คว้าหัวใจยัยหงส์น้อย
5.3
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.56 น.
32 ตอน
7 วิจารณ์
34.29K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) บทที่ 23 ความอ่อนแอที่ซ่อนไว้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่เข้าเฝ้าองค์ราณีแล้ว รีเบ็คก้าพบว่าชีคจาดีนมาดักรออยู่แล้ว
ชีคหนุ่มเห็นร่างบางออกมาจึงเอ่ยทัก"สวัสดีครับ คุณรีเบ็คก้า"
"สวัสดีคะท่านจาดีน"
"วันนี้ไปขี่ม้ากันไหมครับ"
"เอ่อ...เอาไว้ครั้งหน้าเถอะคะ ตอนนี้ชั้นรู้สึกเพลียๆ"
ชีคจาดีนแสนเสียดาย เท่าที่รู้มา รีเบ็คก้า สวอน ชื่นชอบการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ ถึงขนาดสร้างฟาร์มม้าส่วนตัวไว้สำหรับขี่เล่น "น่าเสียดายจังเลยนะครับ เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับ"
"อ่า...ค่ะ"
ระหว่างทาง
ชีคจาดีนไม่รู้จะชวนเด็กสาวพูดคุย เรื่องอะไร เธอดูเงียบขรึม พอชวนเธอพูดคุย เจ้าหล่อนก็ตอบแบบแทบจะนับคำได้
สำหรับรีเบ็คก้าในยามนี้เธอไม่มีอารมณ์ที่จะคุยกับใครทั้งนั้น ถ้าเธอไม่มาเจอไดอารี่ของพ่อ เธอคงจะไปขี่ม้าตามคำชวนของชีคหนุ่มแล้ว
หลังจากที่ทั้งคู่มาถึงห้องพัก
หงส์น้อยขอบคุณตามมารยาท"ขอบคุณที่มาส่งนะค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ คุณพักผ่อนให้มากๆนะครับ ผมเป็นห่วง"
"ขอบคุณคะ"
ชีคหนุ่มมองไปยังร่างบางที่กำลังเข้าไปในห้องด้วยสายตาที่ห่วงใย ...เธอยังคงเศร้าเรื่องของพ่ออยู่สินะ...
หลังจากที่เข้ามาในห้อง
เธอทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอย่างอ่อนล้า มือเรียวหยิบไดอารี่ของพ่อมาอ่าน สายตาของของเธอไล่อ่านไปที่ล่ะหน้า
'วันที่ 15เมษา XXX
วันนี้ ข้าพเจ้าโรเจอร์สวอน อยู่ที่อิยิปต์ทางใต้กำลังนั่งจดบันทึกเล่มนี้อยู่ ในตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง อากาศร้อนจัด ในขณะที่ลูกสาวของข้าพเจ้า รีเบ็คก้า สวอน ไม่ได้ตามมาด้วยเพราะติดสอบที่มหาลัย ดีแล้วล่ะนะ เด็กคนนั้นเก่งไปซะทุกอย่างแต่มาแพ้อากาศร้อนนี่สิ '
รีเบ็คก้าอมยิ้ม…ขนาดเขียนไดอารี่ยังบ่นถึงเราเลย… ในขณะที่ขอบตานั้นเริ่มร้อนพราว หยาดน้ำตาเริ่มไหลรินอาบแก้ม เธอสะอึกสะอื้น ความเศร้าได้พรั่งพรูนออกมาจากหัวใจ จนเธอไม่อาจจะอ่านไดอารี่ต่อได้เธอคิดถึงพ่อเหลือเกิน มือเรียวของเด็กสาวสั่นเทา ดวงตานั้นพร่ามัวเพราะหยาดน้ำตารีเบ็คก้าปิดไดอารี่ลงแล้วใส่ไว้ในช่องของเสื้อเกราะกันกระสุนที่รีเบ็คก้าสั่งทำเป็นพิเศษขนาดพอดีกับตัวที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวทับไว้อยู่ สาเหตุที่รีเบ็คก้าใส่เสื้อเกราะกันกระสุนแทบทุกครั้งก็เพราะสมัยที่เธอเป็นนักล่าขุมทรัพย์ เลยมักจะโดนลอบยิงเป็นประจำ ถึงแม้ว่าจะเลิกเป็นแล้วแต่ก็มักจะโดนคู่แข่งทางธุรกิจลอบยิงอยู่ดี จนกลายเป็นว่าเธอสวมเสื้อเกราะกันกระสุนจนเคยชินเสียแล้ว ไม่นานรีเบ็คก้าก็เข้าสู่ห้วงนิทรา
อีกด้าน
ที่ตึกร่างชายสองคนกำลังสนทนาอยู่ หนึ่งคือ อาร็อค คาเลนโซ่ อีกคนนั้นสวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้าไว้ ชายสวมผ้าคลุมสบถ”บัดซบ!นี่ก็ตั้งนานแล้วนะ ทำไมนังเด็กนั่นมันยังไม่เจอ’สิ่งนั้น’อีก”
“ใจเย็นเถอะครับ งานนี้เราต้องใจเย็นๆ นังเด็กนั่นมันอยู่แต่ในห้องสมุด เดี๋ยวสักพักก็เจอเอง”
ชายสวมผ้าคลุมประชด”หึ!ถ้าเราพึ่งคุณได้เรื่องคงไม่ยุ่งยากขนาดนี้หรอก ชั้นเสียเงินไปมากมายขนาดไหน กว่าจะล่อให้นังเด็กนั่นให้มาที่นี่น่ะ”
อาร็อคนิ่งเงียบก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น”เชื่อผมเถอะ ผมรู้จักนังเด็กนั้นดี มันต้องเจอแน่”
“ขอให้จริงเถอะ!”ชายสวมผ้าคลุมก็จากไป
พอลับร่างของชายสวมผ้าคลุม ชายชาวเม็กซิโกเปลี่ยนสีหน้าที่แย้มยิ้มเป็นโหดเหี้ยมพลางกระชับปืนพกให้มั่น”ถ้างานนี้สำเร็จ ชั้นจะเป่าหัวแกทิ้งแน่ ไอ้เฒ่าหัวโบราณ!”
วันต่อมา
ทุกคนต้องแปลกใจ ที่รีเบ็คก้าขอบตาบวมแดงราวกับร้องไห้มาทั้งคืน
ฟานเชสก้าเอ่ยถามด้วยสีหน้าเหยเก”บะ…เบ็คกี้ ไปทำอะไรมา…”
“อ่านนิยายรัก มันซึ้งเลยเผลอร้องไห้ออกมา”
ญาติพี่น้องทุกคนรวมถึงวีอารองช็อคค้างต่างคิดกันไปต่างๆนานา
เลโอซึ่งเป็นเหมือนพี่ใหญ่คิด…เบ็คมันถูกกักตัวอยู่นี่นานจนเพี้ยนอ่านนิยายรักแล้วรึไงเนี่ย…
เลออนแทบไม่เชื่อหู…บ้าน่าถ้าอย่างฟานก็ว่าไปอย่าง…
ฟานเชสก้า…เบ็คกี้ เธอคงจะเริ่มมีความเป็นผู้หญิงขึ้นมาบ้างแล้วสินะ…
วีอารอง…สวอน อากาศร้อนจัดของที่นี่ทำเอาแกเพี้ยนรึไงฟะ สีหน้าแกมันบ่งบอกว่าไม่ซึ้งหรืออินกันนิยายเลยนะโว้ย!…เด็กหนุ่มลูกครึ่งเอามือมาอังหน้าผากของเพื่อนซี้”ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”
“แค่ชั้นอ่านนิยายรักแค่นี้ มันแปลกมารึไง ชั้นก็เป็นผู้หญิงนะ”
พี่รองเลโอส่ายหน้า”ปกติ แกจะอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ไม่ก็พวกบู๊ นี่นา”
“นานๆที ก็อยากจะเปลี่ยนบ้างนะ”
วีอารองนั้นไม่เชื่อ ถึงแม้ว่าหลังจากเรียนจบมหาลัยมาสามปี จะไม่ค่อยได้เจอกัน นอกจากเวลาที่เค้าขอให้รีเบ็คก้ามาช่วยผ่าตัดเนื่องจากหมอไม่พอ และ วันครบรอบวันตายของพ่อของหล่อน เค้าสังเกตเห็นว่า รีเบ็คก้า สวอน นิสัยไปจากเดิมแน่ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเธอจะเคย สดใส ร่าเริงและห้าว เป็นม้าดีดกะโหลก เมื่อสามปีที่แล้วเมื่อ โรเจอร์ สวอน เสียชีวิต เธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เย็นชา สุขุม แต่ถึงยังไงความชอบของเธอก็ยังเหมือนเดิมแน่นอน
เด็กหนุ่มเข้าไปตบบ่าของเพื่อน “สวอนเราต้องคุยกัน”
หงส์น้องแสร้งยิ้มกลบเกลื่อน“ชั้นไม่เป็นไรจริงๆ อารอง คนเราต้องรู้จักเปลี่ยนซะบ้างนะ"
เมื่อพูดจบ รีเบ็คก้า ก็เดินจากมา วันนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบพับแขนเสื้อ คู่กับกางเกงสีดำและรองเท้าหนังขัดเงาอย่างดี ผมสีน้ำตาลรวบครึ่งหนึ่งที่เหลือปล่อยสยาย ดูแล้วทะมัดทะแมง เธอเดินเล่นไปเรื่อยๆจนเผลอเดินไปถึงสนามฝึกของพวกองค์รักษ์โดยมีชีคจาดีนและเจเฟลาสกำลังฝึกอยู่ในตอนนี้ ชีคจาดีนกำลังเล่นมวยปล้ำกับเหล่าองค์รักษ์อยู่ เธอสังเกตว่าเรือนร่างของชีคหนุ่มนั้นดูแข็งแรงกำยำ สมชาย ผิวกายขาวสะอาด มันทำให้เธอนึกถึงผู้เป็นพ่อเหลือเกิน ถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะอายุห้าสิบกว่า แต่พ่อของเธอก็ยังคงแข็งแรง และแข็งแกร่งกว่าคนหนุ่มบางคนเสียอีก รีเบ็คก้าส่ายหัวไล่ความคิดออกไป
"คุณสวอน"เจเฟลาสตรงมาหา ทำเอาร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย "คุณมาทำอะไรที่นี่"
"หลงมาคะ"
ชีคจาดีนสวมเสื้อคลุมก่อนจะเดินมาหาหญิงสาวก่อนจะเตือนก้วยน้ำเสียงดุๆ"คุณไม่ควรเข้ามาที่นี่นะครับ"
รีเบ็คก้ากลับนิ่งเฉยอย่างไม่สะทกสะท้าน"ขอโทษด้วยคะ พอดีว่าวันนี้ชั้นใจลอยคิดอะไรเพลินๆแล้วอีกอย่าง ชั้นก็ไม่เห็นป้ายห้ามว่า ห้ามผู้หญิงเข้ามานี่ค่ะ"
องครักษ์ตนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อหญิงสาวเอ่ยออกมาแบบกวนโอ๊ยใส่นายของเค้า"นังบ้า!กล้าพูดแบบนี้กับท่านชีคเชียวเหรอ!"
เจเฟลาสหันมาตวาด"กาซิม!อย่าเสียมารยาทกับคุณสวอน"
สีหน้าของหงส์น้อยในยามนี้กำลังแสยะยิ้ม"ไม่ได้ยินคนด่าแบบนี้มานานแล้วนะ กล้ามากนะ"
ชีคหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปสั่ง"กาซิมขอโทษคุณรีเบ็คก้าเดี๋ยวนี้"
"คำขอโทษแบบไม่เต็มใจแบบนั้นชั้นไม่อยากได้ ถ้าจะให้หายโกรธขอต่อยหน้ามันทีหนึ่งก็พอ"
"ตามใจครับ คุณรีเบ็คก้า"
กาซิมนึกผยอง ...ผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียวจะต่อยเจ็บสักแค่ไหน...พอรู้ถึงตัวก็เห็นรีเบ็คก้ามาอยู่ตรงหน้า
"นี่แก กัดฟันใฟ้แน่นๆนะ"ใบหน้าหวานฉายแววเหี้ยม เธอกำหมัดแน่นก่อนจะรวบรวมแรงไปที่หมัดขวาต่อยเข้าที่แก้มซ้ายของอีกฝ่าย จนร่างอันเทอะทะ กระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้
'โครม!'
กาซิมเอาอ้าปากก็พบว่าฟันได้ร่วงออกมาหนึ่งซี่ องครักษ์ทั้งหลายต่างมองมาที่รีเบ็คก้าอย่างตะลึง ว่าทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆถึงมีเรี่ยวแรงมากมายขนาดนี้
ชีคจาดีนคิดในใจ...รู้สึกเหมือนจะเห็นอนาคตตัวเองลางๆแฮะ...
เจเฟลาส...ถ้าเกิดแต่งกับคุณสวอนล่ะก็ งานนี้ท่านจาดีนคงจะเริ่มหยุดเจ้าชู้ไปเลยสินะ...
ชีคหนุ่มหันไปหาองครักษ์กาซิม"กาซิมเราขอปลดเจ้าออกจากการเป็น..."
"อย่าเลยคะ ท่านจาดีน"รีเบ็คก้าร้องห้ามเสียก่อนที่ชีคหนุ่มจะเอ่ยจบ
"ทำไมครับ"
โดยส่วนตัวรีเบ็คก้าไม่ได้ถือสาอะไรเพราะเธอได้เอาคืนไปแล้ว"ชั้นต่อยเค้าเเล้วถือว่าหายกัน ไม่จำเป็นต้องปลดเค้าออกจากงานหรอกคะ"
"ถ้าคุณขอ ผมก็ให้ครับ"ว่าแล้วก็หันไปหากาซิม"ไปให้พ้นหน้าข้าซะ"
กาซิมพยายามลุกขึ้นอย่างลำบาก เพื่อนองครักษ์นายหนึ่งเข้ามาช่วยพยุง"นายก็ไม่น่าไปยุ่งกับหล่อนเลยนะ เห็นว่าเก่งถึงขนาดท่านอามุลยังยอมรับเลย"
"ชั้นเองก็คงต้องมองผู้หญิงต่างชาติคนนั้นใหม่ซะแล้ว"เพราะกาซิมไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้นหญิงสาวที่เพิ่งต่อยปากตนจนฟันร่วงออกมาหนึ่งซี่ ดีที่เป็นซี่ที่อยู่ด้านในไม่งั้นได้ขายหน้าคนอื่นเเน่ เค้ายอมรับว่าเค้าผิดที่ไปว่าหล่อน แต่ไม่นึกว่า ผู้หญิงที่เค้าคิดว่าจะมีแรงน้อยนิดจะสามารถต่อยเค้าจนกระแทกต้นไม้ได้ในหมัดเดียว"ถือว่าครั้งนี้ เป็นบทลงโทษเรื่องความปากเสียของชั้นก็แล้วกัน"
ทั้งกาซิมและเพื่อนองครักษ์ต่างหัวเราะกันอย่างขบขัน
ทางด้านชีคจาดีนได้ให้เจเฟลาสพารีเบ็คก้าไปยังห้องรับแขกก่อน
องครักษ์ผิวเข้มเอ่ยกับหญิงสาว"คุณอย่าไปถือสากาซิมเลยนะครับ เค้าเป็นคนใจร้อน"
"คะ ชั้นเข้าใจและอย่างที่บอก ชั้นเอาคืนเค้าไปแล้วถือว่าเจ๊ากันไป"
"คุณนี่ก็ร้ายเหลือเกินนะครับ ทั้งฝีมือและฝีปาก ขอถามหน่อยคุณเคยยกเวทบ้างรึเปล่าครับ"
"ประจำคะและก็ยกน้ำหนักด้วย"
"เข้าฟิสเนตบ่อยสินะครับ"
"เปล่าคะ พอดีที่บ้านมีเครื่องออกกำลังไว้อยู่แล้ว"
"แล้วคุณยกน้ำหนักได้มากสุดเท่าไหร่รึครับ"
"75กิโลคะ ถามเยอะจังนะค่ะ"
"ก็ผมอยากรู้นี่นา ว่าแต่ทำไม คุณรูปร่างออกจะบอกบางแต่ทำไมยกน้ำหนักได้ถึง75กิโล แต่ไม่มีกล้ามแขน โม้รึเปล่า"
"รึจะลองดู"
"ไม่ล่ะครับ"
พอทั้งคู่มาถึงห้องรับแขก องครักษ์ผิวเข้มผายมือเชิญให้หญิงสาวนั่งลงที่โซฟาราคาแพง ภายในห้องสะอาดสะอ้าน ตกแต่งเรียบง่ายแต่หรูหรา ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังมองไปรอบๆห้องชีคจาดีนก็เข้ามาในห้องด้วยชุดที่เปลี่ยนใหม่ เป็นชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาว รองเท้าหนัง ดูผิดตาแต่กลับทำให้ชีคหนุ่มดูหล่อเหล่าไปอีกแบบจน หน้าของรีเบ็คก้าขึ้นสีเล็กน้อย
ชีคหนุ่มรีบขอโทษเธอทันที"ผมขอโทษแทนคนของผมด้วยนะครับ"
"ท่านจาดีนไม่ต้องขอโทษชั้นหรอกค่ะ เรื่องมันจบไปแล้ว ความจริงชั้นเองก็มีส่วนผิดด้วย"
"เหรอครับ วันนี้ผมว่าง อากาศกำลังสบายๆเราไปขี่ม้ากันไหมครับ"
"ก็ดีคะ"
ชีคหนุ่มเอ่ยถามเรื่องต่างๆกับหญิงสาวระหว่างทางที่ทั้งคู่กำลังเดินทางไปยังสนามม้า
รีเบ็คก้าคิด...บางที เราอาจจะรู้เบาะแสของกริชทองคำจากท่านจาดีนก็ได้...
เมื่อทั้งคู่มาถึงชีคหนุ่มนำม้าสีขาวลักษณะดีมาให้เธอขี่"คุณชอบเจ้าตัวนี้มั้งครับ"
"เป็นม้าที่สวยดีนะค่ะ แต่ชั้นชอบเจ้าตัวนั้นมากกว่า"หญิงสาวชี้ไปยังม้าสีน้ำตาลร่างกายกำยำท่าทางพยศไม่ใช่น้อย
"เจ้านั่นชื่อ ฟิน พยศที่สุดเลยนะครับ กว่าผมจะปราบพยศมันได้ก็นานพอดูเลย"
"จริงเหรอค่ะ อย่างนี้ต้องขอลองหน่อยแล้ว"ว่าแล้วหญิงสาวก็ตรงเข้าไปหาเจ้าม้าฟิน "ดีๆ เด็กดี"เธอค่อยๆเข้าใกล้ให้มันหายระแวง มือบางลูบหัวมันด้วยความรัก แล้วตบที่คอก่อนจะปีนขึ้นหลังมันอย่างง่ายดาย"ย่าส์!"
รีเบ็คก้าบังคับให้มันวิ่งไปทันที ชีคจาดีนยิ้มแย้มอย่างสุขใจ ใช่ว่าเค้าจะมองไม่ออก ภายในดวงตาของรีเบ็คก้านั้นแฝงไว้ด้วยความเศร้า แต่ในตอนนี้เค้าสามารถทำให้เธอกลับมาสดใสร่าเริง และมีความสุขได้ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆก็ตาม ยามที่รีเบ็คก้าควบม้านั้นช่างสง่างามน่าจับตามองเสียเหลือเกิน
เจเฟลาสเอ่ยกับผู้เป็นนายที่ตอนนี้กำังมองหญิงสาวชาวอังกฤษกำลังควบม้าอย่างสนุกสนาน"คุณสวอนเนี่ยเก่งจริงๆ สามารถขึ้นหลังเจ้าฟินได้"
"ใช่เธอเก่ง เธอแกร่ง แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอใช้ความเก่ง ความแข็งแกร่งของตัวเองปิดความอ่อนแอที่ซ่อนภายในใจของเธอไว้ก็เท่านั้น"ชีคหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียดแล้วเอ่ยเสียงแผ่ว"เรื่องที่ให้ไปสืบมาล่ะ ได้เรื่องยังไง"
"ครับ สายรายงานมาว่าที่หมู่บ้านแมงป่องดำถูกไฟไหม้ครับ"
"จริงรึ"
"ครับ ตนนี้ทางเรากำลังหาหลักฐานอยู่ เผื่อจะมีเบาะแส"
"เสียเวลาเปล่าๆ พวกมันตั้งใจทำลายที่อยู่เพื่อให้เราตายใจ ชั้นเชื่อว่าพวกมันแค่วางเพลิงเผาหมู่บ้านตบตาพวกเรา สืบดูให้ทั่วว่าพวกมันไปซ่อนที่ไหนแล้วสืบเรื่องของเจ้าอูบิสด้วย"
"เป้าหมายของพวกมันไม่น่าจะเล็งมาที่คุณสวอนนะครับ"
"แต่ชั้นไม่คิดอย่างนั้น"
"ท่านเป็นห่วงเธอสินะ"
ชีคหนุ่มยอมรับความจริง"ใช่ ชั้นไม่อยากให้เธอเสี่ยงอันตราย ถึงแม้ว่าการที่กักตัวเธอไว้ในวังอาจจะทำให้เธอเบื่อก็เถอะ"
"ว่างๆท่านก็พาเธอไปชมเมืองด้วยกันสิ"
"ไม่ล่ะ มันอาจจะทำให้เธอเสียชื่อเสียงก็ได้"
"นั่นสินะครับ"
"ตอนนี้เราต้องจัดการปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน"
องครักษ์ผิวเข้มเอ่ยล้อ"พยายามจีบว่าที่ราชินีของคาลอสใด้ให้นะครับ"
หน้าของชีคหนุ่มขึ้นสี ก่อนจะหัวเราะในลำคอ"ข้าจะพยายาม"
ชีคหนุ่มเห็นร่างบางออกมาจึงเอ่ยทัก"สวัสดีครับ คุณรีเบ็คก้า"
"สวัสดีคะท่านจาดีน"
"วันนี้ไปขี่ม้ากันไหมครับ"
"เอ่อ...เอาไว้ครั้งหน้าเถอะคะ ตอนนี้ชั้นรู้สึกเพลียๆ"
ชีคจาดีนแสนเสียดาย เท่าที่รู้มา รีเบ็คก้า สวอน ชื่นชอบการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ ถึงขนาดสร้างฟาร์มม้าส่วนตัวไว้สำหรับขี่เล่น "น่าเสียดายจังเลยนะครับ เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับ"
"อ่า...ค่ะ"
ระหว่างทาง
ชีคจาดีนไม่รู้จะชวนเด็กสาวพูดคุย เรื่องอะไร เธอดูเงียบขรึม พอชวนเธอพูดคุย เจ้าหล่อนก็ตอบแบบแทบจะนับคำได้
สำหรับรีเบ็คก้าในยามนี้เธอไม่มีอารมณ์ที่จะคุยกับใครทั้งนั้น ถ้าเธอไม่มาเจอไดอารี่ของพ่อ เธอคงจะไปขี่ม้าตามคำชวนของชีคหนุ่มแล้ว
หลังจากที่ทั้งคู่มาถึงห้องพัก
หงส์น้อยขอบคุณตามมารยาท"ขอบคุณที่มาส่งนะค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ คุณพักผ่อนให้มากๆนะครับ ผมเป็นห่วง"
"ขอบคุณคะ"
ชีคหนุ่มมองไปยังร่างบางที่กำลังเข้าไปในห้องด้วยสายตาที่ห่วงใย ...เธอยังคงเศร้าเรื่องของพ่ออยู่สินะ...
หลังจากที่เข้ามาในห้อง
เธอทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอย่างอ่อนล้า มือเรียวหยิบไดอารี่ของพ่อมาอ่าน สายตาของของเธอไล่อ่านไปที่ล่ะหน้า
'วันที่ 15เมษา XXX
วันนี้ ข้าพเจ้าโรเจอร์สวอน อยู่ที่อิยิปต์ทางใต้กำลังนั่งจดบันทึกเล่มนี้อยู่ ในตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง อากาศร้อนจัด ในขณะที่ลูกสาวของข้าพเจ้า รีเบ็คก้า สวอน ไม่ได้ตามมาด้วยเพราะติดสอบที่มหาลัย ดีแล้วล่ะนะ เด็กคนนั้นเก่งไปซะทุกอย่างแต่มาแพ้อากาศร้อนนี่สิ '
รีเบ็คก้าอมยิ้ม…ขนาดเขียนไดอารี่ยังบ่นถึงเราเลย… ในขณะที่ขอบตานั้นเริ่มร้อนพราว หยาดน้ำตาเริ่มไหลรินอาบแก้ม เธอสะอึกสะอื้น ความเศร้าได้พรั่งพรูนออกมาจากหัวใจ จนเธอไม่อาจจะอ่านไดอารี่ต่อได้เธอคิดถึงพ่อเหลือเกิน มือเรียวของเด็กสาวสั่นเทา ดวงตานั้นพร่ามัวเพราะหยาดน้ำตารีเบ็คก้าปิดไดอารี่ลงแล้วใส่ไว้ในช่องของเสื้อเกราะกันกระสุนที่รีเบ็คก้าสั่งทำเป็นพิเศษขนาดพอดีกับตัวที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวทับไว้อยู่ สาเหตุที่รีเบ็คก้าใส่เสื้อเกราะกันกระสุนแทบทุกครั้งก็เพราะสมัยที่เธอเป็นนักล่าขุมทรัพย์ เลยมักจะโดนลอบยิงเป็นประจำ ถึงแม้ว่าจะเลิกเป็นแล้วแต่ก็มักจะโดนคู่แข่งทางธุรกิจลอบยิงอยู่ดี จนกลายเป็นว่าเธอสวมเสื้อเกราะกันกระสุนจนเคยชินเสียแล้ว ไม่นานรีเบ็คก้าก็เข้าสู่ห้วงนิทรา
อีกด้าน
ที่ตึกร่างชายสองคนกำลังสนทนาอยู่ หนึ่งคือ อาร็อค คาเลนโซ่ อีกคนนั้นสวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้าไว้ ชายสวมผ้าคลุมสบถ”บัดซบ!นี่ก็ตั้งนานแล้วนะ ทำไมนังเด็กนั่นมันยังไม่เจอ’สิ่งนั้น’อีก”
“ใจเย็นเถอะครับ งานนี้เราต้องใจเย็นๆ นังเด็กนั่นมันอยู่แต่ในห้องสมุด เดี๋ยวสักพักก็เจอเอง”
ชายสวมผ้าคลุมประชด”หึ!ถ้าเราพึ่งคุณได้เรื่องคงไม่ยุ่งยากขนาดนี้หรอก ชั้นเสียเงินไปมากมายขนาดไหน กว่าจะล่อให้นังเด็กนั่นให้มาที่นี่น่ะ”
อาร็อคนิ่งเงียบก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น”เชื่อผมเถอะ ผมรู้จักนังเด็กนั้นดี มันต้องเจอแน่”
“ขอให้จริงเถอะ!”ชายสวมผ้าคลุมก็จากไป
พอลับร่างของชายสวมผ้าคลุม ชายชาวเม็กซิโกเปลี่ยนสีหน้าที่แย้มยิ้มเป็นโหดเหี้ยมพลางกระชับปืนพกให้มั่น”ถ้างานนี้สำเร็จ ชั้นจะเป่าหัวแกทิ้งแน่ ไอ้เฒ่าหัวโบราณ!”
วันต่อมา
ทุกคนต้องแปลกใจ ที่รีเบ็คก้าขอบตาบวมแดงราวกับร้องไห้มาทั้งคืน
ฟานเชสก้าเอ่ยถามด้วยสีหน้าเหยเก”บะ…เบ็คกี้ ไปทำอะไรมา…”
“อ่านนิยายรัก มันซึ้งเลยเผลอร้องไห้ออกมา”
ญาติพี่น้องทุกคนรวมถึงวีอารองช็อคค้างต่างคิดกันไปต่างๆนานา
เลโอซึ่งเป็นเหมือนพี่ใหญ่คิด…เบ็คมันถูกกักตัวอยู่นี่นานจนเพี้ยนอ่านนิยายรักแล้วรึไงเนี่ย…
เลออนแทบไม่เชื่อหู…บ้าน่าถ้าอย่างฟานก็ว่าไปอย่าง…
ฟานเชสก้า…เบ็คกี้ เธอคงจะเริ่มมีความเป็นผู้หญิงขึ้นมาบ้างแล้วสินะ…
วีอารอง…สวอน อากาศร้อนจัดของที่นี่ทำเอาแกเพี้ยนรึไงฟะ สีหน้าแกมันบ่งบอกว่าไม่ซึ้งหรืออินกันนิยายเลยนะโว้ย!…เด็กหนุ่มลูกครึ่งเอามือมาอังหน้าผากของเพื่อนซี้”ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”
“แค่ชั้นอ่านนิยายรักแค่นี้ มันแปลกมารึไง ชั้นก็เป็นผู้หญิงนะ”
พี่รองเลโอส่ายหน้า”ปกติ แกจะอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ไม่ก็พวกบู๊ นี่นา”
“นานๆที ก็อยากจะเปลี่ยนบ้างนะ”
วีอารองนั้นไม่เชื่อ ถึงแม้ว่าหลังจากเรียนจบมหาลัยมาสามปี จะไม่ค่อยได้เจอกัน นอกจากเวลาที่เค้าขอให้รีเบ็คก้ามาช่วยผ่าตัดเนื่องจากหมอไม่พอ และ วันครบรอบวันตายของพ่อของหล่อน เค้าสังเกตเห็นว่า รีเบ็คก้า สวอน นิสัยไปจากเดิมแน่ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเธอจะเคย สดใส ร่าเริงและห้าว เป็นม้าดีดกะโหลก เมื่อสามปีที่แล้วเมื่อ โรเจอร์ สวอน เสียชีวิต เธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เย็นชา สุขุม แต่ถึงยังไงความชอบของเธอก็ยังเหมือนเดิมแน่นอน
เด็กหนุ่มเข้าไปตบบ่าของเพื่อน “สวอนเราต้องคุยกัน”
หงส์น้องแสร้งยิ้มกลบเกลื่อน“ชั้นไม่เป็นไรจริงๆ อารอง คนเราต้องรู้จักเปลี่ยนซะบ้างนะ"
เมื่อพูดจบ รีเบ็คก้า ก็เดินจากมา วันนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบพับแขนเสื้อ คู่กับกางเกงสีดำและรองเท้าหนังขัดเงาอย่างดี ผมสีน้ำตาลรวบครึ่งหนึ่งที่เหลือปล่อยสยาย ดูแล้วทะมัดทะแมง เธอเดินเล่นไปเรื่อยๆจนเผลอเดินไปถึงสนามฝึกของพวกองค์รักษ์โดยมีชีคจาดีนและเจเฟลาสกำลังฝึกอยู่ในตอนนี้ ชีคจาดีนกำลังเล่นมวยปล้ำกับเหล่าองค์รักษ์อยู่ เธอสังเกตว่าเรือนร่างของชีคหนุ่มนั้นดูแข็งแรงกำยำ สมชาย ผิวกายขาวสะอาด มันทำให้เธอนึกถึงผู้เป็นพ่อเหลือเกิน ถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะอายุห้าสิบกว่า แต่พ่อของเธอก็ยังคงแข็งแรง และแข็งแกร่งกว่าคนหนุ่มบางคนเสียอีก รีเบ็คก้าส่ายหัวไล่ความคิดออกไป
"คุณสวอน"เจเฟลาสตรงมาหา ทำเอาร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย "คุณมาทำอะไรที่นี่"
"หลงมาคะ"
ชีคจาดีนสวมเสื้อคลุมก่อนจะเดินมาหาหญิงสาวก่อนจะเตือนก้วยน้ำเสียงดุๆ"คุณไม่ควรเข้ามาที่นี่นะครับ"
รีเบ็คก้ากลับนิ่งเฉยอย่างไม่สะทกสะท้าน"ขอโทษด้วยคะ พอดีว่าวันนี้ชั้นใจลอยคิดอะไรเพลินๆแล้วอีกอย่าง ชั้นก็ไม่เห็นป้ายห้ามว่า ห้ามผู้หญิงเข้ามานี่ค่ะ"
องครักษ์ตนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อหญิงสาวเอ่ยออกมาแบบกวนโอ๊ยใส่นายของเค้า"นังบ้า!กล้าพูดแบบนี้กับท่านชีคเชียวเหรอ!"
เจเฟลาสหันมาตวาด"กาซิม!อย่าเสียมารยาทกับคุณสวอน"
สีหน้าของหงส์น้อยในยามนี้กำลังแสยะยิ้ม"ไม่ได้ยินคนด่าแบบนี้มานานแล้วนะ กล้ามากนะ"
ชีคหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปสั่ง"กาซิมขอโทษคุณรีเบ็คก้าเดี๋ยวนี้"
"คำขอโทษแบบไม่เต็มใจแบบนั้นชั้นไม่อยากได้ ถ้าจะให้หายโกรธขอต่อยหน้ามันทีหนึ่งก็พอ"
"ตามใจครับ คุณรีเบ็คก้า"
กาซิมนึกผยอง ...ผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียวจะต่อยเจ็บสักแค่ไหน...พอรู้ถึงตัวก็เห็นรีเบ็คก้ามาอยู่ตรงหน้า
"นี่แก กัดฟันใฟ้แน่นๆนะ"ใบหน้าหวานฉายแววเหี้ยม เธอกำหมัดแน่นก่อนจะรวบรวมแรงไปที่หมัดขวาต่อยเข้าที่แก้มซ้ายของอีกฝ่าย จนร่างอันเทอะทะ กระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้
'โครม!'
กาซิมเอาอ้าปากก็พบว่าฟันได้ร่วงออกมาหนึ่งซี่ องครักษ์ทั้งหลายต่างมองมาที่รีเบ็คก้าอย่างตะลึง ว่าทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆถึงมีเรี่ยวแรงมากมายขนาดนี้
ชีคจาดีนคิดในใจ...รู้สึกเหมือนจะเห็นอนาคตตัวเองลางๆแฮะ...
เจเฟลาส...ถ้าเกิดแต่งกับคุณสวอนล่ะก็ งานนี้ท่านจาดีนคงจะเริ่มหยุดเจ้าชู้ไปเลยสินะ...
ชีคหนุ่มหันไปหาองครักษ์กาซิม"กาซิมเราขอปลดเจ้าออกจากการเป็น..."
"อย่าเลยคะ ท่านจาดีน"รีเบ็คก้าร้องห้ามเสียก่อนที่ชีคหนุ่มจะเอ่ยจบ
"ทำไมครับ"
โดยส่วนตัวรีเบ็คก้าไม่ได้ถือสาอะไรเพราะเธอได้เอาคืนไปแล้ว"ชั้นต่อยเค้าเเล้วถือว่าหายกัน ไม่จำเป็นต้องปลดเค้าออกจากงานหรอกคะ"
"ถ้าคุณขอ ผมก็ให้ครับ"ว่าแล้วก็หันไปหากาซิม"ไปให้พ้นหน้าข้าซะ"
กาซิมพยายามลุกขึ้นอย่างลำบาก เพื่อนองครักษ์นายหนึ่งเข้ามาช่วยพยุง"นายก็ไม่น่าไปยุ่งกับหล่อนเลยนะ เห็นว่าเก่งถึงขนาดท่านอามุลยังยอมรับเลย"
"ชั้นเองก็คงต้องมองผู้หญิงต่างชาติคนนั้นใหม่ซะแล้ว"เพราะกาซิมไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้นหญิงสาวที่เพิ่งต่อยปากตนจนฟันร่วงออกมาหนึ่งซี่ ดีที่เป็นซี่ที่อยู่ด้านในไม่งั้นได้ขายหน้าคนอื่นเเน่ เค้ายอมรับว่าเค้าผิดที่ไปว่าหล่อน แต่ไม่นึกว่า ผู้หญิงที่เค้าคิดว่าจะมีแรงน้อยนิดจะสามารถต่อยเค้าจนกระแทกต้นไม้ได้ในหมัดเดียว"ถือว่าครั้งนี้ เป็นบทลงโทษเรื่องความปากเสียของชั้นก็แล้วกัน"
ทั้งกาซิมและเพื่อนองครักษ์ต่างหัวเราะกันอย่างขบขัน
ทางด้านชีคจาดีนได้ให้เจเฟลาสพารีเบ็คก้าไปยังห้องรับแขกก่อน
องครักษ์ผิวเข้มเอ่ยกับหญิงสาว"คุณอย่าไปถือสากาซิมเลยนะครับ เค้าเป็นคนใจร้อน"
"คะ ชั้นเข้าใจและอย่างที่บอก ชั้นเอาคืนเค้าไปแล้วถือว่าเจ๊ากันไป"
"คุณนี่ก็ร้ายเหลือเกินนะครับ ทั้งฝีมือและฝีปาก ขอถามหน่อยคุณเคยยกเวทบ้างรึเปล่าครับ"
"ประจำคะและก็ยกน้ำหนักด้วย"
"เข้าฟิสเนตบ่อยสินะครับ"
"เปล่าคะ พอดีที่บ้านมีเครื่องออกกำลังไว้อยู่แล้ว"
"แล้วคุณยกน้ำหนักได้มากสุดเท่าไหร่รึครับ"
"75กิโลคะ ถามเยอะจังนะค่ะ"
"ก็ผมอยากรู้นี่นา ว่าแต่ทำไม คุณรูปร่างออกจะบอกบางแต่ทำไมยกน้ำหนักได้ถึง75กิโล แต่ไม่มีกล้ามแขน โม้รึเปล่า"
"รึจะลองดู"
"ไม่ล่ะครับ"
พอทั้งคู่มาถึงห้องรับแขก องครักษ์ผิวเข้มผายมือเชิญให้หญิงสาวนั่งลงที่โซฟาราคาแพง ภายในห้องสะอาดสะอ้าน ตกแต่งเรียบง่ายแต่หรูหรา ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังมองไปรอบๆห้องชีคจาดีนก็เข้ามาในห้องด้วยชุดที่เปลี่ยนใหม่ เป็นชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาว รองเท้าหนัง ดูผิดตาแต่กลับทำให้ชีคหนุ่มดูหล่อเหล่าไปอีกแบบจน หน้าของรีเบ็คก้าขึ้นสีเล็กน้อย
ชีคหนุ่มรีบขอโทษเธอทันที"ผมขอโทษแทนคนของผมด้วยนะครับ"
"ท่านจาดีนไม่ต้องขอโทษชั้นหรอกค่ะ เรื่องมันจบไปแล้ว ความจริงชั้นเองก็มีส่วนผิดด้วย"
"เหรอครับ วันนี้ผมว่าง อากาศกำลังสบายๆเราไปขี่ม้ากันไหมครับ"
"ก็ดีคะ"
ชีคหนุ่มเอ่ยถามเรื่องต่างๆกับหญิงสาวระหว่างทางที่ทั้งคู่กำลังเดินทางไปยังสนามม้า
รีเบ็คก้าคิด...บางที เราอาจจะรู้เบาะแสของกริชทองคำจากท่านจาดีนก็ได้...
เมื่อทั้งคู่มาถึงชีคหนุ่มนำม้าสีขาวลักษณะดีมาให้เธอขี่"คุณชอบเจ้าตัวนี้มั้งครับ"
"เป็นม้าที่สวยดีนะค่ะ แต่ชั้นชอบเจ้าตัวนั้นมากกว่า"หญิงสาวชี้ไปยังม้าสีน้ำตาลร่างกายกำยำท่าทางพยศไม่ใช่น้อย
"เจ้านั่นชื่อ ฟิน พยศที่สุดเลยนะครับ กว่าผมจะปราบพยศมันได้ก็นานพอดูเลย"
"จริงเหรอค่ะ อย่างนี้ต้องขอลองหน่อยแล้ว"ว่าแล้วหญิงสาวก็ตรงเข้าไปหาเจ้าม้าฟิน "ดีๆ เด็กดี"เธอค่อยๆเข้าใกล้ให้มันหายระแวง มือบางลูบหัวมันด้วยความรัก แล้วตบที่คอก่อนจะปีนขึ้นหลังมันอย่างง่ายดาย"ย่าส์!"
รีเบ็คก้าบังคับให้มันวิ่งไปทันที ชีคจาดีนยิ้มแย้มอย่างสุขใจ ใช่ว่าเค้าจะมองไม่ออก ภายในดวงตาของรีเบ็คก้านั้นแฝงไว้ด้วยความเศร้า แต่ในตอนนี้เค้าสามารถทำให้เธอกลับมาสดใสร่าเริง และมีความสุขได้ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆก็ตาม ยามที่รีเบ็คก้าควบม้านั้นช่างสง่างามน่าจับตามองเสียเหลือเกิน
เจเฟลาสเอ่ยกับผู้เป็นนายที่ตอนนี้กำังมองหญิงสาวชาวอังกฤษกำลังควบม้าอย่างสนุกสนาน"คุณสวอนเนี่ยเก่งจริงๆ สามารถขึ้นหลังเจ้าฟินได้"
"ใช่เธอเก่ง เธอแกร่ง แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอใช้ความเก่ง ความแข็งแกร่งของตัวเองปิดความอ่อนแอที่ซ่อนภายในใจของเธอไว้ก็เท่านั้น"ชีคหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียดแล้วเอ่ยเสียงแผ่ว"เรื่องที่ให้ไปสืบมาล่ะ ได้เรื่องยังไง"
"ครับ สายรายงานมาว่าที่หมู่บ้านแมงป่องดำถูกไฟไหม้ครับ"
"จริงรึ"
"ครับ ตนนี้ทางเรากำลังหาหลักฐานอยู่ เผื่อจะมีเบาะแส"
"เสียเวลาเปล่าๆ พวกมันตั้งใจทำลายที่อยู่เพื่อให้เราตายใจ ชั้นเชื่อว่าพวกมันแค่วางเพลิงเผาหมู่บ้านตบตาพวกเรา สืบดูให้ทั่วว่าพวกมันไปซ่อนที่ไหนแล้วสืบเรื่องของเจ้าอูบิสด้วย"
"เป้าหมายของพวกมันไม่น่าจะเล็งมาที่คุณสวอนนะครับ"
"แต่ชั้นไม่คิดอย่างนั้น"
"ท่านเป็นห่วงเธอสินะ"
ชีคหนุ่มยอมรับความจริง"ใช่ ชั้นไม่อยากให้เธอเสี่ยงอันตราย ถึงแม้ว่าการที่กักตัวเธอไว้ในวังอาจจะทำให้เธอเบื่อก็เถอะ"
"ว่างๆท่านก็พาเธอไปชมเมืองด้วยกันสิ"
"ไม่ล่ะ มันอาจจะทำให้เธอเสียชื่อเสียงก็ได้"
"นั่นสินะครับ"
"ตอนนี้เราต้องจัดการปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน"
องครักษ์ผิวเข้มเอ่ยล้อ"พยายามจีบว่าที่ราชินีของคาลอสใด้ให้นะครับ"
หน้าของชีคหนุ่มขึ้นสี ก่อนจะหัวเราะในลำคอ"ข้าจะพยายาม"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ