Hello My Brother แอบปิ๊งสักนิดไม่ผิดมั้ง
8.5
เขียนโดย จูออน
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.08 น.
10 chapter
6 วิจารณ์
12.13K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) เพื่อนพี่เป็นซุป’ตาร์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 6 เพื่อนพี่เป็นซุป’ตาร์
สาวน้อยคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ท่ามกลางลมโบกพัดพลิ้วพลันใบไม้ก็ปลิวละลิ่วไปตามแรง คุณแม่ซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือนิทานให้ฟังก็ได้หลับไปเสียแล้วเหลือเพียงเธอที่ตื่นขึ้นมาและนั่นทำให้ได้พบกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ สิ่งหนึ่ง
‘อา...เจ้ากระต่ายน้อย’
สาวน้อยนึกสนใจเดินเข้าไปหาแต่มันก็กระโดดโหยงๆ หนีไปอีกทางจนในที่สุดก็เกิดเป็นการวิ่งไล่จับ เจ้ากระต่ายกระโดดไปไวกว่าที่คิดสาวน้อยเริ่มตามไม่ทันด้วยอ่อนแรง
แฮ่กๆ แฮ่กๆ
เจ้ากระต่ายนึกสนใจวกตัวกลับมาหาสาวน้อยอีกครั้ง มันจดๆ จ้องๆ อยู่ชั่วอึดใจและค่อยๆ กระเถิบตัวเข้าหาสาวน้อย ทันใดนั้นเอง
หมับ!“จับได้แล้ว”
สาวน้อยดีใจกระโดดโลดเต้นใหญ่แต่เจ้ากระต่ายน้อยกลับมีแต่ความเงียบงันจนเธอต้องอุ้มมันชูขึ้นพอระดับสายตา
เนื้อสีขาวของกระต่ายเริ่มกลายเป็นสีทึมๆ ตัวหดเล็กลงๆ เรื่อยๆ ใบหน้าเริ่มบูดเบี้ยวยาวออกมาผิดกับก่อนหน้า หางปุกปุยกลายเป็นเส้นแข็งๆ สีเนื้อชมพู
“กรี๊ดดดดด...หนู” >O<
ป้าบๆๆๆๆ!!
“เฮ้ย!”
สิ้นเสียงตวาดโหดๆ ไม่กี่อึดใจสายตาของฉันก็เริ่มขยับเปิดขึ้นอย่างช้าๆ
“พี่!” OoO
ในตอนนี้ลองจินตนาการถึงพี่ที่กลิ้งไปนอนยังปลายเตียงซึ่งมีเท้าเล็กๆ ของฉันพาดอยู่บนตัวแถมด้วยสภาพของผ้าปูที่นอนหลุดออกมาเป็นขยุ้มยู่ยี่
“แหะๆ ฝันไปนี่เอง” ยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อพร้อมหน้ายิ้มจิ้มลิ้มพอให้อภัย (^_^; )9
“ไม่ต้องมาพูดเลย ทำไมมานอนบนนี้ได้เนี่ย” -*-
“เอ๋?” มองไปรอบๆ นี่คือบนเตียงพี่ซึ่งฉันรู้ดีเพราะเมื่อคืนฉันแอบคืบคลานขึ้นมานอนเองแหละ โฮะๆ “อะไรหรอ” ?o? แต่ก็ยังแกล้งซื่อไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป
“ยังจะมาอะไรอีกนะ” -*-
“...” ?O? ฉันไม่ตอบแต่(แกล้ง)ทำหน้างงหนักใส่
“เฮ้อ~ ออกไปได้แล้วไป หมดเวลานอน”
พี่บอกจบก็ดันตัวฉันออกไปจากอาณาเขตของตัวเองก่อนที่จะหันไปพบว่ามีผู้มาเยือนซึ่งไม่ทันรู้ตัวเลยในเวลาต่อมา
“โทษ’ที งั้นฉันรอข้างล่างนะ” ชายคนนั้นอมยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะรีบเดินหลบออกไป
“ใครหรอ?”
“ลูกจ้าง”
“ลูกจ้างอะไรอะ”
“ลูกจ้างแบบกรรมกรมั้ง ยัยบื่อ!”
“อ่อ” -.,-
จบจากนั้นเราสองพี่น้องก็แยกย้ายไปทำธุระยามเช้าของตัวเองโดยพี่ฝากให้ฉันทำอาหารเช้าให้เสร็จทันในตอนที่พี่ลงไป
เดินลงมาชั้นล่างชายคนนั้นก็ยังคงนั่งนิ่งรออยู่ที่โซฟา เขาดูง่ายๆ สบายๆ ราวกับมาที่นี่บ่อยครั้ง สงสัยคงไม่ใช่แค่ลูกจ้างธรรมดาซะแล้วสินะ ทำอาหารเช้าไปให้เขากินด้วยดีกว่า ^O^
ไม่นานนักพี่ก็ลงมาและพูดคุยกับคนที่ได้ชื่อว่า ‘ลูกจ้าง’ อยู่ในห้องรับแขก ฉันเองยังเห็นหน้าเขาไม่ชัดเท่าไหร่แต่แค่มองผ่านออร่ายังฟุ้งกระจายแบบนั้นสงสัยมองใกล้ๆ นี่ต้องหล่อมากแน่ๆ เลย
“อาหารเช้าเสร็จแล้ว...คะ...ค่า” OoO
ฉับพลันตัวฉันแข็งค้างอยู่แบบนั้นเพราะใบหน้าเรียวๆ ตาคมๆ ที่จับจ้องมาที่ฉัน บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นดาราสุดฮอตแห่งปีนี้ คนที่ฉันมีเสียงริงโทนไว้ในครอบครอง...
“เรนโบว์!!” กรี๊ดดดด... ด้วยกลัวจะน่าเกลียดจึงต้องหันมากรีดร้องสุดเสียงให้เดซิเบลต่ำที่สุดเท่าที่จะต่ำได้
“อ้าว รู้แล้วเรอะว่าใคร”
“ฮะ?” ฉันหันกลับมามองใบหน้าเย็นชาที่น่าถีบที่สุดในสามโลก!! ก่อนที่จะประมวลผลเหตุการณ์ทั้งหมดและเข้าใจสักทีว่าที่เขาพูดนั้นหมายความว่ายังไง “นี่แสดงว่าพี่แกล้งหลอกฉันน่ะสิว่าเขาเป็นลูกจ้างน่ะ” -O-
“ป่าว ก็ลูกจ้างจริงๆ นี่นา”
“ไอ้ลูกจ้างที่พี่พูดน่ะมันหมายถึงคนงานกรรมกรไม่ใช่เรอะ!”
“เฮ้อ~ อย่าถือสาเลยนะน้องฉันมันก็ซื่อบื่อแบบเนี้ยแหละ ฮ่ะๆ”
กรี๊ดดดด...>.< จะว่าฉันตรงๆ มันไม่เท่าไหร่แต่ดันหันไปนินทาระยะเผาขนกับเรนโบว์สุดที่รักของฉัน(ไปคบกันตอนไหน)เลยทำให้เขาหัวเราะเยาะให้ความซื่อ(แอบบื่อ)ของตัวเองไปด้วย กร๊าซซซซ...ถ้าเขากลับไปล่ะก็จะแกล้งเอาคืนพี่ให้ดู!!
“อย่าว่าน้องเขาเลยน่ารักดีออก ว่าแต่เอาอาหารเช้ามาให้ใช่มั้ยครับ ขอบคุณนะ”
“อ๊ะค่ะ” เรนโบว์ช่วยเปลี่ยนเรื่องให้ด้วยการเสนอเรื่องอาหารที่ฉันยกอยู่จนลืมไปแล้วว่ามีขึ้นมาเลยทำให้บรรยากาศเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย
ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก แถมด้วยน้ำส้มหนึ่งแก้ว เฟอร์เฟ็คสุดๆ สำหรับเบรกฟาส ซึ่งเรนโบว์จิ้มไส้กรอกขึ้นมาแล้วงับกินก่อนจะชมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชวนใจละลาย
“อร่อยจัง”^_____^ อ๊ากกกก...ฟินเว่อร์จ้า >/////<
“เฮอะ พอเถอะ เห็นหน้าเพ้อๆ ของยัยนี่แล้วชวนจะอ้วก นายเองก็มีแฟนแล้วหัดอยู่ในกรอบซะบ้าง”
จบประโยคสุดจี๊ดของคุณพี่ชายเล่นเอาหัวใจของฉันแตกดัง ‘เพล้ง’ ละเอียดแหลกเป็นเสี่ยงๆ รอยยิ้มที่ฉีกแล้วฉีกอีกจนเกือบจะถึงหูบัดนี้ไม่มีอีกแล้ว
“แหม น้องนายเป็นแฟนคลับทั้งที ต้องดีด้วยหน่อยสิ”
ในตอนแรกฉันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ตอนนี้ถ้อยคำที่ออกมาจากเรนโบว์คนดีย้ำชัดแล้วว่า มีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆ โฮกกกก...ทำดีเพียงแค่เป็นแฟนคลับเท่านั้นเองหรอหัวใจชีช้ำสุดจะทานทน TTOTT
“ถะ...ถ้างั้นหนูไปก่อนนะ”
“อ้าวเฮ้ เก็บจานไปด้วยสิ”
ไม่ทันฟังเสียงไล่หลังนั้นจบน้ำตาฉันก็พรั่งพรูออกมาราวกับฝนห่าใหญ่ เรนโบว์จะมีแฟนมันไม่ผิดหรอกแต่ฉันนี่สิไม่รู้สักนิด ไหนบอกว่า ‘โสด’ ออกสื่อโต้งๆ แบบนั้น คนเราก็หวังบ้างอะไรบ้างเป็นธรรมดา ฮึก...หลอกลวงผู้บริโภค(ความหล่อ)ชัดๆ >O<!!
ฉันรีบวิ่งไปห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยก่อนที่จะเรียกสติของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ซึ่งน่าแปลกที่ฉันไม่ได้นึกเสียใจอะไรกับเขามากมายอย่างที่ร้องไห้ฟูมฟายออกมาเพียงแค่รู้สึกว่าโง่มาโดยตลอดเท่านั้นเอง
“ไปทำอะไรมาน่ะ” พี่ว่าขณะฉันเดินหัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเข้าไปก่อนจะหาผ้าขนหนูมาให้ซับอย่างรวดเร็วแล้วลากตัวฉันออกไปทั้งอย่างนั้น
“เอ่อ มีอะไรให้ช่วยมั้ย”
“ไม่หรอก ยัยนี่ก็บ้าๆ แบบนี้แหละ พอดีชอบเล่นน้ำน่ะ นายรอไปก่อนนะ”
ขอบคุณนะเรนโบว์ที่เป็นห่วงฉันแต่คุณมีแฟนแล้วไม่ใช่หรือไงจะมาทำเป็นห่วงเป็นไยฉันทำไม เดี๋ยวถ้าแฟนจับได้ขึ้นมาจะเป็นบาปกับฉันซะเปล่าๆ(พูดอย่างกะไปเป็นชู้กันแล้วงั้นแหละ!)
“ทำบ้าๆ เดี๋ยวก็หวัดกินหรอก โง่หรือเปล่ารักคนที่เขาไม่รู้จักเราเลยสักนิด งี่เง่าชะมัด!”
“พี่รู้ได้ไงว่าฉันรัก” -O- ในความรู้สึกฉันเองมันแค่ความปลื้มเท่านั้นส่วนที่เสียใจนี่ฉันคิดว่ามันเป็นผลจากการโกหกให้หวังของเขาซะมากกว่า
“ก็ในโทรศัพท์เธอเล่นมีรูปหมอนั่นเป็นร้อยๆ แถมยังตัดปะรูปตัวเองใส่ไปข้างๆ เขียนว่า ‘ไอเลิฟยู ฟอร์เอเว่อร์’ ตั้งเป็นภาพหน้าจอ ดูแค่นี้ก็รู้น่า”
“เอ๊ะ พี่แอบเอาโทรศัพท์ฉันไปดูงั้นหรอ”
“ป๊าว แค่เห็นผ่านๆ ต่างหาก” เสียงสูงปรี๊ดขนาดนี้พิรุจมากมายเลย
“แล้วรู้ได้ไงว่ามีรูปเป็นร้อยๆ น่ะ”
“เฮ้ย นั่นเดาเอาเว้ย”
“หรออออ...” ฉันลากเสียงยาวไม่เชื่อใส่ใหญ่ก่อนจะมีเสียงกระแอมไอของใครบางคนเรียกความสนใจจากเรา
“อะแฮ่ม ถ้าคุยงานเสร็จแล้วฉันขอกลับนะ”
“เออ”
“อ้อ พอดีมีของจะให้น้อง...” เขาชี้นิ้วมาทางฉันก็เลยต้องตอบไปตามมารยาท ไม่ได้แอบหวังอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ(จริงจริ๊ง)
“ปั้นยิ้มค่ะ”
“ครับน้องปั้นยิ้ม^^ พอดีเห็นเป็นแฟนคลับจากปั้นจั่นบอกก็เลยคิดว่าการให้ของที่ระลึกสักอย่างคงจะดี ตามมาสิครับ”
“อ๊ะ”
ถึงเนื้อถึงตัวจังเลยแต่ก็แอบใจเต้นเล็กๆ แฮะที่ถูกจับมือให้เดินไปด้วยกันอย่างนี้ เอ...จะแอบหวังได้มั้ยนะเนี่ย แหะๆ ^.,^
“นี่ครับรูปถ่ายพร้อมลายเซ็น แล้วก็...”
หมับ!
แชะ!
“แลกกันนะครับ” ^_^
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นไวเกินกว่าจะอธิบายทัน เขาโอบกอดฉันแล้วถ่ายรูปคู่ของเราไว้ นั่นถือเป็นของแลกกับรูปโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นต์ของเขาที่ฉันได้มางั้นหรอ นี่มันหมายความว่าไงเนี่ยยยย...>/////<
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะ พี่มองแล้วอะ”
นิ้วชี้เรียวเล็งไปยังสีหน้าปานเคียดแค้นมาแรมชาติของคนที่ยืนพิงขอบประตูอยู่ไกลๆ ก่อนจะละจากฉันไปขึ้นรถสปอร์ตสีแดงสุดหรู
วืดดด~
บานกระจกรถเลื่อนลงคงจะบอกลาแต่ผิดคาดกับที่คิดเพราะเขาพูดขึ้นว่า
“อย่าเชื่อที่พี่พูดมากนะเพราะเล่นเอาผมเสียหายอยู่เหมือนกัน”
“เอ๋?”
บรื้นนนน...
ไม่ทันได้เข้าใจในบทความเขาก็ออกรถไปซะแล้ว เสียหายจากที่พี่พูดงั้นหรอ? เอ๊ะ...หรือว่าจริงๆ แล้วไม่มีแฟน เฮ้ย! แบบนี้ก็หวังได้อะดิ๊ กรี๊ดดดด...จะได้มีสิทธิควงซุป’ ตาร์ก็คราวนี้แหละน้ายัยปั้นยิ้ม >/////<
สาวน้อยคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ท่ามกลางลมโบกพัดพลิ้วพลันใบไม้ก็ปลิวละลิ่วไปตามแรง คุณแม่ซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือนิทานให้ฟังก็ได้หลับไปเสียแล้วเหลือเพียงเธอที่ตื่นขึ้นมาและนั่นทำให้ได้พบกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ สิ่งหนึ่ง
‘อา...เจ้ากระต่ายน้อย’
สาวน้อยนึกสนใจเดินเข้าไปหาแต่มันก็กระโดดโหยงๆ หนีไปอีกทางจนในที่สุดก็เกิดเป็นการวิ่งไล่จับ เจ้ากระต่ายกระโดดไปไวกว่าที่คิดสาวน้อยเริ่มตามไม่ทันด้วยอ่อนแรง
แฮ่กๆ แฮ่กๆ
เจ้ากระต่ายนึกสนใจวกตัวกลับมาหาสาวน้อยอีกครั้ง มันจดๆ จ้องๆ อยู่ชั่วอึดใจและค่อยๆ กระเถิบตัวเข้าหาสาวน้อย ทันใดนั้นเอง
หมับ!“จับได้แล้ว”
สาวน้อยดีใจกระโดดโลดเต้นใหญ่แต่เจ้ากระต่ายน้อยกลับมีแต่ความเงียบงันจนเธอต้องอุ้มมันชูขึ้นพอระดับสายตา
เนื้อสีขาวของกระต่ายเริ่มกลายเป็นสีทึมๆ ตัวหดเล็กลงๆ เรื่อยๆ ใบหน้าเริ่มบูดเบี้ยวยาวออกมาผิดกับก่อนหน้า หางปุกปุยกลายเป็นเส้นแข็งๆ สีเนื้อชมพู
“กรี๊ดดดดด...หนู” >O<
ป้าบๆๆๆๆ!!
“เฮ้ย!”
สิ้นเสียงตวาดโหดๆ ไม่กี่อึดใจสายตาของฉันก็เริ่มขยับเปิดขึ้นอย่างช้าๆ
“พี่!” OoO
ในตอนนี้ลองจินตนาการถึงพี่ที่กลิ้งไปนอนยังปลายเตียงซึ่งมีเท้าเล็กๆ ของฉันพาดอยู่บนตัวแถมด้วยสภาพของผ้าปูที่นอนหลุดออกมาเป็นขยุ้มยู่ยี่
“แหะๆ ฝันไปนี่เอง” ยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อพร้อมหน้ายิ้มจิ้มลิ้มพอให้อภัย (^_^; )9
“ไม่ต้องมาพูดเลย ทำไมมานอนบนนี้ได้เนี่ย” -*-
“เอ๋?” มองไปรอบๆ นี่คือบนเตียงพี่ซึ่งฉันรู้ดีเพราะเมื่อคืนฉันแอบคืบคลานขึ้นมานอนเองแหละ โฮะๆ “อะไรหรอ” ?o? แต่ก็ยังแกล้งซื่อไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป
“ยังจะมาอะไรอีกนะ” -*-
“...” ?O? ฉันไม่ตอบแต่(แกล้ง)ทำหน้างงหนักใส่
“เฮ้อ~ ออกไปได้แล้วไป หมดเวลานอน”
พี่บอกจบก็ดันตัวฉันออกไปจากอาณาเขตของตัวเองก่อนที่จะหันไปพบว่ามีผู้มาเยือนซึ่งไม่ทันรู้ตัวเลยในเวลาต่อมา
“โทษ’ที งั้นฉันรอข้างล่างนะ” ชายคนนั้นอมยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะรีบเดินหลบออกไป
“ใครหรอ?”
“ลูกจ้าง”
“ลูกจ้างอะไรอะ”
“ลูกจ้างแบบกรรมกรมั้ง ยัยบื่อ!”
“อ่อ” -.,-
จบจากนั้นเราสองพี่น้องก็แยกย้ายไปทำธุระยามเช้าของตัวเองโดยพี่ฝากให้ฉันทำอาหารเช้าให้เสร็จทันในตอนที่พี่ลงไป
เดินลงมาชั้นล่างชายคนนั้นก็ยังคงนั่งนิ่งรออยู่ที่โซฟา เขาดูง่ายๆ สบายๆ ราวกับมาที่นี่บ่อยครั้ง สงสัยคงไม่ใช่แค่ลูกจ้างธรรมดาซะแล้วสินะ ทำอาหารเช้าไปให้เขากินด้วยดีกว่า ^O^
ไม่นานนักพี่ก็ลงมาและพูดคุยกับคนที่ได้ชื่อว่า ‘ลูกจ้าง’ อยู่ในห้องรับแขก ฉันเองยังเห็นหน้าเขาไม่ชัดเท่าไหร่แต่แค่มองผ่านออร่ายังฟุ้งกระจายแบบนั้นสงสัยมองใกล้ๆ นี่ต้องหล่อมากแน่ๆ เลย
“อาหารเช้าเสร็จแล้ว...คะ...ค่า” OoO
ฉับพลันตัวฉันแข็งค้างอยู่แบบนั้นเพราะใบหน้าเรียวๆ ตาคมๆ ที่จับจ้องมาที่ฉัน บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นดาราสุดฮอตแห่งปีนี้ คนที่ฉันมีเสียงริงโทนไว้ในครอบครอง...
“เรนโบว์!!” กรี๊ดดดด... ด้วยกลัวจะน่าเกลียดจึงต้องหันมากรีดร้องสุดเสียงให้เดซิเบลต่ำที่สุดเท่าที่จะต่ำได้
“อ้าว รู้แล้วเรอะว่าใคร”
“ฮะ?” ฉันหันกลับมามองใบหน้าเย็นชาที่น่าถีบที่สุดในสามโลก!! ก่อนที่จะประมวลผลเหตุการณ์ทั้งหมดและเข้าใจสักทีว่าที่เขาพูดนั้นหมายความว่ายังไง “นี่แสดงว่าพี่แกล้งหลอกฉันน่ะสิว่าเขาเป็นลูกจ้างน่ะ” -O-
“ป่าว ก็ลูกจ้างจริงๆ นี่นา”
“ไอ้ลูกจ้างที่พี่พูดน่ะมันหมายถึงคนงานกรรมกรไม่ใช่เรอะ!”
“เฮ้อ~ อย่าถือสาเลยนะน้องฉันมันก็ซื่อบื่อแบบเนี้ยแหละ ฮ่ะๆ”
กรี๊ดดดด...>.< จะว่าฉันตรงๆ มันไม่เท่าไหร่แต่ดันหันไปนินทาระยะเผาขนกับเรนโบว์สุดที่รักของฉัน(ไปคบกันตอนไหน)เลยทำให้เขาหัวเราะเยาะให้ความซื่อ(แอบบื่อ)ของตัวเองไปด้วย กร๊าซซซซ...ถ้าเขากลับไปล่ะก็จะแกล้งเอาคืนพี่ให้ดู!!
“อย่าว่าน้องเขาเลยน่ารักดีออก ว่าแต่เอาอาหารเช้ามาให้ใช่มั้ยครับ ขอบคุณนะ”
“อ๊ะค่ะ” เรนโบว์ช่วยเปลี่ยนเรื่องให้ด้วยการเสนอเรื่องอาหารที่ฉันยกอยู่จนลืมไปแล้วว่ามีขึ้นมาเลยทำให้บรรยากาศเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย
ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก แถมด้วยน้ำส้มหนึ่งแก้ว เฟอร์เฟ็คสุดๆ สำหรับเบรกฟาส ซึ่งเรนโบว์จิ้มไส้กรอกขึ้นมาแล้วงับกินก่อนจะชมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชวนใจละลาย
“อร่อยจัง”^_____^ อ๊ากกกก...ฟินเว่อร์จ้า >/////<
“เฮอะ พอเถอะ เห็นหน้าเพ้อๆ ของยัยนี่แล้วชวนจะอ้วก นายเองก็มีแฟนแล้วหัดอยู่ในกรอบซะบ้าง”
จบประโยคสุดจี๊ดของคุณพี่ชายเล่นเอาหัวใจของฉันแตกดัง ‘เพล้ง’ ละเอียดแหลกเป็นเสี่ยงๆ รอยยิ้มที่ฉีกแล้วฉีกอีกจนเกือบจะถึงหูบัดนี้ไม่มีอีกแล้ว
“แหม น้องนายเป็นแฟนคลับทั้งที ต้องดีด้วยหน่อยสิ”
ในตอนแรกฉันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ตอนนี้ถ้อยคำที่ออกมาจากเรนโบว์คนดีย้ำชัดแล้วว่า มีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆ โฮกกกก...ทำดีเพียงแค่เป็นแฟนคลับเท่านั้นเองหรอหัวใจชีช้ำสุดจะทานทน TTOTT
“ถะ...ถ้างั้นหนูไปก่อนนะ”
“อ้าวเฮ้ เก็บจานไปด้วยสิ”
ไม่ทันฟังเสียงไล่หลังนั้นจบน้ำตาฉันก็พรั่งพรูออกมาราวกับฝนห่าใหญ่ เรนโบว์จะมีแฟนมันไม่ผิดหรอกแต่ฉันนี่สิไม่รู้สักนิด ไหนบอกว่า ‘โสด’ ออกสื่อโต้งๆ แบบนั้น คนเราก็หวังบ้างอะไรบ้างเป็นธรรมดา ฮึก...หลอกลวงผู้บริโภค(ความหล่อ)ชัดๆ >O<!!
ฉันรีบวิ่งไปห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยก่อนที่จะเรียกสติของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ซึ่งน่าแปลกที่ฉันไม่ได้นึกเสียใจอะไรกับเขามากมายอย่างที่ร้องไห้ฟูมฟายออกมาเพียงแค่รู้สึกว่าโง่มาโดยตลอดเท่านั้นเอง
“ไปทำอะไรมาน่ะ” พี่ว่าขณะฉันเดินหัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเข้าไปก่อนจะหาผ้าขนหนูมาให้ซับอย่างรวดเร็วแล้วลากตัวฉันออกไปทั้งอย่างนั้น
“เอ่อ มีอะไรให้ช่วยมั้ย”
“ไม่หรอก ยัยนี่ก็บ้าๆ แบบนี้แหละ พอดีชอบเล่นน้ำน่ะ นายรอไปก่อนนะ”
ขอบคุณนะเรนโบว์ที่เป็นห่วงฉันแต่คุณมีแฟนแล้วไม่ใช่หรือไงจะมาทำเป็นห่วงเป็นไยฉันทำไม เดี๋ยวถ้าแฟนจับได้ขึ้นมาจะเป็นบาปกับฉันซะเปล่าๆ(พูดอย่างกะไปเป็นชู้กันแล้วงั้นแหละ!)
“ทำบ้าๆ เดี๋ยวก็หวัดกินหรอก โง่หรือเปล่ารักคนที่เขาไม่รู้จักเราเลยสักนิด งี่เง่าชะมัด!”
“พี่รู้ได้ไงว่าฉันรัก” -O- ในความรู้สึกฉันเองมันแค่ความปลื้มเท่านั้นส่วนที่เสียใจนี่ฉันคิดว่ามันเป็นผลจากการโกหกให้หวังของเขาซะมากกว่า
“ก็ในโทรศัพท์เธอเล่นมีรูปหมอนั่นเป็นร้อยๆ แถมยังตัดปะรูปตัวเองใส่ไปข้างๆ เขียนว่า ‘ไอเลิฟยู ฟอร์เอเว่อร์’ ตั้งเป็นภาพหน้าจอ ดูแค่นี้ก็รู้น่า”
“เอ๊ะ พี่แอบเอาโทรศัพท์ฉันไปดูงั้นหรอ”
“ป๊าว แค่เห็นผ่านๆ ต่างหาก” เสียงสูงปรี๊ดขนาดนี้พิรุจมากมายเลย
“แล้วรู้ได้ไงว่ามีรูปเป็นร้อยๆ น่ะ”
“เฮ้ย นั่นเดาเอาเว้ย”
“หรออออ...” ฉันลากเสียงยาวไม่เชื่อใส่ใหญ่ก่อนจะมีเสียงกระแอมไอของใครบางคนเรียกความสนใจจากเรา
“อะแฮ่ม ถ้าคุยงานเสร็จแล้วฉันขอกลับนะ”
“เออ”
“อ้อ พอดีมีของจะให้น้อง...” เขาชี้นิ้วมาทางฉันก็เลยต้องตอบไปตามมารยาท ไม่ได้แอบหวังอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ(จริงจริ๊ง)
“ปั้นยิ้มค่ะ”
“ครับน้องปั้นยิ้ม^^ พอดีเห็นเป็นแฟนคลับจากปั้นจั่นบอกก็เลยคิดว่าการให้ของที่ระลึกสักอย่างคงจะดี ตามมาสิครับ”
“อ๊ะ”
ถึงเนื้อถึงตัวจังเลยแต่ก็แอบใจเต้นเล็กๆ แฮะที่ถูกจับมือให้เดินไปด้วยกันอย่างนี้ เอ...จะแอบหวังได้มั้ยนะเนี่ย แหะๆ ^.,^
“นี่ครับรูปถ่ายพร้อมลายเซ็น แล้วก็...”
หมับ!
แชะ!
“แลกกันนะครับ” ^_^
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นไวเกินกว่าจะอธิบายทัน เขาโอบกอดฉันแล้วถ่ายรูปคู่ของเราไว้ นั่นถือเป็นของแลกกับรูปโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นต์ของเขาที่ฉันได้มางั้นหรอ นี่มันหมายความว่าไงเนี่ยยยย...>/////<
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะ พี่มองแล้วอะ”
นิ้วชี้เรียวเล็งไปยังสีหน้าปานเคียดแค้นมาแรมชาติของคนที่ยืนพิงขอบประตูอยู่ไกลๆ ก่อนจะละจากฉันไปขึ้นรถสปอร์ตสีแดงสุดหรู
วืดดด~
บานกระจกรถเลื่อนลงคงจะบอกลาแต่ผิดคาดกับที่คิดเพราะเขาพูดขึ้นว่า
“อย่าเชื่อที่พี่พูดมากนะเพราะเล่นเอาผมเสียหายอยู่เหมือนกัน”
“เอ๋?”
บรื้นนนน...
ไม่ทันได้เข้าใจในบทความเขาก็ออกรถไปซะแล้ว เสียหายจากที่พี่พูดงั้นหรอ? เอ๊ะ...หรือว่าจริงๆ แล้วไม่มีแฟน เฮ้ย! แบบนี้ก็หวังได้อะดิ๊ กรี๊ดดดด...จะได้มีสิทธิควงซุป’ ตาร์ก็คราวนี้แหละน้ายัยปั้นยิ้ม >/////<
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ