▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼(YAOI)

9.6

เขียนโดย AMINOKOONG

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.25 น.

  20 ตอนที่
  10 วิจารณ์
  34.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 21.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼(YAOI) : ตอนที่6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼
ตอนที่6 : แก้เผ็ด“ซ้ายอีก.........อีกนิดนึง”“.................อ่าส์...........นั่นแหละ”“เอ่อ...........เยื้องๆมาหน่อยดิว่ะ...........อืม............”“ขวาหน่อย.................มันเอียงไปว่ะ................อ่ะ......กำลังดีเลย”ผมได้แต่เตือนกับตัวเองอยู่ในใจว่า ‘เย็นไว้นะเป้.....เย็นไว้ก่อน’ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็หลังจากที่น้องผมหายดีฟื้นได้สติแล้วหมอให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านเองได้ผมเลยต้องมาทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับไอ้หื่น หรือที่มารู้ชื่อทีหลังว่ามันชื่อกวินเป็นนักศึกษาคณะวิศวะกรรมศาสตร์ ปี2 มหาลัยเดียวกับผมนั่นแหละก็มันเล่นโทรมาจิกทุกวัน ผมก็ได้แต่บอกเหตุผลว่าน้องไม่สบายแต่มันก็ไม่เชื่อผมเลยให้มันมาหาที่โรงพยาบาล มันเลยบอกว่าถ้าน้องหายแล้วให้โทรบอกมัน ห้ามลืมย้ำยังกะผมเป็นลูกหนี้มันงั้นแหละสรุปแล้วมันให้ผมเป็นเบ๊ คอยรับใช้ ดูแล และทำตามคำสั่งของมันตอนแรกมันขอไว้1เดือนแต่เรื่องอะไรผมจะยอมก็ในเมื่อผมไม่ได้ผิดซักหน่อยมันเป็นคนหาเรื่องผมก่อนด้วยซ้ำ ผมเลยบอกมันไปว่าให้ได้แค่2อาทิตย์ตกลง กันอยู่นาน สุดท้ายมันก็เลยยอม ที่ผมต้องทำเพราะผมเป็นคนบอกมันเองว่าจะยอมให้มันทำอะไรผมก็ได้เพื่อเป็นการ แก้แค้น มันจะได้เลิกยุ่งกับผมซักทีและผมเป็นคนรักษาสัญญาพออะไรที่ยอมได้ก็ยอมเพราะไม่อยากมีปัญหาและอีกเหตุผลคือรำคาญที่มันชอบมาตอแยแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ในขอบเขตที่ตกลงกันไว้ เพราะถ้ามากเกินไปนั้นก็ต้องไฟท์กันซักหน่อย“โอ๊ย! จะอะไรนักหนามาทำเองเลยมา นี่มันแกล้งกันชัดๆ” ในที่สุดความอดทนผมก็หมดลงจนต้องระเบิดออกมา ส่วนมันก็ได้แต่ยืนหัวเราะสะใจที่สามารถแกล้งผมได้“อะไร อย่ามา ไหนบอกว่าจะยอมทำตามคำสั่งไงว่ะ เหอะ ที่แท้เมิงก็ดีแต่ปาก ผิดคำพูด”ดูมันยังมีหน้ามาแขวะผมอีกนะ“ก็เลิกแกล้งซักที มันหนักนะ สรุปจะให้วางโต๊ะตัวนี้ตรงไหนกันแน่”ผมบ่นพร้อมทำหน้ามุ่ยยืนแบกโต๊ะเล็กๆที่มันซื้อมาใหม่เมื่อวานอยู่ตรงหัวมุมห้องครัวที่คอนโดมัน จะไม่ให้ผมบ่นว่ามันแกล้งได้ไงก็เล่นโทรมาปลุกตั้งแต่ตีห้าบอกอยาก กินโจ๊กหน้าปากซอยคอนโดมันทั้งยังเข้ามาเห็นมันกำลังเล่นบทรสรักเริง สวาทอย่างที่พริกถึงขิงกับผู้หญิงที่มันคงหิ้วมาจากที่ไหนซักแห่งที่โซฟาอีกในเมื่อมันไม่อายแล้วเรื่องไรผมจะต้องแคร์ก็ปล่อยให้มันทำเริงรักกันให้เสร็จส่วนผมแค่เทโจ๊กใส่ชามให้มันและจะขอตัวกลับแต่มันกับบอกให้ผมอยู่เก็บห้องให้บอกได้โต๊ะมาใหม่ ช่วยหาที่วางให้ด้วยแล้วไล่ให้ผู้หญิงของมันกลับไปก่อน ดูมันทำสิครับ โคตรจะแมนเลยยังดีที่วันนี้ผมมีเรียนตอนบ่าย และนี่ก็เข้าวันที่สี่แล้วสำหรับการเป็นเบ๊ของมันเฮ้อ! เล่ามาแล้วก็เหนื่อยกับการับมือกับมันจริงๆเลยครับ“เออๆ งั้นก็วางไว้ตรงนั้นแหละ” มันบอกก่อนจะเดินเข้ามาหาผม“ก็ แค่เนี๊ยะ เสร็จแล้วใช่ม่ะ งั้นผมกลับล่ะนะ เดี๋ยวต้องรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไปเรียนตอนบ่ายอีก เฮ้ย!........” ผมบ่นเบาๆ ก่อนจะหันไปถามมัน ก็พบว่าตอนนี้มันมายืนซ้อนท้ายผมอยู่“เอ่อ.......ถ้าจะชิดขนาดนี้ไมไม่สิงร่างกันเลยล่ะ” ผมถามอย่างประชดก่อนจะผลักมันออกเบาๆ“ไม่ต้องกลับหรอก อาบที่นี่ก็ได้ นี่ก็จะ10โมงแล้ว ต้องขับรถวนไปวนมาเดี๋ยวก็ไม่ทันกันพอดีอ้อ.....กูไม่ได้เป็นห่วงหรอกนะ แค่รำคาญเวลาเมิงบ่น เดี๋ยวก็มาแขวะหาว่ากูเป็นต้นเหตุอีก”มันพูดเองเออเองจัดการเองแบบเสร็จสรรพ“เออ ก็ได้ งั้นเดี๋ยวลงไปเอาชุดที่รถก่อนแป๊บนึง” ผมบอกมันก่อนจะลงไปเอาชุดที่รถติ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆพอ ผมขึ้นมาบนห้องกำลังจะเดินไปอาบน้ำในห้องนอนของมันก็มีเสียงออดหน้าห้อง ผมหันไปมองก็ยังเห็นมันนั่งดูทีวีไม่สนใจ แถมยังหันมามองหน้าผมประมาณว่า เมิงก็ไปเปิดประตูสิผมเลยจำใจต้องเดินไปประตูให้แขกของมัน“วิ นขา ทำไมไม่โทรหาเชอร์รี่เลยล่ะค่ะ” จู่ๆแม่นางเชอร์รี่ก็กระโจนเข้ามากอดผมแน่นจนแทบหงายหลัง เอ่อ...จะลืมตามาดูหน่อยมั๊ย ว่ากูไม่ใช่วินขาของเมิง“โทษนะครับ ผมไม่ใช่...........” ผมผลักเธอออก กำลังจะบอกว่าไม่ใช่ไอ้หื่นนั่น พอนางเห็นหน้าผมก็แว้ดๆๆใส่ทันที“ว้าย!.....นี่แกเป็นใครเนี่ย แล้วมาอยู่ในห้องวินขาของชั้นได้ไง”“เอ่อ...คือ.........”“หลีก ไปสิย่ะ............วินขา วิน คุณอยู่ไหนค่ะ” ผมยังไม่ได้ตอบอะไรนางก็ผลักผมที่ยืนขวางประตูออกแล้วถือวิสาสะเดินเข้าไปใน ห้องหน้าตาเฉย ผู้หญิงอะไรมารยาทดีมากเลยอ่ะ สงสัยคงจะเป็นคู่ขาอีกคนของไอ้หื่นล่ะสิท่า“เสียงเอะอะ อะไรกันว่ะ.........อ้าว เชอร์รี่ มาได้ไงค่ะ” ไอ้หื่นแหกปากโวยวาย แต่พอเห็นยัยเชอร์รี่เท่านั้นแหละเสียงอ่อนเสียงหวานใส่เชียวนะ ชิ! หมั่นไส้  “วินขา นั่นใครเหรอค่ะ” นางออเซาะถามไอ้หื่นก่อนจะชี้นิ้วมาที่ผม“อ๋อ เพื่อนผมเองน่ะครับ” มันตอบพร้อมก้มลงหอมแก้มแม่ตะขบ  เอ๊ย! แม่เชอร์รี่นั่นพร้อมหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ผม ประมาณว่า กูแน่ป่ะล่ะผม ได้แต่ส่ายหน้าเอือมๆไปให้ และกำลังจะหันหลังเดินกลับไปอาบน้ำ แต่สงสัยว่าสวรรค์เป็นใจหรือไม่ก็เข้าข้างผมแน่ๆ เพราะผมดันเหลือบไปเห็นยกทรงลายเสือหล่นอยูใต้โซฟา ผมจึงส่งยิ้มเพชฌฆาตไปให้ไอ้หื่นมัน แอบเห็นมันผงะไปนิดนึง ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไป แล้วก้มเก็บยกทรงนั่นขึ้นมาชูให้สองคนนั้นเห็น“เอ่อ...นี่ ใช่ของคุณเชอร์รี่รึป่าวครับ” ผมถามนางพร้อมทำหน้าแอ๊บแบ๊ว ไร้เดียงสาไปให้ นางหันไปทำตาเขียวใส่ไอ้หื่นที่ยืนกัดฟันกรอดๆพร้อมมองมาที่ผมอย่างแค้น เคือง“ไม่ใช่ นี่มันไม่ใช่ของชั้น..........นี่มันอะไรกันค่ะวิน บอกเชอรร์รี่มาเดี๋ยวนี้นะ” นางตอบผมก่อนจะหันไปตวาดใส่ไอ้หื่น“เอ่อ ถ้าไม่ใช่ของคุณเชอร์รี่ งั้นคงจะเป็นของผู้หญิงที่....................อุปส์.” ผมแสร้งทำเป็นตกใจพร้อมยกมือขึ้นมาปิดปาก ส่วนไอ้หื่นได้แต่ยืนแข็งทื่อเป็นก้อนหิน“ผู้หญิงๆ ที่ไหน บอกชั้นมานะ บอกมาให้หมด” นางพยายามคาดคั้น ส่วนผมก็แกล้งทำเป็นลำบากใจที่จะบอก“ไม่ มีไรหรอกค่ะ หญิง เหยิง อะไร ไม่มี๊  อย่าไปฟังมันเลย วันนี้เชอร์รี่อยากไปไหนบอกวินได้เลยค่ะ วินตามใจทุกอย่าง” มันแถไปเรื่อย ลื่นเป็นปลาไหลจริงๆ“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะคะวิน  ว่าไงสรุปว่ามันเป็นของใคร” นางหันไปแว้ดใส่ไอ้หื่นที่ยืนยิ้มเจื่อนอยู่ข้างๆก่อนจะหันมาคาดคั้นผมต่อ“เอ่อ...คือ .....เมื่อเช้าผมมาหาวิน แล้วเห็นเค้ากำลังเล่นหนังสดกับผู้หญิงคนนึงบนโซฟา ซ้วยสวย แถมยังอกตูมอีกต่างหาก.........อุปส์.......อ่อย ไอ้ อื่น(ปล่อยไอ้หื่น)” ผมยังพูดไม่จบไอ้หื่นมันก็เดินมากระชากแขนผมพร้อมเอามือปิดปากผมไว้ซะแรงเลยหลังจากนั้นแม่นางเชอร์รี่ก็เข้ามากระชากแขนผมออกพร้อมทั้งประทานฝ่ามือลงบนใบหน้าเพี๊ยะ!หน้า ไอ้หื่นหันไปตามแรงตบของยัยเชอร์รี่ ส่วนนางก็ร้องไห้สะอื้น แต่จะว่ายังไงดีล่ะ ผมก็สงสารนะ แต่ดีกว่าให้นางโดนหลอกแบบนี้ต่อไป ผู้ชายเจ้าชู้มักมากแบบนี้แค่โดนตบมันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ“เชอร์รี่ ฟังผมก่อน เชอร์รี่............เดี๋ยวกูจะกลับมาจัดการกับมึง”ไอ้ หื่นตะโกนตามเชอร์รี่ที่วิ่งออกไปจากห้องก่อนจะหันมาชี้หน้าคาดโทษผมแล้ว วิ่งตามน้องเชอร์รี่ของมันออกไป ส่วนผมน่ะเหรอ ใครจะบ้าอยู่รอให้มันกลับมากินหัวล่ะครับผมเลยแอบออกไปทางบันไดหนีไฟตอนที่ มันวิ่งไปตามยัยเชอร์รี่ แอบสะใจนิดๆ ได้แก้เผ็ดคน สมน้ำหน้าไอ้หื่นมัน อยากเจ้าชูดีนัก ต้องให้มันได้รับบทเรียนซะบ้าง++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++“โอ๊ย! โคตรเหนื่อยเลยว่ะ จารย์แมร่งก็สั่งแต่งานๆๆๆ จนจะกองท่วมหัวกูอยู่ล่ะ” หลังจากที่อาจารย์ออกไปจากคลาส อิเจ๊มันก็แหกปากบ่นออกมา“ไอ้ที่กองท่วมหัวน่ะ เพราะเมิงไม่ทำเองรึป่าวว่ะ กูเห็นวันๆเมิงเอาแต่ส่องหนุ่มๆอยู่นั่นแหละ” นาวมันทนไม่ไหวจึงแขวะอิเจ๊ขึ้นมา“หุบ ปากของเมิงไปเลยอินาว หนอยยยยยยย ว่าแต่กู แล้วใครล่ะชี้ให้กูดูหนุ่มคนนั้นน่ารัก อุ๊ย!น้องคนนี้นากิน ห๊า!” อิเจ๊แว้ดใส่นาว พร้อมทำบีบเสียงเล็กเสียงน้อยใส่มัน“พอเถอะ พวกแกสองคนนี่ กัดกันอยูนั่นแหละ รีบเก็บของเถอะชั้นหิวจนไส้จะขาดอยูแล้วเนี่ย”ในที่สุดจอยก็ทนไม่ไหวห้ามศึก น้ำลายครั้งนี้ได้ทัน“กูเสร็จล่ะ ไอ้เปอร์ ไอ้เอก เสร็จยังว่ะ เร็วๆหน่อยเดี๋ยวคุณจอยจะแดกหัวเอานะเมิง” ผมเรียกมันสองคนแต่ก็แอบแซวจอยไปด้วยเลยได้ค้อนกลับมาอันเบ่อเริ่ม“ชิ! ไม่ต้องมาแซวชั้นเลย ป่ะๆ ไปกันเถอะ”จอยแอบค้อนก่อนจะเร่งพวกที่เหลือ“เออแล้วน้องป๊อบเป็นไงมั่งว่ะ ตั้งแต่ออกจากโรงบาลพวกกูยังไม่ได้เจอน้องมันเลย”สรุป แล้ววันนี้เราก็ตกลงมากินอาหารญี่ปุ่นแถวๆทองหล่อกัน ก็สั่งของมาเยอะแยะตามประสาคนหิวจัด แล้วพออาหารมาวางเต็มโต๊ะได้ซักพัก ไอ้เปอร์มันก็ถามขึ้น คือตอนที่น้องป่วยยังไม่ฟื้นอยู่โรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ พวกมันก็ไปเยี่ยมทุกวันเลย คอยส่งเข้าส่งน้ำ เอาชีท เอาเลทเชอร์มาให้ คอยมานั่งพูดคุย ให้กำลังใจผมตลอด เลยทำให้ผมหายเครียดไปได้บ้างในช่วงนั้น“ก็ หายเป็นปกติแล้วล่ะ แต่กูไม่อยากให้น้องกลับไปอยู่คนเดียวเลยให้ย้ายมาอยู่คอนโดกับกู เพราะอีกไม่กี่เดือนน้องกูก็จะจบแล้ว เลยกะจะให้สอบเข้าที่มอเราเนี่ย” ผมตอบมันไปพลางคีบซาซิมิชิ้นโตเข้าปาก“ดีเลยๆ มาอยู่ใกล้ๆเนี่ยแหละ เดี๋ยวอิเจ๊จะดูแลน้องมันให้เอง” พอรู้ว่าน้องผมจะสอบเข้าที่มอเราอิเจ๊ก็กระดี๊กระด๊าใหญ่  มันน่ะชอบน้องผมมาก บอกว่าหล่อ เพอร์เฟค แต่ผมก็รู้ล่ะครับว่ามันก็แซวๆเล่นพอให้หัวใจกระชุ่มกระชวยไปงั้นแหละ“ไม่ ต้องเลยอิเจ๊ กูจะดูและน้องมันเอง รับรองว่ายุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม กูจะเก็บไว้ดอมดมคนเดียว คริๆๆ” นาวมันแทรกขึ้นพร้อมทำหน้าเพ้อฝัน“ตะนาวศรีจ๊ะ กรุณาสงบเสงี่ยมให้สมกับเป็นกุลสตรีไทยหน่อยสิจ๊ะ” ไอ้เอกที่นั่งเงียบอยู่นาน ก็แทรกขึ้นมาขัดจังหวะการเพ้อของนาวมัน“หุบ ปากไปเลยอีเอก ชั้นชื่อพัชรศรีย่ะ กรุณาเรียกให้ถูก แล้วนับวันแกยิ่งจะปากคอเราะร้ายขึ้นมากไปแล้วนะ แกแมนจริงป่าวเนี่ยหรือว่ะแอ๊บห๊า อย่าให้ชั้นรู้นะว่าแกแอบไปเป็นเมียใครเค้า” นาวหันไปแว๊ดใส่ไอ้เอกที่นั่งข้างๆ พร้อมฉกซูชิที่เอกมันกำลังจะคีบไปหน้าตาเฉย“แอ๊บเอิ๊บ อะไรกัน กูแมนเว้ย แมนร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเมิงจะลอง” เอกมันทำท่าเบ่งกล้ามพร้อมแกล้งจะหันไปหอมแก้มนาว“อี๋ ย์...อีเอกไปไกลๆเลย อย่างแกมันไม่เหมาะจะเป็นผัวใครหรอก ต้องเป็นเมียๆๆๆเท่านั้น ชั้นขอแช่งให้แกได้ผัวเอาล่ำๆ กล้ามใหญ่ๆเลย คอยดู” นาวทำท่าขยะแขยง พร้อมผลักหน้าเอกออกจากตัว เรียกเสียงฮาได้ทั้งโต๊ะ“เห็น แกยิ้ม หัวเราะได้ก็ดีใจล่ะ รู้มั๊ย เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา หน้าแกเหมือนคนอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา พวกเราทุกคนเป็นห่วงแกมากเลยนะ” เปอร์ที่นั่งข้างๆก็หันมาบอกพร้อมทั้งยังจับมือแล้วบีบมันเบาๆเป็นการให้ กำลังใจผม“ขอบใจมากว่ะ ขอบใจพวกแกทุกคนด้วยนะที่เป็นห่วง และอยู่ข้างๆกันเสมอ”  ผมเอามืออีกข้างไปกุมมือเปอร์มันไว้พร้อมทั้งบีบกลับเบาๆ แล้วหันไปยิ้มขอบใจให้กับทุกคนบนโต๊ะ“จะดราม่ากันอีกนานมั๊ย ชั้นจะร้องไห้แล้วนะ อะไรกัน ฟังสองคนนี้ทะเลาะกันอยู่ดีๆดันลากมาดรา ม่าซะงั้น” จอยทักขึ้นขำๆ แต่ผมแอบเห็นนะ ว่ามันแอบน้ำตาคลอด้วย ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพวกมันเป็นห่วงผมขนาดไหน ก็เล่นโทรหาผมแทบทุกชั่วโมง ถ้าไม่ได้กำลังใจจากพวกมันผมคงแย่ไปแล้วเหมือนกัน“เออๆ กินๆๆ เดี๋ยวมื้อนี้กูเลี้ยงเอง” ผมบอกแล้วไปเท่านั้นแหละพวกมันก็เฮกันใหญ่ แถมเรียกพนักงานมาสั่งเพิ่มอีก“เย็น แล้วเดี๋ยวกูขับรถตามไปส่งนะ” สรุปมื้อนี้ผมจ่ายไปหมื่นนิดๆ ซื้อกลับบ้านไปฝากน้องด้วย กินเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ พอผมกำลังจะขึ้นรถเปอร์ก็เดินเข้ามาหา“ไม่เป็นไร กูกลับเองได้ ไม่ต้องห่วง” ผมบอกมันไปก่อนจะยกมือไล่ให้ไปที่รถของของมัน“แต่กูเป็นห่วงนี่หว่า คราวก่อนก็แก คราวนี้ก็น้อง ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปพวกมันจะเล่นงานใครอีก”“เอาะเถอะน่า กูมือปืน แล้วอีกอย่าง มันคงไม่กล้าทำอะไรในช่วงนี้หรอก ”ผม บอกมันไป ก่อนจะชูปืนให้มันดู มันจึงพยักหน้าแล้วยอมกลับไปที่รถตัวเอง พวกเพื่อนในกลุ่มทุกคนก็พอจะรู้เรื่องราวในครอบครัวผม แต่ผมก็ไม่อยากให้พวกมันมายุ่งด้วย กลัวพวกมันจะเดือดร้อนกันพอผมขึ้นมาในรถโทรศัพท์เจ้ากรรมก็แผดเสียงร้อง กะว่าจะรับแต่ก็ไม่ทัน กดดูหน้าจอ 37 มิสคอลจากไอ้หื่น พอจะสตาร์ทรถ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกRTtttttttttttttttttttttttttttttt   แค่เห็นเบอร์ผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เลย(ไอ้แสบ ทำไมเมิงรีบกลับแล้วกูโทรหาทั้งวันทำไมไม่รับสาย ห๊า!) ไอ้หื่นโทรมาแทบตะคอกเสียงดังจนผมต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู“เอ่อ...โทษที พอดีลืมโทรศัพท์ไว้ในรถอ่ะ แล้วที่รีบกลับเพราะเดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน”ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เผื่อมันจะใจเย็นขึ้นบ้าง(กูยังไม่ได้ชำระความเรื่องเมื่อเช้าเลยนะ)“อะไร ใช่ความผิดผมซะที่ไหน ผมแค่พูดไปตามความจริง ก็นึกว่าผู้หญิงของนายทุกคนเข้ารู้จักกันซะอีก” พอนึกถึงเรื่องเมื่อเช้านี้ทำให้ผมต้องแอบอมยิ้มไปด้วย สะใจเป็นบ้าเลย(ไม่ต้องพูดมาก มาหากูที่คอนโดเดี๋ยวนี้เลย)“เห็นทีจะไม่ได้อ่ะ พอดีต้องทำรายงานกับเพื่อน งานด่วนส่งพรุ่งนี้  เออ......รู้แล้ว เดี๋ยวไป  นายๆ แค่นี้ก่อนนะเพื่อนมันมาตามแล้ว”ผม แกล้งเอาโทรศัพท์ออกห่างๆเอามือป้องไว้แล้วทำทีเป็นตะโกน เหมือนคุยอยู่กับเพื่อน หึๆๆ รู้จักกูน้อยไปซะแล้ว แอ็คติ้งเริ่ดสมกับเรียนนิเทศจริงๆเลยเรา(อย่ามาตอแหล กูไม่เชื่อ เมิงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้น เมิงโดนแน่)“โดน อะไร ห๊า จะทำอะไรผมอีก ก็บอกว่าทำรายงานๆๆๆ หัดมีเหตุผลซะบ้างสิ ถ้าผมเรียนไม่จบนายจะรับผิดชอบมั๊ย อย่าเอาเรื่องไรสาระบ้าบอๆมาทำให้อนาคตของคนอื่นเค้าต้องดิ่งลงเหวสิว่ะ”  (..................................)“..........................”(...........โทษ)“อะไรนะ” ผมถามมัน เพราะมันพูดเสียงเบาหวิว(ขอโทษ แต่เรื่องเมื่อเช้ายังไงเมิงก็ต้องรับผิดชอบ แค่นี้นะ)มัน ตะคอกกลับมาหูแทบแตกแถมพูดซะเร็วแล้วรีบวางสายไปเลย อะไรของมันว่ะ แต่เอ๊ะ! เมื่อกี้มันว่าไงนะ ขอโทษเหรอ  คนอย่างไอ้หื่นมันพูดขอโทษคนอื่นเป็นด้วยเหรอเนี่ย พอสตาร์ทรถเสร็จกำลังจะขับออกไปก็มีคนเดินมาตัดหน้ารถ จนเค้าล้มลงไป แต่โชคยังดีที่ผมเหยียบเบรคทันผมเลยรีบลงจากรถไปดูเค้าหน่อยเผื่อได้รับบาด เจ็บอะไรผมจะได้รับผิดชอบ“เอ่อ..ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ คุณเจ็บตรงไหนบ้างรึป่าวครับ” ผมลงไปพยุงชายหนุ่มตรงหน้าขึ้นมาก่อนจะสำรวจดูว่าเขามีบาดแผลตรงไหนบ้างรึ ป่าว“ผมไม่เป็นไรครับ จริงๆแล้วผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่เดินตัดหน้ารถ พอดีผมว่าจะเดินไปเอารถที่จอดไว้ตรงนู้นน่ะครับ”เขา ตอบพลางชี้มือไปฝั่งตรงข้ามที่มีรถสปอร์ตสีดำคันหรูจอดอยู่ แต่ทำไมผมคุ้นๆหน้าเค้าจัง แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน สงสัยผมจะมองนานไปหน่อยเค้าเลยยกมือมาสะกิดที่ไหล่ผมเบาๆ“คุณๆ ครับ มีอะไรรึเปล่า เห็นจ้องหน้าผมซะนานเชียว”“เอ่อ....คือ ผมแค่รู้สึกคุ้นๆหน้าคุณน่ะครับ แต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน”“งั้นหรอครับ แปลกจัง เพราะผมก็รู้สึกว่าจะคุ้นหน้าคุณอยู่เหมือนกัน” เค้าตอบกลับมาพร้อมโปรยยิ้มบางๆมาให้ หล่อเวอร์อ่ะ“คะ...ครับ แต่คุณไม่เป็นอะไรจริงๆนะครับ”“ไม่เป็นไรจริงๆครับ แค่นี้เอง”“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไงก็ขอโทษอีกทีนะครับ”“ไม่เป็นไรครับ”หลัง จากบอกลาชายหนุ่มแล้วผมก็ขับรถกลับคอนโด แต่ในใจก็ยังคิดถึงผู้ชายคนเมื่อกี้กับเสียงนุ่มๆฟังแล้วดูอบอุ่นนั้น เหมือนเคยเจอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออกซักที เลยสลัดความคิดนั้นออกจากหัว แล้วเปิดเพลงฟังไปเพลินๆจนถึงที่หมาย......“อ้าว! ตัวกลับมาแล้วหรอ ไมวันนี้กลับค่ำอ่ะครับ  จุ๊บ! คิดถึงจัง”พอ เปิดประตูเข้าไปน้องผมก็เดินมาทั้งชุดนักเรียนที่ปล่อยเสื้อลอยชาย สภาพหัวยุ่งๆเหมือนคนเพิ่งตื่นเดินมารับของไปถือ พร้อมทั้งก้มลงมาจุ๊บปากผมเบาๆ ผมไม่ได้เตี้ยนะครับ แต่น้องผมสูงเอง สูงตั้ง185 ซม.อ่ะ ส่วนผมก็ 176 ซม.ก็มาตรฐานชายไทยอยู่นะ เห็นมั๊ยบอกแล้วว่าผมไม่ได้เตี้ยซะหน่อย“พอดีเค้าไปกินอาหารญี่ปุ่นกับเพื่อนๆมาอ่ะ ซื้อมาฝากด้วยในถุงสีขาวๆน่ะ ตัวแกะทานได้เลยนะ” ผมบอกพลางถอดรองเท้าแล้วเดินไปหาน้อง“ไหน อ่ะ ถุงนี้หรอ งั้นเค้ากินก่อนนะ กำลังหิวพอดีเลย” น้องถามพลางยกถุงสีขาวในมือขึ้นให้ผมดู ผมจึงพยักหน้าให้เป็นนัยว่าถุงนั้นแหละ แล้วเดินไปหยิบน้ำกับแก้วในตู้เย็นที่ห้องครัว ก่อนจะกลับมานั่งที่โซฟาข้างๆน้อง“เป็นไงบ้าง วันนี้เรียนเหนื่อยมั๊ย”“ไม่อ่ะ ช่วงนี้ส่วนใหญ่อาจารย์เค้าจะแนะแนวที่เรียนต่อมากกว่า” น้องหันมาตอบพลางเคี้ยวซูชิไปด้วย“เลอะแล้ว” ผมหยิบทิชชู่ไปเช็ดปากให้เมื่อเห็นว่าปากน้องเลอะไปด้วยไข่กุ้ง“ขอบคุณครับ”“แล้วนี่จะเรียนพิเศษรึป่าว หรือจะให้เค้าติววิชาไหนมั๊ย” ผมถามพลางเปลี่ยนช่องทีวีดูไปเรื่อย“ไม่เป็นไร เค้าอ่านเองได้ ตอนนี้ก็พร้อมสอบแล้วล่ะ เหลือทบทวนนิดๆหน่อยๆก็ได้แล้ว”“แล้วตัวเลือกไว้ยังว่าจะลงคณะไร”“เค้าว่าจะลงบริหารอ่ะ” น้องตอบพร้อมมองหน้าผม ผมพอจะรู้ว่าทำไมน้องถึงอยากเลือกคณะนี้“ถ้าตัวชอบจริงๆเค้าก็ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าตัวจะเรียนเพราะ................”“เค้าอยากเรียนจริงๆ ส่วนเรื่องนั้นมันก็เป็นอีกแค่เหตุผลนึงเท่านั้นเอง” น้องตอบพลางยิ้มให้ผม“ครับ งั้นก็ตามใจ เดี๋ยวเค้าไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมบอกพลางลุกเดินเข้าห้องไปก๊อกๆๆๆ“เค้ามาเลย ประตูไม่ได้ล็อค”ผมอาบน้ำเสร็จกำลังจะนอนน้องก็มาเคาะประตู“ตัว คืนนี้เค้าขอนอนด้วยนะ เค้าปวดหัวอ่ะเหมือนจะไม่สบายเลย” พูดเสร็จน้องก็ปิดประตูหลังจากที่ผมพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“ไหนมาดูซิ ตัวร้อนป่าว” พูดพลางใช้หลังมือไปแตะที่หน้าผากของน้อง“ตัวอุ่นๆอ่ะ กินยายังครับ”“กินแล้วครับ” น้องตอบแล้วนอนลง ก่อนจะตบที่แขนเป็นเชิงให้ผมใช้หนุนหัว ผมเห็นท่าทางแล้วได้แต่ยิ้มส่ายหัวให้กับอาการขี้อ้อนของน้อง“แล้ว พรุ่งนี้อย่ามาบ่นว่าปวดแขนล่ะ” ว่าพลางลุกไปปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนหนุนแขนของน้องก่อนที่น้องจะกระชับตัวผม เข้าไปกอดแล้วรับรู้ถึงสัมผัสอุ่นๆจากริมฝีปากบางๆปากของน้องที่หน้าผาก“ฝันดีนะครับ” เสียงแผ่วเบาจากน้อง “อืม เช่นกันนะ” ผมจึงตอบกลับไปพร้อมแรงกระชับอ้อมกอดของน้องที่แน่นขึ้น ก่อนที่อ้อมกอดนั้นจะค่อยๆคลายออกพร้อมกับเสียงลมหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอทั้ง ของน้องและผม
- - - - -TBC - - - - -
    

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา