Hello My Brother แอบปิ๊งสักนิดไม่ผิดมั้ง

8.5

เขียนโดย จูออน

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.08 น.

  10 chapter
  6 วิจารณ์
  12.13K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) คนใช้ (จำเป็น)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 3 คนใช้ (จำเป็น)
“ฮ้า~” ฉันบิดขี้เกียจเพื่อคลายกล้ามเนื้อเล็กน้อยก่อนที่จะพร้อมตื่นเต็มตัวขึ้นมาดูดวงอาทิตย์ยามเช้าอันสดใส แต่เหตุไฉนไยกล้ามเนื้อคอฉันมันถึงได้ปวดขนาดนี้
ตุบๆๆ
“คอเคล็ดหรอ” พี่(ที่ตอนนี้ไม่ค่อยอยากนับญาติสักเท่าไหร่)เดินเข้ามาใกล้เมื่อเห็นว่าฉันทุบช่วงคอตัวเองอยู่สักพัก
“คงงั้นมั้ง”
“หึ โง่เองนี่นาหมอนก็มีในห้องพี่ตั้งสองใบไม่ไปขอ”
“แล้วหนูจะรู้เรอะ!” ฮึ่มๆ ตื่นเช้ามาก็ยั๊วะอีกแล้ว อีพี่บ้านี่จะทำให้จิตใจฉันได้สงบสุขสักวันมั้ยนะ -*-
“เฮ้ย แล้วนี่อะไรเนี่ย” รู้สึกว่าเขาคงไม่ได้ฟังที่ฉันแย้งเลยสินะ แล้วนั่นอะไรน่ะ โห...OoO“ทำไมเธอทำบ้านพี่รกขนาดนี้เนี่ย ดูดิๆๆ เกลื่อนเลย” ว่าไม่พอยังใช้ตี...เอ่อเท้าเขี่ยอีกต่างหาก
“หนูไม่ได้ทำนะ”
“จะไม่ได้ทำได้ไงก็เธอนอนข้างล่างอยู่คนเดียว ไม่รู้ล่ะยังไงวันนี้ต้องเก็บกวาดให้เสร็จ”
“ไม่แฟร์อะ หนูเพิ่งตื่นแท้ๆ พี่นั่นแหละแกล้งหนู”
“แกล้งอะไรมีหลักฐานหรอ”
“ไม่”
“ก็นั่นแหละ ตามนั้นนะ” อีพี่บ้าว่าพลางขยิบตาให้ก่อนที่จะย้ายก้นน่าถีบนั่นเดินขึ้นชั้นสองไป
“กรี๊ดดดด...”
ฉันได้แต่กรีดร้องใส่เบาะโซฟาอย่างเหลืออดเพียงเท่านั้น คนอะไรขี้แกล้งชะมัด แล้วดูดิของอะไรระเกะระกะขนาดนี้เก็บเป็นชาติคงไม่เสร็จหรอก แต่ก็คงต้องทำTT^TTท่องไว้ ‘เพื่อรถ!!’ ไม่มีคำจำกัดความไหนสำคัญเท่าคำนี้อีกแล้ว ฮึ่มๆ เพื่อรถ!!!
เอาล่ะก่อนอื่นก็คงต้องรีบจัดการธุระส่วนตัวยามเช้าของตัวเองให้เสร็จๆ ไปจะได้รีบเก็บๆ ให้มันพ้นเวรพ้นกรรมกันซะที แต่ก่อนที่ฉันจะได้ออกเท้าเดินเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากในกระเป๋า
‘รับสายด้วยครับ...คนสวย รับสายด้วยครับ...คนสวย’ อ๊างงง...เสียงริงโทนโทรศัพท์ฉันดังขึ้นที’ไรเป็นต้องใจอ่อนยวบยาบทุกที ก็เจ้าของเสียงนั่นน่ะเป็นถึงดาราสุดฮอตในช่วงนี้อย่าง ‘เรนโบว์’ น่ะสิ อ๊างงง...
‘รับสายด้วยครับ...คนสวย รับสายด้วยครับ...คนสวย’ อะจ้าๆ ไม่ต้องเรียกมากหรอก คนสวยเขิน>////<
[ฮัลโหล ใครพูดคะ?]
[ฮัลโหล นั่นปั้นยิ้มหรอ?] เอ๋? เสียงคุ้นๆ แฮะ
[ค่า]
[นี่ฉันเองนะ] ฉันเอง? แล้วมันใครฟระ! -*-
[เอ่อ ไม่ทราบว่า ‘ฉันเอง’ มีธุระอะไรกับฉันหรอคะ]
[นี่จำกันไม่ได้หรอยัยปลาทอง! ฉันไง! ฉันน่ะ] หนอย พูดดีๆ ด้วยแท้ๆ ไม่เห็นจะต้องมาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแถมด่ากันขนาดนี้เลยนี่นา
[ก็แล้วที่บอกว่าฉันเองแต่ไม่บอกชื่อ ใครมันจะไปรู้ยะ!! โรคจิตหรือเปล่าเนี่ย กวนประสาทชะมัดยิ่งหงุดหงิดอยู่นะโว้ย!!!]
[โอ๊ยๆๆ ใจเย็นๆ ฉันน่ะ คาราเต้ไง]
[อ่อ คาราเต้ หา...] ฉันนิ่งคิดสักพักและจากการประมวลผลทางสมองแล้วไอ้บ้านั่นฉันไม่เคยให้เบอร์มันไปนี่นา [เอาเบอร์ฉันมาจากไหนน่ะ!?]
[ขอจากแม่เธอน่ะสิ เป็นไงไม่เจอกันนานเนอะ]
[นานกับผีน่ะสิวันเดียวเนี่ยนะไอ้บ้า] -O-
[เอาน่า ที่นู่นสนุกมั้ย แล้วเป็นไงบ้าง มีหนุ่มมาจีบบ้างรึเปล่า]
[เอ่อ บอกตรงๆ ฉันไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งนั้นโอเค้ ไว้กวนประสาททีหลังวันนี้ฉันงานเยอะ ลาก่อน] ปิ๊บ!
“ฮู่ว~ รอดพ้น” ที่ถามมันคงจะไม่อะไรมากหรอก สงสัยคิดจะกวนประสาทกันให้ได้ล่ะสิท่า แต่เสียใจด้วยนะยะที่นี่ไม่ใช่ที่นู่นแค่ตัดสายโทรศัพท์ไปก็สิ้นเรื่องสิ้นราวแล้ว...
‘รับสายด้วยครับ...คนสวย รับสายด้วยครับ...คนสวย’ อ๊ะ เสียงโทรศัพท์เข้าอีกแล้ว -*-
ติ๊ด! ทีนี้ฉันไม่กดตัดสายเปล่าแต่ตั้งปฏิเสธสายมันไปเลย วะฮ่ะๆๆ ฉลาดใช่มั้ยล่ะ^O^ (เอิ่ม อันนี้รู้ๆ กันอยู่แล้วทั่วบ้านทั่วเมืองไม่ใช่เรอะ)
 
เอาล่ะ ได้กฤษ์ทำความสะอาดสักที ฮึบ! ฉันตั้งท่าอย่างมั่นคงถกแขนเสื้อขึ้นอย่างมั่นใจ จากนั้นก็เริ่มลุยทันที
ไม่ว่าจะเป็นของกระจุกกระจิกอะไรก็เกลื่อนเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ที่แน่ๆ พี่คงแกล้งฉันนั่นแหละ แต่แกล้งแรงชะมัดเลยอะเล่นเกลื่อนทั้งบ้านอย่างกับเด็กก็ไม่ปาน
“วันนี้ลูกพ่อหิวมั้ย จะกินน้ำอะไรดี” พูดถึงปุ๊บก็ลงมาปั๊บ ตายยากจริงอะไรจริง (-.-)+
ในแวบแรกฉันมองขึ้นไปแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ แต่สิ่งเล็กๆ ในมือของพี่ก็เล่นเอาสายตาฉันต้องเงยมองมันเต็มๆ อีกครั้ง นั่นมัน...‘ตุ๊กตาเด็ก’ นี่นา ที่เรียกว่า ‘กุมาร’ หรือเปล่านะ?
“ฮะ น้ำแดงหรอ อืมๆ เดี๋ยวออกไปซื้อให้แล้วกันนะ” ประสาทไปแล้วแน่ๆ คุยกับกุมาร ชักจะรู้สึกขนลุกพิกล “เฮ้ ปั้นยิ้มฝากลูกชายฉันด้วยนะ”
“ฮะ?”
ยังไม่ทันให้ฉันได้เตรียมใจรับอะไรไอ้พี่ชายบ้านี่ก็เอากุมารนั่นมาวางไว้ในกล่องกระดาษซึ่งอยู่ในครัวก่อนที่จะรีบเดินออกไปเพื่อซื้ออะไรตามที่คุยกันเมื่อครู่
“ดะ...เดี๋ยวเซ่ อย่าปล่อยฉันไว้...คนเดียว~”
จากที่รู้สึกว่าปกติมันกลับไม่ปกติขึ้นมาซะแล้ว ทั้งของที่รกเกลื่อนกลาดเมื่อคืน แถมยังคุยกันได้แบบนั้น มันยิ่งทำให้ฉันคิดว่าฝีมือทั้งหมดนี่เป็นของ ‘ลูกชาย’ เขา
“นะโม นะโม สังโฆ~ อย่าทำอะไรหนูเลยน้า” ฉันพยายามกลั้นใจเก็บกวาดต่อไปแต่สิ่งหนึ่งก็เกิดขึ้นเมื่อฉันเหลือบมองไปทางนั้นเพียงแวบ
ขลุก ขลัก ขลุก ขลัก
อ๊า... กุมารที่อยู่ในลังดิ้นได้ด้วยง่า>.<
ฉันเริ่มหาทางเลี่ยง แต่ก็รู้สึกได้ว่าลังนั่นเริ่มคลืบคลานเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ เรื่อยๆ ราวกับรู้ทัน!!
“นะ...นี่ อย่าทำฉันกลัวสิ ขอร้องล่ะ”
กึก! แล้วลังนั่นก็หยุดลงก่อนที่จะปรากฏร่างทึมๆ กระโจนเข้าใส่ฉันเต็มแรง!!
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!” (เสียงดังไปถึงสามบ้านแปดบ้าน)
“เฮ้ยๆ อะไรกัน อ้าว?”
เสียงของไอ้พี่บ้ามาสักทีแต่ฉันก็ยังไม่กล้าลืมตาอยู่ดีเพราะสิ่งที่อยู่บนอกมันเหมือนกำลังจ้องมองฉันอยู่>O<
“ฟูฟี่มานี่มา กินน้ำแดงเร็ว”
“เมี๊ยว~” สิ้นเสียงนั้นความรู้สึกกลัวของฉันก็ค่อยมลายหายไปจนกล้ากลั้นใจลืมตาขึ้นมาดู
“แมว” ?O?
“จะกรี๊ดทำไม ฟูฟี่มันแค่อยากเล่นด้วยเท่านั้นเอง”
“จะไม่ให้กรี๊ดได้ไง ก็พี่เล่นคุยกับกุมารก่อนลงมาแถมถามเรื่องอยากกินอะไรด้วย เป็นใครเขาก็คิดดิ” -O-
“กุมาร? อ๋อ ของเล่นฟูฟี่นี่น่ะนะ” ว่าพลางหยิบมันขึ้นมาชูให้ฉันดูใกล้ๆ อีกครั้งชัดๆ
จริงๆ แล้ว มันเป็นแค่ตุ๊กตาผ้ายืดนุ่มนิ่มหน้าตาก็ไม่ใช่กุมารอะไรอย่างที่คิดเพียงแค่มองไกลๆ เหมือนชะมัดเท่านั้นเอง
“ละ...แล้วทำไมคุยกันแบบนั้นล่ะ”
“เอ๋? คุยอะไร ตอนลงมาพี่ตะโกนคุยกับฟูฟี่ต่างหาก คงไม่ได้ยินเสียงมันร้องตอบล่ะสิ เอาล่ะๆ รีบเก็บกวาดบ้านให้เสร็จเถอะอย่าให้พี่ต้องโมโหไปมากกว่านี้” -*-
“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...นี่มันก็คงเป็นฝีมือฟูฟี่ของพี่อะดิ! งั้นหนูไม่ทำต่อหรอก หลักฐานที่ว่ามันคือแมวนั่นแหละที่ยืนยันได้”
“เฮ้” ฉันรีบเดินหนีโดยเร็วแต่ไม่ทันได้พ้นขีดอันตรายพี่ก็ยื่นคำขาดขึ้น “ถ้าเธอไม่เชื่อฟังที่พี่บอกพี่จะส่งเธอกลับเดี๋ยวนี้เลย” เฮ้ย! พูดงั้นก็อดได้รถอะดิ
“ไม่นะๆ อย่าเพิ่งส่งฉันกลับ” T^T
“อืม ถ้างั้นก็ทำให้เสร็จ อ้อ...เอาแบบนี้ดีกว่า เธออยู่นี่มีหน้าที่ดูแลบ้าน ปัดกวาด ดูแลฟูฟี่ ทุกวันจะได้ไม่ว่างจนฟุ้งซ่านเกินไป โอเคนะ” เล่นยื่นคำขาดมาแบบนั้นถ้าไม่ตอบรับแต่โดยดีคงไม่ได้สินะ
“ค่า(โคตรมีความทุกข์อีกครั้ง)”
สรุปคือ...ปิดเทอมหน้าร้อนครั้งนี้ของฉันปิดมาเพื่อเป็นคนใช้ของพี่ใช่มั้ย!! +.+
แต่จะว่าอะไรได้ ฉันจึงต้องก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไปเรื่อยๆ เมื่อเคลียร์ชั้นล่างเสร็จก็ยังมีชั้นบนต่อ โชคดีที่บ้านหลังนี้มีแค่สองชั้น นี่ถ้าเกิดมีถึง 80 ชั้น ฉันได้ตายก่อนวัยอันควรกันพอดี
“ปั้นยิ้ม ในห้องพี่ด้วยนะ”
“จ้า” -.-
หลังจากเคลียร์ทางเดินอย่างยากลำบากและผ่านมาได้ ฉันก็ต้องมาเผชิญกับห้องพี่ และขอบอกว่ามันรกมากกก!!!
“นี่พี่ทำอะไรเนี่ย ทำไมรกขนาดนี้อะ”
“ไม่รู้สิก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
“แล้วพี่ไม่คิดจะช่วยหนูบ้างหรอ เดี๋ยวห้องนอนของหนูเองก็ต้องไปจัดอีกนะ” ฉันหันไปหาพี่ทั้งที่เหงื่อหยดติ๋งเป็นสาย ;-O-;
“ฮ่ะๆๆ หน้าตาตลกชะมัด โฮะๆๆ” เอิ่ม-.- ฟังฉันพูดอยู่มั้ยเนี่ย?
“พี่!!”
“เออๆ เดี๋ยวพี่เก็บห้องตัวเองก็ได้ส่วนเธอไปจัดห้องนอนก่อนเถอะ หึๆ”
ชิส์! ยังมีหน้ามาขำคนอื่นเขาอีก ลำบากอยู่แท้ๆ นะเว้ย!!
...ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...
ฉันกำลังอยู่ในท่ากางแขนและขาสุดตัว หลังตั้งตรงสง่า เกร็งคอและค่อยๆ ดันไปด้านหลัง...นี่ไม่ใช่ท่าออกกำลังกายอะไรหรอกนะเพียงแต่ว่าเจ้าฟูกใหญ่ยักษ์นี่มันกำลังจะล้มมาทับฉันตายอยู่แล้ววว >_<
“พะ...พี่~” น้ำเสียงเบาหวิวราวกับสายลมอ่อนๆ เพราะคอที่เกร็งอยู่ไม่สามารถจะปล่อยให้เสียงเดินทางออกมาจากลำคอได้ทั้งหมด
โอ๊ย! จะไม่ไหวอยู่แล้วน้า รีบมาหน่อยเซ่!!
“พี่!~” ฉันพยายามกลั้นใจเรียกอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล
เหงื่อค่อยๆ ไหลรินจนชุ่มไปทั้งตัว สายตาที่ดูสดใสในตอนนี้กลับขุ่นมัวเพราะเหงื่อที่ไหลลงมาใส่จนทำให้การมองเห็นเริ่มพล่าเบลอ รู้สึกแสบและทรมานจนต้องหลับตาลงแล้วเกร็งกล้ามเนื้ออยู่แบบนั้น รอ...รอจนกว่าพี่จะมาเรื่อยๆ รอ...รอจนเริ่มอ่อนแรง ขาทั้งสองข้างเริ่มสั่นไหว ตัวค่อยๆ เอนไปข้างหน้าเรื่อยๆ เรื่อยๆ จน...
เผละ! ตายปานเขียดโดนรถทับอย่างสมบูรณ์แบบ (-_-)+
“เฮ้ย ปั้นยิ้ม!”
และนั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินก่อนที่โสตประสาทจะไม่รับรู้อะไรใดๆ อีกเลย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา