In Wonderland ช่วยผมที ที่นี่มันบ้า!!!
8.7
เขียนโดย MysticBlue
วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.17 น.
11 chapter
84 วิจารณ์
15.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) พระเจ้าเข้าข้าง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 7
พระเจ้าเข้าข้าง
"โอยยยย.....คนหล่อมีหวังกลายร่างเป็นแพนด้าตาดำไม่ช้านี่แหละ" ผมโอดครวญออกมาด้วยความเมื่อยล้าของตา มันไม่ใช่เพราะผมตื่นเต้นที่จะได้ออกจากคุกหรือเหตุผลบ้าๆ ใดก็ตามที่ทำให้เสียโฉม แต่มันเกิดมาจากเหตุผลที่ควรค่าแกการยอมตาดำคล้ำ!!
เมื่อวานแดอึนอธิบายซะยืดยาวเกี่ยวกับศัตรูตัวเป่งๆ อีกสามคนกับแผนผังปราสาท เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งดูถูกจอมโจรสุดหล่ออย่างมาร์ส ดาเลย์นะ เรื่องแผนผังปราสาทนั้นผมจำได้แม่นไม่มีตกขาดตามแบบฉบับโจร แต่เรื่องบุคลิกของศัตรูนี่สิน่าปวดตับ ผมแทบจะจับความคิดของพวกเขาไม่ทันเพราะพวกเขาทำในสิ่งที่ไม่น่าจะทำออกมาเสมอ
อย่างไคเซอร์หรือควีนของคุกนี้ คนหล่อว่าเขาเป็นคนหลายบุคลิกนะ พออยู่กับคนนี้เดี๋ยวก็เปลี่ยนอารมณ์ไปมานู่นนี่นั่น ส่วนยัยผมบลอนด์นั่นก็พล่ามแต่เรื่องที่ตัวเองเป็นนางไซคีถูกกลั่นแกล้ง แต่ดันเอาตำนานทั่วโลกมาผสมเสียมั่ว เฮ้อ....เพลีย
"มาร์ส ดาเลย์ เรามีข่าวดีสำหรับนาย" แดอึนแงมประตูห้องเล็กๆ ที่เขาให้ผมอยู่ชั่วคราวในฐานลับของเขา น่าแปลกใจที่คราวนี้แดอึนลงทุนเดินออกมาจากห้องของเขามาหาผม เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนขี้เกียจ ถ้าไม่ด่วนก็จะฝากคนอื่นมาบอกแทน
"อะไร?" คนหล่อตอบกลับโดยไม่หันไปมองหน้า ทำไงได้อ่ะ!! ตาคล้ำอยู่ ให้คนอื่นเห็นก็ไม่ดีน่ะสิ ความหล่อหายหมดมาร์ส ดาเลย์
"จำศัตรูสามคนสุดท้ายได้ใช่ไหม? "
"อืม" คนหล่อพยักหน้า
"สองในสามตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกี้อัลฟาเพิ่งติดต่อมาระหว่างที่เขาออกไปสังเกตการณ์ด้านบน คนที่ยังไม่ตายก็คือผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้น"
"หา?!" ผมหันหน้าไปมองแดอึนด้วยความตื่นตะลึง แฮ็กเกอร์หนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงย้ำว่าจริง
"แปลว่าคนหล่อมีอัตราเสี่ยงตายน้อยลงใช่?"
"ใช่"
โอยยยยย ฟินนาเล่ ไม่มีอะไรรู้สึกดีเท่าการที่จำนวนศัตรูตัวฉกาจหายไปฟรีๆ แล้ว ตาย!! ลืมไปเลยว่าตัวเองตาคล้ำ ตายและๆๆๆ เอามือมาปิดตาตัวเองก่อนก็แล้วกัน
"เดี๋ยวนายไปหาฉันที่ห้องนะ จะได้คุยเรื่องแผนให้จบๆ กันสักที" ถ้าให้ผมเดานะ แดอึนคงทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยที่จู่ๆ ผมก็เอามือมาปิดหน้า แต่เขาคงไม่สนใจอะไรมากหรอก.......เนาะ!
"อ่าหะ เดี๋ยวไป" คนหล่อลุกลี้ลุกลนตอบ ก่อนที่เสียงประตูจะปิดลง
โอเค....ตอนนี้เหลือศัตรูตัวเป่งๆ แค่...สี่คน? ถ้าไม่นับทหารแถวหลังนู่นนี่นั่น คนแถวหน้าๆ ก็มีแค่นี้ (เพราะที่เหลือตายไปแล้ว) เหลือแต่ผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้นน่ะเหรอ...อืม.....เธอติดลิสเดาใจยากนะ แม่นางนี้มีนามว่านินากาว่า ไม แม่นางมีพลังช้างสารหาชายออกสามศอกเปรียบได้ไม่ แถมแม่นางยังเมาระเนระนาดทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย
เมื่อคิดจบ คนหล่อก็เริ่มกวาดตามองไปรอบๆ ห้องที่นั่งอยู่ มันเป็นแค่ห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง มีกลิ่นอับชื้นๆ และของที่เด่นสง่าอยู่มุมห้องคือหนึ่งในโน้ตบุ๊คของแดอึนที่เขาเอามาให้ดูคลิปพฤติกรรมของฝ่ายศัตรูให้ผมดูเพื่อเลียนแบบ ก็ไม่ถือว่าห้องรกนะ ไม่ต้องเก็บกวาดหรอก ยังไงๆ คนหล่อก็จะได้แหกคุกในเร็ววันอยู่แล้ว
คนหล่อลุกขึ้นยืนเพื่อไปหาแฮ็กเกอร์ แต่ผมก็ต้องสะดุดตากับสิ่งหนึ่ง....เสื้อของผมเอง
"ตายและ เสื้อนักเรียนขาววิ้งทำไมมันกลายเป็นสีลูกหมาตกบ่อโคลนแล้วล่ะ?!" โอเค คนหล่อระลึกได้แล้วว่าตลอดที่ผ่านมาคนหล่อได้ประสบพบเจอกับอะไรบ้าง เดี๋ยวก็ดิน เดี๋ยวก็ไฟ เดี๋ยวก็เลือด ชุดนักเรียนอันแสนวิ่งของมาร์ส ดาเลย์ถึงจะดำ.....แต่ไม่ทำให้คนใส่หล่อน้อยลงนะ!!!
ว่าแล้วผมจึงบิดลูกบิดประตูเพื่อไปหาแดอึน นอกห้องมีกลิ่นอับชื้นเหมือนกับในห้องไม่มีต่างให้ตายสิ อยากออกไปสูดอากาศข้างนอกชะมัด แต่คิดอีกทีคงไม่ ข้างบนมันอันตราย ไม่ดีๆ เดี๋ยวตายก่อนแหกคุกมันจะไม่หล่อ
เดินไปตามทางแคบๆ สักพัก เลี้ยวลดไปมาเดี๋ยวก็ถึงที่หมาย แต่มันมีอะไรรั้งคนหล่อไว้ไม่ให้เดินต่อล่ะเนี่ย!!
"อ๊าาาาาา!!!!!!! อือๆๆๆ มือๆๆๆ อีมือบ้า!!!" ผมรีบสลัดตัวออกจากมือที่ลอยเคว้งคว้างบนอากาศ ก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะขึ้น
"ฮ่ะๆๆๆ แค่หยอกเล่นน่า" ในไม่นาน ความว่างเปล่าเบื้องหน้าก็กลายเป็นชายหนุ่มผมเขียวพร้อมรอยยิ้มไม่น่าปลอดภัย อันโนยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่คนหล่อขอไม่เป็นมิตรได้ป่ะ?
"ยิ้มสิยิ้ม! ตอนนี้พระเจ้าเข้าข้างฝ่ายเราอยู่นะ" ชายเบื้องหน้ายื่นมือมายกริมฝีปากของคนหล่อขึ้นเป็นรอยยิ้ม
"อมอ้องไออาแออึน" คนหล่อพยายามพูดให้เป็นภาษาคนในขณะที่ปากขยับมากไม่ได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจและปล่อยตัวผมออกไปง่ายกว่าครั้งแรกที่เจอกัน
"โอเคๆ แคทนิส ผมยอมให้คุณไปปรึกษาเรื่องการแหกคุกแล้วล่ะ" ผมเลิกคิ้วสูงที่จู่ๆ อันโนเล่นเปรียบผมกับหนังดังในสมัยก่อนนานมาแล้ว แต่ถึงจะแปลกใจยังไงคนหล่อก็ต้องเดินไปหาแดอึน ว่าแล้วก็เดินต่อดีกว่า
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าของชายผมเขียวเดินตามคนหล่อมา ทำให้คนหล่อได้โอกาศเอ่ยถามไป
"ผมนึกว่าสมัยนี้มีแต่ผมคนเดียวที่บ้าดูหนังเก่าโบราณนะ"
"ผมก็แค่ได้รับแผ่นหนังเก่าๆ ที่ตาลุงคนหนึ่งไม่อยากดูแล้วมาดูต่อเท่านั้นเอง" อันโนพูดเสียงระรื่น ดูท่าคงไม่ใช่แค่หนังที่บังเอิญเปิดเจอแล้วล่ะ นี่คงเป็นหนังเรื่องโปรดของเขาทีเดียว คนหล่อคิดนะ
คนหล่อก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น...พวกเราสองคนเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการสอดแนมเอย วิเคราะห์เอย มากมายสารพัดเท่าที่แฮ็กเกอร์คนหนึ่งต้องการ ผมยกย่องเขาทีเดียวที่อุตส่าห์หาของพวกนี้มาใช้ได้
"มาพูดเรื่องแหกคุกต่อกันเถอะ!!" ผมเดินเข้าไปตามด้วยอันโนที่เข้ามาและนั่งบนโซฟาหลังห้องอย่างสงบเสงียมต่างกับตอนแรก
"โอเค นายจำแผนผังได้แล้วใช่ไหม?"
"อืม"
"ดี อย่างที่รู้กันก็คือเราต้องการคำตอบจากไพเธียว่าคำใบ้ของหลิ่งจีนั้นหมายความว่าอะไร ถึงจะดูเหมือนว่าผลที่เราได้รับกลับมามันไม่คุ้มกับการไปเสี่ยงตายที่ปราสาท แต่..อย่างที่รู้ๆ กันคือเราเหลือเบาะแสนี้แค่สิ่งเดียวถึงแม้มันอาจจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม" แดอึนเริ่มร่ายยาวอีกรอบ
"วันลงมือของพวกเราคือในอีกสองวันข้างหน้า ที่ข้างบนนั้นจะจัดงานฉลองที่ควีนได้ขึ้นบัลลังค์ ซึ่งจะมีการแข่งขันทรมานนานาสารพัด แน่นอนว่าควีนจะอยู่ในงานตลอด แต่จากที่สังเกตแล้วไพเธียไม่เคยออกนอกเขตวัง ดังนั้นหน้าที่ของนายคือการปลอมตัวเป็นควีนและเข้าไปถามไพเธียเรื่องคำใบ้ ข้อแก้ตัวของนายก็คือ 'เบื่อ' กับงานฉลอง อะไรก็ว่าไป ยังไงซะควีนก็ขี้เบื่ออยู่แล้ว"
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่แฮ็กเกอร์หนุ่มพูด หนึ่งในบุคลิกที่ผมจับสังเกตได้เนื่องๆ คือนิสัยขี้เบื่อของควีน ข้อแก้ตัวหนีออกจากงานค่อนข้างสมเหตุสมผลดี หวังว่าผมคงไม่ตายเพราะถูกจับได้ว่าไม่ใช่ตัวจริงหรอกนะ
"ฮู้วว!!!! พระเจ้าเข้าข้างเราาาาาาาา" เสียงดังลากยาวดังมาแต่ไกล เดาได้ไม่อยากเลยคือเจ้าหัวขาวคนนั้น ไม่นานนักอัลฟาก็โผล่เข้ามาในห้องพลางฮัมเพลงอย่างสุขใจ
"อ้าว?! ไม่ดีใจกันรึไง ศัตรูตายไปตั้งสองคนเพราะฟ้าผ่าตาย?" ชายหนุ่มผมเงินเลิกคิ้วสูงเมื่อพบกับปฎิกิริยาไม่ดูตื่นเต้นของพวกผม
"ขอดูคลิปตอนพวกมันตายหน่อย" แดอึนถามเสียงเนือย
"เอาไปและดูให้สะใจเลยพวก!" อัลฟาโยนบางสิ่งที่ไม่เหมือนกับอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่คุ้นตาเลยให้กับแฮ็กเกอร์สุดเฉื่อย ดูท่าวันนี้เขาจะอารมณ์ดีนะเนี่ย
ตูม!! ตูม!! ตูม!!
เสียงฟ้าผ่าดังตั้งแต่แรกเริ่ม แต่....
"บนจอภาพฟ้ามันก็โปร่งนิ ไหงมีฟ้าผ่าได้ล่ะ" คนหล่อขมวดคิ้วงงงวย
"นี่เรียกว่า 'ฝนอัสนี' ฟ้าจะผ่าลงมายังกับฝนห่าใหญ่โดยไม่มีสาเหตุ" อันโนที่นั่งเงียบอยู่เนิ่นนานพูดอธิบายให้ นั้นสิ! คนหล่อลืมไปได้ยังไงว่าที่นี่มันพิลึกกึกกือขนาดไหน
"ฮ่ะๆๆๆ เห็นไหมๆ พระเจ้าเข้าข้างเราโดยแท้ แม่ทัพมากฝีมือของกองกำลังตายเพราะฟ้าผ่าห่าใหญ่ ฮ่าๆๆๆ"
ผมมองดูร่างที่สิ้นลมแล้วแต่ยังมิวายถูกสายฟ้าโจมตีซ้ำไปมา สองศพที่ตายผมรู้ดีว่าพวกเขาเก่งขนาดไหนจากการประมือที่ผ่านมาจากคลิป แต่มันมาตายง่ายเพราะสายฟ้าห่าใหญ่เนี่ยนะ?! หรือพระเจ้าจะเชียร์ให้เราแหกคุกหนอ? แต่ว่าพระเจ้านั่นคือผู้คุมตัวจริงนี่นา.....
พระเจ้าเข้าข้าง
"โอยยยย.....คนหล่อมีหวังกลายร่างเป็นแพนด้าตาดำไม่ช้านี่แหละ" ผมโอดครวญออกมาด้วยความเมื่อยล้าของตา มันไม่ใช่เพราะผมตื่นเต้นที่จะได้ออกจากคุกหรือเหตุผลบ้าๆ ใดก็ตามที่ทำให้เสียโฉม แต่มันเกิดมาจากเหตุผลที่ควรค่าแกการยอมตาดำคล้ำ!!
เมื่อวานแดอึนอธิบายซะยืดยาวเกี่ยวกับศัตรูตัวเป่งๆ อีกสามคนกับแผนผังปราสาท เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งดูถูกจอมโจรสุดหล่ออย่างมาร์ส ดาเลย์นะ เรื่องแผนผังปราสาทนั้นผมจำได้แม่นไม่มีตกขาดตามแบบฉบับโจร แต่เรื่องบุคลิกของศัตรูนี่สิน่าปวดตับ ผมแทบจะจับความคิดของพวกเขาไม่ทันเพราะพวกเขาทำในสิ่งที่ไม่น่าจะทำออกมาเสมอ
อย่างไคเซอร์หรือควีนของคุกนี้ คนหล่อว่าเขาเป็นคนหลายบุคลิกนะ พออยู่กับคนนี้เดี๋ยวก็เปลี่ยนอารมณ์ไปมานู่นนี่นั่น ส่วนยัยผมบลอนด์นั่นก็พล่ามแต่เรื่องที่ตัวเองเป็นนางไซคีถูกกลั่นแกล้ง แต่ดันเอาตำนานทั่วโลกมาผสมเสียมั่ว เฮ้อ....เพลีย
"มาร์ส ดาเลย์ เรามีข่าวดีสำหรับนาย" แดอึนแงมประตูห้องเล็กๆ ที่เขาให้ผมอยู่ชั่วคราวในฐานลับของเขา น่าแปลกใจที่คราวนี้แดอึนลงทุนเดินออกมาจากห้องของเขามาหาผม เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนขี้เกียจ ถ้าไม่ด่วนก็จะฝากคนอื่นมาบอกแทน
"อะไร?" คนหล่อตอบกลับโดยไม่หันไปมองหน้า ทำไงได้อ่ะ!! ตาคล้ำอยู่ ให้คนอื่นเห็นก็ไม่ดีน่ะสิ ความหล่อหายหมดมาร์ส ดาเลย์
"จำศัตรูสามคนสุดท้ายได้ใช่ไหม? "
"อืม" คนหล่อพยักหน้า
"สองในสามตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกี้อัลฟาเพิ่งติดต่อมาระหว่างที่เขาออกไปสังเกตการณ์ด้านบน คนที่ยังไม่ตายก็คือผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้น"
"หา?!" ผมหันหน้าไปมองแดอึนด้วยความตื่นตะลึง แฮ็กเกอร์หนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงย้ำว่าจริง
"แปลว่าคนหล่อมีอัตราเสี่ยงตายน้อยลงใช่?"
"ใช่"
โอยยยยย ฟินนาเล่ ไม่มีอะไรรู้สึกดีเท่าการที่จำนวนศัตรูตัวฉกาจหายไปฟรีๆ แล้ว ตาย!! ลืมไปเลยว่าตัวเองตาคล้ำ ตายและๆๆๆ เอามือมาปิดตาตัวเองก่อนก็แล้วกัน
"เดี๋ยวนายไปหาฉันที่ห้องนะ จะได้คุยเรื่องแผนให้จบๆ กันสักที" ถ้าให้ผมเดานะ แดอึนคงทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยที่จู่ๆ ผมก็เอามือมาปิดหน้า แต่เขาคงไม่สนใจอะไรมากหรอก.......เนาะ!
"อ่าหะ เดี๋ยวไป" คนหล่อลุกลี้ลุกลนตอบ ก่อนที่เสียงประตูจะปิดลง
โอเค....ตอนนี้เหลือศัตรูตัวเป่งๆ แค่...สี่คน? ถ้าไม่นับทหารแถวหลังนู่นนี่นั่น คนแถวหน้าๆ ก็มีแค่นี้ (เพราะที่เหลือตายไปแล้ว) เหลือแต่ผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้นน่ะเหรอ...อืม.....เธอติดลิสเดาใจยากนะ แม่นางนี้มีนามว่านินากาว่า ไม แม่นางมีพลังช้างสารหาชายออกสามศอกเปรียบได้ไม่ แถมแม่นางยังเมาระเนระนาดทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย
เมื่อคิดจบ คนหล่อก็เริ่มกวาดตามองไปรอบๆ ห้องที่นั่งอยู่ มันเป็นแค่ห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง มีกลิ่นอับชื้นๆ และของที่เด่นสง่าอยู่มุมห้องคือหนึ่งในโน้ตบุ๊คของแดอึนที่เขาเอามาให้ดูคลิปพฤติกรรมของฝ่ายศัตรูให้ผมดูเพื่อเลียนแบบ ก็ไม่ถือว่าห้องรกนะ ไม่ต้องเก็บกวาดหรอก ยังไงๆ คนหล่อก็จะได้แหกคุกในเร็ววันอยู่แล้ว
คนหล่อลุกขึ้นยืนเพื่อไปหาแฮ็กเกอร์ แต่ผมก็ต้องสะดุดตากับสิ่งหนึ่ง....เสื้อของผมเอง
"ตายและ เสื้อนักเรียนขาววิ้งทำไมมันกลายเป็นสีลูกหมาตกบ่อโคลนแล้วล่ะ?!" โอเค คนหล่อระลึกได้แล้วว่าตลอดที่ผ่านมาคนหล่อได้ประสบพบเจอกับอะไรบ้าง เดี๋ยวก็ดิน เดี๋ยวก็ไฟ เดี๋ยวก็เลือด ชุดนักเรียนอันแสนวิ่งของมาร์ส ดาเลย์ถึงจะดำ.....แต่ไม่ทำให้คนใส่หล่อน้อยลงนะ!!!
ว่าแล้วผมจึงบิดลูกบิดประตูเพื่อไปหาแดอึน นอกห้องมีกลิ่นอับชื้นเหมือนกับในห้องไม่มีต่างให้ตายสิ อยากออกไปสูดอากาศข้างนอกชะมัด แต่คิดอีกทีคงไม่ ข้างบนมันอันตราย ไม่ดีๆ เดี๋ยวตายก่อนแหกคุกมันจะไม่หล่อ
เดินไปตามทางแคบๆ สักพัก เลี้ยวลดไปมาเดี๋ยวก็ถึงที่หมาย แต่มันมีอะไรรั้งคนหล่อไว้ไม่ให้เดินต่อล่ะเนี่ย!!
"อ๊าาาาาา!!!!!!! อือๆๆๆ มือๆๆๆ อีมือบ้า!!!" ผมรีบสลัดตัวออกจากมือที่ลอยเคว้งคว้างบนอากาศ ก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะขึ้น
"ฮ่ะๆๆๆ แค่หยอกเล่นน่า" ในไม่นาน ความว่างเปล่าเบื้องหน้าก็กลายเป็นชายหนุ่มผมเขียวพร้อมรอยยิ้มไม่น่าปลอดภัย อันโนยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่คนหล่อขอไม่เป็นมิตรได้ป่ะ?
"ยิ้มสิยิ้ม! ตอนนี้พระเจ้าเข้าข้างฝ่ายเราอยู่นะ" ชายเบื้องหน้ายื่นมือมายกริมฝีปากของคนหล่อขึ้นเป็นรอยยิ้ม
"อมอ้องไออาแออึน" คนหล่อพยายามพูดให้เป็นภาษาคนในขณะที่ปากขยับมากไม่ได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจและปล่อยตัวผมออกไปง่ายกว่าครั้งแรกที่เจอกัน
"โอเคๆ แคทนิส ผมยอมให้คุณไปปรึกษาเรื่องการแหกคุกแล้วล่ะ" ผมเลิกคิ้วสูงที่จู่ๆ อันโนเล่นเปรียบผมกับหนังดังในสมัยก่อนนานมาแล้ว แต่ถึงจะแปลกใจยังไงคนหล่อก็ต้องเดินไปหาแดอึน ว่าแล้วก็เดินต่อดีกว่า
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าของชายผมเขียวเดินตามคนหล่อมา ทำให้คนหล่อได้โอกาศเอ่ยถามไป
"ผมนึกว่าสมัยนี้มีแต่ผมคนเดียวที่บ้าดูหนังเก่าโบราณนะ"
"ผมก็แค่ได้รับแผ่นหนังเก่าๆ ที่ตาลุงคนหนึ่งไม่อยากดูแล้วมาดูต่อเท่านั้นเอง" อันโนพูดเสียงระรื่น ดูท่าคงไม่ใช่แค่หนังที่บังเอิญเปิดเจอแล้วล่ะ นี่คงเป็นหนังเรื่องโปรดของเขาทีเดียว คนหล่อคิดนะ
คนหล่อก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น...พวกเราสองคนเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการสอดแนมเอย วิเคราะห์เอย มากมายสารพัดเท่าที่แฮ็กเกอร์คนหนึ่งต้องการ ผมยกย่องเขาทีเดียวที่อุตส่าห์หาของพวกนี้มาใช้ได้
"มาพูดเรื่องแหกคุกต่อกันเถอะ!!" ผมเดินเข้าไปตามด้วยอันโนที่เข้ามาและนั่งบนโซฟาหลังห้องอย่างสงบเสงียมต่างกับตอนแรก
"โอเค นายจำแผนผังได้แล้วใช่ไหม?"
"อืม"
"ดี อย่างที่รู้กันก็คือเราต้องการคำตอบจากไพเธียว่าคำใบ้ของหลิ่งจีนั้นหมายความว่าอะไร ถึงจะดูเหมือนว่าผลที่เราได้รับกลับมามันไม่คุ้มกับการไปเสี่ยงตายที่ปราสาท แต่..อย่างที่รู้ๆ กันคือเราเหลือเบาะแสนี้แค่สิ่งเดียวถึงแม้มันอาจจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม" แดอึนเริ่มร่ายยาวอีกรอบ
"วันลงมือของพวกเราคือในอีกสองวันข้างหน้า ที่ข้างบนนั้นจะจัดงานฉลองที่ควีนได้ขึ้นบัลลังค์ ซึ่งจะมีการแข่งขันทรมานนานาสารพัด แน่นอนว่าควีนจะอยู่ในงานตลอด แต่จากที่สังเกตแล้วไพเธียไม่เคยออกนอกเขตวัง ดังนั้นหน้าที่ของนายคือการปลอมตัวเป็นควีนและเข้าไปถามไพเธียเรื่องคำใบ้ ข้อแก้ตัวของนายก็คือ 'เบื่อ' กับงานฉลอง อะไรก็ว่าไป ยังไงซะควีนก็ขี้เบื่ออยู่แล้ว"
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่แฮ็กเกอร์หนุ่มพูด หนึ่งในบุคลิกที่ผมจับสังเกตได้เนื่องๆ คือนิสัยขี้เบื่อของควีน ข้อแก้ตัวหนีออกจากงานค่อนข้างสมเหตุสมผลดี หวังว่าผมคงไม่ตายเพราะถูกจับได้ว่าไม่ใช่ตัวจริงหรอกนะ
"ฮู้วว!!!! พระเจ้าเข้าข้างเราาาาาาาา" เสียงดังลากยาวดังมาแต่ไกล เดาได้ไม่อยากเลยคือเจ้าหัวขาวคนนั้น ไม่นานนักอัลฟาก็โผล่เข้ามาในห้องพลางฮัมเพลงอย่างสุขใจ
"อ้าว?! ไม่ดีใจกันรึไง ศัตรูตายไปตั้งสองคนเพราะฟ้าผ่าตาย?" ชายหนุ่มผมเงินเลิกคิ้วสูงเมื่อพบกับปฎิกิริยาไม่ดูตื่นเต้นของพวกผม
"ขอดูคลิปตอนพวกมันตายหน่อย" แดอึนถามเสียงเนือย
"เอาไปและดูให้สะใจเลยพวก!" อัลฟาโยนบางสิ่งที่ไม่เหมือนกับอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่คุ้นตาเลยให้กับแฮ็กเกอร์สุดเฉื่อย ดูท่าวันนี้เขาจะอารมณ์ดีนะเนี่ย
ตูม!! ตูม!! ตูม!!
เสียงฟ้าผ่าดังตั้งแต่แรกเริ่ม แต่....
"บนจอภาพฟ้ามันก็โปร่งนิ ไหงมีฟ้าผ่าได้ล่ะ" คนหล่อขมวดคิ้วงงงวย
"นี่เรียกว่า 'ฝนอัสนี' ฟ้าจะผ่าลงมายังกับฝนห่าใหญ่โดยไม่มีสาเหตุ" อันโนที่นั่งเงียบอยู่เนิ่นนานพูดอธิบายให้ นั้นสิ! คนหล่อลืมไปได้ยังไงว่าที่นี่มันพิลึกกึกกือขนาดไหน
"ฮ่ะๆๆๆ เห็นไหมๆ พระเจ้าเข้าข้างเราโดยแท้ แม่ทัพมากฝีมือของกองกำลังตายเพราะฟ้าผ่าห่าใหญ่ ฮ่าๆๆๆ"
ผมมองดูร่างที่สิ้นลมแล้วแต่ยังมิวายถูกสายฟ้าโจมตีซ้ำไปมา สองศพที่ตายผมรู้ดีว่าพวกเขาเก่งขนาดไหนจากการประมือที่ผ่านมาจากคลิป แต่มันมาตายง่ายเพราะสายฟ้าห่าใหญ่เนี่ยนะ?! หรือพระเจ้าจะเชียร์ให้เราแหกคุกหนอ? แต่ว่าพระเจ้านั่นคือผู้คุมตัวจริงนี่นา.....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ