▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼(YAOI)

9.6

เขียนโดย AMINOKOONG

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.25 น.

  20 ตอนที่
  10 วิจารณ์
  35.36K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 21.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼(YAOI) : ตอนที่7

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼

 

 


ตอนที่7 : การกลับมาของพี่ชาย

 

 

 

หลังจากที่ตื่นแต่เช้าไปส่งน้องที่โรงเรียน ทั้งๆที่ตัวรุมๆเหมือนจะมีไข้อ่อนๆ ตอนแรกผมก็บอกให้นอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องก่อนไม่ต้องไปแต่น้องไม่ยอม เห็นบอกว่าวันนี้มีสอบเก็บคะแนนวิชาภาษาอังกฤษด้วย ผมก็เลยจำใจต้องยอมให้ไป เป็นห่วงก็เป็นห่วง แต่น้องบอกว่าจะดูแลตัวเอง ถ้าไม่ไหวจะไปนอนที่ห้องพยาบาลเอง

 

หลังจากส่งน้องเสร็จผมก็กลับมาที่คอนโดเพื่อมาอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียนตอน10โมง วันนี้จะมีคนขับรถมารับ ก็คุณชายเปอร์น่ะสิอยู่ๆก็โทรมาบอกว่าเดี๋ยวจะขับรถมารับให้ลงมารอที่หน้า คอนโดได้เลย พอไปถึงมอก็เห็นเพื่อนๆนั่งสถิตประจำที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ แต่มันแปลกก็ไอ้ตรงที่มีไอ้หื่นมานั่งแจมอยู่ด้วยนี่สิ

 

 

“อ้าวที่รักมาถึงแล้วเหรอคะ” ไม่รู้ว่าวันนี้ไอ้หื่นมันจะมาไม้ไหนนะเนี่ย เล่นตะโกนทักผมซะเลี่ยนยังไม่พอ ยังเดินมากอดเอวผมไว้อีกเรียกสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นให้หันมามองได้ดีทีเดียว

 

 

“นี่นายจะทำบ้าอะไรอีกห๊า?” ผมกระซิบมันเบาๆให้ได้ยินกันสองคน

 

 

“ก็ เมิงทำให้กูต้องเสียคู่ควงไปคนนึง เพราะฉะนั้นเมิงต้องมาเป็นคู่ควงกูแทน แฟร์ดีออก จริงมั๊ยคะ ที่รัก” มันกระซิบตอบพร้อมทั้งกระชับแรงกอดที่เอวแน่นขึ้น

 

 

“ผมไม่มีเวลามาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอกนะ ปล่อย”ผมเบี่ยงตัวหลบออกมาแล้วเดินมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆส่วนไอ้หื่นก่อนไปยังมีแอบส่งจูบให้ผมอีกด้วย สงสัยมันคงจะกลับไปที่คณะหรือไม่ก็คงไปหม้อสาวที่ไหนซักแห่งต่อล่ะมั๊ง
 

“นี่ เมิงไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ ทำไมพวกกูไม่รู้ เล่นหนุ่มดังวิดวะซะด้วย อดีตเดือนมหาลัยเชียวนะเมิง” นาวมันเปิดประเด็นถาม แต่เดี๋ยวนะแล้วมันมารู้จักเพื่อนๆผมได้ไงเนี่ยงงว่ะ

 

“เออ ว่าแต่แล้วมันรู้จักพวกเมิงได้ไงว่ะ” ผมถามพวกมันที่กำลังนั่งรอคำตอบจากผมแต่โดนผมเบี่ยงประเด็นแทน

 

 

“ไม่รู้จักหรอก แค่มันเข้ามาถามหาเมิงกับพวกกู แล้วยังบอกอีกว่ากำลังคบกับเมิงอยู่” เอกเป็นคนตอบแทนเพื่อนๆ

 

 

“แล้วสรุปอะไรยังไง อย่ามาเปลี่ยนเรื่องตอบพวกกูมา” นาวมันยังซักไซ้ผมไม่หยุด

 

 

“ไม่ มีอะไร เอาเป็นว่ากูโดนมันแกล้ง ถ้ามันถามมันว่าอะไรพวกเมิงก็เออ ออ ตามมันไปก่อนก็แล้วกัน ที่เหลือเดี๋ยวกูจัดการเอง อยากเป็นแฟนกูนักใช่มั๊ย.....ได้เดี๋ยวจัดให้” ผมตอบพวกมันไปพลางหางตาเหลือบไปมองเปอร์ที่นั่งข้างๆผมดูมันจะเงียบๆพิกลแฮะตอนอยู่บนรถ ยังชวนผมคุยไม่หยุดเลย

 

“เออ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าที่คณะเราเค้าจะเข้าค่ายจัดติวให้น้องๆที่สนใจมาเรียนที่มหาลัยเราด้วยนะ อ้อ!ไม่ต้องห่วงกูลงชื่อให้พวกเมิงทุกคนหมดล่ะ” อิเจ๊ที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยขึ้น

 

 

“อะไรว่ะ ไม่ถามความเห็นพวกกูซักคำ”ยัยจอยแหวออกมา พร้อมทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ

 

 

“เอาเถอะน่า ถือว่าทำเพื่อคณะ” ไอ้เอกมันบอกพร้อมตบบ่าของจอยมันเบาๆเพื่อเป็นการปลอบใจ

 

 

“เปอร์แกเป็นไรป่าวว่ะ เงียบเชียว” ผมหันไปสะกิดถามไอ้คนที่นั่งนิ่งข้างๆ

 

“ป่าวหรอก”มันตอบพร้อมเสหันไปมองทางอื่น ผมก็ได้แต่แอบมองดูมันไปเงียบๆอย่างห่วงๆ พวกเราก็นั่งเม้าท์กันซักพัก ก็ได้เวลาขึ้นเรียน

 

 

 

การ เรียนวันนี้ไม่มีอะไรพิเศษมากมาย ผมก็ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยายไปอย่างเงียบๆ แต่ไอ้พวกข้างๆเนี่ยสิ นั่งสับผงกกันไปมา แล้วก็บอกไม่เข้าใจๆ แล้วมันจะไปรู้เรื่องได้ไงกัน ก็เวลาเรียนกลับพากันงีบหลับซะงั้น ผมล่ะได้แต่ปลงกับพวกมันจริงๆ

 

 

หลัง หมดคาบ พวกเราก็เคลื่อนขบวนไปยังแคนทีนคณะ ขี้เกียจไปกินข้างนอก เพราะตอนบ่ายยังมีเรียนอีกตัว แต่มื้อเที่ยงมื้อนี้คงจะเป็นไปตามปกติเหมือนทุกวัน ถ้าไม่ติดตรงไอ้คนนั่งข้างๆที่มันอุปโหลกว่าเป็นแฟนผม มาร่วมโต๊ะด้วย แถมยังทำตัวเป็นสุภาพบุรุษไปซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้ผม เอ่อ...สรุป ตกลงมันหรือผมที่ต้องมาเป็นเบ๊กันแน่ ชักงงกับสถานะตัวเองอยู่นะจุดนี้ แล้วมันยังพูดคุยเป็นกันเองกับเพื่อนผมแบบสุดๆ เมิงจะเนียนไปไหนว่ะ

 

 

“ที่รักอิ่มแล้วเหรอคะ ทำไมทานน้อยจัง” มันหันมาถามเมื่อเห็นผมรวบช้อนก่อนจะดูดน้ำในขวดที่มันซื้อมาให้

 

 

“อืม กินไม่ลง” ผมตอบมันไปแบบหน่ายๆ

 

 

“เอา อะไรอีกมั๊ย เดี๋ยววินไปซื้อให้ ทานนิดเดียวเดี๋ยวบ่ายๆก็หิวอีกหรอก” มันถามพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ เอ่อ โทษทีว่ะกูไม่ใช่สาวๆในฮาเรมของเมิงที่จะมาละลายกับท่าทางตอแหลแบบนี้

 

 “........................” เงียบไว้เป็นดีที่สุด

 

 

“อะไรอ่ะ งอนอะไรวินเนี่ย” มันถามพลางทำปากยื่น อะ..เอ่อ...ถ้าเด็กทำคงน่ารัก แต่เมิงทำเนี่ยแบบ ทุเรศมากอ่ะ

 

 

“เปล่า แต่ผมอิ่มแล้วจริงๆครับคุณกวิน ส่วนคุณก็รีบๆกินแล้วกลับคณะไปจะดีกว่านะครับ” ผมพูดเสียงเรียบแกมประชดให้มันไป

 

 

“แล้วบ่ายนี้วินไม่มีเรียนหรอครับ” อิเจ๊แอ๊บเสียงแมนถามมันไป แต่สายตาเมิงถ้าเป็นมีดนี่คงเสียบวินมันพรุนไปทั่วทั้งตัวแล้วแน่ๆ

 

 

“มีครับ อีกวิชาเดียว เป้คะเดี๋ยวเย็นนี้เราไปดูหนังกันนะคะ เดี๋ยววินมารับ” มันตอบอิเจ๊ก่อนจะหันมาถามผมด้วยน้ำเสียงที่นุ่มชวนอ้วกแต่ผมยังไม่ทันจะตอบอะไรก็มีเสียงแหลมปรี๊ดทักขึ้นมาแทรกพร้อมเดินตรงเข้ามายังโต๊ะที่พวกเรานั่งกันอยู่

 

 

“วิ นคะ มาทานข้าวที่คณะนิ้งก็ไม่บอกกันบ้างเลยนะคะ” นิ้งสาวสวยเปรี้ยวซี๊ดของคณะอีกคนแต่คนล่ะะเมเจอร์กับพวกผม ทักคนที่นั่งข้างๆก่อนจะจิกสายตามาให้ จนผมต้องหันไปมองไอ้หื่นงงๆ ก่อนที่สมองผมจะประมวลทุกอย่างจนเริ่มประติดประเรื่องราวได้ สงสัยนิ้งก็คงจะเป็นคู่ควงของมันอีกคนซินะ พอคิดได้ดังนั้นเลยส่งยิ้มเพชฌฆาตไปให้ไอ้หื่นจนหน้ามันซีดลงอย่างเห็นได้ ชัด

 

 

“เออะ..เอ่อ...คือ...ว่า” มันตะกุกตะกักจะตอบออกไปผมเลยรีบช่วยตอบแทนมันไปซะเลย

 

 

“สรุปเย็นนี้เป้ว่างนะ ว่าแต่จะดูเรื่องอะไรดีล่ะ” ผมตอบพร้อมส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดให้มันไปด้วย

 

 

“เอ่อ.....” มันไม่ตอบ เอาซี๊ อยากได้กูเป็นคู่ควงนัก กูก็จะกำจัดคู่ควงของมึงไปทีล่ะคนๆ ดูซิว่ามึงยังจะอยากมายุ่งกับกูอีกรึป่าว

 

 

“ว่าไงครับ” ผมถามพร้อมส่งยิ้มอย่างผู้ชนะไปให้มัน

 

 

“ตาม ใจมะ...เป้เถอะคะ”มันกัดฟันตอบจนเกือบเผลอหลุดเรียกมึงแทนชื่อผมก่อนจะหันไป ส่งยิ้มเจื่อนๆให้นิ้งที่ยืนกำหมัดแน่นพร้อมส่งสาตายอาฆาตมาให้ผม สงสัยผมคงจะต้องมีศัตรูเพิ่มอีกคนแล้วซิเนี่ย

 

 

“อะไร กัน ก็ไหนเมื่อเช้าวินยังส่งข้อความมานัดนิ้งไปดินเนอร์ด้วยอยู่เลยนี่ ทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกันค่ะ” นิ้งตวาดออกมาก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้อยู่ที่แคนทีนจึงเบาเสียงลงแต่ยัง ไม่วายยังจิกตาใส่ผมไม่หยุด

 

 

“นี่ มันอะไรกันครับวิน เป้อุตส่าห์ดีใจที่วินประกาศว่ากำลังคบกับเป้กับเพื่อนๆ เป้ผิดหวังในตัววินมาก เป้กะว่าจะลองเปิดใจดูแล้วเชียว เป้ไม่อยากเป็นตัวเลือกหรือของเล่นของใครหรอกนะ งั้นวินก็ไปกับนิ้งเถอะ อย่ามาสนใจคนอย่างเป้เลย” ผมแสร้งพูดเสียงอ่อยพร้อมบีบน้ำตา

 

 

“เฮ้ย! เป้ ครับ ร้องไห้ทำไม เอ่อ....นิ้งครับวินว่านิ้งกลับไปก่อนเถอะนะ ส่วนเรื่องนั้นวินขอโทษจริงๆนะครับ สงสัยเพื่อนมันคงเอาโทรศัพท์วินไปเล่นแล้วแกล้งส่งข้อความไปหานิ้งล่ะมั๊ง ไงวินก็ขอโทษจริงๆนะครับ”ไอ้หื่นมันหันมามองหน้าผมงงปนตกใจที่เห็นผมร้องไห้ ก่อนจะหันไปปฏิเสธนิ้งอย่างสุภาพ เอ่อ...แต่ผมว่ามันตอแหลซะมากกว่านะ ในที่สุดผมก็รู้อีกหนึ่งความลับของมันว่ามันเป็นคนแพ้น้ำตา ฮ่าๆๆ เสร็จผมล่ะไอ้หื่นเอ๊ย

 

 

หลัง จากนิ้งสะบัดบ็อบกลับไปบรรยากาศก็เริ่มปกติ แต่แอบเห็นว่าบรรดาเพื่อนๆขอผมยังพากลั้นยิ้มกลั้นหัวเราะกลับการ ตอแหล....เอ่อ เรียกว่าการแสดงของผมที่เพิ่งจบไปเมื่อกี้จะดีกว่านะ  พอเสร็จจากมื้อเที่ยงพวกเราก็ขึ้นไปเรียน แถมก่อนไปไอ้หื่นยังไม่ลืมกำชับอีกว่าเย็นนี้ให้รอที่หน้าตึกคณะเดี๋ยวมารับ ก่อนขึ้นเรียนผมก็แวะเข้าห้องน้ำใต้ตึกคณะ แต่ก็บังเอิ๊ญบังเอิญมาเจอกับโจทย์ใหม่สดๆร้อนที่เดินออกมาจากห้องน้ำหญิง ข้างๆพอเจอผมนางก็จิกตาใส่ทันทีก่อนจะเดินมาดักทางผมไว้

 

 

 

“เลิก ยุ่งกับวินซะ ปล่อยให้เค้าเป็นผู้ชายปกติเหมือนเดิมต่อไป อย่ามาลากให้เค้ากลายไปเป็นพวกวิปริตผิดเพศอย่างแก” นิ้งพูดเสียงเรียบแต่บ่งบอกได้ว่าอารมณ์ของนางกำลังพุ่งสุดขีดแต่ก็พยายาม ข่มเอาไว้

 

 

“ผมไม่ได้อยากยุ่งหรอกนะ แต่เค้ามายุ่งกับผมเอง” ผมตอบก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป ไม่อยากมีปัญหากับเรื่องที่เราไม่ผิด

 

 

“หึ แกจะบอกว่าเค้าเข้าหาแกเองงั้นสิ?” นางทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะปรายตามองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วเอ่ยถาม

 

 

“คงงั้นมั้ง” ทำท่ายักไหล่กวนๆก่อนจะตอบออกไป

 

 

“นี่แก!!!!

 

 

“ทำไม จะกรี๊ดเหมือนนางร้ายในละครงั้นซิ ผมถามหน่อยเถอะไอ้ที่เธอมายืนจิกกัดกันปาวๆๆแบบนี้สาเหตุมันมาจากอะไร ใครเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ หัดใช้สมองคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกมา เธอก็น่าจะรู้ว่าคนอย่างไอ้หื่นนั้นมันไม่เคยจริงจังกับใครหรอกไม่ว่าเธอ หรือผมหรือว่าคนอื่นที่มันกำลังคั่วอยู่ก็ตาม แล้วอีกอย่างผมกับมันไม่ได้เป็นอะไรกัน ส่วนจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เธอ เพราะมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่จะต้องมานั่งอธิบายให้พวกที่เข้ามาเรียน มหาวิทยาลัยเพื่อจับผู้ชายแทนที่จะมาหาความรู้อย่างเธอหรอกนะ”

 

 

ผม ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างไว จนไม่ได้หันไปมองว่านิ้งมีสีหน้ายังไง ไม่ใช่กลัวหรอกนะ แต่เข้าใจป่ะว่าเขื่อนกูจะแตกอยู่แล้ว โชคยังดีที่อาจารย์เพิ่งเข้าเลยเช็คชื่อทัน ผมก็นั่งเรียนไปตามปกติจนเลิกคลาส กระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายสามกว่าๆของวัน ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา

 

 

 

 

 

“หวัดดีครับ”

 

 

(ตัวเล็กป่ะครับ)

 

 

“เอ่อ...นี่เป้พูดสายครับ สงสัยคุณคงโทรผิดล่ะมั๊ง”

 

 

(ตัวเล็ก เอ่อ...น้องเป้ นี่พี่ภูมิเองนะ ตอนนี้พี่กลับมาแล้วนะ)

 

 

“หา? พะ...พี่ ภูมิ ไหนป้านงค์บอกอีกอาทิตย์นึงถึงจะกลับไม่ใช่เหรอครับ” ก็คราวก่อนที่ป้าอนงค์มาเยี่ยมน้องแล้วบอกว่าเดือนหน้าพี่ภูมิถึงจะกลับ ซึ่งก็เหลืออีกประมาณอาทิตย์กว่านู่นไม่ใช่เหรอ

 

 

(พอดีพี่เคลียร์เรื่องที่ยูเสร็จเร็วก่อนกำหนดน่ะ จริงๆพี่กลับมาได้2-3วันแล้วล่ะ)

 

 

“โห! ไรอ่ะ กลับมาไม่บอกกันซักคำ มันน่าน้อยใจป่ะเนี่ย”

 

 

(โอ๋ๆๆๆ ไม่งอนพี่นะครับคนดี ก็กะจะมาเซอร์ไพรส์ไงแล้วอีกอย่างพอกลับมาพี่ก็ยังไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ เนี่ยวันนี้พี่มารอรับเราที่มอไปทานข้าวที่บ้านพี่เลยนะเนี่ย)

 

 

“แล้วรู้ได้ไงว่าเป้เรียนที่ไหน”

 

 

(ก็แม่พี่บอกไง ตอนนี้กำลังจอดรถอยู่แถวๆตึกคณะนิเทศเนี่ย)

 

 

“ครับๆ งั้นเดี๋ยวเป้เดินออกไปหานะครับ”

 

 

 

 

หลัง จากที่เดินล่ำลากลับเพื่อนๆก่อนที่จะขอตัวกลับตอนแรกเปอร์มันบอกจะไปส่ง เพราะเมื่อเช้ามันมารับแต่ผมบอกว่าพี่จะมารับมันก็ไม่ได้ว่าไร แต่ผมก็เดินวนไปวนมาที่ลานจอดรถตั้งนานก็ยังไม่เจอพี่ภูมิซักที พูดแล้วก็คิดถึงพี่ชายหุ่นจ้ำม่ำร่างใหญ่ ผิวคล้ำๆ ตาตี่ๆหน่อย ไม่ได้เจอกันตั้ง4-5 ปีได้แล้วมั๊ง เพราะพี่แกต้องไปเรียนต่อที่อังกฤษขนาดงานศพของแม่ผมพี่เค้ายังกลับมาไม่ได้ เลย เพราะติดสอบ เดินไปเดินมาซักพักผมก็เดินไปชนกับแผงอกของใครคนนึงจนเกือบล้มไปแล้วถ้าไม่ ได้มือของเค้าประครองที่เอวของผมไว้ก่อน

 

“ขอ โทษครับ” ผมตอบออกไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ผมเดินชนและก็เป็นคนๆเดียวกับที่ช่วย ผมเอาไว้ พอเห็นหน้าเค้าผมก็นิ่งไปก่อนเราสองคนจะร้องทักออกมาพร้อมกัน

 

 

 

 

 

 

 

“คุณ/คุณ”

 

 

 

 

 

 - - - - - TBC - - - - -

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา