Hello My Brother แอบปิ๊งสักนิดไม่ผิดมั้ง
เขียนโดย จูออน
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.08 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) บุกบ้านดารากับแผนล่อลวง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 7 บุกบ้านดารากับแผนล่อลวง
“เปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย”
“ฮะ?” ฉันรู้สึกงงเล็กๆ ก่อนจะรับชุดจากมือพี่มาถือ
“อ้าว งงอีก วันนี้จะไปบ้านเรนโบว์แล้วก็พาเธอกับฟูฟี่ไปด้วย...เพราะไม่ไว้ใจ”
“อ่อ จะไปบ้านเรนโบว์แล้วที่ไม่ไว้ใจมันคือ...” คิดในใจอยู่ครู่ก็ได้คำตอบชัดเจนเป็นรูปธรรมขึ้นมา “นี่พี่หาว่าฉันไม่ได้เรื่องหรือไง!”
“เฮ้ย ใครบอกว่าไม่ได้เรื่องแค่บอกว่าไม่ไว้ใจต่างหาก”
“ก็เหมือนๆ กันป่ะ ฉันไม่ผิดนะที่ทำฟูฟี่บาดเจ็บวันนั้นอะ ถ้าพี่บอกแต่แรกมันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก” -*-
“หรออออ...ถ้าบอกแล้วจะดูแลได้ว่างั้น”
“เออ”
“งั้นวันนี้ก็เฝ้าบ้านกับฟูฟี่ละกันฉันไปละ” ด้วยความอยากเจอเรนโบว์จึงทำให้ฉันต้องลงทุนเสียศักดิ์ศรีที่มีเกาะขาของพี่ไว้แน่นพร้อมร้องขอความเห็นใจ
“อยะ...อย่าปล่อยฉันไว้เลยนะ ขอร้องล่ะให้ฉันไปด้วยเถอะ”
“อืม...เอาไงดีน้า” เหอะๆ ทำเป็นเต๊ะท่าวางมาดใหญ่โตคุมชะตากรรมฉันได้เชียวนะยะ อีพี่บ้า>O<
“น้า...ให้ฉันไปด้วยเหอะน้า นะๆๆๆ” ถึงจะไม่ชอบใจอยู่มากมายแต่ก็ต้องยอมทำเพื่อพิชิตหัวใจเรนโบว์ ซุป’ตาร์ในฝัน อ๊ากกก...อยากฟินต่อจริงอะไรจริง >.<
“งั้นถ้ารับปากว่าจะทำตัวดีๆ ก็...”
“ตกลงๆๆ ทำตัวดีๆ เชื่อฟังทุกอย่าง ขอบคุณค่ะ”
ฟิ้วววว~!
ไม่ทันให้พี่ได้ตกลงปลงใจอะไรอีกฉันก็รีบใส่เกียร์สี่คูณร้อยวิ่งขึ้นห้องเพื่อไปแต่งสวย โฮะๆ เรนโบว์จะต้องเป็นของฉันในเมื่อเมื่อวานเปิดโอกาสให้ฉันได้หวังอย่างเต็มเปี่ยมแล้วยังไงเสียวันนี้เขาก็หนีเงื้อมมือฉันไม่พ้นหรอก ฮิๆ
บ้านเรนโบว์
รถจอดสนิทภายใต้โรงจอดรถของบ้านหรูสุดอลังดึงความเป็นตัวตนของเรนโบว์ออกมาได้ชัดเจน อืมๆ สมกับเป็นบ้านของเขาจริงๆ
มาถึงตอนนี้จากที่ถามความเป็นมาของพี่กับเรนโบว์ระหว่างนั่งมาในรถก็ได้ความว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมฯ ซึ่งในตอนนี้พี่ชายฉันทำงานเขียนนิยายชื่อดัง(ซึ่งฉันไม่ยักกะเคยได้ยิน) โดยมีโปรเจ็คจะทำเป็นซีรี่ย์เลยนำเรนโบว์มาเป็นพระเอกให้ ซึ่งนั่นไม่ใช่โกงการอะไรที่ฉันจะต้องมาสนใจในรายละเอียดมากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือจะทำยังไงให้เรนโบว์หันมาสนใจฉัน นั่นคือคำจำกัดความที่สำคัญที่สุด ณ ตอนนี้!!
“วันนี้สวยจัง” ลงรถมาก็หยอดคำหวานทันทีเลยนะจ้ะเรนโบว์ที่ร้ากกก...
“ขอบคุณค่ะ” ^////^
“งั้นเชิญด้านในก่อนนะ”
“ค่ะ”
เรนโบว์จูงมือฉันไปอย่างกับเจ้าหญิงที่ได้รับการทะนุถนอมจากเจ้าชายผู้สง่างามภายใต้งานเลี้ยงเต้นรำท่ามกลางผู้คนมากมาย เอ่อ...ฉันว่าฉันชักเพ้อไปแล้วแฮะ(เพิ่งรู้เรอะ!)
“ได้ยินว่าช่วงนี้ปิดเทอมเลยมาอยู่กับเจ้าปั้นจั่น ถ้าเปิดเทอมก็คงต้องกลับแล้วงั้นหรอ” เรนโบว์ถามขึ้นอีกครั้งซึ่งนั่นพี่คงเล่าให้เขาฟังสินะ
“ค่ะ”
“ว้า~ งั้นก็อดเจอหน้าเลยสิ”
“เอ๋?” ตีหน้าแบ๊วหันไปหาเขาที่มุมมอง 45 องศา อร๊าย...ยังไม่ทันได้ทำตามแผนให้เขาตกหลุมรักอะไรเลยนะเนี่ย ดูท่าจะเข้าวินซะแล้วสิเรา โฮะๆๆ ^O^
“เฮ้ยๆๆ มากไปละๆ” บุคคลที่ฉัน(เกือบ)ลืมไปแล้วว่ามีตัวตน จู่ๆ ก็พุ่งเข้ามาจับเราทั้งสองแยกจากกันโดยสิ้นเชิง “น้องฉันมาเพื่อดูแลฟูฟี่ไม่ใช่ให้นายมาดูแลเข้าใจ๊ เอ้า! อุ้มไว้แล้วอย่าให้คลาดสายตาด้วย”
พี่ส่งฟูฟี่ให้ฉันด้วยสายตาเคืองๆ เล็กน้อยก่อนที่จะสั่งให้อยู่ชั้นล่างนี่จนกว่าพี่จะไปคุยเรื่องงานเสร็จแล้วลงมารับกลับ ฮึ่ย! วุ่นวายชะมัด อีพี่บ้า>.<
ไม่นานนักก็มีคนประมาณสี่ถึงห้าคนเดินเข้ามาในบ้านและตรงขึ้นไปยังชั้นบน สงสัยโปรเจ็คนี้คงใหญ่โตอยู่เหมือนกันเพราะเท่าที่จำได้รู้สึกว่ามีลุงคนนึงในกลุ่มนั้นที่ฉันคุ้นๆ ว่าเป็นผู้กำกับชื่อดัง สงสัยคงมาตกลงอะไรกันสักอย่างละมั้ง
ผ่านไปสามชั่วโมง
ฉันกำลังอยู่ในท่ากุมท้องอย่างน่าอนาถบนโซฟา ฟูฟี่เองก็ครางเงี้ยวๆ มาพักแล้ว
“เมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ย หิวชะมัด”
“เมี๊ยว~”
“โอย...ใครก็ได้สักคน ลงมาทีเถอะ หิวแล้วๆๆๆ”
พรึ่บ~ ใครปิดไฟ?O?
ตอนนี้มองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่างนอกเสียจากความมืดมิดรอบด้านกับความรู้สึกหนักๆ ที่ดวงตาก่อนที่จะคลำดูแล้วรู้ว่ามีใครบางคนใช้มือหนาๆ ปิดตาฉันอยู่
“ใครคะ?”
“...” เงียบ
“ตอบด้วยค่ะ”
“...” โคตรเงียบ
“เริ่มกลัวแล้วน้า บอกหน่อยได้มั้ยว่าใคร” และแล้วก็ได้รู้ว่าฉันคิดผิดที่ขอไปแบบนั้นเพราะเสียงแผ่วเบาที่กระซิบกระซาบเข้ามามันช่างชวนขนลุกสุดๆ
“ฉันเอง~”
เสียงขุ่นๆ สั่นๆ ที่ตอบกลับเริ่มทำให้มือฉันชุ่มแฉะไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าเริ่มรู้สึกเย็นเยียบทั้งๆ ที่เหงื่อไหลย้อยลงมาไม่ขาดสาย ขอร้อง...ฉันไม่ชอบการละเล่นชวนระทึกแบบนี้! T^T
“อึก...ปล่อยฉันไปนะ”
“ทำไมต้องทำอย่างนั้น”
“ก็...ถ้าไม่ฉันจะกรี๊ด หนึ่ง...” นี่ไม่ใช่การขู่แต่ฉันเอาจริงเลยแหละจะอะไรก็ช่างที่อยู่ด้านหลังนั่น หากฉันกรีดร้องขึ้นมาคงไม่เกินหนึ่งนาทีที่คนจะลงมาเห็นกันหมดและถ้าจะถูกหักคอเพียงแค่นาทีเดียวคงไม่ทันหรอก(มั้ง?)
“สอง... สา...”
ยังไม่จบประโยคดีมือนั่นก็ยอมคลายออกโดยเร็วก่อนจะบ่นอุบ
“หยุด! หยุดเลยๆ เล่นแค่นี้ก็ไม่ได้” เสียงคุ้นหูนั้นทำให้รู้ทันทีเลยว่าเป็นใคร
“พี่! เสร็จงานแล้วหรอ”
“ยังหรอกแค่ลงมาดูเธอก่อนน่ะ หิวยังเที่ยงกว่าแล้ว”
“ถามได้หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย” -O-
“เออ งั้นเดินออกไปซื้อเองได้มั้ยหน้าปากซอย นี่...รายการ”
พี่ยื่นเศษกระดาษแผ่นนึงมาให้ก่อนที่ฉันจะเห็นรายการข้าวกล่องยาวเป็นพรืด ไอ้เราก็นึกว่าเป็นห่วงที่ไหนได้จะใช้ให้ไปซื้อข้าวให้พวกทีมงานอะไรนั่นก็บอกมาเถอะ เฮอะ!!
“เงินอะ” เมื่อแบมือไปขอพี่ก็ยื่นแบงค์ร้อยสองใบมาให้ ฉันถึงกับท้วงทันที “สองร้อย!!”
“เออ”
“ไม่พอ”
“เฮ้อ ห้าร้อยพอมั้ยแล้วรีบกลับมาภายในครึ่งชั่วโมงนี้ด้วย”
“จ้า” ^O^
แล้วฉันก็รีบเดินออกมาเพื่อรักษาเวลาที่ให้มาอย่างจำกัด หึๆ...นั่งอยู่เฉยๆ ก็ได้ตังค์กินขนมซะงั้นอะ วะฮ่ะๆๆ จะซื้อให้หมดทั้งห้าร้อยนี่เลยคอยดูเถอะ
ถึงร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอยฉันก็สั่งตามนั้นและเข้าไปนั่งกินน้ำแข็งใสที่ขายอยู่ข้างๆ รองท้องไปอย่างสบายอารมณ์ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นสาวสุดเอ็กซ์เซ็กซี่ในจอโทรทัศน์
‘เพียงแค่เปิดใจ อะไรก็ง่ายขึ้น’ น้ำเสียงคุณเธอยั่วยวนสุดๆ ก่อนจะถอดเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นชุดว่ายน้ำสุดซี๊ด
เธอเริ่มปฏิบัติการอ่อยด้วยการลงไปว่ายวนในน้ำแล้วชักชวนชายคนนั้นลงไปด้วยแต่เขาก็ปฏิเสธ ฉับพลันคุณเธอก็จมน้ำทันที หึ แกล้งล่ะสิท่า -.-
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดชายคนนั้นลงไปช่วยโอบอุ้มเธอก่อนจะแบกขึ้นมาผายปอด ต๊าย...ยัยนี่ลงไปแป๊ปเดียวปอดบวมซะเบอเริ่มเทิ่มขนาดนี้ >.< จะตายไหมเนี่ย ฉันได้แต่ลุ้นตัวโก่งว่าเขาคนนั้นจะช่วยให้ยัยนั่นปอดหายบวมได้มั้ยหรือว่าจะยังไงด้วยใจเต้นระทึกแต่แล้วคุณป้าก็เดินมาหยิบรีโมตก่อนที่จะ...
ปิ๊บ++
“ไอ้แก่ทำงานไปเลย มัวจ้องอยู่นั่นแหละแม่หนูเขารออยู่เห็นมั้ย”
“โธ่เอ๊ย กำลังลุ้นเลย” ใช่ๆ ลุงพูดถูกกำลังลุ้นเลยเหมือนกัน ป้านะป้าไม่น่าปิดเลยง่ะ -^-
จากที่ผ่อนคลายอยู่ดีๆ ในตอนนี้บรรยากาศตึงเครียดเพิ่มขึ้นเพราะฉันกำลังเซ็งสุดๆ ที่อดดูยัยปวดบวมนั่น หลังจากที่ซดน้ำแข็งใสไปถึงห้าชามก็ได้ฤกษ์ข้าวกล่องเสร็จเสียที
“สามร้อยจ้ะ”
ระหว่างทางเดินกลับจู่ๆ ไอเดียอันบรรเจิดก็เกิดฉายแสงขึ้นมาให้ฉันได้จับต้อง ความคิดที่ว่าจะพิชิตใจเรนโบว์ยังไงแล่นผ่านเข้าสู่โสตประสาททันที
“ช้าจังนะ” ถึงเสียงบ่นของคนรอนั่นจะดังแค่ไหนแต่เสียงหัวใจที่กำลังเต้นตึกตักในแผนการสุดสยิวของฉันก็ดังกว่าจนไม่ได้ยิน
“ที่นี่มีสระน้ำมั้ยอะ”
“มี ทำไม”
“ขอเล่นได้ป่ะ”
“ไม่ได้/ได้” ก่อนที่จะรู้สึกเสียใจแต่อีกเสียงที่ดังประสานขึ้นก็เล่นเอาใจฉันชื้นขึ้นมาเป็นกอง
“วันนี้ตกลงกันแค่นี้นะครับ สวัสดีครับ”
“อ้าว พวกพี่เอาข้าวไปด้วยครับ” พี่มัวแต่เดินตามพวกทีมงานไปนู่นแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่เราสองคน ฉันกับเรนโบว์ เรนโบว์และฉัน โฮะๆๆ (^O^)V
“ไปเล่นน้ำกัน”
เขาจูงมือฉันอีกแล้วล่ะ อ๊างงง...รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีเป็นบ้า>/////< ถูกซุป’ตาร์จับมือถือแขนถึงสามครั้งติดกันแบบนี้ไม่มีใจก็ไม่รู้จะเรียกว่ายังไงเหมือนกันนะเนี่ย
“วู้ฮู้ สนุกจังเล๊ย”
“ฮ่ะๆๆ ชอบมากสินะเนี่ย”
“ชอบมากเลยค่ะ อืม...ว่าแต่เรนโบว์อยู่ที่นี่คนเดียวหรอคะ”
“อ๋อ จริงๆ มีคนอยู่ด้วยน่ะแต่ตอนนี้ออกไปทำงาน”
“ใครหรอ?”
“แฟนน่ะ!!” เสียงนี้ไม่ใช่ของเรนโบว์หรอกนะแต่เป็นของอีตาพี่บ้าน่าถีบก้นของฉันเองแหละ
“เชอะ!” ฉันเลือกที่จะไม่ปะทะคารมแต่ว่ายหนีออกไปกลางสระแทน เบื่อจริงๆ คำโกหกชอบขัดบรรยากาศของพี่เนี่ย ไม่รู้จะกวนประสาทไปไหน
“เฮ้ กลับมาเลยนะ”
“ไม่”
“ปั้นยิ้ม!!”
“ฮะ...อะไรนะ ไม่ได้ยิ๊น~” ฉันแกล้งป้องหูใส่เพิ่มความหงุดหงิดให้คนที่อยู่บนบกนั่นได้หลายเท่าเลยล่ะ
“อย่าให้ฉันลงไปลากคอเธอขึ้นมาได้นะ ยัยน้องบ้า!”
“ก็ลองดูสิจ้ะ พี่บอ วะฮ่ะๆๆ”
ฉันทิ้งท้ายใส่ก่อนจะว่ายออกไปอย่างสบายอารมณ์แต่ความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มทำให้ขาขยับไปไม่ได้ ทำไมไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!
“หึๆๆ หนีไม่พ้นหรอก”
“หวา...” หันไปอีกทีพี่ก็มาอยู่ขอบสระด้านหลัง ฉันจึงต้องรีบว่ายหนีแต่แรงที่มีมันไม่พอตีน้ำให้ว่ายไปพ่วงด้วยอาการชาตั้งแต่ปลายเท้าจนลามไปทั้งขาและในที่สุด!!
‘บุ๋มๆๆๆ’
“ไม่ต้องมาแกล้งเลย ขึ้นมาเดี๋ยวนี้”
“...”
“ปั้นยิ้ม!”
“...”
“ปั้นยิ้ม!!”
ตู้ม!!~
สายตาของฉันมีเพียงความมืดก่อนที่สติจะดับวูบลง
“ปั้นยิ้ม”
“แค่กๆๆ เฮือกกก...”
ฉันสูดลมเข้าปอดล็อตใหญ่ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมองเห็นเรนโบว์ตัวเปียกโชกตรงหน้า
“เป็นอะไรมั้ยทำใจดีๆ ไว้นะ”
“แหะๆ”
“ไม่ตายก็ดีเท่าไหร่แล้ว พอเลยได้เวลากลับบ้านซะที” คนน่าโมโหจู่ๆ ก็เข้ามาผลักเรนโบว์ออกแล้วดึงฉันขึ้นให้เดินตามไป
“พี่!”
“ไม่ต้องพูดมากก่อเรื่องมาพอแล้ว”
“ทำไมพี่นิสัยแบบนี้ เรนโบว์เขาช่วยหนูไว้นะ อย่างน้อยก็ให้ได้ขอบคุ...”
“ไม่ต้อง!!”
สิ้นเสียงตวาดตัวฉันก็ถูกดันขึ้นรถก่อนที่จะขับออกโดยเห็นเพียงแค่เรนโบว์ที่ยืนมองอยู่หน้าประตูบ้านจนลับหายไปจากสายตา อีพี่บ้า! ใจร้ายที่สุด!!
ถึงบ้าน
“ลงมา”
“ไม่”
“ทำไมดื้อนักนะ”
“ก็ทีพี่ล่ะ ทำไมไม่เข้าใจอะไรบ้างเลย”
“เข้าใจอะไร...” พี่จ้องหน้าฉันด้วยคิ้วขมวดมุ่นก่อนที่จะคลายออกแล้วพูดต่อ “อ๋อ...ชอบมันหรือไง บอกไว้เลยนะไอ้หมอนี่มันไม่ธรรมดาเป็นเพลบอยด์หาตัวจับยาก พี่เป็นเพื่อนกับมันมาย่อมรู้ดี เธอน่ะระวังจะเสียผู้เสียคนเพราะความรักโง่ๆ ที่มี”
“แล้วพี่จะมายุ่งทำไม ฉันจะรักมันผิดตรงไหน”
“ปั้นยิ้ม!”
“พี่นั่นแหละปั้นจั่น!! พี่ควรจะยอมรับความคิดของคนอื่นบ้าง บางทีพี่บอกว่าเขาไม่ดีพี่เห็นกับตาแล้วหรือไงว่ามันเป็นอย่างนั้นน่ะ”
“...” เกิดความเงียบเข้าครอบงำสุดท้ายก็เป็นพี่ที่เริ่มต้นพูดขึ้นอีกครั้งก่อนบทสนทนานี้จะจบลงด้วยความไม่เข้าใจและนำไปสู่ความตึงเครียดของสองเรา
“หึ ตามใจ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ