The Mysterious…หนียังไงก็ไม่พ้นเธอ
8.0
เขียนโดย Illusion
วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.35 น.
6 ตอน
7 วิจารณ์
10.19K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2557 02.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ตอนที่ 6: โอ้ พระเจ้า นายเลย์…
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ โวยยยยยยยยย~
~It's not about the money, money, money, We don't need your money, money, money.~
ฉันขับรถออกไปได้สักพัก ก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด รถติดจริงๆด้วย ฉันแทบเป็นบ้ากับการไปเรียนวันแรกแต่กลับไปสายซะงั้น ชีวิตฉันไม่เคยเป็นอะไรแบบนี้เลย ฉันเป็นคนตรงเวลามาก ไม่เลท ไม่มาสาย ไม่ผิดนัด บลาฯ แต่นี้อะไรกันเนี่ย เพราะยัยทามคนเดียวเลย ถ้าฉันเจอเธอเมื่อไหร่ ฉันจะด่าเธอเป็นชุดจนฟังแทบไม่ทันเลยคอยดู! ตอนนี้ฉันตะโกนโวยวายบวกกับร้องเพลงอย่างกับคนบ้า รถที่ติดและไม่มีท่าว่าจะขยับไปไหนเลยทำให้ฉันยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ฮื้อออ~
ยัยทามมมมมมมม!
ฉันตะโกนเรียกชื่อเธออย่างดังแต่คงมีฉันคนเดียวที่จะได้ยิน --* การมาสายทำให้ฉันโดดเด่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งเนื้อทั้งตัวเปียกปอนไปหมดหลังจากการวิ่งผ่าสายฝนเข้ามาภายในอาคารเรียน มหาลัยนี้มันช่างสวยงามซะจริงๆเลย ไว้เลิกเรียนฉันจะเดินทัวร์รอบมหาลัยเลยคอยดู >.< สายตาของเด็กนับพันจ้องมองมาที่ฉันอย่างไม่ละสายตา ทำเอาฉันเดินตัวลีบเข้าไปนั่งในห้องประชุมอย่างเขินอาย…ฉันชะเง้อมองหายัยทามว่าเธออยู่ในที่แห่งนี้ไหม ก็กลับพบเธอจนได้ ฉันคิ้วชนทันทีที่เธอเป็นต้นเหตุให้ฉันมาสายขนาดนี้ แถมวันนี้เธอยังดูสวยกว่าฉันซะอีกด้วย ทั้งเนื้อทั้งตัวดูไม่มีการโดนฝนแต่อย่างใดเลย ผิวอันแสนขาวอย่างกับใช้โอโม่ทานเข้าไป ทำให้ฉันเห็นเธอได้ถนัดตามากขึ้น เธอนั่งอยู่ด้านหน้าสุดฝั่งซ้ายของฉัน โดยห้องประชุมนี้นับว่าเป็นห้องที่ไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไหร่ที่จะมาทำเป็นห้องประชุม ห้องนี้มีขนาดใหญ่มาก ทางเข้าออกอยู่ด้านหน้า เวลาใครมาช้าหรือจะลุกไปไหนก็สามารถมองเห็นได้หมด ที่นั่งแบบไล่ระดับเหมือนโรงภาพยนตร์ เอาง่ายๆเหมือนที่นั่งชมละครเวทีอะไรประมาณนั้น โดยที่ที่เธอนั่งจะหันหน้าชนกับฝั่งของฉันพอดิบพอดี ที่นั่งในนี้จะเป็นรูปตัวยูนั่นเอง สายตาและใบหน้าที่เรียบนิ่งของเธอทำให้ฉันจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา ฉันแอบหมั่นใส้เธอมากๆแต่ลึกๆแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้ที่เธอไม่รอฉันเลย ทำไมฉันดูรู้สึกเยอะกับเธอแบบนี้ก็ไม่รู้ >.< ดูเหมือนว่ามีสิ่งบางอย่างที่กำลังขัดตาฉันอยู่ตอนนี้ เมื่อฉันละสายตาจากเธอไปมองที่ด้านหลังของเธอก็ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก กลุ่มผู้ชายประมาณสามสี่คนกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่นั่งอยู่แถวบนจากเธอทำให้เธอไม่รู้ว่าข้างหลังกำลังทำอะไรกับเธอบ้าง บางคนก็เข้าไปสูดดมที่ผมเธออยู่ห่างๆและทำท่าทางเคลิบเคลิ้มอย่างมีความสุข อีกคนก็ทำมือคว้าจะจับเธอแต่ก็ดึงมือออกและเล่นกันอย่างสนุกสนาน อย่าบอกนะว่าพวกนั้นชอบเธอ ฉันรู้นะว่าเธอรู้แต่เธอคงไม่กล้าที่จะทำอะไรพวกนั้นละสิถ้า ผู้ชายคนนึงสะกิดไปที่ไหล่ของเธอ นั่นก็ทำให้ฉันอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าผู้ชายคนนั้นจะพูดอะไรกับเธอกันแน่ แววตาที่เรียบนิ่งคู่นั่นจ้องมาทางฉันก่อนทีนึงก่อนที่จะหันไปหาพวกนั้นอย่างช้าๆ น่าแปลกใจที่เธอรู้ว่าฉันนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยหรอเนี่ย ผู้ชายกลุ่มนั้นยิ้มหน้าบานทันทีที่เธอหันไป ฉันสังเกตอาการของเธอก็ยังดูปกติดีอยู่ทุกอย่าง ก่อนที่ผู้ชายพวกนั้นจะค่อยๆหุบยิ้มลงไปทีละคน สองคน ภาพผู้ชายพวกนั้นดูจะสงบลงอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มที่ดูสนุกสนานกลับไม่มีหลงเหลืออยู่บนใบหน้าของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ฉันสงสัยจังว่าเธอไปพูดอะไรกับผู้ชายพวกนั้นนะถึงได้มีอาการพวกนี้เกิดขึ้นกับเขา อีกทั้งรอยยิ้มบางๆที่มุมปากของเธอทำให้ฉันยิ่งสงสัยเข้าไปอีกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
การประชุมของการเปิดเทอมวันแรกได้จบลง นักศึกษาทั้งหมดต่างพากันแยกย้ายออกจากห้องอย่างง่วงเหงาหาวนอนกันยกใหญ่ ก็อย่างว่าการประชุมมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อแต่ก็เลี่ยงที่จะไม่เข้าประชุมวันแรกก็ไม่ได้ซะด้วยสิ ฉันมองหายัยทามที่ตอนนี้เธอหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“แม่งรู้ได้ไงวะ ว่ากูมีเมียแล้ว”
“เออนั่นดิ…แถมยังรู้ชื่อพ่อชื่อแม่กูอีก มิหน่ำซ้ำนะ แม่งยังรู้อีกว่าไอปาล์มเป็นหนองในอีก สุดยอดเลยวะ”
“เห้ยย อย่าเสียงดังดิวะ กูอายเขา…แม่งสวย แต่น่ากลัวฉิบหายเลยวะมึง ตอนมันพูดว่าเก็บเงินไปรักษาหนองในเถอะ กูโคตรอายเลยวะ”
“เอออะดิ กูยังอึ้งเลยว่ามันรู้ได้ไง น่ากลัววะ กูไม่จีบแม่งละ”
เสียงพูดของผู้ชายกลุ่มนึงดังขึ้น ซึ่งจากที่ฉันจำไม่ผิด ผู้ชายพวกนั้นคือคนที่นั่งอยู่หลังยัยทามนั่นเอง เสียงบ่นพวกนั้นจากปากของพวกเขาดังมากระทบเข้าหูฉันอย่างบังเอิญ จากที่ฟังเรื่องราวจากที่พวกเขาเล่าว่ายัยทามพูดอะไรกับพวกเขาไว้บ้าง นับเป็นสิ่งที่น่าตลกอยู่พอสมควรและในทางกลับกันมันก็ทำให้ฉันหายอาการแปลกๆพวกนั้นได้โดยทันที
“ทำไมมาสาย…”
เสียงอันคุ้นหูได้ดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายจากนักศึกษาที่กำลังเดินคุยหรือบ่นกันหลังจากการประชุม เสียงนั่นคือเสียงของยัยทามนี่เอง ฉันไม่หันไปตามเสียงของเธอเลยสักนิดเพราะตอนนี้ฉันกำลังโกรธเธออยู่และพยายามทำให้เธอรู้ตัวให้ได้ว่าเธอนี่แหละเป็นต้นเหตุที่ทำให้ฉันมาสาย ฉันเดินไปเรื่อยๆทำท่าทีที่ไม่สนใจเธอต่อไป หางตาฉันเห็นอยู่แล้วแหละว่าเธอกำลังตามฉันอยู่หึหึ! ฉันจะไม่คุยกับเธอจนกว่าเธอจะขอโทษฉัน
“เป็นอะไร…นี่….ได้ยินไหม”
เสียงของเธอก็ยังพูดขึ้นแต่ไม่มีท่าทีที่ฉันจะหยุดเดินหรือรู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวกับเสียงของเธอเลยสักนิด
“นี่…เธอจะไม่พูดกับฉันงั้นหรอ”
สิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมดทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอกำลังพยายามง้อฉันอยู่เลย ฉันเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัวพร้อมกับหันหน้าไปมองเธอด้วยท่าทีที่ไร้อารมณ์ แบบเก็บอาการ
“ฉันไม่อยากพูดกับเธอ”
“ทำไม…เพราะว่า…เธอกลัวงั้นหรอ”
“ทำไมฉันต้องกลัวเธอด้วย”
“ก็ฉันต้องการเลือดเธอ…”
“ถ้าเธอต้องการ ทำไมเธอไม่รีบดูดเลือดฉันหมดตัวไปเลยละ”
“……”
“เธอ! ทำไมมามหาลัยแล้วไม่บอกฉัน”
“มันก็ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องบอกเธอนิ๊”
โอ้โหวววว ดูคำตอบยัยนี่สิ! คำตอบของเธอมันทำให้ฉันโมโหขึ้นมาทันที มิหน่ำซ้ำตอนนี้เธอก็กำลังจะเดินหนีฉันไปแล้วด้วย ฉันรีบคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะเดินจากฉันไปอย่างไร้เหตุผล เธอหันหน้ากลับมามองฉันอย่างสงสัยว่าฉันจับเธอไว้ทำไมกัน แต่ตอนนี้ฉันโกรธเธอจนตัวสั่นเข้าให้แล้ว อาการที่แปลกๆได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันรู้สึกโกรธและเสียใจกับคำพูดของเธอมาก นี่มันอาการของคนที่กำลังน้อยใจอยู่ใช่ไหม
“เธอรู้ไหมว่าฉันรอเธอตั้งนาน…”
“…...”
“เธอมันเห็นแก่ตัวที่สุด เธอมันไม่มีหัวใจ! เย็นชา เหมาะแล้วที่ต้องกลายมาเป็นปีศาจน่ารังเกียจแบบนี้!”
“เป็นบ้าอะไรของเธอ…”
“ควีนนนน…”
บทสนทนายังไม่ทันจะจบ นายเลย์ดันมาขัดจังหวะเสียก่อน ทำให้ฉันเกิดอาการใจเย็นลงไปนิดนึงก่อนที่จะเดินไปหานายเลย์อย่างไม่สนใจ สิ่งที่กำลังเกิดกับฉันมันคืออะไรกันเนี่ย ทำไมฉันต้องรู้สึกกับเธอมากขนาดนั่นด้วย ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันแท้ๆ แต่ฉันกลับ…นึกถึงเธออยู่ตลอดเวลา ฉันชอบเธอ ฉันชอบยัยทามใช่ไหม
“ควีน…เป็นไรกันรึเปล่า หน้าตาซีเรียสเชียว”
“เปล่าหรอก…เออว่าแต่…”
“หื้มม…อะไรหรอ”
สิ่งที่ฉันต้องหยุดชงักลงทันทีที่มองหน้านายเลย์อยู่ตอนนี้ก็คือ แววตาที่ผิดปกติไปจากเดิม ตอนนี้แววตานี้มัน…คุ้นๆมาก เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ฉันหยุดเดินลงไปทันทีพลางสำรวจมองนายเลย์หลายต่อหลายครั้งจนฉันเริ่มแปลกใจกลับลักษณะภายนอกของนายเลย์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม ผิวที่ขาวกว่าเดิมเป็นพันเท่า แววตาที่ดุดันแฝงไปด้วยความมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกหากใครได้มาเห็นและลองสังเกตเข้าไปลึกๆ สีดวงตานั่นมันคือสีน้ำตาลแดงมันคงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหมเนี่ย
“ทำไม…นาย ดูดีขึ้นอะ”
“ฮ่า ฮ่า ชมแบบนี้ก็เขิลแย่ดิควีน”
“ไป…ทำอะไรมาหรอ”
“เห้ยยเปล่าไม่ได้ทำ”
ลักษณะท่าทางของนายเลย์ก็ดูเหมือนเดิม เว้นซะแต่รูปร่างผิวพรรณของเขาดูดีขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเท่า ซึ่งจากที่ฉันสังเกตดูนายเลย์ช่างเหมือนกับยัยทามเป๊ะเลย หรือว่านายเลย์จะเป็นแวมไพร์ทจริงๆกันนะ ต้องลองพิสูจน์หน่อยแล้วละสิ ว่าแล้วฉันก็ดึงพาสเตอร์ที่ติดแผลหลังจากเหตุการณ์ที่ชิงช้าสวรรค์ครั้งนั่น เผยให้เห็นแผลที่ยังไม่ค่อยหายดี แต่เลือดกลับไม่มีหลงเหลือออกมาเลยสักนิด ฉันจึงบีบแผลนั่นให้มันมีเลือดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อจะลองดูว่านายเลย์จะมีอาการใดๆไหม ผลจากการบีบเลือดเป็นผลสำเร็จ แผลที่ยังคงไม่หายดีส่งผลให้มีเลือดออกมาเป็นซิบๆ ฉันสังเกตไปที่หน้าของนายเลย์ก็เริ่มจะมีอาการสูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มปอด นั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมานิดนึงแล้ว
“ควีน!”
เสียงเรียกจากใครบางคนทำให้ฉันหันไปหาเสียงนั่นทันที ภาพของยัยทามที่กำลังวิ่งเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวไปหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งน้ำพุก็ยังหยุดไหลไปตามๆกัน ฉันงงมากและทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว ฉันหันไปมองหน้านายเลย์ที่ตอนนี้เขามีอาการตาแดงและกระหายเอามากๆทำให้ฉันตกใจสุดขีด
“กลิ่นนั้นช่างหอมเหลือเกิน…”
นายเลย์พูดขึ้นพร้อมกับก้าวเข้ามาหาฉันกับยัยทามอย่างรวดเร็ว แรงผลักของนายเลย์ทำให้ยัยทามลอยกระเด็นไปไกลมากจนแทบไม่เห็นร่างของเธอเลย
“เลย์…นาย…นายเป็น…แวมไพร์ท”
“เธอเชื่อเรื่องนี้ด้วยหรอเนี่ย ก็อย่างว่าเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงคนนั่นก็เป็นแบบเดียวกับฉัน ใช่…ฉันเพิ่งเป็น…ฉันชอบมากเลยที่ได้มาเป็นอมตะแบบนี้ ฮ่าฮ่า! และไม่คิดว่าเลือดของเธอ…จะหอมน่ากินได้ขนาดนี้”
นายเลย์เข้ามาจับตัวฉันและพยายามเข้ามากัดที่คอของฉันอย่างเต็มที่ แรงของนายเลย์มันช่างมีพลังกำลังมากมายเหลือเกิน มากยิ่งกว่าผู้ชายคนนั้นที่จะมากัดฉันเสียอีก ฉันพยายามสู้สุดขีดแต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหวเหมือนกัน เขี้ยวยาวๆได้โผล่ออกมาแล้ว ยิ่งทำให้ฉันกลัวมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ฉันมองไปไหนก็ไม่เห็นใครอยู่เลย แถมทุกๆอย่างก็หยุดนิ่งไปหมด ยัยทามก็ไม่รู้ไปไหน นี่ฉันกำลังโดนเพื่อนที่สนิทที่สุดฆ่าฉันหรอเนี่ย… “เลย์! นายเลย์ ตั้งสติก่อนสิฉันควีนเพื่อนนายไง คนที่นายชอบไง นายเลย์ ฉันเอง”
“อย่าขัดขืนเลยควีน! ตอนนี้…ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว”
! ! !
เสียงพูดของฉันไร้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด แรงของนายเลย์ที่พยามเข้ามากัดคอก็ยังดำเนินอยู่ต่อไปจนฉันเหนื่อยล้าเอามากๆ ฉันหลับตาปี๋และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความเป็นจริง ถ้าฉันอยู่บนโลกนี้ต่อไปยังไงสักวันฉันคงจะตายอยู่ดี
ผลักกกก!
แรงผลักอย่างแรงทำให้นายเลย์ล้มไปนอนกับพื้นเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ฉันล้มลงไปด้วยเหมือนกัน ฉันมองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสงสัยว่าใครมาช่วยฉันกันแน่ก็พบกับผู้ชายคนนึง มีลักษณะที่บึกบึนเอามากๆ สีหน้าและแววตาของเขามันช่างคุ้นๆอีกแล้ว เหมือนฉันเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนก็ไม่รู้ นายเลย์วิ่งเข้าใส่ผู้ชายคนนั้นโดยทันที การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว ดูจากผิวพรรณและท่าทางของผู้ชายคนนั้นคงจะไม่ใช่แวมไพร์ทแน่นอน แต่ทำไมเขากลับมีพละกำลังที่แข็งแรงขนาดนั่นกันละ นายเลย์ถูกต่อยถูกเหวี่ยงหลายต่อหลายครั้งจนเขาหมดแรง ภาพของนายเลย์ตอนนี้ทำให้ฉันรู้สึกสงสารเขาอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
“คุณคะ พอเถอะ พอ! บอกให้พอไงเล่า!”
ฉันร้องไห้ทันทีที่เห็นเพื่อนที่ฉันสนิทกันมากที่สุดกำลังเจ็บปวดและทรมานอยู่ตอนนี้ การต่อสู้ได้หยุดลงทันทีที่ฉันเอ่ยคำพวกนั้นออกไป นายเลย์ได้ทีหายตัวไปในที่สุด ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเข้ามาพยุงตัวฉันให้ลุกขึ้น
“เป็นอะไรมากไหม”
“คุณ…เป็นใคร”
“มนุษย์หมาป่า…”
เสียงของยัยทามดังขึ้นทำให้ฉันหันหน้าไปมองหน้าทันทีก่อนที่จะถอยห่างออกจากผู้ชายคนนั้น ทั้งคู่จ้องมองกันอย่างไม่ละสายตาก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเข้าไปหายัยทามอย่างรวดเร็ว
“เธอ…เข้ามาในชีวิตมนุษย์ทำไม!”
“….”
สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูดทำให้ฉันงงเป็นอย่างมาก ผู้ชายคนนั้นผลักยัยทามจนกระเด็นไปโดนกับเสาก่อนที่จะตามไปเหยียบหลังของยัยทามอีกทีนึง สิ่งที่ทำให้ฉันแทบเป็นบ้าเพราะตอนนี้ยัยทามดูเหมือนจะไม่มีแรงที่จะสู้กับผู้ชายคนนั้นได้เลย ฝ่ามือหนาๆของเขาจับไปที่เส้นผมของเธอและดึงขึ้นมาอย่างแรง เผยให้เห็นสีหน้าที่กำลังตื่นตกใจของเธออยู่ตอนนี้ เลือดที่ไหลออกมาจากปากเธอทำให้ฉันใจสั่นขึ้นมาทันที
“หยุดนะ! อย่าทำอะไรเธอเด็ดขาด ปล่อยเดี๋ยวนี้!”ฉันตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง ส่งผลให้ผู้ชายคนนั้นหันมามองฉันด้วยท่าทีที่สงสัย
“นาย! ไม่มีสิทธิทำแบบนี้ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…ขอร้อง ปล่อย เธอไป”
ฉันร้องไห้และทรุดตัวลงไปขอร้องเขาอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ฉันเป็นอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันเห็นเธอตายไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นค่อยๆปล่อยเธอออกช้าๆ และก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว ส่วนยัยทามก็พยายามลุกแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จนฉันรีบวิ่งเข้าไปช่วยเธอโดยทันที
“ไหวไหม…”
“เธอร้องไห้ทำไม”
“อย่าเพิ่งถาม รีบลุกมาเถอะหน่า…”
ไม่คิดไม่ฝันว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างฉันจะแบกแวมไพร์ทอย่างเธอขึ้นรถ ร่างที่อ่อนแรงจากการต่อสู้ ส่งผลให้ใบหน้าของเธอจากที่เคยซีดอยู่แล้วกลับซีดลงไปอีก เสียงเหนื่อยหอบดังขึ้นเป็นระยะๆ ตอนนี้ฉันแบกเธอมานั่งพักในรถ บรรยากาศรอบข้างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว น้ำพุที่เคยหยุดไหลตอนนี้ก็เป็นเหมือนเดิมหมดทุกอย่าง ทุกๆคนเดินคุยกันอย่างปกติเหมือนว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันก็เป็นมนุษย์แต่ทำไมกลับไม่หยุดนิ่งเหมือนคนอื่นๆบ้างนะ ฉันคิดอย่างสงสัยก่อนที่จะพยายามหาทางช่วยเหลือเธอให้ดีขึ้น หน้าเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไปหาหมอก็คงไม่ได้ด้วย ทำไงดีนะยัยควีน…T^T ฉันร้อนรนพยามหาทางที่จะช่วยให้เธอมีอาการที่ปกติเหมือนเดิมแต่ก็ไม่สำเร็จสักที เปิดแอร์ก็แล้ว ให้ดื่มน้ำก็แล้ว เธอก็ยังมีอาการหน้าซีดและไม่มีแรงอย่างเช่นเคย จนกระทั่งฉันคิดอะไรได้บางอย่างจึงต้องรีบทำโดยทันที ฉันควานหาสิ่งของที่แหลมคมเพื่อจะนำมากรีดแขนตัวเอง และทำให้เลือดของฉันไหลออกมาให้เธอดื่ม ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันจะตายหรือไม่ ถ้าเธอเกิดไม่มีสติดูดเลือดฉันจนหมดตัวขึ้นมาก็ไม่เป็นไร แค่เธอไม่เป็นแบบนี้ฉันก็พอใจแล้ว ฉันสูดหายใจเข้าปอดก่อนครั้งนึงก่อนที่จะค่อยๆกรีดแขนตัวเองอย่างช้าๆ ความเจ็บปวดเกิดขึ้นทันทีที่ฉันกดมันลงไปในเนื้อ เลือดสีแดงไหลออกมาตามรอยที่ฉันกรีดโดยทันที ฉันยื่นแขนที่เปื้อนเลือดไปให้เธอดื่มอย่างกล้าๆกลัวๆ และก็ดูเหมือนว่าเธอจะกระหายมากด้วยที่ได้กลิ่นเลือดฉัน แรงดูดของเธอทำให้ฉันเจ็บปวดทรมานที่สุด สีหน้าของเธอดูจะเคลิบเคลิ้มกับรสชาติเลือดของฉันมาก ตอนนี้ฉันพยายามดึงแขนออกแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ปล่อยให้เป็นไปตามที่เธอต้องการในที่สุด…
ผลักกก~
“ควีนนนน…”
ระหว่างที่ฉันเริ่มรู้สึกอ่อนล้ากับการเสียเลือด ฉันคิดว่าเธอจะต้องห้ามใจไม่อยู่แน่นอนที่ได้ดื่มเลือดฉัน เปลือกตาบนค่อยๆปิดลงช้าๆอย่างหมดแรง แต่จู่ๆก็มีเสียงเหมือนอะไรกระทบกับรถบางอย่างพร้อมกับเสียงเรียกชื่อฉันที่มันดังก้องอยู่ในหู เรี่ยวแรงที่แทบไม่มีเหลือส่งผลให้ฉันพอเห็นอะไรลางๆได้บ้าง ยัยทามกำลังทำหน้าตกใจอย่างสุดขีดแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เธอดันตัวไปชิดรถทันทีที่เห็นฉันอยู่ในสภาพนี้ ก่อนที่ทุกๆอย่างดับมืดไปหมด…
~It's not about the money, money, money, We don't need your money, money, money.~
ฉันขับรถออกไปได้สักพัก ก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด รถติดจริงๆด้วย ฉันแทบเป็นบ้ากับการไปเรียนวันแรกแต่กลับไปสายซะงั้น ชีวิตฉันไม่เคยเป็นอะไรแบบนี้เลย ฉันเป็นคนตรงเวลามาก ไม่เลท ไม่มาสาย ไม่ผิดนัด บลาฯ แต่นี้อะไรกันเนี่ย เพราะยัยทามคนเดียวเลย ถ้าฉันเจอเธอเมื่อไหร่ ฉันจะด่าเธอเป็นชุดจนฟังแทบไม่ทันเลยคอยดู! ตอนนี้ฉันตะโกนโวยวายบวกกับร้องเพลงอย่างกับคนบ้า รถที่ติดและไม่มีท่าว่าจะขยับไปไหนเลยทำให้ฉันยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ฮื้อออ~
ยัยทามมมมมมมม!
ฉันตะโกนเรียกชื่อเธออย่างดังแต่คงมีฉันคนเดียวที่จะได้ยิน --* การมาสายทำให้ฉันโดดเด่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งเนื้อทั้งตัวเปียกปอนไปหมดหลังจากการวิ่งผ่าสายฝนเข้ามาภายในอาคารเรียน มหาลัยนี้มันช่างสวยงามซะจริงๆเลย ไว้เลิกเรียนฉันจะเดินทัวร์รอบมหาลัยเลยคอยดู >.< สายตาของเด็กนับพันจ้องมองมาที่ฉันอย่างไม่ละสายตา ทำเอาฉันเดินตัวลีบเข้าไปนั่งในห้องประชุมอย่างเขินอาย…ฉันชะเง้อมองหายัยทามว่าเธออยู่ในที่แห่งนี้ไหม ก็กลับพบเธอจนได้ ฉันคิ้วชนทันทีที่เธอเป็นต้นเหตุให้ฉันมาสายขนาดนี้ แถมวันนี้เธอยังดูสวยกว่าฉันซะอีกด้วย ทั้งเนื้อทั้งตัวดูไม่มีการโดนฝนแต่อย่างใดเลย ผิวอันแสนขาวอย่างกับใช้โอโม่ทานเข้าไป ทำให้ฉันเห็นเธอได้ถนัดตามากขึ้น เธอนั่งอยู่ด้านหน้าสุดฝั่งซ้ายของฉัน โดยห้องประชุมนี้นับว่าเป็นห้องที่ไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไหร่ที่จะมาทำเป็นห้องประชุม ห้องนี้มีขนาดใหญ่มาก ทางเข้าออกอยู่ด้านหน้า เวลาใครมาช้าหรือจะลุกไปไหนก็สามารถมองเห็นได้หมด ที่นั่งแบบไล่ระดับเหมือนโรงภาพยนตร์ เอาง่ายๆเหมือนที่นั่งชมละครเวทีอะไรประมาณนั้น โดยที่ที่เธอนั่งจะหันหน้าชนกับฝั่งของฉันพอดิบพอดี ที่นั่งในนี้จะเป็นรูปตัวยูนั่นเอง สายตาและใบหน้าที่เรียบนิ่งของเธอทำให้ฉันจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา ฉันแอบหมั่นใส้เธอมากๆแต่ลึกๆแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้ที่เธอไม่รอฉันเลย ทำไมฉันดูรู้สึกเยอะกับเธอแบบนี้ก็ไม่รู้ >.< ดูเหมือนว่ามีสิ่งบางอย่างที่กำลังขัดตาฉันอยู่ตอนนี้ เมื่อฉันละสายตาจากเธอไปมองที่ด้านหลังของเธอก็ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก กลุ่มผู้ชายประมาณสามสี่คนกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่นั่งอยู่แถวบนจากเธอทำให้เธอไม่รู้ว่าข้างหลังกำลังทำอะไรกับเธอบ้าง บางคนก็เข้าไปสูดดมที่ผมเธออยู่ห่างๆและทำท่าทางเคลิบเคลิ้มอย่างมีความสุข อีกคนก็ทำมือคว้าจะจับเธอแต่ก็ดึงมือออกและเล่นกันอย่างสนุกสนาน อย่าบอกนะว่าพวกนั้นชอบเธอ ฉันรู้นะว่าเธอรู้แต่เธอคงไม่กล้าที่จะทำอะไรพวกนั้นละสิถ้า ผู้ชายคนนึงสะกิดไปที่ไหล่ของเธอ นั่นก็ทำให้ฉันอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าผู้ชายคนนั้นจะพูดอะไรกับเธอกันแน่ แววตาที่เรียบนิ่งคู่นั่นจ้องมาทางฉันก่อนทีนึงก่อนที่จะหันไปหาพวกนั้นอย่างช้าๆ น่าแปลกใจที่เธอรู้ว่าฉันนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยหรอเนี่ย ผู้ชายกลุ่มนั้นยิ้มหน้าบานทันทีที่เธอหันไป ฉันสังเกตอาการของเธอก็ยังดูปกติดีอยู่ทุกอย่าง ก่อนที่ผู้ชายพวกนั้นจะค่อยๆหุบยิ้มลงไปทีละคน สองคน ภาพผู้ชายพวกนั้นดูจะสงบลงอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มที่ดูสนุกสนานกลับไม่มีหลงเหลืออยู่บนใบหน้าของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ฉันสงสัยจังว่าเธอไปพูดอะไรกับผู้ชายพวกนั้นนะถึงได้มีอาการพวกนี้เกิดขึ้นกับเขา อีกทั้งรอยยิ้มบางๆที่มุมปากของเธอทำให้ฉันยิ่งสงสัยเข้าไปอีกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
การประชุมของการเปิดเทอมวันแรกได้จบลง นักศึกษาทั้งหมดต่างพากันแยกย้ายออกจากห้องอย่างง่วงเหงาหาวนอนกันยกใหญ่ ก็อย่างว่าการประชุมมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อแต่ก็เลี่ยงที่จะไม่เข้าประชุมวันแรกก็ไม่ได้ซะด้วยสิ ฉันมองหายัยทามที่ตอนนี้เธอหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“แม่งรู้ได้ไงวะ ว่ากูมีเมียแล้ว”
“เออนั่นดิ…แถมยังรู้ชื่อพ่อชื่อแม่กูอีก มิหน่ำซ้ำนะ แม่งยังรู้อีกว่าไอปาล์มเป็นหนองในอีก สุดยอดเลยวะ”
“เห้ยย อย่าเสียงดังดิวะ กูอายเขา…แม่งสวย แต่น่ากลัวฉิบหายเลยวะมึง ตอนมันพูดว่าเก็บเงินไปรักษาหนองในเถอะ กูโคตรอายเลยวะ”
“เอออะดิ กูยังอึ้งเลยว่ามันรู้ได้ไง น่ากลัววะ กูไม่จีบแม่งละ”
เสียงพูดของผู้ชายกลุ่มนึงดังขึ้น ซึ่งจากที่ฉันจำไม่ผิด ผู้ชายพวกนั้นคือคนที่นั่งอยู่หลังยัยทามนั่นเอง เสียงบ่นพวกนั้นจากปากของพวกเขาดังมากระทบเข้าหูฉันอย่างบังเอิญ จากที่ฟังเรื่องราวจากที่พวกเขาเล่าว่ายัยทามพูดอะไรกับพวกเขาไว้บ้าง นับเป็นสิ่งที่น่าตลกอยู่พอสมควรและในทางกลับกันมันก็ทำให้ฉันหายอาการแปลกๆพวกนั้นได้โดยทันที
“ทำไมมาสาย…”
เสียงอันคุ้นหูได้ดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายจากนักศึกษาที่กำลังเดินคุยหรือบ่นกันหลังจากการประชุม เสียงนั่นคือเสียงของยัยทามนี่เอง ฉันไม่หันไปตามเสียงของเธอเลยสักนิดเพราะตอนนี้ฉันกำลังโกรธเธออยู่และพยายามทำให้เธอรู้ตัวให้ได้ว่าเธอนี่แหละเป็นต้นเหตุที่ทำให้ฉันมาสาย ฉันเดินไปเรื่อยๆทำท่าทีที่ไม่สนใจเธอต่อไป หางตาฉันเห็นอยู่แล้วแหละว่าเธอกำลังตามฉันอยู่หึหึ! ฉันจะไม่คุยกับเธอจนกว่าเธอจะขอโทษฉัน
“เป็นอะไร…นี่….ได้ยินไหม”
เสียงของเธอก็ยังพูดขึ้นแต่ไม่มีท่าทีที่ฉันจะหยุดเดินหรือรู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวกับเสียงของเธอเลยสักนิด
“นี่…เธอจะไม่พูดกับฉันงั้นหรอ”
สิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมดทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอกำลังพยายามง้อฉันอยู่เลย ฉันเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัวพร้อมกับหันหน้าไปมองเธอด้วยท่าทีที่ไร้อารมณ์ แบบเก็บอาการ
“ฉันไม่อยากพูดกับเธอ”
“ทำไม…เพราะว่า…เธอกลัวงั้นหรอ”
“ทำไมฉันต้องกลัวเธอด้วย”
“ก็ฉันต้องการเลือดเธอ…”
“ถ้าเธอต้องการ ทำไมเธอไม่รีบดูดเลือดฉันหมดตัวไปเลยละ”
“……”
“เธอ! ทำไมมามหาลัยแล้วไม่บอกฉัน”
“มันก็ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องบอกเธอนิ๊”
โอ้โหวววว ดูคำตอบยัยนี่สิ! คำตอบของเธอมันทำให้ฉันโมโหขึ้นมาทันที มิหน่ำซ้ำตอนนี้เธอก็กำลังจะเดินหนีฉันไปแล้วด้วย ฉันรีบคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะเดินจากฉันไปอย่างไร้เหตุผล เธอหันหน้ากลับมามองฉันอย่างสงสัยว่าฉันจับเธอไว้ทำไมกัน แต่ตอนนี้ฉันโกรธเธอจนตัวสั่นเข้าให้แล้ว อาการที่แปลกๆได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันรู้สึกโกรธและเสียใจกับคำพูดของเธอมาก นี่มันอาการของคนที่กำลังน้อยใจอยู่ใช่ไหม
“เธอรู้ไหมว่าฉันรอเธอตั้งนาน…”
“…...”
“เธอมันเห็นแก่ตัวที่สุด เธอมันไม่มีหัวใจ! เย็นชา เหมาะแล้วที่ต้องกลายมาเป็นปีศาจน่ารังเกียจแบบนี้!”
“เป็นบ้าอะไรของเธอ…”
“ควีนนนน…”
บทสนทนายังไม่ทันจะจบ นายเลย์ดันมาขัดจังหวะเสียก่อน ทำให้ฉันเกิดอาการใจเย็นลงไปนิดนึงก่อนที่จะเดินไปหานายเลย์อย่างไม่สนใจ สิ่งที่กำลังเกิดกับฉันมันคืออะไรกันเนี่ย ทำไมฉันต้องรู้สึกกับเธอมากขนาดนั่นด้วย ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันแท้ๆ แต่ฉันกลับ…นึกถึงเธออยู่ตลอดเวลา ฉันชอบเธอ ฉันชอบยัยทามใช่ไหม
“ควีน…เป็นไรกันรึเปล่า หน้าตาซีเรียสเชียว”
“เปล่าหรอก…เออว่าแต่…”
“หื้มม…อะไรหรอ”
สิ่งที่ฉันต้องหยุดชงักลงทันทีที่มองหน้านายเลย์อยู่ตอนนี้ก็คือ แววตาที่ผิดปกติไปจากเดิม ตอนนี้แววตานี้มัน…คุ้นๆมาก เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ฉันหยุดเดินลงไปทันทีพลางสำรวจมองนายเลย์หลายต่อหลายครั้งจนฉันเริ่มแปลกใจกลับลักษณะภายนอกของนายเลย์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม ผิวที่ขาวกว่าเดิมเป็นพันเท่า แววตาที่ดุดันแฝงไปด้วยความมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกหากใครได้มาเห็นและลองสังเกตเข้าไปลึกๆ สีดวงตานั่นมันคือสีน้ำตาลแดงมันคงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหมเนี่ย
“ทำไม…นาย ดูดีขึ้นอะ”
“ฮ่า ฮ่า ชมแบบนี้ก็เขิลแย่ดิควีน”
“ไป…ทำอะไรมาหรอ”
“เห้ยยเปล่าไม่ได้ทำ”
ลักษณะท่าทางของนายเลย์ก็ดูเหมือนเดิม เว้นซะแต่รูปร่างผิวพรรณของเขาดูดีขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเท่า ซึ่งจากที่ฉันสังเกตดูนายเลย์ช่างเหมือนกับยัยทามเป๊ะเลย หรือว่านายเลย์จะเป็นแวมไพร์ทจริงๆกันนะ ต้องลองพิสูจน์หน่อยแล้วละสิ ว่าแล้วฉันก็ดึงพาสเตอร์ที่ติดแผลหลังจากเหตุการณ์ที่ชิงช้าสวรรค์ครั้งนั่น เผยให้เห็นแผลที่ยังไม่ค่อยหายดี แต่เลือดกลับไม่มีหลงเหลือออกมาเลยสักนิด ฉันจึงบีบแผลนั่นให้มันมีเลือดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อจะลองดูว่านายเลย์จะมีอาการใดๆไหม ผลจากการบีบเลือดเป็นผลสำเร็จ แผลที่ยังคงไม่หายดีส่งผลให้มีเลือดออกมาเป็นซิบๆ ฉันสังเกตไปที่หน้าของนายเลย์ก็เริ่มจะมีอาการสูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มปอด นั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมานิดนึงแล้ว
“ควีน!”
เสียงเรียกจากใครบางคนทำให้ฉันหันไปหาเสียงนั่นทันที ภาพของยัยทามที่กำลังวิ่งเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวไปหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งน้ำพุก็ยังหยุดไหลไปตามๆกัน ฉันงงมากและทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว ฉันหันไปมองหน้านายเลย์ที่ตอนนี้เขามีอาการตาแดงและกระหายเอามากๆทำให้ฉันตกใจสุดขีด
“กลิ่นนั้นช่างหอมเหลือเกิน…”
นายเลย์พูดขึ้นพร้อมกับก้าวเข้ามาหาฉันกับยัยทามอย่างรวดเร็ว แรงผลักของนายเลย์ทำให้ยัยทามลอยกระเด็นไปไกลมากจนแทบไม่เห็นร่างของเธอเลย
“เลย์…นาย…นายเป็น…แวมไพร์ท”
“เธอเชื่อเรื่องนี้ด้วยหรอเนี่ย ก็อย่างว่าเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงคนนั่นก็เป็นแบบเดียวกับฉัน ใช่…ฉันเพิ่งเป็น…ฉันชอบมากเลยที่ได้มาเป็นอมตะแบบนี้ ฮ่าฮ่า! และไม่คิดว่าเลือดของเธอ…จะหอมน่ากินได้ขนาดนี้”
นายเลย์เข้ามาจับตัวฉันและพยายามเข้ามากัดที่คอของฉันอย่างเต็มที่ แรงของนายเลย์มันช่างมีพลังกำลังมากมายเหลือเกิน มากยิ่งกว่าผู้ชายคนนั้นที่จะมากัดฉันเสียอีก ฉันพยายามสู้สุดขีดแต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหวเหมือนกัน เขี้ยวยาวๆได้โผล่ออกมาแล้ว ยิ่งทำให้ฉันกลัวมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ฉันมองไปไหนก็ไม่เห็นใครอยู่เลย แถมทุกๆอย่างก็หยุดนิ่งไปหมด ยัยทามก็ไม่รู้ไปไหน นี่ฉันกำลังโดนเพื่อนที่สนิทที่สุดฆ่าฉันหรอเนี่ย… “เลย์! นายเลย์ ตั้งสติก่อนสิฉันควีนเพื่อนนายไง คนที่นายชอบไง นายเลย์ ฉันเอง”
“อย่าขัดขืนเลยควีน! ตอนนี้…ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว”
! ! !
เสียงพูดของฉันไร้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด แรงของนายเลย์ที่พยามเข้ามากัดคอก็ยังดำเนินอยู่ต่อไปจนฉันเหนื่อยล้าเอามากๆ ฉันหลับตาปี๋และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความเป็นจริง ถ้าฉันอยู่บนโลกนี้ต่อไปยังไงสักวันฉันคงจะตายอยู่ดี
ผลักกกก!
แรงผลักอย่างแรงทำให้นายเลย์ล้มไปนอนกับพื้นเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ฉันล้มลงไปด้วยเหมือนกัน ฉันมองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสงสัยว่าใครมาช่วยฉันกันแน่ก็พบกับผู้ชายคนนึง มีลักษณะที่บึกบึนเอามากๆ สีหน้าและแววตาของเขามันช่างคุ้นๆอีกแล้ว เหมือนฉันเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนก็ไม่รู้ นายเลย์วิ่งเข้าใส่ผู้ชายคนนั้นโดยทันที การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว ดูจากผิวพรรณและท่าทางของผู้ชายคนนั้นคงจะไม่ใช่แวมไพร์ทแน่นอน แต่ทำไมเขากลับมีพละกำลังที่แข็งแรงขนาดนั่นกันละ นายเลย์ถูกต่อยถูกเหวี่ยงหลายต่อหลายครั้งจนเขาหมดแรง ภาพของนายเลย์ตอนนี้ทำให้ฉันรู้สึกสงสารเขาอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
“คุณคะ พอเถอะ พอ! บอกให้พอไงเล่า!”
ฉันร้องไห้ทันทีที่เห็นเพื่อนที่ฉันสนิทกันมากที่สุดกำลังเจ็บปวดและทรมานอยู่ตอนนี้ การต่อสู้ได้หยุดลงทันทีที่ฉันเอ่ยคำพวกนั้นออกไป นายเลย์ได้ทีหายตัวไปในที่สุด ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเข้ามาพยุงตัวฉันให้ลุกขึ้น
“เป็นอะไรมากไหม”
“คุณ…เป็นใคร”
“มนุษย์หมาป่า…”
เสียงของยัยทามดังขึ้นทำให้ฉันหันหน้าไปมองหน้าทันทีก่อนที่จะถอยห่างออกจากผู้ชายคนนั้น ทั้งคู่จ้องมองกันอย่างไม่ละสายตาก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเข้าไปหายัยทามอย่างรวดเร็ว
“เธอ…เข้ามาในชีวิตมนุษย์ทำไม!”
“….”
สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูดทำให้ฉันงงเป็นอย่างมาก ผู้ชายคนนั้นผลักยัยทามจนกระเด็นไปโดนกับเสาก่อนที่จะตามไปเหยียบหลังของยัยทามอีกทีนึง สิ่งที่ทำให้ฉันแทบเป็นบ้าเพราะตอนนี้ยัยทามดูเหมือนจะไม่มีแรงที่จะสู้กับผู้ชายคนนั้นได้เลย ฝ่ามือหนาๆของเขาจับไปที่เส้นผมของเธอและดึงขึ้นมาอย่างแรง เผยให้เห็นสีหน้าที่กำลังตื่นตกใจของเธออยู่ตอนนี้ เลือดที่ไหลออกมาจากปากเธอทำให้ฉันใจสั่นขึ้นมาทันที
“หยุดนะ! อย่าทำอะไรเธอเด็ดขาด ปล่อยเดี๋ยวนี้!”ฉันตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง ส่งผลให้ผู้ชายคนนั้นหันมามองฉันด้วยท่าทีที่สงสัย
“นาย! ไม่มีสิทธิทำแบบนี้ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…ขอร้อง ปล่อย เธอไป”
ฉันร้องไห้และทรุดตัวลงไปขอร้องเขาอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ฉันเป็นอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันเห็นเธอตายไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นค่อยๆปล่อยเธอออกช้าๆ และก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว ส่วนยัยทามก็พยายามลุกแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จนฉันรีบวิ่งเข้าไปช่วยเธอโดยทันที
“ไหวไหม…”
“เธอร้องไห้ทำไม”
“อย่าเพิ่งถาม รีบลุกมาเถอะหน่า…”
ไม่คิดไม่ฝันว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างฉันจะแบกแวมไพร์ทอย่างเธอขึ้นรถ ร่างที่อ่อนแรงจากการต่อสู้ ส่งผลให้ใบหน้าของเธอจากที่เคยซีดอยู่แล้วกลับซีดลงไปอีก เสียงเหนื่อยหอบดังขึ้นเป็นระยะๆ ตอนนี้ฉันแบกเธอมานั่งพักในรถ บรรยากาศรอบข้างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว น้ำพุที่เคยหยุดไหลตอนนี้ก็เป็นเหมือนเดิมหมดทุกอย่าง ทุกๆคนเดินคุยกันอย่างปกติเหมือนว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันก็เป็นมนุษย์แต่ทำไมกลับไม่หยุดนิ่งเหมือนคนอื่นๆบ้างนะ ฉันคิดอย่างสงสัยก่อนที่จะพยายามหาทางช่วยเหลือเธอให้ดีขึ้น หน้าเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไปหาหมอก็คงไม่ได้ด้วย ทำไงดีนะยัยควีน…T^T ฉันร้อนรนพยามหาทางที่จะช่วยให้เธอมีอาการที่ปกติเหมือนเดิมแต่ก็ไม่สำเร็จสักที เปิดแอร์ก็แล้ว ให้ดื่มน้ำก็แล้ว เธอก็ยังมีอาการหน้าซีดและไม่มีแรงอย่างเช่นเคย จนกระทั่งฉันคิดอะไรได้บางอย่างจึงต้องรีบทำโดยทันที ฉันควานหาสิ่งของที่แหลมคมเพื่อจะนำมากรีดแขนตัวเอง และทำให้เลือดของฉันไหลออกมาให้เธอดื่ม ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันจะตายหรือไม่ ถ้าเธอเกิดไม่มีสติดูดเลือดฉันจนหมดตัวขึ้นมาก็ไม่เป็นไร แค่เธอไม่เป็นแบบนี้ฉันก็พอใจแล้ว ฉันสูดหายใจเข้าปอดก่อนครั้งนึงก่อนที่จะค่อยๆกรีดแขนตัวเองอย่างช้าๆ ความเจ็บปวดเกิดขึ้นทันทีที่ฉันกดมันลงไปในเนื้อ เลือดสีแดงไหลออกมาตามรอยที่ฉันกรีดโดยทันที ฉันยื่นแขนที่เปื้อนเลือดไปให้เธอดื่มอย่างกล้าๆกลัวๆ และก็ดูเหมือนว่าเธอจะกระหายมากด้วยที่ได้กลิ่นเลือดฉัน แรงดูดของเธอทำให้ฉันเจ็บปวดทรมานที่สุด สีหน้าของเธอดูจะเคลิบเคลิ้มกับรสชาติเลือดของฉันมาก ตอนนี้ฉันพยายามดึงแขนออกแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ปล่อยให้เป็นไปตามที่เธอต้องการในที่สุด…
ผลักกก~
“ควีนนนน…”
ระหว่างที่ฉันเริ่มรู้สึกอ่อนล้ากับการเสียเลือด ฉันคิดว่าเธอจะต้องห้ามใจไม่อยู่แน่นอนที่ได้ดื่มเลือดฉัน เปลือกตาบนค่อยๆปิดลงช้าๆอย่างหมดแรง แต่จู่ๆก็มีเสียงเหมือนอะไรกระทบกับรถบางอย่างพร้อมกับเสียงเรียกชื่อฉันที่มันดังก้องอยู่ในหู เรี่ยวแรงที่แทบไม่มีเหลือส่งผลให้ฉันพอเห็นอะไรลางๆได้บ้าง ยัยทามกำลังทำหน้าตกใจอย่างสุดขีดแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เธอดันตัวไปชิดรถทันทีที่เห็นฉันอยู่ในสภาพนี้ ก่อนที่ทุกๆอย่างดับมืดไปหมด…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ