love mission ภารกิจรัก ทดแทนหัวใจนายจอมกวน
7.7
เขียนโดย พรสิริ
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.13 น.
55 ตอน
8 วิจารณ์
53.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 18.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
20)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ งานเทศกาลเป็นงานที่สร้างความรื่นเริงบันเทิงใจให้กับเหล่านักเรียนไฮโซ(ที่ไม่ค่อยจะเคร่งเครียดในเรื่องการเรียนซักเท่าไร)และเหล่าผู้ปกครองไฮโซทั้งหลาย พูดง่ายๆสำหรับนักเรียนไฮโซก็คืองานปล่อยของโอ้อวดกัน สำหรับผู้ปกครองก็คืออวดรวยนั่นเอง ซึ่งทางโรงเรียนก็จะได้รับเงินบริจาคในงานนี้มากมาย ภายในงานก็จะมีกิจกรรมมากมายที่ให้นักเรียนได้ร่วมสนุกและแต่ละห้องก็ต้องมีกิจกรรมที่โชว์ให้ผู้ปกครองได้ดู ถือเป็นกิจกรรมที่บังคับให้ทุกห้องต้องทำเพื่อโรงเรียน และกิจกรรมนั้นก็ต้องตกมาอยู่ที่เธอ หญิงสาวผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คนนี้นี่เอง...
’เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง โอ้ย...ข้าวตอกเอ้ย แค่นี้ยังซวยไม่พออีกหรือไงห๊าาาาา พูดแล้งอยากจะร้องไห้ เป็นเพราะนายผีดิบตัวซวยนี่คนเดียวเลย ฉันอยากจะฆ่านายนัก ไอ้ผีดิบเฮงซวยยยย’
“งานนี้แกคงเหนื่อยหน่อยนะ โจทย์ปีนี้หินสุดๆเลยแก”
ยัยม่อนพูดเสริมอย่างห่วงๆเพื่อน ที่ตอนนี้ยืนหน้าเสียอย่างกับเจอผี
“ยังมีแย่กว่านี้อีกหรอวะแกกกกกก”
“มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ก็แค่โจทย์ปีนี้คือ...ละครเวที...เท่านั้นเอง”
’เฮือก...พูดเล่นรึเปล่า ละครเวทีที่ต้องใช้คนเล่นนับสิบๆคนเนี่ยนะ ซ้อมเป็นเดือนๆเนี่ยนะ โอ้วววไม่ไหวม้างงงงงงงงง’
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะยัยข้าว ฉันจะช่วยแกเอง”
ยัยม่อนพูดให้เพื่อนรักสบายใจ ในขณะที่เพื่อนของเขายืนอึ้งรับประทานอยู่นานสองนาน
“ขอบใจแกมากนะยัยม่อน ถ้าไม่มีแก ฉันคงแย่กว่านี้แน่”
เธอเดินเข้าไปกอดเพื่อนรักด้วยความเคยชิน กลิ่นที่คุ้นเคย ร่างกายที่อบอุ่น อ้อมกอดที่แสนจะโหยหา ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เธอสบายใจขึ้น
ชายหนุ่มข้างๆยืนมองด้วยความไม่พอใจนัก ถึงแม้เขาจะรู้ว่าคนที่เธอกำลังกอดอยู่คือเพื่อนสาวแต่ยังไงมันก็เป็นผู้ชายอยู่ดี แถมยังหน้าตาดีอีกด้วย
’จะกอดกันอีกนานไหมวะ...พอได้แล้วโว้ย...’
เขาทำได้เพียงเก็บความรู้สึกไม่พอใจไว้ในอกเท่านั้น จึงจัดการทุบโต๊ะเพื่อระบายมันออกมา
’ถ้าอยากได้อ้อมกอดนักล่ะก็ ทำไมไม่หันมากอดฉันนะ ฉันมีให้เธอมากกว่ากอดซะอีก’
ปึ้ง...
คู่เพื่อนรักสะดุ้งกับเสียงทุบโต๊ะของเขา จึงได้แยกออกจากกันอย่างเสียดาย
“เขาคงหึงฉันแน่ๆเลย ที่มากอดเธอโดยไม่ขออนุญาตก่อน ต๊ายยยย...ไม่หึงนะคะพ่อเทพบุตรของม่อน”
ยัยม่อนพูดเสร็จก็เดินกลับไปนั่งโต๊ะของตัวเอง เพราะอาจารย์คาบแรกมาพอดี
หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างปลงๆ เธอคงได้แต่ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ เธอหันมามองหน้าต้นเหตุความซวยทั้งหมดของเธอด้วยอารมณ์ที่อยากจะฆ่าให้ตายนัก เขาก็มองเธอกลับมาด้วยสายตากวนๆ
“นายหึงยัยม่อนรึไง”
เธอถามอย่างขำๆเพราะอยากจะให้เห็นหน้าตอนเขินอายของเขาบ้าง แต่เขากลับพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“หึงเธอต่างหาก”
กลับเป็นเธอที่ต้องเขินแทน เขินอย่างไม่ทันตั้งตัว
’หึงฉัน...จะมาหึงฉันทำไมมมมมม’
“จะมาหึงฉันทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายสักหน่อย”
’แล้วเธออยากเป็นอะไรกับฉันรึเปล่าล่ะ’
เขาอยากจะพูดคำนี้กับเธอเหลือเกิน แต่เพราะอะไรในใจบางอย่างที่ทำให้คำพูดเหล่านั้นถูกกลืนหายลงไป
“แล้วเธอจะให้ฉันหึงเพื่อนเธอทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเพื่อนเธอสักหน่อย”
เขาปรับสีหน้ากวนๆใส่เธอ
“นี่!!!! นายผีดิบ ฉันชักจะทนไม่ไหวกับความกวนบาทาของนายแล้วนะ”
เธอหงุดหงิดกับคำพูดพล่อยๆของเขาที่ทำให้เธอดีใจเก้องั้นหรือ หญิงสาวได้แต่บ่นกระปอดกระแปดเพื่อปิดบังอาการหลากหลายที่เกิดขึ้นในใจ
หลังจากนั้นจนหมดคาบ ก็ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากทั้งคู่อีกเลยจนกระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง
“ฉันจะไปกินข้าวกับเพื่อน เธอไม่ต้องรอนะ”
ชายหนุ่มพูดกับเธอหลังจากที่ต่างคนต่างเงียบมานาน เขาเลือกที่จะไปอยู่กับเพื่อนผู้ชายเพื่อไม่ให้เธอเจอเหตุการณ์แบบเมื่อวานอีก แต่เธอกลับคิดว่าเขาคงจะเบื่อเธอแน่ๆถึงได้แยกตัวไปจากเธอแบบนี้ เธอได้แต่พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินไปหาเพื่อนสาวด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
เมื่อยัยม่อนเห็นสีหน้าของเธอก็คิดว่าเธอยังไม่สบายใจเรื่องหน้าที่ใหม่ที่พึ่งได้รับมาหมาดๆ
“ไม่ต้องเครียดนะแก มีอะไรก็บอกฉันกับอะตอมได้ พวกเรายินดีช่วยเสมอ”
หญิงสาวมองไปยังอะตอมหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆยัยม่อนก่อนจะยิ้มฝืนๆอย่างคนเหน็ดเหนื่อยกับอะไรมากมาย อะตอมเป็นหัวหน้าห้องมาตั้งแต่ม.4 แต่เธอกับอะตอมกลับไม่ค่อยได้คุยกันซักเท่าไร เธอมองตามนายผีดิบอย่างห่วงๆ เขาเดินออกไปพร้อมกับพวก Phoenix (ฟินิกซ์)แก๊งหนุ่มหล่อประจำห้องเรียน
Phoenixเป็นแก๊งของหนุ่มหล่อ6คน ที่มีอิทธิพลต่อโรงเรียนไฮโซแห่งนี้มาก สมาชิกทั้งหมดมีดีกรีความหล่อราวกับนายแบบตามปกหนังสือเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับดีกรีความรวยยิ่งไม่ต้องพูดถึง เป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งในและนอกโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ
สมาชิกคนแรกนายตุ้มเม้ง เป็นลูกครึ่งไทยจีน พ่อของเขาเป็นเศรษฐีชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย สูงขาวหุ่นมาดแมน เขาเป็นคนพูดตรงๆเอะอะโวยวาย ชอบหาเรื่องทุกที่และเก่งในเรื่องชกต่อย และเป็นหัวหน้าแก๊งPhoenixอีกด้วย
สมาชิกคนที่สอง นายแฟนต้า เป็นคนไทยแท้ๆที่หน้าตาออกแนวเกาหลีชัดเจน หล่อราวเทพบุตรจนมีสาวๆทั้งหลายมาติดพันมากมาย แต่เขาเป็นคนปากร้าย ชอบปากเสียระรานคนไปทั่ว
สมาชิกคนที่สาม นายรถถัง เป็นคนผิวสีแทน หุ่นมาดแมน เป็นนักบาสของโรงเรียน เป็นคนอารมณ์ดีขี้เล่น เจ้าชู้นิดๆ มักมีสาวๆมาติดพันมากมาย
สมาชิกคนที่สี่ นายซันโซ เป็นคนเป็นคนเจ้าชู้ที่สุดในกลุ่ม มักจะเป็นคู่ซี้กับนายรถถังในเรื่องสาวๆ เขามักจะให้เกียรติสาวๆเสมอ
สมาชิกคนที่ห้า นายโลกิ เป็นคนขรึมๆที่สุดในกลุ่ม แต่ด้วยความหล่อบาดหัวจิตหัวใจของเขา จึงทำให้ดึงดูดสาวๆเข้ามามากมาย แต่เขาก็ยังคงความโสดต่อไป
สมาชิกคนที่หก นายไคบะ ลูกชายเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูกลางเมืองที่มีดีกรีเป็นถึงเชฟประจำร้านอาหาร ความฝันของเขาก็คือการได้เปิดร้านอาหารเป็นของตนเอง และฝีมือระดับอย่างเขา ฝันคงอีกไม่ไกลแน่
สมาชิกคนที่เจ็ด นายวาฟเฟิล ที่เป็นผีดิบหนุ่มรูปหล่อผู้ลึกลับซับซ้อนสมาชิกใหม่ของแก๊ง ผู้มีอิทธิพลที่สุดในโรงเรียน Garrick High School แห่งนี้
.....โปรดติดตามตอนต่อไป.....
’เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง โอ้ย...ข้าวตอกเอ้ย แค่นี้ยังซวยไม่พออีกหรือไงห๊าาาาา พูดแล้งอยากจะร้องไห้ เป็นเพราะนายผีดิบตัวซวยนี่คนเดียวเลย ฉันอยากจะฆ่านายนัก ไอ้ผีดิบเฮงซวยยยย’
“งานนี้แกคงเหนื่อยหน่อยนะ โจทย์ปีนี้หินสุดๆเลยแก”
ยัยม่อนพูดเสริมอย่างห่วงๆเพื่อน ที่ตอนนี้ยืนหน้าเสียอย่างกับเจอผี
“ยังมีแย่กว่านี้อีกหรอวะแกกกกกก”
“มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ก็แค่โจทย์ปีนี้คือ...ละครเวที...เท่านั้นเอง”
’เฮือก...พูดเล่นรึเปล่า ละครเวทีที่ต้องใช้คนเล่นนับสิบๆคนเนี่ยนะ ซ้อมเป็นเดือนๆเนี่ยนะ โอ้วววไม่ไหวม้างงงงงงงงง’
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะยัยข้าว ฉันจะช่วยแกเอง”
ยัยม่อนพูดให้เพื่อนรักสบายใจ ในขณะที่เพื่อนของเขายืนอึ้งรับประทานอยู่นานสองนาน
“ขอบใจแกมากนะยัยม่อน ถ้าไม่มีแก ฉันคงแย่กว่านี้แน่”
เธอเดินเข้าไปกอดเพื่อนรักด้วยความเคยชิน กลิ่นที่คุ้นเคย ร่างกายที่อบอุ่น อ้อมกอดที่แสนจะโหยหา ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เธอสบายใจขึ้น
ชายหนุ่มข้างๆยืนมองด้วยความไม่พอใจนัก ถึงแม้เขาจะรู้ว่าคนที่เธอกำลังกอดอยู่คือเพื่อนสาวแต่ยังไงมันก็เป็นผู้ชายอยู่ดี แถมยังหน้าตาดีอีกด้วย
’จะกอดกันอีกนานไหมวะ...พอได้แล้วโว้ย...’
เขาทำได้เพียงเก็บความรู้สึกไม่พอใจไว้ในอกเท่านั้น จึงจัดการทุบโต๊ะเพื่อระบายมันออกมา
’ถ้าอยากได้อ้อมกอดนักล่ะก็ ทำไมไม่หันมากอดฉันนะ ฉันมีให้เธอมากกว่ากอดซะอีก’
ปึ้ง...
คู่เพื่อนรักสะดุ้งกับเสียงทุบโต๊ะของเขา จึงได้แยกออกจากกันอย่างเสียดาย
“เขาคงหึงฉันแน่ๆเลย ที่มากอดเธอโดยไม่ขออนุญาตก่อน ต๊ายยยย...ไม่หึงนะคะพ่อเทพบุตรของม่อน”
ยัยม่อนพูดเสร็จก็เดินกลับไปนั่งโต๊ะของตัวเอง เพราะอาจารย์คาบแรกมาพอดี
หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างปลงๆ เธอคงได้แต่ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ เธอหันมามองหน้าต้นเหตุความซวยทั้งหมดของเธอด้วยอารมณ์ที่อยากจะฆ่าให้ตายนัก เขาก็มองเธอกลับมาด้วยสายตากวนๆ
“นายหึงยัยม่อนรึไง”
เธอถามอย่างขำๆเพราะอยากจะให้เห็นหน้าตอนเขินอายของเขาบ้าง แต่เขากลับพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“หึงเธอต่างหาก”
กลับเป็นเธอที่ต้องเขินแทน เขินอย่างไม่ทันตั้งตัว
’หึงฉัน...จะมาหึงฉันทำไมมมมมม’
“จะมาหึงฉันทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายสักหน่อย”
’แล้วเธออยากเป็นอะไรกับฉันรึเปล่าล่ะ’
เขาอยากจะพูดคำนี้กับเธอเหลือเกิน แต่เพราะอะไรในใจบางอย่างที่ทำให้คำพูดเหล่านั้นถูกกลืนหายลงไป
“แล้วเธอจะให้ฉันหึงเพื่อนเธอทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเพื่อนเธอสักหน่อย”
เขาปรับสีหน้ากวนๆใส่เธอ
“นี่!!!! นายผีดิบ ฉันชักจะทนไม่ไหวกับความกวนบาทาของนายแล้วนะ”
เธอหงุดหงิดกับคำพูดพล่อยๆของเขาที่ทำให้เธอดีใจเก้องั้นหรือ หญิงสาวได้แต่บ่นกระปอดกระแปดเพื่อปิดบังอาการหลากหลายที่เกิดขึ้นในใจ
หลังจากนั้นจนหมดคาบ ก็ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากทั้งคู่อีกเลยจนกระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง
“ฉันจะไปกินข้าวกับเพื่อน เธอไม่ต้องรอนะ”
ชายหนุ่มพูดกับเธอหลังจากที่ต่างคนต่างเงียบมานาน เขาเลือกที่จะไปอยู่กับเพื่อนผู้ชายเพื่อไม่ให้เธอเจอเหตุการณ์แบบเมื่อวานอีก แต่เธอกลับคิดว่าเขาคงจะเบื่อเธอแน่ๆถึงได้แยกตัวไปจากเธอแบบนี้ เธอได้แต่พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินไปหาเพื่อนสาวด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
เมื่อยัยม่อนเห็นสีหน้าของเธอก็คิดว่าเธอยังไม่สบายใจเรื่องหน้าที่ใหม่ที่พึ่งได้รับมาหมาดๆ
“ไม่ต้องเครียดนะแก มีอะไรก็บอกฉันกับอะตอมได้ พวกเรายินดีช่วยเสมอ”
หญิงสาวมองไปยังอะตอมหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆยัยม่อนก่อนจะยิ้มฝืนๆอย่างคนเหน็ดเหนื่อยกับอะไรมากมาย อะตอมเป็นหัวหน้าห้องมาตั้งแต่ม.4 แต่เธอกับอะตอมกลับไม่ค่อยได้คุยกันซักเท่าไร เธอมองตามนายผีดิบอย่างห่วงๆ เขาเดินออกไปพร้อมกับพวก Phoenix (ฟินิกซ์)แก๊งหนุ่มหล่อประจำห้องเรียน
Phoenixเป็นแก๊งของหนุ่มหล่อ6คน ที่มีอิทธิพลต่อโรงเรียนไฮโซแห่งนี้มาก สมาชิกทั้งหมดมีดีกรีความหล่อราวกับนายแบบตามปกหนังสือเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับดีกรีความรวยยิ่งไม่ต้องพูดถึง เป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งในและนอกโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ
สมาชิกคนแรกนายตุ้มเม้ง เป็นลูกครึ่งไทยจีน พ่อของเขาเป็นเศรษฐีชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย สูงขาวหุ่นมาดแมน เขาเป็นคนพูดตรงๆเอะอะโวยวาย ชอบหาเรื่องทุกที่และเก่งในเรื่องชกต่อย และเป็นหัวหน้าแก๊งPhoenixอีกด้วย
สมาชิกคนที่สอง นายแฟนต้า เป็นคนไทยแท้ๆที่หน้าตาออกแนวเกาหลีชัดเจน หล่อราวเทพบุตรจนมีสาวๆทั้งหลายมาติดพันมากมาย แต่เขาเป็นคนปากร้าย ชอบปากเสียระรานคนไปทั่ว
สมาชิกคนที่สาม นายรถถัง เป็นคนผิวสีแทน หุ่นมาดแมน เป็นนักบาสของโรงเรียน เป็นคนอารมณ์ดีขี้เล่น เจ้าชู้นิดๆ มักมีสาวๆมาติดพันมากมาย
สมาชิกคนที่สี่ นายซันโซ เป็นคนเป็นคนเจ้าชู้ที่สุดในกลุ่ม มักจะเป็นคู่ซี้กับนายรถถังในเรื่องสาวๆ เขามักจะให้เกียรติสาวๆเสมอ
สมาชิกคนที่ห้า นายโลกิ เป็นคนขรึมๆที่สุดในกลุ่ม แต่ด้วยความหล่อบาดหัวจิตหัวใจของเขา จึงทำให้ดึงดูดสาวๆเข้ามามากมาย แต่เขาก็ยังคงความโสดต่อไป
สมาชิกคนที่หก นายไคบะ ลูกชายเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูกลางเมืองที่มีดีกรีเป็นถึงเชฟประจำร้านอาหาร ความฝันของเขาก็คือการได้เปิดร้านอาหารเป็นของตนเอง และฝีมือระดับอย่างเขา ฝันคงอีกไม่ไกลแน่
สมาชิกคนที่เจ็ด นายวาฟเฟิล ที่เป็นผีดิบหนุ่มรูปหล่อผู้ลึกลับซับซ้อนสมาชิกใหม่ของแก๊ง ผู้มีอิทธิพลที่สุดในโรงเรียน Garrick High School แห่งนี้
.....โปรดติดตามตอนต่อไป.....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ