In Wonderland ช่วยผมที ที่นี่มันบ้า!!!
8.7
เขียนโดย MysticBlue
วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.17 น.
11 chapter
84 วิจารณ์
15.37K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ห้องเงียบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความchapter 4
ห้องเงียบ
ชายหนุ่มผมแดงที่ทารุณคนเมื่อคืนก็คือ.....เขา!!!! ราน!!
"หืม? เล่นเผาป่าแบบนี้มันสร้างมลภาวะให้หน้าบ้านข้ารู้ไหม?" เสียงไพเราะถูกเปล่งขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นเสียงของผู้หญิงชอบหายตัวคนนั้นแหละ
"เฮอะ! ไปที่ไหนๆ เธอก็บอกว่ามันเป็นหน้าบ้านเธอ เสียสติ! ยัยเชสเชียร์" ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมแดงหันมาตอบกลับแทบทันทีที่ได้ยินเสียง สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของหญิงสาวที่อยู่ข้างตัวคนหล่อเมื่อไหร่ไม่รู้ราวกับแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
"ฮ่ะๆๆๆๆ " แต่สิ่งที่ร่างข้างกายผมตอบสนองคือเสียงหัวเราะชวนให้หนาวถึงใจ ก่อนที่จะหันมาหาผมและบอกว่า "อยู่กับคนเถื่อนมันไม่ดีนะ พวกเราไปจากที่นี่ดีกว่า เดี๋ยวพวกอัศวินจะกรูกันมาในไม่ช้า" เธอกล่าวก่อนที่จะใช้มือจับไหล่ของคนหล่อ แล้วพวกเราก็หายวับไปเลย?!
แบบ คือ.....จู่ๆ ภาพ สภาพแวดล้อมรอบกายมันหายวับแล้วถูกแทนด้วยอีกสภาพแวดล้อมหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนหล่อมึนไปเลย โอย......มึนจนลืมเลยว่าตัวเองกำลังกลัวอยู่=_= อ๋อ ใช่!
"เมื่อคืนนี้...."
ผมยังพูดไม่จบ หลิ่งจีก็แทรกขึ้น "เมื่อคืนมีคนพวกหนึ่งที่เผอิญทำให้นักควงไฟของเราอารมณ์บูดน่ะสิ เขาเลยจัดการควักตาข้างซ้ายของพวกเขาออกแล้วลนไฟพวกเขา หืม.....แต่ส่วนน้อยก็รอดมาได้นะ" เธอเดินไปนั่งบนโขดหินข้างๆ
โอเค ตอนนี้ทุกคนคงอยากรู้ว่าคนหล่ออยู่ที่ไหน? คนหล่อก็ไม่รู้เหมือนกันครับ หล่อนพาคนหล่อมาที่ไหนไม่รู้ จะฉุดคนหล่อไปทำมิดีไม่ร้ายรึเปล่าเนี่ย?! ไม่นะ!! ไม่!! คนหล่อต้องรักษาเวอร์จิ้นไว้ให้คนที่ใช่เท่านั้น
"แล้ว......คุณจะไปไหนต่อล่ะ เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"เออ....แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับรานเหรอ?" ผมถามออกไป เขาจะเป็นยังไงนะ? เห็นได้ยินว่าพวกทหารจะมาด้วย แถมคุณหลิ่งจียังไม่พารานหนีอีก
"ก็....ก่อความวุ่นวายเมื่อคืน แถมเมื่อกี้อีก คงถูกลงโทษประจานมั้ง" เธอยักไหล่ สีหน้าดูสบายๆ ราวกับว่าเรื่องแบบนี้เกิดเป็นกิจวัตร และเธอก็พูดต่อว่า
"เรื่องแบบนี้มันเกิดทุกวันอยู่แล้ว แต่คนที่ลงโทษนักโทษก็คือนักโทษกันเอง นั้นแหละที่แปลก" นั้นไง!! ว่าแล้วเชียวว่ามันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทุกวัน ไม่งั้นเธอคงไม่เฉยชากับการที่คนจะถูกลงโทษประจารชนต่อหน้าประชาชีหรอก
"ลงโทษแบบไหน?!" ผมตื่นตกใจ (ความรู้สึกช้าจริงนาย) ปากรีบถามต่อทันที
หญิงสาวผู้ชอบหายตัวหันมายิ้มให้ผม ก่อนจะเอ่ยว่า "ไปดูกันดีกว่า คุณจะได้รู้ว่าประชาชนที่ก่อความวุ่นวายจะมีชะตากรรมยังไง"
หา?! ไปดูสดๆ เลยเหรอ?!
เร็วเท่าความคิดเธอลุกขึ้นอย่างว่องไวแล้ววิ่งไปโดยไม่ลืมที่จะฉุดตัวผมไปด้วย.........ก็ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้.....คนหล่อและผู้หญิงชอบหายตัวก็มาโผล่ในที่ที่น่าจะเรียกว่า เมือง.......
เสียงโห่ร้องดังกึกก้อง เมืองที่ยังทิ้งกลิ่นคาวเลือดจากเมื่อคืนแม้ว่าของเหลวสีแดงนั้นจะหายไปหมดแล้วก็ตาม ความร้อนจากแดดยามเที่ยงมันทำให้คนหล่ออยากกินน้ำแข็งใส อืม.....บรรยายภาษาสวยๆ แล้วมาบรรยายภาษาบ้านๆ บ้างดีกว่า นักโทษร่วมชะตาเดียวกับคนหล่อนับร้อยมารวมตัวกันหน้าแท่นอะไรสักอย่างนี้แหละ พร้อมกับ........กับ.....ฮือๆ รานนนนนนนนน
ชายหนุ่มผมแดงหน้าตาโคตรคุ้นกันถึงแม้จะเจอเมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อน เขาเดินอย่างสง่าผ่าเผยขึ้นไปบนแท่นที่น่าจะเป็นจุดจบของเขา ถึงคนหล่อจะเห็นจะๆ แบบเต็มตาว่าเขาฆ่าคนอย่างโหดร้าย แต่เขาก็เป็นเพื่อนคนเดียวของผมน่าาาาา ผู้หญิงข้างๆ ผม หล่อนพิลึกเกินจะหายใจร่วมอากาศเดียวกันได้ หนูทิมน่าจะตายไปแล้ว TOT
"ราน ชาวบ้านหมายเลข 08462 " โห เรียกกันแบบนี้เลยเหรอ "เลือกวิธีทรมานได้เลย" สิ้นเสียงประกาศของผู้คุม (ที่จริงก็นักโทษเหมือนกัน) เสียงร้องโห่ก็ดังอีกครั้ง
"เอากระทิงเหล็กเลย!!!!!"
"เลือกกงล้อทรมานสิ!!"
เสียงรบเร้าให้เลือกมากมายดังยังกับเสียงผึ้งแตกรัง และในที่สุด........
"ห้องเงียบ"
"................"
เพียงคำตอบเดียวจากชายผู้อยู่บนแท่น ทำเอาเสียงหึ่งๆ แบบผึ้งนั้นเงียบแบบทันหูได้ยิน ห้องเงียบ? อะไรน่ะ?
"เขาเอาห้องเงียบแหละ"
"อะไรนะ?!"
"ฉันเคยโดนมาแล้ว ทรมานสุดๆ "
"นายจะบ้าตาย!!"
เสียงกระซิบซอกแซกดังมาในไม่นาน ไม่ว่าจะผู้คุมที่อยู่รอบๆ คอยคุมก็อดจะนินทากับเขาไม่ได้เหมือนกัน แล้วตกลงห้องเงียบนี้มันคืออะไรกัน? ผมจึงเอ่ยถามหลิ่งจีว่า
"ห้องเงียบคืออะไรเหรอครับ?"
เธอหันมาเลิกคิ้วสูง แต่ก็อธิบายให้คนหล่อฟัง "ว่ากันว่าเป็นการทรมานที่โหดที่สุด ถึงแม้มันจะดูไม่ทรมานก็เถอะ" เธอนิ่งเงียบไปครั้งหนึ่งเหมือนกับกำลังนึกอะไรบางอย่าง "พวกอัศวินจะลากตัวคุณไปที่ห้องห้องหนึ่ง เขาจะจับคุณมัดไว้กับเก้าอี้แน่นๆ จนแทบกระดิกไม่ได้ ปากถูกมัดปิดไว้ มีแต่ตาเท่านั้นที่ยังมองเห็น จากนั้นก็ทิ้งคุณไว้ในห้องนั้นเงียบๆ ............จนกว่าจะพ้นโทษ"
ผมขมวดคิ้วสงสัย "มันทรมานตรงไหน?" ถึงจะดีที่มันไม่ทรมานเท่าไหร่นัก แต่มันทรมานตรงไหนนี้สิ?
"เป็นการทรมานประสาทก็ว่าได้" เธอพูดเสียงเรียบ ริมฝีบางเรียบไม่เหมือนปกติที่ต้องยิ้มตลอดเวลา "ในห้องนั้นเงียบและมืด ไม่มีเสียงอะไรเลย.......คุณจะเริ่มได้ยินเสียงอวัยวะภายในของคุณ จากนั้นก็ได้ยินเสียงหลอน ตามมาด้วยภาพหลอน สิ่งเหล่านี้จะเกิดภายในสามสิบนาทีที่คุณเข้าไปอยู่ในห้องนี้ อย่างไม่ต้องเดา........"
แน่นอน เพราะท่าทีของเธอดูเปลี่ยนไป ผมจึง...... "คุณเคยโดนทรมานด้วยวิธีแบบนั้น?"
หญิงสาวหันมาแล้วยิ้ม แต่ไม่ตอบอะไร.......ก่อนจะตะโกนดังลั่นว่า
"นั้นเป็นแค่ร่างแยกค่ะคุณอัศวิน ร่างจริงอยู่นี่ต่างหาก" เธอกระชากแขนของใครคนที่ยืนข้างๆ ทำให้ฮู้ดของแจ็กเก็ตหลุดออกเผยให้เห็นผมแดงแปร๊ด
"ราน!!!" คนหล่อเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจบวกกับงวยงง
"นายคนนี้มีความสามารถในการแยกร่างค่าคุณอัศวิน คราวหลังระวังด้วยนะคะ" หญิงสาวเอ่ยจบก็หายวับไปทันที ปล่อยทิ้งให้ผมยืนกับราน
"นังเชสเชียร์!!!!!!!" ชายหนุ่มนักควงไฟตะโกนลั่นด้วยโทสะ ก่อนจะฉวยไม้ควงทั้งสองพร้อมจุดไฟที่ปลายทั้งสี่ด้าน ทันใดนั้น!! ร่างของเขาก็แยกออกไปเป็นรานอีกหลายๆ คน นับสิบได้กระมั้ง!! "คอยดูเถอะ!! เดี๋ยวฉันจะเผยไต๋ของเธอบ้าง!!!" เขาแผดเสียง
พวกอัศวินไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปจับกุมชายผู้เป็นคนกระทำผิดทันที รานทั้งสิบคนกระโดดถอยไปจสกตรงนั้น แล้วเริ่มแยกร่างตัวเองอีกครั้ง!! คราวนี้ยี่สิบ ไม่สิ! ห้าสิบ! ไม่ๆ ร้อยแล้วมั้ง!!
ร่างนับร้อยเข้าล้อมอัศวินที่ดูมีจำนวนแค่น้อยนิดทันตาเห็น แบบนี้มันเรียกว่าหมาหมู่ เอ๊ย! เอาจำนวนเข้าสู้นิหว่า
เหตุการณ์ชุลมุนเริ่มขึ้น ส่งผลให้ฝูงชนที่มาดูการลงโทษประจานนั้นวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางอย่างบ้าคลั่ง หืม? เสื้อของบางคนติดไฟด้วยนิ
"เหวอ!" ผมร้องออกมาเนื่องจากแรงฉุดจากที่ไหนไม่รู้ดึงตัวผมไปด้วย คนหล่ออย่างมาร์ส ดาเลย์ผู้นี้หันเหลียวหน้าจะด่าคนที่ฉุดคนหล่อ แต่แล้วก็พบกับความว่างเปล่ากันเว้งว้าง........
แน่นอน....สิ่งแรกที่โผล่ขึ้นมาในสมองคือ....
"ผี!!! ช่วยด้วย!! ผีมันกำลังฉุดคนหล่อไปตายด้วย โน่ววววว คนหล่อยังไม่อยากตาย คนบนโลกนี้ยังไม่รู้ว่าผมหล่อทุกคนเลยยยยยย" ผมกรีดร้องแล้วดิ้นพล่านแบบคนเอาตัวรอดจากผี คนหล่อยังไม่อยากตายนะ คนหล่อจะต้องแหกคุกแล้วได้บันทึกลงกินเนสบุ๊คว่ามาร์ส ดาเลย์ เป็นชายที่หล่อที่สุดในโลกและไม่มีใครทำลายความหล่อนี้ได้!!
แต่แล้วสายตาอันหล่อเหลา (?) ของคนหล่อก็สังเกตเห็นเงาบนพื้นที่ดูเหมือนกำลังลากคนหล่ออยู่ สมองอันรูปงามของผมจึงประมวลผลจากผีเป็นอีกสิ่งหนึ่ง คือ........
"นายเป็นมนุษย์ล่องหน?" ทันทีที่ผมเอ่ย เงาดำบนพื้นนั้นก็หยุดชะงักลง แล้วดูเหมือนว่าเขาจะหันหน้ามาทางผมแล้วโน้มตัวลงมาเรื่อยๆ
"ชู่ว" เสียงที่สื่อความหมายให้เก็บเป็นความลับนั้นเป็นเสียงแรกที่ผมได้ยินจากเขานะเนี่ย!! โอ้พระเจ้าช่วยลูกด้วย ตอนนี้คนหล่อกำลังถูกมนุษย์ล่องหนลากไปที่ไหนก็ไม่รู้ ฮือๆ หลังจากที่ทำเสียงนั้นเสร็จเขาก็เอาผ้าขี้ริ้วจากข้างทางมามัดตาของคนหล่อไม่ให้มองเห็น จากนั้นก็ลากต่อ.........
นี้ไม่มีใครสังเกตเห็นชายหนุ่มรูปงามกำลังถูกมนุษย์ล่องหนลากเลยเหรอ?
ห้องเงียบ
ชายหนุ่มผมแดงที่ทารุณคนเมื่อคืนก็คือ.....เขา!!!! ราน!!
"หืม? เล่นเผาป่าแบบนี้มันสร้างมลภาวะให้หน้าบ้านข้ารู้ไหม?" เสียงไพเราะถูกเปล่งขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นเสียงของผู้หญิงชอบหายตัวคนนั้นแหละ
"เฮอะ! ไปที่ไหนๆ เธอก็บอกว่ามันเป็นหน้าบ้านเธอ เสียสติ! ยัยเชสเชียร์" ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมแดงหันมาตอบกลับแทบทันทีที่ได้ยินเสียง สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของหญิงสาวที่อยู่ข้างตัวคนหล่อเมื่อไหร่ไม่รู้ราวกับแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
"ฮ่ะๆๆๆๆ " แต่สิ่งที่ร่างข้างกายผมตอบสนองคือเสียงหัวเราะชวนให้หนาวถึงใจ ก่อนที่จะหันมาหาผมและบอกว่า "อยู่กับคนเถื่อนมันไม่ดีนะ พวกเราไปจากที่นี่ดีกว่า เดี๋ยวพวกอัศวินจะกรูกันมาในไม่ช้า" เธอกล่าวก่อนที่จะใช้มือจับไหล่ของคนหล่อ แล้วพวกเราก็หายวับไปเลย?!
แบบ คือ.....จู่ๆ ภาพ สภาพแวดล้อมรอบกายมันหายวับแล้วถูกแทนด้วยอีกสภาพแวดล้อมหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนหล่อมึนไปเลย โอย......มึนจนลืมเลยว่าตัวเองกำลังกลัวอยู่=_= อ๋อ ใช่!
"เมื่อคืนนี้...."
ผมยังพูดไม่จบ หลิ่งจีก็แทรกขึ้น "เมื่อคืนมีคนพวกหนึ่งที่เผอิญทำให้นักควงไฟของเราอารมณ์บูดน่ะสิ เขาเลยจัดการควักตาข้างซ้ายของพวกเขาออกแล้วลนไฟพวกเขา หืม.....แต่ส่วนน้อยก็รอดมาได้นะ" เธอเดินไปนั่งบนโขดหินข้างๆ
โอเค ตอนนี้ทุกคนคงอยากรู้ว่าคนหล่ออยู่ที่ไหน? คนหล่อก็ไม่รู้เหมือนกันครับ หล่อนพาคนหล่อมาที่ไหนไม่รู้ จะฉุดคนหล่อไปทำมิดีไม่ร้ายรึเปล่าเนี่ย?! ไม่นะ!! ไม่!! คนหล่อต้องรักษาเวอร์จิ้นไว้ให้คนที่ใช่เท่านั้น
"แล้ว......คุณจะไปไหนต่อล่ะ เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"เออ....แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับรานเหรอ?" ผมถามออกไป เขาจะเป็นยังไงนะ? เห็นได้ยินว่าพวกทหารจะมาด้วย แถมคุณหลิ่งจียังไม่พารานหนีอีก
"ก็....ก่อความวุ่นวายเมื่อคืน แถมเมื่อกี้อีก คงถูกลงโทษประจานมั้ง" เธอยักไหล่ สีหน้าดูสบายๆ ราวกับว่าเรื่องแบบนี้เกิดเป็นกิจวัตร และเธอก็พูดต่อว่า
"เรื่องแบบนี้มันเกิดทุกวันอยู่แล้ว แต่คนที่ลงโทษนักโทษก็คือนักโทษกันเอง นั้นแหละที่แปลก" นั้นไง!! ว่าแล้วเชียวว่ามันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทุกวัน ไม่งั้นเธอคงไม่เฉยชากับการที่คนจะถูกลงโทษประจารชนต่อหน้าประชาชีหรอก
"ลงโทษแบบไหน?!" ผมตื่นตกใจ (ความรู้สึกช้าจริงนาย) ปากรีบถามต่อทันที
หญิงสาวผู้ชอบหายตัวหันมายิ้มให้ผม ก่อนจะเอ่ยว่า "ไปดูกันดีกว่า คุณจะได้รู้ว่าประชาชนที่ก่อความวุ่นวายจะมีชะตากรรมยังไง"
หา?! ไปดูสดๆ เลยเหรอ?!
เร็วเท่าความคิดเธอลุกขึ้นอย่างว่องไวแล้ววิ่งไปโดยไม่ลืมที่จะฉุดตัวผมไปด้วย.........ก็ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้.....คนหล่อและผู้หญิงชอบหายตัวก็มาโผล่ในที่ที่น่าจะเรียกว่า เมือง.......
เสียงโห่ร้องดังกึกก้อง เมืองที่ยังทิ้งกลิ่นคาวเลือดจากเมื่อคืนแม้ว่าของเหลวสีแดงนั้นจะหายไปหมดแล้วก็ตาม ความร้อนจากแดดยามเที่ยงมันทำให้คนหล่ออยากกินน้ำแข็งใส อืม.....บรรยายภาษาสวยๆ แล้วมาบรรยายภาษาบ้านๆ บ้างดีกว่า นักโทษร่วมชะตาเดียวกับคนหล่อนับร้อยมารวมตัวกันหน้าแท่นอะไรสักอย่างนี้แหละ พร้อมกับ........กับ.....ฮือๆ รานนนนนนนนน
ชายหนุ่มผมแดงหน้าตาโคตรคุ้นกันถึงแม้จะเจอเมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อน เขาเดินอย่างสง่าผ่าเผยขึ้นไปบนแท่นที่น่าจะเป็นจุดจบของเขา ถึงคนหล่อจะเห็นจะๆ แบบเต็มตาว่าเขาฆ่าคนอย่างโหดร้าย แต่เขาก็เป็นเพื่อนคนเดียวของผมน่าาาาา ผู้หญิงข้างๆ ผม หล่อนพิลึกเกินจะหายใจร่วมอากาศเดียวกันได้ หนูทิมน่าจะตายไปแล้ว TOT
"ราน ชาวบ้านหมายเลข 08462 " โห เรียกกันแบบนี้เลยเหรอ "เลือกวิธีทรมานได้เลย" สิ้นเสียงประกาศของผู้คุม (ที่จริงก็นักโทษเหมือนกัน) เสียงร้องโห่ก็ดังอีกครั้ง
"เอากระทิงเหล็กเลย!!!!!"
"เลือกกงล้อทรมานสิ!!"
เสียงรบเร้าให้เลือกมากมายดังยังกับเสียงผึ้งแตกรัง และในที่สุด........
"ห้องเงียบ"
"................"
เพียงคำตอบเดียวจากชายผู้อยู่บนแท่น ทำเอาเสียงหึ่งๆ แบบผึ้งนั้นเงียบแบบทันหูได้ยิน ห้องเงียบ? อะไรน่ะ?
"เขาเอาห้องเงียบแหละ"
"อะไรนะ?!"
"ฉันเคยโดนมาแล้ว ทรมานสุดๆ "
"นายจะบ้าตาย!!"
เสียงกระซิบซอกแซกดังมาในไม่นาน ไม่ว่าจะผู้คุมที่อยู่รอบๆ คอยคุมก็อดจะนินทากับเขาไม่ได้เหมือนกัน แล้วตกลงห้องเงียบนี้มันคืออะไรกัน? ผมจึงเอ่ยถามหลิ่งจีว่า
"ห้องเงียบคืออะไรเหรอครับ?"
เธอหันมาเลิกคิ้วสูง แต่ก็อธิบายให้คนหล่อฟัง "ว่ากันว่าเป็นการทรมานที่โหดที่สุด ถึงแม้มันจะดูไม่ทรมานก็เถอะ" เธอนิ่งเงียบไปครั้งหนึ่งเหมือนกับกำลังนึกอะไรบางอย่าง "พวกอัศวินจะลากตัวคุณไปที่ห้องห้องหนึ่ง เขาจะจับคุณมัดไว้กับเก้าอี้แน่นๆ จนแทบกระดิกไม่ได้ ปากถูกมัดปิดไว้ มีแต่ตาเท่านั้นที่ยังมองเห็น จากนั้นก็ทิ้งคุณไว้ในห้องนั้นเงียบๆ ............จนกว่าจะพ้นโทษ"
ผมขมวดคิ้วสงสัย "มันทรมานตรงไหน?" ถึงจะดีที่มันไม่ทรมานเท่าไหร่นัก แต่มันทรมานตรงไหนนี้สิ?
"เป็นการทรมานประสาทก็ว่าได้" เธอพูดเสียงเรียบ ริมฝีบางเรียบไม่เหมือนปกติที่ต้องยิ้มตลอดเวลา "ในห้องนั้นเงียบและมืด ไม่มีเสียงอะไรเลย.......คุณจะเริ่มได้ยินเสียงอวัยวะภายในของคุณ จากนั้นก็ได้ยินเสียงหลอน ตามมาด้วยภาพหลอน สิ่งเหล่านี้จะเกิดภายในสามสิบนาทีที่คุณเข้าไปอยู่ในห้องนี้ อย่างไม่ต้องเดา........"
แน่นอน เพราะท่าทีของเธอดูเปลี่ยนไป ผมจึง...... "คุณเคยโดนทรมานด้วยวิธีแบบนั้น?"
หญิงสาวหันมาแล้วยิ้ม แต่ไม่ตอบอะไร.......ก่อนจะตะโกนดังลั่นว่า
"นั้นเป็นแค่ร่างแยกค่ะคุณอัศวิน ร่างจริงอยู่นี่ต่างหาก" เธอกระชากแขนของใครคนที่ยืนข้างๆ ทำให้ฮู้ดของแจ็กเก็ตหลุดออกเผยให้เห็นผมแดงแปร๊ด
"ราน!!!" คนหล่อเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจบวกกับงวยงง
"นายคนนี้มีความสามารถในการแยกร่างค่าคุณอัศวิน คราวหลังระวังด้วยนะคะ" หญิงสาวเอ่ยจบก็หายวับไปทันที ปล่อยทิ้งให้ผมยืนกับราน
"นังเชสเชียร์!!!!!!!" ชายหนุ่มนักควงไฟตะโกนลั่นด้วยโทสะ ก่อนจะฉวยไม้ควงทั้งสองพร้อมจุดไฟที่ปลายทั้งสี่ด้าน ทันใดนั้น!! ร่างของเขาก็แยกออกไปเป็นรานอีกหลายๆ คน นับสิบได้กระมั้ง!! "คอยดูเถอะ!! เดี๋ยวฉันจะเผยไต๋ของเธอบ้าง!!!" เขาแผดเสียง
พวกอัศวินไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปจับกุมชายผู้เป็นคนกระทำผิดทันที รานทั้งสิบคนกระโดดถอยไปจสกตรงนั้น แล้วเริ่มแยกร่างตัวเองอีกครั้ง!! คราวนี้ยี่สิบ ไม่สิ! ห้าสิบ! ไม่ๆ ร้อยแล้วมั้ง!!
ร่างนับร้อยเข้าล้อมอัศวินที่ดูมีจำนวนแค่น้อยนิดทันตาเห็น แบบนี้มันเรียกว่าหมาหมู่ เอ๊ย! เอาจำนวนเข้าสู้นิหว่า
เหตุการณ์ชุลมุนเริ่มขึ้น ส่งผลให้ฝูงชนที่มาดูการลงโทษประจานนั้นวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางอย่างบ้าคลั่ง หืม? เสื้อของบางคนติดไฟด้วยนิ
"เหวอ!" ผมร้องออกมาเนื่องจากแรงฉุดจากที่ไหนไม่รู้ดึงตัวผมไปด้วย คนหล่ออย่างมาร์ส ดาเลย์ผู้นี้หันเหลียวหน้าจะด่าคนที่ฉุดคนหล่อ แต่แล้วก็พบกับความว่างเปล่ากันเว้งว้าง........
แน่นอน....สิ่งแรกที่โผล่ขึ้นมาในสมองคือ....
"ผี!!! ช่วยด้วย!! ผีมันกำลังฉุดคนหล่อไปตายด้วย โน่ววววว คนหล่อยังไม่อยากตาย คนบนโลกนี้ยังไม่รู้ว่าผมหล่อทุกคนเลยยยยยย" ผมกรีดร้องแล้วดิ้นพล่านแบบคนเอาตัวรอดจากผี คนหล่อยังไม่อยากตายนะ คนหล่อจะต้องแหกคุกแล้วได้บันทึกลงกินเนสบุ๊คว่ามาร์ส ดาเลย์ เป็นชายที่หล่อที่สุดในโลกและไม่มีใครทำลายความหล่อนี้ได้!!
แต่แล้วสายตาอันหล่อเหลา (?) ของคนหล่อก็สังเกตเห็นเงาบนพื้นที่ดูเหมือนกำลังลากคนหล่ออยู่ สมองอันรูปงามของผมจึงประมวลผลจากผีเป็นอีกสิ่งหนึ่ง คือ........
"นายเป็นมนุษย์ล่องหน?" ทันทีที่ผมเอ่ย เงาดำบนพื้นนั้นก็หยุดชะงักลง แล้วดูเหมือนว่าเขาจะหันหน้ามาทางผมแล้วโน้มตัวลงมาเรื่อยๆ
"ชู่ว" เสียงที่สื่อความหมายให้เก็บเป็นความลับนั้นเป็นเสียงแรกที่ผมได้ยินจากเขานะเนี่ย!! โอ้พระเจ้าช่วยลูกด้วย ตอนนี้คนหล่อกำลังถูกมนุษย์ล่องหนลากไปที่ไหนก็ไม่รู้ ฮือๆ หลังจากที่ทำเสียงนั้นเสร็จเขาก็เอาผ้าขี้ริ้วจากข้างทางมามัดตาของคนหล่อไม่ให้มองเห็น จากนั้นก็ลากต่อ.........
นี้ไม่มีใครสังเกตเห็นชายหนุ่มรูปงามกำลังถูกมนุษย์ล่องหนลากเลยเหรอ?
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ