love mission ภารกิจรัก ทดแทนหัวใจนายจอมกวน
7.7
เขียนโดย พรสิริ
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.13 น.
55 ตอน
8 วิจารณ์
53.39K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 18.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
10)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “หายไปไหนมาวะแกกกกกกก”
นั่นคือเสียงของผู้ชายแสนรักที่เธอได้กอดไปเมื่อตอนเข้าแถวเคารพธงชาติ เขาเข้าสวมกอดเธออีกครั้งด้วยความเป็นห่วงที่เธอไม่มาเรียน1วัน เธอกอดตอบเขาด้วยความคิดถึง เขาคือเพื่อนเพียงคนเดียวที่เธอมีตั้งแต่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ม.1จนถึงปัจจุบัน เขาเป็นเพื่อนที่แสนดีของเธอตลอดมา
“เรื่องมันยาวว่ะแก ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่ายังไงดี”
เธอนั่งลงที่โต๊ะประจำที่เธอและเขานั่งด้วยกันตลอด ม่อน คือเพื่อนคนเดียวที่เธอมีในโรงเรียนแห่งนี้เขาเป็นผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพสตรีสูง เธอแสนเสียดายกับความหล่อมาดเท่ห์ของเขา เธอเคยแอบหวังว่าเขาจะกลับมาเป็นผู้ชายมาดแมนเหมือนกับที่สาวๆหลายคนหวังไว้ แต่โครงการความหวังนั้นคงต้องเก็บพับลงกระเป๋าไปตลอดกาลแล้วล่ะ เพราะโครงการทำนมที่เขาพูดกรอกใส่หูเธอทุกวันมันยิ่งย้ำเตือนว่าโครงการของเธอไม่มีทางเป็นไปได้เลยทั้งในชาตินี้และชาติหน้า แต่ไม่ว่าเพื่อนเธอคนนี้จะเป็นยังไงเธอก็ยังรักเขาเสมอและนี่คือมิตรภาพคำว่าเพื่อนสำหรับเธอ
“งั้นก็เล่าสั้นๆ เกี่ยวกับรถคันหรูที่มาส่งแกรึเปล่า รึว่า!!!! แกมีเสี่ยเลี้ยงยัยข้าว....”
เธอรีบเอามืออุดปากยัยเพื่อนตัวดีแทบไม่ทัน ผู้คนในห้องต่างก็หันมามองเธอเป็นตาเดียวด้วยความอยากรู้ว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยงจริงรึเปล่า
’ยัยม่อน ยัยเพื่อนเลววววว!!!! ทีนี้อย่าได้หวังเลยว่าฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง’
“ฉันจะไม่เล่าอะไรให้แกฟังทั้งนั้น เข้าใจตรงกันนะ”
เธอตัดบทกับเพื่อนรักแบบห้วนๆก่อนจะฟังอาจารย์ที่ปรึกษาพูดทักทายนักเรียนในช่วงโฮมรูม เมื่อเข้าสู่โหมดการเรียนทุกคนในห้องต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนกันหมด ยกเว้นยัยม่อนเพื่อนสาวผู้สอดรู้สอดเห็นเป็นเลิศ ที่เอาแต่ถามว่าเธอเจอเรื่องอะไรมา หญิงสาวต้องใช้ความอดทนสูงที่จะเรียนโดยที่ไม่หันมาจวกเขาสักทีสองทีให้หายหงุดหงิดรำคาญใจ
“นี่แกกกกก...เราไปกินข้าวกันนะ แล้วก็เล่าเรื่องของแกให้ฉันฟังอย่างละเอียดเลยนะ”
“ขอโทษทีนะคะคนสวย คือตอนนี้พี่ไม่มีอารมณ์จะเล่าอะไรทั้งนั้น เข้าใจตรงกันนะ”
หญิงสาวหยิกแก้มใสๆของเขาเล่นแล้วเดินจากไปด้วยท่าทีของผู้มีชัย ทิ้งให้เขายืนตาละห้อยด้วยความอยากรู้ต่อไป
เธอหาซื้อหนังสือเรียนจนครบทุกวิชาด้วยเงินที่ลุงแหมบให้มา สำหรับเธอแล้วเงินจำนวนนี้มันมากเกินไปกับการใช้ชีวิตหนึ่งวันในที่แห่งนี้ แต่สำหรับโรงเรียน High School ที่มีแต่ลูกคนรวยแล้ว มันถือว่าเล็กน้อยมากถ้าเทียบกับค่าเทอมที่คุณหญิงคุณนายต้องจ่ายกันทุกเทอม สำหรับโรงเรียนแห่งนี้เธอถือว่าเป็นแกะดำที่มีอิทธิพลไม่ใช่น้อย เพราะเธอคือเด็กฝากของเจ้าของโรงเรียน เธอจึงมีสิทธิเรียนที่นี่ได้จนกว่าจะจบ ม.ปลาย นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนกับเขาสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่เคยยอมให้พวกลูกคุณหนูทั้งหลายมาโขกสับเธอได้ง่ายๆ เธอจึงได้ฉายาว่า ยัยปีศาจยากจน เธอคงจะคุ้นชินกับสิ่งที่ทุกคนเรียกซะแล้วเพราะเธอต้องทนอยู่กับคำนี้มาตั้งแต่ม.1 อย่างไรซะชีวิตในโรงเรียนแห่งนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปสำหรับเธอ
“นี่แกไปไหนมาฮะ ฉันรอตั้งนาน ข้าวเย็นหมดแล้วเนี่ย”
หญิงสาวเดินกลับมาที่โต๊ะอาการโต๊ะประจำที่เธอใช้นั่งกินข้าวกับเพื่อนรักของเธอ เขามักจะซื้อข้าวเผื่อเธอเสมอหากเธอลงมาช้ากว่าเขา และเธอก็จะทำเช่นเดียวกันหากว่าเขาลงมาช้ากว่าเธอ
“ขอโทษๆๆ พอดีไปซื้อหนังสือมาว่ะ หนักมาก”
“แล้วของเก่าไปไหน ฉันเห็นแกถนอมหนังสือจะตาย”
หญิงสาวเศร้าขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงมุมหนังสือเล็กๆที่บ้านของเธอ หนังสือทุกเล่มที่เธอเก็บรักษาไว้อย่างดี เป็นสมบัติชิ้นเล็กๆที่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับเธอ
’ตอนนี้เจ้าของบ้านคนใหม่คงเก็บพวกมันขายไปหมดแล้วซินะ’
“กินข้าวๆ นั่งเหม่ออยู่ได้ เดี๋ยวก็ขึ้นเรียนไม่ทัน”
เสียงของยัยม่อนเรียกสติให้เธอกลับมาอยู่กับปัจจุบันที่เป็นของเธอ
วันทั้งวันเธออยู่กับการตั้งใจเรียนเพราะเธอไม่รู้ว่าชีวิตเธอจะพลิกผันไปทางไหนอีก วันนี้เธอยังโชคดีที่มีโอกาสได้มาเรียนเธอจึงอยากตั้งใจเรียนให้คุ้มกับโอกาสที่เธอได้รับมา แต่หากวันต่อไปเธอต้องเจอเรื่องเลวร้ายมากกว่าที่ผ่านมา โอกาสแบบนี้คงไม่มีเป็นครั้งที่สองแน่ๆ
“ทำไมวันนี้ดูแกตั้งใจเรียนผิดปกติวะยัยข้าว”
เพื่อนรักของเธอสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเธอจึงถามด้วยความสงสัย ในหัวของเขาตอนนี้มีคำถามนับร้อยที่อยากจะถามออกไปใจจะขาด แต่เมื่อเพื่อนรักของเขาไม่เต็มใจที่จะเล่าเขาก็เลือกที่จะไม่อยากรู้ดีกว่า เพื่อความสบายใจของตัวเขาเองและเพื่อนที่เขารัก
“ฉันก็ตั้งใจเรียนแบบนี้ทุกวัน แกไม่สังเกตเห็นเองมากกว่า”
มันคือคำตอบเลี่ยงๆที่เขานึกไว้ในใจอยู่แล้ว จึงไม่ได้ซักไซ้อะไรอีก
“วันนี้แกว่างไหมวะ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
เขาอยากจะชวนเธอออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างเพราะคิดว่าเธอคงมีปัญหากับทางบ้านมาแน่นอน อย่างน้อยแค่เห็นเธออารมณ์ดีขึ้นบ้างก็พอ
“ขอโทษนะคนสวย ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเวลาเลย”
เธออยากไปกับเขาใจจะขาด แต่เธอตกลงกับนายผีดิบเอาไว้แล้ว เธอจะทำให้เขาโกรธอีกไม่ได้เพื่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่ค่อยจะมีของเธอ
“ยัยม่อน แกอย่าโกรธฉันเลยนะช่วงนี้ฉันไม่ว่างจริงๆนะแก”
“ฉันรู้ๆ เอาไว้ถ้าแกอยากระบายก็เล่าให้ฉันฟังนะ”
หญิงสาวรู้สึกซึ้งใจกับความห่วงใยของเพื่อนคนเดียวที่เธอมี เธออยากจะเล่าให้เขาฟังใจจะขาด แต่มันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้เธอยังทำใจไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เธอบอกลาเพื่อนสาวอย่างเศร้าๆแล้วเดินออกมาจากห้องเรียน เธออยากจะไปนั่งคุยกับพ่อเธอเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่สามารถไปไหนได้เพราะลุงแหมบได้เข้ามารอรับเธอถึงในโรงเรียนตามคำสั่งของคุณหนูจอมบงการ
’คงกลัวว่าฉันจะหนีซินะ!!! รอบคอบจริงๆ แต่อย่าเผลอแล้วกันนายผีดิบ’
.....โปรดติดตามตอนต่อไป.....
นั่นคือเสียงของผู้ชายแสนรักที่เธอได้กอดไปเมื่อตอนเข้าแถวเคารพธงชาติ เขาเข้าสวมกอดเธออีกครั้งด้วยความเป็นห่วงที่เธอไม่มาเรียน1วัน เธอกอดตอบเขาด้วยความคิดถึง เขาคือเพื่อนเพียงคนเดียวที่เธอมีตั้งแต่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ม.1จนถึงปัจจุบัน เขาเป็นเพื่อนที่แสนดีของเธอตลอดมา
“เรื่องมันยาวว่ะแก ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่ายังไงดี”
เธอนั่งลงที่โต๊ะประจำที่เธอและเขานั่งด้วยกันตลอด ม่อน คือเพื่อนคนเดียวที่เธอมีในโรงเรียนแห่งนี้เขาเป็นผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพสตรีสูง เธอแสนเสียดายกับความหล่อมาดเท่ห์ของเขา เธอเคยแอบหวังว่าเขาจะกลับมาเป็นผู้ชายมาดแมนเหมือนกับที่สาวๆหลายคนหวังไว้ แต่โครงการความหวังนั้นคงต้องเก็บพับลงกระเป๋าไปตลอดกาลแล้วล่ะ เพราะโครงการทำนมที่เขาพูดกรอกใส่หูเธอทุกวันมันยิ่งย้ำเตือนว่าโครงการของเธอไม่มีทางเป็นไปได้เลยทั้งในชาตินี้และชาติหน้า แต่ไม่ว่าเพื่อนเธอคนนี้จะเป็นยังไงเธอก็ยังรักเขาเสมอและนี่คือมิตรภาพคำว่าเพื่อนสำหรับเธอ
“งั้นก็เล่าสั้นๆ เกี่ยวกับรถคันหรูที่มาส่งแกรึเปล่า รึว่า!!!! แกมีเสี่ยเลี้ยงยัยข้าว....”
เธอรีบเอามืออุดปากยัยเพื่อนตัวดีแทบไม่ทัน ผู้คนในห้องต่างก็หันมามองเธอเป็นตาเดียวด้วยความอยากรู้ว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยงจริงรึเปล่า
’ยัยม่อน ยัยเพื่อนเลววววว!!!! ทีนี้อย่าได้หวังเลยว่าฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง’
“ฉันจะไม่เล่าอะไรให้แกฟังทั้งนั้น เข้าใจตรงกันนะ”
เธอตัดบทกับเพื่อนรักแบบห้วนๆก่อนจะฟังอาจารย์ที่ปรึกษาพูดทักทายนักเรียนในช่วงโฮมรูม เมื่อเข้าสู่โหมดการเรียนทุกคนในห้องต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนกันหมด ยกเว้นยัยม่อนเพื่อนสาวผู้สอดรู้สอดเห็นเป็นเลิศ ที่เอาแต่ถามว่าเธอเจอเรื่องอะไรมา หญิงสาวต้องใช้ความอดทนสูงที่จะเรียนโดยที่ไม่หันมาจวกเขาสักทีสองทีให้หายหงุดหงิดรำคาญใจ
“นี่แกกกกก...เราไปกินข้าวกันนะ แล้วก็เล่าเรื่องของแกให้ฉันฟังอย่างละเอียดเลยนะ”
“ขอโทษทีนะคะคนสวย คือตอนนี้พี่ไม่มีอารมณ์จะเล่าอะไรทั้งนั้น เข้าใจตรงกันนะ”
หญิงสาวหยิกแก้มใสๆของเขาเล่นแล้วเดินจากไปด้วยท่าทีของผู้มีชัย ทิ้งให้เขายืนตาละห้อยด้วยความอยากรู้ต่อไป
เธอหาซื้อหนังสือเรียนจนครบทุกวิชาด้วยเงินที่ลุงแหมบให้มา สำหรับเธอแล้วเงินจำนวนนี้มันมากเกินไปกับการใช้ชีวิตหนึ่งวันในที่แห่งนี้ แต่สำหรับโรงเรียน High School ที่มีแต่ลูกคนรวยแล้ว มันถือว่าเล็กน้อยมากถ้าเทียบกับค่าเทอมที่คุณหญิงคุณนายต้องจ่ายกันทุกเทอม สำหรับโรงเรียนแห่งนี้เธอถือว่าเป็นแกะดำที่มีอิทธิพลไม่ใช่น้อย เพราะเธอคือเด็กฝากของเจ้าของโรงเรียน เธอจึงมีสิทธิเรียนที่นี่ได้จนกว่าจะจบ ม.ปลาย นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนกับเขาสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่เคยยอมให้พวกลูกคุณหนูทั้งหลายมาโขกสับเธอได้ง่ายๆ เธอจึงได้ฉายาว่า ยัยปีศาจยากจน เธอคงจะคุ้นชินกับสิ่งที่ทุกคนเรียกซะแล้วเพราะเธอต้องทนอยู่กับคำนี้มาตั้งแต่ม.1 อย่างไรซะชีวิตในโรงเรียนแห่งนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปสำหรับเธอ
“นี่แกไปไหนมาฮะ ฉันรอตั้งนาน ข้าวเย็นหมดแล้วเนี่ย”
หญิงสาวเดินกลับมาที่โต๊ะอาการโต๊ะประจำที่เธอใช้นั่งกินข้าวกับเพื่อนรักของเธอ เขามักจะซื้อข้าวเผื่อเธอเสมอหากเธอลงมาช้ากว่าเขา และเธอก็จะทำเช่นเดียวกันหากว่าเขาลงมาช้ากว่าเธอ
“ขอโทษๆๆ พอดีไปซื้อหนังสือมาว่ะ หนักมาก”
“แล้วของเก่าไปไหน ฉันเห็นแกถนอมหนังสือจะตาย”
หญิงสาวเศร้าขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงมุมหนังสือเล็กๆที่บ้านของเธอ หนังสือทุกเล่มที่เธอเก็บรักษาไว้อย่างดี เป็นสมบัติชิ้นเล็กๆที่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับเธอ
’ตอนนี้เจ้าของบ้านคนใหม่คงเก็บพวกมันขายไปหมดแล้วซินะ’
“กินข้าวๆ นั่งเหม่ออยู่ได้ เดี๋ยวก็ขึ้นเรียนไม่ทัน”
เสียงของยัยม่อนเรียกสติให้เธอกลับมาอยู่กับปัจจุบันที่เป็นของเธอ
วันทั้งวันเธออยู่กับการตั้งใจเรียนเพราะเธอไม่รู้ว่าชีวิตเธอจะพลิกผันไปทางไหนอีก วันนี้เธอยังโชคดีที่มีโอกาสได้มาเรียนเธอจึงอยากตั้งใจเรียนให้คุ้มกับโอกาสที่เธอได้รับมา แต่หากวันต่อไปเธอต้องเจอเรื่องเลวร้ายมากกว่าที่ผ่านมา โอกาสแบบนี้คงไม่มีเป็นครั้งที่สองแน่ๆ
“ทำไมวันนี้ดูแกตั้งใจเรียนผิดปกติวะยัยข้าว”
เพื่อนรักของเธอสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเธอจึงถามด้วยความสงสัย ในหัวของเขาตอนนี้มีคำถามนับร้อยที่อยากจะถามออกไปใจจะขาด แต่เมื่อเพื่อนรักของเขาไม่เต็มใจที่จะเล่าเขาก็เลือกที่จะไม่อยากรู้ดีกว่า เพื่อความสบายใจของตัวเขาเองและเพื่อนที่เขารัก
“ฉันก็ตั้งใจเรียนแบบนี้ทุกวัน แกไม่สังเกตเห็นเองมากกว่า”
มันคือคำตอบเลี่ยงๆที่เขานึกไว้ในใจอยู่แล้ว จึงไม่ได้ซักไซ้อะไรอีก
“วันนี้แกว่างไหมวะ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
เขาอยากจะชวนเธอออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างเพราะคิดว่าเธอคงมีปัญหากับทางบ้านมาแน่นอน อย่างน้อยแค่เห็นเธออารมณ์ดีขึ้นบ้างก็พอ
“ขอโทษนะคนสวย ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเวลาเลย”
เธออยากไปกับเขาใจจะขาด แต่เธอตกลงกับนายผีดิบเอาไว้แล้ว เธอจะทำให้เขาโกรธอีกไม่ได้เพื่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่ค่อยจะมีของเธอ
“ยัยม่อน แกอย่าโกรธฉันเลยนะช่วงนี้ฉันไม่ว่างจริงๆนะแก”
“ฉันรู้ๆ เอาไว้ถ้าแกอยากระบายก็เล่าให้ฉันฟังนะ”
หญิงสาวรู้สึกซึ้งใจกับความห่วงใยของเพื่อนคนเดียวที่เธอมี เธออยากจะเล่าให้เขาฟังใจจะขาด แต่มันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้เธอยังทำใจไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เธอบอกลาเพื่อนสาวอย่างเศร้าๆแล้วเดินออกมาจากห้องเรียน เธออยากจะไปนั่งคุยกับพ่อเธอเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่สามารถไปไหนได้เพราะลุงแหมบได้เข้ามารอรับเธอถึงในโรงเรียนตามคำสั่งของคุณหนูจอมบงการ
’คงกลัวว่าฉันจะหนีซินะ!!! รอบคอบจริงๆ แต่อย่าเผลอแล้วกันนายผีดิบ’
.....โปรดติดตามตอนต่อไป.....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ