉันตกใจแบบนี้อยู่ตลอดเลยนะเนี่ย~
“มีอะไรอีกละ!!”ฉันตะโกนถามฟิลลิ่งพรางยืนเทาเอวไปด้วยความเซงอย่างสุดขั้ว
“เราเจอแล้วละมานี้เร็วเข้า!~~”ฟิลลิ่งพูดพรางเปิดประตูแล้วคุยกับผู้กำกับภาพถ่ายที่เราติดต่อทำงานด้วย
“อ่า~ ฉันกำลังจะไป!!~”ฉันพูดพรางมองกลับมาที่ประตูห้องหมายเลข303อีกทีแล้วจึงเดินไปหาเหล่าสมาชิกของวงอย่างเร้งด่วน
เอาเถอะยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนินะ ใช่ว่าเซ้นของทุกคนจะถูกเสมอไปนิ เนอะ! หลังจากที่ฉันเข้าไปในห้องเหล่าสมาชิกของวงก็โดนลากไปแต่งหน้า ทำผมและเปลี่ยนชุดทันที แน่นอนฉันเองก็ด้วย..
เมื่อเปลี่บยชุดเสร็จ ชุดของฉันคือชุดเดร็สยาวสีดำสนิดสวนตรงกระโปงด้านหน้าฉีกออกตั้งแต่ต้นถึงหัวเข่าแต่พอสวย อย่างที่คิดมันเป็นชุดเกาะอกนั้นละ ส่วนผมที่ฉันมักจะมัดรวบสูงกลับปล่อยลงและผมสีเงินเงากับชุดสีดำยาวมันเข้ากันได้ดีจริงๆนั้นแหละนะ
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดก็พบเหล่าสมาชิกของวงใส่ชุดสูทรสีดำเหมือนกันทั้ง3คน ดูแล้วเหมือนพี่น้องกันเลยแฮะ ยิ่งมองยิ่งน่าขำฉันแทบจะกลั้นหัวเราะไม่ไหวเลยนะเนี่ย
“เห~ ใส่ชุดแบบนี้แล้วดูเหมือนเป็นคนละคนเลยนะโซน่า~”บีลีฟทักขี้นคนแรก ใบหน้าของเขามองมาที่ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นแล้วขนลุกเลยแฮะ
“ว้าว~ สุดยอดสวยมากเลยละโซน่า ชุดนี้เหมาะกับเธอมากเลยละนะ~”ตามมาด้วยฟิลลิ่งเอาเหอะยังไงฟิลลิ่งก็เป็นพวกชอบโอเวอร์อยู่แล้วนินะ จะชมยังไงมันก็ไม่รู้สึกดีขึ้นหรอก..มั้งนะ..
“สวย..ที่สุดเลยละ..”เห~ ไอเดียชมฉันด้วยเหรอเนี่ย ต้องแบบนี้สิถึงจะคุ้มที่แต่งเต็มยศหน่อย~
“เอาละทุกคนเริ่มถ่ายกันเลยนะ จะไม่ได้เสียเวลา!~”ผู้กำกับพูดพรางตกมือเรียกความสนใจไปด้วย เมื่อพวกเราได้ยินจึงรีบเดินไปเพื่อถ่ายๆรูปภาพให้มันเสร็จไป
ภาพแรกเป็นภาพเดี่ยวของแต่ละคน ฉันถ่ายด้วยท่านั่งบนเก้าอี้หรูหราและนั่งไขว่ห้างด้วย ส่วนฟิลลิ่งถ่ายตอนกำลังเล่นกับลูกหมาตัวน้อยสีดำขาว ดูแล้วเหมาะกันจนฉันประหลาดใจเลยละ ต่อมาบีลีฟ เขาถ่ายกับถ้วยชาและชุดอาหารว้าง เขาดูเหมาะกับอะไรที่หรูหราและโรแมนติกจังเลยนะ~ และคนสุดท้ายไอเดียถ่ายในรูปยื่นนิ่งมือซ้ายเอามือใส่กระเป๋าส่วนมือขวาถืออัญมณีสีแดงสดอยู่ดูแล้วให้บรรยากาศเสน่ห์มากมายเลยละ และสุดท้ายลงเอยด้วยภาพกลุ่ม ฉันนั่งไขว่ห้างอยู่ที่เก้าอี้ ด้านซ้ายมือมีฟืลลิ่งยืนอยู่เค้าจูงลูกหมาไว้เพื่อให้มันนั่งอยู่ใกล้เท้าของฉัน ด้าวขวามือคือโต๊ะอาหารและบีลีฟที่ในถือกาน้ำชาส่วนบนโต๊ะมีอาหารหวานทั้งเค้ก ไอศกรีมและอีกมากมาย ส่วนด้านหลังคือไอเดียที่กำลังถือสร้อยอัญมณีสีแดงสดแล้วถือชูด้วยมือสองข้างขึ้นสูงเหมือนหัวของฉันนิดหน่อย ถึงใครจะไม่เข้าใจแต่ฉันเข้าใจเลยละว่าผู้กำกับคิดวางแบบแผนภาพแบบใดไว้
“เอาละ~ ภาพถ่ายพ่อบ้านทั้ง3และคุณหนูก็เสร็จแล้ว ขอบคุณทุกคนที่เหนื่อยมากเลยนะครับ~~”ผู้กำกับพูดพรางเตรียมเก็บข้าวของเพื่อกลับที่พักหรือบ้านนั้นเอง
“เหนื่อยเป็นบ้าเลยนะเนี่ย~~ แบบนี้อีกหน่อยได้ตายแหงเลยแฮะ~”ฉันที่กำลังเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัวบ่นกับตัวเองไปมาเรื่อยๆ
เมื่อฉันเปลี่ยนชุดเสร็จจึงเดินออกมานอกห้องที่ทำงานก็พบเหล่าสมาชิกทั้ง3ที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้อง
“เหนื่อยหน่อยนะครับ คุณหนู~”ทั้ง3พูดพร้อมกันพรางยิ้มหวานมาให้ฉัน ดูแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัดเลยแฮะ~~
“เลิกเล่นได้แล้วน่า~ กลับบ้านได้แล้ว~”ฉันพูดพรางเดินนำอีก3คนไปก่อน เมื่อทั้ง3เห็นดังนั้นจึงมองหน้ากันเองแล้วยิ้มออกมาพร้อมออกตัววิ่งตามฉันมาด้วยเสียงหัวเราะ..
ฉันและสมาชิกของวงอีก3คนนั่งรถตู้ของบริษัทค่ายเพลงที่พวกเราอยู่ไปสถานที่ๆทำการถ่ายแบบลงหนังสือ ก็คงจะไม่แปลกหรอกนะที่เราต้องถ่ายภาพลงนิติยาสารมากมายน่ะ แต่ตอนถ่ายเนี่ยสิที่ฉันแสบตาเป็นบ้า
“ถึงแล้วครับ~ ที่เหลือพวกคุณก็เข้าไปในตึกแล้วขึ้นไปชั้น3ห้องหมายเลข304นะครับ~”คนขับรถตู้พูดขึ้นพรางมองพวกเราที่กำลังเดินลงจากลงเพื่อเข้าไปถ่ายรูป
“งั้นก็ เข้าไปข้างในกันเถอะ..”เมื่อรถตู้ขับออกจากตึกที่เราอยู่ฉันก็พูดขึ้นพรางเดินนำเหล่าสมาชิกของวงเพื่อทำงานต่อ
แต่ก็ต้องเข้าใจละนะน้องใหม่ในวงการอุส่ามาเองทั้งทีแต่กลับไม่มีใครมารอต้อนรับอะไรเลยแบบเนี่ย เป็นใครก็ต้องหลงทางเป็นธรรมดานินะ
เมื่อเดินมาถึงชั้น3ฉันก็เดินนำสมาชิกของวงไปเพื่อหาหมายเลขห้อง แต่ว่าฉันก็ดันลืมหมายเลขห้องที่ต้องไปซะงั้น! จะเดินลงกลับไปถามก็คงขาลากแน่เพราะงั้นตอนนี้มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้น!!
“เอ่อ..คือว่าฉันลืมหมายเลขห้องน่ะ เพราะงั้นพวกนายช่วยไร้ดูทีละห้องได้ไหม~”ฉันหันมาพูดกับสมาชิกของวงอีก3คนแล้วยิ้มหวานเพื่อให้พวกเขาเห็นใจคนขี้ลืมอย่างฉันบ้างน่ะนะ~
“หา~? เอาจริงดินี้เธอลืมหมายเลขห้องไปแล้วจริงๆเหรอเนี่ย!~”บีลีฟพูดพรางมองหน้าฉันเหมือนจะไม่ให้อภัยทำไงดีอะ~~
“เอาน่าๆ บีลีฟเองก็อย่าใจร้ายเกินไปเลยนะโซน่าก็เป็นคนขี้ลืมอยู่แล้วเราก็รู้ดีนินา~ เพราะงั้นตอนนี้ช่วยกันหาห้องถ่ายรูปก่อนเถอะนะ~”ฟิลลิ่ง~ พระเจ้าของฉันนายช่วยฉันได้ดีมากเลยเพื่อนรัก~~ แต่ว่ามาหาว่าฉันขี้ลืมแบบนี้เนี่ยจะดีใจหรือเสียใจดีละเนี่ย!?
“งั้นก็..หาห้องทำงานกันเถอะ..”ไอเดียรีบพูดตัดบทก่อนที่บีลีฟจะท้วงกลับมาอีก ให้ตายเถอะเขาเป็นคนที่เรื่องมากจริงๆนะเชื่อเลยตั้งแต่ร่วมวงด้วยกันมาเนี่ยบีลีฟเป็นคนที่จู้จี้จุกจิกที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักเลย~
“งั้นฉันจะไปดูห้องที่1,2,3 นะ ส่วนพวกนายก็4,5,6,7,8 โอเค~”ฉันพูดพรางเตรียมเดินไปดูห้องที่บอกเพื่อไม่ให้เสียเวลาที่สุดแล้วละนะ
“อ่า~ ยังไงก็ระวังไว้ด้วยละ ถ้าความลับแตกจะเกิดเรื่องได้นะ!~”บีลีฟเตือนฉันก่อนที่จะเดินไปพร้อมกับฟิลลิ่งและไอเดีย
ฉันไม่พูดอะไรเพียงแค่โบกมือจากด้านหลังแล้วเดินไปห้องที่1ห้องนี้ไม่มีชื่อเจ้าของห้องเลยแฮะ ถ้าไม่มีก็แปลว่าไม่มีคนอยู่สินะ งั้นก็ต้องต่อไป เมื่อมาถึงห้องที่2แน่นอนมันก็ยังคงไม่มีชื่อเจ้าของห้องเขียนไว้เช่นกัน จนมาถึงห้องที่3ดูเหมือนว่าทางสามคนนี่นก็คงจะกำลังดูห้องที่4อยู่สินะเนี่ย~ เอาละไหนดูซิ
“ฮาร..งั้นเหรอ เป็นชื่อที่แปลกดีแฮะ งั้นห้องนี้ก็น่าจะมีคนอยู่สินะ งั้นก็~”ฉันเคาะประตู3ครั้งแล้วพูดว่า
“ขอโทดนะคะ!~ มีใครอยู่รึเปล่าคะ!~”ฉันเรียกเจ้าของห้องพรางเคาะประตูไปด้วยเรื่อยๆ แปลกดีแฮะกลับไม่มีเสียงใครตอบกลับมากเลย หลังจากนั้นเมื่อฉันคิดได้ก็
จับที่ลูกบิด เมื่อฉันจับที่ลูกบิด ฉันรู้สึกได้เลยว่าคนที่อยู่ในห้องนี้ต้องมีอะไรบางอย่าง เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็คงเป็นเพราะเซ้นมันบอกละนะ เมื่อฉันตัดสินใจได้แน้วแน่แล้วฉันก็บิดลูกบิดแล้วแง้มประตูออกนิดหนึ่ง ทันใดนั้นเอง!!
“โซน่า!!~”เสียงของฟิลลิ่งดังขึ้นทำให้ฉันตกใจจึงปิดประตูดังปั้ง!! บ้าเอ้ยฟิลลิ่งชอบทำให้ฉันตกใจแบบนี้อยู่ตลอดเลยนะเนี่ย~
“มีอะไรอีกละ!!”ฉันตะโกนถามฟิลลิ่งพรางยืนเทาเอวไปด้วยความเซงอย่างสุดขั้ว
“เราเจอแล้วละมานี้เร็วเข้า!~~”ฟิลลิ่งพูดพรางเปิดประตูแล้วคุยกับผู้กำกับภาพถ่ายที่เราติดต่อทำงานด้วย
“อ่า~ ฉันกำลังจะไป!!~”ฉันพูดพรางมองกลับมาที่ประตูห้องหมายเลข303อีกทีแล้วจึงเดินไปหาเหล่าสมาชิกของวงอย่างเร้งด่วน
เอาเถอะยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนินะ ใช่ว่าเซ้นของทุกคนจะถูกเสมอไปนิ เนอะ! หลังจากที่ฉันเข้าไปในห้องเหล่าสมาชิกของวงก็โดนลากไปแต่งหน้า ทำผมและเปลี่ยนชุดทันที แน่นอนฉันเองก็ด้วย..
เมื่อเปลี่บยชุดเสร็จ ชุดของฉันคือชุดเดร็สยาวสีดำสนิดสวนตรงกระโปงด้านหน้าฉีกออกตั้งแต่ต้นถึงหัวเข่าแต่พอสวย อย่างที่คิดมันเป็นชุดเกาะอกนั้นละ ส่วนผมที่ฉันมักจะมัดรวบสูงกลับปล่อยลงและผมสีเงินเงากับชุดสีดำยาวมันเข้ากันได้ดีจริงๆนั้นแหละนะ
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดก็พบเหล่าสมาชิกของวงใส่ชุดสูทรสีดำเหมือนกันทั้ง3คน ดูแล้วเหมือนพี่น้องกันเลยแฮะ ยิ่งมองยิ่งน่าขำฉันแทบจะกลั้นหัวเราะไม่ไหวเลยนะเนี่ย
“เห~ ใส่ชุดแบบนี้แล้วดูเหมือนเป็นคนละคนเลยนะโซน่า~”บีลีฟทักขี้นคนแรก ใบหน้าของเขามองมาที่ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นแล้วขนลุกเลยแฮะ
“ว้าว~ สุดยอดสวยมากเลยละโซน่า ชุดนี้เหมาะกับเธอมากเลยละนะ~”ตามมาด้วยฟิลลิ่งเอาเหอะยังไงฟิลลิ่งก็เป็นพวกชอบโอเวอร์อยู่แล้วนินะ จะชมยังไงมันก็ไม่รู้สึกดีขึ้นหรอก..มั้งนะ..
“สวย..ที่สุดเลยละ..”เห~ ไอเดียชมฉันด้วยเหรอเนี่ย ต้องแบบนี้สิถึงจะคุ้มที่แต่งเต็มยศหน่อย~
“เอาละทุกคนเริ่มถ่ายกันเลยนะ จะไม่ได้เสียเวลา!~”ผู้กำกับพูดพรางตกมือเรียกความสนใจไปด้วย เมื่อพวกเราได้ยินจึงรีบเดินไปเพื่อถ่ายๆรูปภาพให้มันเสร็จไป
ภาพแรกเป็นภาพเดี่ยวของแต่ละคน ฉันถ่ายด้วยท่านั่งบนเก้าอี้หรูหราและนั่งไขว่ห้างด้วย ส่วนฟิลลิ่งถ่ายตอนกำลังเล่นกับลูกหมาตัวน้อยสีดำขาว ดูแล้วเหมาะกันจนฉันประหลาดใจเลยละ ต่อมาบีลีฟ เขาถ่ายกับถ้วยชาและชุดอาหารว้าง เขาดูเหมาะกับอะไรที่หรูหราและโรแมนติกจังเลยนะ~ และคนสุดท้ายไอเดียถ่ายในรูปยื่นนิ่งมือซ้ายเอามือใส่กระเป๋าส่วนมือขวาถืออัญมณีสีแดงสดอยู่ดูแล้วให้บรรยากาศเสน่ห์มากมายเลยละ และสุดท้ายลงเอยด้วยภาพกลุ่ม ฉันนั่งไขว่ห้างอยู่ที่เก้าอี้ ด้านซ้ายมือมีฟืลลิ่งยืนอยู่เค้าจูงลูกหมาไว้เพื่อให้มันนั่งอยู่ใกล้เท้าของฉัน ด้าวขวามือคือโต๊ะอาหารและบีลีฟที่ในถือกาน้ำชาส่วนบนโต๊ะมีอาหารหวานทั้งเค้ก ไอศกรีมและอีกมากมาย ส่วนด้านหลังคือไอเดียที่กำลังถือสร้อยอัญมณีสีแดงสดแล้วถือชูด้วยมือสองข้างขึ้นสูงเหมือนหัวของฉันนิดหน่อย ถึงใครจะไม่เข้าใจแต่ฉันเข้าใจเลยละว่าผู้กำกับคิดวางแบบแผนภาพแบบใดไว้
“เอาละ~ ภาพถ่ายพ่อบ้านทั้ง3และคุณหนูก็เสร็จแล้ว ขอบคุณทุกคนที่เหนื่อยมากเลยนะครับ~~”ผู้กำกับพูดพรางเตรียมเก็บข้าวของเพื่อกลับที่พักหรือบ้านนั้นเอง
“เหนื่อยเป็นบ้าเลยนะเนี่ย~~ แบบนี้อีกหน่อยได้ตายแหงเลยแฮะ~”ฉันที่กำลังเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัวบ่นกับตัวเองไปมาเรื่อยๆ
เมื่อฉันเปลี่ยนชุดเสร็จจึงเดินออกมานอกห้องที่ทำงานก็พบเหล่าสมาชิกทั้ง3ที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้อง
“เหนื่อยหน่อยนะครับ คุณหนู~”ทั้ง3พูดพร้อมกันพรางยิ้มหวานมาให้ฉัน ดูแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัดเลยแฮะ~~
“เลิกเล่นได้แล้วน่า~ กลับบ้านได้แล้ว~”ฉันพูดพรางเดินนำอีก3คนไปก่อน เมื่อทั้ง3เห็นดังนั้นจึงมองหน้ากันเองแล้วยิ้มออกมาพร้อมออกตัววิ่งตามฉันมาด้วยเสียงหัวเราะ..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ