รักวุ่นๆจับยัยตัวยุ่งมารับหัวใจ
เขียนโดย mintmo
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.07 น.
แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 22.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ3
ใครจะพลาด
หลังจากที่ฉันตัดสินใจคว้าชายเสื้อ นายคนสวน นั้นไว้ได้ เขาก็เดินต่อไปอย่างไม่สนใจใยดีฉันทั้งสิ้นทำเหมือนว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมโลกอย่างฉันเกาะหนึบเขาไปด้วย
ตอนนี้ฉันเดินจนขาลากไปหมดแล้วแต่อีตาคนสวนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินซักที เขาถึกเกินไปแล้วนะ เดินมาตั้งไกลไม่คิดจะพักบ้างหรือไงย่ะ จะรีบเดินไปไหนกันฮะ แล้วมันไม่ใช่แค่เรื่องเดินเร็วโดยไม่เหลียวแลฉันแค่นั้น เขายังแกล้งฉันด้วยเรื่องเล่า ตลอดจนคำพูดต่างๆนาๆที่ดูชั่วร้ายตลอดเวลา
“นี่ ยัยเพี้ยนเธอรู้หรือเปล่าว่าที่นี้นะมีตำนานด้วยนะ”
“ตำนานอะไรอีกล่ะ “
ตำนาน อีกแล้วตลอดทางเนี่ยเขาเล่าตำนานนู้นนี่ มากมายจนฉันจะหลับแล้ว คงคิดว่าตำนายพวกนี้จะทำให้ฉันกลัวแล้วปล่อยมือจากชายเสื้อเขาหรือไงไม่มีทางซะหรอก
“ที่นี่ นะมีเรื่องเล่าว่าเคยมีคนมีคนเจอผี ด้วย ที่นี่ผีเฮี้ยน มากด้วยมันเป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาของคนสวนรุ่นต่อรุ่นมานานแล้วล่ะ เขาเล่ากันว่าที่....”
“หยุด.ก่อน”
“เอ๊ะ มีอะไรเธอจะมาเบรก การเล่าตำนานที่แสนทรงคุณค่าของฉันทำไม”
“ตำนานที่นายจะพูดต่อเนี่ยนายจะบอกว่าที่นี่เคยเป็นป่าช้าเก่าใช่มั้ย”
“เฮ้ย..เธอรู้เรื่องนี้ ได้ไงเนี่ย หรือว่าเธอก็เป็นคนสวนของที่นี่เหมือนกัน”
“จะบ้าเหรอ ที่ฉันรู้ก็เพราะ ไอ้เรื่องที่นายเล่าเนี่ยมันเป็นพื้นฐานของเรื่องผีที่ฉันเคยฟังเลยล่ะ ประมาณว่า ที่นี้เคยเป็นป่าช้าเก่า เคยมีคนตาย บลาๆ พวกนี้ สรุปเรื่องที่นายเล่าเนี่ยนายโม้มาตลอดเลยใช่มั้ย”
“เหอะๆ”
“คงคิดว่าฉันจะเผลอเคลิ้ม กับเรื่องของนาย จน ปล่อยชายเสื้อล่ะสิ ขอบอกไว้เลยนะว่าไม่มีทาง”
“เออ ทำมาเป็นรู้ทัน ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะฉลาด กว่าที่ฉันคิด”
“อ้าว จะด่าว่าฉันน่าตาดูโง่ป่ะเนี่ย ทำมาเป็นด่าอ้อมๆ”
“ในเมื่อเธอรู้แล้วฉันก็จะไม่เปลืองเสียงอันไพเราะของฉันเล่าเรื่องโม้ๆพวกนี้ให้เธอฟังอีกแล้วเพราะฉะนั้นขอพูดตรงๆ ปล่อยมือจากฉันได้แล้ว! “
“ไม่!”
“ยัยเพี้ยน ถ้าฉันไม่รักเสื้อตัวนี้มากที่สุดฉันจะถอดมันออกแล้วหนีไปทันที ไม่สนว่าเธอจะจับเสื้อด้วยซ้ำ
ไแน่ใจว่ารักมาก ไม่ใช่เพราะมีเสื้ออยู่ตัวเดียว เลยไม่กล่าถอดทิ้งเพราะเสียดาย
“ไม่ใช่ เสื้อตัวนี้ฉันรักมันมากมันเป็นความผูกพันธ์สุดๆที่เธอไม่มีทางเข้าใจได้หรอก ฉันรักมันมากจนสามารถใส่มันได้7 วันโดยไม่ต้องซักเลยซักครั้งเดียว เนี่ยแหละความผูกพันธ์ของฉัน ฉันถึงทิ้งมันไม่ลง”
เอ่อ...อึ้งค่ะท่านผู้อ่านที่อึ้งเนี่ยกลัวว่ามือ ตัวเองจะเป็นกลากเกลื้อน มีความเสี่ยง อีย์.. แล้วที่บอกว่า ความผูกพันธ์เนี่ย แถวบ้านฉันเรียกว่าความสกปรก มันช่างเป็นความผูกพันธ์ที่ฉันจะไม่เลียนแบบเด็ดขาด
“งั้นก็ดีตราบใดที่นายยังผูกพันธ์อยู่ฉันก็ไม่มีทางปล่อยเด็ดขาด”
“เธอเนี่ยทำให้ฉันอารมณ์เสีย”
โฮะๆเริ่มสะใจเล็กน้อยแล้วนะเนี่ย แต่พออีตานั้น สะบัดเชิดไปแบบนั้นเขาก็เอาแต่เดินๆๆตลอดเวลาแถมเดินเร็วจนฉันที่เกาะชายเสื้อเขาแทบจะเดินตามไม่ทันเกือบหน้าทิ่มหลายครั้งแล้ว
“ เฮ้..นี่นายเดินมานานแล้วนะไม่คิดจะพักเลยรึไง”
ฉันว่าพลางกระตุกชายเสื้ออีตาคนสวนเผื่อจะสำนึกขึ้นมาได้บ้างว่ามีสุภาพสตรีผู้น่ารักเดินเกาะมาด้วย
“ถ้าเธอเหนื่อยก็นั่งพักไปก่อน ส่วนฉันจะเดินต่อไป“
เขาคิดจะหลอกให้ฉันปล่อยมือแน่ๆ คิดว่าฉันโง่หรือไงย่ะ
“ไม่ล่ะถ้านายไม่หยุดพักฉันก็จะไปหยุดเหมือนกัน“
“ก็ดี เพราะอีกนานมากๆเลยล่ะกว่าฉันจะเหนื่อย“
“เหรอ งั้นฉันจะรอ“
ไอ้บ้านี่นายจะแกล้งฉันใช่มั้ย ย่ะ ถึงไม่คิดจะหยุดพัก นายมันใจร้ายใจดำสุดๆไอ้คนไม่มีความเมตตาต่อ เพื่อนมนุษย์ อย่าให้ฉันออกไปได้ ฉันจะแอบ ปล่อยเสือเข้ามาในนี้ ให้นายโดนเสืองาบตายคาป่าไปเลย
(ป.ล.ทั้งหมดนี้ยังต้องด่าในใจเพื่อรักษาภาพพจน์นางเอก)
“ก็ตามใจเธอ ถ้าเธอไม่เป็นลมตายไปก่อนอ่ะนะ“
“ย่ะ ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกถ้าจะตายฉันก็จะลากนายไปด้วยอย่างแน่นอน“
“เฮ้ย! อย่ามาลากฉัน แค่ยืน ทนอยู่กับเธอตอนนี้ก็สยองพอแล้ว ถ้าเธอตายแล้วมาหลอกฉันอีกฉันไม่อยากจะนึกภาพมันคงน่ากลัวพิลึกเพิ่มความสยองคูนสอง“
“ อะไร นั้นปากเหรอ นายจะด่าฉันขี้เหร่ใช่มั้ย พูดมาตรงๆเลยดีกว่า ไม่ต้องอ้อม“
“ อ้าว !นี่ เธอร้อนตัวทำไมอ่ะ ฮ่าๆ“
“ หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ มันใช้เรื่องน่าขำซักนิด“
“ฮ่าๆๆ“
“หยุดเดี๋ยวนี้“
“ฮ่าๆๆๆๆ“
“หยุดโว้ยยย“
ถึงแม้ว่าฉันจะตะโกนคอแทบแตก เสียงหัวเราะของอีตานี่ทำฉันสติแตกเหมือนเขาจงใจจะกวนประสาทให้ฉันโมโห
“หยุดหัวเราะนะ“
“ฮ่าๆก็ได้ๆ เป็นไงตอนนี้เธอคิดจะไปตอนนี้เลยก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องมาทนเดินทางร่วมกับฉัน มันดีต่อทั้งเธอและฉัน “
“ไม่ มันดีต่อตัวนายฝ่ายเดียวซิไม่ว่า ฉันยอมทน เดินทางร่วมกับนายดีกว่าจะต้องไปเสี่ยงกับการเดินทางคนเดียว“
“เหรอ งั้นก็แล้วแต่เธอแต่ฉันก็ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าเมื่อเธอเผลอเมื่อไหร่ฉันจะหายไปทันที จะไม่มีการรีร อหรือเห็นใจเธอ แม้แต่นิดเดียว“
“ย่ะ ฉันรู้แล้วล่ะว่าคนอย่างนายนะมันแล้งน้ำใจแค่ไหน ไอ้เรื่องการทิ้งฉันให้หลงป่าอยู่คนเดียว เนี่ยมันไม่ได้ทำให้นายรู้สึกผิดได้หรอก แต่ ฉันก็จะขอบอกนายไว้อีกอย่างว่าฉันจะจับตามองนายตลอดเวลาไม่ว่านายจะไปไหน
ถ้าเธอคิดว่าเธอจะจับตามองฉันทุกวินาทีได้โดยไม่คลาดสายตาได้เธอก็ไม่จำเป็นต้องเกาะชายเสื้อฉันแล้ว“
เออ ..นั้นสิเนอะ เรื่องที่ฉันเกาะชายเสื้อเขามาเนี่ยส่วนหนึ่งก็เพราะตอนแรกฉันคิดว่าเขาจะหนีไปโดยทิ้งฉันไว้ แต่ตอนนี้เรื่องมันผิดคลาดไปนิดหน่อยตอนนี้ฉันต้องจับตามองเขาไม่ให้คลาดสายตาแทนมันเหมือนเป็น
การท้าประลองเรื่องที่ว่าใครจะพลาดก่อนกัน โดยขึ้นอยู่กันสติของฉันด้วยตราบใดที่ฉันจับตามองเขาไว้ตลอดเวลา เขาจะไปทางไหนฉันก็จะรู้ตลอด
“ก็ได้ ถ้าฉันปล่อยให้นายคลาดสายตานายก็หนีไปได้เลย “
ทันทีที่ฉันปล่อยชายเสื้อเขาออกเขาก็ออกตัวเดินทันที
แหม่...เข้าสู่นาทีแรก นายก็คิดจะแกล้งให้ฉันเดินตามไม่ทันแล้วใช่มั้ยย่ะ ไม่มีทางซะหรอกฉันจะตามนาย
อย่างไม่คลาดสายตา
“นาย จะรีบไปไหน เนี่ย“
“จะรีบไปจากเธอไงล่ะ “
“เสียใจด้วยนะ เพราะนาย จะหนีไปไหนไม่พ้นแน่ๆอ้าย.... “
ซวย อีกแล้ว เพราะฉันเอาแต่เดินตามอีตาคนสวนอย่างรีบๆเลยลืมมองดูทาง แล้วก็สะดุดก่อนหินจนได้
เจ็บ สุดๆ อ้าว..เฮ้ย ช่างมัน ก่อนแล้ว กัน แผลแค่นี้ แต่ตอนนี้ อีตาคนสวนนั้นเดินนำไปไกลโดยไม่เหลียวหลังกลับมาดูฉันแม้แต่น้อย ยังไงก็ต้องเดินต่อไปให้ได้ เพื่อหนทางกลับบ้านของฉัน
พอเดินไปได้อีกซักพัก เขาก็หยุดนั่งพักที่ใต้ต้นไม้ นั้นทำให้ฉันสามารถทรุดตัวนั่งได้เป็นครั้งแรกหลังจากที่เดินมานาน
โอ้ย.ฉัน.อยากจะกรีดร้อง เมื่อเห็นหัวเข่า ตัวเองที่ช้ำๆ จนเห็นรอยช้ำสีม่วงๆแดงๆได้อย่างชัดเจน และตอนนี้มันก็เริ่มบวมแล้วด้วยอ่ะ อยากจะร้องไห้ สงสัยจะเป็นตอนที่ล้มเมื่อกี้ ทำไมฉันต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย ทำไมไม่มีใครมาตามหาฉันเนี่ย
“เฮ้..หัวเข่าเธอไปทำอะไรมาล่ะ“
“ถามมาได้ ดูเองก็น่าจะรู้ว่าเพราะหกล้ม“
จู่ๆ อีตาคนสวนจอมไร้ความเมตตาก็เข้ามาถามอาการหัวเข่าฉันอย่างไม่ชอบมาพากล จะมาไม้กัน
“ดูดิ เจ็บมากมั้ยเนี่ย“
เขายื่นหน้ามาไกล้ฉันก่อนที่จะเป่าหัวเข่าฉันอย่างเบาๆ เหมือนตอนเด็กๆที่ฉันหกล้มแล้วคุณพ่อจะเป่าเพี้ยงให้ฉันเหมือนจะทำให้หายเจ็บและทุกครั้งที่คุณพ่อทำแบบนั้นฉันจะรู้สึกว่ามันเจ็บน้อยลงไปทันที
“เอาล่ะ เพี้ยงหายแล้วล่ะ “
เขาเงยหน้ามาสบตากับฉันพร้อมยิ้มให้อย่างใจดี เหมือนกับรอยยิ้มเทวดาแสนดี
“เธอรออยู่ นี่ก่อนนะเดี๋ยวฉันไปหาน้ำมาล้างแผลให้ก่อนที่มันจะติดเชื้อ“
เขาเอ่ยก่อนที่เอามือมาขยี้หัวฉันเล่น และยิ้มให้เหมือนปลอบใจ
“เดี๋ยว!นายไม่ต้องไปที่ไหนทั้งนั้นแหละ“
“อ้าว ทำไมล่ะฉันแค่จะหาน้ำมาล้างแผลให้เธอนะ หรือว่าเธอคิดว่าฉันจะหนีไปและทิ้งเธอที่เจ็บไว้ตรงนี้โดยไม่เหลียวแลซักนิด เธอคิดว่าฉันจะนิสัย ไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ“
เขาทำสีหน้าอย่างเศร้าใจดวงตาเขา ดูหม่นหมองลงไปทันที ชิ อย่ามาทำเป็นหม่นหมองนายตีบทแตกเลยข้อนี้ฉันยอมรับ แต่ก็ไม่ดีพอที่จะ หลอกฉัน หรอกย่ะ
“ใช่ ก็นายเป็นแบบนั้นจริงๆ ถอดหน้ากาก จอมปลอม ออกมาได้แล้วล่ะ นายไม่ได้จะไปหาน้ำมาให้ฉันหรอก ฉันดูออกหมดแล้ว“
พอจบประโยคนั้นของฉันลงสีหน้าที่เศร้าๆของอีตาคนสวนก็เปลี่ยนมายิ้มมุมปากอย่างเจ้าเลห์แทน นั้นแสดงว่าคำพูดของฉันเป็นจริงทั้งหมดงั้นซิ
“ว้า.แย่จังนะที่เธอจับได้ ด้วยเก่งเหมือนกันนิ ที่ไม่โดนฉันหลอก ฉันอุสาห์แสดงเต็มที่แล้วนะนึกว่าเธอจะหลงกลไปแล้วซะอีก สงสัยฉันจะแสดงไม่ดีพอแน่ๆ “
……
“แต่นี้มัน แค่เริ่มต้นเท่านั้นนะ สาวน้อย บททดสอบอีกมากมายรอเธออยู่แค่เพียงเธอพลาดเพียงเสี้ยววินาทีฉันก็จะสลัดเธอทิ้งสำเร็จ แล้วหนีไปทันที พอถึงตอนนั้น เธอเตรียมตัว จบชีวิตตัวเองไว้ที่นี่ได้เลย“
ทุกคนช่วยบอกฉันทีเถอะว่าคนที่ยืนอยู่ตรง หน้าฉันนี้คนหรือปีศาจกันแน่ดูเขาจะชั่วร้ายอย่างไม่แคร์สื่อมากเท่าที่ฉันเคยพบมา แถมยังพูดเรื่องการแสแสร้งของตัวเองอย่างหน้าตาเฉยเหมือนมันไม่ได้เป็นเรื่องผิดซักนิด
ชะตากรรม เศร้าๆของ คนสวย อย่างฉันจะต้องพบเจอกับเลห์เหลี่ยมอะไรเท่าไหร่อีกเนี่ย
คนสวยเคาระห์ร้าย เครียดอีกแล้ววววววววววววววววววววววววววววว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ