The Horros : ลอง ล่า ท้า ตาย
-
เขียนโดย lHOPEl
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.55 น.
3 ตอน
1 วิจารณ์
5,823 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 21.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) มาเล่นด้วยกันสิ... [ ภาคจบ ]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ผมค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำ มันส่งเสียด แอ๊ด ~ เบาๆ เหมือนไม่ได้เปิดมานาน ในห้องน้ำมืดสนิท เมื่อเข้าไป ทางซ้ายมือเป็นกระจกยาว มีอ่างล้างมือสี่อ่างได้ถ้ามองไม่ผิด ส่วนฝั่งตรงข้ามกระจกเป็นห้องน้ำที่กั้นเป็นห้องเล็กๆ มีอยู่ด้วยกันหกห้อง ตรงข้ามกับประตูมีหน้าต่างทึบบานเล็กไว้ถ่ายเทอากาศ
ผมและทั้งสองต่างก็มีไฟฉายอันเล็กกันคนละแท่ง สภาพห้องน้ำเหมือนถูกปล่อยไว้ ไม่ได้ทำความสะอาดมาสักหนึ่งอาทิตย์ ผมเห็นคราบฝุ่นเกาะอยู่ตรงขอบอ่างล้างมือ และบนกระจกที่มีอักษรภาษาญี่ปุ่นเขียนไว้ ผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่ทุกๆประโยคล้วนมีคำที่เหมือนกันอยู่ด้วย
ผมเดินเข้ามากลางห้องน้ำ ยืนอยู่บนทางเดินไม่ยาวนักระหว่างอ่างล้างมือกับตัวห้องน้ำ โยเดินเข้ามาปุ๊บก็ส่องไฟไปบนกระจกทันที ลืมไปว่าหมอนี่อ่านเขียนภาษาญี่ปุ่นได้
“ เหวอ ! ” เมื่อไอกล้าเข้ามา ประตูยังไม่ทันจะปิดดี มันก็ร้องลั่นขึ้นด้วยความตกใจตามแบบฉบับคนขวัญอ่อน
“ มึงจะเหวออะไรวะ นั่นหน้ามึงนะว้อย ” ผมว่า ไอนี่ชอบตกใจส่งเดช ทำเอาผมกับไอโยพาลตกใจไปด้วยหลายครั้งแล้ว
“ เฮ้ออ ~ ” ไอโยถอนหายใจ วางไฟฉายไว้บนอ่าง ก่อนยกโทรศัพท์ขึ้นมาจิ้มหาอะไรของมัน
“ เอ้า ยืนหาอะไรล่ะ รีบๆเข้าสิ ” กล้าพูด ผมสบตากับไอโย ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออก แล้วเดินเข้าไปพร้อมไฟฉายในมือ
ยังดีที่สภาพชักโครกยังพอทนได้ ผมเปิดฝาพับมันขึ้น เห็นสภาพแล้วจึงปิดกลับดังเดิมก่อนนั่งข้างบน ทำทีถ่วงเวลารอไอโยมันเล่าเรื่อง
“ เอ้อ ! ไอโย บนกระจกมันเขียนว่าอะไรมั่งวะ ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ เหมือนวัยรุ่นบ้านเรานั่นแหละ มันเขียนว่า กูมาที่นี่แล้วเว้ย - มันทำอะไรกูได้ที่ไหน - ไหนวะไม่เห็นจะมีเลย - ไร้สาระว่ะ ทำนองเนี้ย ” โยแปลให้ฟัง
“ กูว่าเด็กบ้านเราไม่เขียนอะไรทำนองนี้ในห้องน้ำนะเว่ย เหมือนที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรืออะไรสักอย่างแหละ ต้องมาสลักชื่อว่ามาย่ำที่นี่แล้วงั้นอ่ะ ” ผมว่า
“ หรือว่า... ” ไอกล้าที่เงียบไป จู่ๆก็พูดขึ้น
“ มึงหยุดพูดไปเลยไอกล้า กลัวแล้วก็ชอบพูดอยู่นั่นแหละ ” ผมตะโกนผ่านประตูห้องน้ำ
“ จริงด้วย ไหนๆตอนนี้เราก็อยู่กันที่ญี่ปุ่นนี่เนอะ แล้วฉันก็เพิ่งจะอ่านตำนานๆหนึ่งไป ระหว่างนั่งเครื่องมาที่นี่ ซึ่งมันก็เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ซะด้วย ” โยพูด
“ ตำนานอะไรวะ ” กล้าเอ่ยถาม สายตามองนู่นนี่ไปมาอย่างหวาดระแวง
“ เคยได้ยินเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่ชื่อฮานาโกะมั้ย? ” โยถามขึ้น
“ กูไม่อ่านเรื่องสยองขวัญมึงก็รู้นี่หว่า ” กล้าตอบ ผมนั่งฟังเงียบๆในห้องน้ำที่มืดสนิท ส่องไฟฉายกระทบหลังบานประตู เห็นเป็นวงแสงสีขาวบนบานประตูเก่า
“ เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็เข้าห้องน้ำทำธุระปกติเนี่ยแหละ แต่ปรากฏว่าประตูมันล็อกทำให้เธอไม่สามารถออกจากห้องน้ำได้ และก็ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องเรียกของเธอ ด้วยความหิวเธอจึงกินพวกแมลงและน้ำในชักโครกเพื่อประทังชีวิต ” โยเล่า
“ แหวะ ” ผมที่นั่งอยู่ได้ยินก็คลื่นไส้ขึ้นมาทันที บวกกับสภาพในห้องที่ผมอยู่ค่อนข้างจะจินตนาการได้ง่ายทีเดียว
“ มันเล่ากันหลายอย่างอยู่นะ อย่างเช่นให้เคาะประตูห้องน้ำชั้นที่ 4 ห้องที่ 3 ทางขวามือ แล้วเรียกชื่อ เธอก็จะตอบกลับมาล่ะ ” โยเล่า
“ เป็นไรไอกล้า หน้ามึงซีดเชียว ” โยหันไปมองไอกล้าที่จู่ๆก็มีทีท่าตื่นกลัวขึ้นมา
“ ระ เรา อยู่บนชั้นที่ 4 ล่ะ แล้วก็ ห้องน้ำ ผะ ผู้หญิงด้วย ล่ะ แล้วก็.... ” กล้าพูดติดๆขัดๆ พร้อมกับชี้ไปที่ข้อความบนกระจก
ผมรู้ทันทีว่ามันต้องการจะสื่ออะไร ก่อนพูดออกไปว่า
“ ไร้สาระน่ากล้า มึงก็ได้ยินที่ไอโยบอก ข้อความแต่ละข้อความมันเจอกันซะที่ไหนล่ะ ”
“ ถ้ามันเจอแล้วมันจะมานั่งเขียนให้มึงเห็นมั้ยเล่า ” กล้าตอบ ทำเอาผมคิดขึ้นมาทันทีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในห้องที่เท่าไรกันแน่
“ เดี๋ยวนะ ห้องที่ 3 ทางขวามือ งั้นก็ ห้องข้างๆกูสิวะเนี่ย ” ผมพูด เมื่อคิดได้ว่านั่งอยู่ในห้องที่ 4 นับจากประตูทางเข้า หรือทางขวามือถ้าหันหลังให้กระจก
ผมลุกขึ้น เปิดประตูออกมา เห็นไอกล้าสะดุ้งโหยงเล็กน้อยที่ผมพรวดออกมา
“ เป็นไรไอกิต มึงไม่กลัวเรื่องพวกนี้ไม่ใช่รึไง ” โยถาม สีหน้ามันเริ่มไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“ แหม่ แต่เล่นอยู่ใกล้ๆก็ไม่ดีมั้ง ว่าแต่ไอ้ตำนานนั่นมันว่ายังไงนะ เคาะประตูแล้วก็เรียกชื่อใช่มะ? ” ผมหันไปถามไอโย ในห้องมีเพียงแสงสว่างจากไฟฉายสามกระบอกที่ส่องสะท้อนไปมาท่ามกลางความมืดมิดในห้องน้ำแห่งนี้
“ ไม่เอาน่าไอกิต ” กล้าพูด หน้าตาบ่งบอกสุดขีดว่าไม่อยากให้ผมทำ
“ ไม่เป็นไรหรอกน่า คิดมากไปได้ ขึ้นชื่อว่าตำนานน่ะ ส่วนใหญ่แต่งขึ้นมาทั้งนั้นแหละ เอ้า บอกมาสิว่ามันต้องทำยังไง ” ผมพูดจบก็หันไปถามไอโย ที่ทำสายตาเหมือนจะถามเป็นนัยว่า มึงจะเอาจริงหรอวะ ผมพยักหน้ายืนยัน เดินไปในสุดของห้องน้ำ ว่ามีอะไรบ้างมั้ย ก่อนสังเกตว่าห้องน้ำห้องนี้ดูยังไงก็ถูกทิ้งร้างไปแล้วแน่ๆ แล้วพวกเราก็ดันบังเอิญแบบสุดๆซะด้วยที่เข้ามาในนี้
“ ก็ไม่มีอะไรมาก เดินไปหน้าประตู แล้วมึงก็พูดตามนี่เลย ” โยเดินเข้ามาหา ยื่นมือถือมาให้ ผมอ่านเว็บที่มันสืบค้น เมื่ออ่านเสร็จผมก็พูดขึ้นแต่สายตากับเหลือบไปเห็นไอกล้าซะก่อน
“ แล้วนั่นมึงไปยืนหน้าประตูห้องน้ำทำไมวะนั่น พวกกูอยู่กันกลางห้องนะเว่ย ” ผมว่า เห็นไอกล้ายืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ ส่องไฟฉายขึ้นไปบนเพดานทำให้พื้นที่บริเวณนั้นสว่างขึ้น
“ กูจะยืนตรงนี้แล้วทำไมวะ ”
“ เออๆ เรื่องของมึงละกัน ” ผมตอบ ไม่อยากเซ้าซี้กับมันมาก
“ เฮ่ย ไอกิต นี่เรามาแกล้งไอกล้าไม่ใช่รึไง แล้วไหงๆเหมือนมาลองของกันเองล่ะวะ ” โยกระซิบถาม
“ ก็แกล้งมันอยู่นี่ไง ” ผมกระซิบตอบ เดินไปหน้าประตูห้องน้ำบานที่ 3 ที่ว่าเอาไว้ เงื้อมือขึ้นกลางอากาศ
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !
“ ฮานาโกะซัง มาเล่นกับพวกเรามั้ย? ” ผมเอ่ยถามกับประตูห้องน้ำ ใจเต้นโครมครามไม่รู้เพราะตื่นเต้นหรือว่ากลัวกันแน่
แต่ทุกอย่างก็ยังปกติ ผมหันไปสบตาเพื่อนทั้งสองเพื่อหาคำตอบ แต่พวกมันก็ได้แต่ส่ายหน้าไม่รู้
“ หรือเพราะกูพูดภาษาไทยวะ ” ผมพูดขึ้น
“ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีแล้วไม่ใช่รึเฮ้ย ” กล้าตะโกน
“ งั้นไอโย มึงพูด ”
“ โยนให้กูซะงั้นอ่ะ มึงก็พูดภาษาอังกฤษสิวะ ” ไอโยตอบ
“ แล้วเค้าจะรู้เรื่องมั้ยเล่า ” ผมพูด หันไปหน้าประตูอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเคาะประตู
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !
“ Hanakosan , Come play with me? ”
ครึ่ก ! ~
“ เสียงอะไรวะ ” กล้าถามขึ้นทันที
“ พวกมึงสองคนทำอะไรตกรึเปล่า ” ผมถาม แต่พวกมันก็ส่ายหน้าตอบ พร้อมกับสีหน้าที่ซีดลงกว่าเดิม
“ แล้วอะไรมันจะตกวะ ” ผมพูดขึ้น ก้มลงกับพื้น ส่องไฟฉายไปตามพื้น ไล่ตั้งแต่ห้องสุดท้ายมาเรื่อยๆ แล้วผมก็ต้องชะงักด้วยความตกใจ เมื่อปรากฏรองเท้านักเรียนคู่หนึ่ง ปลายเท้าหันหน้าออก
“ เจออะไรวะไอกิต ” ไอกล้าถาม
“ เปล๊า ไม่มีอะไร ” ผมลุกขึ้นยืน
“ กูไม่เชื่อ สีหน้าเหมือนมึงเพิ่งเจอผีงั้นแหละ ” โยพูดจบก่อนก้มลงส่องไฟไปยังห้องน้ำที่ผมถือไฟฉายค้างไว้ มันอยู่ท่านั้นสามสี่วินาที ก่อนลุกขึ้นช้าๆ
“ ไม่เห็นมีอะไรเลย ” มันตอบ
ผมอึ้งไปกับสิ่งที่มันพูดออกมา แต่ก็ไม่กล้าก้มลงไปดูแล้ว
“ ก็กูบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรๆ เอ้า มึงพูดซักทีเถอะ กูอยากกลับไปนอนแล้ว ” ผมว่า
“ สุดท้ายก็จบที่กูสิน่า ” ผมเขยิบไปยืนข้างๆไอกล้า โยเดินไปยืนหน้าห้อง ผมยังเห็นภาพรองเท้านักเรียนสีดำสนิทท่ามกลางเงามืดในห้องน้ำ แต่คิดไปคิดมาผมก็ไม่เห็นขานี่หว่า แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เมื่อไอโยไม่เห็นก็คือสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง หรือว่ามันหลอกผม แต่ถ้ามันหลอกมันก็ไม่น่าจะกล้าออกไปพูดนะ เป็นผมก็คงไม่กล้าแล้วล่ะ รึผมจะห้ามมันดี
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !
“ ฮานาโกะซัง วา วาตาชิโอนิชชิ อาโซบุ คุรุ ( ฮานาโกะซัง มาเล่นกับพวกเรามั้ย? ) ” โยพูดหลังจากเคาะประตูไปสามครั้ง
เงียบ
“ ไร้สาระว่ะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ไปกันเถอะไอกล้าไอโย ” ผมพูดขึ้น กำลังจะก้าวไปหาไอกล้าที่เปลี่ยนมายืนหน้าห้องน้ำห้องแรก
แกร๊ก ! แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก !
“ เฮ้ย ! ” ไอโยตะโกนขึ้น ผงะไปชนขอบอ่างล้างหน้าข้างหลังจนไฟฉายตกลงพื้น ทำเอาผมและทั้งสองคนเห็นในสิ่งๆเดียวกัน คือรองเท้านักเรียนสีดำเข้ม ที่ยื่นเกินออกมานอกบานประตู และเสียงที่เหมือนพยายามเปิดประตูห้องน้ำ ที่ดูจะดังขึ้นเรื่อย ๆ
ปึง ! เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นข้างๆ ในขณะที่ผมกับไอโยยังตกใจกับภาพและเสียงตรงหน้า ผมหันไปและพบว่าไอกล้ามันหายไปแล้ว
“ โห่ ! ไอกล้า ไอสลัด ไอทิ้งเพื่อน ” ผมวิ่งถลาออกตามมันไปทันที พร้อมกับไอโยที่วิ่งตามมาติดๆ
“ อ้า ~ !!!! ” เสียงไอกล้าดังลากยาวไปตลอดทางที่มันวิ่งไปตามทางเดินหน้าห้อง ผมตกใจจนพูดไม่ออก ไอโยก็เหมือนกัน
เมื่อก้าวออกมานอกห้องน้ำ สภาพที่เห็นของทางเดินที่พวกเราเดินมา กับกลายเป็นสภาพเก่าซอมซ่อไม่ต่างกับตึกร้างที่ถูกทิ้งไว้แรมปี ไอกล้าวิ่งนำไปหลายสิบเมตรแล้วและยังคงไม่หยุดร้อง ผมจึงหันไปหาไอโยที่วิ่งอยู่ข้างหลัง เพื่อยืนยันว่าผมไม่ได้เห็นคนเดียว
แต่การหันกลับไปข้างหลัง ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมทำพลาดที่สุดในชีวิต ผมเห็น เด็กผู้หญิงไม่สูงมากนัก ไว้ผมสั้นสีดำ เสื้อขาวใส่ชุดเอี๊ยมกระโปรงและสายสีแดง ถุงเท้าสีขาวสูงจนถึงหัวเข่าและรองเท้านักเรียนสีดำที่พวกเราเห็น
“ มันออกมาแล้ว !!! ” ผมตะโกนลั่น ตกใจสุดขีด ไอกล้าที่อยู่ข้างหน้าหันกลับมาเมื่อได้ยินผมตะโกนเสียงดัง กลับร้องลั่นซะดังกว่าผมอีก
“ โยโกเตะวา เตอิรุ ” เสียงเด็กผู้หญิงพูดขึ้นเสียงดังแต่ยังไม่ถึงกับตะโกน
“ แปลว่าไรวะ ” ผมตะโกนถามไอโยที่วิ่งขนาบข้างผมแล้วตอนนี้
“ เธอบอกว่าพวกเราโกหก ” โยตอบ ชะลอฝีเท้าลง ผมจึงชะลอตาม คงเพราะเธอไม่สามารถออกนอกบริเวณห้องน้ำได้ล่ะมั้ง ไอโยจึงชะลอความเร็วลง
“ บาซูรุ !!! ( ต้องลงโทษ )” เธอตะโกนเสียงดังกว่าครั้งแรก พร้อมกับสีหน้าที่แสดงออกถึงความโกรธแค้น แต่ที่ตกใจที่สุดคือเธอวิ่งมาทางพวกเรา
“ ว้ากกก ! ” ผมกับไอโยร้องลั่น ก่อนออกวิ่งสุดชีวิต ดีที่พวกเราอยู่ห่างเธอไกลพอตัว ผมและไอโยหักเลี้ยวทางขวาเพื่อวิ่งขึ้นบันได เห็นไอกล้ายืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่ตรงทางออก
“ เร็วเข้า ! ” ไอกล้าตะโกน สายตาไอกล้าไม่ได้มองพวกผม แต่กลับมองไปข้างหลัง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอะไร
ปึง !
ผมกระแทกประตูปิด ไม่คิดจะหันกลับไปมองข้างหลัง พวกเราวิ่งสุดแรงเกิดก่อนกระโดดข้ามอาคารเรียนไปยังตึกที่พวกเราหอบจับตอนกระโดดมา ขากลับมันช่างง่ายดายซะเหลือเกิน
“ ตอนกลางคืนมึงไม่ต้องมาชวนกูวิ่งเลยนะ ” ไอกล้าตะโกน ขณะพวกเราวิ่งไปบนดาดฟ้าตึกเพื่อมุ่งหน้ากลับโรงแรม
*เรื่องนี้ผมแบ่งเป็นตอนสั้นๆนะครับผม ดังนั้นยังไม่จบนะครับ
ผมและทั้งสองต่างก็มีไฟฉายอันเล็กกันคนละแท่ง สภาพห้องน้ำเหมือนถูกปล่อยไว้ ไม่ได้ทำความสะอาดมาสักหนึ่งอาทิตย์ ผมเห็นคราบฝุ่นเกาะอยู่ตรงขอบอ่างล้างมือ และบนกระจกที่มีอักษรภาษาญี่ปุ่นเขียนไว้ ผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่ทุกๆประโยคล้วนมีคำที่เหมือนกันอยู่ด้วย
ผมเดินเข้ามากลางห้องน้ำ ยืนอยู่บนทางเดินไม่ยาวนักระหว่างอ่างล้างมือกับตัวห้องน้ำ โยเดินเข้ามาปุ๊บก็ส่องไฟไปบนกระจกทันที ลืมไปว่าหมอนี่อ่านเขียนภาษาญี่ปุ่นได้
“ เหวอ ! ” เมื่อไอกล้าเข้ามา ประตูยังไม่ทันจะปิดดี มันก็ร้องลั่นขึ้นด้วยความตกใจตามแบบฉบับคนขวัญอ่อน
“ มึงจะเหวออะไรวะ นั่นหน้ามึงนะว้อย ” ผมว่า ไอนี่ชอบตกใจส่งเดช ทำเอาผมกับไอโยพาลตกใจไปด้วยหลายครั้งแล้ว
“ เฮ้ออ ~ ” ไอโยถอนหายใจ วางไฟฉายไว้บนอ่าง ก่อนยกโทรศัพท์ขึ้นมาจิ้มหาอะไรของมัน
“ เอ้า ยืนหาอะไรล่ะ รีบๆเข้าสิ ” กล้าพูด ผมสบตากับไอโย ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออก แล้วเดินเข้าไปพร้อมไฟฉายในมือ
ยังดีที่สภาพชักโครกยังพอทนได้ ผมเปิดฝาพับมันขึ้น เห็นสภาพแล้วจึงปิดกลับดังเดิมก่อนนั่งข้างบน ทำทีถ่วงเวลารอไอโยมันเล่าเรื่อง
“ เอ้อ ! ไอโย บนกระจกมันเขียนว่าอะไรมั่งวะ ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ เหมือนวัยรุ่นบ้านเรานั่นแหละ มันเขียนว่า กูมาที่นี่แล้วเว้ย - มันทำอะไรกูได้ที่ไหน - ไหนวะไม่เห็นจะมีเลย - ไร้สาระว่ะ ทำนองเนี้ย ” โยแปลให้ฟัง
“ กูว่าเด็กบ้านเราไม่เขียนอะไรทำนองนี้ในห้องน้ำนะเว่ย เหมือนที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรืออะไรสักอย่างแหละ ต้องมาสลักชื่อว่ามาย่ำที่นี่แล้วงั้นอ่ะ ” ผมว่า
“ หรือว่า... ” ไอกล้าที่เงียบไป จู่ๆก็พูดขึ้น
“ มึงหยุดพูดไปเลยไอกล้า กลัวแล้วก็ชอบพูดอยู่นั่นแหละ ” ผมตะโกนผ่านประตูห้องน้ำ
“ จริงด้วย ไหนๆตอนนี้เราก็อยู่กันที่ญี่ปุ่นนี่เนอะ แล้วฉันก็เพิ่งจะอ่านตำนานๆหนึ่งไป ระหว่างนั่งเครื่องมาที่นี่ ซึ่งมันก็เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ซะด้วย ” โยพูด
“ ตำนานอะไรวะ ” กล้าเอ่ยถาม สายตามองนู่นนี่ไปมาอย่างหวาดระแวง
“ เคยได้ยินเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่ชื่อฮานาโกะมั้ย? ” โยถามขึ้น
“ กูไม่อ่านเรื่องสยองขวัญมึงก็รู้นี่หว่า ” กล้าตอบ ผมนั่งฟังเงียบๆในห้องน้ำที่มืดสนิท ส่องไฟฉายกระทบหลังบานประตู เห็นเป็นวงแสงสีขาวบนบานประตูเก่า
“ เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็เข้าห้องน้ำทำธุระปกติเนี่ยแหละ แต่ปรากฏว่าประตูมันล็อกทำให้เธอไม่สามารถออกจากห้องน้ำได้ และก็ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องเรียกของเธอ ด้วยความหิวเธอจึงกินพวกแมลงและน้ำในชักโครกเพื่อประทังชีวิต ” โยเล่า
“ แหวะ ” ผมที่นั่งอยู่ได้ยินก็คลื่นไส้ขึ้นมาทันที บวกกับสภาพในห้องที่ผมอยู่ค่อนข้างจะจินตนาการได้ง่ายทีเดียว
“ มันเล่ากันหลายอย่างอยู่นะ อย่างเช่นให้เคาะประตูห้องน้ำชั้นที่ 4 ห้องที่ 3 ทางขวามือ แล้วเรียกชื่อ เธอก็จะตอบกลับมาล่ะ ” โยเล่า
“ เป็นไรไอกล้า หน้ามึงซีดเชียว ” โยหันไปมองไอกล้าที่จู่ๆก็มีทีท่าตื่นกลัวขึ้นมา
“ ระ เรา อยู่บนชั้นที่ 4 ล่ะ แล้วก็ ห้องน้ำ ผะ ผู้หญิงด้วย ล่ะ แล้วก็.... ” กล้าพูดติดๆขัดๆ พร้อมกับชี้ไปที่ข้อความบนกระจก
ผมรู้ทันทีว่ามันต้องการจะสื่ออะไร ก่อนพูดออกไปว่า
“ ไร้สาระน่ากล้า มึงก็ได้ยินที่ไอโยบอก ข้อความแต่ละข้อความมันเจอกันซะที่ไหนล่ะ ”
“ ถ้ามันเจอแล้วมันจะมานั่งเขียนให้มึงเห็นมั้ยเล่า ” กล้าตอบ ทำเอาผมคิดขึ้นมาทันทีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในห้องที่เท่าไรกันแน่
“ เดี๋ยวนะ ห้องที่ 3 ทางขวามือ งั้นก็ ห้องข้างๆกูสิวะเนี่ย ” ผมพูด เมื่อคิดได้ว่านั่งอยู่ในห้องที่ 4 นับจากประตูทางเข้า หรือทางขวามือถ้าหันหลังให้กระจก
ผมลุกขึ้น เปิดประตูออกมา เห็นไอกล้าสะดุ้งโหยงเล็กน้อยที่ผมพรวดออกมา
“ เป็นไรไอกิต มึงไม่กลัวเรื่องพวกนี้ไม่ใช่รึไง ” โยถาม สีหน้ามันเริ่มไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“ แหม่ แต่เล่นอยู่ใกล้ๆก็ไม่ดีมั้ง ว่าแต่ไอ้ตำนานนั่นมันว่ายังไงนะ เคาะประตูแล้วก็เรียกชื่อใช่มะ? ” ผมหันไปถามไอโย ในห้องมีเพียงแสงสว่างจากไฟฉายสามกระบอกที่ส่องสะท้อนไปมาท่ามกลางความมืดมิดในห้องน้ำแห่งนี้
“ ไม่เอาน่าไอกิต ” กล้าพูด หน้าตาบ่งบอกสุดขีดว่าไม่อยากให้ผมทำ
“ ไม่เป็นไรหรอกน่า คิดมากไปได้ ขึ้นชื่อว่าตำนานน่ะ ส่วนใหญ่แต่งขึ้นมาทั้งนั้นแหละ เอ้า บอกมาสิว่ามันต้องทำยังไง ” ผมพูดจบก็หันไปถามไอโย ที่ทำสายตาเหมือนจะถามเป็นนัยว่า มึงจะเอาจริงหรอวะ ผมพยักหน้ายืนยัน เดินไปในสุดของห้องน้ำ ว่ามีอะไรบ้างมั้ย ก่อนสังเกตว่าห้องน้ำห้องนี้ดูยังไงก็ถูกทิ้งร้างไปแล้วแน่ๆ แล้วพวกเราก็ดันบังเอิญแบบสุดๆซะด้วยที่เข้ามาในนี้
“ ก็ไม่มีอะไรมาก เดินไปหน้าประตู แล้วมึงก็พูดตามนี่เลย ” โยเดินเข้ามาหา ยื่นมือถือมาให้ ผมอ่านเว็บที่มันสืบค้น เมื่ออ่านเสร็จผมก็พูดขึ้นแต่สายตากับเหลือบไปเห็นไอกล้าซะก่อน
“ แล้วนั่นมึงไปยืนหน้าประตูห้องน้ำทำไมวะนั่น พวกกูอยู่กันกลางห้องนะเว่ย ” ผมว่า เห็นไอกล้ายืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ ส่องไฟฉายขึ้นไปบนเพดานทำให้พื้นที่บริเวณนั้นสว่างขึ้น
“ กูจะยืนตรงนี้แล้วทำไมวะ ”
“ เออๆ เรื่องของมึงละกัน ” ผมตอบ ไม่อยากเซ้าซี้กับมันมาก
“ เฮ่ย ไอกิต นี่เรามาแกล้งไอกล้าไม่ใช่รึไง แล้วไหงๆเหมือนมาลองของกันเองล่ะวะ ” โยกระซิบถาม
“ ก็แกล้งมันอยู่นี่ไง ” ผมกระซิบตอบ เดินไปหน้าประตูห้องน้ำบานที่ 3 ที่ว่าเอาไว้ เงื้อมือขึ้นกลางอากาศ
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !
“ ฮานาโกะซัง มาเล่นกับพวกเรามั้ย? ” ผมเอ่ยถามกับประตูห้องน้ำ ใจเต้นโครมครามไม่รู้เพราะตื่นเต้นหรือว่ากลัวกันแน่
แต่ทุกอย่างก็ยังปกติ ผมหันไปสบตาเพื่อนทั้งสองเพื่อหาคำตอบ แต่พวกมันก็ได้แต่ส่ายหน้าไม่รู้
“ หรือเพราะกูพูดภาษาไทยวะ ” ผมพูดขึ้น
“ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีแล้วไม่ใช่รึเฮ้ย ” กล้าตะโกน
“ งั้นไอโย มึงพูด ”
“ โยนให้กูซะงั้นอ่ะ มึงก็พูดภาษาอังกฤษสิวะ ” ไอโยตอบ
“ แล้วเค้าจะรู้เรื่องมั้ยเล่า ” ผมพูด หันไปหน้าประตูอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเคาะประตู
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !
“ Hanakosan , Come play with me? ”
ครึ่ก ! ~
“ เสียงอะไรวะ ” กล้าถามขึ้นทันที
“ พวกมึงสองคนทำอะไรตกรึเปล่า ” ผมถาม แต่พวกมันก็ส่ายหน้าตอบ พร้อมกับสีหน้าที่ซีดลงกว่าเดิม
“ แล้วอะไรมันจะตกวะ ” ผมพูดขึ้น ก้มลงกับพื้น ส่องไฟฉายไปตามพื้น ไล่ตั้งแต่ห้องสุดท้ายมาเรื่อยๆ แล้วผมก็ต้องชะงักด้วยความตกใจ เมื่อปรากฏรองเท้านักเรียนคู่หนึ่ง ปลายเท้าหันหน้าออก
“ เจออะไรวะไอกิต ” ไอกล้าถาม
“ เปล๊า ไม่มีอะไร ” ผมลุกขึ้นยืน
“ กูไม่เชื่อ สีหน้าเหมือนมึงเพิ่งเจอผีงั้นแหละ ” โยพูดจบก่อนก้มลงส่องไฟไปยังห้องน้ำที่ผมถือไฟฉายค้างไว้ มันอยู่ท่านั้นสามสี่วินาที ก่อนลุกขึ้นช้าๆ
“ ไม่เห็นมีอะไรเลย ” มันตอบ
ผมอึ้งไปกับสิ่งที่มันพูดออกมา แต่ก็ไม่กล้าก้มลงไปดูแล้ว
“ ก็กูบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรๆ เอ้า มึงพูดซักทีเถอะ กูอยากกลับไปนอนแล้ว ” ผมว่า
“ สุดท้ายก็จบที่กูสิน่า ” ผมเขยิบไปยืนข้างๆไอกล้า โยเดินไปยืนหน้าห้อง ผมยังเห็นภาพรองเท้านักเรียนสีดำสนิทท่ามกลางเงามืดในห้องน้ำ แต่คิดไปคิดมาผมก็ไม่เห็นขานี่หว่า แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เมื่อไอโยไม่เห็นก็คือสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง หรือว่ามันหลอกผม แต่ถ้ามันหลอกมันก็ไม่น่าจะกล้าออกไปพูดนะ เป็นผมก็คงไม่กล้าแล้วล่ะ รึผมจะห้ามมันดี
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !
“ ฮานาโกะซัง วา วาตาชิโอนิชชิ อาโซบุ คุรุ ( ฮานาโกะซัง มาเล่นกับพวกเรามั้ย? ) ” โยพูดหลังจากเคาะประตูไปสามครั้ง
เงียบ
“ ไร้สาระว่ะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ไปกันเถอะไอกล้าไอโย ” ผมพูดขึ้น กำลังจะก้าวไปหาไอกล้าที่เปลี่ยนมายืนหน้าห้องน้ำห้องแรก
แกร๊ก ! แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก !
“ เฮ้ย ! ” ไอโยตะโกนขึ้น ผงะไปชนขอบอ่างล้างหน้าข้างหลังจนไฟฉายตกลงพื้น ทำเอาผมและทั้งสองคนเห็นในสิ่งๆเดียวกัน คือรองเท้านักเรียนสีดำเข้ม ที่ยื่นเกินออกมานอกบานประตู และเสียงที่เหมือนพยายามเปิดประตูห้องน้ำ ที่ดูจะดังขึ้นเรื่อย ๆ
ปึง ! เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นข้างๆ ในขณะที่ผมกับไอโยยังตกใจกับภาพและเสียงตรงหน้า ผมหันไปและพบว่าไอกล้ามันหายไปแล้ว
“ โห่ ! ไอกล้า ไอสลัด ไอทิ้งเพื่อน ” ผมวิ่งถลาออกตามมันไปทันที พร้อมกับไอโยที่วิ่งตามมาติดๆ
“ อ้า ~ !!!! ” เสียงไอกล้าดังลากยาวไปตลอดทางที่มันวิ่งไปตามทางเดินหน้าห้อง ผมตกใจจนพูดไม่ออก ไอโยก็เหมือนกัน
เมื่อก้าวออกมานอกห้องน้ำ สภาพที่เห็นของทางเดินที่พวกเราเดินมา กับกลายเป็นสภาพเก่าซอมซ่อไม่ต่างกับตึกร้างที่ถูกทิ้งไว้แรมปี ไอกล้าวิ่งนำไปหลายสิบเมตรแล้วและยังคงไม่หยุดร้อง ผมจึงหันไปหาไอโยที่วิ่งอยู่ข้างหลัง เพื่อยืนยันว่าผมไม่ได้เห็นคนเดียว
แต่การหันกลับไปข้างหลัง ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมทำพลาดที่สุดในชีวิต ผมเห็น เด็กผู้หญิงไม่สูงมากนัก ไว้ผมสั้นสีดำ เสื้อขาวใส่ชุดเอี๊ยมกระโปรงและสายสีแดง ถุงเท้าสีขาวสูงจนถึงหัวเข่าและรองเท้านักเรียนสีดำที่พวกเราเห็น
“ มันออกมาแล้ว !!! ” ผมตะโกนลั่น ตกใจสุดขีด ไอกล้าที่อยู่ข้างหน้าหันกลับมาเมื่อได้ยินผมตะโกนเสียงดัง กลับร้องลั่นซะดังกว่าผมอีก
“ โยโกเตะวา เตอิรุ ” เสียงเด็กผู้หญิงพูดขึ้นเสียงดังแต่ยังไม่ถึงกับตะโกน
“ แปลว่าไรวะ ” ผมตะโกนถามไอโยที่วิ่งขนาบข้างผมแล้วตอนนี้
“ เธอบอกว่าพวกเราโกหก ” โยตอบ ชะลอฝีเท้าลง ผมจึงชะลอตาม คงเพราะเธอไม่สามารถออกนอกบริเวณห้องน้ำได้ล่ะมั้ง ไอโยจึงชะลอความเร็วลง
“ บาซูรุ !!! ( ต้องลงโทษ )” เธอตะโกนเสียงดังกว่าครั้งแรก พร้อมกับสีหน้าที่แสดงออกถึงความโกรธแค้น แต่ที่ตกใจที่สุดคือเธอวิ่งมาทางพวกเรา
“ ว้ากกก ! ” ผมกับไอโยร้องลั่น ก่อนออกวิ่งสุดชีวิต ดีที่พวกเราอยู่ห่างเธอไกลพอตัว ผมและไอโยหักเลี้ยวทางขวาเพื่อวิ่งขึ้นบันได เห็นไอกล้ายืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่ตรงทางออก
“ เร็วเข้า ! ” ไอกล้าตะโกน สายตาไอกล้าไม่ได้มองพวกผม แต่กลับมองไปข้างหลัง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอะไร
ปึง !
ผมกระแทกประตูปิด ไม่คิดจะหันกลับไปมองข้างหลัง พวกเราวิ่งสุดแรงเกิดก่อนกระโดดข้ามอาคารเรียนไปยังตึกที่พวกเราหอบจับตอนกระโดดมา ขากลับมันช่างง่ายดายซะเหลือเกิน
“ ตอนกลางคืนมึงไม่ต้องมาชวนกูวิ่งเลยนะ ” ไอกล้าตะโกน ขณะพวกเราวิ่งไปบนดาดฟ้าตึกเพื่อมุ่งหน้ากลับโรงแรม
*เรื่องนี้ผมแบ่งเป็นตอนสั้นๆนะครับผม ดังนั้นยังไม่จบนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ