รักวุ่นๆจับยัยตัวยุ่งมารับหัวใจ

1.0

เขียนโดย mintmo

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.07 น.

  6 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,159 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 22.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ช่วยคนสวยด้วย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

2

ช่วยคนสวยด้วย

 

ฉันยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ในสถานที่ที่ตอนนี้ฉันเองก็ชักไม่แน่ใจขึ้นมาแล้วว่าที่นี่คือสวนในโรงเรียนหรือเปล่า เพราะยิ่งเดินก็ยิ่งลึกเข้าไปเรื่อยๆรอบข้างมีแต่ต้นไม้  มองไปด้านหลังก็ไม่มีวี่แววทางที่ฉันจะออกไปได้เลย

 ฉันเดินไปตามทางที่ถูกปูพื้นไว้ด้วยหินสีขาวไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมาย ตลอดจนทางที่ถูกปูด้วยหิน  บางครั้งก็มี ทางแยก หลายทาง ฉันจึงต้องตัดสินใจเลือกไม่รู้ว่าชะตากรรมของฉันต่อไปจะเป็นยังไงฉันจึงต้องอาศัยเพียงฟังตามเสียงประหลาดนั้นไปเรื่อยๆเลือกทางที่คิดว่าได้ยินเสียงชัดสุด ถึงจุดนี้ฉันต้องงัดเอาความรู้เกี่ยวกับความรู้เรื่องลูกเสือเนตรนารีมาใช้

ไม่น่าเลยฉันก็สังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าฉันไม่น่ามาเรียนที่นี่ เพราะมันจะนำแต่เรื่องร้ายๆมาให้ฉัน  

แงๆ แล้วฉันจะทำยังไงกันล่ะที่นี่   ฉันจะติดต่อกับคนภายนอกได้ยังไงถ้าตอนนี้มีอะไรที่จะสามารถติดต่อกับคนอื่นได้ก็ดีแล้วเอ๊...ปกติแล้วฉันใช้อะไรติดต่อกับเพื่อนนะ ถ้าไม่ใช่

โทรศัพท์....เออ ใช่ฉันมีโทรศัพท์ทำไมฉันถึงโง่แบบนี้นะ หลงคร่ำครวญอยู่ได้ตั้งนาน  

และปลายสายที่ฉันตัดสินใจจะโทรหาคือ คีย์   ถึงตอนนี้ฉันจะไม่ชอบขี้หน้าอีตาคีย์เท่าไหร่แต่ในสถานการณ์แบบนี้อีตาคีย์ก็เป็นทางออกเดียวให้ฉันในตอนนี้ เพราะอยู่ใกล้ที่สุดเหมาะแก่การตามคนมาช่วยแถมประหยัดเวลาที่สุด เพราะฉันเองก็ไม่อยากที่จะต้องมาติดอยู่ที่นี่คนเดียวลำพังนานนักหรอก

แต่...แล้วเหมือนชีวิตฉันถูกสวรรค์กลั่นแกล้งอย่างโหดร้าย จนคนสวยอยากกรีดร้องให้ลั่นป่าเพราะ

สัญญาณไม่มี(- ..-X)

แงๆอะไรก๊านนนน...สัญญาณไม่มีได้ไงกัน ก็ก่อนมาที่นี่ตลอดจนนั่งอยู่แถวหน้าสวนสัญญาณยังเต็มอยู่เลย แล้วตอนนี้มันหายไปไหนอ่ะ    ฉันอยากจะกรีดร้องทางรอดเดียวของฉันถูกทำลายลงในพริบตา ตอนนี่รู้สึกหมดแรงหน้ามืด วิงเวียนคล้ายจะเป็นลมมากๆ อาจเป็นเพราะฉันเดินมาไกลผสมกับความผิดหวังขั้นรุนแรงจนจิตใจ

สั่นสะท้านกับการรับรู้ว่าทางรอดเดียวหมดไป

      ฉันนั่งทรุดตัวลงนั่งกลางทางเดินหินที่เป็นทางแยกของแยกที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันเดินมา จะต้องทำยังไงต่อไปล่ะที่นี้เมื่อไม่มีโทรศัพท์ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยติดป่าซักครั้ง  กิจกรรมเดินเขาเข้าป่าก็ไม่ เคยไปซักที ส่วนใหญ่ฉันจะอยู่บ้านนั่งดูซีรีย์และทีวีมากกว่า แต่..เอ๊ะ... จากหนังที่เคยดูเวลาหลงป่าคงต้องส่งสัญญาณไฟขอความช่วยเหลือจากคนอื่นไอเดียดีมากที่นี่แหละอาจเป็นทางรอด  ถ้าสำเร็จก็จะมีคนเห็นก็ต้องสนใจว่าควันไฟมาจากไหนแล้วก็จะเดินตามมาจนพบฉัน แต่ถ้าไม่สำเร็จฉันอาจจะเผาป่านี้แล้วดับอนาถอยู่ในนี้ เอ่อ...ไม่หรอกน่า เอาเป็นว่าคิดในแง่ดีไว้ก่อนดีกว่า สู้ๆฉันต้องรอด

สัญญาณไฟ   สิ่งที่จำเป็น     ไฟ+กิ่งไม้

บทสรุป   ฉันไม่มีไฟ มีแต่กิ่งไม้ซึ่งถ้านำมาซุ่มรวมกันมันคงไม่เกิดไฟเองอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น เราต้องหาไฟมาก่อนวิธีที่จะหาไฟได้ ฉันเคยดูจากหนังสารคดีมนุษย์ถ้ำดึกดำบรรพ์ วีธีที่เห็นบ่อยคือ

กิ่งไม้ถูๆกันจนเกิดไฟสิ่งที่จำเป็น  กิ่งไม้ (โฮะๆแค่นี้เองสบายๆอุปกรณ์แค่กิ่งไม้)

บทสรุปรู้สึกอยากจะบ้าไม่รู้ชีวิตฉันจะถูกกลั่นแกล้งไปถึงเมื่อไหร่   กิ่งไม้ที่จะใช้จุดไฟก็ชื้นจุดไฟไม่ติดทำไมความซวยของฉันถึงไม่ลาจากไปซักทีเมื่อไหร่ความโชคดีที่จะมาหัดเข้ามาเยี่ยมเยียนฉันซะบ้างแต่ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ย่อท้อหรอกนะ เพราะนางเอกอย่างฉันต้องไม่มา กลายเป็นมนุษย์ป่าอยู่ที่นี่  และหวังว่ามันจะสำเร็จนะ

และแล้ว เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่ทราบแต่ฉันรู้สึกว่ามันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนจะทรมานในการที่ฉันต้องมาติดอยู่ที่นี่และการใช้ความพยายามในการจุดไฟที่ไม่มีวี่แววว่าจะติดซักที พยายามมาหลายวิธีก็ไม่ติดและวิธีสุดท้ายในการพยายามของฉันก็เอาหินมากระทบกันซึ่งหวังว่ามันจะได้ผลแต่ก็ไม่สามารถจุดไฟได้ซักที

ตุ๊บๆ.....

เสียงปริศนาดังขึ้นอีกครั้ง เสียงๆนี้อีกแล้วเสียงที่เป็นต้นเหตุที่นำฉันมาที่นี่และต้องมาหลงอยู่ที่นี่

โว้ย...เสียงอะไรเนี่ย แน่จริงออกมาเลยดีกว่าฉันไม่กลัวแล้ว มาเลยๆ

ฉันตะโกนเสียงดังลั่นอย่างเหลือ อดตอนนี้อารมณ์ฉันรู้สึกแปรปรวนมาก ทั้งกลัว  เศร้าและโกรธ ทำให้ระเบิด

อารมณ์ออกมาแบบนี้

……………..

หลังจากที่ฉันตะโกนออกไปแบบนั้นเสียงปริศนานั้นก็เงียบลงทันที  แทนที่เสียงนั้นเงียบลงแทนที่จะทำให้ฉันดีใจแต่เปล่าเลยมันกลับเพิ่มความกลัวให้ฉันมากขึ้นเพราะนั้นย่อมแสดงว่าเสียงนั้นต้องเกิดจากสิ่งมีชีวิตแน่ๆและ

เจ้าตัวที่ทำให้เกิดเสียงนั้นก็กำลังเปลี่ยนเป้าหมายมาหาฉันแทนไม่แน่มันอาจจะคิดหาทางเขมือบฉันอยู่ด้วย

ฉันคว้ากิ่งไม้ข้างๆทางที่ดูแข็งแรง แนบตัวไม่แน่ใจว่าเจ้าสิ่งนั้นมันคืออะไรแต่มีสิ่งป้องกันตัวไว้คงจะดีกว่าไม่มี

ซวบๆ

เสียงย่ำเท้า ไกล้ตัว เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ฉันสะดุ้งเฮือกสุดตัวหวังว่ามันคงไม่ใช่  เสือ หรือตัวอะไรที่สามารถเขมือบฉันได้นะ  ต้องไม่แสดงความหวาดกลัวอย่างเด็ดขาด เค้กคนนี้ต้องไม่หวั่นเกรง กับเรื่องแค่นี้

โอ้ย..ทำไมขาต้องสั่นด้วยเนี่ยยย  Y­_Y ตอนนี้เสียงย่ำเท้านั้นมาหยุดด้านหลังฉันเงาตะคุ่มๆด้านหลังแสดงให้เห็นว่าผู้มาเยือนว่าตัวใหญ่ไม่เบาและมีทีท่าว่าจะสูงใหญ่กว่าฉัน ไม่มีทางเลยที่จะเป็นกระต่ายน้อยน่ารักที่จะโผล่มาทำน่าตาแบ๊วก่อนจะกระโดด หายไป อย่างที่หวังไว้เอาล่ะทีนี้ต้องนับหนึ่งถึงสามก่อนที่หันไปเผชิญหน้ากับเจ้าสิ่งนั้น    ฉันกระชับกิ่งไม้ไว้ และแล้ว…

พรึบ......เฮ้ยย.....

เมื่อฉันหันหลังไปเผชิญหน้ากับเจ้าสิ่งนั้น   พร้อมทั้งตั้งใจหวดกิ่งไม้ให้เต็มแรง แต่ รู้สึกเหมือน

กิ่งไม้กับถูกรับไว้ทันท่วงที  โอ๊ะ..เจ้าตัวปริศนานั้นมันมีมือรับกิ่งไม้ด้วย อ่ะ   ฉัน ยังคงยืนนิ่งรับตาปี๋อยู่อย่างนั้นทำไงได้อ่ะก็ฉันไม่กล้าสบตากับเจ้า ตัวนั้น แต่ เอ๊ะ…เมื่อกี้ได้ยินคำว่า

" เฮ้ย "อย่างงั้นเหรอ หรือว่า จะเป็นคน?  คงไม่ใช่ เสือ เพราะเสือแถวบ้านฉันคงไม่อุทานแบบนั้นออกมาได้

  ฉันจึงค่อยๆลืมตาขึ้นทันทีที่ลืมตามาก็พบกับผู้มาเยือนที่ผิดคาดกับที่ฉันจินตนาการไว้    ผู้ชายร่างสูง   ผิวขาว ใบหน้าของเขา ใสกิ๊ง ริมฝีปากอมชมพู รับกับตาและจมูกที่ ได้รูปพอดิบพอดี นั้นทำให้ฉันค้างไปเสี้ยววินาทีก่อนจะเรียกสติกับมา

"น..นายเป็นใคร"

ฉันเอ่ยถาม อย่างกล้าๆกลัวๆ ผู้ชายคนนั้นตวัดสายตามามองฉัน ด้วยสายตาแบบดุๆเล็กน้อยเหมือนจะอารมณ์เสียที่ฉันจงใจจะฟาดกิ่งไม้ใส่เขา

"ฉ..ฉัน."

"อ๋อ..นายเป็นคนสวนของโรงเรียนใช่มั้ย"

ฉันกล่าวตัดบท   ฉันสังเกตจากชุดของเขาที่ ค่อนข้างโทรมๆและมอมแมม เขาอยู่ในชุดเสื้อ ยืดสีขาวและกางเกงเสมอเข่าที่เปื้อนดินแบบสุดๆ บ่งบอกเป็นนัยๆโรงเรียนใช้งานคุ้มค่าสุดๆ

"คนสวนเหรอหึๆ ฉันเนี่ยนะคนสวน"

คนสวนหน้าหล่อทวนคำ เหมือน งง เล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะ เบาๆ

เอ่อ...อย่าบอกนะว่าเขาสติไม่ดีอ่ะ

"แล้วนายเป็น คนสวน ใช่มั้ยล่ะ?"

"ใช่ ฉันเป็นคนสวน "

ว่าแต่นาย อยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอ

ฉันหวังว่า เขาจะอยู่ที่นี่ มานานแล้ว เพราะจะได้พาฉันออกไปได้  รอดแล้วววววววว

 " ฉันอยู่ที่นี่ มานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะโชคร้ายมาเจอเธอ ยัยเพี้ยนที่คิดจะฟาดกิ่งไม้ใส่คนอื่น"

"อะไรย่ะ ก็ใครจะรู้ว่าเป็นคนล่ะฉันก็นึกว่าเป็นเสือ"

"ถ้าเป็นเสือจริง เธอคงตายไปนานแล้วล่ะ คงไม่มีชีวิตรอด นับว่ายังเป็นโชคดีของเธอ ที่คนมาเจอเธอคือฉันไม่ใช่เสือ"

"เจอนายอาจจะโชคร้ายยิ่งกว่าเจอ เสือก็ได้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจไม่แน่ตอนนี้นายอาจกำลังคิดแผนชั่วอยู่ก็ได้"

สมัยนี้คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจถึงเขาจะไม่ใช่เสือ แต่ฉันก็ยังไม่รู้แน่ว่าเขาเป็นคนดีรึเปล่า

" สงสัยเธอจะอาการหนักแล้วล่ะ แผนชั่ว อะไรของเธอฉันเนี่ยนะจะมีแผนชั่ว"

"ใครจะไปรู้ ใจนายล่ะไม่แน่นายอาจจะคิดไม่ดีกับฉันก็ได้"

ไม่รู้อีตาคนสวนนี่เป็นโรคจิตรึเปล่าก็ไม่รู้ ฉันยิ่งหน้าตาดีอยู่ด้วยไม่น่าไว้ใจเลย

(นางเอกเรื่องนี้หลงตัวเองอย่างแรง)

โห..ยัยเพี้ยน เธอคิดว่าฉันจะปล้ำเธอรึไง ฉันก็เลือกนะ อย่างเธอ แถมฟรีมากับผงซักฟอกฉันยังไม่เอาเลย

"ทำไม!!!! น่าตาแบบฉันมันยังไง อย่างฉันเนี่ยนะไม่สวย นายมันตาถั่ว (นางเอกเริ่มสติแตก)"

"หึ ถึงผู้ชายทั้งโลกจะชอบเธอแต่คงไม่มีฉันรวมอยู่ในนั้นแน่นอนเพราะเธอไม่ได้อยู่ในสายตาฉันเลยแม้แต่นิดเดียว  ถ้าคนที่มาไม่ใช่ฉันเนี่ยป่านนี้เธอก็โดนเสือขย้ำไปแล้วแค่นี้เธอยังไม่เข้าใจเลย"

ชิ  ไอ้ผู้ชายหยาบคายชอบทวงบุญคุณ

"แสดงว่าฉันควรจะขอบคุณนาย ว่างั้นเหอะที่คนที่โผล่หน้ามาก่อนเป็นนายไม่ใช่เสือ"

"ก็แล้วแต่เธอ ถ้าเธอมีจิตสำนึก"

 พูดรวมๆแล้วคิดอยากจะให้ฉันขอบคุณและซาบซึ้งล่ะสิ ก็ได้ฉันจะยอมนายไปก่อน เพื่อหนทางออกจากที่นี่

"ขอบคุณ ฉันรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากที่นายโผล่มาพอใจยังล่ะ"

ฉันหันไปจ้องหน้าเขา อีตานั้นยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เล็กน้อย ไอ้คนบ้าอำนาจ หลงตัวเอง  ที่นี้ถือว่าฉันกับนาย

"หายกันแล้วล่ะนะ เพราะฉะนั้นพาฉันออกไปจากที่นี่ได้แล้ว"

"เรื่องทางออกคงจะยากซักหน่อยนะ เสียใจด้วยนะเพราะฉันไม่รู้ทางออกไปจากที่นี่"

"อะไรนะ  ..ไม่จริงนาย เป็นคนสวนของที่นี่นายต้องรู้วิธีออกไปจากที่นี่"

"ก็จริงอยู่ที่ฉันเป็นคนสวนของที่นี่ แต่ฉันอยู่แต่ในสวนนี้ตลอดไม่ได้ออกไปไหนอยู่แต่กลับต้นไม้ แล้วฉันรู้สึกสดชื่นมีความสุข  อาหารฉันก็หากินแถวนี้เนี่ยแหละ  ทางออกจึงไม่ได้สำคัญสำหรับฉัน"

ย๊ากก........ฉันอยากจะกรีดร้องทางออกไม่ได้มีความสำคัญกับนายแต่มันมีความสำคัญกับฉันนี่ย่ะ ฉันต้องออกไปข้างนอกฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เข้าใจมั้ย ฉันจะฆ่าอีตาคนสวนนี่จริงๆเลย แต่ถ้าฆ่าอีตาคนสวน ไปฉันก็ต้องติดแหง็กกอยู่ที่นี่ตลอดไป

เอาฟะ!มีคนช่วยหาทางออกอีกซักคนดีกว่าไม่มี

"ถึงทางออกจะไม่สำคัญกับนายเป็นมันสำคัญต่อฉันนี่นา นายช่วยฉันหน่อยเถอะช่วยหาทางออกให้ฉันที"

เสียใจด้วย นะฉันคงไปช่วยเธอไม่ได้ ฉันไปดีกว่า หวังว่าถ้าเธอยังไม่ตายอยู่ที่นี่ก่อนฉันเราคงได้พบกัน

นายคนสวนหมุนตัวเตรียมเดิน เข้าทางเดิมที่เขาออกมา อย่างไม่สนใจฉันแม้แต่น้อย

 ไอ้คนใจร้าย  ฉันอุสาห์ขอร้องเขาแล้วนะแต่ดูความไร้น้ำใจของเขามันทำให้ฉันอยากจะเตะเขาซักป๊าบไม่ได้มีความสำคัญกับตัวเองก็เลยไม่สนใจใยดีเลยแม้แต่น้อย

" นายจะไม่ช่วยเพื่อนมนุษย์ที่นี่กำลังเดือดร้อนเลยเหรอไง!!!!"

"ไม่ล่ะ ฉันไม่ใช่คนดีขนาดนั้น"

หมับ

ฉันคว้าชายเสื้อ เขาไว้ก่อนที่เขาจะเดินหนีไปไหนอีก อย่างไม่เกรงกลัวอะไรอีกต่อไปแล้วตอนนี้เลือดในกายฉันกำลังระอุด้วยความคับแค้นใจ

"เฮ้ย...นี่เธอจะทำอะไรฉันเนี่ย ฉันรู้นะว่าฉันหน้าตาดี   แต่ไม่เห็นต้องเรียกร้องความสนใจแบบนี้เลยนี่นา"

"ไม่ใช่ย่ะ ฉันไม่ได้คลั่งไคล้นายซักนิดแต่ฉันจะไม่ยอมปล่อยนายหรือไปไหนทั้งสิ้นจนกว่านายจะช่วยฉันหาทางออกจากที่นี่"

"ตามใจเธอฉันก็อยากรู้ว่าเธอจะทนได้ซักเท่าไหร่กัน"

"เออ ฉันก็ออยากรู้เหมือนกันว่านายกับฉันใครจะทนได้นานกว่ากัน"

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา