Plan Love Insidious...แผนรักร้าย
-
เขียนโดย tripleme
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.48 น.
4 chapter 1
0 วิจารณ์
7,436 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 11.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันอาทิตย์ 6.20 น.
“งึม งึม งึม”การได้นอนช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้ อิอิ ฮุฮุ เตียงนอนนุ่มๆ ผ้านวมอุ่นๆในวันที่ฝนตกพรำ พรำ โอยยยฟินได้อีก ><
“เฮียเพื่อนตื่นนนนนนนนน!!! ”แม่งวิมานของกูถล่มเลย ครายมันบังอาจมารบกวนการพักผ่อนของพี่เพื่อนคนหล่อเนี่ย
“อืออออออ”แน่จริงก็ปลุกไปเลย ยังไงก็ไม่ตื่นหรอก ดูดิว่าจะทำไง อ่ะอ่ะไม่ต้องกลัวว่าจะโดนถีบตกเตียงเหมือนในนิยาย เพราะผมได้ทำการล็อคห้องไว้อย่างแน่นหนาเรียบร้อยแล้ว วะฮะฮ้า คลุมโปงแม่งเลย
“อ๊ะ!! ห้องล็อค เฮียตื่นมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นหนูจะฟ้องมี้”มี้? มี้ไหนว่ะ มันเป็นครายยยย เช้าๆแบบนี้สมงสมองประมวลผลไม่ค่อยจะทันด้วย ช่างแม่ง ไม่รู้จัก = ไม่กลัวโว้ย อยากทำอะไรก็เชิญ
“เออ ตามบายเลยน้องสาว”นาทีนี้ไม่รู้ ไม่สนจะนอน นี่บอกเลย
“โอ้ววว!! เฮียแน่มากนี่บอกเลย เฮียเสร็จมี้แน่ อิอิ”นางพูดจบก็เดินไป พร้อมกับที่สมองของผมเริ่มประมวลผลช้าๆ มี้ มี้ มี้ มี้ = แม่ แม่ = หม่ามี้ ว๊ากกกกกก กูตายแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็รีบลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความเร็วแสงแล้วตรงไปที่ประตู
หมับ ตึก ตึก ตึก แหมะ
ไม่ต้องสงสัยไปครับว่ามันคือเสียงอัลไร มันก็คือเสียงเปิดประตู ตามด้วยเสียงผมวิ่งลงบันไดและสุดท้ายลงมานอนแหมะอย่างสวยงามอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้าย พร้อมเสียงหัวเราะของยัยน้องสาวตัวแสบกับขุ่นพ่อสุดที่รักที่หัวเราะราวกับกำลังดูตลกคาเฟ่ก็ไม่ปาน โคตรเป็นห่วงกูเลย ฮึ้ย!!
“เอา เอา ไม่ต้องรีบขนานนั้นก็ได้”พ่อครับน้ำเสียงเหมือนเป็นห่วงแต่หน้านี่ประมาณว่า สมน้ำหน้า ดันโง่?เอง อะไรเทือกนั้นมากอ่ะ
“โถ่ว!! พ่ออ่ะ ไม่ให้รีบได้ไงก็น้องพายจะไปฟ้องมี้ว่าเพื่อนไม่ยอมตื่นอ่ะ เดี๋ยวเพื่อนก็ได้โดนมี้ด่าหูชาพอดี”ประโยคแรกพูดบอกกับพ่อตัวเองครับ แต่ประโยคหลังนี่พึมพำกับตัวเองเพราะถ้าพูดเสียงดังแล้วมี้ได้ยินนี่ยาวครับ
“มี้ไม่อยู่หรอก ออกไปบ้านป้าเพ็ญตั้งแต่เช้าแล้ว น้องพายก็ไปแกล้งเฮียเค้า เห็นมั้ยเฮียตกบันไดเลย หึหึ”เออว่ะ เมื่อวานนี้แม่บอกว่าจะไปบ้านป้าเพ็ญแต่เช้า แล้วกูจะตื่นมาเพื่อ แต่เดี๋ยวนะไอประโยคหลังนั่นมันอะไร ลูกยังเจ็บไม่พออีกหรือไร งือออออ ไหนๆตื่นแล้วก็หาอะไรกินเลยดีกว่าจะได้อาบน้ำเตรียมตัวออกไปลั้นลา ฮูเร่ ฮูเร่
“เฮียทำหน้าอย่างงั้น แสดงว่าเดี๋ยวจะออกไปเที่ยวใช่มั้ยเนี่ย”แหม่รู้ดีจริงๆน้องสาวใครเนี่ย ผมไม่ได้ตอบแต่ส่งยิ้มกลับไปแทน น้องสาวผมนี่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเต็มที่ แต่ใครจะสนก็ผมเป็นของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
“มี้ไปกับเฮียหรอ?”ผมถามขึ้นเมื่อไม่เห็นเฮียแพงอยู่ร่วมโต๊ะอาหาร
“ป่าว ไปกับป้าพิม ส่วนเฮียแพงไปหาเฮียปุ่นที่บ้าน หนูกับพ่อเลยคุยกันว่าเดี๋ยวพ่อทานข้าวเสร็จก็จะไปที่บ้านเฮียปุ่นเหมือนกัน เจอกันเมื่อวานยังคุยกันไม่หายคิดถึงเลย เอ๊ะ! แต่ไม่เห็นเฮียป่านเลยอ่ะสงสัยคงไม่ได้กลับมาอีกแน่เลย เฮียเพื่อนจะไปด้วยกัยมั้ย?”น้องสาวผมพูดตอบออกมา แต่มันกลับไม่ได้เข้าไปในสมองของผมเลย เพราะสิ่งที่ผมรับรู้คือ บ้านหลังที่อยู่ห่างกันเพียงถนนกั้นตรงด้านข้างของตัวบ้านที่เคยร้างคนอาศัยมานานเกือบ 6 ปี เนื่องจากเจ้าของบ้านได้ย้ายตามลูกชายคนเล็กของบ้านเข้ากรุงเทพเพราะลูกชายดันเลือกเรียนโรงเรียนมัธยมชื่อดังในจังหวัดนั้นอีกทั้งยังเป็นโอกาสเหมาะที่จะขยายธุรกิจของครอบครัวให้ใหญ่ขึ้น ตอนนี้ได้กลับมาแล้ว ในเมื่อครอบครัวมันกลับมาแล้วแต่ทำไมมันถึงไม่กลับมาด้วยล่ะ มันคิดจะทิ้งผมไปจริงๆใช่มั้ย? ในหัวผมมันมีแต่คำถามเต็มไปหมด ให้ตายเถอะ! เพราะมึงคนเดียวเลย ไอป่าน ไอเพื่อนบ้า
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวเฮียจะออกไปหาพวกไอช้อยที่ร้านMac-Chiato House (แมค ชาโต้ เฮาส์ )แถวถนนถลางนะ พอดีนัดกันไว้”ผมตอบน้องสาวแล้วจัดการกับอาหารตรงหน้าทันที อันที่จริงก็ไม่ได้นัดอะไรใครไว้หรอกคับ ผมแค่ไม่อยากอยู่บ้านเท่านั้นเอง รู้สึกเบื่อๆ แถมยังรู้สึกเหมือนวันนี้จะเจอเรื่องชวนปวดหัวอีกด้วย
“จะกลับกี่โมงล่ะ”พ่อผมถามขึ้น
“คงเย็นๆอ่ะ”ผมตอบพ่อ
“อืม ขับรถดีดีล่ะ แล้วก็อย่าลืมเอายาไปด้วยล่ะ”พ่อพูดพลางจิบกาแฟไปด้วย ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่ายาอะไร มันก็แค่ยาแก้แพ้ธรรมดาเอง ก็ผมเป็นภูมิแพ้ เดี๋ยวแพ้นั่น แพ้นี่ แล้วแต่อารมณ์(เกี่ยวมั้ย) มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอกคับ จะหนักอยู่ก็ตอนที่แพ้มากๆผมจะมีอาการเลือดกำเดาไหล ไหลทีนี่นึกว่าก๊อกแตก
5555 ถ้าถามว่าไอที่ว่าแพ้หนักๆอะ ผมแพ้อะไร ผมตอบได้เลยว่า ผมแพ้อากาศเย็นจัด-ร้อนจัด แพ้ปู และสุดท้ายนี่เด็ดมากครับ แพ้ทุเรียน อันนี้นี่จัดว่าเด็ด คนบ้าอะไรแพ้ทุเรียน กินไม่ได้ ได้กลิ่นเป็นเลือดพุ่ง อ้วกแตกเลยครับ ประสาทสัมผัสเรื่องทุเรียนของผมนี่ดีมาก ย้ำว่ามากกกก
“คร้าบบบบ”พอตอบรับคำพ่อแล้วผมก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการโทรปลุกเพื่อนๆของผมพร้อมนัดแนะสถานที่และเวลา
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่ร้านMac-Chiato House (แมค ชาโต้ เฮาส์ )ครับ ซึ่งแน่นอนว่าผมมาถึงเป็นคนแรกตามมาด้วยไอป๊อป ที่มาถึงก็บ่นใส่ผมใหญ่เลย
“สัสเพื่อน มึงจะโทรมากวนอะไรกูแต่เช้าเนี่ย แม่ง!ถ้าหน้ากูโทรมนะกูจะตัดเพื่อนกับมึง แล้วนี่ไอช้อยกับไอนุ้ยมันยังไม่โผล่หัวมาอีกหรอว่ะ ช้าฉิบหาย”ดูมัน ไอห่าราก!! วันๆห่วงแต่หน้าตัวเอง แล้วได้ข่าวว่ามึงก็พึ่งมาถึง
“ห่า!! บ่นจริงมึง” ผมว่าอย่างไม่จริงจังนัก นั่งกันซักพักบริกรก็เดินมารับออเดอร์พอดี
“รับอะไรดีครับ”บริกรหนุ่มถามแต่สายตาเนี่ยมองไอป๊อปไม่วางตาเลย ก็อย่างว่าล่ะครับไอป๊อปมันน่ารักนิ ตัวเล็กกว่าผมนิดนึง หน้าขาวใสไร้สิวอุดตัน ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวเนียนอย่างคนสุขภาพดี บอกได้เลยสวยยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนซะอีกครับ
“เอาFruits Parfé กับ Nutella ปั่น แล้วมึงเอาอะไรไอเพื่อน”ไอป๊อปตอบพี่บริกรแล้วหันมาถามผม
“เอาTokyo Toast เอ่อ ขอเปลี่ยนไอศกรีมเป็นรสมะนาว 2 ลูก ชาเขียว 1 ลูก แล้วก็เพิ่มวิปครีม กับ Caramel Macchiato ครับ”ผมตอบพร้อมส่งยิ้มให้กับพี่บริกร แต่ดูเหมือนพี่แกจะไม่สนใจผมเท่าไหร่ เพราะตานี่มองแต่หน้าไอป๊อปอย่างเดียวเลยครับ
“เอ่อ ทวนรายการนะครับFruits Parfé1ที่ Nutella ปั่น 1 ที่ Tokyo Toast เปลี่ยนไอศกรีมเป็นรสมะนาว 2 ลูก ชาเขียว 1 ลูก เพิ่มวิปครีม 1 ที่ แล้วก็Caramel Macchiato1ที่ นะครับ กรุณารอสักครู่นะครับ”เมื่อทวนรายการเสร็จพี่แกก็เดินจากไปอย่างอาลัยอาวรไอป๊อป ไอป๊อปมันไม่สนใจหรอกครับ ไอนี่มันสนใจอยู่แค่ 2 เรื่องเท่านั้นแหละครับ คือ 1 เรื่องหน้าตาของมัน กับ 2 เรื่องเกม ว่าแต่นี่ไอนุ้ยกับไอช้อยมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนว่ะเนี่ย ช้าฉิบหาย พูดยังไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงเปิดประตูร้านดังขึ้น พร้อมกับร่างของคน 2 คนที่เดินเข้ามา
“พวกมึงทำเหี้ยอะไรกันอยู่วะช้าฉิบหาย กูกับไอเพื่อนรอจนรากจะงอกอยู่แล้ว”อึหืม!!จัดเต็มมาเลยครับ
“มึงอย่ามาทำเป็นพูดดีเลยไอป๊อป กูรู้หรอกว่ามึงก็พึ่งมาถึง ห่าทำมาเป็นว่าพวกกู”ไอนุ้ยมันว่าแล้วก็ตบไปที่หัวของไอป๊อปเต็มแรง
ป้าบ
“สัสนุ้ย!! กูเจ็บ”ไอป๊อปว่าพลางลูบหัวตัวเองปอยๆ
“ก็กูทำให้เจ็บไงสัส”ไอนุ้ยลอยหน้าลอยตาพูด แล้วนั่งลงข้างๆไอป๊อป ส่วนไอช้อยก็เดินมานั่งลงข้างๆผม
“สัส!!!”
“พวกมึงนี่ก็กัดกันอยู่ได้”ไอช้อยว่าพลางส่ายหน้าอย่างเอือมๆ
“แล้วมึงอ่ะตามพวกกูออกมาทำไมวะ ถ้าไม่สำคัญนะกูจะตบให้คว่ำเลย”ไอช้อยครับ แม่ง!!ทำหน้าหงิดมาเลย
“เออ เออ เดี๋ยวบอก พวกมึงสั่งอะไรมากินก่อนเถอะ กินก่อนค่อยเล่า”ผมตอบมันแล้วจัดการเรียกบริกรมารับออเดอร์เพิ่ม พวกเรานั่งพูดคุยหยอกล้อกันซักพักอาหารที่สั่งมาก็มาเสริม
“อาหรามาแล้ว แดกไปคุยไปจะได้ไม่เสียเวลา ว่ามา”มึงจะรีบไปไหนว่ะไอช้อย
“เออแม่ง!! รีบจริง ก็ไม่มีไรมากแค่เบื่อเลยไม่อยากอยู่บ้าน อีกอย่างวันนี้ครอบครัวไอป่านพึ่งย้ายกลับมาแต่…………..”ผมยังพูดไม่ทันจบไอนุ้ยก็พูดแทรกขึ้นมา
“ไอป่านไม่ได้กลับมาด้วย กูพูดถูกใช่มั้ย”
“สัส!! รู้ดี”
“คิดถึงก็ไปหาสิวะ มึงจะมานั่งทำหน้าหมาหงอยอย่างนี้ทุกครั้งที่ครอบครัวเค้ากลับมาแต่ไร้เงาลูกชายคนเล็กอย่างนี้ตลอดไปเลยหรือไง 6 ปี มันยังไม่พอหรอวะ”นั่นสินะ 6 ปีมันยังไม่พอหรอ? ถูกของไอช้อยมัน
“………….”เงียบครับไปไม่เป็นเลย ก็มันพูดถูกอ่ะ
“มึงก็นะ ทนมาได้ไงตั้ง 6 ปีวะ ถ้าเป็นกูนะแค่อาทิตย์เดียวก็ลงแดงแล้ว”ไอป๊อปพูดไปกินไป ข้างปากก็เลอะคราบวิปครีมเต็มไปหมด เด็กจริงๆเลยมึง ไอนุ้ยมันมองหน้าผมแล้วพูดขึ้นว่า
“มึงกำลังกลัวใช่มั้ย?”
“…………………….”
“แล้วมึงกลัวอะไรละระหว่างกลัวว่ากลับไปที่บ้านแล้วจะไม่เจอมันอย่างที่มึงคิดกับกลัวว่ากลับไปที่บ้านแล้วเจอมันแต่ความสัมพันธ์ระหว่างมันกับมึงไม่เหมือนเดิม”เหี้ย!!!มึงแม่งอ่านใจกูได้ด้วย มึงจะเมพเกินไปแล้วนะไอนุ้ย แต่ก็อย่างที่มันว่านั่นแหละผมกำลังกลัว กลัวไปหมดทุกอย่างไม่ว่ามันจะกลับมาหรือไม่กลับมา แต่ตอนนี้ผมขอเลือกที่จะไม่เผชิญหน้ากับมันจะดีกว่า เพราะมันดีต่อความรู้สึกของผมที่สุดแล้ว
พอกินเสร็จพวกผมก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ outlet เดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยจนเวลาล่วงเลยมาประมาณ 4 โมงกว่าๆ พวกผมก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะเริ่มเหนื่อยกันแล้ว ไอผมที่ยังไม่ค่อยอยากกลับเท่าไหร่ก็เลยตัดสินใจว่าจะไปเดินดูหนังสือที่ B2S เซ็นทรัล เดินดูได้สักพักก็รู้สึกเบื่อ เลยคิดว่ากลับบ้านดีกว่า ผมมาถึงบ้านประมาณ 5 โมงครึ่งได้
“แม่ง!! ทำไมบ้านมันเงียบจังวะ อย่าบอกนะว่ายังไม่กลับกันมาอีกหนะ”ผมพูดพึมพำกับตัวเอง พอดีกับที่ป้าแอ๋ว แม่บ้าน เดินออกมาพอดี
“ป้าแอ๋วครับ ไม่มีใครอยู่บ้านหรอครับ”
“อ่อ มีค่ะ พวกคุณๆเธออยู่ด้านหลังบ้านตรงสระว่ายน้ำกันหนะค่ะ”
“อ่า ครับ”ป้าแอ๋วพูดจบก็เดินเข้าไปในครัวทันที
“ไปทำอะไรกันที่สระว่ายน้ำวะ”ผมพึมพำพร้อมกับเดินตรงไปยังสระว่ายน้ำ ผมมีความรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงผิดปกติ เหมือนกับว่าผมกำลังทำเรื่องน่าตื่นเต้นหรือกำพอลังกลัว? ผมค่อยเดินเข้าไปช้าๆ ขาผมกำลังจะก้าวเข้าไปบริเวณสระว่ายน้ำกลับหยุดชะงัก เพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นบุคคลที่นอกเหนือจากสมาชิกในครอบครัว สิ่งที่ผมกำลังหนีมันกำลังจะกลับมา
“ยืนทำอะไรอยู่ ทำไมไม่เข้าไปล่ะ”
เฮือก
เสียงที่กระซิบอยู่ที่ข้างหู ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว ขนอ่อนบริเวณต้นคอลุกชันเมื่อลมหายใจอุ่นของใครบางคนกระทบอยู่ที่ต้นคอ ตัวผมแข็งทื่ออย่างกับโดนสาป ผมค่อยๆหันหลังกลับไปดูช้าๆว่าเป็นใคร? แต่ผมกลับต้องก่นด่าตัวเอง เพราะนั่นเป็นการกระที่ผิดพลาดของผมอย่างแรง
“มะ มึง ปะ ป่าน ยังไง ได้ไง”ตอนนี้สมองผมมันมึนงงไปหมด บอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไงเท่าที่รู้คือเสียงผมมันสั่นมาก ให้ตายเถอะที่กูเป็นอะไรวะเนี่ย!!!!
“อืม กูเอง กูกลับมาแล้ว”ป่านพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นมาลูบที่แก้มของผมอย่าแผ่วเบา นั่นทำให้ผมเผลอสบตากับมันเข้า ดวงตาคู่นั้นเป็นคู่เดียวกันกับที่มองผมเมื่อ 6 ปีก่อนและมันก็กำลังมองมาที่ผมในตอนนี้เช่นเดียวกัน แต่ความรู้สึกมันต่างออกไป ก็ตอนนั้นสายตาที่มันมองมาที่ผมมีแต่ความอ่อนโยนและเอ็นดู แต่ในตอนนี้ สายตาแบบนั้นมันคืออัลไล!!! คิดถึง โหยหาแฝงไปด้วยความเร้าร้อนปานจะกลืนกิน เหี้ย!!!! ขนลุก สัสๆ
“นะ ไหนว่าไปแล้วไปลับไง ละ แล้วกลับมาทำไม!!”ผมเบือนหน้าหนีมันแล้วทำเสียงดังกลบเกลื่อน
“คิดถึง”
O//////O เยดดดดดดด!! สตั้นเลยกู ผมรู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว ตาโต อ้าปากหวอเลยครับ ถามว่าเขินมั้ย ตอบได้เลย โคตรๆ คนพูดมันไม่สะทกสะท้านอะไรเลยแถมยังมีหน้ามายิ้มหน้าแป้นแล้นใส่ผมอีกด้วย
“เขินหรอ หน้าแดงเชียว”ไม่พูดเปล่าแต่กลับเดินเข้ามาใกล้พร้อมโน้มตัวลงมาให้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน นั่นทำให้ผมตกใจและหน้าแดงเข้าไปใหญ่ก็หน้าเราแทบจะติดกันอยู่แล้ว คือแบบถ้าผมขยับตัวนิดนึงจมูกเราชนกันแน่ ตาย ตาย ไอเพื่อนจะเป็นลม
“เฮ้ย!! ยะ อยู่เฉยๆนะมึงอย่าขยับ”เสียงร้องตกใจของไอป่านเรียกสติของผมให้กลับมาได้ แต่ให้อยู่เฉยๆห้ามขยับนั่นมันอะไร คิดว่ากูจะเชื่อหรอไม่มีทาง คิดได้ดังนั้นผมก็ก้าวถอยหลังทันที
“กูบอกว่าอย่าขยับไง!! เฮ้อ!! ดูซิเลือดเลอะเสื้อหมดแล้ว”ประโยคแรกมันตะคอกใส่ผมอย่างเป็นห่วง มันคงจะเห็นว่าผมตกใจมันเลยปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงเล็กน้อย ย้ำว่าเล็กน้อย ว่าแต่นี่กูเลือดกำไดเหลา เฮ้ย!!ไม่ใช่ไม่ใช่ เลือดกำเดาไหล เพียงเพราะกูเขินมันเนี่ยนะ แม่ง!! รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
“กะ กูเช็ดเองก็ได้”เหี้ย!!เสียงกูจะสั่นไปไหนวะ
“เฉยๆเฮอ มึงเช็ดเองมันไม่สะอาดหรอก กูเช็ดให้นั่นแหละ”มันว่าพลางเอาชายเสื้อมันขึ้นมาเช็ดเลือดที่จมูกของผมให้
“เฮ้ย!! มึงจะทำอะไรเนี่ย”ผมร้องเสียงหลง พร้อมกับดึงชายเสื้อตัวเองที่ให้ป่านมันเลิกขึ้นลง
“ก็เสื้อมึงเลอะอ่ะ กูก็เลยจะถอดออกให้”สัส!! ปากว่าแต่ตามึงอ่ะช่วยเงยหน้ามามองกูหน่อยได้มั้ย ไม่ใช่มองแต่หน้าท้องของกู แถมหน้ามันนี่แบบว่า หื่นเหี้ยๆ!!!!
“ไม่ต้องเลยสัส เดี๋ยวกูขึ้นไปเปลี่ยนบนห้องเอง”พูดจบผมก็เดินกระแทกไหล่มันขึ้นไปบนห้อง แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงมันตะโกนไล่หลังว่า
“ให้กูไปช่วยเปลี่ยนมั้ย”
“เสือก!!!”
พอขึ้นมาบนห้องผมก็เลยถือโอกาสอาบน้ำด้วยเลย เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จผมก็ลงไปร่วมวงกับข้างล่าง ก็ไม่มีอะไรมากมายก็แค่มี้กับป้าแป้งเค้าอยากจะฉลองที่ได้อยู่กันครบทั้ง 2 ครอบครัว เลยจัดชุดใหญ่แบบปิ้ง ย่าง กินกันที่สวนข้างสระว่ายน้ำ ตั้งแต่ผมลงมาไอป่านมันก็
“เพื่อนมึงกินกุ้งมั้ย อ่ะนี่กูย่างให้”สัสมึงจะถามกูทำไม ถ้ามึงจะไม่รอคำตอบจากกูอ่ะ ยังไม่หมดนะครับ
“เพื่อนมึงชอบกินบาบีคิวใช่มั้ยกูจำได้ อะกูย่างมาให้”
“เพื่อนมึงเอาน้ำอะไร มึงแดกน้ำเปล่าก็แล้วกันผิวจะได้สวยๆ”
“เพื่อนมะ………..”
“พอ!! ที่อยู่ในจานกูยังไม่ได้แดกเลย มึงยังจะเอามาให้อีก มึงจะเอามาใส่ให้สูงเท่าภูเขาเลยมั้ยสัส”ผมพูดขึ้นเมื่อมันยังไม่หยุดตักนู่นตักนี่ให้ผม
“ก็กูกลัวมึงไม่อิ่มอ่ะ”ยังมีหน้ามาทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมใส่อีก โว้ย!! กูอยากจะบ้าตาย
“เออ พอเลย แดก แดก”ผมว่าพลางเอากุ้งที่มันตักให้เข้าปาก ขอบอกว่าอร่อยมว๊ากกก ผมนั่งกินไปคุยไปกับพวกเฮียปุ่น เฮียแพง แล้วก็ยัยพาย โดยมีไอป่านที่คอยตักนู่นตักนี่ให้ตลอดจนอิ่ม อยากจะบอกว่าพุ่งแทบแตกเพราะมันอิ่มมากกกก
“มึงกินไอติมกูมั้ย?”ผมที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลัก ทำเอาวงแตกเลยครับ
“แค่ก แค่ก มึง แค่ก ว่าอะไรนะ แค่ก”ผมนี่ไอหน้าดำหน้าแดงเลยครับ
“เฮ้ย!! ค่อยๆมึง”ป่านว่าพลางลูบหลังผมไปด้วย
“หึ หึ/หึ หึ”เฮียปุ่นกับเฮียแพงหัวเราะในลำคอแล้วทำหน้าประมาณว่า มึงแม่งทะลึ่งวะ ผมเลยถลึงตาใส่
“อี๊!! เฮียสกปรกอ่ะ”นี่แหละครับน้องสาวผม
“โอเคยัง”ไอป่านถามพลางเลิกชายเสื้อของมัน(อีกแล้ว)มาเช็ดน้ำที่หน้าผมให้ ผมพึ่งสังเกตว่ามันเปลี่ยนเสื้อแล้ว
“อืม อืม”ว่าแล้วก็พยักหน้าให้มัน
“กูถามว่ามึงจะกินไอติมของกูมั้ย พอดีกูแวะซื้อมาตอนเดินกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อ ทะลึ่งนะมึง เอ๋!! หรือว่ามึงอยากกินไอติมแท่งพิเศษของกู”อยู่มันก็พูดขึ้นมาแต่ประโยคหลังนี่มันกระซิบบอกที่หูผมนะครับเล่นเอาผมรู้สึกเสียววูบที่ในอก หน้าแดงอย่างอัตโนมัติ
“บะ บ้า >////<”
“หนูเพื่อนจ๊ะ เห็นแม่เราบอกว่าเราได้ที่มหาวิทยาลัย yy ใช่มั้ย แล้วได้คณะอะไรล่ะ”ป้าแป้ง แม่ไอป่านถามขึ้นมา
“เอ่อ ครับ ได้วิศวะ วิศวะซอฟต์แวร์ ครับ”ผมตอบกลับไป แต่รู้สึกเหมือนตามันกระตุกแปลกๆ
“ตายแล้ว เก่งจังเลยค่ะ นี่ก็เท่ากับว่าหนูเพื่อนก็ได้ที่เรียนที่เดียวกับตาป่านเลยแถมยังได้ค่ะเดียวกันอีก ต่างกันแค่หนูเพื่อนเรียนซอฟต์แวร์ แต่ตาป่านเรียนโยธา”ป้าแป้นหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับมี้ผม 2 คนอย่างมีความสุขกับข้อมูลที่พึ่งได้รับไปเมื่อกี้ แต่ผมนี่ช็อคค้างไปเลยครับ อะไรเนี่ย มหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ต่างกันแค่สาขา อย่างนี้ก็เท่ากับว่านับแต่นี้ผมกับป่านก็จะได้เจอกันทุกวัน เหี้ย!! อะไรมันจะซวยแบบนี้เนี่ย หวังว่านี่คงสุดติ่งความซวยของผมแล้วนะ
“ฉันว่าฉันมีความคิดดีดีแล้วแหละ”มี้ผมเองครับ นางพูดพร้อมทำหน้าประมาณว่าสิ่งที่นางคิดนั้นเยี่ยมยอดที่สุดแล้ว
“อะไรจ๊ะพิม ที่เธอว่าดีดีหนะ”
“ก็ไหนๆ ลูกเราก็เรียนที่เดียวกันแล้ว ก็ให้ทั้ง 2 คนอยู่ด้วยกันไปเลยไง มีอะไรจะได้ปรึกษากัน คอยช่วยเหลือกันได้”เมื่อสิ้นสุดประโยคของมี้ หน้าของผมก็
แบบนี้ >>> OoO
หน้าไอป่าน >>>^_______^
“ว๊ายยย!! เลิศมากจร้า เห็นด้วยที่สุด งั้นก็ตกลงตามนี้นะ โอเค๊”ถามว่าอยากค้านมั้ยตอบได้เลยอยากมากแต่คือแบบว่านาทีนั้น กูพูดไม่ออก กำลังอึ้ง แม่ง!! ชีวิตกูต่อจากนี้จะป็นยังไงวะเนี่ยยยยยยย
มาแล้ว มาแล้ว ครบ 100% แล้วน้าาาา เม้นเม้นเนาะ
“งึม งึม งึม”การได้นอนช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้ อิอิ ฮุฮุ เตียงนอนนุ่มๆ ผ้านวมอุ่นๆในวันที่ฝนตกพรำ พรำ โอยยยฟินได้อีก ><
“เฮียเพื่อนตื่นนนนนนนนน!!! ”แม่งวิมานของกูถล่มเลย ครายมันบังอาจมารบกวนการพักผ่อนของพี่เพื่อนคนหล่อเนี่ย
“อืออออออ”แน่จริงก็ปลุกไปเลย ยังไงก็ไม่ตื่นหรอก ดูดิว่าจะทำไง อ่ะอ่ะไม่ต้องกลัวว่าจะโดนถีบตกเตียงเหมือนในนิยาย เพราะผมได้ทำการล็อคห้องไว้อย่างแน่นหนาเรียบร้อยแล้ว วะฮะฮ้า คลุมโปงแม่งเลย
“อ๊ะ!! ห้องล็อค เฮียตื่นมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นหนูจะฟ้องมี้”มี้? มี้ไหนว่ะ มันเป็นครายยยย เช้าๆแบบนี้สมงสมองประมวลผลไม่ค่อยจะทันด้วย ช่างแม่ง ไม่รู้จัก = ไม่กลัวโว้ย อยากทำอะไรก็เชิญ
“เออ ตามบายเลยน้องสาว”นาทีนี้ไม่รู้ ไม่สนจะนอน นี่บอกเลย
“โอ้ววว!! เฮียแน่มากนี่บอกเลย เฮียเสร็จมี้แน่ อิอิ”นางพูดจบก็เดินไป พร้อมกับที่สมองของผมเริ่มประมวลผลช้าๆ มี้ มี้ มี้ มี้ = แม่ แม่ = หม่ามี้ ว๊ากกกกกก กูตายแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็รีบลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความเร็วแสงแล้วตรงไปที่ประตู
หมับ ตึก ตึก ตึก แหมะ
ไม่ต้องสงสัยไปครับว่ามันคือเสียงอัลไร มันก็คือเสียงเปิดประตู ตามด้วยเสียงผมวิ่งลงบันไดและสุดท้ายลงมานอนแหมะอย่างสวยงามอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้าย พร้อมเสียงหัวเราะของยัยน้องสาวตัวแสบกับขุ่นพ่อสุดที่รักที่หัวเราะราวกับกำลังดูตลกคาเฟ่ก็ไม่ปาน โคตรเป็นห่วงกูเลย ฮึ้ย!!
“เอา เอา ไม่ต้องรีบขนานนั้นก็ได้”พ่อครับน้ำเสียงเหมือนเป็นห่วงแต่หน้านี่ประมาณว่า สมน้ำหน้า ดันโง่?เอง อะไรเทือกนั้นมากอ่ะ
“โถ่ว!! พ่ออ่ะ ไม่ให้รีบได้ไงก็น้องพายจะไปฟ้องมี้ว่าเพื่อนไม่ยอมตื่นอ่ะ เดี๋ยวเพื่อนก็ได้โดนมี้ด่าหูชาพอดี”ประโยคแรกพูดบอกกับพ่อตัวเองครับ แต่ประโยคหลังนี่พึมพำกับตัวเองเพราะถ้าพูดเสียงดังแล้วมี้ได้ยินนี่ยาวครับ
“มี้ไม่อยู่หรอก ออกไปบ้านป้าเพ็ญตั้งแต่เช้าแล้ว น้องพายก็ไปแกล้งเฮียเค้า เห็นมั้ยเฮียตกบันไดเลย หึหึ”เออว่ะ เมื่อวานนี้แม่บอกว่าจะไปบ้านป้าเพ็ญแต่เช้า แล้วกูจะตื่นมาเพื่อ แต่เดี๋ยวนะไอประโยคหลังนั่นมันอะไร ลูกยังเจ็บไม่พออีกหรือไร งือออออ ไหนๆตื่นแล้วก็หาอะไรกินเลยดีกว่าจะได้อาบน้ำเตรียมตัวออกไปลั้นลา ฮูเร่ ฮูเร่
“เฮียทำหน้าอย่างงั้น แสดงว่าเดี๋ยวจะออกไปเที่ยวใช่มั้ยเนี่ย”แหม่รู้ดีจริงๆน้องสาวใครเนี่ย ผมไม่ได้ตอบแต่ส่งยิ้มกลับไปแทน น้องสาวผมนี่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเต็มที่ แต่ใครจะสนก็ผมเป็นของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
“มี้ไปกับเฮียหรอ?”ผมถามขึ้นเมื่อไม่เห็นเฮียแพงอยู่ร่วมโต๊ะอาหาร
“ป่าว ไปกับป้าพิม ส่วนเฮียแพงไปหาเฮียปุ่นที่บ้าน หนูกับพ่อเลยคุยกันว่าเดี๋ยวพ่อทานข้าวเสร็จก็จะไปที่บ้านเฮียปุ่นเหมือนกัน เจอกันเมื่อวานยังคุยกันไม่หายคิดถึงเลย เอ๊ะ! แต่ไม่เห็นเฮียป่านเลยอ่ะสงสัยคงไม่ได้กลับมาอีกแน่เลย เฮียเพื่อนจะไปด้วยกัยมั้ย?”น้องสาวผมพูดตอบออกมา แต่มันกลับไม่ได้เข้าไปในสมองของผมเลย เพราะสิ่งที่ผมรับรู้คือ บ้านหลังที่อยู่ห่างกันเพียงถนนกั้นตรงด้านข้างของตัวบ้านที่เคยร้างคนอาศัยมานานเกือบ 6 ปี เนื่องจากเจ้าของบ้านได้ย้ายตามลูกชายคนเล็กของบ้านเข้ากรุงเทพเพราะลูกชายดันเลือกเรียนโรงเรียนมัธยมชื่อดังในจังหวัดนั้นอีกทั้งยังเป็นโอกาสเหมาะที่จะขยายธุรกิจของครอบครัวให้ใหญ่ขึ้น ตอนนี้ได้กลับมาแล้ว ในเมื่อครอบครัวมันกลับมาแล้วแต่ทำไมมันถึงไม่กลับมาด้วยล่ะ มันคิดจะทิ้งผมไปจริงๆใช่มั้ย? ในหัวผมมันมีแต่คำถามเต็มไปหมด ให้ตายเถอะ! เพราะมึงคนเดียวเลย ไอป่าน ไอเพื่อนบ้า
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวเฮียจะออกไปหาพวกไอช้อยที่ร้านMac-Chiato House (แมค ชาโต้ เฮาส์ )แถวถนนถลางนะ พอดีนัดกันไว้”ผมตอบน้องสาวแล้วจัดการกับอาหารตรงหน้าทันที อันที่จริงก็ไม่ได้นัดอะไรใครไว้หรอกคับ ผมแค่ไม่อยากอยู่บ้านเท่านั้นเอง รู้สึกเบื่อๆ แถมยังรู้สึกเหมือนวันนี้จะเจอเรื่องชวนปวดหัวอีกด้วย
“จะกลับกี่โมงล่ะ”พ่อผมถามขึ้น
“คงเย็นๆอ่ะ”ผมตอบพ่อ
“อืม ขับรถดีดีล่ะ แล้วก็อย่าลืมเอายาไปด้วยล่ะ”พ่อพูดพลางจิบกาแฟไปด้วย ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่ายาอะไร มันก็แค่ยาแก้แพ้ธรรมดาเอง ก็ผมเป็นภูมิแพ้ เดี๋ยวแพ้นั่น แพ้นี่ แล้วแต่อารมณ์(เกี่ยวมั้ย) มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอกคับ จะหนักอยู่ก็ตอนที่แพ้มากๆผมจะมีอาการเลือดกำเดาไหล ไหลทีนี่นึกว่าก๊อกแตก
5555 ถ้าถามว่าไอที่ว่าแพ้หนักๆอะ ผมแพ้อะไร ผมตอบได้เลยว่า ผมแพ้อากาศเย็นจัด-ร้อนจัด แพ้ปู และสุดท้ายนี่เด็ดมากครับ แพ้ทุเรียน อันนี้นี่จัดว่าเด็ด คนบ้าอะไรแพ้ทุเรียน กินไม่ได้ ได้กลิ่นเป็นเลือดพุ่ง อ้วกแตกเลยครับ ประสาทสัมผัสเรื่องทุเรียนของผมนี่ดีมาก ย้ำว่ามากกกก
“คร้าบบบบ”พอตอบรับคำพ่อแล้วผมก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการโทรปลุกเพื่อนๆของผมพร้อมนัดแนะสถานที่และเวลา
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่ร้านMac-Chiato House (แมค ชาโต้ เฮาส์ )ครับ ซึ่งแน่นอนว่าผมมาถึงเป็นคนแรกตามมาด้วยไอป๊อป ที่มาถึงก็บ่นใส่ผมใหญ่เลย
“สัสเพื่อน มึงจะโทรมากวนอะไรกูแต่เช้าเนี่ย แม่ง!ถ้าหน้ากูโทรมนะกูจะตัดเพื่อนกับมึง แล้วนี่ไอช้อยกับไอนุ้ยมันยังไม่โผล่หัวมาอีกหรอว่ะ ช้าฉิบหาย”ดูมัน ไอห่าราก!! วันๆห่วงแต่หน้าตัวเอง แล้วได้ข่าวว่ามึงก็พึ่งมาถึง
“ห่า!! บ่นจริงมึง” ผมว่าอย่างไม่จริงจังนัก นั่งกันซักพักบริกรก็เดินมารับออเดอร์พอดี
“รับอะไรดีครับ”บริกรหนุ่มถามแต่สายตาเนี่ยมองไอป๊อปไม่วางตาเลย ก็อย่างว่าล่ะครับไอป๊อปมันน่ารักนิ ตัวเล็กกว่าผมนิดนึง หน้าขาวใสไร้สิวอุดตัน ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวเนียนอย่างคนสุขภาพดี บอกได้เลยสวยยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนซะอีกครับ
“เอาFruits Parfé กับ Nutella ปั่น แล้วมึงเอาอะไรไอเพื่อน”ไอป๊อปตอบพี่บริกรแล้วหันมาถามผม
“เอาTokyo Toast เอ่อ ขอเปลี่ยนไอศกรีมเป็นรสมะนาว 2 ลูก ชาเขียว 1 ลูก แล้วก็เพิ่มวิปครีม กับ Caramel Macchiato ครับ”ผมตอบพร้อมส่งยิ้มให้กับพี่บริกร แต่ดูเหมือนพี่แกจะไม่สนใจผมเท่าไหร่ เพราะตานี่มองแต่หน้าไอป๊อปอย่างเดียวเลยครับ
“เอ่อ ทวนรายการนะครับFruits Parfé1ที่ Nutella ปั่น 1 ที่ Tokyo Toast เปลี่ยนไอศกรีมเป็นรสมะนาว 2 ลูก ชาเขียว 1 ลูก เพิ่มวิปครีม 1 ที่ แล้วก็Caramel Macchiato1ที่ นะครับ กรุณารอสักครู่นะครับ”เมื่อทวนรายการเสร็จพี่แกก็เดินจากไปอย่างอาลัยอาวรไอป๊อป ไอป๊อปมันไม่สนใจหรอกครับ ไอนี่มันสนใจอยู่แค่ 2 เรื่องเท่านั้นแหละครับ คือ 1 เรื่องหน้าตาของมัน กับ 2 เรื่องเกม ว่าแต่นี่ไอนุ้ยกับไอช้อยมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนว่ะเนี่ย ช้าฉิบหาย พูดยังไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงเปิดประตูร้านดังขึ้น พร้อมกับร่างของคน 2 คนที่เดินเข้ามา
“พวกมึงทำเหี้ยอะไรกันอยู่วะช้าฉิบหาย กูกับไอเพื่อนรอจนรากจะงอกอยู่แล้ว”อึหืม!!จัดเต็มมาเลยครับ
“มึงอย่ามาทำเป็นพูดดีเลยไอป๊อป กูรู้หรอกว่ามึงก็พึ่งมาถึง ห่าทำมาเป็นว่าพวกกู”ไอนุ้ยมันว่าแล้วก็ตบไปที่หัวของไอป๊อปเต็มแรง
ป้าบ
“สัสนุ้ย!! กูเจ็บ”ไอป๊อปว่าพลางลูบหัวตัวเองปอยๆ
“ก็กูทำให้เจ็บไงสัส”ไอนุ้ยลอยหน้าลอยตาพูด แล้วนั่งลงข้างๆไอป๊อป ส่วนไอช้อยก็เดินมานั่งลงข้างๆผม
“สัส!!!”
“พวกมึงนี่ก็กัดกันอยู่ได้”ไอช้อยว่าพลางส่ายหน้าอย่างเอือมๆ
“แล้วมึงอ่ะตามพวกกูออกมาทำไมวะ ถ้าไม่สำคัญนะกูจะตบให้คว่ำเลย”ไอช้อยครับ แม่ง!!ทำหน้าหงิดมาเลย
“เออ เออ เดี๋ยวบอก พวกมึงสั่งอะไรมากินก่อนเถอะ กินก่อนค่อยเล่า”ผมตอบมันแล้วจัดการเรียกบริกรมารับออเดอร์เพิ่ม พวกเรานั่งพูดคุยหยอกล้อกันซักพักอาหารที่สั่งมาก็มาเสริม
“อาหรามาแล้ว แดกไปคุยไปจะได้ไม่เสียเวลา ว่ามา”มึงจะรีบไปไหนว่ะไอช้อย
“เออแม่ง!! รีบจริง ก็ไม่มีไรมากแค่เบื่อเลยไม่อยากอยู่บ้าน อีกอย่างวันนี้ครอบครัวไอป่านพึ่งย้ายกลับมาแต่…………..”ผมยังพูดไม่ทันจบไอนุ้ยก็พูดแทรกขึ้นมา
“ไอป่านไม่ได้กลับมาด้วย กูพูดถูกใช่มั้ย”
“สัส!! รู้ดี”
“คิดถึงก็ไปหาสิวะ มึงจะมานั่งทำหน้าหมาหงอยอย่างนี้ทุกครั้งที่ครอบครัวเค้ากลับมาแต่ไร้เงาลูกชายคนเล็กอย่างนี้ตลอดไปเลยหรือไง 6 ปี มันยังไม่พอหรอวะ”นั่นสินะ 6 ปีมันยังไม่พอหรอ? ถูกของไอช้อยมัน
“………….”เงียบครับไปไม่เป็นเลย ก็มันพูดถูกอ่ะ
“มึงก็นะ ทนมาได้ไงตั้ง 6 ปีวะ ถ้าเป็นกูนะแค่อาทิตย์เดียวก็ลงแดงแล้ว”ไอป๊อปพูดไปกินไป ข้างปากก็เลอะคราบวิปครีมเต็มไปหมด เด็กจริงๆเลยมึง ไอนุ้ยมันมองหน้าผมแล้วพูดขึ้นว่า
“มึงกำลังกลัวใช่มั้ย?”
“…………………….”
“แล้วมึงกลัวอะไรละระหว่างกลัวว่ากลับไปที่บ้านแล้วจะไม่เจอมันอย่างที่มึงคิดกับกลัวว่ากลับไปที่บ้านแล้วเจอมันแต่ความสัมพันธ์ระหว่างมันกับมึงไม่เหมือนเดิม”เหี้ย!!!มึงแม่งอ่านใจกูได้ด้วย มึงจะเมพเกินไปแล้วนะไอนุ้ย แต่ก็อย่างที่มันว่านั่นแหละผมกำลังกลัว กลัวไปหมดทุกอย่างไม่ว่ามันจะกลับมาหรือไม่กลับมา แต่ตอนนี้ผมขอเลือกที่จะไม่เผชิญหน้ากับมันจะดีกว่า เพราะมันดีต่อความรู้สึกของผมที่สุดแล้ว
พอกินเสร็จพวกผมก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ outlet เดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยจนเวลาล่วงเลยมาประมาณ 4 โมงกว่าๆ พวกผมก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะเริ่มเหนื่อยกันแล้ว ไอผมที่ยังไม่ค่อยอยากกลับเท่าไหร่ก็เลยตัดสินใจว่าจะไปเดินดูหนังสือที่ B2S เซ็นทรัล เดินดูได้สักพักก็รู้สึกเบื่อ เลยคิดว่ากลับบ้านดีกว่า ผมมาถึงบ้านประมาณ 5 โมงครึ่งได้
“แม่ง!! ทำไมบ้านมันเงียบจังวะ อย่าบอกนะว่ายังไม่กลับกันมาอีกหนะ”ผมพูดพึมพำกับตัวเอง พอดีกับที่ป้าแอ๋ว แม่บ้าน เดินออกมาพอดี
“ป้าแอ๋วครับ ไม่มีใครอยู่บ้านหรอครับ”
“อ่อ มีค่ะ พวกคุณๆเธออยู่ด้านหลังบ้านตรงสระว่ายน้ำกันหนะค่ะ”
“อ่า ครับ”ป้าแอ๋วพูดจบก็เดินเข้าไปในครัวทันที
“ไปทำอะไรกันที่สระว่ายน้ำวะ”ผมพึมพำพร้อมกับเดินตรงไปยังสระว่ายน้ำ ผมมีความรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงผิดปกติ เหมือนกับว่าผมกำลังทำเรื่องน่าตื่นเต้นหรือกำพอลังกลัว? ผมค่อยเดินเข้าไปช้าๆ ขาผมกำลังจะก้าวเข้าไปบริเวณสระว่ายน้ำกลับหยุดชะงัก เพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นบุคคลที่นอกเหนือจากสมาชิกในครอบครัว สิ่งที่ผมกำลังหนีมันกำลังจะกลับมา
“ยืนทำอะไรอยู่ ทำไมไม่เข้าไปล่ะ”
เฮือก
เสียงที่กระซิบอยู่ที่ข้างหู ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว ขนอ่อนบริเวณต้นคอลุกชันเมื่อลมหายใจอุ่นของใครบางคนกระทบอยู่ที่ต้นคอ ตัวผมแข็งทื่ออย่างกับโดนสาป ผมค่อยๆหันหลังกลับไปดูช้าๆว่าเป็นใคร? แต่ผมกลับต้องก่นด่าตัวเอง เพราะนั่นเป็นการกระที่ผิดพลาดของผมอย่างแรง
“มะ มึง ปะ ป่าน ยังไง ได้ไง”ตอนนี้สมองผมมันมึนงงไปหมด บอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไงเท่าที่รู้คือเสียงผมมันสั่นมาก ให้ตายเถอะที่กูเป็นอะไรวะเนี่ย!!!!
“อืม กูเอง กูกลับมาแล้ว”ป่านพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นมาลูบที่แก้มของผมอย่าแผ่วเบา นั่นทำให้ผมเผลอสบตากับมันเข้า ดวงตาคู่นั้นเป็นคู่เดียวกันกับที่มองผมเมื่อ 6 ปีก่อนและมันก็กำลังมองมาที่ผมในตอนนี้เช่นเดียวกัน แต่ความรู้สึกมันต่างออกไป ก็ตอนนั้นสายตาที่มันมองมาที่ผมมีแต่ความอ่อนโยนและเอ็นดู แต่ในตอนนี้ สายตาแบบนั้นมันคืออัลไล!!! คิดถึง โหยหาแฝงไปด้วยความเร้าร้อนปานจะกลืนกิน เหี้ย!!!! ขนลุก สัสๆ
“นะ ไหนว่าไปแล้วไปลับไง ละ แล้วกลับมาทำไม!!”ผมเบือนหน้าหนีมันแล้วทำเสียงดังกลบเกลื่อน
“คิดถึง”
O//////O เยดดดดดดด!! สตั้นเลยกู ผมรู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว ตาโต อ้าปากหวอเลยครับ ถามว่าเขินมั้ย ตอบได้เลย โคตรๆ คนพูดมันไม่สะทกสะท้านอะไรเลยแถมยังมีหน้ามายิ้มหน้าแป้นแล้นใส่ผมอีกด้วย
“เขินหรอ หน้าแดงเชียว”ไม่พูดเปล่าแต่กลับเดินเข้ามาใกล้พร้อมโน้มตัวลงมาให้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน นั่นทำให้ผมตกใจและหน้าแดงเข้าไปใหญ่ก็หน้าเราแทบจะติดกันอยู่แล้ว คือแบบถ้าผมขยับตัวนิดนึงจมูกเราชนกันแน่ ตาย ตาย ไอเพื่อนจะเป็นลม
“เฮ้ย!! ยะ อยู่เฉยๆนะมึงอย่าขยับ”เสียงร้องตกใจของไอป่านเรียกสติของผมให้กลับมาได้ แต่ให้อยู่เฉยๆห้ามขยับนั่นมันอะไร คิดว่ากูจะเชื่อหรอไม่มีทาง คิดได้ดังนั้นผมก็ก้าวถอยหลังทันที
“กูบอกว่าอย่าขยับไง!! เฮ้อ!! ดูซิเลือดเลอะเสื้อหมดแล้ว”ประโยคแรกมันตะคอกใส่ผมอย่างเป็นห่วง มันคงจะเห็นว่าผมตกใจมันเลยปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงเล็กน้อย ย้ำว่าเล็กน้อย ว่าแต่นี่กูเลือดกำไดเหลา เฮ้ย!!ไม่ใช่ไม่ใช่ เลือดกำเดาไหล เพียงเพราะกูเขินมันเนี่ยนะ แม่ง!! รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
“กะ กูเช็ดเองก็ได้”เหี้ย!!เสียงกูจะสั่นไปไหนวะ
“เฉยๆเฮอ มึงเช็ดเองมันไม่สะอาดหรอก กูเช็ดให้นั่นแหละ”มันว่าพลางเอาชายเสื้อมันขึ้นมาเช็ดเลือดที่จมูกของผมให้
“เฮ้ย!! มึงจะทำอะไรเนี่ย”ผมร้องเสียงหลง พร้อมกับดึงชายเสื้อตัวเองที่ให้ป่านมันเลิกขึ้นลง
“ก็เสื้อมึงเลอะอ่ะ กูก็เลยจะถอดออกให้”สัส!! ปากว่าแต่ตามึงอ่ะช่วยเงยหน้ามามองกูหน่อยได้มั้ย ไม่ใช่มองแต่หน้าท้องของกู แถมหน้ามันนี่แบบว่า หื่นเหี้ยๆ!!!!
“ไม่ต้องเลยสัส เดี๋ยวกูขึ้นไปเปลี่ยนบนห้องเอง”พูดจบผมก็เดินกระแทกไหล่มันขึ้นไปบนห้อง แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงมันตะโกนไล่หลังว่า
“ให้กูไปช่วยเปลี่ยนมั้ย”
“เสือก!!!”
พอขึ้นมาบนห้องผมก็เลยถือโอกาสอาบน้ำด้วยเลย เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จผมก็ลงไปร่วมวงกับข้างล่าง ก็ไม่มีอะไรมากมายก็แค่มี้กับป้าแป้งเค้าอยากจะฉลองที่ได้อยู่กันครบทั้ง 2 ครอบครัว เลยจัดชุดใหญ่แบบปิ้ง ย่าง กินกันที่สวนข้างสระว่ายน้ำ ตั้งแต่ผมลงมาไอป่านมันก็
“เพื่อนมึงกินกุ้งมั้ย อ่ะนี่กูย่างให้”สัสมึงจะถามกูทำไม ถ้ามึงจะไม่รอคำตอบจากกูอ่ะ ยังไม่หมดนะครับ
“เพื่อนมึงชอบกินบาบีคิวใช่มั้ยกูจำได้ อะกูย่างมาให้”
“เพื่อนมึงเอาน้ำอะไร มึงแดกน้ำเปล่าก็แล้วกันผิวจะได้สวยๆ”
“เพื่อนมะ………..”
“พอ!! ที่อยู่ในจานกูยังไม่ได้แดกเลย มึงยังจะเอามาให้อีก มึงจะเอามาใส่ให้สูงเท่าภูเขาเลยมั้ยสัส”ผมพูดขึ้นเมื่อมันยังไม่หยุดตักนู่นตักนี่ให้ผม
“ก็กูกลัวมึงไม่อิ่มอ่ะ”ยังมีหน้ามาทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมใส่อีก โว้ย!! กูอยากจะบ้าตาย
“เออ พอเลย แดก แดก”ผมว่าพลางเอากุ้งที่มันตักให้เข้าปาก ขอบอกว่าอร่อยมว๊ากกก ผมนั่งกินไปคุยไปกับพวกเฮียปุ่น เฮียแพง แล้วก็ยัยพาย โดยมีไอป่านที่คอยตักนู่นตักนี่ให้ตลอดจนอิ่ม อยากจะบอกว่าพุ่งแทบแตกเพราะมันอิ่มมากกกก
“มึงกินไอติมกูมั้ย?”ผมที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลัก ทำเอาวงแตกเลยครับ
“แค่ก แค่ก มึง แค่ก ว่าอะไรนะ แค่ก”ผมนี่ไอหน้าดำหน้าแดงเลยครับ
“เฮ้ย!! ค่อยๆมึง”ป่านว่าพลางลูบหลังผมไปด้วย
“หึ หึ/หึ หึ”เฮียปุ่นกับเฮียแพงหัวเราะในลำคอแล้วทำหน้าประมาณว่า มึงแม่งทะลึ่งวะ ผมเลยถลึงตาใส่
“อี๊!! เฮียสกปรกอ่ะ”นี่แหละครับน้องสาวผม
“โอเคยัง”ไอป่านถามพลางเลิกชายเสื้อของมัน(อีกแล้ว)มาเช็ดน้ำที่หน้าผมให้ ผมพึ่งสังเกตว่ามันเปลี่ยนเสื้อแล้ว
“อืม อืม”ว่าแล้วก็พยักหน้าให้มัน
“กูถามว่ามึงจะกินไอติมของกูมั้ย พอดีกูแวะซื้อมาตอนเดินกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อ ทะลึ่งนะมึง เอ๋!! หรือว่ามึงอยากกินไอติมแท่งพิเศษของกู”อยู่มันก็พูดขึ้นมาแต่ประโยคหลังนี่มันกระซิบบอกที่หูผมนะครับเล่นเอาผมรู้สึกเสียววูบที่ในอก หน้าแดงอย่างอัตโนมัติ
“บะ บ้า >////<”
“หนูเพื่อนจ๊ะ เห็นแม่เราบอกว่าเราได้ที่มหาวิทยาลัย yy ใช่มั้ย แล้วได้คณะอะไรล่ะ”ป้าแป้ง แม่ไอป่านถามขึ้นมา
“เอ่อ ครับ ได้วิศวะ วิศวะซอฟต์แวร์ ครับ”ผมตอบกลับไป แต่รู้สึกเหมือนตามันกระตุกแปลกๆ
“ตายแล้ว เก่งจังเลยค่ะ นี่ก็เท่ากับว่าหนูเพื่อนก็ได้ที่เรียนที่เดียวกับตาป่านเลยแถมยังได้ค่ะเดียวกันอีก ต่างกันแค่หนูเพื่อนเรียนซอฟต์แวร์ แต่ตาป่านเรียนโยธา”ป้าแป้นหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับมี้ผม 2 คนอย่างมีความสุขกับข้อมูลที่พึ่งได้รับไปเมื่อกี้ แต่ผมนี่ช็อคค้างไปเลยครับ อะไรเนี่ย มหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ต่างกันแค่สาขา อย่างนี้ก็เท่ากับว่านับแต่นี้ผมกับป่านก็จะได้เจอกันทุกวัน เหี้ย!! อะไรมันจะซวยแบบนี้เนี่ย หวังว่านี่คงสุดติ่งความซวยของผมแล้วนะ
“ฉันว่าฉันมีความคิดดีดีแล้วแหละ”มี้ผมเองครับ นางพูดพร้อมทำหน้าประมาณว่าสิ่งที่นางคิดนั้นเยี่ยมยอดที่สุดแล้ว
“อะไรจ๊ะพิม ที่เธอว่าดีดีหนะ”
“ก็ไหนๆ ลูกเราก็เรียนที่เดียวกันแล้ว ก็ให้ทั้ง 2 คนอยู่ด้วยกันไปเลยไง มีอะไรจะได้ปรึกษากัน คอยช่วยเหลือกันได้”เมื่อสิ้นสุดประโยคของมี้ หน้าของผมก็
แบบนี้ >>> OoO
หน้าไอป่าน >>>^_______^
“ว๊ายยย!! เลิศมากจร้า เห็นด้วยที่สุด งั้นก็ตกลงตามนี้นะ โอเค๊”ถามว่าอยากค้านมั้ยตอบได้เลยอยากมากแต่คือแบบว่านาทีนั้น กูพูดไม่ออก กำลังอึ้ง แม่ง!! ชีวิตกูต่อจากนี้จะป็นยังไงวะเนี่ยยยยยยย
มาแล้ว มาแล้ว ครบ 100% แล้วน้าาาา เม้นเม้นเนาะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ