ปีศาจแสนกล กับคนจากฟ้า
-
2) คนแปลกหน้าที่มีพระคุณ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ Section 2
คนแปลกหน้าที่มีพระคุณ
"โอ๊ะ โอ้ย!"
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่กลางหลัง ภาพแรกที่เห็นคือภาพเพดานสีเทากับโคมไฟระหย้าสุดหรูหรา ค่อยๆหันไปมองรอบกายก็พบกับห้องกว้างสีเทาตุ่นดูไม่เจริญตาที่มีเฟอร์นิเจอร์เพียงชิ้นเดียวคือเตียงเก่าๆที่ฉันนอนอยู่ หน้าต่างที่เปิดแง้มเพียงบานเดียวช่วยขับลมจากด้านนอกให้ผ่านเข้ามาในห้องทึบนี่ได้บ้าง พอให้หายใจหายคอออก นอกนั้นไม่มีอะไรอื่นอีก ทุกอย่างช่างเงียบกริบจนน่าอึดอัด
ฉันพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ผ้าพันแผลที่่พันรอบแขนซ้ายกับรอบลำตัวปิดบาดแผลที่กลางหลังทำเอาฉันขยับตัวไม่สะดวกเท่าใดนัก ในหัวมีความคิดและคำถามตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ที่นี่ที่ไหน แล้วฉันมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วใครเป็นคนช่วยฉันให้รอดจากภัยร้ายนั้นมาได้
"โอ้ย ลุกยากจัง"
"ก็ไม่ต้องลุกสิ จะรีบลุกทำไม แผลคุณยังไม่หายดี"
เสียงห้าวทุ้มที่ดังในระยะใกล้ทำเอาฉันตกใจอยู่ไม่น้อย ด้วยไม่ทันรู้ตัวว่าเขามาตอนไหน หันมองไปก็เห็นผู้ชายร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีเข้มอย่างที่มนุษย์โลกนิยมใส่กันยืนอยู่ข้างเตียง ผิวขาวจัด กับผมสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วดูหนานุ่ม คิ้วเข้มสีเดียวกับผม จมูกโด่งเป็นสันกับปากหยักบางได้รูปสีอ่อน แต่อะไรก็ไม่โดดเด่นเท่าดวงตา ดวงตาที่คมกริบออกจะดูหวานหากแต่สีในดวงตากลับเป็นสีน้ำเงินเข้มดูลึกลับดั่งน้ำทะเลลึก...
...คุ้นหน้า...
อย่างกับเคยเห็นชายหน้าตาแบบนี้มาก่อน เขาหน้าตาดีผิดมนุษย์มนาเท่าที่เคยเห็นมา แต่ก็คล้ายมากกับใครบางคนที่เคยรู้จัก แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก?
"มีอะไรติดหน้าผมอย่างนั้นหรือ"
"ปะ เปล่า เปล่าเลยค่ะ ขอโทษที่เสียมารยาท คุณคือ...?"
"ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตคุณ"
คำกล่าวที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่ฉันกลับรู้สึกว่าบรรยากาศรอบกายมันเย็นๆพิกล ใช่มนุษย์หรือเปล่านะ? สัมผัสไม่ได้เลยถึงพลังวิญญาณที่เกินปกติ
"ถ้าอย่างนั้น ฉันขอบคุณมากเลยนะคะที่อุตส่าช่วยฉัน แต่ฉันจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วคุณไปพบฉันในสภาพไหน"
ลองถามหยั่งเชิงดูก่อนแล้วกัน ดีที่ปีกของฉันมันสามารถหายไปเองได้ยามเมื่อสิ้นสติ คนที่มาพบเห็นเลยไม่มีโอกาสได้เห็นปีกงามๆของฉัน ที่ตอนนี้มันคงอาการสาหัสหน้าดู ดูจากอาการปวดกระดูกสันหลังขั้นรุนแรงจนฉันต้องกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหมอนแบบนี้น่ะนะ
"ผมพบคุณที่สวนสาธารณะกลางเมืองในเวลาค่อนแจ้ง สภาพคุณตอนนั้นดูหน้ากลัวมาก เลือดท่วมตัว ผมเลยพาคุณมาพักรักษาตัวที่บ้านของผมและได้รับการรักษาโดยแพทย์ประจำตระกูลของผม ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานแผลกลางหลังของคุณคงจะหายดี เพราะหมอบอกว่าแผลของคุณสมานตัวได้ดีอย่างกับมันรักษาตัวเองได้แน่ะ^^"
เขาพูดแล้วอมยิ้มเล็กๆในท้ายประโยค
"แล้วตอนที่คุณพบฉัน...คุณไม่พบใครอื่นหรือ"
"ใครอื่นที่ว่าคงหมายถึงคนที่ทำร้ายคุณ... ไม่นี่ ผมไม่พบใครเลยที่นั่น นอกจากคนกวาดถนนที่เริ่มออกมาทำหน้าที่"
ฉันจ้องหน้าจับพิรุทเขาอย่างเต็มที่ แต่คนตรงหน้าก็ไม่มีเเววน่าสงสัยอะไร เขากลับไหวไหล่ท่าทางดูสบายๆแล้วผายมือไปด้านหลัง
"ทานอะไรซักหน่อยไหม ผมเตรียมอาหารไว้ให้คุณแน่ะ อาหารเบาๆสไตล์ฝรั่งเศส หวังอย่างยิ่งว่าจะถูกปาก"
ไม่รู้ว่าโต๊ะอาหารเคลื่นที่ได้สำหรับผู้ป่วยโผล่มาได้อย่างไร เมื่อครู่ฉันมั่นใจว่าฉันไม่เห็นมันนะ
"มีสลัดผัก ฟัวกรา หรือปาเกตที่คุณจะทานกับซุปหรือปาดทานกับเนยก็ได้นะ ลองทานดู ผมทำเองกับมือ"
เขาชี้แจงอาหารง่ายๆตรงหน้าที่ฉันไม่รู้จัก ก็เพิ่งได้มาโลกมนุษย์ไม่กี่ครั้งเอง แถมส่วนใหญ่ก็มาทำงานไม่ได้มาเที่ยวซักหน่อยจะไปรู้จักของกินพวกนี้ได้ยังไง เอาที่ดูจะทานง่ายหน่อยก็คงเป็นปาเกตหรือขนมปังอบแท่งยาวๆที่มีเครื่องแกล้มเป็นพวกเนย แยม กับซุปร้อนๆกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ฉันหยิบมาหนึ่งแท่งแล้วหยิบมีดเล็กเตรียมหั่นขนมปังแต่ก็ยกค้างไว้อย่างนั้น
"อ้าว ทำไมไม่ทานล่ะ ไม่ชอบหรอ"
"เปล่าค่ะ เพียงแต่ฉันเกรงใจคุณมากกว่า ไม่เห็นต้องมาทำดีกับคนเพิ่งรู้จักกันขนาดนี้เลย...ไม่ใช่สิ เราไม่รู้จักกันเลยต่างหาก ฉันไม่รู้จักคุณ คุณก็ไม่รู้จักฉัน...ฉันว่า..."
"ผม นิโคลลัส เบล ซามัวล์ เรียกผมว่าเบลเฉยๆก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก^^"
เขาตัดบทพูดของฉันด้วยการยื่นมือออกมาทำความรู้จักพร้อมเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ แล้วฉันจะต้องทำยังไงล่ะทีนี้ ตั้งแต่เกิดเป็นนางฟ้าก็มีชื่อเรียกอยู่ชื่อเดียว นามสกุลอย่างมนุษย์ก็ไม่มี คงต้องบอกนามสกุลปลอมไปอย่างเนียนๆล่ะนะ ไม่งั้นเขาคงสงสัยแน่ๆว่าฉันเป็นอะไร ในเมื่อฉันยังสงสัยเขาเลยว่าใช่มนุษย์หรือเปล่า?
"ไคลที เแฮม..."
นามสกุลอะไรที่ผ่านตาบ้างนะ ในโลกใบนี้
"แฮม... แฮมเบอร์เกอร์ค่ะ ฉันไคลที แฮมเบอร์เกอร์!"
โพล่งไปอย่างนั้นก็ให้อยากกัดลิ้นตายนัก เบลนิ่งค้างไปซักครู่ก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
"คุณว่าอะไรนะ นั่นนามสกุลคุณจริงๆหรือ ฮ่าๆๆๆ เชื่อมั้ยว่านามสกุลคุณเหมือนชื่ออาหารสำเร็จรูปที่คนทั่วโลกชอบทานเวลาเร่งด่วนเลย ให้ตายสิ คุณไม่ได้โกหกผมใช่มั้ย ฮ่าๆๆ โทษที ผม ผมไม่ได้ตั้งใจจะขำคุณนะ"
ขำก๊ากซะขนาดนั้น ช่วยชกหน้าฉันซะยังดีกว่า ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ก็นึกออกชื่อเดียว+__+
"โอเค!งั้นเป็นอันว่าเรารู้จักกันแล้ว คุณทานเถอะ แล้วก็นอนพักผ่อนให้สบายไม่ต้องเกรงใจผม"
เบลเอ่ยขึ้นหลังจากเขาควบคุมตัวเองจากการหัวเราะเยาะฉันเรียบร้อยแล้ว!
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แต่ฉันคิดว่าขอพักบ้านคุณอีกซักหน่อย ถ้าพอเบาขึ้นแล้วฉันคงต้องขอตัวไปดีกว่า"
"อ้าว ทำไมล่ะ คุณพักไปเถอะ บ้านผมรวย ดูแลคุณอีกซักคน ขนหน้าแข้งผมไม่ร่วงหรอก"
"แต่ว่า..."
ฉันอยากกลับสวรรค์เร็วๆนี่นา ถ้าได้ออกไปข้างนอก บางทีอาจจะเจอพวกพ้องบ้างก็ได้ หรืออาจเจอเทวดากลุ่มอื่นจะได้ขอติดตามกลับสวรรค์ไปด้วย เพราะลำพังพลังเวทของฉันคนเดียวเปิดประตูสวรรค์ไม่ได้หรอก แค่ที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ พลังเวทอ่อนแรงเหลือเกินจนน่าหวั่นใจ ถ้าได้กลับเร็วๆคงดีกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน
"ทานเยอะๆนะ แล้วเดี๋ยวจะให้คนเอายามาให้ ผมไม่กวนคุณดีกว่า แล้วผมจะแวะมาดูใหม่"
กล่าวจบเขาก็เดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงออกจากห้องไปเลย เพียงประตูปิดไล่หลัง บรรยากาศเย็นยะเยือกเมื่อครู่ก็จางหายไปด้วย ยิ่งทำให็ฉันมั่นใจว่า นิโคลลัส เบล ซามัวล์ คนนี้ ไม่น่าใช่มนุษย์ธรรมดาแน่นอน!
ในทางกลับกัน ที่อีกด้านหนึ่งของประตู ชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่ดูอารมณ์ดีเมื่อครู่ พอพ้นประตูมา เขากับเปลี่ยนสีหน้าท่าทางราวกับคนละคน นัยตาฉายแววเย็นชา ดวงตาวาวระยับมีประกายสีทองแลบเลียอยู่ พร้อมหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง ขนปีกสีขาวที่เปลื้อนเลือดนางฟ้า ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปาก เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมออกมาข้างหนึ่ง รอยยิ้มเหี้ยมก็ปรากฎพร้อมกับขนปีกสีขาวในมือที่ค่อยๆมอดไหม้สลายหายไปกับอากาศในที่สุด!
คนแปลกหน้าที่มีพระคุณ
"โอ๊ะ โอ้ย!"
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่กลางหลัง ภาพแรกที่เห็นคือภาพเพดานสีเทากับโคมไฟระหย้าสุดหรูหรา ค่อยๆหันไปมองรอบกายก็พบกับห้องกว้างสีเทาตุ่นดูไม่เจริญตาที่มีเฟอร์นิเจอร์เพียงชิ้นเดียวคือเตียงเก่าๆที่ฉันนอนอยู่ หน้าต่างที่เปิดแง้มเพียงบานเดียวช่วยขับลมจากด้านนอกให้ผ่านเข้ามาในห้องทึบนี่ได้บ้าง พอให้หายใจหายคอออก นอกนั้นไม่มีอะไรอื่นอีก ทุกอย่างช่างเงียบกริบจนน่าอึดอัด
ฉันพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ผ้าพันแผลที่่พันรอบแขนซ้ายกับรอบลำตัวปิดบาดแผลที่กลางหลังทำเอาฉันขยับตัวไม่สะดวกเท่าใดนัก ในหัวมีความคิดและคำถามตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ที่นี่ที่ไหน แล้วฉันมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วใครเป็นคนช่วยฉันให้รอดจากภัยร้ายนั้นมาได้
"โอ้ย ลุกยากจัง"
"ก็ไม่ต้องลุกสิ จะรีบลุกทำไม แผลคุณยังไม่หายดี"
เสียงห้าวทุ้มที่ดังในระยะใกล้ทำเอาฉันตกใจอยู่ไม่น้อย ด้วยไม่ทันรู้ตัวว่าเขามาตอนไหน หันมองไปก็เห็นผู้ชายร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีเข้มอย่างที่มนุษย์โลกนิยมใส่กันยืนอยู่ข้างเตียง ผิวขาวจัด กับผมสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วดูหนานุ่ม คิ้วเข้มสีเดียวกับผม จมูกโด่งเป็นสันกับปากหยักบางได้รูปสีอ่อน แต่อะไรก็ไม่โดดเด่นเท่าดวงตา ดวงตาที่คมกริบออกจะดูหวานหากแต่สีในดวงตากลับเป็นสีน้ำเงินเข้มดูลึกลับดั่งน้ำทะเลลึก...
...คุ้นหน้า...
อย่างกับเคยเห็นชายหน้าตาแบบนี้มาก่อน เขาหน้าตาดีผิดมนุษย์มนาเท่าที่เคยเห็นมา แต่ก็คล้ายมากกับใครบางคนที่เคยรู้จัก แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก?
"มีอะไรติดหน้าผมอย่างนั้นหรือ"
"ปะ เปล่า เปล่าเลยค่ะ ขอโทษที่เสียมารยาท คุณคือ...?"
"ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตคุณ"
คำกล่าวที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่ฉันกลับรู้สึกว่าบรรยากาศรอบกายมันเย็นๆพิกล ใช่มนุษย์หรือเปล่านะ? สัมผัสไม่ได้เลยถึงพลังวิญญาณที่เกินปกติ
"ถ้าอย่างนั้น ฉันขอบคุณมากเลยนะคะที่อุตส่าช่วยฉัน แต่ฉันจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วคุณไปพบฉันในสภาพไหน"
ลองถามหยั่งเชิงดูก่อนแล้วกัน ดีที่ปีกของฉันมันสามารถหายไปเองได้ยามเมื่อสิ้นสติ คนที่มาพบเห็นเลยไม่มีโอกาสได้เห็นปีกงามๆของฉัน ที่ตอนนี้มันคงอาการสาหัสหน้าดู ดูจากอาการปวดกระดูกสันหลังขั้นรุนแรงจนฉันต้องกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหมอนแบบนี้น่ะนะ
"ผมพบคุณที่สวนสาธารณะกลางเมืองในเวลาค่อนแจ้ง สภาพคุณตอนนั้นดูหน้ากลัวมาก เลือดท่วมตัว ผมเลยพาคุณมาพักรักษาตัวที่บ้านของผมและได้รับการรักษาโดยแพทย์ประจำตระกูลของผม ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานแผลกลางหลังของคุณคงจะหายดี เพราะหมอบอกว่าแผลของคุณสมานตัวได้ดีอย่างกับมันรักษาตัวเองได้แน่ะ^^"
เขาพูดแล้วอมยิ้มเล็กๆในท้ายประโยค
"แล้วตอนที่คุณพบฉัน...คุณไม่พบใครอื่นหรือ"
"ใครอื่นที่ว่าคงหมายถึงคนที่ทำร้ายคุณ... ไม่นี่ ผมไม่พบใครเลยที่นั่น นอกจากคนกวาดถนนที่เริ่มออกมาทำหน้าที่"
ฉันจ้องหน้าจับพิรุทเขาอย่างเต็มที่ แต่คนตรงหน้าก็ไม่มีเเววน่าสงสัยอะไร เขากลับไหวไหล่ท่าทางดูสบายๆแล้วผายมือไปด้านหลัง
"ทานอะไรซักหน่อยไหม ผมเตรียมอาหารไว้ให้คุณแน่ะ อาหารเบาๆสไตล์ฝรั่งเศส หวังอย่างยิ่งว่าจะถูกปาก"
ไม่รู้ว่าโต๊ะอาหารเคลื่นที่ได้สำหรับผู้ป่วยโผล่มาได้อย่างไร เมื่อครู่ฉันมั่นใจว่าฉันไม่เห็นมันนะ
"มีสลัดผัก ฟัวกรา หรือปาเกตที่คุณจะทานกับซุปหรือปาดทานกับเนยก็ได้นะ ลองทานดู ผมทำเองกับมือ"
เขาชี้แจงอาหารง่ายๆตรงหน้าที่ฉันไม่รู้จัก ก็เพิ่งได้มาโลกมนุษย์ไม่กี่ครั้งเอง แถมส่วนใหญ่ก็มาทำงานไม่ได้มาเที่ยวซักหน่อยจะไปรู้จักของกินพวกนี้ได้ยังไง เอาที่ดูจะทานง่ายหน่อยก็คงเป็นปาเกตหรือขนมปังอบแท่งยาวๆที่มีเครื่องแกล้มเป็นพวกเนย แยม กับซุปร้อนๆกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ฉันหยิบมาหนึ่งแท่งแล้วหยิบมีดเล็กเตรียมหั่นขนมปังแต่ก็ยกค้างไว้อย่างนั้น
"อ้าว ทำไมไม่ทานล่ะ ไม่ชอบหรอ"
"เปล่าค่ะ เพียงแต่ฉันเกรงใจคุณมากกว่า ไม่เห็นต้องมาทำดีกับคนเพิ่งรู้จักกันขนาดนี้เลย...ไม่ใช่สิ เราไม่รู้จักกันเลยต่างหาก ฉันไม่รู้จักคุณ คุณก็ไม่รู้จักฉัน...ฉันว่า..."
"ผม นิโคลลัส เบล ซามัวล์ เรียกผมว่าเบลเฉยๆก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก^^"
เขาตัดบทพูดของฉันด้วยการยื่นมือออกมาทำความรู้จักพร้อมเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ แล้วฉันจะต้องทำยังไงล่ะทีนี้ ตั้งแต่เกิดเป็นนางฟ้าก็มีชื่อเรียกอยู่ชื่อเดียว นามสกุลอย่างมนุษย์ก็ไม่มี คงต้องบอกนามสกุลปลอมไปอย่างเนียนๆล่ะนะ ไม่งั้นเขาคงสงสัยแน่ๆว่าฉันเป็นอะไร ในเมื่อฉันยังสงสัยเขาเลยว่าใช่มนุษย์หรือเปล่า?
"ไคลที เแฮม..."
นามสกุลอะไรที่ผ่านตาบ้างนะ ในโลกใบนี้
"แฮม... แฮมเบอร์เกอร์ค่ะ ฉันไคลที แฮมเบอร์เกอร์!"
โพล่งไปอย่างนั้นก็ให้อยากกัดลิ้นตายนัก เบลนิ่งค้างไปซักครู่ก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
"คุณว่าอะไรนะ นั่นนามสกุลคุณจริงๆหรือ ฮ่าๆๆๆ เชื่อมั้ยว่านามสกุลคุณเหมือนชื่ออาหารสำเร็จรูปที่คนทั่วโลกชอบทานเวลาเร่งด่วนเลย ให้ตายสิ คุณไม่ได้โกหกผมใช่มั้ย ฮ่าๆๆ โทษที ผม ผมไม่ได้ตั้งใจจะขำคุณนะ"
ขำก๊ากซะขนาดนั้น ช่วยชกหน้าฉันซะยังดีกว่า ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ก็นึกออกชื่อเดียว+__+
"โอเค!งั้นเป็นอันว่าเรารู้จักกันแล้ว คุณทานเถอะ แล้วก็นอนพักผ่อนให้สบายไม่ต้องเกรงใจผม"
เบลเอ่ยขึ้นหลังจากเขาควบคุมตัวเองจากการหัวเราะเยาะฉันเรียบร้อยแล้ว!
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แต่ฉันคิดว่าขอพักบ้านคุณอีกซักหน่อย ถ้าพอเบาขึ้นแล้วฉันคงต้องขอตัวไปดีกว่า"
"อ้าว ทำไมล่ะ คุณพักไปเถอะ บ้านผมรวย ดูแลคุณอีกซักคน ขนหน้าแข้งผมไม่ร่วงหรอก"
"แต่ว่า..."
ฉันอยากกลับสวรรค์เร็วๆนี่นา ถ้าได้ออกไปข้างนอก บางทีอาจจะเจอพวกพ้องบ้างก็ได้ หรืออาจเจอเทวดากลุ่มอื่นจะได้ขอติดตามกลับสวรรค์ไปด้วย เพราะลำพังพลังเวทของฉันคนเดียวเปิดประตูสวรรค์ไม่ได้หรอก แค่ที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ พลังเวทอ่อนแรงเหลือเกินจนน่าหวั่นใจ ถ้าได้กลับเร็วๆคงดีกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน
"ทานเยอะๆนะ แล้วเดี๋ยวจะให้คนเอายามาให้ ผมไม่กวนคุณดีกว่า แล้วผมจะแวะมาดูใหม่"
กล่าวจบเขาก็เดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงออกจากห้องไปเลย เพียงประตูปิดไล่หลัง บรรยากาศเย็นยะเยือกเมื่อครู่ก็จางหายไปด้วย ยิ่งทำให็ฉันมั่นใจว่า นิโคลลัส เบล ซามัวล์ คนนี้ ไม่น่าใช่มนุษย์ธรรมดาแน่นอน!
ในทางกลับกัน ที่อีกด้านหนึ่งของประตู ชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่ดูอารมณ์ดีเมื่อครู่ พอพ้นประตูมา เขากับเปลี่ยนสีหน้าท่าทางราวกับคนละคน นัยตาฉายแววเย็นชา ดวงตาวาวระยับมีประกายสีทองแลบเลียอยู่ พร้อมหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง ขนปีกสีขาวที่เปลื้อนเลือดนางฟ้า ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปาก เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมออกมาข้างหนึ่ง รอยยิ้มเหี้ยมก็ปรากฎพร้อมกับขนปีกสีขาวในมือที่ค่อยๆมอดไหม้สลายหายไปกับอากาศในที่สุด!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ