แล้วทำไมผมจึงต้องมาแต่งหญิงน่ะหรอ?
เขียนโดย ayanolieh
วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 00.35 น.
แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน พ.ศ. 2557 11.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่ 1 การเริ่มต้นของการเป็นมัธยมปลาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในพิธีปฐมนิเทศ ตอนฤดูใบไม้ผลิ เหล่าเด็กหนุ่มสาวคงคิดเรื่องอยากจะมี "คนรัก" สักคนอยู่แน่ๆ แต่บางครอบครัวกลับทำแบบนั้นมิได้ เพราะเหตุผลทางบ้าน หรืออะไรที่พอจะเป็นเหตุผลได้ แต่ทว่าถ้าไปใช้ชีวิตคู่กับคนที่เราไม่ได้รักมันก็ไม่มีความสุขหรอก ใช่ไหมล่ะ?
###
แสงแดดสว่างเจิดจ้าส่องเข้าที่หน้าของผม สายลมเย็นๆที่ลอดผ่านช่องหน้าต่างที่ปิดไม่สนิท กลีบดอกซากุระลอดผ่านมาทางช่องหน้าต่างพร้อมสายลมที่มีช่องเพียงน้องนิด
ผมลืมตาขึ้น พร้องบิดตัวไปมาเหมือนอย่างเคย ผมจ้องมองไปที่นาฬิกา ด้วยสายตาที่เบลอจนมองอะไรไม่ชัด แล้วมันก็ค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
"เอ.....7......7 โมง...7โมง 42 นาที..........7 โมง 42 นาที สายแล้วนี่หว่า ยังไม่ได้ไปลงชื่อนักเรียนด้วยสิ"
ผมรีบแต่งเสื้อผ้าแล้วกระโดดออกทางหน้าต่าง มันเป็นทางที่จะทำให้ผมไปเส้นถนนไปโรงเรียนเร็วกว่าปกติ 15 นาที ปรกติผมใช้เวลาเกือบๆ 25 นาที กว่าจะไปถึง ถ้าออกด้านหน้าละก็ ก็ต้องอ้อมถนนด้านหลังอีกที
###
สายลมพัดมาอย่างแผ่วเบา ชวนทำให้รู้สึกดี ผมสีดำยาวปล่อยยาวสลวยลงมาถึงสะโพก พริ้วไหวไปตามสายลมที่แผ่วเบานั้น ใบหน้าที่สวยสดงดงาม น้ำเสียงอันไพเราะ พร้อมอาการหอบนิดๆ
"ท...ทันสินะ แฮกๆ"
ผมก้มตัวลงเอาแขนยันเข่าไว้
"ที่จริงเราก็ไม่อยากจะแต่งชุดแบบนี้หรอกนะ แต่เพราะสัญญาไว้แล้ว ลูกผู้ชายพูดอะไรแล้วไม่คืนคำหล่ะนะ จะไปแก้ไขอะไรมันก็ไม่ได้ด้วยสิ"
ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินไปจุดลงชื่อนักเรียน
"ใครหน่ะ สวยจัง"
"จ....จริงด้วยๆ"
"ใครวะนั่น สวยชะมัด"
เด็กหนุ่มสาวรุ่นราวคาวเดียวกับผม กำลังพูดชมผมอยู่ข้างๆ แต่ถึงชมผมไป ผมก็ไม่ได้ดีใจอะไรเลย เพราะผมเป็นผู้ชายไงล่ะ แต่ต้องมาแต่หญิงแบบนี้มันซวยชะมัด ถ้าใครจับได้ว่าเราเป็นผู้ชาย แล้วเอาข่าวไปแพร่ล่ะก็ ได้ยินว่าพวกผู้หญิงปากไวกันซะด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงประมาณ......
"ร...โรคจิตล่ะเธอ"
"อืม อย่าไปยุ่งเลยจะดีกว่านะ"
"เอ๋ เธอเป็นผู้ชายงั้นหรอ!! เราไม่อยากเป็นเพื่อนกับโรคจิตแต่งหญิงอย่างนาย"
(เฮ้ยแบบนั้นไม่เอานะเฮ้ย!!! ซวยๆ ซวยอะไรขนาดนี้)
ผมคิดในใจแบบนั้น
"นี่ถึงตาเธอแล้วนะ"
รุ่นพี่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ลงชื่อ ยื่นใบมาให้่ ผมรับมันไว้อย่างเอื่อมละอาใจ
"ขอบคุณครั-...ค่ะ ขอบคุณค่ะ"
เกือบไปแล้วไหมหล่ะล
"เธอเนี่ย....เป็นพวกสาวซุ่มซ่ามสินะ?"
เอ๊ะ....เธอหมายความว่าอย่างไง สาวซุ่มซ่านเรอะ ไม่ๆ ฉันแค่รู้สึกอายๆ จนทำอะไรไม่ค่อยถูกตั้งหาก
"หมายความว่าไงคะ?"
"ป่าวๆ แค่สงสัยหน่ะ......นี่จ่ะ นามบัตรฉันนะ"
"นามบัตร?"
"อา....อืม.....ที่จริงกะจะให้ญาติที่เป็นรุ่นน้องล่ะนะ แต่คิดๆดูแล้ว ฉันให้เธอดีกว่า"
เอ.....ผู้หญิงเนี่ย เข้าใจยากจริงๆ แต่จะตอบปฏิเสธไปก็เหมือน "ปฏิเสธความเชื่อใจ" ของเขาหรือป่าวนะ ไม่สิ ต้องเรียกว่า "ความตั้งใจ" ละมั้ง
"ขอบคุณค่ะ"
"แล้วเจอกันน๊า!!"
เธอยิ้ม แล้วโบกมือให้ผม แล้วหันไปเรียกคนที่ต่อคิวจากผม
ผมแยกตัวออกมาจากแถวแล้วเดินตรงไปที่บอร์ดประกาศห้องเรียน ที่นั่นยังมีเสียงที่พูดคุยถึงผมเหมือนเดิม
"ยังไม่เลิกอีกหรอ"
ผมทำหน้าเบื่อโลกเต็มที ถอนหายใจเบาๆ
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวไม่สวยเอานะ"
ผมว่าคำพูดแบบนั้นเอาไว้พูดกับคนอื่นจะดีกว่านะ ผมไม่ดีใจหรอก ผมหันไปมองต้นตอของเสียง ชุดนักเรียนสีเทา กระโปรกดำแดง เป็นสีที่ไม่ค่อยจะเข้ากันเลยจริงๆ กำไรแขนที่รัดที่ต้่นแขนขวาสีทองอร่าม มีแสงสะท้อนแสบตา เพราะพูกแสงอาทิตย์มากระทบ ผมดำเงางาม ยาวมาถึงเอว ตัวค่อนข้างสูง ดูเป็นผู้ใหญ่ น่าเชื่อถือ มองดูแล้วก็แอบหลงนิดๆ
"ประธาน!! ประธานครับ!!"
เสียงผู้ชายตะโกนเสียงดัง จนทำให้ผมรู้สึกรำคาญ เด็กหนุ่มเอื่อยเฉื่อย วิ่งมาช้าๆ ผมสั้นสีน้ำเงินหยักสก ใส่ชุดคล้ายๆกับประธาน มีกำไรแขนเหมือนกัน แต่เป็นสีเงิน เท่าๆที่คิดดูคงจะเป็นรองประธาน
"เด็กคนนั้น?"
รองประธานทำหน้าเอ๋อๆอ๋าๆ แล้วหันมายิ้มให้ผม แน่นอนว่าถ้ามีผู้ชายมายิ้มหวานๆใส่ มันทำให้รู้สึกหยะแหยงมากๆ แต่ก็ต้องอดทนกับมัน เพื่อความสงบสุขของตัวเราเอง
"อ๋อ เด็กใหม่น่ะ เห็นทำหน้าเบื่อโลก ก็เลยเข้ามาทัก จะได้หายเบื่อโลกอ่ะนะ"
(ห๊ะ!! เข้ามาทักจะได้หายทำหน้าเบื่อโลกงั้นเรอะ!! อาเจ๊ ใช้อะไรคิดกันครับ!!)
ผมมองประทานด้วยสีหน้าที่เหนื่อยในแทน ผมเหล่ไปมองผู้ชายที่คุยกับผู้หญิงซัก 2-3 คนอย่างสนิทสนม แต่ดูเจ้าตัวว่าสาวๆเหล่านั้น "แอบรักอยู่" นี่หรือว่าเราจะต้องกลายเป็นตัวช่วยพระเอก ให้ได้มีฮาเร็มสินะ คงเหนื่อยแล้วหล่ะเรา
"อ๊ะลืมไป ฉันชื่อ ทาจิบานะ อิสึกะ"
"ผม ซาวาดะ ยูกิโตะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
เป็นผู้ชายที่หน้าเชื่อถือดีจริงๆจะลองคบหาเป็นรุ่นน้องให้ละกันนะครับ
"นี่ฉันลืมพูด ยินดีที่ได้รู้จักด้วยสินะ"
(เฮ้ย อาเจ๊ ช้าไปแล้ว ไม่ทันแล้ว มาคิดได้อะไรตอนนี้)
ผมล่ะเหนื่อยใจแทนรุ่นพี่ซาวาดะจริงๆ ดูหน้าพี่เขาสิ เอ๊ะ......หัวเราะ หัวเราะ งั้นหรอ อ๋อ อย่างงี้นี่เอง จะช่วยเป็นกำลังใจให้นะครับ
"แล้วเธอล่ะ"
ได้ยินแบบนี้ผมก็ควรจะต้องตอบไปอย่างนุ่มนวล อ่อนโยนให้เหมือนกับผู้หญิงสินะ ถึงจะไม่อยากทำก็เถอะ
"หนูชื่อ ชิบะ คาริ-"
"อา....มีเขียนไว้ตรงกระเป๋านี่นา"
(แล้วทำไมพวกคุณไม่รีบบอกฟร่ะ จะถามทำxxxอะไร เดี๋ยวพ่อก็ส่งไปคณะตลกคาเฟ่เลยหนิ)
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่จริงชื่อของผมไม่ใช่ ชิบะ คาริน หรอกนะ ที่จริงชื่อ ชิบะ คามิยะ ตระกูลชิบะของผมเป็นตระกูลใหญ่ แต่ผมแยกตัวออกมาเพราะไม่ชอบโดนใครมาบังคับให้มาทำนู่นทำนี่
"โธ่!! ประธานครับ อย่าทำเสียมารยาทกับนักเรียนของโรงเรียนเราสิครับ"
โอ้ เขาช่างเป็นคนดีเหลือเกิน เจิดจ้า!!
"นี่ก็ใกล้เข้าพิธีกล่าวปราศัยแล้วนะครับ ขอโทษนะ เดี๋ยวเราจะอธิบายให้อาจารย์ฟังเองนะ ชิบะจัง"
"ค..ค่ะ"
ผมแวะดูบอร์ดประกาศห้องเรียน
"เอ..ไหนน๊าๆ อ้ ห้อง 2 สินะ"
เมื่อเห็นแล้วผมก็รีบวิ่งตรงดิ่งไปที่หอประชุมทันที
###
เสียงถอนหายใจที่แผ่วเบา จากเด็กหนุ่มแต่งหญิงคนนี้ ดูๆไป ก็เหมือนเด็กผู้หญิงดีเหมือนกันดีแท้
ถ้านะ ถ้าหากว่าผมสามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ละก็ ผมก็จะไปตอนที่ตอบตกลงไอ้เรื่องที่ต้องแต่งนี่แหละ ตั้งแต่กี่ขวบน๊า เรื่องนี้ผมจำได้แค่รางๆ รู้จะประมาณ 11 ปีก่อนได้มั้ง
"คารินจัง เสร็จหรือยัง พวกเรารออยู่น๊า!"
ซุซุโนะ โมโมะ เพื่อนสาวร่าเริงผมสั้นแค่ต้นคอ ที่กำลังยืนอยู่กับ ชิชิกะ ชิโอริ เพื่อนสาวขี้อาย
อ๊ะ!! ลืมไปเลย ว่าเราอยู่ในห้องน้ำหญิงนี่หว่า นี่เราคงเข้าขั้นโรคจิตเต็มตัวแล้วสินะ
"อา..อา จ่า เดี๋ยวเสร็จแล้ว"
ผมรีบเดินออกจากห้องน้ำหญิงโดยเร็วที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยู่ในห้องน้ำจนลืมนั้น ส่วนหนึ่งก็คือคิดเรื่องเมื่อกี้แหละ แต่อีกส่วนคือ กลิ่นหอมๆจากห้องน้ำหญิง
"อา ช้าจังเลย ไปทำอะไรข้างในหรอ"
เธอทำหน้าเหมือนเด็กขี้สงสัย ทำเอาผมปฏิเสธไม่ลงเลย
"อา...ก็คิดอะไรนิดหน่อยอ่ะนะ"
"อา งั้นหรอ แต่ว่าไม่ต้องพูดสุภาพมากก็ได้นะ ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วนี่เนอะ"
เธอยิ้มให้ผม ทำเอาใจผมเต้นแรงไปชั่วขณะเลย
"อา.....งั้นหรอ แต่มันออกจะกระทันหันเกินไป"
ผมยกมือขึ้นขอโทษเธอ
"ข....ขอโทษทำไมล่ะ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย"
เธอทำท่าทางลนลาน จากนั้นเธอจับมือผมและ คุณชิชิกะ ไว้ แล้วพาเดินไปห้องเรียน
###
เสียงออดหมดคาบเรียนสุดท้ายของวันนี้ดังขึ้น
"อ็อด!!"
หลังจากนั้นเหล่านักเรียนต่างพากันกลับบ้าน
เสียงสงบเงียบลง นักเรียนออกไปจากบริเวณโรงเรียนจนหมด บรรยากาศเงียบสงัด เสียงของสายลมที่เสียดสีกับอะไรสักอย่าง จนทำให้เกิดเสียงขึ้นมา สายลมยามเย็น ท้องฟ้าสีส้มอ่อน ดูแล้วชวนให้หลับจริง
ผมนั่งอยู่โต๊ะเรียน ที่อยู่ด้านหลังสุดด้านขวาสุด มองออกไปทางหน้าต่าง ผมเลื่อนหน้าต่างให้ไป ลุกขึ้นยืนด้วยอาการสุขใจพิลึก
"ในที่สุดก็ผ่านไปสักที วันแรกของเรา ช่างซวยจริงๆ กลับบ้านดีกว่าเรา"
ผมเดินไปอย่างช้าๆไปที่หน้าประตู แต่ว่าประตูมันเปิดเองต่อหน้าผม ทำผมผงะเลยทีเดียว
"นี่เธอยังไม่กลับอีกงั้นหรือ?"
อาจารย์นางาเสะ ยูกิ อาจารย์ประจำชั้นของผม รูปร่างเหมือนเด็กน้องโลลิ แต่อายุก็ปาเข้าไปเกือบเลข 4 แล้ว ผมดำยาว ตาสีฟ้าสดใส ใส่ชุดโกธิคสีดำ ถือร่ม เอ๊ะ!!....เหมือนเคยเห็นคาแรคเตอร์นี้ที่ไหนนะ ผมตอบกลับไปด้วยความระเอื่อมระอา
"อา....อ่า....ย...ยั-...ก็กำลังจะกลับค่ะ"
พูดแบบติดขัดๆ มันก็กลายเป็นนิสัยเสียติดตัวผมไปซะแล้ว
"รีบกลับซะนะ ผู้หญิงกลับบ้านดึกคนเดียวมันอันตราย"
"อา...ค่ะ"
สีหน้าเธอดูจริงจังๆ แปลกๆ แล้วถอนหายใจหนึ่งเฮือก
"เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้าน"
(ทำไงดี ถ้าเขาขอไปดูในห้องของเราละก็ ซวยแน่ๆ)
"เอ่อ....วันนี้พวกญาติมาเยี่ยม ยุ่งกันหน่ะค่ะ วันอื่นดีกว่านะคะ"
(แย่แล้วฉัน ไปพูดแบบนั้น!!)
"อา งั้นเหรอ งั้นกลับบ้านดีๆล่ะ"
หลังจากนั้นเธอก็เดินออกไปที่ระเบียง
"ให้ตายสิฉัน เผื่อเวลาอาจารย์มาต้องหาอะไรมาแก้ซะแล้วแฮะ พวกของที่สมเป็นผู้หญิงสินะ"
ผมคิดแบบนั้นอยู่นานทีเดียว
"ตายแล้ว!!! วันนี้ต้องเขากะซะด้วยสิ แย่แล้วๆ สายๆ"
###
"ตื้อ!! ดึ่ง!!" เสียงขอประตูอัตโนมัติดังขึ้นเมื่อมีคนเข้ามา
"คนเริ่มเยอะแล้ว ช่วยกันหน่อยสิคะ คามิยะคุง!!"
"ครับๆ!!"
คุณคุโรยูกิ รูน่า สาววัย 20 กลางๆ ผมทองยาวสลวยสวยงามเนื่องจากเป็นลูกครึ่ง พริ้วสะบัดตามการเครื่อนไหวของเธอ กระโปรงที่สะบัดพริ้วแทบจะมองเห็นส่วนในของกระโปรงนั้น มันทำให้ผมละสายตาจากตรงนั้นไม่ได้จริงๆ เพราะการที่จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนั้น มันช่างหายากยิ่งนัก ในฐานะคนนึงที่เกิดมาก็อยากจะเห็นส่วนในเสื้อผ้าของผู้หญิงสักครั้ง ถ้าได้เห็นแล้วคงจะเป็นสุขมากๆเลยล่ะครับ
ตอนนี้ผมอยู่ที่ทำงานพิเศษ ร้านอาหารร้านหนึ่ง แน่นอนว่าตอนนี้ผมแต่งตัวเป็นผู้ชาย ถ้าให้ผมแต่งตัวเป็นผู้หญิงมาทำงานละก็ คงจะเครียดตายแหง ไอ้พวกลูกค้าทั้งหลายมันกำลังจ้องใต้กระโปรงของคุณคุโรยูกิอยู่ "ไอ้พวกโรคจิตวิตถารเอ้ย" ผมพูดเบาๆ กลัวมีใครได้ยิน
"คุณคุโรยูกิ ไปช่วยคุณมากะ หน่อยได้หรือป่าวครับ"
"อ้อ ได้จ่ะๆ"
เป็นไงล่ะพวกแก!! อดเห็นของดีๆแล้วรู้สึกเป็นไงบ้างล่ะ นี่ฉันด่าตัวเองด้วยรึป่าวเนี่ย ช่างเหอะ ที่ทำไปก็เพราะสะใจ แล้วก็ช่วยให้ทั้งสองคนนั้นใกล้ชิดกัน คุณคุโรยูกิ แอบหลงรักคุณมากะ ที่จริงแล้วเขาชื่อ โคเทงาวา มาโดกะ แต่พวกเราที่ทำงานก็เรียกเขาว่ามากะกันทั้งนั้น แต่คุณมากะเองก็แอบชอบคุณคุโรยูกิอยู่เช่นกัน แหม่..มีคนที่ผมต้องช่วยอีกเยอะล่ะครับ ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ผมก็เป็นคนช่วยให้สมหวังในรักของคนพวกนั้นได้ รู้สึกเหมือนเป็นงานหลักประจำไปแล้วแฮะ
###
ขากลับบ้านผมแวะ ร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อของมาทำอาหารเย็น
ภายในบ้านมืดไปหมด ชวนให้รู้สึกสยอง หลอนนิดๆ ผมเปิดไปหน้าห้องโถง แล้วเข้าไปเปิดไปห้องครัว แล้วเตรียมทำกับข้าว
"ไข่ เนื้อไก่ลดราคา ผัดชี ผักกาด อะไรอีกละเนี่ย เป็นคนซื้อแต่ดันจำไม่ได้อีกเรา เก็บตุนไว้บ้างเหอะเรา"
ผมเก็บของใส่ตู้เย็น แล้วทำกับข้าวทันที
หลังจากอาบน้ำผมเข้าไปที่ห้องของผม เดินไปที่ตะกร้าผ้าเพื่อนจะเอากระดาษพับที่ได้มาเมื่อเช้า ผมคลี่กระดาษออก
"ซาวาดะ อามิ ปี 2 ห้อง 1 เลขที่ 15 Amin@Kiku.xxx 084-1564-xxx ซาวาดะงั้นหรอ อย่าบอกนะว่า!! เป็นน้องของรุ่นพี่ซาวาดะ"
เอาเถอะ คิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ผมรีบแต่งเสื้อผ้า แล้วกระโดดใส่เตียงนอนอันนุ่มสบายนั้นดัง "ตุ๊บ!!" ใช่....ใช่แล้ว ผมกะผิด กระโดดซะเลยที่นอน หัวโขกกับพื้นอย่างแรง แต่ความจำผมไม่เสื่อมหรอกนะ เพราะไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้น ผมก็แค่สลบไปก็เท่านั้นเอง
###
เช้าวันอาทิตย์ที่แสนจะ....จะ.....
(ร้อน!! ร้อนโครต!!! ร้อนจริงๆ!! วันอาทิตย์แน่หรอ ฤดูใบไม้ผลิแน่หรอ!! นี่สินะที่เขาเรียกว่าอากาศแปรปรวน)
หลังจากขากลับจากซุปเปอร์มาเก็ตที่เส้นทางกลับจากที่ทำงานพิเศษ
หลังจาก 1 อาทิตย์อันแสนจะโหดร้ายของผม ก็ผ่านไปอย่างทรหดยิ่ง ยิ่งตอนเข้าห้องน้ำก็ต้องก้มหน้าตลอดเวลา พวกตัวผู้ทั้งหลายก็รุมเข้ามาขอเบอร์โทร ขอเป็นแฟนบ้าง ฉันน่ะไม่ไหวจริงๆ นานๆทีคนที่เขียนเมะ(อนิเมะ)เรื่องนี้ ก็น่าจะให้ฉันมีเวลาพักผ่อนซะบ้างน๊า ให้ตายสิ คิดแบบนั้นไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ขึ้นมา
"เอ...นี่ เธอน่ะ"
เสียงที่ฟังดูแล้ว เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ไม่ใช่ซุซุโนะจัง กับชิชิกะ แค่เหมือนเคยได้ยินที่ไหน คงไม่ใช่ประธานหรอก เพราะน้ำเสียงของประธานดูแข็งๆกว่านี้
ผมหันไปดูต้นตอของเสียงนั้น สิ่งที่ผมได้เห็น ผู้หญิงผมชมพูตัดสั้นเหมือนผู้ชาย แต่ใส่ชุดไปรเวท เอ๊ะไปรเวทเนี่ยนะ มันเข้ากับทรงผมจริงๆเรอะ เอ๊ะ!! แต่นั่นมัน...น้องของรุ่นพี่ซาวาดะ นี่นา รุ่นพี่ ซาวาดะอามิ
"ค..ครับ มีอะไรหรอครับ"
"เอ๊ะ! เธอไม่ใช่ชิบะจังนี่นา มองจากข้างหลังนึกว่าชิบะจังเลยนะเนี่ย ขอโทษทีนะ"
ทั้งตัวของเธอมีเหงื่อเต็มไปหมด สงสัยว่าไปทำอะไรมา เสื้อผ้าที่ซับเหงื่อไว้ ทำให้มองเห็นเสื้อในของเธอ
"เธอเนี่ย เหมือนชิบะจัง จริงๆน๊า ถ้าจับเธอไปแต่งหญิงคงจะดีไม่ใช่น้อยเลยล่ะ"
เห!!..คิดแบบนั้นเรอะ มันก็จริง ที่ถ้าเราไปแต่งหญิงให้เขาดู ก็คงจะเหมือนไปโดยอัตโนมัตินั่นแหละ แต่ก็ยังมีเหตุผลที่สามารถปฏิเสธได้อยู่
"เน่!! อามิ๊!!"
เสียงผู้ชายตะโกน มันเป็นเสียงที่น่าคุ้นเคยอีกนั่นแหละ ถ้าให้เดาคงเป็นรุ่นพี่ซาวาดะ นั่นล่ะ
และแล้วไม่กี่วินาทีต่อมา ผมก็สามารถหนีออกมาจากสมรภูมิรบนั่นได้สำเร็จ ถ้าไม่รีบออกมาละก็คงโดนถามอีกตรึมแน่ๆ แล้วเห็นถุงเสื้อผ้าแนวน่ารักๆ ไซด์เหมาะตัวผมพอดี แล้วอาเจ๊แกยังบอกอีกว่า "ถ้าเจอชิบะจังล่ะก็ จะให้ลองชุดทั้งหมดที่ซื้อมาเลย" แล่นเอาผมไม่กล้าไปเจอหน้าพี่แกแล้วล่ะ
หลังจากนั้น ผมก็รีบตรงดิ่งมาที่บ้านทันที
"อากาศช่วงนี้ร้อนสุดๆเลยแฮะ ตั้งแต่เมื่อวาน มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย....ร....หรือว่าเกิดอภิมหาสงครามโลกเวทย์มนต์กับวิทยาศาสตร์งั้นหรอ ไม่น่าเป็นไปได้แฮะ"
ไอ้การคิดแบบนี้ผมติดมาจากอะไรกันนะ จินตนาการล้ำเลิศจริงๆ คนที่ว่าพวกอนิเมะ กับ เกมไม่สำคัญน่ะ คิดผิดแล้ว!!
“การบ้านที่ยังทำไม่เสร็จ ยังมีอีกเพียบเลย นี่หยุด 2 วันจริงๆหรอเนี่ย”
สัปดาห์ที่ 2 ของการที่จะต้องแต่งหญิงก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง แหม่....รู้สึกแปลกๆเหมือนเดิม สายตาที่ไม่เป็นมิตรที่ดี ของพวกตัวผู้ และพวกสาวๆขี้อิจฉาทั้งหลาย รู้สึกเศร้าจัง คิดแบบนั้นไปก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นมา
เพื่อการหลบเลี่ยงจากการเจอรุ่นพี่อามิ ก็ต้องระวังเป็นพิเศษ เวลาเจอหน้าพี่เขาก็ต้องมาพร้อมเหตุผลที่จะต้องหนีให้ได้
“คุณชิบะๆ มานี่หน่อยสิ”
หัวหน้าห้อง คุณคิริซากิ ยามิ สาวสวยลำดับ 2 ของห้องเรา เป็นผมเป็นที่ 1 ไม่ดีใจเลยวุ้ย เธอเป็นคนรับผิดชอบสูง เป็นคนที่เกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์ เห็นแล้วอิจฉานิดๆ เธอเป็นคนฉลาด เรียนก็ดี กีฬาก็เก่ง เท่าที่ผมได้เฝ้าสังเกตเธอตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน นี่ผมแอบชอบเขาอยู่หรือป่าวนะ คงไม่ใช่หรอกผมว่า
“อะไรหรอ คุณคิริซากิ”
“ก็เหลือแค่เธอที่ยังไม่ได้ส่งรายงานเลยนะ”
“เอ๊ะ หรอเดี๋ยวก่อนนะ”
“อาค่ะ เดี๋ยวจะรอ”
ผมรีบเดินไปหยิบรายงานมาให้คุณคิริซากิ
“ขอโทษทีนะ”
“อา ไม่เป็นไรค่ะ”
“งั้น เดี๋ยวฉันช่วยนะคะ เยอะน่าดูเลย”
“อาไม่เป็นไรค่ะ ของห้องอื่นด้วย”
“แล้วทำไมต้องเอาของห้องอื่นมาด้วยล่ะ”
“ก็นะ เขาขอร้องมาก็เลย-”
“ไม่ได้นะคะ หัดปฏิเสธคนอื่นเขาบ้างสิ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป พวกนั้นก็จะยิ่งได้ใจนะคะ รู้หรือป่าว?”
“เอ่อ....เรื่องนั้น”
ผมก็รู้อยู่หรอกว่าคุณเป็นคนใจดี มีน้ำใจ แต่จะมีหรือไม่มีมันก็ไม่เกี่ยว คิดหรอว่าความใจดีอย่างเดียวนั้นจะอยู่บนโลกนี้อย่างสงบสุขน่ะ
“เอาเถอะ ที่หลังอย่างเป็นอย่างนี้ละกันนะคะ ไปกันเถอะ”
ผมยกรายงายของห้องอื่น แล้วส่วนของห้องตัวเองมาครึ่งนึง
“อา แบบนั้นไม่หนักแย่หรอคะ? เยอะขนาดนั้น”
“อ้อ แค่นี้น่ะหรอ ไหวอยู่แล้ว”
เธอรนรานน่าดูเลย คงกลัวว่าผมจะยกไม่ไหวล่ะนะ
“พวกผู้ชาย ทำไมไม่ไปช่วยเลยล่ะ?”
โมโมะพูดขึ้นเช่นนั้น ทำให้พวกผู้ชายรู้สึกผิดกันระนาวเลย
“ก็ มันไม่ใช่น่าที่นี่นา”
“ถึงมันจะไม่ใช่ แต่ช่วยผู้หญิงมันก็ได้นี่นา”
ผมเดินถือรายงานออกไปโดยไม่พูดอะไร คิดแค่ว่าเรานี่แหละคือผู้ชายที่ช่วยผู้หญิงเท่านั้นเอง
“นี่ คุณชิบะ รอฉันด้วยสิ”
“ก็เดินมาเร็วสิคะ”
ผมเดินไปอย่างชิวๆ ผู้คนมองมาที่ผม แหม่แบบนั้นทำให้ผมเขินจริงๆ
“อย่าเดินไวสิคะ ฉันเดินไม่ทันแล้วนะ”
“เป็นเด็กหรือไงคะ?”
“งึม....”
เธอทำแก้มป่องเหมือนจะโกรธ ดูแล้วน่ารักดีแท้เนอะ เห็นแล้วอยากเข้าไปกอดเลย
“แล้วไหวจริงๆหรอคะ?”
“ฉันบอกว่าไหวก็ไหวสิคะ โธ่ เป็นห่วงไม่เข้าเรื่องเลยนะคะ”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ว่าค่ะ บอกไปแล้วนี่คะ ทำแบบนี้บ่อยๆ เดี๋ยวฉันก็รำคาญนะคะ เวลาฉันโมโหน่ะ น่ากลัวมากเลยนะคะ”
พอเธอได้ยินแบบนั้น เธอก็ทำหน้าตากลัวๆ แล้วตอบกลับมาเสียงเบาๆว่า “ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ” เห็นแบบนั้นแล้วผมสงสารเธอจริงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ